คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : กระบองห้องเกษตร
ตีห้าครึ่ง..บัดนี้ดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าน่านน้ำอันกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาขึ้นมาเต็มดวงแล้ว..
มิคาสึกิ หรือเจ้ามิกของเราวางซากจักรยานไว้หน้าห้องประจำชั้น ห้อง ม.สาม-จัสมิน (มันก็มะลิไม่ใช่เรอะ) แล้วเดินเข้าไปในห้องซึ่งมีโต๊ะนักเรียนเรียงเป็นระเบียบอยู่ภายใน.. มิกเดินไปวางกระเป๋าตรงโต๊ะติดหน้าต่างริมซ้ายของห้อง ซึ่งเป็นโต๊ะที่สองของแถวถ้านับจากโต๊ะหลังมา
พอหมดเป้าหมาย(จองโต๊ะ)แล้ว มิกก็เดินออกมาแบก ซากจักรยานออกจากอาคารไปทั้งๆที่ยังหอบอยู่ไม่หาย ..เดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาวางตรงหน้าห้องเล็กๆ ที่ล้อมรอบไปด้วยแปลงผัก มีป้ายทำจากกระดาษแข็งที่ถูกแปะอย่างลวกๆ ไว้เหนือประตูทางเข้า ถูกเขียนด้วยปากกาเมจิค และ ลายมือที่พยายามจะบรรจงแต่ไม่สำเร็จ
" ชมรมพลอง / กระบอง "
มิกหยิบกุญแจในกระเป๋ากางเกงออกมาไขประตูห้องชมรมแล้วเข้าไปหยิบกล่องอุปกรณ์ซ่อมออกมาซ่อมจักรยาน ..ถึงจะบอกว่าเป็นซากแต่จริงๆ มันก็แค่ส่วนล้อหลัง โซ่ เบาะนั่งท้าย และแฮนเดิ้ลหลุดออกมาเท่านั้นเอง (แค่?)
สำหรับเจ้านี่แล้ว การซ่อมจักรยานมันก็เป็นเพียงเรื่องปกติที่เกิดขึ้นเฉลี่ยวันเว้นวันเท่านั้น..
---
ต่อมา...คู่กรณีอุบัติเหตุก็แบกซากจักรยานสีดำเดินเข้ามาวางในบริเวณใกล้เคียงกัน แล้วมิกก็เริ่มทักทาย
"โย่..มิยะ ..ไม่ได้เจอกันซะนาน"
มิยาซากิทักตอบ
"ฮายมิก เออเมื่อเช้าเพิ่งเจอกันไม่ใช่เรอะ"
มิก"อ้าวเหรอ..ลืมไปแล้ว"
เวรกรรม นี่มันคิดว่ามันต้องนั่งซ่อมจักรยานเพราะดันไปชนกับใครเล่าหา
มิยะ "เออนี่.. ปีนี้นายอยู่ห้องไหนหนะ "
มิก "ห้องจัสเตอร์รึอะไรซักอย่างนี่แหละมั้ง จำได้ว่ามัน จั๊ดๆ"
มิยะ "จั๊ดๆ งั้นเหรอ นึกไม่ออกแฮะ แต่ฉันอยู่ห้องทัมโปโปะน่ะ(แดนดีไลออน)"
ไอ้นี่ก็พอกันเลย สายชั้นนึงมันมีแค่สี่ห้องยังจำชื่อห้องกันไม่ครบอีก ทั้งๆ ที่เจ้าพวกนี้ยังไม่ถึงวัยอัลไซเมอร์ แท้ๆ พอดีพวกนี้เป็นพวกไม่ค่อยสนใจอะไรที่ไม่คิดว่าจำเป็นต้องใส่ใจ ตัวไอ้มิกเองยังไม่ค่อยจะจำว่าตัวเองเป็นหญิงเล้ยยยย
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ กับการซ่อมจักรยานของทั้งคู่ จนกระทั่งถึงเวลาเจ็ดโมง แล้วก็มีเด็กชายมอสามอีกคนเดินมายังห้องชมรมกระบอง เขามีผมสีกรมท่ายาวรุงรัง(ชมรมนี้ไม่มีใครหัวเรียบเชื่อเหอะ) ดวงตาสีเงิน
"หวัดดีมิยาซากิ หวัดดีมิคุซากิ โห.. ฉันว่าฉันมาเช้าแล้วนะ พวกนายมากันกี่โมงเนี้ย!! "
แล้วไอสองตัวนั่นก็ตอบพร้อมกัน
"ตีห้า~"
"จำม่ายด้าย~"
แน่นอนว่าคนที่พูดคำตอบอันหลังคือมิกซึ่งชีวิตนี้ไม่คิดจะจำอะไรกับชาวบ้านเขา
แล้วมิยะก้อถามคำถามยอดฮิตวันเปิดเทอม
"อยู่ห้องอะไรน่ะเอฟ"
ใช่..เอฟ ..มันเป็นชื่อที่เรียกกันโดยย่อจากชื่อ เอวาชิ
เออแล้วไอ้นี่แหละที่เที่ยวตั้งชื่อเล่นให้ชาวบ้าน อยางมิคาสึกิก็กลายเป็นมิคุซากิ ส่วนมิยาซากิก็จริงๆ แล้วชื่อมิซากิ (งงใช่ปะ)
"พวงครามว่ะ เออแต่ห้องพวกนายฉันดูมาละไม่ต้องบอก"
นี่สิ คนปกติ นึกว่าจะไม่จำอะไรกันทุกคนซะละ
"พวกเราอยู่คนละห้องกันหมดเลยว่ะ มีไอ้คัตเตอร์กะเรียวแหละ อยู่กาสะลองด้วยกัน"
เอฟตอบพร้อมพูดถึงเพื่อนพ้องอีกสองหน่อที่เหลือ มิกกับมิยะฟังไปซ่อมรถไป พยักหน้าเป็นเชิงว่าฟังอยู่ไปด้วย
แล้วเอฟซึ่งมองเพื่อนซ่อมจักรยานกัน อยู่พักนึงก็ชักเซ็งกะชีวิต
"เว้ย..พอเหอะน่าจักรยานพวกนายมันเจ๊งตลอดเวลาอยู่แล้วไม่ใช่เรอะ ไปซ้อมกันดีกว่าน่า เปิดเทอมทั้งที"
มิสะ "นั่นสิเนาะ.. เปิดเทอมแล้ว.. เมื่อไรจะปิดเทอมอีกว้า..."
มิก"ซ้อมเหรอ ก้อดีนะแต่ว่าสองคนนั่นไม่อยู่ทั้งทีเล่นแคชบอลดีก่า"
เอฟชักเห็นด้วย"จริงด้วยแฮะ ซ้อมทีหลังละกันเนาะ เล่นแคชบอลดีฝ่า"
...
ว่าแล้วทุกคนก็เล่นแคชบอล(เวรกรรม)
..ชมรมกระบอง เทียบกับชมรมอื่นๆแล้วค่อนข้างจะแปลกประหลาดกว่าชาวบ้านอยู่หลายอย่าง มีสมาชิกเพียงห้าคนด้วยเหตุผลบางประการ ไม่มีครูที่ปรึกษาประจำชมรม ชุดชมรมแบบโรงฝึกย้อนยุค ห้องชมรมที่เดิมเป็นห้องเกษตร และอะไรอีกหลายๆ อย่าง ที่น่าแปลกใจ
ความคิดเห็น