ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    paparazzi

    ลำดับตอนที่ #1 : paparazi 1

    • อัปเดตล่าสุด 13 มี.ค. 49


    Paparazzi
    ภายในร้านขนาดหนึ่งคูหาเล็กๆบนพื้นที่ทำเลทองย่านแหล่งช๊อปปิ้งของวัยรุ่น ภาพเด็กสาวเดินเข้า-ออกร้านแห่งนี้อย่างไม่ขาดช่วง ชายหนุ่มวัย21ปีผู้ทำผมสีบรอนเทายิ้มส่งให้ลูกค้าผู้หญิงที่อ่อนวัยกว่าตนเมื่อเธอเดินออกจากร้านไปพร้อมกับของในมือที่ใช้เวลาเลือกอยู่นาน
    "ซื้อแค่สิบใบ เลือกนานชะมัดยาด" ชายหนุ่มบ่นเบาๆลับหลังลูกค้า
    "แอบนินทาลูกค้าอีกแล้วนะจิน" ชายแก่วัยกว่าเขาหลายปีเอ่ยขึ้นเมื่อเดินออกมาจากหลังร้าน
    อาคานิชิ จิน หันหน้ากลับไปมองแล้วยิ้มแห้งๆให้ "ก็มันจริงๆนี่หน่าไทจิซัง เลือกอยู่นั่นแหละจะเป็นชั่วโมงอยู่แล้วสรุปซื้อแค่สิบใบ ไม่รู้จะเลือกอะไรนักหนา ทุกรูปที่ถ่ายออกมาสวยทุกใบนั่นแหละ"
    ไทจิยิ้มให้รุ่นน้องของตนเอง "น้อยใจล่ะสิ"
    "ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย ผมก็แค่..." จินยังพูดไม่ทันจบ ไทจิก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน
    "ฉันเข้าใจ รูปเกินครึ่งหนึ่งของร้านนี้ก็ถ่ายด้วยฝีมือนายทั้งนั้นนิ" ไทจิบอกแล้วยื่นซองสีน้ำตาลให้เขา
    จินยื่นมือไปรับเขารู้สึกได้ถึงความหนาของสิ่งที่อยู่ข้างใน ขุ่นคิ้วด้วยความฉงนก่อนที่จะเปิดซองออกดู "ทำไม คราวนี้เยอะจังล่ะไทจิซัง"
    ไทจิยิ้มกว้างให้ "ก็นายถ่ายออกมาดีจริงๆนี่หน่า เอาวางหน้าร้านแป๊บเดียวเดี๋ยวก็หมด"
    "ก็วางเลยสิฮะ" จินเร่งเร้า เขาอยากเห็นปฏิกิริยาของลูกค้าในร้านที่จะได้เห็นรูปซึ่งเขาถ่ายมาได้เมื่อวาน แล้ววันนี้เขาก็รีบนำฟิล์มนั้นมาขายให้กับเจ้าของร้านทันที
    ไทจิตบลงบนไหล่หนาของจินเบาๆ "ใจเย็น ของดีแบบนี้วางหน้าร้านเสียราคาหมด ลงออคชั่นดีกว่าได้ราคากว่ากันเยอะ ยิ่งเป็นรูปของนากามารุ ยูอิจิ ที่กำลังดังอยู่ตอนนี้ขี้คล้านคนจะแย่งกันออคด้วยราคาที่สูงเชียวน้า"
    "ไม่ใช่ว่าพอใกล้จะปิดออคชั่นแล้วให้ผมเขาไปลงปั่นราคาทุกทีล่ะ" จินกอดอกบอก
    "แหม~~~ นั่นมันก็เป็นกลยุทธอย่างหนึ่งนะจินคุง" ไทจิตอบยิ้มๆ "ว่าแต่ครั้งต่อไปจะได้รูปเมื่อไหร่ล่ะ"
    "คงสักพักแหละครับ ตามแอบถ่ายพวกดาราบ่อยๆก็หวิดดับได้เหมือนกันนะครับ อาชีพพวกนี้มันเสี่ยง"
    จินบอกแบบปลงๆ

    "ถ้าเสี่ยง ก็เลิกทำสิจิน" ไทจิแนะ
    "ให้ผมเลิกแล้วมาเปิดร้านแบบนี้แข่งกับไทจิซังไหมล่ะ" จินตอบกลับยิ้มๆ
    ไทจิหรี่ตามอง "งั้นก็ทำต่อไปเถอะ"
    จินเห็นท่าทางของไทจิก็หัวเราะร่วนออกมา "ฮ่าๆ ผมล้อเล่นน่า~~ ไทจิซังก็รู้นิว่าผมต้องการเงินเยอะๆ"
    ไทจิได้ยินคำของจินก็หน้าเจื่อนลง "ความจริงฉันไม่น่าสอนนายถ่ายรูปเลย"
    จินยิ้มกว้างให้ "ดีแล้วล่ะที่ไทจิซังสอนผม ผมถึงได้พยายามที่จะทะเยอทะยานไปให้ถึงความฝันของผมไง"
    "งั้นก็....ถ่ายรูปนากามารุคุงมาเยอะๆล่ะ ตอนนี้เขากำลังดังทำเงินได้ดีเชี่ ยว"ไทจิตอบ
    จินหน้ามุ่ยทันที "ให้ตามแต่ผู้ชาย ผมอยากแอบตามดาราผู้หญิงเหมือนกันนะ"
    "ก็ร้านฉันเน้นขายรูปแอบถ่ายไอดอลผู้ชายนี่หว่า อยากถ่ายไอดอลผู้หญิงก็ไปร้านอื่นสิว่ะ" ไทจิกอดอกบอก
    "ไปแน่ ไปล่ะไทจิซัง" จินตอบพลางนำซองสีน้ำตาลใส่กระเป๋าเป้ของตน
    "ถ้าร้านนั้นให้ราคาไม่ดีก็ไม่ต้องขายล่ะ มาฝากฉันไว้ก็ได้ เดี๋ยวจัดการหาคนซื้อราคาสูงให้" ไทจิบอกแล้วตบไหล่จินเบาๆ
    "ขอบคุณมากครับไทจิซัง" จินกล่าวก่อนยิ้มให้แล้วโค้งตัวเป็นการขอตัวลา
    เขาเดินออกจากเคาน์เตอร์สวนทางกับลูกค้าผู้หญิงกลุ่มใหญ่ที่เดินเข้ามาแล้วมองเขาอย่างไม่วางตา
    "หล่อจังเลย" เสียงของเด็กผู้หญิงพูดกันในกลุ่มแต่ก็ดังเข้าถึงโสตประสาทของเขา จินไม่ได้สนใจกับคำชื่นชมนั้นเท่าไหร่นัก เขากระชับกระเป๋าเป้แล้วเลี้ยวออกไปทางด้านขวาของร้านอย่างรีบร้อนเมื่อมาถึงประตูทางออก ร่างแกร่งของเขาถึงกับเซเมื่อปะทะกับบางสิ่งที่สวนทางกับตน
    "ขอโทษครับ" เขาเอ่ยบอกแล้วยื่นมือไปคว้าแขนคนตรงหน้าที่ตัวเซไปจนเกือบจะหงายหลังเพราะแรงกระแทกของตน
    "ขอบคุณครับ" เจ้าของร่างบางเอ่ยเมื่อได้รับการช่วยเหลือ
    "ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ" จินถามออกไป

    ร่างบางยิ้มให้ "ไม่เป็นไรครับ ขอโทษนะฮะที่ผมไม่ทันระวัง"
    "ไม่เป็นไรๆ ผมเองก็รีบเลยไม่ได้มองทาง ขอโทษอีกครั้งนะครับ" จินกล่าวแล้วค้อมศีรษะให้เล็กน้อย
    ร่างบางยกมือขึ้นบอกปัด "ไม่เป็นไรครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวนะ" เอ่ยบอกแล้วมองไปยังมือของคนตรงหน้าที่จับแขนตนเองอยู่
    จินมองตามสายตาร่างบางแล้วรีบชักมือกลับทันที "ขอโทษครับ ขอตัวนะฮะ"
    ร่างบางยิ้มตอบก่อนที่ทั้งสองคนจะเดินสวนกันไปตามทางของตน เจ้าของร่างบางเดินเลี้ยวเข้ามาในร้านที่จินเพิ่งจะเดินออกไปไม่นาน การมาเยือนของเขาเรียกความสนใจให้กับลูกค้าสาวกลุ่มใหญ่ในร้านที่เลือกดูรูปของไอดอลที่ตนชื่นชอบอยู่ทันที
    "อ้าว คาเมะจัง" ไทจิที่ยื่นดูลูกค้าในร้านอยู่ตรงเคาน์เตอร์เอ่ยทัก
    ร่างบางยิ้มกว้างแล้วเดินผ่านกลุ่มลูกค้าตรงไปยังไทจิทันที "สวัสดีฮะ" เอ่ยทักทายแล้วค้อมศีรษะให้เล็กน้อย
    ไทจิยิ้มตอบ "เหมือนรู้เลยนะ"
    คาเมะนาชิ คาซึยะ หรือคาเมะจังที่เจ้าของร้านเรียกด้วยความเอ็นดูและสนิทสนม เอียงคอมองด้วยความสงสัย "มีอะไรเหรอฮะไทจิซัง"
    "รอเดี๋ยวนะ" ไทจิบอกแล้วเดินเข้าไปหลังร้าน สักครู่หนึ่งเขาก็เดินออกมาพร้อมกับยื่นภาพถ่ายในมือห้าใบให้ร่างบางดู
    ร่างบางมองภาพในมืออย่างไม่รีรอ "อ๊าค!!!!! รูปสวยมาก~~~ผมเอา" ไม่พูดเปล่าคว้ารูปในมือของไทจิมาเป็นของตนทันที
    "ยังไม่ได้บอกราคาเลยนะ" ไทจิบอก
    "ยังไงผมก็สู้" ร่างบางบอกเสียงหนักแน่น

    "รูปเพิ่งได้มาสดๆร้อนๆ ที่แรกว่าจะเอาลงออคชั่นแต่เห็นว่าคาเมะจังมาพอดีเลยให้ดูคนแรกเลยนะ" ไทจิบอก "แพงหน่อยนะ"
    "เท่าไหร่ฮะ" ร่างบางถามทันที
    "ขอใบล่ะ300เยนแล้วกันนะ" ไทจิตอบแล้วยิ้มให้
    ร่างบางได้ฟังก็รีบเปิดกระเป๋าสตางค์แล้วหยิบเงินส่งให้ทันที ก่อนจะมองรูปในมือของตนอย่างหลงใหล
    "ยูอิจิของผม" เอ่ยบอกใบหน้าเปื้อนยิ้ม
    "เธอ~~~" เสียงใสๆของเด็กสาววัยไม่ห่างกันมากเรียกขึ้น ร่างบางหันหน้าไปมอง
    "มีอะไรเหรอ" ร่างบางถาม
    "รูปใครเหรอ ขอดูหน่อยได้ไหม" เด็กสาวเอ่ยขอเสียงแผ่ว
    ร่างบางหรี่ตามองก่อนจะยื่นรูปไอดอลที่เขาชื่นชอบในมือส่งให้ "จับดีๆนะ เดี๋ยวเป็นรอยนิ้วมือ" เขากล่าวกำชับ
    เด็กสาวรับรูปมาแล้วหันมาดูกับเพื่อนๆในกลุ่ม กรี๊ดกร๊าดกับภาพที่เห็นก่อนจะส่งคืนให้เจ้าของ "ขอบคุณนะ"
    "ไม่เป็นไร" ร่างบางตอบแล้วนำรูปที่ได้คืนเช็ดกับเสื้อของตน
    "เธอชอบนากามารุคุงเหรอ" เด็กสาวคนเดิมเอ่ยถาม
    "อืม" ร่างบางตอบ
    "เธอชื่ออะไรเหรอ" เด็กสาวยังถามต่อ
    "คาเมะนาชิ คาซึยะ" ร่างบางตอบกลับแล้วหันไปบอกไทจิ "ไทจิซังขอซองใส่รูปด้วยครับ"
    ไทจิหยิบซองใส่รูปยื่นให้ ร่างบางรับมาใส่แล้วนำซองรูปใส่ในถุงกระดาษที่ตนถือมาด้วย
    "ขอเบอร์เธอได้ไหม อยากคุยด้วย" เด็กสาวคนเดิมเอ่ยขอ
    ร่างบางมองหน้าแล้วยิ้มให้ "ฉันไม่เคยคิดเอาผู้หญิงทำเมีย เพราะฉันชอบยูอิจิ ฉันเป็นโฮโมรับอย่างเดียวไม่ลุกใคร เข้าใจ๋????"
    กลุ่มเด็กสาวได้ยินก็ถึงกับอึ้ง ก่อนจะหัวเราะแห้งๆแล้วเดินออกจากร้านไปทันที
    "ฮ่า ๆ ๆ" ไทจิหัวเราะดังลั่นร้าน
    ร่างบางหันหน้ากลับไปมอง "ขำอะไรครับ"
    "คาเมะจังนี่ซื่อตรงกับความรู้สึกของตนเองดีนะ" ไทจิเอ่ยชม

    "แน่นอนอยู่แล้วครับ โกหกไปว่าตัวเองไม่ได้เป็นก็เท่านั้น" ร่างบางตอบ
    "แล้วไม่กลัวเหรอ ถ้าใครๆเขารู้แล้วเอาไปพูดในทางไม่ดี" ไทจิถามอย่างเป็นห่วง
    "ไม่กลัว ผมกลัวว่าความรู้สึกของผมจะส่งไปไม่ถึงยูอิจิมากกว่า" ร่างบางตอบกลับอย่างหนักแน่น
    "ถ้านากามารุคุงรู้ว่ามีแฟนคลับแบบนี้คงปลื้มดีนะ" ไทจิกล่าว
    "ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ยูอิจิเขาต้องรู้อยู่แล้วล่ะสักวันหนึ่ง" ร่างบางกล่าว "ผมขอตัวก่อนนะ ต้องไปดักตามยูอิจิ"
    "โชคดีนะ คาเมะจัง" ไทจิเอ่ยไล่หลังร่างบางที่ขอตัวแล้วเดินออกจากร้านไปทันที "เฮ้อ~~ เสียดายหน้าตาก็ออกจะดี ไม่น่าเลย"
    ***************************
    อาคานิชิ จิน เดินตามทางซึ่งมุ่งหน้าไปมหาวิทยาลัยอย่างไม่รีบร้อน ได้เงินมาก้อนหนึ่งแต่มันก็ยังไม่พอที่จะทำให้ฝันของตัวเองเป็นจริงขึ้นมาได้ การแอบถ่ายรูปดาราถึงจะเป็นงานที่ได้เงินอย่างงามแต่การเข้าไปแทรกแซงความเป็นส่วนตัวของบุคคลอื่นแบบนั้นเขาเองก็ไม่ชอบเอาเสียเลย แต่จะทำยังไงได้ล่ะคนฐานะปานกลางอย่างเขา แต่กลับคิดฝันทะเยอทะยานไปไกลถึงเมืองนอกเมืองนาคงจะไม่มีอาชีพไหนที่จะหาเงินได้เร็วเท่าอาชีพที่ทำอยู่ในตอนนี้แล้วล่ะ
    !!!!ปี๊น ปี๊น!!!! แตรรถดังมากจากถนนข้างทางเท้า จินหันไปมองยังต้นกำเนิดเสียง รถยนต์คันหรูนั่นเขาจำได้ดี ยิ่งเจ้าของรถเปิดกระจกออกมาเพียงครึ่งให้เห็นใบหน้าของตนเขายิ่งมั่นใจว่าคนในรถนั่นไม่ใช่ใคร "นากามารุ ยูอิจิ" ไอดอลชื่อดังในเวลานี้ คนๆเดียวกับที่อยู่ในฟิล์มซึ่งเขาเพิ่งจะไปขายให้ไทจิก่อนหน้านี้นั่นแหละ
    "ขึ้นรถเร็วไอ้จิน" ยูอิจิเอ่ยเร่ง
    จินพยักหน้าก่อนจะเปิดประตูรถด้านข้างคนขับแล้วนั่งในรถอย่างรวดเร็ว "ทำแบบนี้เดี๋ยวก็โดนจับได้หรอก" เขาเอ่ยบอกเมื่อยูอิจิเคลื่อนรถออกมาแล้ว
    "ดารากับช่างถ่ายภาพรู้จักกันไม่เห็นแปลก" ยูอิจิตอบอย่างไม่ยี่หระ
    "มันใช่อย่างนั้นที่ไหนล่ะ ฉันเป็นปาปารัซซี่ต่างหาก" จินเถียงกลับ
    "ใครบอก นายเป็นเพื่อนฉันต่างหาก" ยูอิจิหันหน้ามาบอกแล้วยิ้มบางๆให้ จินเห็นเช่นนั้นจึงยิ้มตอบเพื่อนตนเอง "เป็นไงบ้างได้ราคาดีหรือเปล่า"
    "ดี" จินตอบโดยที่ยูอิจิไม่ต้องถามอะไรมากกว่านี้ เขาทั้งสองคนรู้ดีว่าเรื่องที่พูดหมายถึงอะไร
    "แสดงว่าฝีมือถ่ายรูปนายเยี่ยมไปเลยนะเว้ยไอ้จิน" ยูอิจิเอ่ยกับเพื่อน

    "นายดังต่างหาก" จินตอบพลางล้วงมือไปในกระเป๋าเป้แล้วหยิบซองสีน้ำตาลขึ้นมา "ขอบใจนะ" เอ่ยแล้วส่งเงินส่วนหนึ่งให้
    "เฮ้ย!!! อะไร" ยูอิจิละสายตาจากท้องถนนมามอง
    "ส่วนแบ่งของนายไง ถ้าไม่ได้นายช่วยบอกว่าวันๆนายทำอะไรบ้าง ฉันก็คงตามถ่ายรูปนายไม่ได้แน่ๆ"
    จินบอกกับเพื่อนตนเอง
    "เพื่อนฝูงกัน อะไรช่วยได้ก็ช่วย" ยูอิจิตอบ
    "แต่ทำแบบนี้ถ้าต้นสังกัดนายจับได้จะแย่เอานะ" จินกล่าว
    "อย่างมากก็โดนพักงาน หรือไม่ก็โดนตัดออกจากสังกัดก็เท่านั้น" ยูอิจิตอบเสียงกลั้วหัวเราะ
    "ก็นั่นแหละที่ฉันกลัว" จินบอกกับเพื่อนตัวเอง
    "คิดมากน่า ถึงเวลานั้นนายคงเป็นตากล้องมือฉมังที่ใครก็ต้องการไปแล้วล่ะไอ้จิน" ยูอิจิคาดเดา
    "สมพรปากเหอะว่ะ" จินรีบรับคำแล้ววางเงินไว้ที่คอนโทลหน้ารถ "อย่าทำให้ฉันรู้สึกเอาเปรียบนายไปมากกว่านี้เลยยูอิจิ"
    "โอเค ถ้านายทำแล้วสบายใจ " ยูอิจิตอบแล้วยื่นมือไปหยิบเงินมาจำนวนหนึ่ง "แต่ฉันรับไว้แค่นี้พอ"
    จินยิ้มให้เพื่อนของตนที่คบหากันมาตั้งแต่เด็ก ก่อนหน้าที่ยูอิจิจะเข้าวงการเขาทั้งสองคนบ้านก็ยังอยู่ใกล้ๆกัน แต่เมื่อยูอิจิกลายเป็นไอดอลชื่อดังไปแล้วความเปลี่ยนแปลงก็เข้ามาเยือน ทุกอย่างรอบๆตัวของพวกเขาเปลี่ยนไป หากแต่สิ่งที่คงเดิมคือมิตรภาพที่ไม่ผันแปรนั่นเอง
    "จอดตรงนี้ดีกว่า" จินบอกกับยูอิจิเมื่อขับรถมาเกือบจะถึงมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว
    "ทำไมว่ะ" ยูอิจิเอ่ยถาม
    "ก็เผื่อแฟนคลับนายมาดักรอที่หน้าประตูมหาวิทยาลัย แล้วก็พวกปาปารัซซี่คนอื่นอีก เห็นฉันเข้านายจะลำบาก" จินบอกถึงเหตุผล
    "ขอบใจนะที่เป็นห่วง" ยูอิจิบอกแล้วจอดรถให้จินลง
    จินลงจากรถแล้วยิ้มให้เพื่อน ยังไม่ทันที่เขาจะปิดประตูรถ ยูอิจิก็พูดบางอย่างกับเขา "อีกสองวันฉันไปอัดรายการที่ช่องTBSตอนบ่าย2"
    "ขอบใจนะ" จินบอกแล้วปิดประตูลง มองรถคันงามของเพื่อนเคลื่อนตัวห่างออกไปจนเข้าไปใน

    ในมหาวิทยาลัย เป็นอย่างที่เขาคาดการจริงๆทันทีที่รถของยูอิจิขับไปใกล้บริเวณประตูทางเข้ามหาวิทยาลัย กลุ่มแฟนคลับก็ลุกขึ้นแล้วก็วิ่งกรูตามรถคันงามนั้นเข้าไปด้วยเช่นกัน
    "ลำบากหน่อยนะยูอิจิ เป็นคนดังก็อย่างนี้แหละ" จินเปรยขึ้นแล้วเดินไปตามทางมุ่งหน้าสู่มหาวิทยาลัยของตน
    "หมอนั่นเป็นอะไรกับยูอิจิกันนะ" ร่างบางที่ซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลเอ่ยขึ้นเบาๆ มองดูแผ่นหลังของคนร่างหนาที่เดินทิ้งห่างออกไปอย่างสงสัย "หรือว่า!!!! คู่ขาของยูอิจิ" หรี่ตามองร่างนั้นก่อนสั่นหัวไป-มาอย่างแรง "ไม่มีทางๆ กะเทยควายแบบนั้นยูอิจิไม่ชอบหรอก ต้องแบบเราสิน่ารักจะตาย" พูดเองเออเองแล้วก็เดินยิ้มร่าไปตามทางสู่มหาวิทยาลัยที่ยูอิจิไอดอลของเขาศึกษาอยู่
    ************************
    ภายในห้องมืดซึ่งถูกจัดไว้อยู่ตรงมุมหนึ่งของห้องพักเล็กๆ สภาพของมันไม่ได้สวยหรูเท่าใดมากนักเพียงแค่นำไม้อัดแผ่นใหญ่มากั้นเป็นห้องเอาไว้สำหรับล้างฟิล์มงานเพื่อนส่งอาจารย์ก็เท่านั้นเอง หากใช้ห้องของคณะที่มหาวิทยาลัยยามที่นักศึกษาทุกคนจะต้องรีบเร่งเพื่อส่งงานก็ต้องจองคิวล่วงหน้ากันอีกนานเลย ทางที่ดีทำห้องเองอย่างง่ายๆภายในห้องพักของตนเองดีกว่า อย่างน้อยก็สะดวกและส่วนตัวกว่าอีกด้วย คนร่างหนานำภาพที่ต้นเพิ่งจะถ่ายมาได้วันนี้วางลงในอ่างแล้วเทน้ำยาลงไป ยังไม่ทันจะได้ปิดฝาขวดของมันดี เสียงโทรศัพท์มือถือซึ่งวางไว้ที่เตียงด้านนอกก็ส่งเสียงเรียกเขา
    "ว่าไงครับไทจิซัง" จินเอ่ยถามปลายสายเมื่อเห็นเบอร์ที่ขึ้นโชว์ก่อนจะรับสาย
    "ช่วยหน่อยสิจิน" ไทจิเอ่ยบอกน้ำเสียงฟังดูเกรงอกเกรงใจเขามาก
    "พอดีฉันต้องไปโอซาก้าด่วนนะ" ไทจิบอก
    "ให้ผมเฝ้าร้านให้เหรอ วันไหนล่ะครับ" จินเอ่ยถาม
    "พรุ่งนี้" ไทจิบอก
    "พรุ่งนี้เหรอฮะ" จินถามย้ำแล้วมองไปยังปฏิทินที่ตั้งอยู่บนโต๊ะหนังสือไม่ห่างจากเตียง "พรุ่งนี้ผมไม่มีเรียนไม่มีปัญหา แต่ถ้ามะรืนนี้คงไม่ได้"
    "อ้าว จะไปไหนล่ะ ต้องไปถ่ายรูปส่งอาจารย์อีกเหรอ" ไทจิถามกลับ

    "ไม่ใช่หรอกฮะ ว่าจะไปตามถ่ายรูปนากามารุคุงเสียหน่อย" จินตอบตามความเป็นจริง
    "เออ พูดถึงนากามารุคุง ก่อนหน้านี้สักชั่วโมงฉันเพิ่งจะเอารูปของนายลงออคชั่นไปเอง ปิดออคพรุ่งนี้ตอนบ่ายสามยังไงก็ฝากดูด้วยนะ ถ้าใกล้เวลาปิดออคชั่นแล้วลงไปปั่นราคาด้วยก็ได้" ไทจิสั่งในที
    "ได้ครับเรื่องนี้ไม่มีปัญหา" จินตอบ
    "ขอบใจมากนะ พรุ่งนี้ฝากด้วยนะ" ไทจิไหว้วานก่อนจะวางสายลง
    จินกดวางสายแล้วเดินเข้าไปทำงานของตนให้ห้องมืดต่อ
    ********************************
    คนร่างบางนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ดูหน้าเวบออคชั่นที่เขาเข้ามาเล่นทุกวัน มองดูหน้าเพจสินค้าที่ตัวเองลงราคาไว้เสียสูง จ้องมองเวลาที่จอคอมฯก่อนจะยิ้มร่าออกมา
    "รู้จักท่านคาซึยะน้อยไปเสียแล้ว ให้รู้เสียมั่งไม่มีอะไรที่ฉันอยากได้แล้วจะไม่ได้" ร่างบางกอดอกเปรยกับตนเองอย่างภาคภูมิใจ
    "คุณหนูคะ" เสียงแม่บ้านดังขึ้นจากหน้าประตูห้อง "สองทุ่มแล้วนะคะ อาหารเย็นยังไม่ได้"
    "ไม่กินแล้ว" ร่างบางชิงตอบก่อนที่แม่บ้านจะพูดจบ "แล้วก็ไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก ฉันต้องการความเป็นส่วนตัว"
    "คะ คุณหนู" แม่บ้านรับคำแล้วเดินออกไปจากบริเวณหน้าห้อง
    ร่างบางจ้องมองนาฬิกาที่จอคอมฯให้แน่ใจอีกครั้งก่อนจะกระโดดตัวลอย "เย้!!! ในที่สุดโปสเตอร์ของยูอิจิเมื่อปีที่แล้วก็เป็นของฉัน" สิ้นคำเอ่ยอย่างดีใจเข้าก็ได้รับเมลล์ยืนยันจากเจ้าของสินค้าว่าตนเองเป็นผู้ประมูลของสิ่งนั้นได้จริงๆ
    "ดูสิ มีอะไรที่เป็นของยูอิจิแล้วฉันยังไม่มีอีก" ร่างบางถามตนเองแล้วรีเฟรชหน้าล่าสุดอีกครั้ง "อ๊ะ รูปปาปารัซซี่ของยูอิจินี่ ต้องเป็นรูปเซทเดียวกับที่เพิ่งซื้อมาจากร้านของไทจิซังแน่ๆ ภาพที่ถ่ายออกมาให้ความรู้สึกเดียวกันแบบนี้" ไม่รีรอร่างบางรีบคลิกเข้าไปดูทันที "ใช่จริงๆด้วย ไทจิซังนี่จริงเลย เก็บรูปดีๆเอาไว้ปั่นราคาทุกทีเลย" เอ่ยบ่นแต่ก็ลงราคาให้เสียสูงเชียว "คืนนี้ไม่ต้องนอน เฝ้าออคชั่นมันนี่แหละว่ะ" คำปฏิญาณของคาเมะนาชิ คาซึยะ ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เดินไปเปิดแผ่นรายการที่ยูอิจิไปออกเมื่ออาทิตย์ก่อน ซึ่งเขาจะต้องดูก่อนนอนทุกคืนนับจากวันที่ถ่ายทอดรายการ และเขาก็ผล่อยหลับไปโดยที่ทั้งคอมพิวเตอร์และทีวีก็ยังคงเปิดทิ้งไว้

    อ๊าค!!!!!ร่างบางร้องลั่นบ้าน เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาก็ตรงรี่ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์เข้าไปยังเวบออคชั่นที่ตัวเองลงราคาประมูลไว้เมื่อคืน
    ใครกัน กล้าดียังไงเนี่ย ท้าทายท่านคาซึยะมากไปแล้วนะร่างบางหงุดหงิดก็ตอนนี้มีคนให้ราคามากกว่าเขาไปแล้วนะสิ ปิดออคชั่นบ่ายสามใช่ไหม ได้เดี๋ยวเจอกันกล่าวกับหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วเดินไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ ไม่นานนักเขาก็กลับมานั่งเฝ้าที่หน้าจอคอมฯอยู่อย่างนั้นไม่ไปไหนเลย
    คาซึยะล่ะหญิงวัยกลางคนเอ่ยถามกับสาวใช้ในบ้านก่อนที่หล่อนจะหันไปกำชับคนรถที่กำลังลากกระเป๋าเดินทางของเธอออกไปเบาๆล่ะ ในนั้นมีน้ำหอมของฉันหลายขวด
    ครับคุณผู้หญิงคนขับรถรับคำแล้วเดินออกไป
    คาซึยะยังไม่ตื่นอีกเหรอนายหญิงของบ้านเอ่ยถามสาวใช้คนเดิมอีกครั้ง
    ยังไม่ออกจากห้องตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นแล้วคะคุณผู้หญิงสาวใช้ตอบ
    อะไรกับลูกคนนี้ แม่จะเดินทางไปเยี่ยมพ่อตัวเองที่ต่างประเทศไม่คิดจะไปส่งที่แอร์พอตเลยหรือยังไงหล่อนบ่นให้สาวใช้ฟัง หยิบโทรศัพท์มาให้ฉันทีสิ
    สาวใช้รับคำสั่งเสร็จก็เดินไปหยิบโทรศัพท์ไร้สายยื่นส่งให้นายหญิงของตน หล่อนรับสายก่อนจะกดหมายเลขโทรอออก
    ใครว่ะโทรมาแต่เช้าร่างบางถามตนเองก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือซึ่งอยู่ใกล้ตัวขึ้นมา แม่~~” เอ่ยขึ้นก่อนจะนึกอะไรบางอย่างออก เขาปล่อยให้โทรศัพท์ดังอยู่อย่างนั้นอีกพักหนึ่งก่อนจะกระแอมแล้วกดรับสาย
    คาซึยะครับ~~~” กรอกเสียงตัวเองออกไปด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
    ปลายสายที่ได้ยินก็ถามด้วยความเป็นห่วงทันที เป็นอะไรหรือเปล่าลูก
    แม่เหรอฮะ ท่าทางผมจะไม่สบาย ปวดหัวจังเลยฮะแม่ ผมคงไปส่งแม่ไม่ไหวแม่ไม่โกรธใช่ไหมฮะร่างบางถามมารดา
    ไปหาหมอดีกว่าลูก เดี๋ยวแม่เลื่อนไฟล์ที่จะบินไปหาพ่อก็ได้แม่ของเขาบอกด้วยความเป็นห่วงในตัวลูกชายคนเดียวของหล่อน
    ม่ะ...ไม่เป็นไรฮะแม่ ผมดูแลตัวเองได้ แม่อย่าลำบากเลยฮะร่างบางปฏิเสธ

    ถ้าอย่างนั้น แม่จะบอกให้แม่บ้านโทรไปให้คุณหมอมาตรวจอาการของลูกที่บ้านนะหล่อนบอกลูกชาย
    ครับแม่~~~ แม่เดินทางดีๆนะฮะ ฝากบอกพ่อด้วยว่าผมคิดถึงร่างบางกล่าว
    จ้าลูก ดูแลตัวเองดีๆนะ แม่ไปถึงแล้วจะโทรมาบอก อีกเดือนหนึ่งเจอกันนะลูกหล่อนบอก
    ครับแม่ รักแม่นะครับร่างบางเอ่ยกับมารดา
    เช่นกันจ้าแม่บอกกับเขาก่อนจะวางสายแล้วส่งให้สาวใช้บอกแม่บ้านให้โทรไปนัดคุณหมอมาดูอาการคุณหนูด้วย
    คะสาวใช้รับคำ ก่อนจะย่อตัวลงเป็นการส่งนายหญิงที่กำลังเดินออกจากบ้านไป ยังไม่ทันที่เธอจะเดินไปวางโทรศัพท์ที่แท่นชาร์ตของมัน เสียงสัญญาณก็ดังขึ้น เธอกดรับสายทันที
    ไม่ต้องบอกแม่บ้านนะ ฉันไม่ได้เป็นอะไร อ่อ เอาอาหารเช้ามาให้ฉันข้างบนด้วยร่างบางผู้ซึ่งเป็นคุณหนูของบ้านหลังนี้บอกกับสาวใช้แล้ววางสายลง สาวใช้ส่ายหน้าอย่างรู้สึกเอือมกับนิสัยของนายน้อยตนเอง แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อพ่อแม่ของร่างบางยังไม่ว่าอะไร แล้วเธอเป็นแค่สาวใช้จะทำอะไรได้นอกจากจะทำตามคำสั่งที่บัญชาเท่านั้น
    ***************************************
    ขอบคุณนะครับจินเอ่ยบอกแล้วยิ้มให้กับลูกค้าวัยประถมศึกษาตอนปลายซึ่งรูปทุกใบที่สาวน้อยซื้อ เป็นรูปที่มาจากฝีมือการถ่ายของเขาทั้งสิ้น
    แล้วพี่ชายจะมีรูปพี่ยูอิจิใหม่ๆอีกเมื่อไหร่คะเด็กหญิงเอ่ยถาม
    อีกวันสองวันมาดูใหม่นะคะจินเอ่ยตอบเด็กหญิง
    เด็กหญิงพนักหน้าแล้วโบกมือลาให้ จินโบกมือลาตอบมองส่งร่างเล็กๆที่มากับมารดาออกไปจากร้าน
    หลอกเด็กแล้วเว้ยไอ้ยูอิจิจินเปรยเบาๆกับตนเอง ก่อนจะส่งเสียงเอ่ยทักทายลูกค้าสาวกลุ่มใหญ่ที่เข้ามาในร้านอีก ยินดีต้อนรับครับ
    ขอดูรูปยูอิจิที่มาใหม่นะคะลูกค้าสาวเอ่ยบอก
    จินชี้ไปทางมุมหนึ่งของร้านตรงนั้นครับ มาใหม่ล่าสุดเลย
    หญิงสาวค้อมศีรษะให้ก่อนจะเดินไปดูรูปแล้วส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดเมื่อได้เห็นรูปไอดอลชื่อดังในตอนนี้กับภาพอิริยาบทอันสบายๆที่หาดูไม่ค่อยได้ง่ายนัก จินมองภาพสาวๆที่ชื่นชมกับคนในรูปนั้น ถ้าคนพวกเธอรู้ว่าเขาเองเป็นคนถ่ายภาพพวกนั้นแถมยังเป็นเพื่อนกับคนในรูปจะว่ายังไงนะ

    แค่นึกเล่นๆแต่อย่าให้มีใครได้รู้จริงๆเลยเขาไม่อยากทำให้เพื่อนรักต้องลำบาก เพราะกว่าที่เพื่อนเขาจะมีวันนี้ได้ต้องฝ่าฟันมามากขนาดไหน เขาเองแม้ไม่ได้มีส่วนร่วมในความยากเย็นนั้นแต่เขาก็รับรู้ถึงความลำบากของเพื่อนยามถ่ายทอดเป็นคำพูดซึ่งมักโทรมาระบายความอัดอั้นบ่อยๆในยามที่ไม่สามารถพบเจอกันได้
    อ๊ะ!!! จะบ่ายสามแล้วนี่หว่าจินนึกขึ้นได้เมื่อเหลือบไปเห็นนาฬิกาที่ตั้งอยู่ตรงเคาน์เตอร์ เขารีบเปิดเครื่องโน้ตบุ๊คของร้านที่วางอยู่ด้านในเค้าน์เตอร์แล้วจัดการต่อระบบอินเตอร์เนททันทีโอโห้!!! ได้ราคาสูงขนาดนี้เลยเหรอจินมองดูราคาล่าสุดสำหรับรูปที่ไทจิลงไว้เมื่อคืนกับเวลาที่เหลือไม่ถึงหนึ่งนาทีดีนักขอลงปั่นราคานิดหน่อยแล้วกัน สี่รูปสามพันเยนคงไม่แพงเกินไปใช่ไหมเนี่ยะเอ่ยถามตนเองก่อนจะจัดการลงปั่นราคากับเวลาที่เหลือน้อยนิด
    คิดเงินด้วยคะลูกค้าสาม-สี่คนยืนอออยู่ตรงเคาน์เตอร์
    จินหันกลับมามองแล้วยิ้มให้ก่อนจะรีบพิมพ์จำนวนเงินที่ลงปั่นราคาแล้วกดเอ็นเทอร์ทันทีขอโทษที่ให้รอนะครับ ทั้งหมดนี้ใช่ไหมครับเขาเอ่ยถามลูกค้าก่อนจะนับรูปที่กองไว้อย่างใช้สมาธิ
    เฮ้ย!!!! จะบ้าหรือไง ใครว่ะลงมาได้สามหมื่นร่างบางที่เพิ่งจะรีเฟรชหน้าเวบเพจร้องลั่นยูอิจิสี่ใบสามหมื่นเนี่ยนะ แม่เจ้า!!!!! แต่ว่ารูปมันสวยนี่หน่า อยากได้โว๊ย!!!!บ่นอุบก่อนจะเปิดกระเป๋าสตางค์ตัวเองมองดูเงินสดที่มีอยู่ เอาว่ะ รูปออกมาสวยแบบนี้ยังไงก็คุ้มร่างบางตัดสินใจเพิ่มราคาลงไปก่อนที่เวลาจะหมดลงเพียง5วินาที
    ขอบคุณมากครับจินเอ่ยบอกกับลูกค้าที่ซื้อรูป ก่อนจะมองไปยังนาฬิกาเรือนเดิม บ่ายสามห้านาทีเอ่ยเสร็จก็กลับไปให้ความสนใจกับหน้าจอโน้ตบุคที่ดูค้างไว้เมื่อสักครู่นี้เฮ้ย!!!!เขาร้องลั่นเมื่อเห็นราคาที่ตัวเองเป็นคนลงปั่นเมื่อสักครู่แล้วซวยแล้วไหมล่ะไอ้จินไม่ดูให้ดีก่อน ลงเลขศูนย์เกินไปตัวหนึ่งแล้วใครที่ไหนจะกล้าลงสู้ว่ะเขากล่าวอย่างปลงๆ ยกมือขึ้นไหว้ ขอโทษครับไทจิซังเสียงเมล์ลที่ส่งมาดังขึ้น เขาวางมือลงแล้วกดรับมันทันที

    ทำไมแพงจังไทจิซัง แต่ว่ายังไงก็ได้ใช่ไหมสามหมื่นกับหนึ่งเยนเนี่ย ตอบเมล์ลด่วนเลยนะ รออยู่...คาเมะจังจินอ่านข้อความในเมล์ลที่เพิ่งกดรับเมื่อสักครู่ มีคนแบบนี้ด้วยเหรอเอ่ยเสร็จก็รีเฟรชหน้าจอ ใช่จริงๆด้วยมีคนให้ราคาสามหมื่นกับอีกหนึ่งเยนก่อนจะปิดออคชั่นเพียง5วินาที
    คาเมะจังได้นะ ถ้าอย่างนั้นไม่คิดค่าส่งแล้วกัน ยังไงก็เมล์ลที่อยู่กลับมาด้วยนะจินพิมพ์ข้อความส่งตอบกลับไป
    ไทจิซังแก่แล้วชักจะเพี้ยนใหญ่คาซึยะกล่าวเมื่ออ่านข้อความจบอะไรกันไทจิซัง ปกติผมไปรับเองที่ร้านนะ หรือว่าไทจิซังไม่สะดวกถ้าอย่างนั้นผมไปรับรูปวันอื่นก็ได้นะร่างบางพิมพ์ข้อความถามกลับ
    ขอโทษนะ พอดีไทจิซังไม่อยู่ผมเลยดูแลที่ร้านชั่วคราว คุณจะมารับรูปที่ร้านวันนี้เลยก็ได้ถ้าคุณสะดวกนะจินตอบข้อความกลับไป
    ร่างบางยิ้มกว้างก่อนจะปิดเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วเดินออกจากห้องไป
    คุณหนูคาซึยะ โทรศัพท์คะสาวใช้ในบ้านเอ่ยเมื่อร่างบางกำลังจะเดินผ่านและออกนอกประตูบ้านไป
    ใครร่างบางถามกลับ
    บอกว่าเป็นเพื่อนที่ชอบนากามารุคุงเหมือนกันนะคะสาวใช้ตอบ
    ร่างบางเดินไปรับสาย มีอะไรเหรอริเอะจัง ถ้าจะโทรมาเรื่องที่ฉันออครูปยูอิจิได้ตัดหน้าเธอล่ะก็เสียใจด้วยนะ ของแบบนี้ใครดีใครได้
    ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกน่า สามหมื่นใครจะสู้ไหวริเอะจังเพื่อนที่รู้จักเมื่อสองเดือนก่อนเพราะจับพลัดจับพรูไปตามยูอิจิด้วยกันเอ่ยบอก
    ถ้าอย่างนั้นมีอะไร ฉันจะรีบไปรับยูอิจิกลับบ้านร่างบางบอก
    ยูอิจิในแผ่นกระดาษนั่นนะช่างก่อนเถอะ ตอนนี้ยูอิจิตัวจริงๆมากินข้าวที่ร้านอาหารแถวบ้านฉัน ยังไม่มีใครรู้เท่าไหร่เธอจะรีบตามมาไหมริเอะจังบอก
    ไปๆ บ้านเธออยู่ที่ไหนร่างบางเร่งเร้า อ้อ ได้ๆครึ่งชั่วโมงน่าจะถึง อย่าเพิ่งไปบอกใครนะเดี๋ยวคนตามเยอะเอ่ยกำชับทันที

    อยู่แล้ว โอกาสดีๆแบบนี้หายาก รีบๆมานะฉันนั่งรออยู่ในร้านโต๊ะไม่ไกลกับโต๊ะของยูอิจิ เห็นชัดมากๆ
    ริเอะพูดยั่วทำเอาร่างบางที่ได้ฟังอยากติดปีกบินไปเสียตอนนั้นเลย
    อือๆ เดี๋ยวเจอกันร่างบางบอกแล้ววางสายก่อนจะรีบวิ่งออกจากบ้านไปทันที
    *************************
    จินมองนาฬิกาเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ตอนนี้มันบอกเวลาว่าสองทุ่มแล้วความจริงก็เลยเวลาปิดร้านมาได้ชั่วโมงพอดี แต่เขาก็ยังคงเปิดรอไว้เสียอย่างนั้นเพราะคิดว่าคนที่บอกว่าจะมารับรูปที่เขาถ่ายจะมา อยากจะเห็นหน้าจังคนที่กล้าซื้อรูปที่เขาถ่ายเพียงสี่ใบด้วยราคาหลายหมื่น ถึงแม้จะรู้ว่าที่ซื้อเพราะรูปนั้นเป็นรูปของยูอิจิไม่ได้ซื้อเพราะเป็นฝีมือการถ่ายภาพของเขาหรอก แต่ถึงอย่างนั้นก็อยากจะได้เห็นคนคนนั้นสักครั้ง เท่าที่เห็นคนมาซื้อรูปของยูอิจิส่วนใหญ่ก็หน้าตาใช้ได้ หมดนี่มีแฟนคลับหน้าตาดีเยอะเหมือนกันแหะ แล้วคนนี้ล่ะจะน่ารักไหมนะ ผมจะสั้นหรือว่าจะยาว ถ้าเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆบางๆ ผิวขาวๆ เหมือน...เหมือนคนนั้นก็ดีเหมือนกันนะ จินนึกในใจพลางท้าวคางมองไปยังคนที่วิ่งกระหืดกระหอบจากทางเดินเท้าของฝั่งตรงข้าม วิ่งข้ามทางเดินเมนหลักที่กั้นระหว่างร้านรวงสองฝั่ง ก่อนจะวิ่งตรงเข้ามายังร้านที่เขานั่งทอดอารมณ์มองคนร่างบางที่เมื่อวิ่งเข้ามาใกล้เท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกคุ้นตามากขึ้นยิ่งนัก

    แฮ่ก แฮ่กร่างบางมาหยุดยืนหอบอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์ซึ่งจินนั่งอยู่ด้านใน
    จินลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วมองไปยังร่างที่หายใจแรงเพราะความเหนื่อยนั่นมีอะไรให้ช่วยไหมครับ
    ร่างบางมองหน้าคนถามอย่างตั้งใจ อ๊ะ~~~”
    อ้าว คุณคนเมื่อวานจินเอ่ยทักเมื่อนึกขึ้นได้แล้วว่าร่างบางตรงหน้าคือคนเดียวกับที่เขาเดินชนเมื่อวานที่หน้าร้านนี่เอง
    จำได้ด้วยเหรอฮะร่างบางถามกลับก่อนค้อมศีรษะให้ ขอโทษที่มาช้านะฮะ แล้วก็ขอบคุณที่ยังเปิดร้านรอ
    เอ๋!!!!จินส่งเสียงออกมาอย่างงุนงง
    คุณคงเป็นคนที่มาเฝ้าร้านแทนไทจิใช่ไหม ผมเป็นคนที่ออครูปของยูอิจิได้ไงฮะร่างบางชี้แจง
    จินมองคนตรงหน้าอย่างตกใจ ร่างบางเห็นสายตานั่นเขาก็เปลี่ยนสีหน้าและน้ำเสียงทันที
    ทำไมเหรอ คนอย่างฉันชอบยูอิจิไม่ได้หรือไงร่างบางถามกลับเสียงห้วน
    เปล่าครับ ไม่ใช่อย่างนั้นจินปฏิเสธ
    ไม่ต้องโกหก สายตานายมันฟ้องร่างบางสวน
    ผมแค่แปลกใจเท่านั้นจินตอบก่อนจะหยิบรูปของยูอิจิที่เขาวางไว้ตรงชั้นวางของด้านในออกมา
    ร่างบางรับรูปแล้วดูอย่างชื่นชม จินมองอย่างไม่ได้รู้สึกอะไรก็วันทั้งวันเขาเห็นลูกค้าที่เข้ามาในร้านก็ยิ้มคล้ายกันอย่างนี้เมื่อเห็นรูปไอดอลที่ตนเองชื่นชอบ
    รูปสวยเน๊อะร่างบางบอกแล้ววางรูปไว้บนเคาน์เตอร์ให้จินดู
    ครับ นากามารุ ยูอิจิ เขาหล่อจินตอบ
    ร่างบางเงยหน้ามาสบตาอันนั้นมันของแน่อยู่แล้วความหล่อของยูอิจินะ แต่ที่ฉันให้นายดูคือองค์ประกอบของภาพต่างหาก ถึงฉันจะไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับภาพลึกซึ้งนะ แต่ว่าปาปารัซซี่ที่ถ่ายรูปยูอิจิคนนี้นะ ให้ความสำคัญกับองค์ประกอบเหล่านี้ ไม่ใช่สักแต่ว่าถ่ายๆเพราะไม่ว่ายังไงยูอิจิก็ขายได้ต่างหาก
    จินได้ยินคำจากร่างบางก็ยิ้มร่าออกมา ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีคนเห็นคุณค่าของเนื้องานแบบนี้นอกเสียจากว่าเห็นเป็นหน้าคนที่ตัวเองชอบชัดๆเต็มใบก็พอเสียอีกขอบคุณครับ

    ขอบคุณอะไรร่างบางเอียงคอถามอย่างสงสัย
    เอ่อ....อ่อ ก็ขอบคุณที่คุณยอมเสียเงินมาออครูปพวกนี้สิครับจินตอบ
    จะพลาดได้ไงล่ะ รูปสวยแบบนี้ร่างบางตอบแล้วยื่นเงินส่งให้
    จินรับเงินมานับก่อนจะคืนเงินทีเหลือให้ เขาเก็บเอาไว้เพียงสามพันเยนเท่านั้น
    ทำไมล่ะร่างบางถามกลับ
    พอดีมันเป็นความผิดพลาดของผมเองที่ลงเลขศูนย์เกินไปหนึ่งตัวจินบอกความผิดพลาดของตนเมื่อตอนบ่าย
    มิน่าละ ฉันก็ว่าทำไมถึงแพงจัง แต่ว่าถ้าได้รูปสวยๆแบบนี้สามหมื่นฉันก็ยอมจ่ายนะร่างบางบอกตามความเป็นจริง
    รูปของยูอิจิเซทนี้ สวยจริงเหรอครับจินถาม
    สวย ก่อนหน้านี้ก็สวย ฉันนะเพิ่งจะมาชอบยูอิจิได้เมื่อสามเดือนก่อนนี่เองดังนั้นฉันก็เลยต้องตามเก็บของยูอิจิทุกอย่างที่เดบิวมาแล้วสองปี ไม่อยากจะคุยนะตอนนี้ฉันตามเก็บมาจวนจะครบหมดแล้วล่ะ แต่ว่าก็ไม่เคยถูกใจรูปปาปารัซซี่ของยูอิจิเท่าที่ร้านของไทจิได้มาเลยร่างบางตอบก่อนจะมองไปรอบๆร้านรูปของนักร้องคนนั้นก็ด้วยถึงจะถูกแอบถ่ายตอนเพิ่งออกจากร้านอาหารแต่ก็รู้สึกว่าเป็นรูปที่สวยมากเลย
    จินหันไปมองตาม รูปที่ร่างบางบอกกับเขาก็คือรูปที่เขาไปแอบถ่ายดาราชื่อดังคนหนึ่งเมื่อหลายวันก่อน รู้สึกอิ่มเอมใจลึกๆเมื่อมีคนเห็นความตั้งใจในชิ้นงานที่เขาทำ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงรูปปาปารัซซี่ที่คนซื้อไม่ได้สนใจอะไรมากมาย หากมีแค่หน้าศิลปินในช่วงเวลาที่ไม่สามารถได้เห็นง่ายๆตามหน้าจอทีวีก็เป็นพอ
    ว่าแล้วก็เอามาทั้งเซทนั้นแล้วกัน มีอยู่7ใบใช่ไหมร่างบางถามพลางนับด้วยสายตา
    คุณชอบคนนั้นด้วยเหรอจินถามกลับ
    เปล่าไม่ได้ชอบ แต่ชอบภาพเซทนั้นต่างหากร่างบางหันหน้ามาบอก
    มันหมดไปแล้วตั้งแต่วานก่อนนะครับจินตอบ
    แล้วจะทำมาอีกไหมร่างบางถาม

    ไม่ทราบเหมือนกันครับ ถ้าทำก็คงอีกหลายวันจินตอบตามความจริง
    อย่างนั้นเหรอ~~~” ร่างบางกล่าวอย่างเสียดาย
    จินมองหน้าผิดหวังนิดๆนั่นก่อนจะเดินออกมาจกาเค้าน์เตอร์แล้วเอื้อมมือไปหยิบภาพเซทดังกล่าวที่แปะไว้ให้ลูกค้าดู ก่อนที่จะยื่นให้ร่างบาง ผมให้คุณ
    ร่างบางมองหน้าจินอย่างตกใจ ให้ฉันเหรอ แล้วไทจิซังไม่ว่านายหรือไง
    คิดว่าไม่หรอกจินตอบยิ้มๆ
    แน่ใจนะ ว่านายจะไม่ลำบากเพราะฉันทีหลังร่างบางถามย้ำ
    จินพยักหน้าหนักแน่นแล้วยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ร่างบางยิ้มกว้างให้เป็นการขอบคุณแล้วยื่นมือออกไปรับ
    นายนี่ใจดีจังแหะ ขอโทษนะที่เมื่อกี้ทำเสียงไม่ดีใส่นายร่างบางบอกเสียงอ่อนลง
    ไม่เห็นไรหรอกเรื่องแค่นี้เอง อีกอย่างเมื่อครู่ผมก็ทำท่าทางแปลกๆใส่คุณก่อนจินตอบกลับ
    ความจริงฉันก็ไม่น่าโมโหนายเลย น่าจะชินแล้วกับการที่มีคนมองฉันแบบนี้เมื่อรู้ว่าฉันชอบยูอิจิร่างบางแจง
    ถ้ายูอิจิรู้คงดีใจนะ ที่มีแฟนคลับแบบคุณจินกล่าว
    นั่นสิ เสียดายที่ไม่รู้สักทีร่างบางตอบ นายชื่ออะไรนะ ฉันคาเมะนาชิ คาซึยะร่างบางแนะนำตัว
    ผมอาคานิชิ จินจินตอบแล้วยิ้มให้
    ดีเลยจิน ฉันกำลังหาเพื่อนคุย นายอยากรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงมาช้าเอาแบบย่อๆนะ เพื่อนฉันโทรมาบอกว่าเจอยูอิจิที่ร้านอาหารฉันก็ตามไป แต่พอไปถึงยูอิจิก็กลับไปแล้วสวนกันเดี๋ยวเดียวเอง ฉันกับเพื่อนก็เลยตัดสินใจตาม ตามๆๆและตาม สุดท้ายก็หลงไม่เจอ จนป่านนี้แหละร่างบางร่ายยาว
    จินมองร่างบางตรงหน้าที่พูดเป็นชุดอย่างไม่พักหายใจ ครับ เลยมาช้า
    ใช่แล้ว ขอโทษอีกทีนะนายเลยลำบากร่างบางกล่าวแล้วค้อมศีรษะให้
    ไม่เป็นไรครับจินตอบอย่างไม่ได้รู้สึกลำบากจริงๆ
    ร่างบาองมองทั่วร้านก่อนจะหันกลับมาถามจิน จะปิดร้านหรือยัง
    ครับๆ กำลังจะปิดจินตอบแล้วเดินกลับไปในเคาน์เตอร์ ปิดลิ้นชักที่ใส่เงินแล้วก็หยิบกระเป๋าเป้ของตนขึ้นสะพายก่อนเดินออกมาด้านนอก
    บ้านนายอยู่ไหนนะร่างบางถาม
    ผมอยู่หอพักนักศึกษาแถวๆอิเคบุคุโระจินบอก
    ดีเลยได้มีเพื่อนนั่งรถไฟกลับบ้าน บ้านฉันเลยบ้านนายไปอีกไกลเลยแหละร่างบางบอกแล้วเดินนำออกไปด้านนอก ยืนรอจินที่กำลังปิดประตูร้านเมื่อเห็นว่าเสร็จเรียบร้อยก็ชวนจินเดินคุยไปตลอดทาง

    เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นเมื่อจินลงที่สถานีอิเคบุคุโระ มองหมายเลขที่ขึ้นโชว์ก็นึกโล่งใจที่คนโทรมาได้จังหวะพอดี เพราะขืนโทรมาก่อนหน้านี้เขาเองคงจะสนทนากับปลายสายไม่สะดวกแน่ๆ ก็เขานั่งฟังแฟน
    คลับของนากามารุ ยูอิจิ ที่พูดถึงศิลปินที่ชอบมาตลอดทางนะสิ
    เฮ้ยไอ้จิน พรุ่งนี้อย่าลืมนะเว้ยยูอิจิโทรมาย้ำเตือน
    อืมไม่ลืม ว่าแต่...เป็นไงวันนี้หนีแฟนคลับ อุตส่าห์หนีไปหาข้าวกินที่ไกลหูไกลตายังมีคนเจอจนได้จินถามกลับเพื่อนรัก
    รู้ได้ไงว่ะยูอิจิถามด้วยความสงสัย
    แฟนคลับนายเล่าให้ฉันฟังนะสิจินตอบพลางนึกหน้าคนร่างบางที่เล่าเหตุการณ์ที่ตามล่าเพื่อนเขาอย่างออกรสจนเผลอหัวเราะออกมา
    ขำอะไรของนายว่ะ เพื่อนจะถูกผู้หญิงลากไปข่มขืนอยู่รอมร่อยูอิจิบ่น
    เอาน่า ไงก็คงไม่เป็นอะไรหรอก เพราะคงมีคนช่วยปกป้องนายได้อยู่แล้วล่ะจินตอบเสียงกลั้วหัวเราะ
    อะไรว่ะไอ้จิน พูดจาแปลกๆแต่ก็ช่างเถอะ ฉันไปนอนก่อนนะเว้ยนานๆจะได้นอนแต่หัววันยูอิจิเอ่ยลาแล้ววางสายทันที
    จินเดินอมยิ้มไปตลอดทางเมื่อนึกถึงหน้าตาและท่าทางของคนร่างบางที่เป็นแฟนคลับตัวยงของเพื่อนตัวเอง ถึงแม้ว่าตลอดทางจะพูดถึงแต่เรื่องของยูอิจิก็ตามที เขาก็ยังเต็มใจรับฟังเพราะหนึ่งในประโยคที่ชื่นชมยูอิจินั้นก็ยังกล่าวถึงคุณค่าในภาพถ่ายของตน แม้มันจะเป็นเพียงองค์ประกอบเล็กๆที่คนมองข้าม แต่ร่างบางกลับตอกย้ำให้เขารู้ว่ายังคงมีคนเห็นค่าของมันนอกเหนือจากหน้าตาของไอดอลที่ปรากฎอยู่บนแผ่นกระดาษ ไอดอลที่ชื่อ นากามารุ ยูอิจิ เพื่อนรักของเขาเอง
    *********************************************
    to l3e con .....
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×