คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Kiss No. 5
Kiss No. 5
ร่างทั้งสองที่นั่งอยู่บนเก้าอี้แล้วได้อยู่ต่อหน้าร่างของสาวชรา…
ณ ตอนนี้พวกเขากำลังนั่งจิบชาด้วยกันภายในห้องรับแขกที่ได้เติมตกแต่งด้วยสีสันหลากหลาย ลูกไม้ที่ประดับประดาตกแต่งอย่างสวยงาม แต่พอดูรอบๆกลับทำให้รู้สึกว่ามันอบอุ่นเสียจริง
ช่วงยามบ่ายนี้เหมาะกับการนั่งเล่นสุดๆ แต่ช่วงเที่ยงตรงต่างหากที่เหมาะสำหรับการจิบชาร้อน ไม่รู้ทำไมหญิงชราคนนี้ถึงจัดการชงชาในช่วงบ่ายทั่งๆที่ช่วงตอนเที่ยงเวลาจิบชานั้นจะได้กลิ่นหอมของใบชาเป็นอย่างดีและอีกอย่างได้พักผ่อนเยอะด้วย
สงสัยคงมีเรื่องสำคัญที่ต้องคุย…
ลางสังหรณ์ของดันเต้นั้นจะน่าเชื่อถือได้หรือไม่ก็แล้วแต่คนรอบข้างจะคิด แต่สำหรับเขาเวลาอยู่ต่อหน้าคุณยายก็จะอ่านใจได้เลยว่าจะเริ่มคุยเรื่องอะไรกัน
“เฮ่อ…” เขาที่รอคนตรงหน้าจะเอ่ยพูดก็เริ่มถอนหายใจออกมา เพราะเบื่อในการรอคอย “ถ้าจะกล่าวอะไรก็พูดออกมาเลยครับ คุณยาย”
“แหม…รู้ใจยายจังนะ” เมื่อฟังก็หัวเราะออกมา
“…”
“เรื่องนี้…สำคัญสำหรับพวกเธอสองคนเลยนะ หลานก็คงรู้อะไรหลายๆอย่างแต่…รุ่นพี่ของเธอรู้แล้วรึยัง?” เธอถามพลางกวาดสายตาไปที่คนข้างๆดันเต้
“เล่าไม่ค่อยละเอียดหรอกครับ”
เอาตรงๆเขาเกือบจะเล่าให้ละเอียดมากกว่านี้นะ
“ถ้ายาย…จะขอให้เขาเข้ามาช่วยด้วยล่ะ?”
“…?!”
หลานชายที่ได้ฟังก็ต้องตกใจที่จู่ๆคนคนนี้พูดออกมาโดยที่รุ่นพี่เขาก็ไม่รู้อะไรมากมาย แถมอีกอย่างเขาก็ไม่อยากให้คนภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องแต่งงาน ระหว่างที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียดก็ได้มีบุคคลคนหนึ่งเข้ามาขัดจังหวะบรรยากาศนี้
ปัง…!!
“ขอเสียมารยาทค่ะ!!”
การเข้ามาขัดจังหวะของหญิงสาวสุดเซ็กซี่ สวย และยังเป็นนางแบบ หญิงคนนี้ที่ฮันพึ่งรู้จักไปแค่นิดเดียวรีบก้าวเดินเข้ามาในห้องรับแขกแถมเดินกระทืบส้นสูงอีก เสียงส้นสูงที่บ่งบอกได้ว่า ‘หงุดหงิด’ และ ‘ท่าที’ ของหญิงสาวคนนี้ยิ่งทำให้คนรอบข้างไม่ค่อยอยากจะยุ่งซะเท่าไหร่
“ฮึ่ม!! …หนูชักจะหมดความอดทนแล้วนะคะ ทั้งหนวกหู น่ารำคาญ แถมยังเอาแต่ใจอีกเหมือนกับยายนั่นชะมัด”
ยายนั่น? …ฮันเมื่อได้ยินแบบนี้ก็นึกถึงบทสนทนาทางโทรศัพท์ที่คุยกับดันเต้ โดยมีน้ำเสียงผู้หญิงแทรกเข้ามาด้วย
“ใจเย็นๆสิ เดียร์ หลานมาบ่นให้ฟังแบบนี้เหมือนพ่อของลูกเลยนะ”
“ก็มัน…โอ๊ะ…!”
หญิงสาวหุ่นเพรียวเหมือนนางแบบ(ก็นางแบบนี่) ทำท่าทางคล้ายนึกออกแล้วฉุด กระชากดันเต้ให้มาใกล้ๆตัวของเธอ จากนั้นก็ยกมือไหว้ขอโทษหญิงชรารวมทั้งเขาที่นั่งอยู่เฉยๆ
“ขอโทษนะคะ แต่หนูขอเอาตัวน้องไปวัดไซส์สูทก่อนนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกจ้า เดี๋ยวยายจะนั่งคุยกับรุ่นพี่ของดันเต้เอง…เนอะ?”
“คะ…ครับ!”
ร่างที่ขานรับค่อยๆส่งยิ้มให้หญิงชราจากนั้นก็หันมามองรุ่นน้องของตนเอง เมื่อโดนมองก็ต้องเผลอหันไปซบตาทันทีที่หญิงสาวเมื่อได้เห็นทั้งสองกระทำแบบนี้ก็…
“ไม่เป็นไรหรอกนะ เดี๋ยวฉันก็เอาหมอนี่กลับมาแล้วล่ะ…” พูดเองคิดเองแล้วยังพูดต่ออีก “ฉันก็เข้าใจทั้งคู่นะที่ต้องแยกจากกันน่ะ…”
“…หา?” ร่างสูงเริ่มสงสัยการพูดของพี่สาวตนเอง “พี่พูดอะไรน่ะ?”
“เอ้า?! …ก็ ‘แฟน’ ไม่ใช่เหรอ?” หันไปหาแล้วพูดต่อ “ก็เห็นออกจะรักกันดี…”
เขารีบเอาฝ่ามือปิดปากพี่ตนเอง “ถ้างั้นผมก็ขอตัวไปแล้วนะครับ~!”
พูดเสร็จสรรพก็รีบวิ่งออกไปจากห้องนี้โดยที่ไม่ลืมลากพี่สาวตนเองตามมาด้วย ภายในห้องที่เงียบสงบเหลือเพียงรุ่นพี่และหญิงชราที่เริ่มจิบน้ำชาของตนเอง หญิงชราค่อยๆฉีกยิ้มหวานให้กับคนตรงหน้าเธอพลางปิดเปลือกตานี้ลง
“เธอคงจะเข้าใจเรื่องที่ฉันพูดนะ…” ยังคงยิ้มต่อ ส่วนร่างบางก็ต้องชะงัก “สิ่งที่ฉันกำลังจะบอกนั้นคงพอที่จะให้เธอช่วยดันเต้ได้”
“สิ่งสำคัญ?”
“ใช่”
“…”
“มันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเธอ…”
“…”
“แต่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับตระกูลเรา เธอ…ไม่สิ”
“…ครับ?”
ฮันทำได้เพียงเอียงคอเล็กน้อยด้วยความสงสัยแต่ก็ต้องเผลอตกใจที่จู่ๆหญิงชราคนนี้เอื้อมมือมาแตะหลังมือเขา ใบหน้าที่เคยแย้มยิ้มสดใสดั่งดอกทานตะวันบัดนี้ได้เผยตัวตนของตนเองว่าที่จริงเธอแสดงสีหน้าสดใสไปทั้งหมด…เป็นแค่เพียงการแสดง หากแต่ลึกๆกลับ ‘หวาดกลัว’ อะไรสักอย่างเกี่ยวกับหลานชาย
“คะ…คุณยายคือ…”
“ช่วยอยู่…” กุมมือเขาด้วยความเบามือแต่เต็มไปด้วยความกลัว “ข้างๆดันเต้จะได้ไหม?”
“…”
ค่อยๆกลืนน้ำลายและคงสติตนเองเอาไว้อย่างมั่นคง ใช้สายตาจ้องมองไปที่หญิงชราที่เอาแต่ก้มหน้าลง ความรู้สึกที่มีต่อคนตรงหน้า…ความคุ้นเคยมาก่อน…ทำให้คิดถึงมารดาของตน…
คุณแม่ครับ…เอ่ยเรียกผู้ที่กำเนิดตนเองโดยยังคงมีสติในการจะพูดกับคนตรงหน้าเพื่อไม่ให้กังวลเรื่องคำตอบไปมากกว่า เอื้อมมือไปแตะหลังมือของหญิงชราแล้วยิ้มหวาน
“…” เธอไม่พูดอะไรแต่ก็เงยหน้าสบตามองใบหน้าหวานนี้
“…”
“…”
“…ผมน่ะ…”
“…”
“อยากปกป้องเขาจริงๆนะครับ”
“…”
“เพราะว่าเหมือนเด็กๆ…ที่มักต้องคอยดูแลเสมอ”
“…ถ้างั้นเธอ…”
“ครับ ผมจะทำตามสัญญาของคุณยาย”
“ขะ…ขอบคุณนะจ๊ะ!!” ยิ้มด้วยความดีใจและบีบน้ำตาออกมา
ถึงตัวเขาเองจะไม่รู้อะไรมาก อาจจะมีความหลังเกี่ยวกับตัวของรุ่นน้องเขา หรือเพราะเรื่องอดีตครอบครัวที่ยังแก้ไม่หาย หรืออาจเป็นเพราะ…คนที่อยู่ตรงหน้าเขาที่เป็นคนก่อเรื่องราวเอง
“แต่ว่า…” ร่างบางค่อยๆเอามือออก
“จ๊ะ?”
“แต่มีข้อแม้นะครับ”
“ข้อแม้…?”
“…”
“…”
“อา…คือผม…” ค่อยๆสูดลมหายใจเขาและบอกออกไปตรงๆ “อยากให้คุณยาย…ช่วยเล่าเรื่องเก่าๆของดันเต้หน่อยนะครับ”
“คือ…เรื่องนั้น…ได้นะ แต่อย่าบอกเจ้าตัวนะจ๊ะ ว่ายายเป็นคนบอกน่ะ”
เธอทำท่าเกร็งๆนิดหน่อยเพราะเรื่องของหลายชายตนเองนั้นไม่เคยมีคนนอกได้ฟังสักคน แม้แต่เพื่อนเก่า คนรอบข้างทุกๆคนและคนตรงหน้าเธอ ตอนนี้เธอพร้อมที่จะบอกความจริงเกี่ยวกับเรื่องของหลายชายแล้ว
…แค่คนคนนี้เท่านั้น…
“…ยาย…จะเล่าตั้งแต่เด็กนะ”
“…ครับ คุณยาย”
เวลาที่ใช้ไปทั้งหมด 2 ชั่วโมงในการเลือกชุดสูทในงานแต่ง(ที่ยังไม่ถึงวัย) เก้าอี้ที่พนักงานจัดมาให้นั่งตอนนี้ตัวคนที่ใช้นั่งได้ลุกหนีไปยืนพิงผนังมุมมืดเสียแล้ว ยกตัวอย่างคนที่ทำแบบนี้คงจะมีแค่ผมเท่านั้นแหละ
…ทำแบบนี้ก็แอบมีพนักงานมอง…คิดไปก็อยากเดินหนีออกจากตรงนี้แล้วสิ
“ดัน-เต้~~~!!!”
ร่างหญิงสาวที่มีรูปร่างสัดส่วนเหมือนนางแบบ หน้าตาสวยเหมือนกับหญิงที่ชายทุกๆคนอยากได้มาครอบครองแต่ตอนนี้เธอ…ว่าที่พี่สาวของผมนั้น กำลังเลือกชุดสูดให้น้องชายตนเองด้วยท่าทีที่สุขีซะเสียจริง
แต่ก็ต้องแปลกใจชุดสูดที่เลือกอยู่ทำไมเสื้อกับกางเกงถึงเหมือนของผู้หญิง…คงไม่ใช่เลือกให้เพื่อนตนเองนะ?
“ชุดนี้มันของใครกันครับ?!!!” ตะโกนถามออกมาโดยไม่สนว่าใครจะมอง…เด่นเกินไป แต่ก็ยังทำ
“ก็ของดันเต้ไง” คนตรงหน้าผมยิ้มหวานน่ารักใส่
“…ผมไม่ตลกนะ”
“ฮึๆ ล้อเล่นน่ะ ของรุ่นพี่นายไง!”
“…ห๊ะ?”
…เมื่อกี้พี่ว่าอย่างไงนะ ผมไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม?…
“ของรุ่นพี่นายไง…รุ่นพี่แสนสวยของนายอะ”
“…”
…พูดไม่ออกครับ…
“พี่รู้นะว่าเป็น ‘ผู้ชาย’ แต่เดี๋ยวนี้ชายแต่งหญิงก็ไม่เยอะนี่~”
“…”
…พูดไม่ออกครั้งที่สอง…
“แถมหน้าตารุ่นพี่นายยังคล้ายหญิงนิ”
“อ่า…”
…มันก็ถูก…เดี๋ยว…เดี๋ยวก่อนนะ ที่จริงเขาต้องไม่ตามน้ำนิ?!
“จะเอาไหมเนี่ย? ฉันทำเพื่อนายเลยนะ”
“ไม่…”
“หือ?”
“ผมไม่…ไม่ยอมให้รุ่นพี่ฮันแต่งหรอกครับ”
“งือ~…ใจร้ายอ่าาาา” พี่เดียร์เริ่มงอแงและขยับชุดสีชมพูหวานแหววไปมา
“ก็มัน…”
“แต่พี่อยากให้รุ่นพี่นายใส่อ่า!!”
ความงอแงปนกับน้ำเสียงเสียงดังยิ่งทำให้คนรอบๆที่กำลังเลือกชุดต้องหันมาพรึบทันทีรวมทั้งพนักงานและเจ้าของร้านอีก…มีอะไรที่ผมพอจะหยุดได้เนี่ย?…ผมถอนหายใจแล้วหยิบชุดนี้ออกมาจากมือของพี่สาวตนเอง
…คนหล่ออย่างผมทำแบบนี้ก็เหมือนกับกำลังรังแกผู้หญิงสินะ…
“ก็ได้…”
“จริงเหรอ?!”
“ครับ…”
“ขอบใจนะ!!!” รีบพุ่งเข้ามาหาและเขย่าแขนไปมา
“ตัวดะ…(ตัวเดียวพอ)”
“ไปเลือกต่อนะ~~~!!!”
“เดี๋ยวสิครับ!!!!”
…ปะ…ปรับอารมณ์ไวไปแล้ว!!!!…
“โอ๊ะ! ดันเต้ฉันมีเรื่องจะบอกน่ะ”
พี่ของผมที่พึ่งนึกได้ค่อยๆเดินมาหาแล้วฉีกยิ้มหวานเหมือนว่าคงจะเป็นเรื่องสำคัญมากๆไม่ก็…เรื่องไร้สาระรึเปล่า?
“พี่น่ะอยากให้รุ่นพี่นายเข้าหานายบ้างนะ”
“…”
…เข้าหา?…
“เพราะท่าทีของนายมันบ่งบอกได้เลยว่านายเอาแต่เข้าหาตัวรุ่นพี่นายเอง โดยไม่ให้รุ่นพี่นายเข้าหาบ้างเลย”
…ถึงจะไม่เข้าใจ แต่มันก็ใช่ที่ผมเอาแต่ป่วนก่อนโดยไม่ให้รุ่นพี่เข้ามาป่วนบ้าง…
“นายลองให้รุ่นพี่นายสนใจให้มากกว่านี้สิ”
“สนใจงั้นเหรอ?”
“อื่อ!! ให้เจ้าตัวคิดถึง มาหาและบอกว่า ‘ชอบ’ ออกมาน่ะ”
“ชอบ…”
ลองจินตนาการว่าคนอย่างรุ่นพี่เข้ามากอดแล้วเอาหัวซุกกับแผงอกเขา และจากนั้นก็ค่อยๆสบตาจ้องมองกันอย่างเนินนาน ริมฝีปากที่เริ่มแตะกันปนกับลมหายใจของเขากับของรุ่นพี่ ร่างตรงหน้าเขาชะงักเล็กน้อยจากนั้นก็บรรจงจูบด้วยริมฝีปากของตนเอง
‘ฉันชอบนายนะ ดันเต้’ (มโนภาพล้วนๆของดันเต้)
“อา…”
…รู้สึกอายถ้าโดนสารภาพแบบนั้น…
“ดันเต้…?”
พี่สาวของผมรีบเข้ามาสะกิดไหล่เบาๆและยื่นหน้ามาหา และผมก็… “หวาาาาาาา!!!!!”
วิ่งด้วยความเร็วแสงโดยไม่สนว่าใครจะรั้งเขาเอาไว้ ปล่อยให้พี่สาวตะโกนเรียกเขาให้ ‘หยุด’ แต่เขาก็ไม่หยุดหรอก ถ้าหยุดก็ต้องโดนถามอีกว่ากำลังคิดอะไรอยู่…ใช่ไหมล่ะ?
“ดะ…เดี๋ยวสิ ดันเต้?!!!!!”
…เขา…จะไม่ยอมบอกว่าคิดอะไรอยู่แน่ๆ!!!! …
.
.
.
.
“เจ้าบ้า…กะว่าจะให้เลือกชุดเจ้าสาวของรุ่นพี่นายซะหน่อย”
…ยังคงเลือกชุดไม่เลิก…
“นาย…ซื้อชุดมาให้ฉันเหรอ?”
ผู้ชายคนตรงหน้าผมถามด้วยความสงสัยที่จู่ๆก็ยื่นถุงกระดาษใส่เสื้อผ้ายื่นมาให้อย่างรวดเร็ว ผมก็ทำได้เพียงส่งยิ้มแล้วพยักหน้าให้และก็บอกให้ ‘ลองใส่ตอนอยู่ในห้องรุ่นพี่นะ’ เพราะถ้าเอาออกมาก็คง…
โดนฆ่าแน่ๆ…
“อือ~…เข้าใจล่ะ”
พูดแบบนั้นก็โล่งใจทันทีที่รุ่นพี่ได้ออกจากรถยนต์คันนี้ รีบกดปุ่มเปิดกระจกรถและกล่าวออกไปว่า ‘เจอกันพรุ่งนี้’ ส่วนคนตรงหน้าผมก็พยักหน้าแล้วยิ้มบางๆ…น่ารักชะมัด…ระหว่างที่ผมกำลังจะเอ่ยเรียกคุยต่อก็ต้องโดนแทรกขึ้นโดยชายคนหนึ่ง
ชายคนนั้นสวมเสื้อดำมีกล้ามเยอะพอสมควร เสยผมข้างหนึ่งขึ้นสีแดงเหมือนผม แถมสัดส่วนจัดได้ว่า…หล่อกว่าผมอีก
“อา…ก้าง” รุ่นพี่รีบสนใจคนที่เรียกแล้วยิ้มหวาน
…หงุดหงิด…
“ฮัน…” หันมามองรุ่นพี่ก่อนหลังจากนั้นก็สลับมามองผมพลางแสยะยิ้มใส่ “คิดถึงจังนะ~…”
จุ๊บ…!
ต่อหน้าต่อตา คาหนังคาเขา…ชัดเจนมากๆ…
.
.
.
ชัดเจนเกินไปแล้ว!!!!!
เสียง ‘จุ๊บ’ ที่ดังมาจากคนที่สูงกว่าและมีชื่อว่า ‘ก้าง’ กำลังโอบเอวแล้วหอมแก้มโดยไม่สนว่าผมและรุ่นพี่จะว่าอะไร คนที่โดนหอมโวยวายส่วนคนที่เห็นอย่างผมกลับได้กัดฟันเพื่อระงับอารมณ์โมโหที่คนคนนี้เข้ามากวนประสาทผม
“ก้าง?!”
“โทษที โทษที พอดีขึ้นถึงไปหน่อย…ไม่คิดถึงเหรอ?” เสียงที่พูดแรกๆไม่อ้อนแต่พอมาหลังๆเริ่มทำเสียงน่ารักเพื่อเพิ่มความน่าสงสาร
…เขาก็อ้อนเป็นนะ~…
“ก็ได้ๆ คิดถึงเหมือนกัน…จะเข้าบ้านไหม?”
“เข้าสิ!!” ยิ้มร่าเริงแต่ลับหลังแสยะยิ้มใส่ผม “ฉันอยากมาหานายเพราะเรื่องโครงงานน่ะ”
“ได้สิ ถ้างั้น…” หันมาหาคนที่ถูกเมิน “ไปแล้วนะ…”
“ผมไปด้วย!!!”
“ห๊ะ?!”
น้ำเสียงนี้ไม่ใช่ของใครนอกจะว่าจะเป็น ‘ผม’ ซะเอง ผมรีบออกจากรถยนต์แล้วบอกให้พ่อบ้านออกรถกลับบ้าน แล้วรีบเดินไปข้างๆรุ่นพี่ที่มีสัดส่วนพอเหมาะในการกอดมากๆ
“แล้วเสื้อผ้านายล่ะ?!” คนเป็นรุ่นพี่เลยโวยวาย
“เดี๋ยววันพรุ่งนี้ผมก็โดดเรียนก็ได้นิ”
“โดดเรียนทำไม?”
“…ถ้าผมพูดตรงๆรุ่นพี่จะ…เสียใจแทนไหม?”
“เสียใจ?”
“ก็…ไปไหว้…หลุมศพท่านตาน่ะครับ”
“…”
“…ฮึ”
“…เข้าใจล่ะ เข้ามาสิ”
“…”
“…”
“ครับ!!”
ผมรีบตามหลังรุ่นพี่ไปโดยที่มีเพื่อนของรุ่นพี่ตามมาด้วย…ระหว่างเพื่อนกับรุ่นน้อง คนไหนจะสำคัญกว่านะ?…ผมคิดไปแบบนี้จู่ๆคนข้างๆผมก็กระตุกยิ้มและหัวเราะเบาๆ
“ขำอะไรครับ?” ผมถามทันที
“หน้านายนี่มันดูออกหมดนะ ว่ากำลังคิดจะเปรียบเทียบฉันและนาย…คนไหนสำคัญกว่าใช่ไหม?”
“…”
…ดูออกหมด!!…
“…แต่ว่า…”
“ครับ?”
“ฉันยอมให้นายเข้าใกล้หมอนั่นนะ แค่วันนี้และพรุ่งนี้…ที่นายบอกว่า ‘ไปไหว้หลุมศพท่านตา’ น่ะ”
…
..
.
…ก็เป็นคนดีนิ…
“…ฮึ และอย่าเสียใจนะครับ ว่าผมจะแย่งเขาไปจากคุณ…”
“หึ ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนล่ะนั่น?”
“ก็ความมั่นใจคงผมไม่มีวันพลาดนี่นา”
“เฮอะ…หลงตัวเอง”
“แล้วคุณล่ะครับ ไม่มั่นใจเหรอว่ารุ่นพี่อาจจะ ‘ชอบ’ ก็ได้”
“…ก็ไม่รู้สินะ~”
การสนทนาของผมและเพื่อนของรุ่นพี่ที่เต็มไปด้วยมิตรแต่ก็เจือปนด้วยศัตรู แต่ความรู้สึกอีกอย่างหนึ่งก็พุดขึ้นมา…ความรู้สึกเหมือนกำลังโดนคนที่นำหน้าแอบมองพลางหัวเราะ
เมื่อได้เห็นพฤติกรรมของคนตรงหน้าก็แอบยิ้มดีใจที่ทำให้ยิ้ม
“เอาล่ะ…” เมื่อเข้ามาภายในห้องนอนของรุ่นพี่แล้วก็อยู่นิ่งๆไม่ได้ที่จะแอบเดินสำรวจเสียหน่อย “ก้าง…โครงงานที่ว่านี่คงจะเป็น…”
“อือ…งานโรงเรียนน่ะ”
“โอเค และก็ดันเต้…”
ไม่ทันขากคำที่ตัวของผมจะได้แอบส่องมองของในห้องนอนก็โดนลากให้มานั่งบนโซฟาและนั่งเล่นเกมบนหน้าจอโทรทัศน์
“นายนั่งเล่นเกมไปก่อนนะ ขอทำงานก่อน”
“ครับ…”
…อยากเล่นกับรุ่นพี่จัง…
‘ให้รุ่นพี่เข้ามาหาบ้างนะ’
…อยากลองแต่ก็ไม่กล้าเสี่ยง…
ผมนั่งเล่นเกมนี้ตามคำสั่งของร่างบางที่เอาแต่สนใจโครงงานของก้าง ตามความเป็นจริงผมอาจจะช่วยได้แต่ทำไมถึง…ไม่ให้เข้าไปช่วยล่ะ? หรือเพราะว่า…รุ่นพี่ ‘ไม่ชอบ’ เขาแล้ว?
ร่างกายเริ่มซีดขึ้นมาทันที
“แล้วให้งานนี้เสนอกับประธานไปแล้วกันนะ” น้ำเสียงเพื่อนของรุ่นพี่กล่าวออกมา
“เมดกับพ่อบ้านเนี่ยนะ?! เราไม่มีงบเยอะขนาดนั้นนะ ก้าง”
“แต่ฉันมีนิ”
“ถึงนายจะเป็นยากูซ่าก็เถอะ!!”
ชิ้ง…ยากูซ่างั้นเหรอ? …
เมื่อได้ยินชื่อนี้ผมก็รีบวิ่งไปหารุ่นพี่ฮันพลางซุกหน้ากอดจากด้านหลังทันที คนที่โดนกอดก็โวยวายแล้วดิ้นไปมาส่วนคนที่เป็นส่วนเกินก็ชักสีหน้าเสียดายอยู่นิดหน่อย
“เมื่อกี้รุ่นพี่บอกว่า ‘พี่คนนี้’ เป็นยากูซ่า?!” ผมโวยแทนรุ่นพี่ฮัน
“ก็ใช่น่ะสิ ทำไมเหรอ?”
“ยากูซ่า…กับมาเฟีย…”
“…!?” ก้างที่พึ่งรู้สึกตัวเริ่มเบิกตาโตตกใจทันที “มาเฟีย…”
“เอ๋?”
“ทั้งสองฝ่าย…ไม่ถูกกันน่ะครับ”
…จบ…
.
.
.
ความตรึงเครียดเข้าครอบงำ ร่างของคนที่ชื่อว่า ‘ก้าง’ ค่อยๆลุกขึ้นแล้วก้าวมาหาผมจากนั้นก็นั่งยองๆจ้องมองด้วยสายตาที่เหนื่อยใจ ส่วนผม…ก็ไม่ต่างไปจากเขาเลย
เมื่อก่อนทั้งสองก็ยังดีๆกันอยู่แต่พอเรื่องค้าขายอาวุธล่ะก็…ก็ตอนนั้นแหละที่เริ่มขัดแย้งซึ่งกันและกันทันที ต่างแย่งชิงอาวุธ ยาและของมีค่า จนถึงปัจจุบันนี้กว่าจะมี ‘ยากูซ่า’ กับ ‘มาเฟีย’ นับได้ว่าน้อยมากๆ
“นาย…”
“คุณ…”
“คือ…ทั้งสอง ใจเย็นๆนะ นั่นมันก็เรื่องเมื่อก่อนนะ นะ นะ~~~~…”
กระชาก!!
“ใจเย็นๆโยม~~~!!!!”
ผมเป็นคนที่กระชากคนที่ยืนให้เข้ามาใกล้ๆแทน ความรู้สึกแปลกใหม่ ความรู้สึกนี้ที่รอมานาน ความรู้สึกที่อภัยให้ไม่ได้ ความรู้สึกหงุดหงิดจนอยาก…
“คุณนี่มัน…”
“แกนี่มัน…”
“ใจเย็นๆโยมทั้งสอง ใจเย็นๆนะ~”
“ท่านตา…โดนพวกยากูซ่านี่แหละ ‘ฆ่า’ น่ะ”
“ฉันก็เหมือนกัน ทั้งท่านตาท่านยาย ‘ฆ่า’ เหมือนกัน”
“พะ…พวกนาย~อย่ากัดกันเลยนะ”
“ผมน่ะ ไม่ให้อภัยหรอกนะ”
“ฉันก็เหมือนกัน”
ค่อยๆปล่อยมือที่กระชากออกพลางจ้องกันด้วยความเกียจชังเล็กหน่อย จากนั้นก็กำมือแน่นพลางยกขึ้นพร้อมที่จะต่อย เมื่อรุ่นพี่เห็นแบบนี้ก็เริ่มจะแทรกเข้าไปห้ามแต่ก็…ไม่ทันแล้วล่ะ
ปึก…!
.
.
.
…
“…” ผม
“…” คุณก้าง (เรียกคุณแล้วเหรอ?)
“…” รุ่นพี่ฮัน
.
.
.
…เป็นเรื่องที่รุ่นพี่เข้าใจผิดรึเปล่า?…
“เฮ้ย~~~!!!” ตบบ่าผมเบาๆพลางโอบไหล่กระชับทันที “ถึงเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องเมื่อก่อน แต่ตอนนี้พวกเราทั้งสองก็ให้มันสงบได้นะ~~”
“ฮึ…นั่นสินะครับ”
“คือ…~” รุ่นพี่ที่งงงวยกับสถานการณ์ในตอนนี้ก็เริ่มพูดแทรกทันที “ทำไมพวกนาย…จู่ๆก็…”
“ก็…” ก่อนที่ผมจะพูดจู่ๆคนที่โอบไหล่ก็แทรกทันที
“ก็ตอนนี้พวกเรากำลังติดต่อหากันและกันแต่ว่า…เพราะมันมีพวกบางส่วนไม่เห็นด้วยเลยหายากน่ะ”
“ก็ตามนั้นน่ะครับ”
“…”
“มีอะไรสงสัยอีกไหม ฮันนี่?”
“มะ…ไม่แล้วล่ะ แต่โครงงาน…ถ้างั้นก็ช่วยกันทั้งสามคนนี่แหละ!”
“ครับบบบบ~~~” ประสานเสียงพร้อมๆกัน
.
.
.
…นี่พวกนาย…คิดจะแกล้งฉันรึเปล่าเนี่ย?… เสียงในใจของฮัน
เวลาผ่านไปได้ 3 ชั่วโมง ก็ได้บอกเวลาแล้วว่า ‘4ทุ่ม’ ที่ควรจะกลับบ้านไม่ก็ไปนอนได้แล้ว ยกเว้นทั้งสามคนที่เอาแต่นั่งทำงานจนในที่สุดก็เสร็จเสียที
ทั้งสามเอนตัวนอนลงบนพื้นพลางเงยหน้ามาเพดานขาวโดยไม่สนใจว่าใครคนหนึ่งจะทำอะไร มีแต่ความอ่อนเพลีย เหนื่อยและง่วงนอน ส่วนคนที่ลุกนั้นคงจะเป็น ‘คุณก้าง’ ที่รีบขอตัวออกจากบ้านนี้เพื่อกลับบ้านตัวเองก็ทิ้งพวกผมที่เหลือกันแค่สองคน…สองคนที่จะไม่มีใครมารบกวนการงีบ
“รุ่นพี่…”
“หือ?”
“ผมขอยืมชุดนอนรุ่นพี่ได้ไหม?”
“ได้นะ มีตัวหนึ่งที่ยาวจนฉันใส่ไม่ได้น่ะ”
“ถ้างั้น…ไปอาบน้ำเถอะครับ จะได้นอนดีๆ”
“อือ~…ถ้างั้นช่วยดึงขึ้นหน่อยสิ”
“…ครับ~”
ผมรีบลุกขึ้นยืนแล้วเอื้อมมือไปหารุ่นพี่ที่เอื้อมไปหามือของเขาแต่ก็…
อุ้ม…!
“ดะ…ดันเต้!?”
ท่าอุ้มเจ้าสาวที่สาวๆต่างก็ใฝ่ฝันอยากโดนอุ้มมานาน แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นผู้ชายอุ้มผู้ชายกันแทน ร่างที่แสนบางทั้งน้ำหนักก็พอๆกับผู้หญิง ร่างกายที่แตะทีก็แอบแปลกใจว่าทำไมถึง ‘นุ่มจัง’ ทั้งๆที่เป็นผู้ชาย…ผู้ชายแท้ๆ…หรือรุ่นพี่จะเป็นผู้หญิง?!
“รุ่นพี่…”
“อะ…อะไร?”
“มาอาบน้ำด้วยกันเถอะนะครับ”
“…”
‘ไปอาบกับสาวไป!!’
คนอย่างหมอนั่นคงไม่ใส่ใจคำพูดเกินไปมั้ง? แต่ที่เขาไล่ว่าให้ไปอาบน้ำกับสาวทั้งๆที่ก็รู้ว่าหมอนั่นมัน ‘ชอบ’ เรา แค่ท่าทางแปลกๆที่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง ทั้งการปะเจอหน้ากับก้าง แถมตอนนี้…ยังชวนมาอาบน้ำอีก
…บ้านเขามีอยู่ 2 ห้อง…
สำหรับเขาไม่ยอมหลงกลง่ายๆหรอก ก้มหน้าลงมองปลายนิ้วตนเองจากนั้นก็ถอนหายใจออกมา เฝ้ารอคนในห้องน้ำให้ออกมาเพื่อขอโทษที่เขาไล่ไปแบบนั้น ฮันเอาแต่เหมอลอยกับคำขอโทษโดยไม่รู้ว่ากำลังมีใครสักคนเข้ามากอดจาก…ด้านหลัง
แปะ…แปะ…เปียก…~
“ดันเต้!! ไปเช็ดหัวให้แห้งสิ!!”
“…”
“ดะ…ดันเต้?”
“…” ร่างสูงค่อยๆใช้ปลายนิ้วขยับปกคอเสื้อโดยไม่หยุดที่จะกอดต่อ
“ดะ…ดันเต้ นายจะทำอะไรน่ะ?”
“…”
“ดันเต้…”
“…” เริ่มซุกซอกคอ
“ดันเต้!! หยุดนะ!!”
“…” ค่อยๆใช้ริมฝีปากแตะคอของร่างบาง
“ดันเต้!!”
“…”
“ฉันไม่ตลกด้วยนะ!!”
“…”
“ดะ…ดันเต้!!”
“…” ถอนหายใจออกมาเบาๆ
“อึก…!”
…หัวใจมัน…เหมือนกำลังตื่นเต้น…
“รุ่นพี่…”
“หะ…หือ?”
“ผม…” กอดแน่นกว่าเก่า
“…”
…อยากบอกอะไรกันแน่…
“…ผม…” ซุกหนักกว่าเก่า
“ว่ามาเลยดันตะ…”
“ผมเหนื่อย~~~!!!!!”
“อา…”
คนที่กอดเริ่มบ่นให้รุ่นพี่ฟังทั้งหมดตั้งแต่เริ่มช่วยทำงานเกี่ยวโครงงาน เวลาที่ใช้ไปทั้งหมด ความเหนื่อยที่เขาต้องทำไปทั้งหมดและความคิดเท่าที่เขาจะมีในการช่วยอีก บลาๆๆๆไม่หยุดจนสุดท้ายก็เริ่มขยับให้ใบหน้าผมหันมาหา
“ขอรางวัลหน่อยสิครับ”
“รางวัล…”
“จูบน่ะ…นะ~~~!!!” พูดถึงจูบก็เริ่มอ้อนไม่หยุด
“มะ…ไมเอา!!”
“นะๆๆๆ~~~…”
“ไม่เอา!!”
“รุ่นพี่~~…”
ค่อยๆจับปลายคางร่างบางให้หันมาหาแล้วไม่ยอมปล่อยให้คนคนนี้ดิ้นได้ไปมากกว่านี้จึงทำการล็อคแขนทั้งสองของว่าที่ ‘รุ่นพี่’ พอโดนแบบนี้ก็ไม่ได้ที่จะ…สะบัดหน้าไปมา
แต่ถึงทำอย่างนั้น…ก็โดนพลิกตัวให้มานอนบนเตียงแทน?!
คนที่โดนขึ้นคร่อมเอาแต่เรียกชื่อของคนตรงหน้าพลางหลับตาลงโดยไม่เต็มใจ ทั้งดิ้น ทั้งขอให้หยุดก็มีแต่เสียพลังงานจนสุดท้ายกต้องยอมให้คนตรงหน้าเข้ามาลูบใบหน้าเขาพลางยื่นหน้ามาหาพร้อมๆกับลมหายใจออก
ความร้อนของร่างกายยิ่งเพิ่มสูงมากขึ้นทั้งๆที่เปิดหน้าต่างพร้อมให้ลมเข้ามา ถึงจะมีลมเข้ามาแต่ก็ไม่ได้ช่วยดับความร้อนนี้ได้เลย
“ดัน…เต้…”
เอ่ยเรียกชื่อคนตรงหน้าเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะโดนริมฝีปากของร่างสูงที่เคยจูบมาแล้วแตะ
จุ๊บ…
ความนุ่มนิ่มของริมฝีปากที่ประทับลงมาแทบจะทำให้เขาหายใจไม่ทัน ทั้งๆที่ไม่อยากยอมแล้วแต่ร่างกายกลับหยุดทันที ถึงจะโดนจูบแต่ก็ต้องแปลกใจที่คนคนนี้ไม่ได้จูบที่ ‘ปาก’ แต่มีแก้มแทน
“เอ๋?!” เขาอุทานออกมาจากนั้นก็ลูบแก้มข้างที่โดนจูบ
“ตรงนี้น่ะ คุณก้างหอมแก้มรุ่นพี่…พอจะจำได้ไหมครับ?”
“อะ…อื่อ!”
“ฮึๆ รุ่นพี่หวังอะไรรึเปล่าเนี่ย?”
“เปล่า! ฉันก็แค่นึกว่านายจะจูบจริงๆนิ!!”
“แต่ผมไม่ได้ว่าจะจูบ ‘ตรงไหน’ นิ?”
…นี่เขา…โดนแกล้งงั้นเหรอ?!…
“หึ…รุ่นพี่ ลา-มก~~”
“นายนั่นแหละลามก!!” ด่าเสร็จก็รีบห่มผ้าห่มซุกเข้าไปในนี้ “นอนล่ะ…”
“ครับ~…รุ่นพี่ครับ” ยังคงเรียกต่อ
“อะไร?”
“หันมาคุยกันก่อนสิครับ”
“ก็ได้ๆ มีอะระ…”
ความเร็วบวกกับความนุ่มครั้งที่สองได้ประทับบนมุมปากจนกระทั่งเขาได้รู้ว่าโดน ‘หลอก’ อีกแล้วสินะ มุมปากที่จูบซะแสนยาวนานยิ่งทำให้เขาเกร็งไปหมดแต่ก็…ต้องเผลอหลับตาลงยอมๆไป
“ราตรีสวัสดิ์ครับ…” กล่าวคำพูดยามค่ำคืนเวลานอน ก็ค่อยๆปัดเส้นผมที่ปรกหน้าขึ้น “คนน่ารักของผม”
“ใคร…ใครน่ารักกันฟะ!!! ไปนอนเลยนะ ไอ้เด็กหื่น!!!”
“ครับ~~คุณสามีก็ต้องเชื่อฟังคุณภรรยาสินะครับ” พูดกวนไปยิ้มไปด้วย
“ใครภรรยานาย~?!” กัดฟันพูดกับรุ่นน้องตนเอง “นอนไป”
“ถ้าจะให้นอนก็จูบราตรีสวัสดิ์ก่อนสิครับ”
“ไม่เอา! นายจูบฉันไปสะ…”
โดนครั้งที่ 3 (ที่หน้าผาก)
“นาย…!!”
“จูบผมก่อนสิ~~”
“ไม่…”
โดนครั้งที่ 4 (ที่ซอกคอ)
“พอแล้ว!!”
“ไม่…จนกว่ารุ่นพี่จะจูบ นะ…จูบผมนะ~~”
…อ้อนมากไปไหม?…
“แต่ว่า…ฉันยังไม่ได้เป็นแฟนกับนายนิ”
“ก็เป็นเลยสิครับ…”
“…”
“…”
…ไม่พูดต่อด้วย~~!!…
ร่างที่โดนคร่อมเริ่มขยับปากราวกับว่าจะพูดอะไรแต่ก็ต้องถอนหายใจ คนที่คร่อมเริ่มมองท่าทีของคนตรงหน้าก็ค่อยๆยิ้มหวานให้
โดยไม่ทันตั้งตัวว่ากำลังจะโดนกระทำอะไร ด้วยความรวดเร็วเพราะอายที่จะทำจึงรีบเข้าไปจู่โจมทันที
ริมฝีปากที่กระทบกับเหมือนจะรุนแรงแต่ก็…สุดท้ายมันก็กลายเป็นความน่ารักที่ร่างสูงกำลังคิดอยู่ ริมฝีปากที่ประทับกันอย่างเนินนานเริ่มลุกลามเส้นแดงไม่มากนัก
กลีบปากที่ปิดสนิทไม่ยอมให้ร่างบางได้หายใจ ความหอมหวานที่ปะปนกับความเร้าร้อนยิ่งเพิ่มพูนความร้อนของร่ายกายทั้งสอง ลิ้นที่เกี่ยวกันไม่ยอมปล่อยยิ่งทำให้ร่างที่โดนจู่โจมสับสนว่า ‘กำลังทำ’อะไร ส่วนร่างที่โดนลุกลามนั้นก็ค่อยๆผละออก
“ดะ…ดันเต้” ผู้เป็นรุ่นพี่ไม่ค่อยเข้าใจว่าตนเองทำไปเพื่ออะไร “…”
“ผม…หยุดตัวเองไม่ได้”
“…”
“ผม…หลงใหลรุ่นพี่มากไปรึเปล่า?”
“…ไม่หรอก”
“…”
“ถ้าอยากลอง…ก็ต้องทำใช่ไหม?”
“…มันก็ใช่”
“แต่ถ้าอีกฝ่ายยืนยอม…”
“…”
“คงจะเข้าใจนะว่าฉันกำลังพูดอะไรอยู่”
“…”
“ฉันไม่สามารถเอ่ยคำว่า ‘ชอบ’ ได้”
“…”
“แต่คนอย่างรุ่นพี่ที่มีต่อรุ่นน้องแล้ว…”
“…”
“…”
“…”
“เฮ่อ…”
ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยล้าที่ตนเองทำไปทั้งหมดเพื่อตนเอง…และรุ่นน้องคนนี้…
หมดแล้วกับกำลังที่ตนเองหักห้ามใจ
หมดแล้วกับการที่ไม่ยอมให้คนตรงหน้าเข้ามา
หมดแล้วกับการบังคับตนเองให้เดินห่างๆ
หมดแล้วกับการดิ้นไปมาในอ้อมกอด
หมดแล้วกับการปากแข็ง
หมดแล้วกับการที่ตนเองทำลงไปทั้งหมด
และหมดแล้วกับการที่…
“ฉันก็สามารถที่จะมีใจให้นายได้นะ”
“ระ…รุ่นพี่…”
เสียงหัวใจที่ร้องตะโกนออกมา
โหยหาแต่คนคนนี้
หัวใจที่ไม่เคยสั่นไหวขนาดนี้
มันกลับเต้นไม่เป็นจังหวะ
ความรู้สึกเพียงแค่ชั่ววูบ
แต่ก็ยังคงทำต่อไป
ความรู้สึกที่ไม่ยอม
แต่ก็ยอมให้เข้ามา
ถ้าหาก…
เราสองคน…
ยังคงมีใจให้กันและกัน
ก็ขอให้รักของทั้งสอง
สมดั่งปรารถนา
กับ ‘รัก’ นี้ด้วย
To be continued
*********
ผมขอแจ้งอะไรหน่อยนะครับ ตอนนี้เปิเเทอมแล้วซึ่งผมอาจจะไม่ได้ลงนิยายนี้นานพอสมควร แต่จะค่อยๆลงเรื่องนี้ค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะครับ ^w^ ต้องขอบคุณที่อ่านมานานนนนนนนมากๆๆๆๆ
ความคิดเห็น