ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Tale 2: Tsuki to Usagi !! 2
“หือ?” พอได้ยินอีกฝ่ายกล่าวแบบนั้น คิ้วเรียวคมของร่างสูงเลิกก็คิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าไฮโดะกับโยชิกิเคยรู้จักกันมาก่อนด้วย
“คนคนนั้นน่ะ เป็นคนที่สุดยอดมากๆ เลยเนอะ” ไฮโดะมองหน้าคู่สนทนาด้วยความสงสัย
ก็แค่เขารู้จักกับโยชิกิซังเท่านั้นเอง คนคนนั้นทำงานในวงการนี้มานาน .. นานกว่าเขาเสียอีก ดังนั้นมันไม่ใช่แปลกไม่ใช่เหรอ? ที่พวกเขาจะรู้จักกันน่ะ ทำไมกัคคุโตะทำสีหน้าประหลาดใจขนาดนี้ด้วย มันมีอะไรรึไง? ไฮด์คิดอยู่ในใจ
ว่ากันตามจริงแล้ววันนี้เขามาเพื่อ ‘จับผิด’ โดยเฉพาะ ไม่สิๆ จริงๆ แล้วน่าจะเรียกว่ามันว่า ‘ตอนต่อของการเค้นความลับ’ มากกว่า เพราะว่าหลังจากวันอีฟผ่านพ้นไปพวกเขาต่างต้องกลับไปทำงานของตัวเอง และดูเหมือนว่าทางกัคคุโตะจะยุ่งเสียยิ่งกว่าเขาเสียอีก ดังนั้นเขาจึงปล่อยให้เวลามันผ่านล่วงเลยมาจนถึงตอนนี้
... กัจจังคงลืมเรื่องคราวนั้นไปแล้ว ...
แต่เขาไม่วันลืมหรอก ... ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนเขาก็ต้องรู้ ‘ความลับ’ ของหมอนั้นให้ได้!!!
และเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายผิดสังเกต แม้ว่าในหัวจะคิดแผนการที่จะล้วงความลับของร่างสูงอยู่ก็ตาม แต่ปากกลับยังบอกเล่าเรื่องของคนคนนั้นต่อไปราวกับปลื้มผลงานของคนคนนั้นเสียเหลือเกิน
“แล้วอัลบั้มใหม่ของโยชิกิซังที่ออกมาน่ะ...มันก็ ... ชื่ออะไรน้า ..”
แต่เพราะว่าพูดในสิ่งที่ไม่ได้คิดอยู่นั่นแหละ มันทำให้บางครั้งข้อมูลในหัวก็ออกจะขาดๆ หายๆ ไปบ้าง พอพูดมาถึงเรื่องนี้เขากลับนึกชื่ออัลบั้มของคนคนนั้นไม่ออกขึ้นมาเสียเฉยๆ ส่วนหมอนั่นเองคงนึกสงสารเขาขึ้นมากระมังจึงช่วยเติมในส่วนที่ขาดหายไปให้
“EMII”
ไฮโดะพยักหน้ารับ พร้อมกับกล่าวสำทับว่าสิ่งที่เขากำลังพูดถึงอยู่คือ ‘EMII’ อยู่จริงๆ
“ใช่ๆ อันนั้นแหละ ฉันซึ้งจนร้องไห้เลยนะ” พอได้ยินไฮโดะเช่นนั้น อีกฝ่ายก็ยิ้มตอบกลับมาแทนคำตอบของเขา... เป็นรอยยิ้มที่ดูฝืนๆ ยังไงพิกล ดูแล้วน่าสงสัยนักล่ะ
... โยชิกิซัง หรือ EMII กันนะที่ทำให้นายดูแปลกไปแบบนี้? ...
เมื่อสงสัยแล้วไฮโดะก็ไม่ลืมที่เลือกตัวเลือกหนึ่งในสองนั้นขึ้นมาเป็นเรื่องที่คุยต่อไปของเขา
“อ้อ ใช่ๆๆ แล้วก็โดยเฉพาะเพลงที่แต่งให้ฮิเดะซังเพลงนั้นน่ะ....” แล้วดูเหมือนว่าวิธีนี้จะได้ผลดีเสียด้วย เพราะเมื่อเขากล่าวออกไป ไม่ทันจะจบกัคคุโตะก็กล่าวแทรกตัดตอนคำพูดของเขาไปเสียเฉยๆ
“ฉันหิวแล้วล่ะ เราไปหาอะไรทานกันเถอะ ไหนว่าเพิ่งไปเจอร้านอาหารจีนอร่อยๆ มาไม่ใช่รึไง?” แถมยังหยิบยกเอาเรื่องของกินที่ร่างบางโปรดปรานมาใช้เป็นข้ออ้างในการเปลี่ยนเรื่องคุยอีกด้วย
‘คนอะไรเจ้าเล่ห์แบบนี้... ร้ายจริงๆ ...’ ไฮโดะคิดอยู่ในใจ ขณะที่พยายามมองสบลึกลงไปในดวงตาเรียวคมคู่นั้น แต่เพราะมีแว่นตาสีชาบดบังดวงตาคู่นั้นอยู่ เขาจึงไม่อาจเห็นอะไรได้มากนัก แต่จะว่าไป แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วที่รู้ได้ว่าเจ้าตัวไม่อยากคุยเรื่องนี้เท่าไหร่
‘เพลงที่แต่งให้ฮิเดะซังที่ตายไปแล้ว?’ และเป็นเพราะว่ากัคคุโตะเล่นตัดบทไปก่อนแบบนี้ จึงทำให้เขารู้สึกติดใจท่าทีของหมอนั่นนัก สำหรับกัคคุโตะแล้วเรื่องที่ไม่อยากพูดถึงนั้นสามารถตีความได้สองอย่าง
หนึ่งคือ ... เป็นเรื่องส่วนตัว
สองคือ ... เป็นเรื่องความหลังที่เจ็บปวด
คราวนี้จะเป็นข้อไหนกันนะ? ร่างบางคิดอย่างสนุกสนาน พลันรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาก เพราะสามารถรุกจนอีกฝ่ายเผลอเผยความลับออกมา ให้เขาสืบต่อได้ทีละน้อย ตอนนี้พอแค่นี้ก่อนดีกว่า รุกมากๆ เดี๋ยวหมอนั่นรู้ตัวก็จบกันพอดี
... บทเพลงรักที่ไร้คนร้อง ...
... กับ ‘ความลับ’ ของนาย ...
... สองอย่างนี้จะมีอะไรเกี่ยวกันรึเปล่านะ? ...
ถึงจะยังนึกข้องใจในท่าทีของอีกฝ่ายเพียงใดก็ตาม แต่ในเวลาที่พูดถึงเรื่องของกินแบบนี้ ถ้าไม่กล่าวออะไรออกไปเลย ต้องดูน่าสงสัยแน่ๆ พอคิดได้แบบนั้น ร่างบางก็เก็บความกระหายใคร่รู้ลงหีบไป และตั้งหน้าตั้งตาใส่ใจกับรายการมื้อเย็นวันนี้แทน
“...อ๊ะ.. ใช่ที่เล่าให้ฟังคราวก่อนไง ร้านนั้นผัดหมี่กับติ่มซำอร่อยมากเลย ราคาก็ไม่แพงด้วย มื้อเย็นจะไปทานที่นั่นก็ดีเหมือนกัน ...อืมจะว่าไปแล้วจริงๆ ฉันอยากกินโอโคโนมิยากิมากกว่า แล้วต่อด้วยราเมงตรงหัวมุมร้านนั้น แต่ถ้าได้ทาโกะยากิตบท้ายก็ไม่เลวนะ นายว่าไง?” ไฮโดะพยักหน้ารับกับคำถามของคู่สนทนา แล้วเริ่มต้นกล่าวถึงร้านอาหารร้านนั้นด้วยดวงตาเป็นประกายราวกับเด็กเวลาได้ของถูกใจ
“เอาสิ วันนี้จะทานมันให้หมดนั่นแหละ ถ้านายยัดมันลงไปได้ล่ะก็นะ”
ส่วนกัคคุโตะพอเห็นท่าทางแบบนั้นของร่างบาง ก็อดหัวเราะไม่ได้เสียทุกครั้ง เพราะมันน่ารักน่าเอ็นดูเสียจน เขามักจะลืมไปเสมอว่าคนตรงหน้านี้อายุมากกว่าหลายปี แถมแต่งงานมีลูกแล้วอีกต่างหาก
“อ๊ะ อย่าท้านะกัจจัง อาหารแค่ไม่กี่อย่างเองยังไม่ถึงครึ่งกระเพาะฉันเลยด้วยซ้ำไป เอ้าลุกซะทีสิ ฉันหิวจริงๆ แล้วน้า” ไฮโดะกล่าวพลางฉุดแขนของร่างสูงให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ซึ่งเขาจำเป็นต้องลุกขึ้นตามที่ถูกฉุดแต่โดยดี เพราะขืนช้ากว่านี้ทัวร์ตระเวนตามร้านอาหารคงไม่จบลงง่ายๆ เป็นแน่
............................................................
“คนคนนั้นน่ะ เป็นคนที่สุดยอดมากๆ เลยเนอะ” ไฮโดะมองหน้าคู่สนทนาด้วยความสงสัย
ก็แค่เขารู้จักกับโยชิกิซังเท่านั้นเอง คนคนนั้นทำงานในวงการนี้มานาน .. นานกว่าเขาเสียอีก ดังนั้นมันไม่ใช่แปลกไม่ใช่เหรอ? ที่พวกเขาจะรู้จักกันน่ะ ทำไมกัคคุโตะทำสีหน้าประหลาดใจขนาดนี้ด้วย มันมีอะไรรึไง? ไฮด์คิดอยู่ในใจ
ว่ากันตามจริงแล้ววันนี้เขามาเพื่อ ‘จับผิด’ โดยเฉพาะ ไม่สิๆ จริงๆ แล้วน่าจะเรียกว่ามันว่า ‘ตอนต่อของการเค้นความลับ’ มากกว่า เพราะว่าหลังจากวันอีฟผ่านพ้นไปพวกเขาต่างต้องกลับไปทำงานของตัวเอง และดูเหมือนว่าทางกัคคุโตะจะยุ่งเสียยิ่งกว่าเขาเสียอีก ดังนั้นเขาจึงปล่อยให้เวลามันผ่านล่วงเลยมาจนถึงตอนนี้
... กัจจังคงลืมเรื่องคราวนั้นไปแล้ว ...
แต่เขาไม่วันลืมหรอก ... ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนเขาก็ต้องรู้ ‘ความลับ’ ของหมอนั้นให้ได้!!!
และเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายผิดสังเกต แม้ว่าในหัวจะคิดแผนการที่จะล้วงความลับของร่างสูงอยู่ก็ตาม แต่ปากกลับยังบอกเล่าเรื่องของคนคนนั้นต่อไปราวกับปลื้มผลงานของคนคนนั้นเสียเหลือเกิน
“แล้วอัลบั้มใหม่ของโยชิกิซังที่ออกมาน่ะ...มันก็ ... ชื่ออะไรน้า ..”
แต่เพราะว่าพูดในสิ่งที่ไม่ได้คิดอยู่นั่นแหละ มันทำให้บางครั้งข้อมูลในหัวก็ออกจะขาดๆ หายๆ ไปบ้าง พอพูดมาถึงเรื่องนี้เขากลับนึกชื่ออัลบั้มของคนคนนั้นไม่ออกขึ้นมาเสียเฉยๆ ส่วนหมอนั่นเองคงนึกสงสารเขาขึ้นมากระมังจึงช่วยเติมในส่วนที่ขาดหายไปให้
“EMII”
ไฮโดะพยักหน้ารับ พร้อมกับกล่าวสำทับว่าสิ่งที่เขากำลังพูดถึงอยู่คือ ‘EMII’ อยู่จริงๆ
“ใช่ๆ อันนั้นแหละ ฉันซึ้งจนร้องไห้เลยนะ” พอได้ยินไฮโดะเช่นนั้น อีกฝ่ายก็ยิ้มตอบกลับมาแทนคำตอบของเขา... เป็นรอยยิ้มที่ดูฝืนๆ ยังไงพิกล ดูแล้วน่าสงสัยนักล่ะ
... โยชิกิซัง หรือ EMII กันนะที่ทำให้นายดูแปลกไปแบบนี้? ...
เมื่อสงสัยแล้วไฮโดะก็ไม่ลืมที่เลือกตัวเลือกหนึ่งในสองนั้นขึ้นมาเป็นเรื่องที่คุยต่อไปของเขา
“อ้อ ใช่ๆๆ แล้วก็โดยเฉพาะเพลงที่แต่งให้ฮิเดะซังเพลงนั้นน่ะ....” แล้วดูเหมือนว่าวิธีนี้จะได้ผลดีเสียด้วย เพราะเมื่อเขากล่าวออกไป ไม่ทันจะจบกัคคุโตะก็กล่าวแทรกตัดตอนคำพูดของเขาไปเสียเฉยๆ
“ฉันหิวแล้วล่ะ เราไปหาอะไรทานกันเถอะ ไหนว่าเพิ่งไปเจอร้านอาหารจีนอร่อยๆ มาไม่ใช่รึไง?” แถมยังหยิบยกเอาเรื่องของกินที่ร่างบางโปรดปรานมาใช้เป็นข้ออ้างในการเปลี่ยนเรื่องคุยอีกด้วย
‘คนอะไรเจ้าเล่ห์แบบนี้... ร้ายจริงๆ ...’ ไฮโดะคิดอยู่ในใจ ขณะที่พยายามมองสบลึกลงไปในดวงตาเรียวคมคู่นั้น แต่เพราะมีแว่นตาสีชาบดบังดวงตาคู่นั้นอยู่ เขาจึงไม่อาจเห็นอะไรได้มากนัก แต่จะว่าไป แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วที่รู้ได้ว่าเจ้าตัวไม่อยากคุยเรื่องนี้เท่าไหร่
‘เพลงที่แต่งให้ฮิเดะซังที่ตายไปแล้ว?’ และเป็นเพราะว่ากัคคุโตะเล่นตัดบทไปก่อนแบบนี้ จึงทำให้เขารู้สึกติดใจท่าทีของหมอนั่นนัก สำหรับกัคคุโตะแล้วเรื่องที่ไม่อยากพูดถึงนั้นสามารถตีความได้สองอย่าง
หนึ่งคือ ... เป็นเรื่องส่วนตัว
สองคือ ... เป็นเรื่องความหลังที่เจ็บปวด
คราวนี้จะเป็นข้อไหนกันนะ? ร่างบางคิดอย่างสนุกสนาน พลันรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาก เพราะสามารถรุกจนอีกฝ่ายเผลอเผยความลับออกมา ให้เขาสืบต่อได้ทีละน้อย ตอนนี้พอแค่นี้ก่อนดีกว่า รุกมากๆ เดี๋ยวหมอนั่นรู้ตัวก็จบกันพอดี
... บทเพลงรักที่ไร้คนร้อง ...
... กับ ‘ความลับ’ ของนาย ...
... สองอย่างนี้จะมีอะไรเกี่ยวกันรึเปล่านะ? ...
ถึงจะยังนึกข้องใจในท่าทีของอีกฝ่ายเพียงใดก็ตาม แต่ในเวลาที่พูดถึงเรื่องของกินแบบนี้ ถ้าไม่กล่าวออะไรออกไปเลย ต้องดูน่าสงสัยแน่ๆ พอคิดได้แบบนั้น ร่างบางก็เก็บความกระหายใคร่รู้ลงหีบไป และตั้งหน้าตั้งตาใส่ใจกับรายการมื้อเย็นวันนี้แทน
“...อ๊ะ.. ใช่ที่เล่าให้ฟังคราวก่อนไง ร้านนั้นผัดหมี่กับติ่มซำอร่อยมากเลย ราคาก็ไม่แพงด้วย มื้อเย็นจะไปทานที่นั่นก็ดีเหมือนกัน ...อืมจะว่าไปแล้วจริงๆ ฉันอยากกินโอโคโนมิยากิมากกว่า แล้วต่อด้วยราเมงตรงหัวมุมร้านนั้น แต่ถ้าได้ทาโกะยากิตบท้ายก็ไม่เลวนะ นายว่าไง?” ไฮโดะพยักหน้ารับกับคำถามของคู่สนทนา แล้วเริ่มต้นกล่าวถึงร้านอาหารร้านนั้นด้วยดวงตาเป็นประกายราวกับเด็กเวลาได้ของถูกใจ
“เอาสิ วันนี้จะทานมันให้หมดนั่นแหละ ถ้านายยัดมันลงไปได้ล่ะก็นะ”
ส่วนกัคคุโตะพอเห็นท่าทางแบบนั้นของร่างบาง ก็อดหัวเราะไม่ได้เสียทุกครั้ง เพราะมันน่ารักน่าเอ็นดูเสียจน เขามักจะลืมไปเสมอว่าคนตรงหน้านี้อายุมากกว่าหลายปี แถมแต่งงานมีลูกแล้วอีกต่างหาก
“อ๊ะ อย่าท้านะกัจจัง อาหารแค่ไม่กี่อย่างเองยังไม่ถึงครึ่งกระเพาะฉันเลยด้วยซ้ำไป เอ้าลุกซะทีสิ ฉันหิวจริงๆ แล้วน้า” ไฮโดะกล่าวพลางฉุดแขนของร่างสูงให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ซึ่งเขาจำเป็นต้องลุกขึ้นตามที่ถูกฉุดแต่โดยดี เพราะขืนช้ากว่านี้ทัวร์ตระเวนตามร้านอาหารคงไม่จบลงง่ายๆ เป็นแน่
............................................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น