คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : paparazzi part 4
ร่างของคนสองคนที่นอนอยู่บนเตียงเดียวกันซึ่งมันก็ไม่ได้กว้างสักเท่าไหร่ ถึงแม้จะอึดอัดแต่มันก็อบอุ่นเมื่อได้นอนเคียงคู่แนบชิดกันแบบนี้มาหลายคืน ขาเรียวของร่างบางสัมผัสก้นคนร่างหนายามเมื่อพลิกตัว
!!!!!พลั่ก!!!!! !!!!!โครม!!!!! คนร่างหนาร่วงจากเตียงหลังเล็กที่ถูกร่างบางนอนดิ้นกินเนื้อที่ส่วนของตน
“โอ๊ย!!!!” จินโอดครวญพลางชันกายลุกขึ้นนั่งมองดูร่างบางที่ยังคงหลับใหลไม่รับรู้การกระทำของตน เขาค่อย ๆ ลุกขึ้นก่อนจะจัดท่าทางให้ร่างบางได้นอนสบายแล้วหยิบผ้าห่มที่หล่นไปปลายเตียงขึ้นมาห่มให้ “สงสัยต้องรื้อเตียงออกละมั๊ง” จินเปรยกับตนเองแล้วเหลือบตาไปมองนาฬิกาก่อนจะเดินเข้าห้องมืดไป
เสียงโทรทัศน์ที่ถูกเปิดทำให้จินซึ่งกำลังตากรูปที่เพิ่งจะล้างน้ำยาออกรับรู้ได้ว่าร่างบางตื่นนอนแล้วและป่านนี้คงนั่งจ้องอยู่หน้าจอตู้เพื่อรอดูข่าวของยูอิจิขวัญใจของเจ้าตัวเป็นแน่ เสียงเปิดประตูห้องมืดดังขึ้นแต่จินก็ไม่ได้หันกลับไปมองเพราะรู้ดีว่าใครเดินเข้ามาและเมื่อสัมผัสได้ถึงแขนเรียวที่โอบกอดเอวเขาไว้เขาก็คลี่ยิ้มบางๆออกมาทันที
“จินตื่นนานแล้วเหรอ” ร่างบางเอ่ยถามพลางซุกหน้าลงบนแผ่นหลัง
“สักพักใหญ่ ไม่ดูนากามารุคุงเหรอ” จินเอ่ยถาม
ร่างบางส่ายหน้าไป-มา “วันนี้ไม่มีข่าวยูอิจิสักหน่อย ไม่อยากให้กวนเหรอถึงถามแบบนี้”
“เปล่า ก็เห็นตื่นเช้ามานั่งดูทุกวัน” จินตอบก่อนพลิกตัวหันมามองร่างบางที่ยังคงทำตาปรือเพราะไม่หายง่วงดี “ไปล้างหน้าซะ จะพาไปหาข้าวกิน”
“ยังไม่หิวเลย” ร่างบางตอบ
“แต่ฉันหิวแล้ว” จินบอก
ร่างบางคลี่ยิ้มให้ก่อนจะยื่นมือไปโอบรอบคอจินแล้วโน้มใบหน้านั่นมาใกล้ดวงหน้าของตน “กินฉันรองท้องก่อนก็ได้นะ”
“ไม่ต้องมายั่วเลย” จินเอ่ยแล้วยกมือขึ้นบีบจมูกร่างบาง “สุดท้ายนายก็ชิ่งปล่อยให้ฉันอารมณ์ค้างอยู่คนเดียว”
“คราวนี้ไม่โยกโย้แล้ว ห้องสลัว ๆ แบบนี้ได้อารมณ์ มีอะไรกับจินในนี้คงตื่นเต้นไม่หยอก” ร่างบางบอกแล้วประทับริมฝีปากของตนลงบนริมฝีปากของคนร่างหนา ส่งลิ้นของตัวเองเข้าก่อกวนก่อนจะได้รับการตอบสนองอย่างเร้าร้อนจากคนร่างหนาซึ่งร่างบางเองก็พึงใจ
“เฮ้ย!!!! ไอ้จินขอยืมน้ำยาล้างเลนส์หน่อยเด่ะ” มารุยาม่า เรียวเฮย์เอ่ยถามเมื่อถือวิสาสะเข้ามาในห้องแล้วเปิดประตูห้องมืดเข้ามา ภาพของคนทั้งสองทำเอาเขาอ้าปากค้างอยู่พักหนึ่งก่อนจะเรียกสติกลับคืนมาได้ “ว๊าค!!!! ขอโทษฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ทำกันตามสบายนะแต่อย่าเสียงดังแล้วกัน”
จินผละริมฝีปากตนเองออกทันที “เฮ้ย!!! เดี๋ยวไอ้เรียวเฮย์” เอ่ยรั้งแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว
“ไม่ตามไปปรับความเข้าใจล่ะ” ร่างบางเอ่ยน้ำเสียงประชด
จินหันหน้ากลับมามองก็เห็นร่างบางทำสีหน้าเง้างอนอยู่ “ก็เดี๋ยวไอ้เรียวเฮย์มันจะเข้าใจผิด”
“ที่เพื่อนจินเห็นนั่นนะเรียกว่าเข้าใจผิดเหรอ” ร่างบางถามกลับอารมณ์ขุ่น “เขาเข้าใจแบบนั้นนะถูกแล้ว”
“ฉันขอโทษ ไม่คิดว่าจะมีคนเห็นตอนกำลัง....กับนาย” จินบอกเสียงแผ่ว
“ยังไม่ได้กำลังอะไรเลยต่างหากแค่จูบเอง แถมจินก็ผละออกง่าย ๆ ฉันเป็นคนเชิญชวนนายก่อนนะทำแบบนี้ไม่รักษาน้ำใจกันเลย” ร่างบางต่อว่า
“ฉันขอโทษ” จินค้อมศีรษะให้ “ถ้าอย่างนั้นเริ่มใหม่แล้วกัน ฉันเป็นฝ่ายเริ่มก่อนก็ได้”
“ไม่เอาหมดอารมณ์แล้ว” ร่างบางบอกแสร้งหันหน้ามองไปทางอื่น “อ๊ะ!!!!”
“อะไรเหรอ” จินเอ่ยถาม
“จินล้างรูปวันนั้นแล้วเหรอ” ร่างบางเอ่ยถามเมื่อเห็นรูปที่จินหนีบไม้ตากเอาไว้
“อ๋อ~~รูปศิลปินละครใบ้เมื่ออาทิตย์ก่อนนะเหรอ” จินถาม
“สวยจัง ฉันขอนะ” ร่างบางเอ่ย “จินต้องเอาไปส่งอาจารย์ก่อนหรือเปล่า”
“คิดว่าไม่นะ เพราะไอ้เรียวเฮย์ก็จะส่งภาพที่ไปถ่ายนี้เหมือนกัน ฉันเลยว่าจะส่งรูปดวงอาทิตย์ที่ไปถ่ายเมื่อวันก่อนแทน” จินบอก
ร่างบางคลี่ยิ้มให้ “ถ้าแห้งแล้วบอกนะ ฉันจะมาเก็บใส่อัลบั้ม”
จินหันมามองตาโต “เก็บดีขนาดนั้นเชียว”
“น้อยไป ผลงานของคนที่ชอบจะเอาไปใส่กรอบหลุยส์ยังได้” ร่างบางกอดอกตอบ
จินยิ้มกว้างให้ “ขอบคุณนะ” บอกเสร็จก็หอมลงบนแก้มเนียนของร่างบางที่ไม่ทันตั้งตัว
“เฮ้ย!!!” ร่างบางร้องออกมาอย่างตกใจด้วยใบหน้าแดงก่ำ เขาไม่คิดว่าจินจะกล้าทำแบบนี้กับตนก่อน
“เขินละสิ เป็นไงล่ะโดนฉันเริ่มทำก่อนบ้าง” จินกล่าวยิ้ม ๆ
“ชอบ~~~” ร่างบางตอบเสียงแผ่วแล้วซุกหน้าลงบนแผ่นอกคนร่างหนา “เอาอีก เยอะ ๆ”
จินคลี่ยิ้มก่อนจะหอมลงบนเส้นผมร่างบางครั้งแล้วครั้งเล่า การกระทำนั่นเรียกรอยยิ้มให้ปากฏบนใบหน้าร่างบางแล้วเสียงหัวเราะอันอิ่มเอมของคนทั้งสองก็ดังตามมา
*******************************
“เอ้า!!!” ไทจิวางเอกสารไว้ตรงหน้าจินและร่างบางเมื่อทั้งสองมาหาเขาที่ร้าน
“อะไรนะไทจิซัง” ร่างบางเอ่ยถามอย่างงุนงง
“ก็เอกสารพวกห้องเช่าราคาถูกไง มันมีอยู่แต่ว่าไกลมหาวิทยาลัยของจินก็เท่านั้น” ไทจิบอก
“ขอบคุณนะฮะไทจิซังที่เป็นธุระให้” จินกล่าวก่อนค้อมศีรษะให้
“จินจะย้ายห้องเหรอ” ร่างบางถาม “ทำไมล่ะ???”
“หอที่มหาวิทยาลัยมันอยู่ได้คนเดียว มีนายมาอยู่ด้วยคิดว่ามันแคบเลยจะย้ายออกมาจะได้มีความเป็นส่วนตัวมากกว่านี้” จินชี้แจง
“อ๋อ~~~ จะได้ไม่มีใครขัดจังหวะแบบเมื่อวานใช่ไหม” ร่างบางถามออกไป
จินหันหน้ามามองยกนิ้วชี้ขึ้นทาบปากตนเอง “เกรงใจไทจิซังหน่อยสิ”
“ช่างเถอะจิน ฉันชอบที่คาเมะจังเป็นคนตรงไปตรงมาแบบนี้แหละ” ไทจิกล่าว
ร่างบางยิ้มให้ไทจิก่อนจะหยิบเอกสารที่กองตรงหน้าขึ้นมาดูที่ละแผ่น “ฉันชอบที่นี่”
จินมองไปบนแผ่นกระดาษนั้น “น่าอยู่จัง” เขาเห็นด้วยกับร่างบางก่อนจะเห็นราคา “แพง”
“ฉันช่วยออกครึ่งหนึ่ง” ร่างบางบอก
“ได้ยังไง นายยังไม่มีรายได้ไม่ใช่เหรอ” จินถาม
ร่างบางยิ้มแห้ง ๆ ให้ ไม่กล้าบอกว่าถึงจะไม่มีรายได้แต่เขาก็มีเงินใช้มากพอที่จะให้จินอยู่ได้สบาย ๆ โดยไม่ต้องทำงานอะไรแค่อยู่กับเขาก็พอ
“นั่นสิ” ร่างบางตอบกลับแล้วหยิบเอกสารแผ่นใหม่ขึ้นมาดู
“เออจิน ตกลงส่งรูปไปที่บริษัทนั่นหรือยังล่ะ” ไทจิเอ่ยถาม
“ยังเลยฮะ ยังคิดธีมของภาพไม่ได้เลย” จินตอบ
“ยังไงก็อย่าชะล้าใจละ งานนี้เขาเปิดให้คนนอกแสดงฝีมือคู่แข่งเยอะนะ” ไทจิเอ่ยเตือน
“ขอบคุณครับ” จินกล่าว
“อ๊า!!!! ที่นี่แหละถูกด้วย” ร่างบางเอ่ยบอกแล้วส่งกระดาษในมือให้จินดู
จินรับมาดูอย่างพิจารณา “ถ้าเป็นที่นี่ก็ไหว ถ้านายชอบก็ย้ายไปอยู่ที่นี่กัน”
“รีบติดต่อไปสิ เดี๋ยวก็มีคนตัดหน้าหรอก” ไทจิแนะ
จินพยักหน้าก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือของตนเองขึ้นมาแล้วโทรไปยังสำนักงานบ้านเช่าที่ให้เบอร์ไว้ พูดคุยกับปลายสายสักครู่ใหญ่เขาก็วางสายลง
“ว่าไง” ร่างบางถามอย่างใคร่รู้
“เขาให้เข้าไปดูได้เลยถ้าวันนี้สะดวก” จินบอก
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันเลย ฉันอยากเห็น” ร่างบางกล่าวก่อนจะค้อมศีรษะเป็นการขอตัวกับไทจิแล้วลาก
จินออกไปจากร้านทันที
“ถ้าไม่มีอุปสรรคเหมือนในหนังน้ำเน่าก็น่าจะคบกันยืดละนะคู่นี้” ไทจิเปรยกับตัวเองลับหลังคนทั้งสอง
ร่างบางนั่งอยู่กับพื้นในห้องที่มีกล่องต่าง ๆ มากมายวางระเกะระกะไปหมด เขาค่อย ๆ หยิบรูปทีละใบวางลงบนอัลบั้มแบบมีแทบกาวอย่างตั้งอกตั้งใจ คนร่างหนาที่เดินออกมาจากห้องมืดพร้อมกับกล่องใบย่อมในมืออมยิ้มให้กับภาพด้านหลังของร่างบางนั่นก่อนจะเดินมาทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ
“ทำอะไรอยู่นะ” จินเอ่ยถามทั้ง ๆ ที่ก็เห็นว่าร่างบางกำลังเรียงรูปถ่ายฝีมือของเขาใส่อัลบั้มอย่างตั้งใจ
ร่างบางหันหน้ามามองด้วยความตกใจแล้วรีบปิดหน้าอัลบั้มทันที “จิน!!!มาเงียบ ๆ ตกใจหมด แล้วเมื่อกี้เห็นหรือเปล่า”
“เห็น” จินตอบ “จะปิดทำไมละ ยังไงรูปพวกนั้นฉันก็เป็นคนถ่าย”
“ไม่เอายังไม่ให้ดู ไว้ให้ฉันจัดเสร็จก่อนแล้วจะให้จินดูนะ ฉันสัญญา” ร่างบางบอกแล้วส่งยิ้มให้
จินพยักหน้ารับทราบเจตนารมณ์ของร่างบางก่อนยื่นกล่องในมือให้ ร่างบางมองด้วยความสนใจพลางยื่นมือไปรับ มองดูของในกล่องก็ยิ้มกว้างออกมาทันที
“ให้ฉันเหรอ” เอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ
“อืม บางภาพถ่ายมาล้างแล้วก็ไม่ได้ใช้น่ะ” จินบอกแกร่างบาง
“แล้วจินไม่เก็บไว้เหรอ ผลงานตัวเองแท้ ๆ ” ร่างบางถามกลับ
“ฉันให้นายเป็นคนเก็บผลงานของฉัน รักษามันให้ดี ๆ ล่ะ” จินกล่าว
ร่างบางยิ้มกว้างให้ “ขอบคุณนะ ฉันจะรักษาให้ดีที่สุดเลย”
จินสบสายตาของร่างบางก่อนจะยื่นใบหน้าไปใกล้ ๆ หวังสัมผัสริมฝีปากจากคนที่ชื่นชอบผลงานของตนอย่างจริงใจ ลมหายใจอุ่น ๆ รดแก้มของคนทั้งสองห่างเพียงนิดก็จะได้ครอบครองความรัญจวนของกันและกัน หากเพียงเสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นขัดจังหวะเหมือนมีคนจงใจทำให้ทั้งสองได้เพียงแต่มองตาแล้วหัวเราะออกมาเบา ๆ เท่านั้น
“ขอโทษทีนะ” จินเอ่ยบอกร่างบางก่อนเดินไปหยิบโทรศัพท์ซึ่งวางอยู่บนโต๊ะหนังสือ
“วันนี้รับไวเชียว คนนั้นไม่อยู่เหรอ” นากามารุ ยูอิจิ ปลายสายที่โทรมาเอ่ยแซว
“อยู่ในห้องนี่แหละ” จินตอบแล้วชำเลืองไปมองร่างบางซึ่งกลับไปสนใจรูปถ่ายที่เขานำมาให้แทน
“จะโทรมาให้เบอร์ติดต่องานที่บอกวันก่อนนะ” ยูอิจิแจ้งวัตถุประสงค์
“เป็นงานของบริษัทกระดาษหรือเปล่า ถ้าใช่ฉันรู้แล้วละ” จินตอบ
“เออ อันนั้นแหละ” ยูอิจิกล่าว “นายปิดเทอมหรือยังล่ะจิน”
“เพิ่งจะปิดวันนี้แหละ ดีเหมือนกันที่นายโทรมาฉันจะบอกว่าฉันย้ายออกจากหอแล้วนะ” จินแจ้งข่าวให้เพื่อนได้รู้
“อ้าวทำไมละ อยู่หอมหาวิทยาลัยถูกกว่าเช่าข้างนอกอีกนะ” ยูอิจิให้เหตุผล “อ๋อ....หรือว่าคนนั้นมาอยู่ด้วยเลยไม่สะดวก”
จินปลายตามองร่างบางที่นั่งหันหลังให้ตนแล้วระบายยิ้มออกมา “อย่างนั้นแหละ” เขาตอบปลายทาง
“แล้วจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ บอกมั่งนะว่าง ๆ จะได้แวะไปหา” ยูอิจิกล่าว
“เออ ว่าง ๆ ก็มาสิ” จินอนุญาตก่อนที่เขาจะนึกขึ้นได้ “เฮ้ย!!! ไม่ได้ห้ามมา”
ยูอิจิงงกับคำตอบของเพื่อน “อะไรของนายว่ะ”
“เออนะ เอาเป็นว่าฉันจะบอกแล้วกันว่าย้ายไปอยู่ไหน แต่ว่าห้ามมาเพราะว่าฉันไม่สะดวก” จินตอบเพื่อน
“แหม ๆ พอมีแฟนก็ทิ้งเพื่อนฝูงเลยนะเว้ย” ยูอิจิตัดพ้อ
“ไม่ใช่อย่างนั้น” จินรีบปฏิเสธ “เรื่องมันยาวว่ะ วันหลังจะเล่าให้ฟังแล้วกัน” เขาบอกก่อนถอนหายใจยาว ๆ ออกมา
ยูอิจิฟังเสียงเขาก็พอรู้ว่าเพื่อนลำบากใจ “เข้าใจข้าวใหม่ปลามัน แต่อย่าลืมไปเยี่ยมมิซูรุบ้างละ ช่วงนี้ฉันต้องโปรโมทซิงเกิ้ลใหม่ไม่มีเวลาแว่บไปหาเลย ผู้จัดการส่วนตัวฉันก็เริ่มเอะใจบ้างแล้วล่ะที่ฉันป่วยบ่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่เขาก็ดูแลเรื่องสุขภาพของฉันดี”
“ไม่ต้องห่วงหรอกแฟนนายก็พี่สาวฉันนะ คิดว่าถ้าจัดการเรื่องที่อยู่ใหม่เรียบร้อยก็จะกลับบ้านไปเหมือนกัน” จินบอก “นายเองก็ตั้งใจทำงานล่ะ เรื่องอื่นไม่ต้องห่วง”
“ขอบใจมากนะเพื่อน” ยูอิจิเอ่ยจากใจจริง
“ฉันต่างหากที่ต้องขอบใจนายในหลาย ๆ เรื่อง” จินกล่าว “ดูแลตัวเองด้วยละ...พี่”
ยูอิจิได้ยินสรรพนามเช่นนั้นเขาก็คลี่ยิ้มออกมา “ขอบใจน้องชาย เอ่อ!!!! ที่อยู่ใหม่ควรจะมีแฟ็กซ์ด้วยนะ ฉันจะได้ส่งตารางงานไปให้ นายจะได้ตามถ่ายรูปถูก”
“ไว้จะรับไปพิจารณาแล้วกัน ตอนนี้ไม่ได้อยู่คนเดียวแล้ว” จินบอก “ยังไงก็ขอบคุณอีกทีนะ”
“ไม่เป็นไร แค่นี้แล้วกันผู้จัดการฉันเดินมาแล้วว่ะขี้เกียจตอบคำถาม” ยูอิจิบอกแล้วตัดสายทันที
จินวางสายลงก่อนเดินมานั่งข้างร่างบางเช่นเดิม “เพื่อนโทรมาน่ะ” เขาบอกร่างบาง
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ จินก็มีสังคมจะให้คบฉันคนเดียวได้ไง” ร่างบางตอบ “แต่ก็ขอบคุณนะที่บอก เราคบกันแล้วนี่ฉันก็ไม่อยากให้ระหว่างจินกับฉันมีเรื่องที่ต้องปิดบังกัน”
จินยิ้มแห้ง ๆ ให้ “ฉันก็ว่าอย่างนั้น”
“จินมีพี่สาวด้วยเหรอ ... เมื่อครู่ฉันได้ยินจินพูดกับเพื่อน” ร่างบางถาม
“อืม...มีพี่สาวคนหนึ่งร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเลยต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล พ่อก็เป็นพนักงานบริษัทธรรมดา ๆ แม่เป็นแม่บ้าน” จินบอกร่างบาง
“คล้าย ๆ กันแหละ” ร่างบางกล่าว “ฉันลูกคนเดียว พ่อทำงานอยู่ต่างประเทศแม่ก็เป็นแม่บ้านเฉยๆแต่ไม่ค่อยอยู่ติดบ้านหรอก”
“ทำงานต่างประเทศเงินก็ดีนะสิ” จินบอกแล้วหรี่ตามองร่างบาง “นายเป็นลูกคุณหนูที่ปลอมตัวเป็นคนธรรมดาเพื่อตามหารักแท้เหรือเปล่าเนี่ย”
ร่างบางมองจินอย่างอึ้ง “เสี่ยวแล้วนะจิน มันไม่น้ำเน่าแบบนั้นหรอก”
“นั่นสิเน๊อะ” จินเห็นด้วย “แล้วนายไม่เรียนเหรอไม่เห็นไปโรงเรียนเลย”
“หึ ไม่เรียนแล้วฉันมันหัวไม่ดีเรียนไปก็ปวดกบาลเปล่า ๆ” ร่างบางตอบ “เป็นเมียจินท่าจะสบายกว่าเยอะ” เอ่ยบอกพลางทำหน้าทะเล้นให้
จินยิ้มตอบแล้วยื่นมือไปโยกศีรษะร่างบางเบา ๆ “อาจจะไม่ได้สบายอย่างที่นายคิดก็ได้ฉันไม่ได้มีเงินถุงเงินถังนะ กลับลำตอนนี้ยังทันนะ”
“จะบ้าเหรอ ลงเรือมาด้วยทั้งตัวทั้งใจแบบนี้แล้ว ไล่ขึ้นฝั่งก็ไม่ไปแล้ว” ร่างบางตอบแล้ววางอัลบั้มในมือลงก่อนจะยื่นแขนทั้งสองข้างไปโอบรอบเอวคนร่างหนาวางดวงหน้าของตนบนไหล่กว้างนั้น “ไหน ๆ วันนี้ก็เปิดใจกันแล้ว ฉันจะบอกให้ก็ได้ว่าฉันนะหลงรักจินตั้งแต่ยังไม่ได้รู้จักจินด้วยซ้ำ”
“เห๋~~~~ล้อเล่นน่า” จินเอ่ยถามใบหน้าแดง “แล้วนากามารุคุงล่ะ”
ร่างบางหน้างอ “จินนี่!!! ฉันกำลังพูดเรื่องของเรานะ ยูอิจิมาเกี่ยวอะไรเล่า”
“ขอโทษ ก็ผมเห็นว่าคุณชอบเขาไม่ใช่เหรอ” จินถามกลับ
“ที่ชอบก็เพราะจินนั่นแหละ” ร่างบางตอบ
“เพราะฉัน????” จินเอ่ยถามเสียงสูง
“ฉันเคยบอกจินใช่ไหมว่าฉันเพิ่งชอบยูอิจิไม่นาน ก่อนหน้านั้นฉันไม่ใช่พวกบ้าดาราหรอกแต่ก็ไม่ใช่พวกที่ทำอะไรเป็นแก่นสารนัก จนวันหนึ่งฉันเจอรูปยูอิจิที่จินเป็นคนถ่ายแปะไว้หน้าร้านไทจิซังโดยบังเอิญนั่นแหละ” ร่างบางเล่า
จินได้ฟังก็ยิ้มเขาเอนใบหน้าซบลงบนศีรษะร่างบาง “รู้ได้ไงว่าเป็นรูปที่ฉันถ่าย อาจเป็นรูปของปาปารัซซี่คนอื่นที่มาขายให้ไทจิซังก็ได้” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ
“รู้สิ เพราะว่าตั้งแต่เจอรูปของจินใบนั้นฉันก็ตามเก็บรูปยูอิจิทุกใบเลยที่จินเป็นคนถ่ายถ้าไม่เชื่อถามไทจิซังได้เลย รูปคนอื่นที่จินถ่ายฉันยังเก็บเลยตอนนั้นจินยังเป็นคนให้ฉันเองกับมือจำไม่ได้แล้วล่ะสิ” ร่างบางถามกลับ
“จำได้...ตอนนั้นฉันดีใจมากเลยนะที่มีคนชื่นชอบผลงานฉัน” จินกล่าวตามความรู้สึก
“ตอนที่รู้ว่าจินคือปาปารัซซี่คนนั้นฉันดีใจมากเลยนะ มองแต่แผ่นหลังของจินเวลาถ่ายรูปจนฉันไม่ได้สนใจเลยว่าจินถ่ายรูปยูอิจิในอิริยาบทแบบไหนแต่ฉันก็มั่นใจว่ามันต้องออกมาสวยแน่ ๆ ” ร่างบางยังคงพูดต่อ
“ตอนนั้นฉันอยากซัดหน้าไอ้คนที่โวยวายจนเกือบจะถูกจับได้เสียมากกว่า” จินกล่าวตามความรู้สึกในตอนนั้น
ร่างบางละจากไหล่กว้างนั้นก่อนจะสบสายตากับคนร่างหนา “แล้วตอนนี้ล่ะ อยากจะซัดอยู่อีกหรือเปล่า”
จินยิ้มบาง ๆ ให้ก่อนกระซิบลงข้างหูร่างบาง “อยากสิ”
ร่างบางหัวเราะร่วนออกมา “ถ้าอย่างงั้นก็เชิญเลย”
เมื่อร่างบางอนุญาตจินก็ซุกหน้าลงซอกคอร่างบางทันที ปลายจมูกของเขาเล่นซุกซนไปตามลำคอระหงนั่นแถมยังฝากร่องรอยของตนเองเอาไว้จนทั่ว ก่อกวนจนร่างบางเคลิบเคลิ้มปล่อยร่างกายของตนให้ตอบสนองไปตามการปลุกเร้าของคนร่างหนา
“ไม่เอา~~~” ร่างบางเอ่ยเสียงแผ่วเมื่อแผ่นหลังของตนสัมผัสบนพื้นห้อง “ที่เตียงนะ”
จินยิ้มให้ก่อนจะโน้มตัวไปใกล้ ๆ ร่างบางที่ชูแขนทั้งสองข้างขึ้นมาและเมื่อเขาช้อนตัวร่างบางขึ้นแขนทั้งสองนั้นก็โอบรอบคอเขาทันที
“จินรู้สึกยังไงกับฉันเหรอ” ร่างบางเอ่ยถามเมื่อคนร่างหนาวางตนเองไว้บนเตียงนุ่มแล้วคร่อมร่างของตนเอาไว้ “อย่างเพิ่งทำหน้าแบบนั้นสิ ครั้งแรกที่มีอะไรกันฉันรู้นะว่าจินสับสนสายตาของจินมันฟ้อง ครั้งนี้ฉันก็เลยอยากรู้ว่าตอนนี้จินคิดยังไงกับฉันกันแน่”
จินไม่ตอบเขาเพียงแต่ยิ้มให้ก่อนจะจุมพิตลงบนริมฝีปากบางที่เจื้อยแจ้วไม่ยอมหยุด
“อืม~~~รู้แล้วล่ะ” ร่างบางตอบแล้วโอบรอบคอคนร่างหนาที่ปลุกอารมณ์ของเขาให้กระพือขึ้นอีกครั้ง
“อ๊ะ!!!!!” ร่างบางร้องออกมาเบา ๆ เมื่อคนร่างหนาถอนนิ้วออกแล้วแทรกความเป็นตัวตนเข้ามาแทนที่
“เจ็บเหรอ...ขอโทษนะ” ร่างหนากระซิบถามเสียงแผ่ว
ร่างบางน้ำตาคลอ “ไม่เป็นไร~~~” บอกกับคนร่างหนาเสร็จก็กัดริมฝีปากแน่นเพื่อข่มความเจ็บ ถึงจะเคยมีอะไรกันมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ร่างกายของเขาก็ยังไม่ชินอยู่ดี คนร่างหนาจุมพิตซับน้ำตาให้ก่อนจะปลอบประโลมด้วยลิ้นอุ่นที่เลื่อนมาหยอกล้อริมฝีปากบางนั้นแล้วแทรกผ่านเข้าไปเพื่อปลุกปั่นให้ร่างบางลืมความเจ็บส่วนล่าง
“อืม~~~” ร่างบางครางออกมาอย่างพึงใจ ฝ่ามือเล็กทั้งสองข้างยกขึ้นแล้ววางรอบคอร่างหนาก่อนให้ปลายนิ้วแทรกผ่านเส้นผมแล้วลูบไล้ด้วยอารมณ์ปรารถนา
“พร้อมนะ~~~” ร่างหนากระซิบถามข้างหู
คนร่างบางพยักหน้าแทนคำตอบก่อนจะส่งยิ้มให้ ร่างหนายิ้มตอบพร้อมขยับกายช้า ๆ ให้ร่างบางได้ปรับตัว ใบหน้าเหยเกนั่นทำให้เขารู้ว่าร่างบางคงยังรับอารมณ์ของเขาไม่ไหว
“ไม่ต้องเกร็งนะ” ร่างหนาบอก
“อืม~~~” ร่างบางเชื่อฟัง “ทำเถอะ ... ฉันตามใจจิน~~~”
ร่างหนาได้ฟังถึงกับหัวใจพองโตทำไมร่างบางนี้ถึงได้ออดอ้อนแล้วเข้าใจความต้องการของเขาจัง อยากจะทำตามใจอย่างที่ร่างบางบอกแต่ก็กลัวว่าจะรุนแรงและสร้างความเจ็บให้จนคนใจดีนี้ทนไม่ไหว
“ผมรักคุณนะคาซึยะ” ก้มหน้าลงกระซิบบอกข้างหู
ร่างบางคลี่ยิ้มให้ “ไม่ได้ยินเลย~~~”
“ผมรักคุณ” ร่างหนาบอกย้ำ
“ได้ยินแล้ว แต่จินช่วยทำให้ฉันมั่นใจกว่านี้หน่อยนะว่าจินรักฉันมากขนาดไหน” ร่างบางบอกพลางส่งสายตาออดอ้อนมาให้
คนร่างหนาห้ามความรู้สึกไม่ไหวเขาคงทำให้ร่างบางต้องเจ็บเสียแล้ว ความเป็นตัวตนที่คงอยู่ในร่างบางเริ่มขยับตัวอีกครั้งแต่คราวนี้มันรวดเร็วและรุนแรงกว่าครั้งก่อนเสียอีก
“อ๊ะ!!!!” ร่างบางร้องระบายความเจ็บปวด
“ขอโทษนะ แต่นายคงห้ามฉันไม่ได้แล้วคาซึยะ” ร่างหนากระซิบบอกพร้อมกับกายที่เคลื่อนไหวอย่างเร้าร้อนรุนแรง
“อ๊ะ!!! มะ
ไม่เป็นไร...” ร่างบางโอบกอดร่างหนาแน่น “อ๊า~~~ ฉันรู้แล้ว อ๊ะ~~ ว่าจินรักฉันมากแค่ไหน” เสียงร้องระบายความเจ็บปวดทีแรกจากปากของร่างบาง ในตอนนี้มันแปลเปลี่ยนเป็นความสุขสมแทนที่ “อ๊า~~~~ อืม~~~~”
“คาซึยะ~~~~”
“อืม~~~จิน~~~”
“รักฉันหรือเปล่า~~~” ร่างหนาเอ่ยถาม
“รัก~~~ อืม~~~ รักจิน~~~~” คำตอบของร่างบาง ก่อนที่ทั้งสองจะพร่ำบอกรักกันด้วยภาษากายไม่รู้จบทั้งค่ำคืน
*************************
!!!!ครืด!! เสียงฟิล์มที่เพิ่งใส่เข้าไปในกล้องเลื่อนหัวม้วนดังขึ้นใกล้หูร่างบางถึงมันจะไม่น่ารำคาญแต่ก็ปลุกให้ความรู้สึกกลับคืนและลืมตาตื่นจากนิทราอีกครั้ง
!!!!!แชะ!! คนร่างหนากดชัตเตอร์เมื่อร่างบางเปิดเปลือกตาขึ้นรับอรุณ
“อ๊ะ!!!! จินหนะถ่ายทำไมหน้าตาทุเรศแน่เลย” ร่างบางต่อว่า
จินลดกล้องในมือลงแล้วส่งยิ้มกว้างให้ “อรุณสวัสดิ์”
ร่างบางยิ้มตอบ “อรุณสวัสดิ์แต่อยากได้มากกว่านี้”
จินนั่งลงบนเตียงข้างร่างบางแล้วจุมพิตบนหน้าผากมน ร่างบางยิ้มตอบแล้วจุมพิตตอบคนร่างหนาที่ริมฝีปากอย่างรวดเร็ว
“แต่เช้าเชียวเดี๋ยวก็ได้ต่ออีกรอบหรอก” จินเอ่ยแกล้ง
“หูย~~~ พอดีวันนี้ขนของไม่ไหวเมื่อคืนก็ตั้ง....” ร่างบางยกนิ้วขึ้นมานับ
“สาม” จินตอบแทน
ร่างบางหน้างอทันที “จินนะ ตั้งสามฉันปวดไปหมดเลย”
“ขอโทษนะ” จินเริ่มสำนึกก็เมื่อคืนร่างบางบอกว่าตามใจเขานี่เลยเอาแต่ใจตัวเองมากไปหน่อย
ร่างบางคลี่ยิ้มให้แล้วโอบรอบเอวจิน “ล้อเล่น~~~ฉันมีความสุขมากเลยนะ~~~~”
“เหมือนกันนั่นแหละ” จินตอบ “ไปอาบน้ำสิ เรายังเก็บของกันไม่เสร็จเลยนะ นัดให้รถเขามารับตอน9โมงเดี๋ยวจะไม่ทันเอา”
“อาบให้หน่อย~~~~” ร่างบางอ้อน “น้า~~~~”
ร่างหนาส่ายหน้าทันที “ไม่เอา ขืนอาบให้พอดีได้ต่ออีกรอบไม่ต้องย้ายห้องกัน”
“โหย~~~ใจร้ายอ่ะ มีอะไรกันทีไรตื่นเช้ามาโหดทุกที” ร่างบางตัดพ้อแล้วลุกออกจากเตียงเดินไปหยิบเสื้อผ้าแล้วหายไปในห้องน้ำ
จินมองส่งยิ้ม ๆ แล้วจัดการเก็บข้าวของที่เหลือให้เสร็จ อีกไม่กี่ชั่วโมงเขาก็จะได้ไปอยู่ห้องใหม่ ห้องที่เริ่มต้นการใช้ชีวิตของคนทั้งสองด้วยกันจริง ๆ
***********************************************
“เรียวเฮย์!!!!!” จินเอ่ยเรียกเพื่อนข้างห้องเสียงดังลั่น แต่คนที่เพิ่งจะได้นอนไม่ถึงชั่วโมงก็ไม่มีแก่ใจตื่นขึ้นมาหรอก
“นอน~~~” เรียวเฮย์ตอบกลับแล้วดึงผ้าห่มคลุมโปง
“ไปแล้วนะ” จินบอกที่หน้าประตู
“เออ~~~” เรียวเฮย์ตอบ
จินยิ้มบาง ๆ ให้กับบานประตูแล้วหันมายิ้มให้ร่างบาง “สงสัยมันเพิ่งจะได้นอนเมื่อเช้า”
“คงงั้น เมื่อคืนเสียงเราคงดังจนเขาไม่ได้นอน” ร่างบางตอบหน้าตาเฉย
จินยืนอึ้งหน้าแดงก่ำ “บ้า!!!!”
“ไม่ต้องเขินหรอกน่า เมื่อคืนยังไม่เห็นจะอายแบบนี้เลย” ร่างบางตอบพลางตบไหล่จินเบา ๆ “ไม่ใช่ครั้งแรกไม่ใช่เหรอ”
ร่างหนาหน้าตูมยกมือขึ้นเขกมะเหงกร่างบางไปทีนึงด้วยความหมั่นเขี้ยว “เอาใหญ่เชียว ฉันหมายถึงว่าไอ้เรียวเฮย์มันไม่ได้นอนเพราะเมื่อคืนมันไปรับจ๊อบต่างหาก”
“อ้าวเหรอ~~~” ร่างบางหน้าเจื่อน
“ไปเถอะคนรถเขารอ” จินเอ่ยชวนแล้วเดินจูงมือร่างบางลงบันไดไป
เสียงรถบรรทุกแล่นออกไปจากหน้าหอพัก มารุยาม่า เรียวเฮย์ สะดุ้งตัวตื่นทันที
“เฮ้ย!!!ไอ้จิน” เอ่ยเรียกที่หน้าต่างก็ไม่ทัน รถมันเคลื่อนตัวออกไปไกลแล้ว “เออ เดี๋ยวค่อยโทรไปบอกมันก็ได้” เขาเปรยกับตัวเองก่อนมองไปยังเอกสารที่วางอยู่บนหัวเตียง “ว่าแต่มันจะไปเหรอว้า~~~ ไม่ได้ตัวคนเดียวแล้วด้วย เฮ้อ~~~คิดแล้วเสียดายแทน
.นอนต่อดีกว่า” พูดจบก็ล้มตัวลงนอนคลุมโปงเหมือนเดิม
*******************************
“เฮ้อ~~~~” คนสองคนถอนหายใจออกมาพร้อมกันก่อนจะนอนแผ่หลาอยู่กับพื้นห้องอย่างเหนื่อยอ่อน
“เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าการจัดบ้านมันเหนื่อยขนาดไหน” ร่างบางเอ่ยบอก
“นี่ขนาดห้องไม่กว้างเท่าไหร่นะ กว่าจะเสร็จก็เย็นป่านนี้แล้ว” จินตอบกลับ
“หิวข้าว~~~” ร่างบางบอก
“มีผลไม้ในตู้เย็น กินไปก่อนแล้วกัน” จินบอก
“อะไร ๆ ตามที่ตกลงไงจะโกงเหรอ จินทำกับข้าวแล้วก็รีดผ้า ฉันซักตากแล้วก็ทำความสะอาด”
“วันนี้ขอเบี้ยวแล้วกัน เหนื่อยไม่ไหวจริง ๆ ” จินต่อรอง
ร่างบางหน้างอลุกขึ้นแล้วนั่งคร่อมจินทันที “ลุก”
“ไม่” จินตอบ
ร่างบางฟังคำตอบก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ “ถ้าไม่ลุกจะทำให้คางเหลืองเลย”
จินรีบชันตัวขึ้นแล้วพลิกตัวร่างบางให้ลงมาอยู่ใต้ร่างของตนเมื่อรู้สึกว่าร่างบางใช้มือมาก่อกวนบริเวณ
หว่างขาตนเอง “นายนี่จริง ๆ ”
“จะทำอะไร ไหนว่าเหนื่อยไง” ร่างบางถามกลับ
“หายแล้ว” จินตอบ กำลังจะซุกหน้าลงซอกคอร่างบาง แต่เจ้าตัววุ่นรีบกระเด้งตัวขึ้นทำเอาเขาหน้าหงายหลังปะทะกล่องที่วางระเกะระกะไว้อยู่
“เจ็บหรือเปล่าจิน ฉันไม่ได้ตั้งใจ” ร่างบางสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด
จินยิ้มบางให้ “ไม่เป็นไร ในกล่องไม่มีอะไรแล้วนิ”
“ฉันว่าก่อนจะหาข้าวกิน เราจัดการกล่องเปล่าพวกนี้เถอะมันรกห้องมากเลย” ร่างบางเสนอ
“ก็ว่าอย่างนั้น” จินเห็นด้วย เขาลุกขึ้นยืนมองกล่องกระดาษหลากหลายขนาดที่วางอยู่อย่างพิเคราะห์
“กล่องทีวีนี่ยัดฉันใส่ได้ทั้งตัวเลยนะเนี่ย” ร่างบางกล่าวเมื่อหยิบกล่องยกขึ้นมอง
“คิดออกแล้ว!!!” จินร้องลั่นแล้ววิ่งไปหยิบกล้องของตนมา เขาเดินกลับมาที่เดิมแล้วจัดวางกล่องต่าง ๆ ตามที่ใจคิด แสงแดดยามเย็นที่ส่องเข้ามายิ่งทำให้ได้มุมภาพอย่างใจต้องการ
!!!!!แชะ แชะ แชะ แชะ!!!!! เสียงกดชัตเตอร์อย่างชำนาญดั่งมนต์สะกดให้ร่างบางยืนมองแผ่นหลังของคนรักกับท่วงท่าที่เขาหลงใหลตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็น คลี่ยิ้มบาง ๆ อย่างสุขใจจะมีใครอื่นนอกจากเขาบ้างไหมนะที่ได้เห็นจินในภาพแบบนี้
“คาซึยะ หยิบหมอนในห้องนอนมาสองใบให้ทีสิ” จินหันหน้ามาขอความช่วยเหลือ
ร่างบางพยักหน้าก่อนวิ่งเข้าไปในห้องแล้วยื่นหมอนสองใบที่จินต้องการมาให้ คนร่างหนารับไว้ก่อนวางมันลงในกล่องทีวีใบใหญ่ของร่างบางแล้วถ่ายภาพอีกสองสามใบ
“จะมีกล่องเล็ก ๆ ไหมนะ” จินเปรยขึ้นกับตัวเอง
“มี เป็นกล่องใส่สายรัดข้อมือฉันเอง” ร่างบางตอบ
“ขอยืมหน่อยสิ” จินรบกวนอีก
ร่างบางชี้ไปยังโต๊ะวางของข้างโทรทัศน์ จินมองตามปลายนิ้วก่อนเดินไปแล้วถอดแหวนที่นิ้วของตนออกวางในกล่องนั่นแทนแล้วจัดการถ่ายภาพอีกไม่กี่ใบ เมื่อได้ดังต้องการเขาก็เดินกลับไปที่กล่องใหญ่ใบเดิมหยิบหมอนที่วางไว้ออกแล้วปิดฝาให้สนิทถ่ายภาพกล่องใบนั้นในมุมต่าง ๆ ก่อนจะเปิดฝากล่องออกแล้วหันกลับไปกวักมือเรียกร่างบาง
“เอาอะไรอีกเหรอ” ร่างบางเอ่ยถาม
“เข้าไปอยู่ในกล่องทีสิ” จินบอก
ร่างบางมองอย่างงงๆ แต่ก็ทำตามโดยดี เขาลงไปนั่งในนั้นเอาหลังพิงมุมกล่องมองดูจินที่ลากเก้าอี้มาแล้วยืนอยู่บนนั้น “ฉันละไม่เข้าใจอารมณ์ติ๊ดส์ของศิลปินเลยจริง ๆ ”
“อย่างเพิ่งพูดสิคาซึยะ มองที่กล้องนะแล้วก็ยิ้มให้กล้องด้วย” จินสั่งในที
ร่างบางมองกล้องแล้วยิ้มแหย ๆ ให้
“ไม่เอาๆ ยิ้มแบบ...แบบมีความสุขมากๆ คาซึยะนึกถึงสิ่งที่ทำให้มีความสุขที่สุดแล้วยิ้มออกมานะ” จินแนะ
ร่างบางนิ่งไปชั่วครู่เขากำลังคิดถึงสิ่งที่ทำให้มีความสุขที่สุด เพียงไม่นานรอยยิ้มนั้นก็ปรากฏบนใบหน้าแววตาที่แสดงออกมาว่ามีความสุขอย่างล้นเหลือยิ่งขับให้รอยยิ้มนั้นงามจนไร้ที่ติ
!!!!แชะ!!!!! จินกดชัตเตอร์เพียงครั้งเดียวทุกอย่างก็เสร็จสิ้น เขาก้าวลงจากเก้าอี้เดินมาหาร่างบาง
“เสร็จแล้วเหรอ” ร่างบางเอ่ยถามพลางยกมือทั้งสองข้างเกาะขอบกล่อง
“เสร็จแล้ว ขอบคุณมากนะ” จินบอกแล้วยิ้มให้ก่อนยื่นมือให้ร่างบาง
ร่างบางวางมือด้วยความวางใจแล้วลุกขึ้นเดินออกจากกล่องใบใหญ่ “จินถ่ายกล่องไปทำไม”
“ถ่ายไปส่งบริษัทกระดาษที่เขาจะทำปฏิทินแจกลูกค้าตอนสิ้นปีไง” จินบอก
“แล้วถ่ายฉันไปด้วยทำไม อย่าบอกนะว่าจะให้เป็นแบบบนปฏิทิน” ร่างบางถามอย่างกังวลใจ
“ไม่ดีหรือไง จะได้ดัง” จินตอบยิ้ม ๆ
“ไม่เอาอ่ะ ถ้าจะถ่ายปฏิทินมันต้องแบบนี้” ร่างบางบอกพลางปลดกระดุมเสื้อตัวเองลงสองเม็ดแล้ว
แหวกอกเสื้อออก
“พอ ๆ จะถ่ายปลุกใจเสือป่าหรือไง เก็บไว้ให้ฉันดูคนเดียวพอ” จินบอกแล้วติดกระดุมเสื้อให้ร่างบางเช่นเดิม
“อ้าวก็ถ่ายปฏิทินเขาต้องถ่ายแบบนี้กันไม่ใช่เหรอ ไม่อย่างนั้นจะขายได้หรือไง” ร่างบางย้อนถาม
“ถ้าอยากถ่ายเอาไว้ฉันถ่ายให้เอง จะให้ถ่ายเป็นอัลบั้มรวมภาพของนายยังได้” จินบอก
“เชื่อ ๆ ถ้าอย่างนั้นจะรอให้จินถ่ายภาพฉันแบบสวย ๆ ให้นะ อีกหน่อยจินก็คงเป็นตากล้องฝีมือฉกาจไปแล้ว ถึงเวลานั้นคงมีแต่คนอยากให้จินถ่ายรูปให้จนลืมนายแบบอย่างฉันไปแล้วมั๊ง” ร่างบางคาดเดา “ว่าแต่รูปฉันเมื่อกี้จะเอาไปทำปฏิทินจริงเหรอ” ร่างบางถามเสียงหวั่น
“ไม่หรอกใครจะทำ” จินตอบ
ร่างบางคลี่ยิ้มออกมาอย่างสบายใจ “นึกว่าจะขายกันเสียแล้ว”
“เปล่าหรอก กลัวปฏิทินเขาเจ๊ง” จินตอบกลับทันที
ร่างบางหน้างอแต่เมื่อจินหอมที่แก้มเขาก็หายโกรธ
“ฉันอยากถ่ายเก็บไว้เอง ไม่ว่าอะไรใช่ไหม” จินถาม
“จะว่าอะไรล่ะถ้าอยากเก็บไว้เองแต่ล้างแล้วขอดูมั่งนะ รูปเมื่อเช้าด้วยอย่าให้ใครดูนะต้องให้ฉันได้เห็นก่อนเป็นคนแรก” ร่างบางสั่ง
“คร๊าบผม” จินรับคำก่อนเดินไปเก็บกล้องในห้องเล็กซึ่งเขาจะดัดแปลงให้มันเป็นห้องมืดในอีกไม่ช้า สักครู่เขาก็เดินออกมา “ไปหาข้าวกินกัน”
“แล้วกล่องพวกนี้ละไม่เก็บเหรอ” ร่างบางถาม
“กลับมาก่อนก็ได้แค่พับเก็บเอง ตอนนี้ไปเติมพลังก่อน” จินบอกแล้วจูงมือร่างบางออกไปจากห้องทันที
********************************
มารุยาม่า เรียวเฮย์ เดินเข้าไปในร้านขายรูปปาปารัซซี่ที่เพื่อนของตนเป็นคนบอกทางจากการพูดคุยทางโทรศัพท์ เขาค้อมศีรษะให้กับคนด้านในเคาน์เตอร์ซึ่งดูจากท่าทางน่าจะเป็นคนที่เพื่อนบอกไว้
“ไทจิซังใช่ไหมครับ” เรียวเฮย์เอ่ยถาม
“มารุยาม่าคุงล่ะสิ” ไทจิถามกลับ
“ครับ มารุยาม่า เรียวเฮย์ครับ” เรียวเฮย์แนะนำตัว
“จินโทรมาบอกฉันแล้วละ เขาฝากขอโทษมาด้วยที่ต้องรบกวนให้นายมาที่นี่” ไทจิกล่าว
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมต่างหากที่ลืมทั้ง ๆ ที่อาจารย์ฝากมาให้จินไว้หลายวันแล้ว ถ้าเขาพลาดถือว่าผมผิดมหันต์เลยนะครับเนี่ย” เรียวเฮย์กล่าวแล้วยื่นเอกสารส่งให้ไทจิ
ไทจิรับมาแล้วอ่านหน้าปกเพียงคร่าว ๆ “มารุยาม่าคุงไม่สนใจบ้างเหรอ”
“ไม่ละครับ ผมไม่ฝันไกลแบบไอ้จินมัน แค่เรียนจบแล้วกลับไปรับช่วงต่อกิจการที่บ้านก็พอแล้วครับ” เรียวเฮย์ตอบ
“ขอโทษทีนะ ที่บ้านทำกิจการอะไรเหรอ” ไทจิถาม
“เป็นสตูอิโอถ่ายภาพนะครับ” เรียวเฮย์ตอบ “บ้านผมอยู่แถบคันไซ”
“อ๋อ...ยังไงก็ขอบคุณอีกทีนะ” ไทจิกล่าว
“ไม่เป็นไรฮะ ผมขอตัวเลยแล้วกันเดี๋ยวไม่มันรถไฟ” เรียวเฮย์เอ่ยขอตัว “กลับบ้านต่างจังหวัดนะครับ ฝากบอกจินด้วยนะครับว่าขอให้ได้งานแล้วก็เปิดเทอมเจอกัน”
“ได้ โชคดีนะ” ไทจิเอ่ยแล้วยิ้มส่งให้จนลับตา ก่อนกลับมามองเอกสารในมือ “แล้วตอนนี้ยังอยากจะทำฝันให้เป็นจริง หรือให้เป็นความฝันแบบนั้นต่อไปล่ะจิน”
“ไทจิซัง~~~~” ร่างบางส่งเสียงเรียกตั้งแต่หน้าประตู
ไทจิวางเอกสารลงบนเคาน์เตอร์ก่อนจะยกมือปิดหู “เบา ๆ คาเมะจัง”
ร่างบางยิ้มกว้างแล้ววิ่งเข้ามาหยุดที่หน้าเคาน์เตอร์ “สวัสดีฮะ”
“เออ” ไทจิทักทายตอบ “ไปกินอะไรมาซะคึกขนาดนั้น พอดีร้านฉันพังหมด”
ร่างบางยื่นมือมาตรงหน้าไทจิ
“แหวน” ไทจิบอก
“จินซื้อให้” ร่างบางบอก “ของจินก็มีแบบเดียวกันเลย”
“โอ๊ย!!! แหวนอย่างนี้แถวอิเคบุคุโระมีถมถืด” ไทจิแกล้ง
ร่างบางหน้าตูม “มิน่าละไทจิซังถึงครองพรมจรรย์ได้จนปูนนี้”
ไทจิได้ฟังก็หยิบเอกสารที่วางไว้ฟาดเบา ๆ บนศีรษะร่างบาง ก่อนจะวางคืนลงที่เดิม “มันน่านัก
จินล่ะ”
“ไปบริษัทกระดาษฮะ มีแต่คนทำงานจินเลยให้ผมมารอที่นี่” ร่างบางบอก “อะไรนะฮะ”
ไทจิก้มลงมองตามสายตาร่างบาง “อ๋อ....เอกสารขอทุนไปฝรั่งเศส”
“ไทจิซังจะไปเหรอฮะ ทุนสำหรับเด็กมหาวิทยาลัยนี่ฮะ อายุไทจิซังเกินแล้วนะ” ร่างบางบอก
“เดี๋ยวก็จัดให้อีกสักทีสองทีหรอก” ไทจิกล่าว “ไม่ใช่ของฉันหรอก”
“แล้วของใครล่ะฮะ” ร่างบางถามอย่างใครรู้
ไทจิถอนหายใจบาง ๆ “ของจิน”
ร่างบางนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะยิ้มบาง ๆ ออกมา “จินเขาชอบถ่ายรูปนี่เน๊อะ”
“ไม่รู้สึกอะไรเหรอ ถ้าจินเขาจะไป” ไทจิถาม
“รู้สึกสิฮะ แต่ว่ามันเป็นความฝันของจินเขานี่” ร่างบางตอบแล้วยื่นมือไปหยิบเอกสารมาเปิดดู “โห~~~เกรดเฉลี่ย3.5 อาจารย์ที่ปรึกษารับรองความประพฤติแล้วต้องส่งผลงานด้วย จินเรียนเก่งขนาดนั้นเชียวเหรอฮะ”
“ก็ประมาณนั้น เขาอยากไปถึงได้พยายาม” ไทจิบอก
“ไทจิซังคิดว่าจินจะได้ไหมฮะ” ร่างบางถามความคิดเห็น
“ไม่ได้ยอกันเองนะ แต่ฉันคิดว่าจินน่าจะได้” ไทจิตอบ “ถ้าจินได้จริง ๆ เขาต้องไปเรียนที่นั่นสองปีทำใจได้เหรอ”
ร่างบางส่ายหน้า ไทจิมองอย่างสงสารในความรักของคนทั้งสองที่เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นแต่เขาก็ไม่อยากให้จินทิ้งความฝันของตนเองเช่นกัน
“เดี๋ยวผมมานะฮะ” ร่างบางเอ่ยบอก
“จะไปไหนล่ะ” ไทจิถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นร่างบางซึมไป
“เดินเล่นรอจินนะฮะ” ร่างบางบอกแล้วเดินออกจากร้านไปทันที
********************
คนร่างหนาเดินยิ้มกว้างเข้ามาในร้านของไทจิ เขากวาดสายตามองทั่วร้านเห็นลูกค้าผู้หญิงกำลังเลือกรูปไอดอลที่ตัวเองชื่นชอบอยู่สอง-สามคนก่อนสบสายตากับไทจิที่มองมาจากเคาน์เตอร์
“สวัสดีฮะไทจิซัง” จินเอ่ยทักแล้วค้อมศีรษะให้ “คาซึยะล่ะฮะ”
“เห็นว่าออกไปเดินเล่น แต่หายไปหลายชั่วโมงแล้วเหมือนกัน” ไทจิตอบ
“ไปไหนนะ บอกให้รออยู่กับไทจิซังแท้ ๆ” จินบ่นอย่างเป็นห่วง
“เขาเห็นไอ้นี่แล้วก็รู้เรื่องแล้วเลยเดินออกไป” ไทจิบอกแล้วยื่นเอกสารส่งให้จิน
จินมองไปก็พอจะรู้ “เดี๋ยวผมมานะฮะ” เอ่ยบอกแล้ววิ่งออกจากร้านทันที
“เฮ้ย!!! จิน ไม่เอากลับไปด้วยละ” ไทจิตะโกนถามไล่หลังแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว
*******************
“เขี้ยว!!!!!” ร่างบางบ่นเมื่อเดินออกมาจากโรงรับจำนำแถวอิเคบุคุโระ “ทีวีตั้ง35นิ้ว กดราคาชะมัดยาด” บ่นพลางก้มหน้าก้มตาเดินอย่างอารมณ์เสีย เท้าของคนที่หยุดยืนขวางอยู่ตรงหน้าทำให้ร่างบางเงยหน้าขึ้นมามอง “อ้าว จิน~~~”
“มาทำอะไรแถวนี้ ให้รอที่ร้านไทจิซังไม่ใช่เหรอ” จินกอดอกถาม
ร่างบางยิ้มแห้ง ๆ ให้ “มาเดินเล่น”
“แถวโรงรับจำนำเนี่ยนะ ” จินย้อยถาม
“บรรยากาศคลาสสิกดีออก ว่าแต่....เป็นไง” ร่างบางเปลี่ยนเรื่องถาม
จินล้วงมือไปในกระเป๋าชูกระดาษแผ่นบางให้ดู “เขาตีเชคให้อีกอาทิตย์ถึงจะเบิกได้”
ร่างบางยิ้มกว้างกระโดดกอดคอจินทันที “จินเก่งจัง”
“เพราะนายด้วย” จินบอก
“ฉันเหรอ????” ร่างบางย้อนถามตาโต
“ก็ถ้าไม่ได้กล่องทีวีของนาย ไอเดียฉันคงไม่เกิด” จินเฉลย
“อ๋อ....” ร่างบางตอบรับเสียงแผ่ว “จินไปหาไทจิซังมาหรือยัง”
“ไปมาแล้ว” จินตอบ “นาย....รู้แล้วใช่ไหม”
ร่างบางพยักหน้า “อืม....จินทำให้ได้นะเพื่อความฝันของจินไง”
“แล้วนายล่ะ” จินถามด้วยความเป็นห่วง
ร่างบางล้วงมือไปในกระเป๋ากางเกงแล้วส่งเงินปึกหนึ่งให้ จินมองอย่างไม่เข้าใจ “เงินอะไร”
“ไปเมืองนอกต้องใช้เงินเยอะแต่จินได้ทุนก็คงไม่ลำบากเท่าไหร่เรื่องค่าเรียน แต่ค่าใช้จ่ายสำหรับคนสองคนมันคงไม่น้อยอยู่ฉันเลยจะช่วยจินเก็บเงิน...พูดขนาดนี้แล้วถ้าไม่ให้ไปด้วยร้องไห้จริง ๆ นะ” ร่างบางยืนนิ่งน้ำตาคลอ
จินสาวเท้าเข้ามาใกล้แล้วสวมกอดร่างบางนั่น “ให้อยู่ด้วยอยู่แล้วไม่อย่างนั้นไม่หาเงินงก ๆ แบบนี้หรอก แต่ก่อนอื่นให้ฉันได้ทุนนั่นก่อนเถอะค่อยว่ากันอีกที”
“เออ นั่นสิ” ร่างบางนึกขึ้นได้แล้วผละออกจากอ้อมกอดของจิน “จินยังไม่ได้ทุนเลยนี่หน่า ทีวี35นิ้วของฉัน~~~~”
“ทีวี????” จินย้อนถาม
“ฉันเอาไปจำนำมาอ่ะ” ร่างบางเริ่มโวยวาย “อยากเอาหัวโขกกำแพงตายจริง ๆ ”
จินขำเบา ๆ “ช่างเถอะ เดี๋ยวซื้อให้ใหม่ก็ได้39นิ้วเลยเป็นไง จะได้เห็นนากามารุคุงชัดกว่าเดิม”
“นั่งดูสองคนกับจินแค่14นิ้วเครื่องเก่านั่นก็พอ เก็บเงินไว้เพื่ออนาคตของจินดีกว่า” ร่างบางตอบ
“อนาคตของเราต่างหาก” จินบอกแล้วจับมือร่างบาง “กลับบ้านเถอะแต่เราต้องแวะไปหาไทจิซังก่อนนะ เดี๋ยวแกจะเป็นห่วงเอา”
“อืม~~~” ร่างบางรับคำพลางเอนศีรษะซบแขนจินแล้วออกเดินไปพร้อม ๆ กัน
*************************
“อาคานิชิคุง~~~~ อยู่หรือเปล่า~~~~” เสียงเรียกหน้าประตูห้องพักในหอนักศึกษาดังลั่นอยู่พักใหญ่ นักศึกษาที่อยู่ห้องตรงกันข้ามเปิดประตูออกมาแล้วรีบค้อมศีรษะให้กับคนที่ยืนหันหน้ากลับมามองตนเอง
“เออ ๆ โทษทีทำให้ตื่นเลยเหรอ” ชายสูงวัยเอ่ยถาม
“เปล่าครับ ผมยังไม่ได้หลับตั้งแต่เมื่อวานต่างหากครับอาจารย์” นักศึกษาตอบ
“งั้นเหรอ ช่วยไม่ได้นะที่งานไม่ผ่านทั้ง ๆ ที่ฉันให้เวลาเป็นเดือน” อาจารย์สูงวัยเอ่ยกระเซ้า “อาคานิชิคุงล่ะไม่อยู่เหรอ”
“ไม่อยู่ครับ มันย้ายออกไปอยู่หอนอกได้หลายวันแล้วครับ” นักศึกษาหนุ่มเอ่ยบอก
“อ้าวเหรอ ปิดเทอมแล้วด้วย” อาจารย์กล่าว “มีเบอร์ติดต่อเขาไหม”
“ไม่มีฮะ ต้องถามไอ้เรียวเฮย์มันสนิทกัน” นักศึกษาตอบ
“มารุยาม่า เรียวเฮย์นะเหรอ” อาจารย์ถามเพื่อความแน่ใจ
“ฮะ แต่ว่ามันเพิ่งกลับบ้านนอกไปเมื่อเช้า” นักศึกษาบอก “ไม่ต้องกังวลฮะผมมีเบอร์มันเดี๋ยวจดให้ครับ”
“ขอบใจนะ” อาจารย์กล่าว
นักศึกษาหนุ่มค้อมศีรษะให้ก่อนเดินหายไปในห้องสักพักแล้วกลับมาพร้อมแผ่นกระดาษในมือ อาจารย์สูงวัยรับมาอ่านทวนหมายเลขทั้งของที่บ้านต่างจังหวัดและมือถือให้ฟังเพื่อความชัดเจนก่อนเก็บใส่กระเป๋าเสื้อนอกแล้วเดินลงบันไดกลับไปยังห้องพักของตนที่ตึกคณะ
“อ้าว ไม่เปิดมือถือเสียอย่างนั้น” อาจารย์เอ่ยเมื่อโทรไปหาเรียวเฮย์เป็นรอบที่สามแต่ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้ “กลับมาจากดูงานที่อังกฤษแล้วค่อยโทรติดต่ออีกทีแล้วกัน” เอ่ยกับตนเองก่อนออกจากห้องไปโดยที่ไม่ลืมหยิบระเบียบการศึกษาและผลงานของนักศึกษาที่ชื่ออาคานิชิ จิน ติดมือไปด้วย
*******************************
จบตอนที่4แล้วจ้า เป็นอย่างไรบ้างอย่าลืมเม้นท์บอกกันด้วยนะ ขอบคุณมากๆคะที่ติดตามอ่าน^^
ความคิดเห็น