คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Kiss No. 2
Kiss No. 2
นี่ผมพูดอะไรออกไป!!?? . . . แค่คำพูดท้าทายแบบนั้นถึงกลับทำให้มันกลายเป็นข่าวใหญ่ในหมู่รุ่นผม ส่วนรุ่นน้องบางคนก็รู้และบางคนก็ไม่รู้ ถึงแม้มันจะกลายเป็นแบบนี้ . . . แต่ผมคนนี้ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับเรื่องเดิมๆ
แค่ผมพูดแบบนั้นเพื่อนผมก็เอาไปบอกแล้วล่ะ ไม่ทันที่จะแก้ข่าวอะไรเลยสักนิด เมื่อข่าวนี้มันมาถึงหูกลุ่มพวกเพื่อนๆผม เคนก็เริ่มมีนิสัยที่เปลี่ยนไป เริ่มที่จะห่วงผมมากขึ้น อยู่กับผมเหมือนตังเมมากขึ้น จนเพื่อนอีกสองคนที่ชอบอยู่ติดกับผมก็เริ่มแอบเข้ามาแกล้งให้เคนโมโหนิดหน่อย เหมือนสุนัขห่วงของตัวเองจังเลยนะ
“เคน นายไม่ต้องห่วงเรามากขนาดนี้ก็ได้นะ” ผมหันไปหาคนข้างๆที่เดินตามมาด้วย
“ไม่ได้ ฉันไม่ยอมให้เพื่อนตัวเองไปยุ่งกับคนที่พึ่งรู้จักหรอก” เคนขยี้เส้นผมบนหัวของผมจากนั้นก็ยิ้มให้
“แต่นายไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้มั่ง?”
แค่ผมพูดลอยๆแบบนี้ออกไป เคนก็ต้องทำหน้าหงุดหงิดใส่และเหมือนเงียบใส่ผม ผมทำอะไรผิดไปเหรอ? จากนั้นก็ถึงชั่วโมงเรียนวิชาตอนบ่าย กลุ่มผมต่างพากันทบทวนวิชานี้ ส่วนผมก็เข้าไปร่วมด้วย ชีวิตผมก็เหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยน นอกเสียจาก . . . เพื่อนผู้หญิงที่เริ่มรุกเข้าหาผมแบบไม่ทันตั้งตัว เอาแต่ถามว่า ‘เป็นอะไรกับดันเต้?’ หรือ ‘เป็นแฟนกับดันเต้แล้วรึยัง?’ และรุ่นน้องที่มีชื่อว่า ‘ดันเต้’ ก็ชอบแอบมองผมและเมินไปบ้าง จนมันทำให้ผมรู้สึกว่า ผมเริ่มจะโดนรุ่นน้องคนนี้เล่นเข้าให้แล้วสิ
ผมนั่งอยู่คนเดียวในห้องเรียนเพราะพวกเพื่อนๆผมต้องไปช่วยงานอาจารย์ ส่วนผมก็ช่วยงานอาจารย์ประจำชั้นผม งานนี้ก็ให้ตรวจสอบการเรียนแต่ละคน และเช็คความเรียบร้อยของเอกสารต่างๆ พวกคุณอาจจะสงสัยว่าทำไมไม่เป็น ‘เช’ ง่ายๆเลยว่าหมอนี่ต้องแกล้งอาจารย์ผู้หญิงคนนี้แน่นอน
“รุ่นพี่ครับ” น้ำเสียงที่จำได้อย่างแม่นยำทำให้ผมหันไปหา เขาเริ่มก้าวเดินมาหาและนั่งข้างๆ
“มีอะไรเหรอ?” ผมถามคนตรงหน้าที่ทำสีหน้าเฉยชา
“ผมอยาก . . .” พลางยื่นหน้ามาหาจนจมูกเกือบใกล้ชิดกัน “ทำตามคำประชดประชันของรุ่นพี่น่ะครับ” เขายิ้มให้
เอาหน้านายไปไกลๆเลยนะ เดี๋ยวอาจารย์ก็เข้ามาเห็นซะหรอก
“ผมไม่เล่นแล้ว วันนี้คุณคิดจะมาปั่นหัวผมรึไงกัน?” ผมเริ่มใช้คำสุภาพและหันหน้ามาสนใจงานต่อ
“ไม่ใช่หรอกครับ นี่ผมจริงจังนะ . . .” พูดไปก็เริ่มเอนหลังให้ชิดเก้าอี้ “รุ่นพี่นึกว่าผม ‘เล่น’ รึไงกัน?”
เจ็บครับ แค่คำว่า ‘เล่น’ มันก็เจ็บนิดหน่อยแฮะ
“แล้วนายจะเอาไง? คิดจะคบกับฉันรึไงกัน?” ผมหันไป จากนั้นก็โดนคนตรงหน้าจับแก้มเบาๆ
“แล้วสีหน้าผมไม่จริงจังรึไงกัน?” พูดพลางเอาอะไรสักอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง
ป๊อกกี้นี่นา!?
“เอาออกมาทำไมน่ะ?!” ผมหันหน้าหนีแต่ก็โดนจับเอาไว้
“เล่นต่อไงครับ จะได้รู้ว่า ‘คุณ’ น่ะ ‘ไม่ชอบ’ คนอย่างผมรึเปล่า?”
พูดเองก็เริ่มเอาป๊อกกี้แท่งหนึ่งออกมาและค่อยๆเอาแท่งป๊อกกี้เข้ามาใส่ในปากผม จากนั้นก็ค่อยๆเลื่อนริมฝีปากเข้ามา ลิ้มรสชาติความหวานหอมอมขมของช็อกโกแลตตัดกับความกรอบของแป้ง ใบหน้าของคนตรงหน้าผมเริ่มเข้ามาใกล้ๆ สายตาร้อนแรงทำให้ร่างกายผมปรับอุณหภูมิไม่ทัน สมองมีแต่สีขาวคิดอะไรไม่ออกเลยสักนิด
“ยะ . . . หยุดกะ . . .” ก่อนที่ผมจะพูดจบ ป๊อกกี้แท่งนี้ก็ได้หักไปแล้ว
เกือบไปแล้ว อีกนิดเดียวเองที่ปากจะชนกัน
“อา . . .” ดันเต้ยังคงมีป๊อกกี้ที่เหลือคาปากอยู่ พลางทำสีหน้าไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ “รุ่นพี่ขี้โกงกันนี่ครับ เกือบจะโดนแล้วแต่ยังหนีนี่ . . . เข้าใจแล้ว”
รุ่นน้องคนนี้ค่อยๆลุกขึ้นยืนและมีสีหน้าที่พอใจกับการเล่นเกมนี้ จากนั้นก็ค่อยๆสัมผัสใบหน้าผมอย่างแผ่วเบา แล้วค่อยๆใช้นิ้วชี้นี้แตะริมฝีปากพลางจิ้มมัน
“พรุ่งนี้ก็วันหยุดแล้ว . . .” แล้วหยิบมือถือขึ้นมา “รุ่นพี่ครับ ผมขอเบอร์มือถือ ที่อยู่หน่อยนะครับ” และยิ้มกวนประสาทใส่
“ชิ! ยังไงก็ . . .” ก่อนที่ผมจะพูดจบรุ่นน้องก็ค่อยๆยื่นหน้ามาหา “กะ . . . ก็ได้ๆ!! เอาของนายมาด้วยสิ”
“ได้ครับ” เขายิ้มและแลกข้อมูลกับผมเสร็จ ก็ต้องเผลอทำให้ผมขำกับคำถามของเขา “ผมลืมถามชื่อรุ่นพี่ไปเลย”
“. . .”
พูดอย่างนี้มีฮาครับ
“รุ่นพี่อย่าหัวเราะสิครับ!!”
“ทะ . . . โทษที ก็นายเอาแต่เรียกฉันว่า ‘รุ่นพี่’ ก็เลยนึกว่านายจะเรียกแบบนี้ตลอดซะอีก” ผมยิ้มให้ จนคนตรงหน้าแอบปลื้มใจนิดหน่อย “ฉันชื่อ ‘ฮัน’ แต่บางคนชอบแซวชื่อฉันว่า ‘ฮันนี่’ นายจะเรียกว่าอะไรดีล่ะ?”
“ถ้างั้น . . .” คิดไปพลางยิ้มไป “ผึ้งน้อยแล้วกันครับ”
นี่แกกวนประสาทฉันใช่ไหม?
“งั้นพี่คนนี้จะเรียกนายว่า ‘กิ่ง’ ก็แล้วกัน”
กวนก็กวนกลับสิครับ
“เอ๋? . . . เรียกผมว่า . . .” ค่อยๆกระซิบข้างหูผม “ที่รัก ก็ได้นะครับ”
. . .
. . .
. . .
พาผมไปเอามีดสั้นกับเชือก และถุงผ้าใหญ่ๆพอจะได้ไหมครับ? จะเอามาฆ่าคนแถวนี้
ผมฉีกยิ้มหวานใส่แต่แฝงไปด้วยออร่าแห่งนักฆ่า เพราะผมคนนี้พร้อมจะทำข่าวคดีฆาตกรรมทางช่อง 7 แล้วล่ะครับ ข่าวสดซะด้วยสิ . . . ระหว่างที่ผมคิดแบบนี้ไปรุ่นน้องคนนี้ก็เอาป๊อกกี้มายัดปากผมและยิ้มใส่
“แล้วพรุ่งนี้เจอกันนะครับ ที่รัก~”
“ฮันต่างหาก!!”
ให้ตายสิ บ้า บ้า บ้า!! อยากจะฆ่าคนคนนี้ชะมัด
“ฮันนี่ . . .” คนที่เอาแต่พิงไหล่ผม เรียกชื่อและคลอเคลียเหมือน ‘ลูกสุนัข’ “วันนี้ฉันไปบ้านนายได้ไหม?”
“ได้นะ ถ้านายว่างจริงๆน่ะ”
ให้อธิบายนะครับว่าทำไมผมพูดแบบนี้ เพราะเคนมักจะไม่ว่างเลย ตอนเย็นต้องเลี้ยงน้องๆและมาช่วยนั่งติวหนังสือให้น้องๆ แค่นี้ก็ใช้เวลาเยอะแล้วล่ะครับ
“วันนี้ว่างอยู่แล้ว เพราะพี่ชายพึ่งกลับมาจากอเมริกาน่ะ”
“งั้นก็ได้ . . . กี่โมงดีล่ะ?”
“ตอนนี้เลย”
“แต่ว่าตอนนี้ . . .” ผมสบตามองเคน “ฉันยังทำอะไรไม่เสร็จเลยนะ”
“อะไรไม่เสร็จล่ะ?” เคนยังคงพิงต่อ “งานเอกสารที่โดนสั่งมาเหรอ?”
“ไม่ใช่” ส่ายหน้าไปมา “คือ . . .”
“เด็กนั่นอีกแล้วเหรอ?”
“มะ . . . ไม่ใช่นะ!!” ผมรีบพูดขึ้นมา
ทำไมถึงรู้ล่ะ?!
“อย่ามาโกหกนะ ฮันนี่” คนตรงหน้าผมค่อยๆยื่นหน้ามาหา “ฉันไม่ชอบคนโกหก บอกความจริงมา”
“ก็ . . . แค่โดนรุ่นน้องให้ช่วยติวหนังสือน่ะ”
“ฉันไม่เชื่อ นายชอบปกปิดตลอดเลย” จากนั้นเขาก็ลูบแก้มผม
“เคน . . .” ผมเผลอสบตามองคนตรงหน้า “เฮ่อ . . . ฉันยอมแพ้ ไปด้วยกันตอนนี้ก็ได้”
“งั้นก็เป็นความจริงสินะ ที่จะไปหาเด็กนั่นน่ะ?”
“. . . อือ” ผมพยักหน้า “แล้วจะไปไหมเนี่ย?”
“ไปสิ ป๊ะ!! . . . ไปกันเถอะ”
แค่ผมพูดเชิญชวนให้ไปด้วยกัน เพื่อนคนนี้ที่แสนจะน่าเอ็นดูก็ลุกขึ้นยืนแล้วจับมือผมลากไปหาพี่ชายของผม พี่ชายของผมทำงานเป็นโฮส วันๆจะชอบแต่งตัวให้สมเป็นชาย ไม่ว่าจะทำงานหรือไม่ได้ทำงานก็มักแต่งตัวแบบนี้จนเด่น และมักจะมีหญิงชายชวนมาเป็นนายแบบแต่พี่ชายผมปฏิเสธทุกครั้ง แถมยังไปบอกกับเขาด้วยภาษาเลี่ยนจนน่าชกมากว่า
‘ผมมีน้องชายที่แสนน่ารักที่ต้องคอยดูแลอยู่ ขอโทษนะครับที่ตอบตกลงไม่ได้ เพราะน้องผมน่ะ . . . ชอบเกาะติดผมราวกับลูกแมวน้อย ต้องขอโทษจริงๆนะครับ’
มันเหมือนกับว่าเราเผลอไปทำอะไรให้พี่ชายคนนี้ ‘หลงใหล’ นะ ระหว่างที่กำลังรอพี่ชายผมมารับก็ได้มีรุ่นน้องคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพลางขอโทษที่รบกวนเวลาผมกับเคนกำลังคุยกันอยู่ เธอได้ยื่นจดหมายไปให้เคนและบอกว่า ‘ให้โทรมาหาเธอเพื่อบอกคำตอบด้วย’
“ท่าทางรุ่นน้องคนนั้นจะชอบนายนะเคน” ผมสะกิตและยิ้มให้
“. . . แต่ฉันน่ะ มีคนที่เล็งไว้แล้วนะ”
“เอ้า! . . . แล้วนายจะ . . .”
“ใช่ ฉันจะไม่ตกลง เพราะคนที่ฉันเล็งอยู่นั้นไม่หายไปไหนหรอก”
“แล้วคนคนนั้นเป็นใครน่ะ?”
“. . .” คนข้างๆผมเงียบจากนั้นก็หันมาทางผม “. . .”
ตึกตัก!
ความรู้สึกตื่นเต้นและอยากรู้อยากเข้าใจความหมายที่จะกล่าวออกมา ทำให้หัวใจของผมเต้นดังตึกตักไม่หยุด จากนั้นเคนก็ส่งยิ้มมาให้ผมและยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ
“ถ้านายอยากรู้ . . .” ริมฝีปากที่เริ่มขยับทำให้มันน่าหลงใหลเอามากๆ “คงต้องรอซะหน่อยนะ!!” จากนั้นก็ยิ้มกวนผม
นี่ก็แกล้งผมอีกคน ให้ตายสิ!! เจอแต่คนชอบแกล้งตลอดเลย
“โธ่ . . . ใจร้ายชะมัด เดี๋ยวก็งอนซะเลยนิ” ผมหันหน้าไปทางอื่นจากนั้นก็ทำสีหน้าหงุดหงิดใส่
“งอนแล้วเหรอเนี่ย?” จากนั้นก็จับคางผมให้หันมาหา
‘ว้ายๆ ดูสิ พี่ฮันงอนพี่เคนได้น่ารักมากๆเลยอะ’ มีเสียงรุ่นน้องคนหนึ่งซุบซิบจนผมกับเคนเผลอมอง
“หายงอนแล้วรึยัง?” เคนยังคงเล่นต่อไป และจงใจเอาหน้ามาใกล้ๆ
นี่นายคิดจะทำอะไรน่ะ?!
“คะ . . . เคน นายช่วยเอาหน้าไปไกลๆจะได้ไหม?!” ผมโวยวาย
“โอเค . . .” จากนั้นหน้าก็เริ่มใกล้กว่าเก่า “อยากได้ใกล้กว่านี้ไหมครับ?”
ฉัน . . .
ฉันอยากจะฆ่านาย เจ้าบ้า!!~
‘กรี๊ดดด!! ยื่นหน้ามาซะใกล้เลย’ รุ่นน้องคนที่ 2
‘พี่เคนแกนี่ขี้แกล้งจังเลยนะ’ รุ่นน้องคนที่ 3
‘กรี๊ดด!! ขอบคุณค่ะพี่เคน หนูคนนี้ตื่นจากการเรียนซะแล้วสิ!!’รุ่นน้องคนที่ 3
‘มะ . . . ไม่ไหวแล้ว ฉันจะเป็นลม’ เพื่อนในห้องคนที่ 1
‘เลือดจ้า เลือดอยู่ไหน?! เคนทำฉันจะตายอยู่แล้ว’ เพื่อนในห้องคนที่ 2
‘เคน ไอตัวร้าย . . . นายไม่ต้องมาทำให้ฉันฟินจะได้ไหม?!’เพื่อนในห้องคนที่ 3
และแล้วผมก็ต้องโดนเคนแกล้งโดยเอาหน้ามาใกล้ๆ และมีแอบโอบเอวผมด้วยนะ นี่นายคิดจะทำอะไรกับฉันเนี่ย?! กว่าพี่ชายผมจะมารับก็ผ่านมาได้ชั่วโมงหนึ่งกับการโดนแกล้งฆ่าเวลาไปของเคน ซ้ำยังต้องโดนพี่ชายแกล้งที่บ้านอีกคน
“หยุดกอดผมจะได้แล้วครับ!!” ผมแดดิ้นไปมาบนโซฟา
“ก็พี่ไม่มีอะไรจะผ่อนคลายเลยนี่นา” พูดเสร็จก็เข้ามาหอมแก้มไปที
“อ๊ากกก!! ปล่อยผมนะ!! ขนลุกจะตายอยู่แล้ว!!” ผมดิ้นกว่าเก่า
“หึๆ นายน่ารักจังเลยนะ น้องชายของพี่”
“พี่อย่าพูดอะไรเลี่ยนๆสิครับ!! ขนลุก!!”
ระหว่างที่พี่ชายผมเล่นกับผมไปด้วยนั้น เคนก็เอาน้ำส้มคุ่นที่โดนพี่ชายผมสั่งให้ทำดื่มให้หน่อย พี่ชายผมมักจะชอบอาหารที่เคนทำมากๆรวมทั้งผมด้วย ช่วงแรกๆเคนก็ทำไม่เป็นหรอกแต่พอผมมาสอนนะ ทำเป็นเฉยเลย
“ขอบคุณสำหรับน้ำส้มนะเคน” พี่ผมพูดพลางยิ้มให้
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ก็แค่ใส่เกลือนิดหน่อยเอง” เคนยิ้มตอบ จากนั้นก็นั่งข้างๆผม
“ว่าแต่เรียนหนังสือเป็นไงบ้างเหรอ?”
“ก็ดีครับ แล้วเคนล่ะ?” ผมหันไปถาม
“อื่อ! ก็ดีนะ”
“แล้วทั้งสองคนไม่สนใจทำงานโฮสบ้างเหรอ?” พี่ผมแซว
“ไม่ล่ะครับ พี่นี่ก็จ้องจะให้ผมทำงานนี้ตลอดเลยนะ”
“ก็นายมันหน้าหวานนี่นา สมแล้วที่เป็นน้องชายพี่ ฮ่าๆๆ!!” พูดเองขำเอง
หลงตัวเองอีกแล้ว ไอ้พี่บ้า
“แล้วพี่วินทำงานเป็นไงบ้างครับ?” เคนหัวเราะและถาม
“ก็ปกติ ยกเว้นแต่มีผู้ชายรุ่นอายุน้อยชอบมาจีบพี่น่ะ พี่ก็บอกไปแล้วว่า ‘ชอบผู้หญิง’ แต่พวกเขาก็ไม่เชื่อ” ปากพูดไปพลางหยิบป๊อกกี้ขึ้นมากิน
ป๊อกกี้เอามาตั้งแต่งเมื่อไหร่กัน?
“ท่าทางพี่วินคงเหนื่อยนะครับ”
“ก็นะ โอ๊ะ . . . กินป๊อกกี้คนเดียวแล้วมันอยากเล่นเกมเลยน่ะ” พี่ผมค่อยๆยื่นป๊อกกี้ที่คาปากมาที่พวกเรา “ใครอยากเล่นกับพี่บ้างล่ะ?”
“หา?!/อา . . .” ตกใจสิครับผม ชวนซะไม่ทันตั้งตัวเลย
“นา~นะ! ก็พี่อยากเล่นบ้างนี่นา” พี่ผมอ้อนจนพวกผมคิดว่า ‘น่ารัก’ ทันที
ให้ตายสิ หน้าตาก็ดีแท้ๆแต่มาอ้อนเด็กเนี่ย . . .
“. . . เดี๋ยวผมเล่นกับพี่วินเองครับ” เคนเสนอตัวออกมา
“งั้นก็งับป๊อกกี้สิ”
พี่ผมสั่งแบบนี้เคนก็ค่อยๆงับป๊อกกี้ และกินป๊อกกี้จนผมเริ่มรู้สึกว่าหน้าผมตอนนี้เริ่มร้อนขึ้น ไม่รู้ว่า ‘อาย’ ทำไมล่ะนะ สงสัยนึกถึงในห้องเรียน . . . อ๊ากกกก!! อย่านึกสิ
พี่ผมเหมือนจะยั่วมากๆเลย เพราะสายตาพี่ผมเต็มไปด้วยรอยยิ้มของมารน้อยที่คิดแผนชั่วออกมา แผ่รังสีขี้แกล้งออกมาด้วย แต่ที่ทำให้ผมอยากออกจากตรงนี้สุดๆเพราะ . . . พี่ผมกำลังจะถึงปากเคนแล้ว แค่นิดเดียวก็จะถึงแล้วล่ะครับ
“หือ . . . ไม่กล้าเหรอ?” พี่ผมเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง
“. . .” เคนเงียบไปพักหนึ่ง
“หือ . . . งั้นกะ . . .”
. . .
. . .
. . .
พาผม . . . ออกจากตรงนี้ที
ผมอยากกรี๊ดแบบผู้หญิงชะมัด
เคนไม่ลังเลที่จะเขยิบหน้าไปใกล้ๆพี่วินและไม่สนว่าตัวเองนั้นก็เป็นอย่างไง แต่ที่แน่ๆ . . . เคนชนะกับเกมนี้แล้วล่ะครับ ริมฝีปากพี่วินโดนเพื่อนสนิทของผมขโมยไป ถึงแม้พี่ผมจะเคยจูบผู้หญิงมาก่อนแต่ผู้ชายไม่เคยเลยสักนิด เคนเห็นท่าทีว่าพี่ผมไม่ผละออกก็ค่อยๆเอาริมฝีปากนี้ออกทันที
“พี่วินครับ พี่ท้าทายผะ . . .” ก่อนที่เคนจะพูดจบ น้ำตาพี่วินก็ค่อยๆไหลออกมาทันที “พะ . . . พี่วิน?! ผะ . . . ผม . . .”
“อา . . .” พี่ผมค่อยๆเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา “คะ . . . แค่ตกใจนิดหน่อยน่ะ”
ตายแล้วสิ พี่ผมพึ่งจะร้องไห้ให้ผมเห็นนะเนี่ย
“นี่ตกใจเหรอครับ? ผมว่าช็อคมากกว่านะ” เคนบอกและลูบหัวพี่ผม
“กะ…ก็นะ” พี่วินหลับตาลง
“ฮ่าๆๆ!! ผมไม่แกล้งพี่ดีกว่า…” คนที่แกล้งค่อยๆหันมาหาผมพลางยิ้มหวานใส่ “เพราะถ้าแกล้งเยอะเดี๋ยวฮันนี่จะหึงเอา เนอะ!”
“ใครจะหึงนายมิทราบ ไอบ้า!!”
ผมตะโกนด่าเจ้าตัวที่ยังคงทำตัวตามสบาย จากนั้นก็เริ่มยื่นหน้าไปกระซิบกระซาบข้างๆใบหูของพี่ชายผมจนพี่เริ่มฉีกยิ้มน่ากลัวขึ้นมาทันที ทำไมถึงรู้สึกหนาวๆนะ?
“น้องชายที่รักของพี่~~”
ทำท่าทางให้ไม่เชื่อใจแบบนี้
“ได้ข่าวว่า…”
และหน้าตาจิตแบบแปลกๆแบบนี้
“ควงผู้ชายเหรอ?”
เจ้าบ้าเคน!! ไปบอกพี่ทำไมฟะ?!
“ควงอะไรครับ?” ผมรีบลุกขึ้นหนีแต่ก็โดนจับตัวเอาไว้
“อย่าโกหกพี่ชายคนนี้สิครับ คุณน้องชายสุดที่รัก~” พูดจับผิดและยิ้มหวานๆ
“ผม…”
“ฮัน…” ค่อยๆยื่นหน้ามาหาแล้วรวบเอวผมเอาไว้อย่างดี
ซวย…
“ก็น่าจะรู้นะ ว่าจะเจออะไร?”
ริมฝีปากสวยได้รูปของพี่วินที่คล้ายๆกับของผมเริ่มเข้ามาซุกไซ้บริเวณคอแล้วจากนั้น…ก็ผลักให้นอนบนโซฟาและขึ้นคร่อมโดยไม่ถงไม่ถามความสมัครใจของผมเลยสักนิด
“ยะ…อย่านะครับ!!”
“หึๆ ไม่ได้หรอกครับ น้องน่ะ…เป็นของพี่ไม่ใช่เหรอ?”
“พี่!!!!”
“ฮัน - นี่~~!!” พูดจบก็รีบพุ่งเข้ามากอดผมทันที
“ม่ายยยยยยยยยย!!!”
สุดท้าย…ก็โดนพี่ชายตัวเองแกล้งจนร่างกายแทบจะขยับไม่ไหว พี่วินทั้งล็อคข้อมือไม่ให้ดิ้น ทั้งทับท้องจนเกือบหายใจไม่ออก ทั้งเข้ามาจี้จุดอ่อนอีก…ผมอยากจดชื่อพี่ให้ลงไปในสมุดความแค้นชะมัด
ไอ้พี่บ้า
ความคิดเห็น