คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : paparazi 3
“ไอ้จิน ไอ้จินเว้ย~~~” เสียงเรียกหน้าประตูห้องดังขึ้นแต่เจ้าของห้องกลับไม่อยู่ ร่างบางที่นอนเอกเขนกพลางเปิดดูอัลบั้มภาพถ่ายผลงานของจินลุกขึ้นพรวดก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องออก
“ไอ้จิน...อ๊ะ....อ้าว” เพื่อนร่วมคณะและหอพักเอ่ยเสียงหลง มองหน้าร่างบางที่มองตนกลับอย่างงงๆ “เอ่อ จินล่ะครับ”
“จินออกไปข้างนอก มีอะไรหรือเปล่าบอกผมไว้ก็ได้นะ” ร่างบางเอ่ยปากทันที
“คือว่าจะชวนมันไปถ่ายภาพส่งอาจารย์นะครับ ถ้ามันไม่อยู่ก็ไม่เป็นไร” เพื่อนร่วมชั้นของจินกล่าว
“ได้ฮะผมจะบอกให้ แล้วคุณชื่ออะไรล่ะจะได้บอกถูก” ร่างบางถาม
“มารุยาม่า เรียวเฮย์ครับ” เรียวเฮย์ ตอบกลับแล้วยิ้มให้ “ขอตัวนะครับ” เอ่ยลาแล้วกระชับกระเป๋าใบใหญ่ที่สะพายบ่าเดินออกไป
ร่างบางมองส่งก่อนจะปิดประตูห้องแล้วเดินกลับไปล้มตัวนอนบนเตียง เรียวเฮย์เดินลงบันไดหออย่างไม่รีบร้อน พอเห็นคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาเดินสวนขึ้นมาก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย
“ข้าวใหม่ปลามันเว้ย” เรียวเฮย์เอ่ยทักเสียงกลั้วหัวเราะ
จินได้ยินเสียงสำเนียงคุ้นหูก็เงยหน้าขึ้นมามอง “อ้าว ไอ้เรียวเฮย์ ไปไหนแต่เช้าเนี่ย”
“เช้าที่ไหนนี่จะสิบเอ็ดโมงแล้วนะเว้ย แต่ก็อย่างว่าเวลาของคนที่อยู่ในโลกสีชมพูย่อมเดินช้ากว่าเวลาของโลกปกติ” เรียวเฮย์ยังพูดแซวไม่เลิก
จินขุ่นคิ้วมองด้วยความสงสัย “อะไรของนาย”
“ไม่ต้องมาทำเป็นหน้ามึนเลย คนตัวเล็กๆขาวๆในห้องนายไง” เรียวเฮย์บอกทำหน้าทะเล้น
“อ๋อ~~~” จินเอ่ยเมื่อพอจะรู้ว่าเรียวเฮย์หมายถึงใคร “เฮ้ย!!!” ร้องลั่นออกมาพลางหน้าแดงขึ้นมาเฉยๆ “เจอกันได้ไง”
“ไม่ต้องมาทำเขิน พอดีฉันจะไปชวนนายให้ไปถ่ายภาพส่งอาจารย์กันแต่นายดันไม่อยู่เลยเจอกับเด็กนายแทน” เรียวเฮย์บอกแล้วยื่นมือมาแตะที่ไหล่จิน “เห็นเฉยๆ ไม่คิดว่าจะเป็นเสือซ่อนลายเลยนะเนี่ยนายนะ ยังไงก็อย่ารุนแรงกับลูกแกะน้อยนั่นละ” ตบไหล่เพื่อนสอง-สามที่แล้วก็เดินจากไป
จินเอี้ยวหน้าไปมองส่งจนลับตา “ฉันต่างหากที่น่าจะเป็นลูกแกะ” เขาเอ่ยบอกเบาๆก่อนเดินขึ้นบันไดไปยังห้องของตน ยังมีคนที่รอทานอาหารเช้าในเวลาเกือบสิบเอ็ดโมงกับเขาอยู่ เขาเปิดประตูห้องเข้าไปก็ยังคงเห็นร่างบางนอนดูอัลบั้มงานของเขาอย่างตั้งอกตั้งใจ จะรู้ไหมนะว่าเขาดีใจขนาดไหนที่ได้เห็นใครสักคนสนใจชิ้นงานของเขาขนาดนี้
“อ้าว มาแล้วเหรอ” ร่างบางเหลียวหน้ามามอง
จินวางกล่องอาหารที่เพิ่งจะไปซื้อมาจากร้านคอนวีเนียนลงบนโต๊ะเขียนหนังสือ “มีแต่ข้าวกล่องนะ”
“แค่นี้ก็อยู่ได้ทั้งวันแล้ว” ร่างบางบอกแล้วลุกขึ้นมายืนข้างๆ ให้ความสนใจกับอาหารที่จินซื้อมาให้ทันที
“เอ่อ เมื่อกี้เพื่อนจินมาบอกว่าจะชวนไปถ่ายรูปส่งอาจารย์” ร่างบางบอกแล้วหยิบกล่องข้าวออกมาจากถุง “เขาบอกว่าชื่ออะไรน้า~~~”
“มารุยาม่า เรียวเฮย์” จินเฉลย
“อืม ใช่ๆ จินรู้ได้ไง” ร่างบางหันหน้ามามอง
“เจอกันเมื่อครู่นี้” จินตอบแล้วเดินถือกล่องข้าวมานั่งลงกับพื้นเอาหลังพิงขอบเตียง ร่างบางเห็นเช่นนั้นจึงเดินมานั่งลงข้างๆ
“วันนี้จินจะออกไปถ่ายรูปอีกเหรอ ฉันไปด้วยคนนะ” ร่างบางเอ่ยขอแล้วส่งยิ้มหวานให้
“ผมนะต้องออกไปถ่ายภาพส่งอาจารย์อยู่แล้ว แต่คุณละไม่ไปโรงเรียนหรือไง” จินเอ่ยถาม
“ก็
..ยังไงวันนี้ก็สายแล้วไปก็ไม่ทัน อีกอย่างไปไม่ไหวด้วย” ร่างบางตอบ
“ถ้าไปโรงเรียนไม่ไหวก็ไม่ต้องตามผม บ้านคุณอยู่ไหนล่ะคาเมะนาชิคุง ผมไปส่งคุณก่อนไปทำงานก็ได้” จินเอ่ยถาม
ร่างบางได้ฟังก็วางกล่องข้าวลงทันที “ไม่!!!”
“ได้ยังไง ที่บ้านคุณจะเป็นห่วงเอานะหายออกไปจากบ้านแบบนี้” จินกล่าวอย่างที่รู้สึก
“จินไม่ต้องมาอ้างเลย ที่ฉันไปโรงเรียนไม่ไหวก็เพราะนาย คิดว่าได้ฉันไปง่ายๆแล้วก็จะทิ้งฉันง่ายๆใช่ไหมล่ะ” ร่างบางพูดน้ำเสียงเครือ
จินหันมามองร่างบางที่ก้มหน้ามองพื้นนิ่ง เขาวางข้าวกล่องในมือลงกับพื้นก่อนจะเอื้อมมือไปยีผมเส้นเล็กของคนที่นั่งซึมอยู่ “ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น”
“จินไม่ได้หมายความอย่างนั้นแต่จินก็กำลังทำให้ฉันรู้สึก” ร่างบางกล่าว “ใช่สิ ฉันมันเป็นเด็กกะโปโลที่ไหนก็ไม่รู้ หนังสือหนังหาก็ไม่ค่อยตั้งใจเรียน วันๆก็บ้าแต่ดาราแถมยังมาตามจินต้อยๆ จินก็เลยคิดว่าฉันง่ายใช่ไหมล่ะ จินนะใจร้ายที่สุดเลย ฉันไม่ยอมนะ ไม่ยอม ไม่ยอม~~~~” ร่างบางโวยวายเสียงลั่น
จินรีบเอามืออุดปากร่างบางทันที “เบาๆสิ เดี๋ยวใครไม่รู้ก็คิดว่าผมทำอะไรคุณหรอก โอเค คาเมะนาชิคุงคุณต้องการให้ผมทำอะไรบอกผมมาได้เลย”
ร่างบางได้ฟังก็ยิ้มออกจับมือของจินที่ปิดปากของตนให้ลดลง “จริงนะ” เอ่ยถามย้ำ เมื่อเห็นจินพยักหน้าก็ยิ้มกว้างออกมาใช้มือทั้งสองข้างกอดแขนของจินไว้แล้วเอนศีรษะลงไปซบ “ฉันไม่ต้องการอะไรมากหรอก แค่ตอนนี้อยากอยู่ใกล้ๆจินเท่านั้นแหละ”
จินเผลอยิ้มออกมาเขาซ่อนความอิ่มเอมใจนั้นไม่มิดเสียแล้วแต่ก็ไม่วายพูดจาทำลายความรู้สึกดีๆนั้นด้วยตัวเอง “อยู่ใกล้ผมเพราะจะได้เจอกับนากามารุคุงของคุณนะสิ”
“ฮิ ฮิ” ร่างบางหัวเราะออกมาก่อนจะปล่อยมือจากแขนของจินแล้วสนใจกับอาหารที่ทานค้างไว้อยู่
จินมองการกระทำของร่างบาง กะไว้แล้วเชียวมาพูดให้เขาดีใจที่แท้ก็หวังผล เขาจะไม่เผลอใจให้อีกแล้ว
*******************************
ภายในสวนสาธารณะยามบ่ายคล้อยซึ่งสายลมอ่อนได้ผ่านมามาทักทายทำเอากิ่งไม้ใบหญ้าพริ้วไปตามแรงละมุนนั่น อาคานิชิ จิน เดินสะพายกล้องตัวเก่งเข้ามาหยุดยืนตรงลานกลางแจ้งที่มีผู้คนจำนวนไม่หนาตานั่งตีวงล้อมดูการแสดงของศิลปินอิสระนั้นอยู่ มารุยาม่า เรียวเฮย์ ละสายตาออกจากเลนส์กล้องเพื่อพักสายตาเพียงครู่ด้วยการมองไปที่อื่นไกลๆ ฉับพลันก็สะดุดตากับร่างของคนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกันและกำลังยกกล้องขึ้นมาถ่ายภาพศิลปินหน้าขาวผู้กำลังแสดงละครใบ้ให้ได้ชม ตั้งใจจะกวักมือเรียกแต่เห็นว่าเพื่อนกำลังตั้งอกตั้งใจในการทำงานเขาจึงนั่งรออยู่เงียบๆ เมื่อเห็นว่าเพื่อนลดมือที่ถือกล้องลงเพราะการแสดงสิ้นสุดก็รีบยืนขึ้นแล้วเดินไปหา
“เฮ้ย” เรียวเฮย์เอ่ยทักเมื่อมายืนอยู่ด้านหลังจิน
จินหันหน้ากลับไปมอง “อ้าว มาด้วยเหรอ”
“ทำไมปล่อยให้เด็กนายยืนอยู่ตรงนั้นคนเดียวล่ะ” เรียวเฮย์ไม่ตอบแต่ถามกลับ
จินขุ่นคิ้วด้วยความสงสัย “อะไร???”
“ไม่ต้องทำไก๋ เด็กนายนะ” เรียวเฮย์เอ่ยย้ำแล้วใช้หางตาชี้ไปทางด้านหลัง
จินมองตามไปก็เห็นคนร่างบางยืนอยู่ด้านหลังเขาซึ่งห่างกันไม่มาก ดวงตาคู่สวยนั้นมองมาที่ตนเองก่อนจะยิ้มกว้างให้ “อะไรกัน ไหนว่าจะกลับบ้านไง” เขาเปรยขึ้นกับตัวเอง
“ไม่ไปดูหน่อยเล่า” เรียวเฮย์แนะนำแล้วเดินแยกทางไป
จินมองส่งก่อนจะเดินไปหาร่างบางที่ส่งยิ้มให้ตนอีกครั้ง “ไหนคุณว่าจะกลับบ้านไงล่ะคาเมะนาชิคุง”
“ก็กลับไปแล้วไง แล้วก็มาใหม่” ร่างบางตอบ
“เห็นไทจิซังบอกว่าบ้านคุณอยู่ไกลไม่ใช่เหรอ เทียวไปเทียวมาไม่เหนื่อยหรือไง” จินเอ่ยถาม
“เดี๋ยวก็จะไม่เหนื่อยแล้ว” ร่างบางตอบก่อนจะเปลี่ยนเรื่องสนทนา “จินมาถ่ายรูปแบบนี้บ่อยเหรอ”
“แล้วแต่โอกาสน่ะ การแสดงฟรีๆแบบนี้ที่นี่ไม่ค่อยมีบ่อยหรอก” จินตอบตามความเป็นจริง
“วันหน้าถ้าจินมาถ่ายรูปแบบนี้อีก ฉันมาด้วยนะ” ร่างบางขออนุญาต
“ตามใจคุณ ว่าแต่ไม่เป็นการเสียเวลาที่คุณต้องไปตามนากามารุคุงหรอกเหรอ” จินเอ่ยถามกลับ
ร่างบางได้ยินคำก็อมอากาศเข้าปากจนแก้มป่องหรี่ตามองคนร่างหนาอย่างน้อยใจ “ประชดเข้าไป”
“ไม่ได้ประชดเสียหน่อยก็คุณ...ชอบเขาไม่ใช่เหรอ” จินถามกลับออกไปทั้งๆที่รู้คำตอบดี
“เออ!!!” ร่างบางตะเบ็งเสียงตอบ
จินยักไหล่ก่อนจะเก็บกล้องใส่กระเป๋าเป้แล้วสะพายพาดบ่า “หิวไหมละ”
ร่างบางมองอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ “ไม่”
“เหรอ ว่าจะพาไปกินข้าวแถวบ้านนากามารุคุงสักหน่อย” จินพูดหยั่งเชิง
ร่างบางมองตอบตาเป็นประกาย “จริงเหรอ????”
จินพยักหน้าลง “อืม ถือเป็นการขอโทษที่เมื่อครู่ทำให้คุณอารมณ์เสีย”
“ก็ไม่ได้โกรธอะไรสักหน่อย” ร่างบางตอบแล้วเดินมาคล้องแขนจิน “จินน่ารักที่สุดเลย”
จินหันหน้ามามอง “ไม่ต้องมาแกล้งยอหรอกน่า” เขาตอบกลับก่อนพาร่างบางมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารดังกล่าว
************************************
เจ้าของร้านรูปปาปารัซซี่ยิ้มส่งให้ลูกค้าก่อนที่ใบหน้าของเขาจะแสดงความฉงนเมื่อเห็นร่างของคนสองคนเดินเข้ามาในร้านพร้อมกันในเวลาที่เขาใกล้จะปิดร้านแล้ว
“สวัสดีครับไทจิซัง” จินและร่างบางเอ่ยทักพร้อมกันเมื่อมาหยุดยืนที่หน้าเคาน์เตอร์
“สวัสดี ทำอีท่าไหนถึงมาด้วยกันได้ล่ะ” ไทจิเอ่ยถาม
“ก็...ทำอย่างนั้นแหละไทจิซัง” ร่างบางตอบแล้วส่งยิ้มให้
จินได้ฟังร่างบางพูดจบก็รีบยกมือขึ้นมาปิดปากเจื้อยแจ้วนั่นทันที เขารู้ดีว่าคำบอกของร่างบางทำให้ไทจิอยากรู้ความหมายที่แท้จริงนั่นขนาดไหน
“เดี๋ยวนะคาเมะจังหมายความว่ายังไง” ไทจิถามย้ำก่อนมองไปทางจิน “ปล่อยมือออกสิ คามจังจะพูดได้อย่างไรล่ะแบบนั้นนะ”
จินจำใจต้องลดมือลงอย่างเสียไม่ได้ก่อนจะเห็นรอยยิ้มอย่างผู้มีชัยจากหน้าร่างบาง
“อ้าว ว่ายังไงละคาเมะจัง” ไทจิถามซ้ำ
“ก็....” ร่างบางเอ่ยค้างก่อนหันหน้าไปมองจิน ยิ้มหวานให้แล้วคล้องแขนจินพลางซบหน้าลงบนไหล่หนานั่น “ผมกับจินเรามีอะไรกันแล้ว” บอกเสร็จร่างบางก็ยิ้มกว้างให้ไทจิซึ่งอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
“เฮ้ย!!!” จินร้องลั่นหันมามองหน้าร่างบาง “พูดอย่างนี้ได้ยังไงผมเสียหายนะ”
ร่างบางมองตอบสายตาจริงจังผละตัวออกจากจินก่อนจะยื่นมือไปตบที่ไหล่หนานั่นแรง ๆ “ไม่ต้องกลัวฉันรับผิดชอบนายเอง”
“จะบ้าเหรอ ผมต่างหากที่ควรจะพูดแบบนั้น” จินเถียงกลับ
“ก็อย่างนั้นทำไมไม่พูดหละ ฉันทำอะไรลงไปรู้ตัวเสมอนะ ฉันก็เลยจะรับผิดชอบจินเองไง จินไม่ต้องกลัวนะ” ร่างบางกล่าวย้ำพร้อมกับตบลงบนไหล่หนาไม่ยอมหยุดมือ
“ผมก็คิดว่าคุณไม่จริงจังกับเรื่องนี้นี่หน่าก็เลยไม่ได้พูดออกไป” จินตอบตามความรู้สึก
ร่างบางส่งยิ้มให้ “ฉันนะ....”
“เอ่อ.....” ร่างบางยังไม่ทันได้พูดต่อไทจิก็แทรกขึ้น “ขอโทษนะที่ต้องขัดความเป็นส่วนตัว แต่ว่าที่นี่มีฉันอยู่ด้วยนะ”
จินหันหน้ากลับไปมอง “ขอโทษครับไทจิซัง”
“ช่างเถอะ ฉันไม่ขอยุ่งเรื่องส่วนตัวของพวกเธอแล้วกัน” ไทจิบอก “ว่าแต่มานี่มีอะไร”
“เราเพิ่งกลับมาจากไปกินข้าวแถวบ้านยูอิจิมาน่ะไทจิซัง” ร่างบางตอบ
“ถ่ายรูปมาได้เหรอ” ไทจิถามกลับทันที
“เปล่าครับ” จินตอบ “ผมแวะมาบอกว่าช่วงนี้คงไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ไทจิซังนะครับเพราะว่าต้องส่งงานอาจารย์ ใกล้จะปิดเทอมแล้ว”
“เออนั่นสิ ฉันก็ลืมไป” ไทจิกล่าวอย่างเห็นด้วย “คาเมะจังก็คงจะสอบด้วยใช่ไหม”
“แหะ ๆ” ร่างบางหัวเราะฝืด ๆ
“อย่างนี้ก็คงขาดรายได้พิเศษไปนะสิ” ไทจิกล่าว “เดี๋ยวจะลองถามเพื่อนให้นะว่ามีงานดี ๆ เงินเยอะ ๆ ให้หรือเปล่า”
“ขอบคุณครับ” จินเอ่ยขอบคุณ “ถ้าอย่างนั้นขอตัวนะครับ”
“อืม ตามสบายเถอะ” ไทจิเอ่ยบอกก่อนที่จะยิ้มส่งเด็กหนุ่มสองคนที่เดินออกจากร้านตนเองไป
“จะกลับบ้านเลยไหม” จินเอ่ยถามร่างบางเมื่อพ้นร้านไทจิมาได้ไม่ไกล
“ไม่กลับ” ร่างบางตอบ
“ไม่กลับแล้วจะไปไหน นี่ก็ค่ำแล้วนะบ้านไกลไม่ใช่เหรอ” จินเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“ก็เพราะบ้านไกลไงล่ะถึงไม่กลับ” ร่างบางตอบ “ไปห้องจินนะ” เอ่ยขอแล้วยิ้มกว้างให้
“อืม” จินอนุญาต “แต่ว่าพรุ่งนี้ต้องกลับบ้านนะ”
“เถอะน่า อยากกลับก็กลับเองแหละ” ร่างบางตอบ
“ได้ยังไง ที่บ้านจะเป็นห่วงเอานะ” จินเอ่ยเตือน
ร่างบางมองหน้าจินนิ่ง “ไม่อยากให้อยู่ด้วยเหรอ”
จินมองตอบสายตาของร่างบางก่อนจะเบือนหน้าหนีเพราะเขาเองรู้สึกเขินกับสายตาของร่างบางที่ส่งมา “ไม่ใช่อย่างนั้น ก็อย่างที่บอกว่าทางบ้านคุณจะเป็นห่วงเอา”
“จินสบายใจได้ ตอนนี้ยังไม่มีใครเป็นห่วงฉัน ไว้เป็นห่วงฉันกันเมื่อไหร่ฉันก็จะกลับไปบ้านทันที” ร่างบางกล่าวสรุป “แต่ว่าคืนนี้ ขอนอนเตียงจินนะ” ร่างบางเอ่ยขอพลางส่งสายตาออดอ้อน
“คุณนอนเตียงแล้วผมจะนอนไหนล่ะ” จินเอ่ยถามเสียงเรียบทั้ง ๆ ที่ใจก็แอบลุ้นกับคำตอบร่างบาง
“ก็นอนตียงเดียวกันไงละ” ร่างบางตอบ
คำจากปากร่างบางที่จินรอเรียกรอยยิ้มให้ผุดขึ้นบนใบหน้าเขาได้ทันทีแต่เขาก็รีบเก็บความรู้สึกนั้นไม่ให้ร่างบางได้รับรู้ “เตียงมันแคบ”
“ก็....” ร่างบางเอ่ยค้างไว้ก่อนจะยื่นแขนทั้งสองข้างโอบเอวคนร่างหนา “ก็นอนเบียดกันหน่อยก็ได้ ตัวจินนะอุ่นจะตายไม่รู้เลยหรือไง”
“เฮ้ย!!! คนเยอะแยะ” จินกล่าวแต่ก็ไม่ได้สะบัดตัวให้หลุดจากอ้อมแขนของร่างบางเลย ตรงข้ามกับคำพูดเขากลับรู้สึกดีที่ร่างบางกล้าแสดงออกต่อเขาแบบนี้ด้วยซ้ำไป
คนร่างหนาเดินนำร่างบางขึ้นไปยังบันไดของหอพักนักศึกษาที่ตนเองได้อาศัย เวลาค่ำแบบนี้รวมถึงใกล้จะได้เวลาส่งงานอาจารย์ด้วยแล้วหอของเด็กศิลป์จึงเงียบเป็นพิเศษเพราะแต่ละคนต่างง่วงกับงานอยู่ในห้องของตนเองโดยไม่ได้สนใจกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปเลย
“เฮ้ย!!!! ใครเอาของอะไรมาวางไว้ขวางประตูห้องฉันเนี่ย” จินเอ่ยถามตัวเอง
ร่างบางที่เดินตามมาติด ๆ ยื่นหน้าออกมาจากหลังร่างหนาไปมอง “อ๋อ~~~ ของฉันเองแหละจิน”
จินหันหน้ามามองร่างบางตาแทบหลุดออกจากเบ้า “ของของคุณ อะไรกันทำไมเยอะขนาดนี้หละ”
“ไม่เยอะนะ นี่ยังเอามาไม่ถึงหนึ่งในสี่ของห้องที่บ้านเลย” ร่างบางตอบแล้วเดินไปยังลังข้าวของตนเองแล้วเลื่อนของออกให้พ้นวิถีประตู “เปิดประตูสิ จะได้ช่วยกันขนของเข้าไป”
จินพยักหน้าตอบอย่างงง ๆ ก่อนจะเดินไปไขกุญแจห้องแล้วช่วยร่างบางขนกล่องใบใหญ่สามสี่ใบเข้าไป เขามองสภาพห้องพักของตัวเองซึ่งก่อนหน้าที่จะมีกล่องใบใหญ่เพิ่มเข้ามามันก็มีที่พอให้แค่แมวนอนดิ้นตายเท่านั้น แต่ตอนนี้เจ้ากล่องที่เพิ่มเข้ามายิ่งทำให้ห้องของเขาแคบกว่าเดิมเสียจนไม่มีทางจะเดิน
“โอ๊ย!!!” จินร้องขึ้นเมื่อเขาเดินแตะมุมกล่องใบใหญ่เข้าอย่างจังเพราะต้องการจะข้ามไปนั่งบนเตียง “ในกล่องมีอะไรกันเนี่ยทำไมมันหนักจัง”
ร่างบางรีบก้าวเท้ายาว ๆ เพี่อให้ข้ามพ้นกล่องไปเช่นกัน แต่ช่วงขาที่สั้นกว่าจินทำให้เขาข้ามไปไม่พ้นเซถลาจนหน้าตนเองปะทะแผ่นหลังของจินและทั้งสองคนก็ล้มลงไปบนเตียงด้วยกันทั้งคู่
“โอ๊ย~~~” ร่างบางโอดครวญขึ้นมาบ้าง “จินเป็นยังไงบ้าง” เอ่ยถามคนที่ตนเองล้มทับด้วยความเป็นห่วง
“ถ้าคุณรีบลุกขึ้นผมจะหายใจได้สะดวกกว่านี้นะ” จินตอบตามความเป็นจริงก็ในเมื่อร่างบางล้มทับเขามาทั้งตัวแบบนั้น
“ขอโทษไม่ได้ตั้งใจ” ร่างบางกล่าวก่อนจะรีบชันตัวลุกขึ้นแล้วกระเทิบไปนั่งบนเตียง “ลุกไหวไหมเนี่ยจิน” เอ่ยถามพลางช่วยดันหลังให้คนร่างหนาลุกขึ้นนั่งบนเตียงข้าง ๆ ตนเอง “หนักชะมัด”
“คุณเองก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอกน่า” จินโต้กลับ
“หยาบคาย ฉันออกจะตัวเล็ก เอวก็บาง หน้าตาก็น่ารัก” ร่างบางกอดอกพูดสายตาฉายแววเจ้าเล่ห์ “หรือว่าจินจะเถียงว่าไม่ใช่ เมื่อคืนก็พิสูจน์แล้วไม่ใช่เหรอ”
“เอ่อ......” จินเถียงไม่ออกทุกคำพูดที่ออกมาจากปากร่างบางมันจริงตามที่เขารู้สึก และนั่นก็ทำให้หน้าของเขาแดงขึ้นมาเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนตามที่ร่างบางบอก
“เฮ้ย!!! หน้าแดงทำไม” ร่างบางถามก่อนจะรีบถอยกรูไปจนติดหัวเตียง “คิดอะไรลามกละสิ ตกลงจินโรคจิตด้วยเหรอเนี่ย”
“คนที่พูดให้คิดนั่นคือคุณเองไม่ใช่เหรอคาเมะนาชิคุง” จินหันหน้ามาแยกเขี้ยวถาม
“อย่างนั้นเหรอ ไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย” ร่างบางถามกลับใบหน้ายียวน
จินยิ้มตอบ “เหรอ~~~ ถ้าอย่างนั้นคงต้องให้รู้ผลลัพธ์แล้วมั๊งว่ากวน ๆ แบบนี้จะเจออะไร”
ร่างบางมองสบสายตาก่อนจะตั้งท่าวิ่งหนี คนร่างหนาคงไม่ปล่อยให้เขาได้นอนสบาย ๆ แน่ ๆ เขารู้ได้จากแววตาที่ส่งมา “ว๊าค!!! จินโรคจิต บ้ากามไปแล้ว” ร่างบางร้องลั่นพลางหัวเราะร่วน
คนร่างหนายื่นแขนไปรั้งมือร่างบางเอาไว้ก่อนจะออกแรงดึงให้ร่างนั้นเซลงมาปะทะอกของตนแล้วใช้แขนทั้งสองข้างรวบเอวร่างบางและพลิกตัวให้เจ้าตัววุ่นนั้นนอนอยู่บนเตียงใต้ร่างของตน
“บ้ากาม” ร่างบางเอ่ยเย้า
“ก็คุณยั่วก่อนเอง” จินตอบกลับก่อนจะซุกหน้าลงบนลำคอระหงของร่างบาง
“ช่วยด้วย~~~~ ” ร่างบางร้องออกมาเสียงลั่นจนจินต้องหยุดการกระทำแล้วมามองหน้าร่างบาง “จินจะขืนใจฉันหรือไง”
“ผมขอโทษ~~~” จินเอ่ยอย่างสำนึกใบหน้าของเขาสลดลงทันที
ร่างบางยิ้มบาง ๆ ให้ก่อนจะยื่นมือทั้งสองข้างขึ้นไปโอบรอบคอคนร่างหนา “ให้ฉันสมยอมที่จะเป็นของจินแบบนี้ก่อนสิ”
จินมองร่างบางนิ่งก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา นี่คนตรงหน้าทำเขาป่วนอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย “แกล้งกันหรือไง” เอ่ยถามก่อนจะซุกหน้าลงไปใกล้แล้วใช้ปลายจมูกไซร้ไปทั่วใบหน้า ร่างบางหัวเราะลั่นเพราะรู้สึกจักจี๋ไม่ต่างจากคนร่างหนาที่หัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดีที่ได้หยอกเย้าร่างกายของร่างบาง
!!!!!ปั่ง ปั่ง!!!!! เสียงทุบที่ประตูห้องดังลั่น ทำเอาคนทั้งสองที่หยอกล้อกันบนเตียงชะงักทันที
“เบา ๆ หน่อยโว๊ยไอ้จิน” เสียงของเรียวเฮย์ดังเตือนที่หน้าประตูก่อนจะเงียบหายไป
จินและร่างบางสบสายตากันก่อนจะหัวเราะออกมาเบา ๆ
“จัดของดีกว่า ของเยอะแบบนี้ทั้งคืนจะจัดเสร็จหรือเปล่าก็ไม่รู้” จินเปลี่ยนเรื่องทันที เขาลุกขึ้นนั่งแล้วมองไปยังกล่องที่วางเกลื่อนห้อง “คาเมะนาชิคุงจะอยู่กับผมจริง ๆ เหรอ”
ร่างบางที่ยังนอนอยู่บนเตียงกระเด้งตัวขึ้นทันที “โหย!!!! ขนของมาซะขนาดนี้ยังจะถามอีก”
จินหันหน้ากลับไปมอง “ก็เพื่อความแน่ใจ ว่าเรา....จะอยู่ด้วยกันจริง ๆ ”
ร่างบางกระเทิบตัวมานั่งข้าง ๆ “ถ้าไม่อยากให้อยู่ พรุ่งนี้กลับก็ได้ ของก็ไม่ต้องแกะมันเก็บลำบาก”
“ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย” จินตอบแล้วยื่นมือไปกุมมือร่างบางเอาไว้ “ถ้าอยากกลับบ้านเมื่อไหร่ช่วยบอกผมล่วงหน้าด้วยนะ”
“ทำไม???” ร่างบางเอ่ยถามเสียงแผ่ว
“ผมจะได้มีเวลาทำใจ ถ้าต้องกลับมาอยู่คนเดียวโดยที่ห้องนี้ไม่มีคุณ” จินตอบตามความรู้สึก
ร่างบางหันมามองหน้าด้านข้างของจินที่ยังคงมองไปเบื้องหน้า ยิ้มบาง ๆ อย่างรู้สึกอุ่นใจก่อนจะเอนศีรษะซบลงบนไหล่กว้างนั่น “แหมม~~~ ถ้าเป็นยูอิจิพูดฉันคงตัวลอยไปแล้วล่ะ”
จินได้ฟังคำถึงกับจุกเอาดื้อ ๆ คนร่างบางไม่ได้รู้สึกร่วมกับเขาเลยสักนิดหรือไงกันนะ “ขอโทษทีนะที่ผมไม่ใช่เขา” เอ่ยบอกพลางปล่อยมือออกจากร่างบาง “จะแกะกล่องไหนก่อนล่ะ” เขาเปลี่ยนเรื่องสนทนาก่อนที่อารมณ์ของตัวเองจะขุ่นมัวไปมากกว่านี้
ร่างบางยิ้มแห้ง ๆ ให้ “กล่องนี้ก่อนก็ได้ใกล้ดี”
ทั้งสองคนช่วยกันจัดของซึ่งมันก็ใช้เวลาไม่นานนักเพราะร่างบางขนของมาไม่กี่ชิ้นหากแต่เป็นของชิ้นใหญ่ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ขนาด35นิ้วพร้อมกับลำโพงและเครื่องเล่นดีวีดี เครื่องเสียงชุดเล็ก คอมพิวเตอร์ และเสื้อผ้าของเขาเท่านั้น
************************************
!!!!!กริ๊ง กริ๊ง!!!!! นาฬิกาปลุกภายในห้องดังขึ้นทั้ง ๆ ที่ยังไม่รุ่งสาง คนร่างหนาพยายามเอื้อมมือขึ้นไปปิดด้วยความยากลำบาก เสียงรบกวนสำหรับคนที่ยังไม่อยากตื่นดังอยู่นานจนทำให้ร่างบางนั่นต้องงัวเงียลุกขึ้นมามองหาที่มาของความน่ารำคาญแล้วยื่นมือไปกดปุ่มตัดสัญญาณก่อนมือของคนร่างหนานั่น
“จิน~~~ทำไมไปนอนข้างล่างอย่างนั้นล่ะ” ร่างบางเอ่ยถามทั้ง ๆ ที่ยังไม่ตื่นดี
จินลุกขึ้นนั่งกับพื้นหาวออกมาฟอดใหญ่ก่อนจะตอบออกไป “จำไม่ได้เลยหรือไงว่าตัวเองนอนดิ้นจนเตะให้ผมลงมานอนข้างล่างนี้เป็นคืนที่สามแล้วนะ”
“อ้าวเหรอ ขอโทษ ๆ ” ร่างบางกล่าวพลางค้อมศีรษะให้จนหน้าแนบกับผืนเตียง
“ไม่ต้องทำเนียน ลุกได้แล้ว” จินปลุกเมื่อเห็นว่าร่างบางฟุบหลับต่อ
“เพิ่งจะตีสี่เอง” ร่างบางตอบกลับเสียงงัวเงีย
“ถ้าอย่างนั้นคุณนอนต่อไปแล้วกัน” จินบอกพลางลุกขึ้นพับผ้าห่มของตน
“ไม่เอา~~~ ไปด้วย แต่ว่าจินไปอาบน้ำก่อนนะฉันจะนอนรอ อาบนาน ๆ ก็ได้นะไม่ว่า” ร่างบางบอกแล้วนอนแผ่หลาเช่นเดิม
จินอมยิ้มกับท่าทางของร่างบางเวลานอนซึ่งมือนเทวดาตัวน้อยที่หลับใหลด้วยใบหน้าอันวิสุทธิ์ เขาห่มผ้าให้กับร่างบางก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว เสียงโทรศัพท์มือถือที่วางไว้ด้านนอกส่งเสียงว่ามีสายเรียกเข้าทำเอาคนที่อยู่ในห้องน้ำรีบกระวีกระวาดทำธุระให้เสร็จ ร่างบางซึ่งนอนอยู่งัวเงียตื่นขึ้นมาอีกครั้งมองเห็นโทรศัพท์ของจินที่วางอยู่บนโต๊ะหนังสือเขาก็จะรับสายให้
“ไม่ต้อง!!!” เสียงดุดันของจินทำเอาร่างบางชะงักมือที่เอื้อมไป ร่างหนารีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาทันที
“แฟนหรือไง แค่นี้ต้องดุกันด้วย” ร่างบางเอ่ยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด
“ผมขอโทษแล้วกันนะ” เขาบอกก่อนจะถือโทรศัพท์แล้วหายเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง
ร่างบางมองส่งจนประตูห้องน้ำปิดสนิท “จินมีคนอื่นนอกจากฉันได้ยังไง ไม่ยอม!!!!”
“เฮ้ย!!! ทำไมนานจังกว่าจะรับสาย” ปลายสายที่โทรมาเอ่ยถาม
“พอดีอยู่ในห้องน้ำนะ” จินเอ่ยตอบเสียงแผ่ว “ว่าแต่มีอะไรเหรอยูอิจิ โทรมาแต่เช้าขนาดนี้”
“โทษทีว่ะ พอดีเพิ่งถ่ายPVตัวใหม่เสร็จเลยรีบโทรมาก่อนกลัวว่าพอนอนแล้วจะหลับยาวแล้วลืม” ยูอิจิตอบ
“จะปิดเทอมหรือยังล่ะ” ยูอิจิถาม
“ก็อีกอาทิตย์นึง” จินตอบ
“ขาดรายได้ล่ะสิ” ยูอิจิบอกอย่างรู้ดี “สนใจไหมมีงานดี ๆ ให้ทำ”
“งานอะไร” จินถามกลับทันที
“เป็นดาราไง” ยูอิจิเอ่ยบอกน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ
“ไม่เอาเว้ย!!!” จินตอบกลับเสียงดังทันที “นายก็รู้ว่าฉันไม่ชอบ”
“ล้อเล่นน่าทำเป็นจริงจังไปได้” ยูอิจิกล่าว “เข้าเรื่องละนะ พอดีคนที่รู้จักกับสต๊าฟเขาต้องการภาพไปทำปฏิทินแจกลูกค้าตอนสิ้นปี ฉันคิดว่านายน่าจะทำได้”
“เฮ้ย!!! ขอบใจมากเลยนะ” จินเอ่ยขอบคุณด้วยน้ำเสียงปีติ
“ไม่เป็นไร จดเบอร์ติดต่อไว้แล้วกันนะ” ยูอิจิบอก
“จิน~~~~” ร่างบางส่งเสียงลั่นที่หน้าประตูห้องน้ำ และเสียงนั่นก็เล็ดลอดเข้าไปยังปลายสายจนได้
“อยู่กับใครว่ะ” ยูอิจิเอ่ยถาม
“แฟนคลับนาย” จินตอบ
“จิน~~~~” ร่างบางยังส่งเสียงรบกวนแต่คราวนี้น้ำเสียงที่ส่งมากลับสร้างความสยิวให้กับคนร่างหนารวมถึงปลายสายที่ได้ยินด้วย
“โห!!! เสียงแบบนี้คงไม่ใช่แฟนคลับฉันแล้วล่ะ ฉันว่าฉันคงโทรมาผิดจังหวะแล้วล่ะ” ยูอิจิกล่าว
“มันไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ” จินรีบบอกทันทีเขาพอรู้ว่าเพื่อนกำลังคิดไปไกลขนาดไหน
“จิน~~~ เร็ว ๆ สิ ฉันจะไม่ไหวแล้วนะ~~~” ร่างบางส่งเสียงกระเซ่ามายั่วอีก
“มิซูรุรู้คงดีใจ แค่นี่นะแล้วจะโทรไปใหม่” พูดจบยูอิจิก็วางสายลงทันที
“เฮ้ย!!! เดี๋ยว!!!” จินรั้งไว้แต่ก็ไม่เป็นผล เขาวางสายก่อนจะรีบเดินออกจากห้องน้ำไป
“จิน~~~ จิน~~~” ร่างบางยังคงส่งเสียงยั่วยุอารมณ์ไม่ยอมเลิกลา คนร่างหนาเปิดประตูห้องน้ำออกมามองด้วยสายตาตำหนิ “แหะ ๆ ” ร่างบางหัวเราะเจื่อน ๆ ก่อนจะหมุนตัวแล้วเดินกลับไปยังเตียงด้วยความยากลำบากเพราะข้าวของที่วางระเกะระกะ
“สนุกจังนะ” จินเดินตามมาถาม
“ก็ประมาณนั้น” ร่างบางตอบ “อยากมีความลับก่อนเองทำไมล่ะ”
“ความลับอะไร” จินถามกลับ
“ถ้าไม่มีแล้วทำไมต้องแอบไปคุยในห้องน้ำด้วย” ร่างบางย้อนถาม
“ก็นั่นมัน....” จินเงียบเขาให้คำตอบไม่ได้
“จินคบคนอื่นอยู่เหรอ ขี้โกงชะมัด” ร่างบางตัดพ้อ
“คุณเองก็ชอบนากามารุคุงไม่ใช่เหรอ ถึงขนาดขนข้าวของมาอยู่กับผมด้วยแบบนี้เพราะคิดว่าจะได้เจอเขาง่าย ๆ อย่างนั้นสิ” จินย้อน
ร่างบางอารมณ์ขุ่นทันที “ถ้าไม่พอใจให้อยู่ด้วยก็บอกมาเลย ไม่ต้องมายกเรื่องยูอิจิหรอกน่า ถ้าฉันอยู่ด้วยก็ไปหาแฟนไม่ได้แถมจะพาแฟนมาทำอะไรที่นี้ก็ไม่ได้ด้วยใช่ม๊า หาเรื่องจะให้ฉันโกรธแล้วก็เก็บข้าวของกลับบ้านไปอย่างนั้นสิ เสียใจด้วยฉันจะอยู่เป็นมารอย่างนี้แหละ”
“หยุด ๆ ยังไม่ได้ว่าอะไรสักคำ คุณคิดไปไกลใหญ่แล้วนะ” จินรีบห้ามทันที
“การกระทำของจินทำให้คิดนิ” ร่างบางตอบ
จินถอนหายใจบาง ๆ ก่อนที่เขาจะเงียบปากไม่พูดอะไรอีก ไม่ใช่ว่าไม่อยากคุยด้วยแต่ไม่อยากทำให้ร่างบางคิดว่าเขาอยากต่อล้อต่อเถียงอีกต่างหาก เขาจัดแจงใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วหันไปมองร่างบางที่นั่งหน้าตูมอยู่บนที่นอน “ไปอาบน้ำสิ เดี๋ยวก็ไม่ทันหรอก”
“ชิ” ร่างบางสบถออกมา “ไม่ไปด้วยแล้ว” เอ่ยบอกก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง
จินส่ายหน้าช้า ๆ แล้วเดินไปห่มผ้าให้กับคนขี้เซา “ง่วงแล้วพาลนี่หว่า”
ร่างบางลืมตาโพล่งทันที “ไม่ได้ง่วง แต่งอน!!!” พูดจบก็หลับตาลงแล้วดึงผ้าห่มซึ่งเมื่อสักครู่จินห่มให้ขึ้นมาคลุมตัวเอง
จินถอนหายใจออกมาบาง ๆ “ผมไปแล้วนะ” เขาเอ่ยขอตัว
“ชิ่ว ๆ ” ร่างบางเอ่ยไล่
จินยักไหล่ก่อนเดินออกจากห้องไปโดยไม่ลืมที่จะหยิบกระเป๋าเป้ซึ่งข้างในมีกล้องตัวเก่งของเขาอยู่ เพื่อนำไปถ่ายภาพดวงอาทิตย์พ้นน้ำมาเป็นตัวเลือกหนึ่งในการส่งผลงานกับอาจารย์
*********************************
“มาคนเดียวเหรอ” ไทจิเอ่ยถามเมื่อจินมาหยุดยืนที่หน้าเคาน์เตอร์
“แล้วไทจิซังเห็นผมมากับใครหรือเปล่าละครับ” จินย้อนถามก่อนค้อมศีรษะให้
ไทจิเปิดทางให้คนร่างหนาเดินเข้ามาด้านในเคาเตอร์ “แล้วไปไหนซะล่ะ คาเมะจังของนาย”
“เขาไม่ใช่ของผมสักหน่อย” จินตอบพลางวางกระเป๋าเป้ลงบนโต๊ะซึ่งมีเครื่องโน้ตบุ๊คของไทจิวางอยู่
“แต่ก็มีอะไรกันแล้วไม่ใช่เหรอ” ไทจิถาม
“ก็...อย่างนั้นแหละครับ” จินตอบแล้วทรุดตัวลงนั่งกับพื้นเอาหลังพิงเคาน์เตอร์ “แต่เขาคงไม่ได้รู้สึกอะไรกับผมหรอก”
ไทจิปรายตามามอง “ชอบคาเมะจังแล้วละสิ”
จินหันขวับทันที “ปะ...เปล่าสักหน่อย”
“ไม่ได้ชอบก็ไม่ได้ชอบแล้วถ้าอย่างนั้นจะมานั่งน้อยใจอยู่แบบนี้ทำไม” ไทจิเอ่ยถามอีก
“ไม่ได้น้อยใจผมกลุ้มใจต่างหาก” จินตอบ
“กลุ้มใจเรื่องอะไรล่ะ งานเหรอ????” ไทจิถามเดา
“ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกครับ เรื่องของคาเมะจังคนดีของไทจินั่นแหละ” จินบอก
“ทำไมอีกล่ะ” ไทจิถามอย่างใคร่รู้
“ตอนนี้เขาขนข้าวของมาอยู่ที่หอผมแล้ว” จินบอก
“เหรอ ก็ดีนี่ แบบนี้ก็แสดงว่าคาเมะจังก็ไม่ได้รังเกียจอะไรนาย” ไทจิบอกตามที่ตนคิด
“ไทจิซังมองโลกในแง่ดีเกินไปหรือเปล่าครับ บางทีที่เขาย้ายมาอยู่กับผมเพราะอาจจะคิดว่าจะได้เจอนากามารุคุงของเขาง่าย ๆ มากกว่า” จินกล่าวก่อนชันขาทั้งสองข้างของตนขึ้นแล้วซุกใบหน้าลงหว่างขานั่น
“ฉันว่านายเองต่างหากที่มองโลกในแง่ร้ายเกินไป คาเมะจังไม่น่าจะเป็นคนแบบนั้น” ไทจิค้าน
“ผมก็คิดว่าเขาไม่น่าเป็นคนแบบนั้นแต่เขาก็ชอบพูดถึงนากามารุคุงบ่อย ๆ” จินตอบ
“หึงอย่างนั้นสิ” ไทจิถามเสียงกลั้วหัวเราะ
“ไม่ใช่สักหน่อย” จินเถียงกลับทันที “ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ผมจะไปหึงเขาได้ยังไง”
“ไม่ได้เป็นอะไรกันแต่ก็มีอะไรกันแถมนี่ก็อยู่ด้วยกันอีกเนี่ยนะ ฉันว่าคาเมะจังคงมีใจให้นายบ้างแหละจิน นายเองอยู่กับเขาก็น่าจะรู้ได้เองว่าคาเมะจังเขาคิดยังไงกับนาย” ไทจิบอก
“ไทจิซังเข้าข้างคาเมะนาชิคุงจังเลยนะ” จินเอ่ยตัดพ้อ
“ฉันไม่ได้เข้าข้างคาเมะจัง ฉันเข้าข้างหัวใจนายต่างหากจิน” ไทจิตอบแล้วยื่นมือไปตบไหล่จินเบา ๆ “สร้างกำแพงขึ้นมากั้นหัวใจตัวเองมันเหนื่อยนะ”
จินเงียบไม่ได้พูดะไรต่อ ไทจิจึงหยิบบางอย่างยื่นให้
“อะไรฮะ” จินเงยหน้าถาม
“บริษัทผลิตกระดาษเขาต้องการรูปถ่ายไปทำปฏิทินแจกลูกค้าตอนปีใหม่” ไทจิบอก “รายละเอียดอยู่ในกระดาษนี่แหละฉันจดไว้ให้”
จินยื่นมือไปรับ “ขอบคุณมากครับ ความจริงเมื่อเช้ายู.....” เขาเอ่ยค้างไว้เมื่อนึกขึ้นได้
“ยู????” ไทจิย้อนถาม
“ยู....ยูนิเวอร์ซิตี้นะฮะ” จินพูดปด
“ภาษาฝรั่งมาเชียวนะ” ไทจิเอ่ยเย้า “ที่มหาวิทยาลัยทำไมเหรอ”
“อ๋อ....ที่มหาวิทยาลัยก็มีประกาศไว้เหมือนกันนะฮะ” จินจำใจต้องโกหกเพื่อเอาตัวรอด
“ใกล้จะสิ้นปีแล้วก็อย่างนี้แหละ แล้วปิดเทอมหน้าร้อนไปไหนหรือเปล่า” ไทจิถาม
“ก็อาจจะกลับบ้านหรือบางทีอาจไม่กลับก็ได้ฮะ อยู่ที่นี่หางานพิเศษทำดีกว่า” จินตอบ “ทำไมเหรอฮะ”
“เผื่อบางทีมีงานดี ๆ ให้ทำไง” ไทจิตอบก่อนจะเอ่ยทักลูกค้าที่เพิ่งจะเดินเข้ามาในร้าน “ยินดีต้อนรับครับ”
ร่างบางที่เพิ่งจะเดินเข้ามายิ้มกว้างให้แล้วมาหยุดยืนที่หน้าเคาเตอร์ “สวัสดีฮะไทจิซัง”
เสียงเอ่ยทักของร่างบางทำเอาจินที่นั่งอยู่กับพื้นและอ่านรายละเอียดงานที่ไทจิหามาให้ชะงักทันที
“ว่าไงเรา ไม่มีรูปนากามารุใหม่ ๆ นะ จะซื้อใครแทนดีล่ะ” ไทจิถามอย่างอารมณ์ดี
“ซื้อจินฮะ ไทจิซังมีขายหรือเปล่า” ร่างบางตอบกลับก่อนส่งยิ้มให้
“โห!!!! ตรงดีจังนะเรา” ไทจิเอ่ย “มาหาจินเหรอ”
“ครับ จินแวะมาหาไทจิซังหรือเปล่าครับ” ร่างบางเอ่ยถาม
ไทจิปรายหางตาไปมองจิน คนร่างหนาที่สั่นศีรษะให้เขาช้า ๆ เป็นคำตอบได้ดี “ไม่นี่ ไม่โทรไปละ”
“ผมไม่มีเบอร์จิน” ร่างบางตอบตามความจริง
คนร่างหนาได้ฟังก็นึกขึ้นได้ จริง ๆ ด้วยเขาไม่เคยให้เบอร์กับร่างบางนั่นเลย ก็ตั้งแต่สนิทกัน คนคนนี้มักจะอยู่กับเขาเสมอจนลืมเรื่องเล็กน้อยนั่นไปเสียสนิท
“ไม่ขอจินเขาเล่า” ไทจิแนะ
ร่างบางส่ายหน้า “ไม่หรอกเสียฟอร์มแย่ อีกอย่างจินเขาคงไม่อยากให้ผมหรอกเขาเก็บเบอร์ไว้ให้แฟนโทรหาแค่คนเดียว”
“ฮ่า ๆ ” ไทจิหัวเราะร่วนออกมา
“ไทจิซังขำอะไร” ร่างบางถามกลับทันที
“คาเมะจังชอบจินอย่างนั้นเหรอ” ไทจิถาม
“อืม” ร่างบางตอบ จะรู้ไหมว่าคนร่างหนาที่ซ่อนตัวอยู่หน้าแดงขึ้นมาทันที “สมกับเป็นไทจิซัง จินนะซื่อบื้อคนเขายอมมีอะไรด้วยแถมยังหน้าด้านขนข้าวของมาอยู่ร่วมห้องยังไม่รู้อีก”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ” ไทจิได้ฟังยิ่งขำใหญ่
ร่างบางเหล่ตามอง “ไทจิซังเป็นอะไรมากหรือเปล่าฮะ”
“เปล่าฉันไม่เป็นอะไรมากหรอกแต่ใครบางคนคงกำลังเป็นเอามากอยู่แน่ๆ” ไทจิตอบแล้วกวักมือเรียกร่างบางให้เข้ามาใกล้ ๆ
“อะไรฮะ” ร่างบางเอ่ยถาม
“ชอบจิน แล้วนากามารุคุงละ” ไทจิถาม
“ก็ชอบ” ร่างบางตอบ “แต่ความชอบที่มีให้กับยูอิจิไม่เหมือนกับจินสักหน่อย ไทจิซังอย่าเอามาปนกันซิ”
“อย่างนั้นเหรอ ได้ยินแล้วใช่ไหมจิน” ไทจิเอ่ยถามคนที่นั่งหน้าแดงอยู่บนพื้นด้านในเคาน์เตอร์
ร่างบางได้ยินก็ถอยกรู “โหย~~~ ไทจิซังไม่ต้องมาอำเลย”
“ถ้าคิดว่าอำทำไมต้องทำท่าทางแบบนั้นด้วยล่ะ กลัวว่าจินจะอยู่ที่นี่จริง ๆ แล้วก็ได้ยินความรู้สึกของคาเมะจังใช่ไหมละ” ไทจิถามอย่างรู้ดี
“ใครบอก คาเมะนาชิ คาซึยะ ไม่เคยกลัวใคร” ร่างบางเถียงพลางยกมือขึ้นกอดอก
“เหรอ~~~” ไทจิลากเสียงยาวก่อนจะยื่นมือไปจับคอเสื้อของจินแล้วยกขึ้นมาทั้งเสื้อทั้งคน ใบหน้าแดงก่ำของคนร่างหนาทำเอาร่างบางยืนตาค้าง
“หวะ....หวัดดี” จินยกมือขึ้นเอ่ยทัก
“ว๊าค!!!!!!!!” ร่างบางร้องลั่นแล้ววิ่งออกจากร้านไปทันที
จินเหรอหร่าทำอะไรไม่ถูกทั้งเขิน ทั้งอิ่มเอม และทั้งตกใจ “อ้าว คาเมะนาชิคุง~~~” เอ่ยรั้งไว้ก็เท่านั้นร่างบางวิ่งออกไปไกลแล้ว
“ตามไปสิ” ไทจิบอกแล้วเปิดทางออกเคาน์เตอร์ให้
จินค้อมศีรษะให้ก่อนจะรีบวิ่งตามออกไป ร่างบางนั่นวิ่งนำห่างเขาไปไม่ไกลเร่งฝีเท้าอีกนิดเอื้อมมือไปให้สุดปลายแขนอีกหน่อยก็คว้าเอาไว้ได้แล้วกับความรักที่เกือบจะปล่อยให้หลุดลอยไปเพราะความฟุ้งซ่านของตัวเอง
“เฮ้ย!!! ปล่อย” ร่างบางร้องลั่นสะบัดแขนของตนเองแต่ไม่เป็นผล
“ถ้าปล่อยคุณก็วิ่งหนีผมนะสิคาเมะนาชิคุง” จินตอบแล้วรวบเอวร่างบางเข้ามาใกล้ ให้แผ่นหลังนั่นแนบแผ่นอกตัวเอง
“ไม่ได้หนีแต่มันทำอะไรไม่ถูกต่างหากเสียฟอร์มชะมัดยาดเลย” ร่างบางตอบกลับ
“ผมชอบคุณนะคาเมะนาชิคุง” จินกระซิบบอกที่ข้างหู
ร่างบางพลิกตัวกลับมาแล้วต่อยลงที่ท้องจินเบา ๆ “ถึงขั้นนี้แล้วยังเรียกแบบนี้แถมพูดจาห่างเหินอีกเหรอ”
จินยกมือขึ้นกุมท้องตัวเอง “คาซึยะ~~~”
ร่างบางยิ้มกว้างให้ “ดีมาก”
“ขอโทษนะเรื่องเมื่อเช้า” จินเอ่ยกับร่างบาง
“ช่างเถอะ ฉันมันก็ปากดีเหมือนกันรู้ว่าจินไม่ชอบที่เอาไปเปรียบกับยูอิจิแต่ก็ยังทำ” ร่างบางกล่าว
“ก็มันทำให้ฉันระแวงนี่” จินตอบ
“แต่นั่นก็ดีแล้วล่ะ ทำให้ฉันรู้ว่าจินนะหึงฉันใช่ม๊า~~~” ร่างบางเอ่ยถาม
“อืม หึง ไม่อยากให้นายนึกถึงเขาเท่าไหร่” จินบอกตามความรู้สึก
“จินนี่คิดมากจัง” ร่างบางกล่าว
“คิดมากก็เพราะนายนั่นแหละคาซึยะ” จินตอบแล้วหอมลงบนเส้นผมร่างบาง
“คนเยอะแยะไม่อายหรือไง” ร่างบางถามกลับ
“สงสัยจะติดเชื้อนายมาแล้วล่ะ” จินตอบเสียงกลั้วหัวเราะ
“ทำแบบนี้ชักเกิดอารมณ์แล้วสิ” ร่างบางบอกแล้วมองตาคนร่างหนาที่มองตนอย่างอึ้ง ๆ “วันนี้เรามีอะไรกันเถอะ”
“ห๋า!!!!” จินร้องลั่น
ร่างบางทำหน้าตูม “ทำไมละ ตั้งแต่มาอยู่ด้วยยังไม่มีอะไรกันเลยนะหรือว่าได้แล้วเบื่อกันง่าย ๆ ”
“เปล่า ๆ ไม่ใช่อย่างนั้น” จินรีบปฏิเสธ
ร่างบางคลี่ยิ้มให้ทันทีก่อนจะวาดวงแขนโอบรอบเอวคนร่างหนาแล้วซุกหน้าลงบนแผ่นอกกว้าง “จินน่ารักที่สุดเลย”
จินยิ้มบางให้ “ถ้าอย่างนั้นกลับห้องกันนะ”
ร่างบางเงยหน้าขึ้นมองตาแล้วเอาคางวางไว้บนอกแกร่งนั่นก่อนจะส่ายหน้าไป-มาให้คนร่างหนาเสียวซ่านเล่น “ไม่เอา”
“อ้าว....ยังไงของนายเนี่ยมาทำให้เกิดอารมณ์แล้วจะชิ่งหรือไง” จินถามกลับ
“เปล่า...แค่ไม่อยากทำที่ห้องนะ” ร่างบางบอก
“แล้วจะที่ไหนละ” จินเอ่ยถามหน้าก็แดงขึ้นมาเฉย ๆ “อย่าบอกนะว่าตรงนี้”
ร่างบางตีเบา ๆ “จะบ้าเหรอโรคจิตเกินไปแล้ว....ที่นั่นต่างหาก” บอกพลางชี้นิ้วไปยังโรงแรมม่านรูดซึ่งอยู่ไม่ไกล
“เฮ้ย!!! ไม่เอา” จินปฏิเสธทันที
“ทำไมละ น่าตื่นเต้นดีออกในดีวีดีเขาก็ทำกันที่นั่นมันได้บรรยากาศ” ร่างบางบอก
“ไม่เอาฉันอาย ทับรอยใครมั่งก็ไม่รู้” จินตอบกลับ “ที่ห้องเถอะ”
“ไม่เอา~~~ จะเอาที่นั่นหนะ” ร่างบางเริ่มโยเย
“ไม่เอาน่ากลัวซ่อนกล้องแอบถ่ายไว้หรือเปล่าก็ไม่รู้” จินปฏิเสธหนักแน่น
“ทำที่ห้องจินยังไงเสียงก็ดัง ห้องข้าง ๆ ก็ได้ยินอยู่ดีนั่นแหละ” ร่างบางเถียงกลับ
“ยังไงก็ดีกว่า คนคุ้นเคยกันเขาไม่พูดออกไปหรอก” จินให้เหตุผล
ร่างบางหน้างอเมื่อถูกขัดใจผละตัวเองออกฉับพลัน “หมดอารมณ์แล้ว” บอกเสร็จก็เดินห่างออกไปทันที
จินมองตามอย่างงงๆ อารมณ์ของร่างบางแปรปรวนจนคาดการณ์ไม่ได้เลย “เดี๋ยวสิคาซึยะ ก็ได้มีอะไรที่ม่านรูดก็ได้แต่ครั้งเดียวนะ” เขาตะโกนบอกไล่หลัง
ร่างบางที่เดินนำชะงักเท้าไม่ต่างจากผู้คนที่เดินสวนไป-มาซึ่งมองมายังคนร่างหนาด้วยสายตาหวาดระแวง คนร่างหนาเพิ่งรู้สึกว่าไม่ได้อยู่ในโลกสีชมพูที่มีแต่ตัวเองกับร่างบางนั่น เขาหันไปยิ้มแห้ง ๆ ให้กับทุกคนที่ตอนนี้คงมองว่าเขาเป็นพวกตัณหากลับแน่ ๆ
“บ้ากาม โรคจิต” ร่างบางหันหน้ามาเอ่ยว่าก่อนจะยักคิ้วให้อย่างยียวน
คนร่างหนามองใบหน้าทะเล้นนั้นก่อนจะยกมือขึ้นมาดัดนิ้วทั้งสองข้างแล้ววิ่งไล่ร่างบางที่วิ่งหนีนำไปพร้อมกับเสียงหัวเราะของคนทั้งคู่
********************************************
อ่านจบแล้วอย่าลืมเม้นท์บอกกันด้วยนะว่าเป็นอย่างไรบ้าง ขอบคุณคะ^^
ความคิดเห็น