ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    paparazzi

    ลำดับตอนที่ #10 : part 10

    • อัปเดตล่าสุด 23 มี.ค. 49


    paparazzi part 10.
    อาคานิชิ จิน เดินอมยิ้มออกมาจากบริษัทด้านอินทีเรียชั้นนำซึ่งเขาได้ถ่ายภาพดิสเพล์ของที่นี่ไปลงหนังสือชื่อดัง ชื่อของเขาปรากฏอยู่มุมขวาด้านบนของหน้าหนังสือถึงจะไม่ได้ลงปกก็แต่ก้าวหน้าไปอีกหนึ่งขั้นอย่างรวดเร็วสำหรับงานที่เขาชอบ เขาเดินเข้าไปในร้านหนังสือร้านใหญ่ก่อนจะกลับเข้าหอพักในมหาวิทยาลัย หนังสือเล่มสวยบนชั้นหนังสือนั้นมีภาพจากการถ่ายด้วยฝือของเขาอยู่ข้างใน ค่าตอบแทนที่ได้มามากมายยังไม่เท่าเศษเสี้ยวความภูมิใจในตัวเองเลย
    ซื้อส่งไปให้แฟนที่ญี่ปุ่นเหรอเสียงหนึ่งถามขึ้นมาจากด้านข้าง
    จินหันไปมองก็ส่งยิ้มให้เพื่อนร่วมหอพัก อืม...เขาชอบเก็บผลงานของฉันนะ
    ดีจัง แฟนฉันกลับบอกว่ารกบ้านเควิลบอกแล้วหยิบหนังสือเกี่ยวกับการตกแต่งบ้านมาดูนายจะไปถ่ายภาพเข้าร่วมนิทรรศการหรือเปล่า
    ถ่ายสิ ถ้าได้เข้าร่วมด้วยคงดีมากเลยจินกล่าว นายล่ะ
    เควิลส่ายหน้า ไม่หละ รู้ตัวว่าฝีมือไม่ถึงส่งไปก็ขายขี้หน้าเขาเปล่า ๆ แถมยังถูกพวกวิจารณ์ประจาญอีก
    ดีจะตายถูกวิจารณ์น่ะ เราจะได้รู้ว่าฝีมือตัวเองเป็นอย่างไรจินบอกเพื่อนนายเองก็ทำได้
    ขอบใจแต่ขอบายดีกว่าเควิลบอกแล้ววางหนังสือลงที่เดิมก่อนเดินจากออกไป
    จินไม่ได้สนใจมากนักเขาหยิบหนังสือเล่มที่เปิดดูไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์แล้วเดินออกจากร้านไป สายลมของฤดูหนาวก่อนหิมะตกปะทะผิวกาย จินกระชับเสื้อโค้ทตัวหนาแน่นแล้วรีบเดินกลับไปยังห้องพักของตนเอง เขาเปิดประตูห้องนอนส่วนตัวแล้วเดินเข้าไปอย่างอารมณ์ดี กลับมาแล้วจ้า~~~” เอ่ยบอกกับคนในโปสเตอร์ขนาดใหญ่ที่ส่งยิ้มหวานมาให้ตลอดเวลา วางหนังสือในมือลงบนโต๊ะก่อนเดินไปใกล้โปสเตอร์แล้วจุมพิตลงบนริมฝีปากบางของคนในรูปแหะ ๆ เขาหัวเราะแห้ง ๆ ถ้าใครมาเห็นต้องหาว่าฉันบ้าแน่ ๆ
    ก็ว่าอย่างนั้นเควิลยืนบอกที่หน้าประตูห้อง
    จินหันกลับไปมองด้วยความตกใจฟังรู้เรื่องด้วย
    ก็นายสอนฉันเองนี่หว่า ประโยคง่าย ๆ แบบนั้นไม่กี่วันก็จำได้เควิลบอกถ้าไม่อยากให้ใครหาว่าบ้าก็หัดปิดประตูห้องมั่งสิเขาบอกเป็นภาษาญี่ปุ่นแล้วปิดประตูห้องให้เพื่อน
    จินหน้าแดงขึ้นมานี่เขาไม่ได้เจอคนรักนานแถมตั้งแต่ร่างบางไปเป็นดาราได้อาทิตย์กว่า การติดต่อของทั้งสองก็ทิ้งช่วงขึ้นด้วยหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ภายในห้องนอนของเขาตอนนี้จึงมีรูปและข้าวของที่เป็นตัวแทนของคนรักอยู่เต็มไปหมดซึ่งก็ต้องยกความดีให้ยูอิจิที่แอบหยิบของแจกสำหรับร้านค้ามาให้ทัตซึยะได้ส่งมาให้เขาที่นี่ คนที่ตัวอยู่ห่างไกลคนรักเสียเหลือเกิน ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้างนะ รู้หรือเปล่าว่าเขาก็คิดถึงร่างบางนั้นไม่ต่างกันเลย...
    *******************************
    โทโมฮิสะ มาหยุดยืนดูร่างบางถ่ายแบบภายในสตูดิโอของบริษัท เขาคลี่ยิ้มออกมาเมื่อเห็นรอยยิ้มกว้างของร่างบางที่ส่งให้กับกล้องตัวข้างหน้าเขา
    โอเค ขอบคุณมากคาเมะนาชิคุงช่างภาพเอ่ยบอก
    ร่างบางค้อมศีรษะให้กับทุก ๆ คนแล้วเดินมาหาคนหน้าหวานที่ยิ้มบางให้ตัวเอง ยังไม่ไปอีกเหรอ
    กำลังจะไป แวะมาลานายก่อนโทโมฮิสะบอก
    โชคดีแล้วกันร่างบางอวยพร
    จะฝากซื้ออะไรที่อังกฤษไหมโทโมฮิสะเอ่ยถาม
    ร่างบางส่ายหน้าไม่หละขอบคุณ ต่อให้อยากได้จริง ๆ นายก็เอากลับมาให้ฉันไม่ได้หรอก

    อะไรล่ะโทโมฮิสะถามทั้ง ๆที่เขาก็รู้คำตอบดี จินคุงแฟนนายล่ะสิ
    อืมร่างบางตอบแล้วเดินออกจากสตูดิโอโดยมีโทโมฮิสะเดินตาม ไม่ไปสักทีล่ะ เดี๋ยวนายก็ตกเครื่องหรอก
    โทโมฮิสะยิ้มให้ ไม่หรอก ยังมีเวลาอีกพักหนึ่งฉันรอพวกสต๊าฟที่เหลือด้วย บอกเขาแล้วว่าถ้าจะไปให้โทรมาตาม
    ถ้าอย่างนั้นก็ออกจากห้องแต่งตัวฉันสักทีสิ จะเปลี่ยนเสื้อผ้าร่างบางกล่าว
    ก็เปลี่ยนสิ ผู้ชายเหมือนกันไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยโทโมฮิสะตอบ
    ร่างบางถอนหายใจออกมาเบา ๆ ฉันไม่ชอบเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าคนอื่นเขาบอกแล้วดันหลังคนหน้าหวานให้เดินออกไปจากห้อง รีบ ๆ ไปได้แล้วให้คนอื่นเขารอนายมันไม่ดี
    ฉันกลับมาจากอังกฤษตอนเช้าของวันคริสต์มาสอีฟพอดี วันนั้นไปเที่ยวกันนะโทโมฮิสะหันหน้ามาเอ่ยชวน
    ไม่ว่าง ถ่ายแบบร่างบางปฏิเสธ
    วันนั้นนายมีงานถึงตอนบ่ายเท่านั้นนี่ เราไปด้วยกันตอนกลางคืนก็ได้โทโมฮิสะยื่นข้อเสนอ
    ไม่เอาฉันจะนอนร่างบางตอบ
    อยู่คนเดียวในคืนคริสต์มาสอีฟมันเหงาจะตาย ฉันเองก็ไม่มีเพื่อนสนิทคนอื่นนอกจากนาย เราไปเที่ยวด้วยกันไม่ได้เหรอโทโมฮิสะเอ่ยถามเสียงเศร้า
    ร่างบางหยุดออกแรงดันแผ่นหลังคนหน้าหวาน เขาพูดเสียงอ่อนลงทันที ก็ได้แต่ถึง6โมงเย็นเท่านั้นนะ
    โทโมฮิสะหันกลับมาส่งยิ้มกว้างให้ ได้6โมงเย็นก็6โมงเย็น แล้ววันนั้นเราเจอกันนะ
    เออร่างบางตอบ โชคดีเขาอวยพรอีกครั้งก่อนปิดประตูห้องแต่งตัวลง
    โทโมฮิสะยิ้มกว้างให้กับร่างบางหลังบานประตูก่อนจะเดินผิวปากออกไปอย่างอารมณ์ดี
    *************************
    คนร่างหนาเดินออกมาจากที่ทำการไปรษณีย์ หนังสือที่เขาถ่ายภาพลงคงจะไปถึงมือของร่างบางในช่วงวันปีใหม่พอดี ของขวัญที่ส่งให้จากใจแทนตัวที่ไม่สามารถเดินทางไปหาได้มันคงจะพอช่วยทุเลาความห่วงหาของพวกเขาได้บ้างสักนิดก็ยังดี
    ยามาชิตะคุงเร็ว ๆ เข้าภาษาญี่ปุ่นที่ไม่ได้ยินเสียนานดังขึ้นผ่านหน้าเขาไป
    ครับเจ้าของชื่อขานตอบแล้วรีบเดินตาม
    จินมองไปยังกลุ่มคนญี่ปุ่นซึ่งเขาดูก็พอรู้ว่ามาถ่ายแบบแถวนี้ คนที่เป็นนายแบบซึ่งกำลังโพสท่าอยู่ตรงหน้าร้านดอกไม้ใกล้ ๆ สร้างความคุ้นตาให้กับเขามาก คนร่างหนาสาวเท้าเดินตามไปหยุดดูอย่างสนใจทีเดียว

    ขอทางด้วยคะสต๊าฟผู้หญิงเอ่ยกับเขาเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงแปล่ง ๆ เมื่อต้องการได้มุมภาพตรงที่เขายืนอยู่
    ครับ ขอโทษนะฮะที่ขวางการทำงานจินตอบกลับเป็นภาษาญี่ปุ่นแล้วค้อมศีรษะให้
    สต๊าฟสาวยิ้มกว้างออกมาแล้วล้วงมือไปในกระเป๋าหยิบนามบัตรยื่นให้ทันทีคนญี่ปุ่นเหรอคะ สนใจเป็นดาราในสังกัดของเราหรือเปล่า
    จินส่ายหน้าช้า ๆไม่ครับ
    ว้า~~~” สต๊าฟสาวเอ่ยอย่างเสียดายแต่หล่อนก็คว้ามือจินขึ้นมาแล้วยัดนามบัตรใส่ให้เก็บไว้นะคะเผื่อกลับญี่ปุ่นแล้วจะสนใจ
    จินค่อย ๆ ดึงมือกลับแล้วมองดูนามบัตรบริษัทของยูอิจิ
    ใช่คะ รู้จักด้วยเหรอคะเธอถามขึ้น
    ครับเขาดังนี่ฮะ อีกอย่างผมเพิ่งมาอยู่ที่นี่ไม่กี่เดือนเองจินตอบก่อนกระเทิบตัวให้พ้นทางของตากล้องที่ต้องการถ่ายภาพคนหน้าหวานบริเวณที่เขายืน
    คนนั้นเป็นดาราหน้าใหม่ของสังกัดเราคะ ชื่อยามาชิตะ โทโมฮิสะคุงเธอบอก
    ยามะพีนะเหรอครับจินถามกลับ
    สต๊าฟสาวมองจินตาเบิกโต รู้จักเหรอคะ
    ครับ...ความจริงแล้วผมก็เป็นแฟนคลับของดาราในสังกัดคุณนะจินบอก
    จริงเหรอคะ ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้โชคดีกันเนี่ยเธอถามอย่างใคร่รู้
    จินล้วงมือไปในกระเป๋าเป้แล้วหยิบกระเป๋าใส่ปากกาขึ้นมา สายห้อยโทรศัพท์รูปคาเมะนาชิ คาซึยะ แขวนอยู่ ถึงจะถูกใช้ผิดประเภทแต่มันก็ดูดี
    คาเมะจังนี่เอง เชื่อแล้วคะว่าเป็นแฟนคลับตัวยงจริงๆ สินค้าของคาเมะจังเพิ่งวางตลาดไปเองแต่คุณก็มีแล้ว ไวจังเธอกล่าว
    จินยิ้มแห้ง ๆ ให้ จะไม่ให้เขาได้ของเร็วได้อย่างไร ในเมื่อเขามีเส้นระดับบิ๊กอยู่ในบริษัทนั่นคือนากามารุ ยูอิจิ แต่คงบอกให้ใครรู้ไม่ได้หรอก
    ถ้าคาเมะจังรู้ว่ามีแฟนคลับอยู่ที่นี่ด้วยคงดีใจนะคะสต๊าฟสาวกล่าว
    ฝากบอกเขาด้วยนะครับถ้าเจอ ว่าคนที่นี่คิดถึงแล้วก็เป็นห่วงเขาตลอดเวลาจินฝากข้อความ
    สต๊าฟสาวยิ้มให้ก่อนจะหันหน้ากลับไปมองยังกองถ่ายซึ่งเก็บภาพได้ตามที่ต้องการเรียบร้อยแล้วเราอยู่ที่นี่กันอีกคืนนะคะ พรุ่งนี้ก็จะกลับกันแล้ว
    อย่างนั้นเหรอครับ ผมมาเรียนที่นี่อยากกลับบ้านแทบตายแต่ก็ทำไม่ได้จินบอก
    ถ้าอย่างนั้นวันนี้ก็อยู่เที่ยวด้วยกันสิครับหากไม่ติดธุระอะไร นาน ๆ เจอคนประเทศเดียวกันได้คุยภาษาเดียวกันจะได้หายเหงาโทโมฮิสะเอ่ยชวนพลางส่งยิ้มมาให้ เขาถ่ายแบบเสร็จแล้วจึงเดินมาหาคนที่ยืนสนทนากับคนในทีมงานของเขาอย่างออกรส

    จินหันไปมองก่อนค้อมศีรษะให้เล็กน้อยเป็นการทักทาย ขอบคุณครับ แต่ไม่เป็นการเสียงานเหรอครับ
    ไม่หรอกโทโมฮิสะตอบ งานเสร็จแล้วครับ ตอนนี้พวกเราฟรี
    จินยิ้มตอบ อย่างนั้นก็ขอบคุณมากครับที่ชวน ไม่ได้พูดภาษาญี่ปุ่นตั้งนาน
    ผมยามาชิตะ โทโมฮิสะครับโทโมฮิสะแนะนำตัวอย่างเป็นมิตรพลางยื่นมือไปตรงหน้า
    จินยื่นมือไปจับตอบผมจิน...อาคานิชิ จิน
    โทโมฮิสะทราบชื่อคนตรงหน้าก็นิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาจินคุงอย่างนั้นเหรอครับ
    เรียกแบบนั้นก็ได้จินเอ่ยอนุญาตแล้วดึงมือกลับ แต่คนหน้าหวานกลับยื้อฝ่ามือของเขาไว้ ผมอยากให้คุณพาเที่ยวจังเลยวันนี้
    ห๋า~~~” จินเอ่ยเสียงหลง
    โทโมฮิสะหันไปมองสต๊าฟสาวผมขอไปเที่ยวกับจินคุงนะครับ รับรองกลับไม่ดึกแน่
    สต๊าฟสาวมองคนทั้งสองก่อนพยักหน้าให้ แล้วเดินกลับไปรวมกลุ่มกับทีมงานของตนเอง
    โทโมฮิสะหันกลับมาส่งยิ้มให้จิน จินคุงคงไม่ว่าอะไรใช่ไหมครับ
    จินยิ้มเจื่อน ๆ ให้ ครับ
    ดีใจจังโทโมฮิสะบอกก่อนจูงมือจินเดินห่างออกมาจากพวกสต๊าฟ อย่างเพิ่งคิดว่าผมแปลก ๆ นะจินคุง ผมรู้นะว่าจินคุงคือแฟนคาเมะจังใช่ไหมเขาคาดเดาแล้วส่งยิ้มให้
    จินมองคนหน้าหวานตาโต ยามาชิตะคุงรู้ด้วยเหรอ
    โทโมฮิสะปล่อยมือออกจากจินรู้สิ ผมกับคาเมะจังสนิทกันมากเลยนะ คาเมะจังเล่าเรื่องของจินคุงให้ผมฟังหมดเลยคนหน้าหวานโกหก
    อย่างนั้นเหรอครับจินตอบสีหน้าเรียบเฉยเขาเป็นอย่างไรบ้างครับ เราไม่ได้ติดต่อกันนาน
    คาเมะจังนะเหรอ ก็ดังมาก ๆ นะสิโทโมฮิสะบอก จินคุงมัวแต่อยู่ที่นี่ ระวังนะจะมีคนแย่งคาเมะจังไปคนหน้าหวานเอ่ยเตือนน้ำเสียงสดใส
    จินเงียบไม่ได้ตอบอะไร คนหน้าหวานจึงยื่นมือไปเขย่าที่แขนนั่นเบา ๆ อย่าคิดมากนะจินคุง ฉันล้อเล่นเท่านั้นเอง
    เปล่าครับ ผมไม่ได้คิดอะไรจินตอบกลับ
    หิวข้าวจังเลย จินคุงพาไปแนะนำร้านอร่อยๆ หน่อยสิ นะ ๆ โทโมฮิสะเอ่ยขอร้องเสียงหวาน
    ได้สิจินรับคำแล้วเดินพาไป วันนี้เขาจะเป็นไกด์ชั้นเยี่ยมให้คนหน้าหวานนี้ทั้งวัน
    คนหน้าหวานเกาะแขนจินแน่นตลอดทั้งวันที่ไปเที่ยวด้วยกัน ก่อนที่เขาจะผละออกอย่างเสียดายเมื่อคนร่างหนามาส่งเขาที่หน้าโรงแรม
    ขอบคุณนะจินคุง ฉันจะไม่ลืมวันนี้เลยโทโมฮิสะกล่าวแล้วค้อมศีรษะให้
    ไม่เป็นไรจินกล่าว
    พรุ่งนี้ฉันต้องเดินทางกลับตั้งแต่เช้า ไม่รู้จะได้เจอจินคุงอีกเมื่อไหร่โทโมฮิสะบอกเสียงแผ่วก้มหน้าลงมองพื้น
    นั่นสินะจินตอบ เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ
    โทโมฮิสะเงยหน้าขึ้นมายิ้มกว้างให้ ขอบคุณนะ
    ผมขอตัวนะจินเอ่ย

    เดี๋ยวสิจินคุงโทโมฮิสะเอ่ยรั้ง เขายื่นหน้าไปใกล้ ๆ คนร่างหนาแล้วกระซิบบอกเบา ๆ ที่ข้างหู ไม่ต้องห่วงคาเมะจังนะ ฉันจะดูแลให้เอ่ยเสียงหวานก่อนจะหอมลงบนแก้มคนร่างหนาแล้วรีบวิ่งเข้าโรงแรมไป
    จินยกมือขึ้นเช็ดแก้มตนเองพลางยืนมองส่งคนหน้าหวานอยู่ชั่วครู่ เขาไม่ได้เคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสนั้นสักนิดเดียว หันหลังกลับแล้วรีบเดินจากไปทันที โทโมฮิสะยืนมองออกมาจากล๊อบบี้ของโรงแรม ไม่ต้องกลับไปญี่ปุ่นเลยก็ดีนะ คาเมะจังน่ะฉันจะดูแลแทนนายเองเอ่ยบอกเสียงเข้มต่างจากเมื่อครู่ลิบลับแล้วยกมือขึ้นเช็ดปลายจมูกของตนเองอย่างแรงก่อนเดินขึ้นลิฟท์กลับไปยังห้องพักของตน
    ***************************
    ร่างบางนั่งอยู่ในร้านคอฟฟี่ชอปห่างจากตึกของบริษัทพอควร เขาจิบน้ำชาช้า ๆ รอคนที่โทรมานัดตั้งแต่เช้าเมื่อมาเหยียบแผ่นดินแม่อย่างไม่รีบร้อน เวลาบ่าย ๆ แบบนี้กับบรรยากาศของวันคริสต์มาสอีฟที่เต็มไปด้วยคู่รักควงคู่กันอย่างมีความสุขทำเอาเขาแอบน้อยใจนิด ๆ ไม่ได้ คนรักของเขาที่อยู่ห่างไกลป่านนี้คงมัวแต่ถ่ายภาพอยู่ที่มุมไหนของโลกสักแห่งแน่ ๆ ไม่รู้วันเวลาเลยหรือไงนะว่าวันนี้วันอะไร เขาโทรไปหาตั้งแต่เช้าก็กลับไม่มีใครรับสายเลย หวังแค่จะได้พูดคุยกันสักนาทีหลังจากไม่ได้คุยกันมาเป็นอาทิตย์แต่ก็เปล่าเลย วันคริสต์มาสอีฟอันแสนสุขของใครต่อใครแต่สำหรับเขามันช่างว่างเปล่าจริง ๆ
    มานั่งทำอะไรแถวนี้คาเมะจังเสียงหนึ่งเอ่ยถาม
    ร่างบางหันหน้าไปมองยูอิจิ
    นั่งด้วยคนนะยูอิจิเอ่ยขอ
    ตามสบายถ้าไม่กลัวเป็นข่าวกับฉันอีกร่างบางเอ่ย เขารู้ดีว่าด้านนอกมีปาปารัซซี่ตามถ่ายภาพของเขาทั้งสองคน
    ช่างเถอะชินแล้ว อีกอย่างนายมีข่าวกับฉันยังดีกว่าไปมีกับคนอื่น อย่างน้อยไอ้จินมันก็หมดห่วงยูอิจิกล่าวแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
    จินติดต่อมาหายูอิจิบ้างหรือเปล่า ช่วงนี้งานฉันยุ่งเลยไม่ได้คุยกับจินเท่าไหร่ร่างบางบอก
    ยูอิจิรีบส่ายหน้าพัลวัน ไม่ ไม่เลย ฉันก็งานยุ่งเหมือนกัน
    ขนาดยุ่งยังมานั่งที่นี่ได้เนี่ยนะร่างบางถามกลับ
    ยูอิจิยิ้มแห้ง ๆ ให้ก็เหมือนคาเมะจังนั่นแหละ ว่าแต่ไม่ไปไหนเหรอมานั่งอยู่คนเดียวแบบนี้
    เดี๋ยวก็ไปแล้ว มารอยามะพีนะ วันนี้จะไปเที่ยวกันร่างบางบอก
    ไปเที่ยว!!!ยูอิจิเอ่ยเสียงลั่น
    จะตกใจอะไรนักหนาร่างบางเอ่ยถามไปเที่ยวแถวนี้แหละ อย่างมากก็เดินซื้อของเดี๋ยวก็กลับแล้ว ไม่อยากเดินนานมันสแลงใจ
    อ่อ ก็ดีแล้วไปกับยามาชิตะคุงยูอิจิกล่าวเขารู้ว่าร่างบางคนนี้คงคิดถึงเพื่อนเขาอยู่แน่ ๆ
    แต่ฉันว่าไม่ดี ยามะพีแปลก ๆ ร่างบางบอก แต่ก็ช่างเถอะยังไงเขาก็เพื่อน
    ยูอิจิขุ่นคิ้วมองถาม แปลกยังไง ไม่เข้าใจ
    คาเมะจัง~~~” เสียงของคนที่ทั้งคู่เอ่ยถึงดังขึ้นมาทันที สวัสดีครับนากามารุคุงโทโมฮิสะเอ่ยทัก
    สวัสดี จะไปเที่ยวกันเหรอยูอิจิเอ่ยถามทั้ง ๆ ที่รู้
    ครับโทโมฮิสะตอบ ขอตัวนะฮะเอ่ยบอกแล้วลากแขนร่างบางให้ลุกขึ้นเดินตามตนออกไปทันที
    เฮ้ย!!! แล้วค่าน้ำชานี่ล่ะยูอิจิเอ่ยถามและก็ได้คำตอบที่ว่าเขาควรจะเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายนี้เอง
    ************************

    จะกลับหรือยังร่างบางเอ่ยถามเมื่อมองดูนาฬิกาข้อมือของตนเอง
    ยังไม่หกโมงเลยโทโมฮิสะบอกแล้วพาร่างบางมานั่งที่เก้าอี้ในสวนสาธารณะ เวลาห้าโมงกว่า ๆ ของฤดูหนาวมันช่างเย็นจับจิตเสียจริง เหนื่อยเหรอเขาเอ่ยถามพลางยกมือขึ้นทาบหน้าร่างบาง
    ร่างบางสะบัดหน้าหลบทัน อืม เหนื่อยน่ะ ทำงานติดๆ กันมาหลายวัน
    แต่ก็ได้หยุดจนถึงปีใหม่นี่หน่าโทโมฮิสะเอ่ย
    ร่างบางหรี่ตามอง รู้ได้ยังไง
    โทโมฮิสะยิ้มเจื่อน ๆ ให้ก็...เราทำงานด้วยกันบ่อย ๆ ฉันเลยรู้ตารางงานของคาเมะจัง
    เหรอ แต่ฉันกลับไม่รู้ของนายแล้วก็ไม่คิดที่อยากจะรู้ด้วยร่างบางกอดอกตอบ
    ขอโทษ...โทโมฮิสะเอ่ย ความจริงฉันแอบก๊อบปี้ตารางงานของคาเมะจังเก็บไว้
    ร่างบางได้ฟังก็ถอนหายใจบาง ๆ ออกมาก่อนลุกขึ้นยืน ฉันกลับแล้วนะ
    เดี๋ยวสิโทโมฮิสะเอ่ยรั้ง ตอนฉันไปอังกฤษบังเอิญได้เจอจินคุงแฟนนายด้วย
    คำบอกของคนหน้าหวานเรียกให้ร่างบางลงนั่งที่เดิมได้ทันที เขายิ้มกว้างออกมาเมื่อได้ยินเพื่อนหน้าหวานบอกว่าเจอคนรักของตน จริงเหรอ จินเป็นยังไงบ้าง เขาถามถึงฉันไหมแล้วฝากอะไรมาหรือเปล่า
    โทโมฮิสะแสดงสีหน้าเรียบเฉยทันที คนแบบนั้นคาเมะจังยังจะรักอยู่อีกเหรอ
    ทำไมร่างบางเอียงคอถามอย่างสงสัย
    ฉันเจอเขากับผู้หญิงคนอื่นโทโมฮิสะพูดปด
    นายโกหก นายไม่เคยเห็นจินแล้วรู้ได้ยังไงว่าเป็นคนไหนร่างบางต่อว่าแล้วลุกขึ้นยืนเขาไม่อยากฟังคำใด ๆ ที่เกี่ยวกับคนรักจากปากคนนี้อีก
    ฉันรู้จักเขาโดยบังเอิญจริง ๆ โทโมฮิสะยืนยันพลางยื่นมือไปรั้งร่างบางเอาไว้ถ้าเขาไม่มีคนใหม่แล้วจะขาดการติดต่อกับนายเหรอ คนเราถ้าใจไม่เปลี่ยนพฤติกรรมก็ไม่เปลี่ยนตามไปหรอก
    ร่างบางยื่นนิ่งเขาเชื่อใจในคนรักแต่ความห่างเหินก็ทำให้เขาไหวหวั่นขึ้นมาบ้าง โทโมฮิสะเหยียดยิ้มเขาปล่อยมือร่างบางก่อนจะเปลี่ยนเป็นโอบรอบเอวจากด้านหลังแล้ววางใบหน้าหวานของตนลงบนไหล่เล็กเป็นฉันไม่ได้เหรอคาเมะจัง ฉันดูแลนายได้และก็ไม่คิดที่จะทิ้งนายเอาไว้เพียงลำพังด้วย เลิกกับคนเห็นแก่ตัวแบบนั้นเถอะ นะ~~~~”
    ร่างบางได้ฟังก็ฉุนกึก กำมือแน่นก่อนสะบัดตัวออกแล้วหันกลับไปหวดหมัดใส่ใบหน้าหวานทันทีอย่ามาพูดจาแบบนี้นะ อย่าดูถูกจินแล้วก็อย่ามาดูถูกความรักของฉันด้วย นายเป็นคนอื่นที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเพราะฉะนั้นอย่ามาพูดแบบนี้เอ่ยต่อว่าเสียงเข้มเสร็จก็พาร่างของตัวเองเดินออกไปจากบริเวณนี้ทันที
    โทโมฮิสะยกมือขึ้นจับใบหน้าของตนที่ถูกซัดด้วยหมัดของร่างบาง เขาใช้ลิ้นดุนในปากเมื่อได้กลิ่นคาวเลือด หมัดหนักเป็นบ้าเปรยกับตัวเองแล้วนั่งลงทอดอารมณ์อยู่ที่เดิม
    ********************

    ร่างบางเดินน้ำตาคลอไปเรื่อยเปื่อยตามทาง เขาไม่อยากกลับบ้านเพราะเมื่อกลับไปก็ไม่เจอใคร แม่เดินทางไปหาพ่อของเขาที่อเมริกาตั้งแต่อาทิตย์ก่อน บรรยากาศของวันคริสต์มาสอีฟที่ใคร ๆ ต่างมีความสุขแต่ทำไมเขาถึงต้องมาเดินน้ำตาตกอยู่คนเดียวท่ามกลางความหนาวเหน็บด้วยก็ไม่รู้
    โลกนี้ไม่ยุติธรรมเลย!!!ร่างบางตะโกนลั่นบอกฟ้า
    โฮ่ง ๆ ๆ สุนัขของคนแถวนั้นส่งเสียงเห่าเมื่อได้ยินเสียงอึกทึกจากเขา
    ร่างบางสะดุ้งตัวแล้วรีบวิ่งหนีทันทีขืนอยู่นานต้องถูกต่อว่าแถมดีไม่ดีอาจถูกเจ้าตัวใหญ่ที่ตะกายรั้วเมื่อครู่ขม้ำเอาแน่ ๆ
    แฮ่ก ๆ ๆ ๆร่างบางมาหยุดหอบตัวโยนอยู่ข้างเสาไฟ เมื่ออาการเหนื่อยอ่อนหายสัมปชัญญะก็กลับคืน ไม่ได้มาตั้งนานเขาเอ่ยขึ้นเมื่อมองไปข้างหน้า อาคารห้องเช่าไม่สูงมากนักที่ที่ยังคงมีกลิ่นไอของคนรักของเขาหลงเหลืออยู่ ร่างบางไม่รอช้าก้าวเดินไปในอาคารบนชั้นสามห้องริมสุดกลิ่นกรุ่นของความหอมหวานคงช่วยทำให้เขาหายเพลียใจขึ้นมาได้บ้าง
    เอ๊ะ!!!ร่างบางขุ่นคิ้วเมื่อไขกุญแจห้องแต่มันกลับไม่ได้ถูกล๊อคเอาไว้เสียอย่างนั้น เขาค่อย ๆ เปิดประตูอย่างเบาเสียงหวั่นใจกับความห่างหายไปนานอาจเชิญชวนให้บุคคลอื่นเข้ามาใช้สอยห้องของเขาอย่างสบาย รองเท้าผ้าใบสองคู่ถูกวางสลับลวดลายหากแต่เข้าคู่กันเป็นอย่างดี ร่างบางระบายยิ้มออกมาและเมื่อกลิ่นหอมกลุ่นที่ลอยออกมาจากครัวความสดใสก็กลับคืนสู่จิตใจ เขาถอดรองเท้าอย่างไม่เป็นระเบียบแต่มันก็ไม่สำคัญแล้ว คนที่อยู่ด้านในนั่นต่างหากที่สำคัญที่สุดในชีวิต
    จิน~~~~” ร่างบางเอ่ยเรียกพร้อมกับวาดวงแขนโอบกอดเอวคนร่างหนาจากด้านหลัง
    คนร่างหนาละมือจากกะทะและตะหลิว เขาล้วงมือไปในกระเป๋าของผ้ากันเปื้อนเพื่อจับกับมือของร่างบางที่ซับน้ำตาลงบนแผ่นหลังของเขากลับมาแล้วเหรอ ว่าจะโทรไปตามอยู่เชียว
    อืม...กลับมาแล้วร่างบางตอบกลับ
    คนร่างหนาหมุนตัวกลับมาเชยคางคนรักขึ้นแล้วจุมพิตซับน้ำตาให้อย่างอ่อนโยนคนเก่ง ไหนว่าจะไม่ร้องไห้ยังไงล่ะ
    ร่างบางสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ พยายามกลั้นสะอื้นตัวเอง จินต่างหากที่เป็นคนเก่ง ทำให้ฉันหยุดร้องไห้ได้
    จินคลี่ยิ้มใช้มือทั้งสองข้างเช็ดหน้าเช็ดตาให้คนรักไอดอลดาวรุ่งหมดหล่อกันพอดี
    ใครเขาอยากหล่อให้คนอื่นดูกัน ขอแค่น่ารักให้จินมองคนเดียวก็พอร่างบางกล่าวแล้วยิ้มกว้างออกมา
    จินยื่นมือไปดึงแก้มทั้งสองข้างของคนรักเล่นด้วยความหมั่นเขี้ยวแค่นี้ก็ทั้งรักทั้งหวงจะแย่อยู่แล้ว น่ารักเกินกว่านี้ฉันคงไม่ต้องเป็นอันทำอะไรแน่ ๆ
    จินนะ~~~” ร่างบางเอ่ยเสียงอ้อนแล้วโอบเอวคนรักไว้วางสันคางลงบนอกแกร่งแล้วเงยหน้ามองพูดอย่างนี้ฉันเขินแย่เลย
    แน่ใจนะว่าเขิน ถ้าเขินแล้วทำไมยังมองฉันตาแป๋วเลยล่ะจินเอ่ยถามพลางใช้มือไล้แก้มคนรักเล่น
    ก็อยากมองจินนาน ๆ นี่หน่าร่างบางตอบ หล่อขึ้นนะเนี่ย

    ได้ยังไงล่ะ มีแฟนเป็นดาราน่ารักขนาดนี้ก็ต้องทำตัวให้สมกันหน่อยจินตอบก่อนก้มหน้าลงมาประทับริมฝีปากของร่างบาง ความหอมหวานที่ไม่ได้ลิ้มรสมานานยังไม่แปลเปลี่ยนหากแต่มันกลับเพิ่มความรัญจวนมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก ร่างบางตอบสนองความปั่นป่วนอันเย้ายวนนั้นไม่ขาดเช่นกัน ความห่วงหาต่อกันถูกบรรยายออกมาให้รับรู้ได้ด้วยการสัมผัสไร้ซึ่งคำพูดจาใด ๆ จะพรรณนาได้ดี
    อือ!!! อือ ๆ ร่างบางร้องประท้วงในลำคอเขาผละจากริมฝีปากคนรักออกมาอย่างยากเย็น จิน!!!ไหม้แล้ว
    คนร่างหนารีบหันกลับ ข้าวผัดในกะทะที่ทำไว้ดำปี๋เขารีบปิดเตาแก๊สทันที หมดกัน
    ร่างบางหัวเราะร่วนออกมา ดีนะระฆังช่วยไว้ทัน ไม่อย่างนั้นมีอะไรกันหน้าเตาได้ตัวผองแน่ ๆ
    จินหันมาหรี่ตามองพูดอย่างนี้เดี๋ยวก็จับกินซะเลย
    ร่างบางคลี่ยิ้มก่อนยกมือขึ้นโอบรอบคอคนรักให้กินอยู่แล้วล่ะ แต่ว่าขอกินข้าวก่อนนะขืนมีอะไรกันต่อตอนนี้หมดแรงกลางคันแน่ ๆ
    คนร่างหนาจับมือคนรักออกจากคอตัวเอง ถ้าอย่างนั้นก็อย่าเพิ่งยั่ว ไปนั่งรอก่อนจะทำให้ทานใหม่
    ไม่เอาจะช่วยร่างบางบอกแล้วยื่นหน้าไปกระซิบข้างหูคนรัก จะได้เสร็จไว ๆ กินฉันไว ๆ ยังไงล่ะ
    คนร่างหนาหน้าแดง น้ำเสียงยั่วยวนของร่างบางทำเขาคิดไปไกลแล้วจะว่าอะไรไหมเนี่ย ถ้าจะบอกให้หิ้วท้องรอไปก่อน ทำเสียงอย่างนั้นมัน.....
    ร่างบางทำหน้าตูมแล้วชูมือขึ้นทั้งสองข้าง อุ้มไปที่เตียงด้วย ไม่อย่างนั้นไม่ยอมให้จริง ๆ ด้วย
    ร่างหนาระบายยิ้มก่อนช้อนตัวร่างบางขึ้นอุ้ม อาหารมื้อค่ำหน้าตาน่าทานมันช่างเย้ายวนให้เขาได้ลิ้มรสชาติอันโอชะเสียเหลือเกิน
    **************************
    ใส่ข้าวลงไปอีก ไข่กับเบคอนด้วยเยอะ ๆ ร่างบางยืนกอดเอวคนรักจากด้านหลังแล้วยื่นหน้าออกมาเอ่ยกำกับการทำอาหารมื้อดึกสำหรับคืนนี้
    จะกินหมดเหรอ เยอะแล้วนะจินเอ่ยถาม
    หมดสิฉันหิวจะตาย จินกินฉันไปตั้งสองครั้งจะไปรู้สึกหิวเหมือนฉันได้ยังไงล่ะร่างบางตอบ
    ขอโทษ~~” จินสำนึก เขาห่างจากคนรักมานานหลายเดือนพอเจอกันเลยเอาแต่ใจตัวเองมากไปหน่อย ก็คนร่างบางชอบตามใจเขานี่
    ไม่ได้โกรธสักหน่อย ถ้ากลับมาแล้วไม่ทำนี่สิน่าดูร่างบางตอบพลางทำแก้มป่อง
    จินหันหน้ามาหอมลงบนแก้มนั้น พอไหม
    ไม่พอ เอาอีกข้างนี้ด้วยร่างบางบอกแล้วหันแก้มอีกข้างให้
    จินดีดจมูกคนรักเบา ๆฉันหมายถึงข้าว พอไหม
    อ้าว~~~” ร่างบางแอบผิดหวังนิด ๆ พอ ๆ
    ร่างหนาอมยิ้มที่ได้แกล้งคนรัก เขาผัดข้าวในกะทะอีกไม่กี่ทีก็ปิดเตาแก๊ส หยิบช้อนตักข้าวแล้วเป่าให้ความร้อนระอุเบาบางลงก่อนป้อนปากคนรัก
    อร่อย~~~” ร่างบางเอ่ยบอก เขาผละออกจากคนรักเพื่อเดินไปหยิบจาน อ๊ะ!!! ไวท์คริสต์มาส
    จินได้ยินเสียงคนรักเอ่ยบอกเขาก็เดินมาหา โอบกอดคนรักแล้ววางใบหน้าลงบนไหล่เล็กดีจังที่ปีนี้ได้ดูไวท์คริสต์มาสกับนาย
    แล้วปีอื่นล่ะ จินดูกับใครร่างบางเอ่ยถาม

    จำได้ล่าสุดเมื่อห้าปีก่อน นอนดูคนเดียวในห้องนอนที่บ้านจินกล่าวนอกนั้นก็หลับ บางปีมันก็ไม่ตก
    ร่างบางเอี้ยวหน้ามามอง ไปเล่นกัน
    ตอนนี้เนี่ยนะ แล้วข้าวล่ะไม่กินก่อนเหรอร่างหนาเอ่ยถาม
    ไปตอนนี้แหละขืนให้ตกหนักกว่านี้ก็หนาวตาย ส่วนข้าวนะค่อยกลับมาให้จินป้อนทีหลังก็ได้ร่างบางตอบแล้วจูงมือคนรักเดินออกไป
    ***************************
    รองเท้าผ้าใบสองคู่ถูกถอดออกวางอยู่ใกล้ประตูห้อง ร่างบางก้มหน้ามองรองเท้าอันเปียกปอนเพราะหิมะที่เกาะอยู่ละลายตัวฉันไม่คิดเลยนะว่าจินจะมา ขอบคุณนะที่กลับมาหาฉันเอ่ยบอกเสร็จก็โค้งตัวให้คนรัก
    ก็บอกแล้วว่านายไม่ต้องทำอะไร ให้ฉันได้ทำเพื่อนายบ้างจินบอกร่างบาง
    จินมาได้ยังไง ฉันยังไม่ได้ถามเลยร่างบางอยากรู้
    ร่างหนาอมยิ้มหัวใจมันร่ำร้องให้มาหา
    ร่างบางได้ฟังก็หัวเราะร่วน เสี่ยวเชียว แต่ฉันก็ชอบ
    จินยื่นมือไปรั้งเอวคนรักแล้วออกแรงเล็กน้อยให้ร่างนั้นมาใกล้ตนก่อนจะสวมกอดอย่างหวงแหน ดวงหน้าของร่างบางซบอยู่บนไหล่ของเขาฉันรู้สึกกลัวขึ้นมาว่าถ้าเกิดเสียนายไปจะทำยังไงเขาบอกพลางไล้หลังคนรักเบา ๆฉันตั้งใจเอาไว้ว่าจะไม่กลับมาจนกว่าจะเรียนจบแต่อยู่ที่นั่นโดยไม่มีนายฉันต้องใช้ความเข้มแข็งมากเลยรู้ไหม กำลังใจของฉันมันเริ่มลดน้อยลงเลยต้องกลับมาให้นายเติมเชื้อ
    ร่างบางระบายยิ้มเมื่อรู้ว่าคนร่างหนารู้สึกไม่ต่างจากตนเลยฉันคิดเอาไว้ว่าปีหน้าตอนจินกลับมาก็คงนำรองเท้าข้างนั้นมาเข้าคู่ตามที่บอก ฉันก็เลยวางรองเท้าทั้งของจินแล้วก็ของฉันไว้ที่ห้องนี้ตลอดเลย ตอนเปิดประตูเข้ามาฉันดีใจมากเลยนะที่มันได้กลับมาอยู่คู่กันอีกร่างบางบอกแต่ว่าอีกไม่กี่วัน มันก็จะถูกจับแยกห่างกันเหมือนเดิม
    จินได้ฟังก็ลูบผมคนรักเบา ๆ คล้ายเป็นการปลอบขวัญนั่นมันเรื่องในอนาคตอีกหลายวันข้างหน้า ตอนนี้อยู่ด้วยกันแล้วเราควรทำทุกเวลาให้มีค่าดีกว่าใช่ไหม
    ร่างบางพยักหน้าอืม...แต่ก่อนอื่นตากรองเท้าก่อนเถอะ เปียกแบบนี้เดี๋ยวได้ขึ้นรา
    ฉันก็ว่าอย่างนั้นจินเห็นด้วย เขาถือรองเท้าทั้งสองคู่ออกมาไว้หน้าห้อง ลวดที่ขึงเอาไว้ตรงระเบียงกันสาดเพื่อตากผ้าคราวนี้มันได้ทำหน้าที่อีกครั้งหลังจากพักผ่อนมานาน ร่างบางส่งไม้หนีบให้คนรักได้ใช้เพื่อตากรองเท้า จินรับไม้หนีบมาหนีบส้นรองเท้ายึดเอาไว้ก่อนที่ทั้งคู่จะยืนมองรองเท้าผ้าใบสองคู่ซึ่งสลับลวดลายกันและมันถูกตากเอาไว้ กับภาพหิมะโปรยที่เป็นฉากหลังให้อย่างดี
    อ๊ะ!!!จินอุทานก่อนเดินกลับเข้าไปในห้องแล้วหวนมาอีกครั้งพร้อมกล้องในมือ เขาถ่ายรองเท้าที่ตากเอาไว้อย่างตั้งอกตั้งใจ โดยมีคนรักยืนมองอยู่ใกล้ ๆ
    ถ่ายไปทำไมเหรอร่างบางเอ่ยถามเมื่อคนรักทำงานเสร็จ
    ว่าจะเอาไปจัดงานนิทรรศการจินตอบ
    จิน~~~” ร่างบางเอ่ยเรียกจินอยู่ที่นั่น มีใครคนอื่นนอกจากฉันหรือเปล่า
    จินหันหน้ากลับมามองสายตาฉงนทำไมถามแบบนั้นล่ะ ไปฟังใครมาล่ะสิ
    ก็...อยากฟังคำยืนยันจากปากจินร่างบางเอ่ย

    มีนายอยู่ทั้งคนจะไปมองใครที่ไหนได้อีกจินบอกกับคนรัก
    นั่นสิเน๊อะ ฉันก็ไม่มีใครอื่นนอกจากจินนะร่างบางบอก
    ฉันเชื่อนาย แต่ว่าคนอื่นนี่สิจินเอ่ยขึ้น ก่อนหน้านี้ที่อังกฤษฉันเจอเพื่อนนายโดยบังเอิญ
    ร่างบางพอจะรู้ว่าคนรักหมายถึงใคร หมายถึงยามะพีใช่ไหม
    อืม...ฉันรู้ว่าเขาชอบนายจินตอบ คุยกันทีแรกก็รู้แล้ว เขาโกหกเรื่องของนาย ถึงเราจะไม่ได้คุยกันเป็นอาทิตย์แต่ฉันก็เชื่อใจว่านายไม่เล่าเรื่องของเราทุกเรื่องให้คนอื่นฟังง่าย ๆ หรอก
    ร่างบางระบายยิ้มออกมา ขอบคุณนะจินที่เชื่อในตัวฉันทั้ง ๆ ที่ฉันเองกลับรู้สึกหวั่นไหวที่ยามะพีเขามาบอกว่าจินมีคนอื่น ขอโทษด้วยนะ
    จินเดินมาสวมกอดคนรัก นายไม่ผิดหรอก คนอยู่ไกลตากันก็ต้องไหวหวั่นเป็นธรรมดา
    ร่างบางโอบกอดคนรักตอบ ไม่เจอจินสามเดือน รู้ตัวหรือเปล่าว่าจินโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากเลยนะ
    นั่นก็เป็นเพราะนายคาซึยะ ฉันไม่มีเงินทองมากมาย ชื่อเสียงก็ยังไม่ค่อยมี สองมือของฉันก็ไม่มีอาวุธอะไรแต่ฉันก็อยากปกป้องนายเอาไว้ตราบเท่าที่จะทำได้สุดกำลังจินบอกกับคนรัก
    ซึ้งจังร่างบางตอบแค่นี้จินก็ทำให้อีก11เดือนที่เหลือสำหรับภาระของฉันกำลังผ่านไปไวเหมือน11วันแล้วล่ะ
    เราข้ามขั้นตอนที่เริ่มคบหากันมาอย่างรวดเร็ว เวลาที่เราห่างกันจะทำให้เราเรียนรู้ที่จะรักได้อย่างมั่นคง เพราะฉะนั้นอดทนหน่อยนะ ให้เวลาที่เหลือพิสูจน์ความรักของเรานะคาซึยะจินบอกแล้วกระชับกอดคนรัก
    อืมร่างบางตอบรับ หนาวจัง
    เข้าบ้านเถอะจินเอ่ยชวนก่อนพาร่างบางกลับเข้าบ้าน คืนนี้หลังจากทานข้าวด้วยกันเสร็จ เขาจะให้ไออุ่นแก่คนรักทั้งคืน
    **************************
    รถยนต์ส่วนตัวของนากามารุ ยูอิจิ จอดอยู่ริมถนนไม่ห่างจากหน้าตึกบริษัทของเขามากนัก เพื่อนร่างหนาที่นั่งอยู่เบาะด้านข้างรวมทั้งทัตซึยะซึ่งนั่งอยู่เบาะหลังเพ่งสายตาไปยังด้านนอกไม่วางตา
    ถามจริง ทำไมถึงต้องมาดักรอด้วยว่ะทัตซึยะท้าวคางถาม
    ขืนไอ้ยูอิจิพาเข้าไป มันก็ซวยนะสิจินตอบว่าแต่แน่ใจนะว่าวันนี้หมอนั่นเข้ามาทำงาน
    ชัวร์ยูอิจิตอบหนักแน่นหมอนั่นยังก๊อบปี้ตารางงานคาเมะจังได้ ทำไมฉันจะทำบ้างไม่ได้เรื่องแค่นี้เด็ก ๆ
    ทำเป็นปากดี แต่ก็เอาเถอะนายช่วยเรื่องนี้และก็ตอนที่ไอ้จินกลับมานายก็เป็นธุระจัดการให้ ถ้าคาซึยะรู้คงหายเคืองนายขึ้นมาบ้างทัตซึยะบอก

    เมื่อวานฉันบอกเขาไปแล้วว่ายูอิจิเป็นธุระให้นะจินบอกกับเพื่อนตัวเล็ก
    อิจฉาคนนอนคุยกันจังเว้ยทัตซึยะเอ่ยแซว
    ฉันกับคาเมะจังดีกันตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วเฟร้ยยูอิจิกอดอกบอกสมน้ำหน้าตกข่าวเขาแกล้งเย้าในตอนท้าย
    เออ ฉันมันอยู่บ้านนอกนี่เว้ยข่าวสารกว่าจะไปถึงทัตซึยะเอ่ยประชดแล้วนี่ทำไมคาเมะจังไม่มาด้วยล่ะ
    เขาทำงานบ้านนะ เห็นว่าไม่ได้ทำมาเกือบเดือนเลยล้างบ้านใหญ่จินตอบ
    แม่ศรีเรือนจริงเว้ยทัตซึยะเอ่ยชม นั่น ๆ หมอนั่นมาแล้ว
    จินเพ่งมอง คนหน้าหวานกำลังจะเดินเข้าไปในตึกแต่กลับต้องชะงักเพราะทักทายแฟนคลับที่มายืนรอพบ จินลงจากรถของยูอิจิแล้วเดินฝ่ากลุ่มคนเข้าไป โดยไม่สนใจว่าใครจะหันมามองเขาเป็นสายตาเดียว
    กรี๊ด~~~หล่อจังเลย ใครน่ะเสียงสาว ๆ เอ่ยขึ้นเรียกให้คนหน้าหวานหันกลับไปมอง
    อ้าว จินคุงคนหน้าหวานปั้นหน้าส่งยิ้มไร้เดียงสาให้
    สวัสดีจินเอ่ยตอบสีหน้าเรียบเฉยขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ
    คนหน้าหวานพยักหน้าก่อนเดินนำจินเข้าไปในตึก มีอะไรเขาถามเสียงแข็ง
    แค่มาเตือนจินตอบกลับเสียงกร้าวข่มขวัญคนหน้าหวานเสียสนิทว่าอย่ามายุ่งกับคาซึยะอีก
    คนหน้าหวานเหยียดยิ้ม น่ากลัวจังนะ ถ้าจะยุ่งแล้วนายจะทำอะไรฉันได้
    ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ แต่ถ้ามีครั้งที่สองอีกคงได้เห็นดีกันแน่ ฉันมันเป็นแค่คนธรรมดาไม่ได้มีชื่อเสียงแบบนาย ทำอะไรลงไปแค่ไม่กี่วันคนก็ลืม แต่กับนายอนาคตสำหรับการเป็นดาราเพิ่งจะเริ่มไม่ใช่เหรอจินถามกลับ
    คนหน้าหวานจ้องมองตอบกำมือตนเองแน่น ก่อนจะมาหาเรื่องคนอื่น ดูแลคนของตัวเองให้ดีจะดีกว่า ห่างกันแบบนั้นต่อให้ไม่ใช่ฉัน คนอื่นก็ทำให้แฟนนายเปลี่ยนใจได้เหมือนกัน
    ขอบคุณนะที่เตือน แต่ไม่มีวันนั้นหรอกเพราะว่าเขาเป็นของฉัน เรารักกันจินบอกเสียงหนักแน่น
    น่าเชื่อตายคนหน้าหวานตอบกลับแล้วเดินเฉียดไหล่ร่างหนาแล้วฉันจะคอยดูว่าความรักของพวกนายมันจะจบลงยังไง
    จินหันกลับไปมองจบลงอย่างสวยงามแน่นอนนายอยู่รอดูก็แล้วกัน
    คนหน้าหวานยักไหล่แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย
    *********************
    ร่างบางยืนส่งคนรักที่แอร์พอต ยังไม่หมดช่วงวันหยุดฤดูหนาวแต่คนรักของเขาต้องรีบกลับไปทำงานที่ค้างคาไว้อยู่ให้เสร็จถึงแล้วโทรมาหาด้วยนะ
    จ้า~~~” จินรับคำ นายเองก็ดูแลตัวเองดี ๆ ล่ะ อย่าไปหาเรื่องยูอิจิมันมากนัก หมอนั่นมันไอดอลอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นเชียวนะ
    ร่างบางเหล่หางตาไปมองยูอิจิที่ยืนยิ้มกว้างให้ เหรอ
    ฮ่า ๆ ทัตซึยะหัวเราะร่วน
    ไปแล้วนะจินเอ่ยบอกพลางลูบผมคนรักที่ทำหน้าจะร้องไห้อยู่รอมร่อ
    อืมร่างบางรับรู้ตั้งใจเรียนนะ
    นายเองก็เหมือนกันตั้งใจทำงานนะจินบอก
    รู้แล้ว งานคือเงินร่างบางตอบ

    ไปเถอะจิน เดี๋ยวตกเครื่องไม่ต้องห่วงคาเมะจังนะพวกฉันจะคอยดูแลให้ทัตซึยะบอก
    ขอบใจจินบอกกับเพื่อน ไปนะทัตซึยะ ยูอิจิ
    เออ โชคดียูอิจิและทัตซึยะพูดพร้อมกัน
    จินยิ้มตอบก่อนมองมายังร่างบาง เขาก้มลงมาถอดรองเท้าผ้าใบรูปเบสบอลของคนรักออกแล้วใส่ลงในกระเป๋าเป้ของตนแล้วจะเอามาคืนเอ่ยบอกเสร็จก็โน้มคอคนรักเข้ามาใกล้แล้วจุมพิตลงบนริมฝีปากบางจากนุ่มนวลก็ค่อยๆ เพิ่มความเร้าร้อนให้คนรักได้รู้สึกอุ่นไปตลอดฤดูหนาว
    ว๊าค!!!ยูอิจิร้องลั่นคนเยอะแยะถูกถ่ายรูปจะทำยังไง
    เซ็นเซอร์ต้องเซ็นเซอร์ทัตซึยะบอกแล้วรีบวิ่งไปเอามือบังหน้าคนทั้งสองเอาไว้ ยูอิจิเห็นเช่นนั้นจึงทำตามบ้าง
    จินยกมือข้างนึ่งขึ้นมาปิดตาเพื่อนทั้งสองที่จงใจแกล้งมายืนดูใกล้ ๆ ก่อนผละออกจากริมฝีปากบางช้า ๆ
    ไปอยู่เมืองนอกมาไม่กี่เดือน หน้าด้านขึ้นเยอะเลยนะไอ้จินทัตซึยะว่าแขวะ
    ร่างบางหายใจหอบถี่อย่าว่าจินเลยทัตจัง แบบนี้ฉันชอบ
    ยูอิจิตีร่างบางเบา ๆเราเป็นฝ่ายหญิงพูดจาอย่างนี้ได้ยังไง
    ร่างบางผลักกลับจนยูอิจิตัวเซ จินรีบยกมือขึ้นปรามทันทีร่างบางจึงหยุดที่จะผลักต่อ
    ไปแล้วนะ โชคดีทุกคนเขาเอ่ยลาอีกครั้งแล้วหันหลังเดินจากพลางยกมือขึ้นโบกลาแล้วพาร่างตนเองหายเข้าเกทเพื่อไปขึ้นเครื่องบิน
    ร่างบางมองส่งคนรักจนลับตาก่อนหันหน้ากลับมายิ้มกว้างให้คนทั้งสองซึ่งเป็นห่วงเขาอยู่มองอะไรกัน ไม่ไปทำงานกันหรือไง
    ยูอิจิและทัตซึยะส่ายหน้า
    หลังปีใหม่ฉันถึงจะมีงาน ตอนนี้ที่ถ่ายเก็บไว้เพิ่งจะฉายทีวีเองยูอิจิบอก
    ดีเลยถ้าอย่างนั้นไปบ้านฉันกัน ร่างบางเอ่ยชวน
    งั้นก็ดี ฉันกับทัตซึยะมีอะไรจะให้นายเป็นของขวัญยูอิจิบอก
    อะไรร่างบางถามอย่างอยากรู้ทันที
    ไม่บอก ไปดูที่บ้านคาเมะจังเองดีกว่าทัตซึยะบอกแล้วกอดคอร่างบางให้เดินตาม
    เดี๋ยว!!!ร่างบางเอ่ยยั้งแล้วก้มดูรองเท้าตัวเองที่เหลือเพียงข้างเดียว
    โรคจิตเปล่าเนี่ย ใส่ผ้าใบตอนหน้าหนาวทัตซึยะเอ่ยแซว
    ร่างบางก้มลงถอดรองเท้าก่อนจะกวักมือเรียกยูอิจิ ยืมรองเท้าใส่หน่อยสิ มันเย็น
    ให้ยืมแล้วฉันจะใส่อะไรล่ะยูอิจิถาม
    เท้าเปล่าไงล่ะถามได้ ห้ามโวยด้วยนี่ยังน้อยเกินไปกับการลงโทษที่นายปิดบังฉันเรื่องสัญญาร่างบางอ้าง
    ยูอิจิเบ้หน้ายอมรับการลงทัณฑ์เขาถอดรองเท้าให้ร่างบางใส่ ส่วนตัวเองรีบวิ่งนำโด่งไปรอที่รถซึ่งจอดไว้อีกไกลทันที
    *************************

    เท่~~~~~” ร่างบางเอ่ยลั่นเมื่อเห็นภาพปรากฏบนจอ คนรักของเขาพูดคุยกับคนหน้าหวานด้วยใบหน้าเขร่งขรึมจริงจัง แต่นั่นมันก็ไม่สำคัญเท่ากับเรื่องที่พูดคุยคือเรื่องของเขานั่นเอง
    พอ ๆ เปิดไปเปิดมาอยู่ได้ทัตซึยะบอกแล้วกดรีโมทจะปิดทีวี
    ร่างบางรีบแย่งคืนทันทีกิน ๆ ไปสิ ฉันจะดูจินอีกไม่พูดเปล่ากรอเทปกลับฉับพลัน
    ทัตซึยะหันไปมองหน้ายูอิจิที่นั่งกินข้าวอย่างไม่สนอกสนใจนายไม่น่าไปก๊อบปี้เทปวงจรปิดอันนี้ที่บริษัทมาให้คาเมะจังเลย
    ทำไมล่ะยูอิจิถามทั้ง ๆ ที่ข้าวยังเต็มปาก
    ก็คาเมะจังจะยิ่งเพ้อถึงจินนะสิทัตซึยะบอก
    ยูอิจิหันหน้ากลับไปมองร่างบางที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับคนรักในจอภาพ ไม่หรอก ฉันว่าจะยิ่งทำให้คาเมะจังเข้มแข็ง
    ทัตซึยะถอนหายใจออกมาบาง ๆก็คงจะจริงอย่างนั้นล่ะมั๊ง
    ร่างบางลุกพรวดพราดขึ้นทำเอายูอิจิและทัตซึยะหันไปมอง ขอบคุณนะที่เตือน แต่ไม่มีวันนั้นหรอกเพราะว่าเขาเป็นของฉัน เรารักกันร่างบางเลียนเสียงคนรักในม้วนเทปก่อนจะทรุดตัวลงนอนกลิ้งชักดิ้นชักงอกับพื้นด้วยความเขินอาย
    ฉันว่าคาเมะจังบ้าไปแล้วว่ะทัตซึยะกล่าวสรุป
    เห็นด้วยที่สุดยูอิจิสนับสนุนก่อนคนทั้งสองจะสนใจกับอาหารมื้อใหญ่ที่ร่างบางเลี้ยง โดยปล่อยให้ร่างบางมีความสุขกับภาพบันทึกของคนรักที่อยู่ห่างไกลแต่ตัวเพียงลำพัง
    **********************************
    จบตอนที่10แล้วจ้า เป็นอย่างไรบ้างอย่าลืมเม้นท์บอกกันด้วยนะคะ ขอบคุณเพื่อนๆที่ติดตามคะ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×