คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Kiss No.1
Kiss No. 1
ทุกๆวันก็เหมือนปกติทั่วไปแบบธรรมดา ยกตัวอย่างก็อย่างเช่น ไปเรียน คุยกับเพื่อน นั่งอ่านหนังสือเรียน กลับบ้านกับพี่ชาย ก็ยังไงก็ธรรมดานั่นนะแหละครับ แต่ที่มีอะไรเปลี่ยนๆเข้ามา . . .
อย่าคิดแม้แต่นิดเดียวนะครับ เดี๋ยวจะเล่าฟังเองนะ . . . ก็แค่เพื่อนผู้หญิงในห้องชอบจ้องผมและจับกลุ่มกันนั่งซุบซิบ เหมือนวางแผนคิดจะไปวางระเบิดบ้านใครก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆพวกเธอช่างน่ากลัวมากๆเวลาที่ยิ้มหวานน่ารัก ถึงแม้พวกผู้ชายในห้องจะคิดว่า ‘น่ารัก’ แต่ผมคิดว่า ‘น่ากลัว’ มากกว่าที่จะเหมือนตุ๊กตาซะอีก คงต้องเรียกใหม่ว่า ‘หมาป่า’
และพึ่งมารู้ความจริงจากเพื่อนหญิงที่สนิทกันนิดหน่อย เธอเล่าให้ฟังแบบสั้นๆเลยว่า . . .
“นายโดนจิ้นแล้วล่ะ ฮันนี่จัง” เธอบอกผมพลางกินข้าวของเธอไปด้วยความเอร็ดอร่อย
“หา? . . . มันคืออะไรน่ะ?”
สมองผมเต็มไปด้วยความมึนงง เพราะไม่ค่อยใจที่เจ้าหล่อนพูดเลยสักนิดเดียว ผมพูดออกไปแบบนี้แป้งก็เกาหัวเบาๆเหมือนว่าเธอหงุดหงิดที่ผมไม่รู้สักนิดกะอีแค่คำว่า ‘จิ้น’ เนี่ย มันมากจากคำว่า ‘จินตนาการ’ เหรอ? หรือว่าภาษาของพวกผู้หญิงที่กำลังเล็งจีบมาที่ตัวผม(หลงตัวเองแล้ว) แล้วมันคืออะไรล่ะ?!
“นายรู้จัก ‘เกย์’ ไหม?” แป้งทำหน้าบูด
หน้าจะเน่าแล้วเธอ
“รู้สิ” ผมตอบไปและตั้งใจฟังที่คนตรงหน้าพูด
“มันคล้ายๆกัน แต่ยาโอยเป็นแบบชายรักชาย หน้าตาหล่อ น่ารัก แนวมันก็น่ารัก ซื่อๆและรุนแรงก็มี แต่เกย์ไม่เว้นหน้าตาหรอก รักก็ธรรมดาทั่วไปเหมือนชายหญิงล่ะนะ”
“แล้ว ‘จิ้น’ ล่ะ?” ผมเน้นคำว่า ‘จิ้น’
“ก็พอเวลานายอยู่กับผู้ชายคนไหนแล้วยิ้มให้กัน อยู่ด้วยกันเหมือนตังเมก็จะโดนจับมาเป็นคู่รักน่ะ”
“หา?! ฉันพึ่งรู้นะเนี่ย!!”
“นี่นายไปอยู่ ณ ยุคไหนมาเนี่ย? พวกผู้ชายทุกๆคนรวมทั้งเพื่อนของนายก็รู้หมดแล้วนะ” แป้งดีดหน้าผากผม
“กะ . . . ก็ฉันมัวแต่เรียนและเรียนนี่นา ไม่รู้หรอก” ผมเอามือมาทาบหน้าผาก
“เหรอ? นั่นสินะคะ ‘คุณนักเรียนดีเด่น’ ฉันคงจะไม่รู้เรื่องของคุณเยอะหรอกค่ะ!” เธอยิ้มและทำน้ำเสียงประชดประชา
“อย่าประชดสิแป้ง ก็เราไม่รู้จริงๆนี่นา~”
“อย่ามาทำสีหน้าอ้อนเหมือนแมวเลยนะ ฉันไปล่ะ! เพราะตอนนี้ฉันไปนัดพบกับเพื่อนคนหนึ่งน่ะ” แป้งรีบเก็บจานข้าวทันทีและเดินออกไปโดยที่ผมยังพูดไม่จบ
“โธ่ . . . แป้ง ยังพูดไม่จบเลยอะ”
ผมกะว่าจะเอื้อมมือไปคว้าแขนเธอมาแต่ก็คงไม่ทันแล้วล่ะ เพราะเธอเดินออกไปก่อนที่ผมจะคว้าซะอีก ให้ตายสิผู้หญิงอะไรรีบร้อนชะมัด จากนั้นเมื่อกินข้าวอะไรเสร็จผมก็ต้องไปนั่งคุยกับกลุ่มเพื่อน และโวยวายที่รู้ก่อนผมเกี่ยวกับคำว่า ‘จิ้น’ แถมพวกนี้ยังบอกเกี่ยวกับคำว่า ‘Yaoi’ให้ เผื่อๆจะมีสาวคนไหนแอบจิ้นผมอีก
“ฮัน อยากรู้ไหมว่านายโดนจิ้นกับใครบ้างน่ะ”
ขอแนะนำบุคคลนี้ที่มีหน้าตาหล่อระดับเทพบุตร ที่ส่งมาเกิดจากสวรรค์ เขาคนนี้ถึงหน้าตาจะดีแต่นิสัยในการจีบหญิงนี่มั่วได้สุดๆแถมหมอนี่ยังได้ฉายาว่า ‘สายฟ้า’ เพราะว่าเขาจีบหญิงวันหนึ่งได้ 4 คนไวเหมือนสายฟ้า คนคนนี้มีนามว่า ‘เช’ นิสัยอย่างนี้แต่เรียนเก่งกว่าผมอีกนะ
“ใครล่ะ?” ผมหันไปหาคนที่หาคำตอบมาได้
“ฉันกับบลูไง~!!”
คนที่ร่าเริงและตอนนี้ได้เข้ามากอดผมจากด้านหลัง พลางซบไหล่ไปด้วย หมอนี่ชื่อ ‘เคน’ มักจะโดนผู้หญิงจีบเสมอ ส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นพี่ผู้หญิงเพราะเจ้านี่มันน่าเอ็นดูเหมือน ‘ลูกสุนัข’ เรียนก็เก่งนิสัยก็ชอบเกาะติดผมเวลาที่เจอกัน
ส่วนคนที่ชื่อ ‘บลู’ เขาคนนี้จะเงียบ ราวกับได้หายไปจากโลกมาเพราะเวลาเงียบก็เงียบ เวลาคุยก็คุย เวลาเรียนก็เรียน เหมือนคนทำอะไรก็ทำอย่างเดียว แต่พออยู่กับผมแตกต่างมากๆเพราะเขามักจะนั่งข้างๆและคุยกับผมอะไรเยอะแยะ จนเพื่อนๆต่างไปเรียกหมอนี่ว่า ‘หิน’
“ฉันด้วยนะ ที่โดนจิ้นให้คู่กับฮันนี่น่ะ”
จากนั้นก็มีเสียงเพื่อนผมอีกคนและการกระทำของเขาที่เหมือนผมเป็นแฟนนั้น นั่นก็คือ ‘กอด’ จากด้านหน้าไม่ปล่อยเลยด้วย คนที่กอดผมอยู่เขาชื่อว่า ‘ก้าง’ แต่ที่แน่ๆหมอนี่ . . . มันมีแต่ ‘กล้าม’ ทั้งนั้นเลยนะครับ ก้างมักจะชอบทำกับผมราวกับแฟนมากๆเลย ไม่ว่าจะตอนที่หิวน้ำหรือกินข้าวและเรียน หมอนี่มักจะชอบมาช่วยเรื่องนี้เสมอ
แถมผมยังไปสนิทกับก้างจนพวกเราเป็นเพื่อนสนิทกันไปแล้วล่ะ ผมก็ชอบนะที่มีเพื่อนแบบนี้น่ะ ก้างมีนิสัยที่อ่อนโยนและยิ้มง่ายมากๆถึงแม้จะชอบทำตัวเหมือนนักเลงนิดหน่อยน่ะนะ
“ก้าง ฉันว่านายปล่อยเราดีกว่านะ แค่เคนเข้ามากอดก็อึดอัดแล้ว” ผมจับหลังหมอนี่และยิ้มไป
“ไม่เอา ฉันน่ะชอบกอดนายมานานแล้วล่ะ เพราะนายเหมือนน้องมากๆเลย” ก้างหัวเราะออกมาเหมือนมันน่าขำมากๆ
ปล่อยเถอะครับ ก่อนที่ผมจะโดนคิดไปไกลกว่านี้
“เฮ้ย!! พวกนายปล่อยฮันออกเลยนะ” บลูรีบกระชากตัวผมให้ออกจากทั้งสองคน ที่เอาแต่กอดไม่ปล่อย ขอบคุณพี่ชายมากครับที่ช่วยผมเอาไว้ “ที่จริงฮันเป็นของเราต่างหาก”
ผมขอเอาคำ ‘ขอบคุณ’ คืนพอจะทันไหม?
และแล้วทั้ง 3 คน ก็เริ่มแย่งผมไปมาราวกับของเล่นชิ้นใหม่ ที่จริงก็เล่นด้วยกันแบบนี้มานานแล้วล่ะ แต่พอกลายเป็นแบบนี้พวกผู้หญิงบางส่วนต่างก็พากันซุบซิบกัน บางคนก็ออกหน้าออกตาสุดๆ
“นี่ๆ!! ปล่อยได้แล้ว เดี๋ยวก็โดนมองเยอะหรอก” ผมเริ่มโวยวาย
“ฮันนี่ พวกเราสองคนสนิทกันก็ย่อมที่จะกอดกันได้นะ” ก้างยังดื้อต่อไป
“ถึงแม้นายจะสนิทกับฮัน แต่ฮันก็เป็นเพื่อนฉันนะ~” เคนคงดื้อเหมือนๆกัน
“ฮันก็เพื่อนฉัน” บลูก็ดื้อเหมือนๆกัน
นี่วันบ้าอะไรเนี่ย?!
ผมถอนหายใจและเดินไปตามทางที่ไม่นัดว่าจะไปไหน กว่าผมจะออกจากทั้ง 3 คน ได้ใช้เวลานานมากๆเลยกับการออกจากกัน และแล้วผมก็เผลอไปได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักเหมือนกำลังตลกอะไรสักอย่าง พอหันไปตามเสียงนั้นก็เป็นรุ่นน้องกับรุ่นผมที่กำลังเล่นอะไรสักอย่าง
ผมค่อยๆเดินเข้าไปดูใกล้ๆ จากนั้นก็เห็นว่ามันคือเกม ‘ป๊อกกี้’ ที่ฮิตกันมากๆ เพราะผมก็เคยเล่นเหมือนกันแต่แพ้ตลอดเลย เมื่อเล่นกันเพลินๆจนลืมเห็นผมก็ต้องตกใจกันซะยกใหญ่
“พี่ฮัน!! / ฮันนี่!!” ต่างคนต่างประสานเสียงกันจนผมเผลอหัวเราะออกมา
“ตกใจอย่างกับเห็นผีเลยนะ” ผมยิ้ม
“ก็มาไม่ให้สุ่มให้เสียงเลยนี่นา” เพื่อนผมพูดขึ้น
“โทษที พอดีเห็นว่าเล่นอะไรกันอยู่ ก็เลยเข้ามาดูนิดหน่อยน่ะ” ผมบอกไปแล้วโดนเพื่อนอีกคนลากให้มานั่งข้างๆ
“นายมาพอดีเลย มาเล่นด้วยกันสิ!” เพื่อนผมกล่าว
“นั่นสินะคะ” รุ่นน้องคนหนึ่งหน้าตาน่ารักว่าตาม “โอ๊ะ! . . . ดันเต้ มาเล่นด้วยกันสิ”
รุ่นน้องหญิงคนเดิมหันไปเรียกใครสักคนที่นั่งอยู่คนเดียว และเล่นอะไรสักอย่าง เมื่อผมหันไปก็เป็นรุ่นน้องอีกคน เส้นผมเขามีสีแดง ตาทั้งสองข้างสีฟ้าแหลมสวย บงบอกได้ว่าเป็นคนต่างชาติ ถ้าจำไม่ผิดรุ่นน้องคนนี้เป็นลูกของ ‘มาเฟีย’ นี่นา
“หือ? . . . ได้นะ พอดีไม่รู้จะทำอะไรดีน่ะ” คนตรงหน้าผมหันไปหาพลางใช้สายตามาที่ผม
รู้สึกเหมือนจะโดนกินเลยนะ
“งั้นก็มาเล่นกันเลยนะ!!” เพื่อนผมคนหนึ่งดึงแท่งป๊อกกี้มาชิ้นหนึ่ง “เอางี้ไหม? คนที่พึ่งมา ก็เล่นกันไปก่อนก็แล้วกัน” พูดอย่างนี้ผมก็ทำหน้าเหวอทันที
“บ้าเหรอ? นี่มันแกล้งฉันชัดๆ” ผมโวยวาย
“ก็~ . . . ฉันอยากเห็นคู่ชายกับชายบ้างนี่นา” เพื่อนผมบ่น
“เธอมัน . . .” ผมถึงกับด่าไม่ออกทันที “เฮ่อ . . . ยอมให้เห็นก็ได้”
“กติกานายก็รู้แล้วสินะ ดันเต้” รุ่นน้องที่ชวนดันเต้หันไปถาม
“ก็นิดหน่อยน่ะ” ดันเต้กุมหัว
“นี่ดันเต้ มันเล่นอย่างนี้นะ” เธอบอกพลางอธิบายไปด้วย “อย่างแรกนายกับรุ่นพี่ต้องค่อยๆกินป๊อกกี้ในแท่งเดียวกัน อย่างที่สองแท่งป๊อกกี้ที่กินด้วยกัน ต้องสั้นกว่าของคนอื่นๆคงจะเข้าใจนะ”
“อือ เข้าใจแล้วล่ะ”
“ถ้างั้นมาเริ่มกันเลย!!”
พวกเพื่อนๆผมไม่รอช้าที่จะให้เตรียมตัวเลยสักนิดเดียว ก็ได้จับพวกผมมานั่งตรงข้ามกันพร้อมกับแท่งป๊อกกี้ที่อยู่ตรงกลาง พระเจ้ากลัดแกล้งผมรึเปล่าเนี่ย?
เมื่อพร้อมทุกๆอย่างผมก็ค่อยๆงับแท่งป๊อกกี้แต่ต้องสะดุดกับดวงตาของคนตรงหน้าที่จ้องมาที่ผม มันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ อุณหภูมิในร่างกายเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนผมคนนี้เผลอหลับตาลงเพราะความเขินที่ไปรู้สึกแปลกๆกับผู้ชาย เมื่อกัดแท่งป๊อกกี้ไปเรื่อยๆจนไม่หยุด . . . มันก็ทำให้ผมรู้สึกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
แต่ที่แน่ๆ เสียงเพื่อนๆกับรุ่นน้องที่กรี๊ดร้องเหมือนเจอของแปลกใหม่ เพราะทุกๆคนก็ลองคิดดูสิครับ กัดไปเรื่อยๆมันก็ต้องหยุดบ้างแต่นี่มันไม่หยุดเลยสักนิด หัวใจผมต้องเต้นแรงกว่าเดิมแถมใบหน้าผมที่ชมพูตอนนี้ได้แดงก่ำ เพราะความรู้สึกนุ่มนิ่มบริเวณริมฝีปากนั้นต้องทำให้ผมเบิกตาทันที และผละคนตรงหน้าออกไป
“กรี๊ดดดด!! . . . แม่จะสลบแล้วล่ะลูกขา~” เพื่อนผมเข้าไปกอดรุ่นน้อง
“นั่นสินะคะ คุณแม่ หนูลืมเอากล้องมาถ่ายเลยอะ”
เสียงโวยวายที่เสียดายกับการไม่ได้เอากล้องหรือมือถือขึ้นมาถ่าย ได้แต่ลุ้นอย่างเดียวเท่านั้น ผมน่ะอายมากๆแถมยังเอามือปิดหน้าอีกส่วนรุ่นน้องอีกคนน่ะเหรอ . . . ใช้นิ้วแตะปากไม่หยุดเลย จูบแรกรึไงเล่า!?
“ฮันนี่~ ในที่สุดก็มีคนขโมยจูบแรกของนายไปแล้วนะ~” เพื่อนผมแซว
“บะ . . . บ้าเหรอ?! ฉะ . . . ฉันก็เคยโดนขโมยจูบแรกไปแล้วนะ” ผมบอกแต่เพื่อนๆผมก็ไม่เชื่อ
ก็มันเป็นเรื่องจริงที่ผมไม่เคยโดนขโมยจูบไปเลยสักนิด
“นี่ก็ . . . เป็นจูบแรกของผมเหมือนกันครับ”
ดันเต้พูดอย่างนี้ออกไปพวกผู้หญิงก็เงียบจากนั้นก็เริ่มกรี๊ดออกมา ผมหันไปหาบุคคลที่ทำให้ผมเสียจูบแรกไปแต่เขาก็หันมาหาผมเหมือนกันพลางยิ้มให้ และยิ่งทำให้ผมหน้าแดงจนทำตัวไม่ถูกเลยสักนิด
หมอนี่ . . . มีแผนอะไรกันแน่?
“รุ่นพี่ครับ ถ้ารุ่นพี่รู้สึกชอบผมขึ้นมา . . .” เขาค่อยๆเดินมาหาผมพลางใช้มือลูบใบหน้าผมอย่างแผ่วเบา “ก็มารักผมได้นะ” จากนั้นก็ยิ้มให้
“กรี๊ดดด!! นี่มันบอกรักกันนี่นา” เพื่อนผมออกหน้าออกตาสุดๆ
“ผมล้อเล่นน่ะ ก็แค่อยากแกล้งรุ่นพี่เฉยๆน่ะ”
ไอ . . . บ้า!! คอยดูจะเอาคืนเลย
“ดันเต้ . . .” ผมเรียกคนตรงหน้า
“ครับ?” เขาเอียงคอพลางยิ้มให้
“ฉันน่ะ จะไม่รักนายแน่ๆ!! . . . แต่ . . .” ผมเว้นช่วงจากนั้นก็ปั่นทำหน้าผู้ชัยชนะ “ฉันจะทำให้นายมารักฉันแทนต่างหาก!!”
ความคิดเห็น