ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตัวจริงของชายในชุดฮูด
‘ใครกัน? มาทำอะไรอยู่แถวนี้ พวกเร่ร่อนเหรอ?’ เขาคิดขณะที่จ้องมองร่างที่กำลังเดินใกล้เข้ามาด้วยความสงสัย ร่างนั้นค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ เขามากขึ้น
.มากขึ้นทุกที Hyde ก็ยังยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น เรื่องเริ่มจะเหมือนในความฝันเข้าไปทุกที คงเพราะความอยากรู้นั่นเองที่ตรึงให้เขายืนนิ่งอยู่กับที่ คราวนี้เขาคงจะได้เห็นโฉมหน้าของคนที่เห็นในความฝันเสียที ทีนี้จะได้ถามใช้ชัดๆ เลยว่ามีธุระอะไรกับเขากันแน่ คนที่เดินออกมาจากในซากตึกใส่เสื้อมีฮูดสีดำ จึงทำให้มองไม่เห็นใบหน้าที่ถูกซ่อนเอาไว้ในเงามืด
“ หาไอ้นี่อยู่สินะ?” เสียงทุ้มแต่หวานหูเอ่ยขึ้นเมื่อเดินมาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้า Hyde  เสียงนั้นช่างคล้ายกันมากกับเสียงของเขา ผู้ชายคนนั้นชูไดอารี่เล่มเก่าของ Hyde ขึ้นร่างบางมองมันแล้วก็รีบสาวเท้าเข้าไปรับมันกลับคืนมา
“ชะ ใช่ เอ่อ ขอบคุณมาก” Hyde กล่าวขณะที่คิดว่าคนตรงหน้าช่างทำตัวลึกลับเหลือเกิน ทั้งๆ ที่เป็นหน้าร้อน เขายังใส่เสื้อแขนยาวมีฮูดแบบนี้ ทำราวกับต้องการจะปิดบังใบหน้าของตัวเองอย่างนั้นเแหละ
“ เอ่อ .คุณมีธุระอะไรกับผมรึเปล่าฮะ” Hyde ถามออกไปเพราะพอรับสมุดกลับมาแล้ว ชายหนุ่มใส่ฮูดคนนั้นก็ยังยืนนิ่งจ้องหน้าเขาอยู่อย่างนั้น แถมยังยิ้มแปลกๆเวลามองหน้าเขาด้วย มันทำให้เขารู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ
“ชั้นรอนายมานานแล้วนะ ..ดีใจจริงๆ ที่นายกลับมา ชั้นรอนายอยู่ตลอดเลยนะรู้รึเปล่า?” เสียงทุ้มหวานนั้นกล่าวอย่างยินดี
“ ..เอ่อ .เราเคยรู้จักกันเมื่อไหร่เหรอฮะ .” แม้การที่อยู่ๆ มีคนมาตีสนิทแบบนี้จะทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด แต่ก็พยายามถามอีกฝ่ายอย่างสุภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาไม่ชอบคนประเภทนี้เอาซะเลย
“ใจร้าย ..น่าน้อยใจจริงๆ ที่นายลืมฝาแฝดของนายอย่างชั้นเสียได้ ที่บอกคุณลุงคนนั้นว่าอยากมีฝาแฝดก็เป็นเรื่องโกหกสินะ” ชายในชุดเสื้อฮูดคนนั้นกล่าวตัดพ้อด้วยความน้อยใจจะแสร้งทำรึเปล่าเขาไม่สนใจ เขารู้แต่นี่มันล้อเล่นกันมากเกินไปแล้ว
“มันจะมากเกินไปแล้วนะ! ผมไม่เคยมีพี่น้องที่ไหน เพราะฉะนั้นยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่มีฝาแฝด .ผมเกลียดการล้อเล่นอย่างนี้ที่สุด ขอบคุณที่เก็บของให้ ขอตัวล่ะ!” Hyde ตะโกนใส่คู่สนทนาอย่างเหลืออด คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหาอย่างไม่สบอารมณ์ เขาเกลียดพวกที่ชอบอ้างว่าเป็นอะไรกับเขาที่สุด มันมักทำให้เขาหงุดหงิดจนทนไม่ได้ทุกทีที่ได้ยินเรื่องแบบนั้น และขณะที่ Hyde กล่าวจะเดินจากไปนั้นเอง มือที่แข็งกระด้างข้างหนึ่งก็เอื้อมมาขว้ามือเขาเอาไว้ Hyde หันกลับไปมองเจ้าของมือด้วยความไม่พอใจ ดวงตาสีน้ำตาลคู่สวยเป็นประกายวาบขึ้นด้วยอารมณ์ แต่ชายหนุ่มปริศนากลับไม่สนใจเขายิ่งเพิ่มแรงจับยึดให้มากขึ้น ขณะที่พยายามกล่าวระลึกความหลังเพื่อให้อีกฝ่ายจำเขาได้
“ความจริงจะว่าไปเรา 2 คนก็ไม่ได้เจอกันนาน ไม่แปลกอะไร ถ้านายจะลืมชั้นไป จะว่าไปนายก็ไปตั้งแต่ก่อนที่ชั้นจะเสร็จด้วยซ้ำ นายโตขึ้นเยอะนะเนี่ย สวยเสียจนชั้นเกือบจำไม่ได้แน่ะ” ชายปริศนาพูดไปยิ้มไป เป็นรอยยิ้มที่ให้ความรู้สึกขนลุกอย่างไรพิกล ยิ่งคำพูดของเขายิ่งทำให้เขารู้สึกสะกิดใจถึงเรื่องอะไรบางอย่างที่อยู่ลึกสุดในความทรงจำ
‘คุณลุง? ไปก่อนที่จะเสร็จ? ฝาแผด?’ เอ...เรื่องแบบนี้เหมือนเคยได้ยินที่ไหนน้า Hyde นึกในใจขณะที่จ้องมองชายในชุดฮูดไม่วางตาด้วยความสงสัย
“ยังจำไม่ได้อีกเหรอ ทั้งที่ชั้นเป็นคนเอาสมุดไดอารี่ไปคืนนายเมื่อ 2 วันก่อนชั้นก็นึกว่ามันจะช่วยทำให้นายนึกอะไรออกบ้างซะอีก น่าเสียใจจริงๆ” ชายปริศนาเห็นคู่สนทนาของตนไม่มีทางท่าจะจำเขาได้ก็เริ่มตัดพ้อขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้คำพูดของชายในชุดฮูดเข้าไปกระแทกความจำของ Hyde อย่างแรง เพราะไปชมกับคนคนหนึ่งตามทางเดินเข้าจึงได้สมุดเล่มนี่มาหรือว่าจริงๆแล้ว.....
“หรือว่านายคือ.....” Hyde เงยหน้าขึ้นมองคู่สนทนาด้วยความประหลาดใจเขาไม่คิดว่าสิ่งที่เขาคิดว่าบังเอิญจะเป็นการวางแผนของชายคนนี้ จริงๆแล้วเขาวางแผนทำแบบนี้มีจุดประสงค์อะไรกันนะ
“ฮะฮะฮะฮะ ในที่สุดก็นึกอะไรออกแล้วใช่ไหมล่ะ ความรู้สึกช้าจังเลยนะ ใช่แล้วล่ะ คนที่เดินชนนายวันนั้นคือชั้นเอง” ชายปริศนากล่าวพลางหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“งั้นที่ทำคุณต้องการอะไร? แล้วทำไมต้องปิดบังหน้าตาเอาไว้แบบนี้ด้วย” Hyde ถามด้วยความไม่เข้าใจ แต่แทนที่จะตอบคำถามชายปริศนากลับดึงเอาฮูดที่ใส่มาตลอดเวลาออกเพื่อให้เห็นใบหน้าของเขา
“อะ ..” ร่างบางเผลอหลุดเสียงร้องด้วยความตกใจออกมา เมื่อได้เห็นในสิ่งที่ชายหนุ่มคู่สนทนาปิดปังเอาไว้ตลอดเวลา ส่วนหัวที่กลมคลึงที่ได้รับการขัดจากกระดาษทรายอย่างดีนั้นโล้นเลี่ยนไร้เส้นผมแม้ซักเส้น ใบหน้าที่แกะสลักจากไม้มีรอยถูกไฟไหม้ไปครึ่งซีกหนึ่ง ส่วนที่แกะเป็นปากกำลังขยับขึ้นลงดูแล้วช่างน่าขยะแขยงสิ้นดี Hyde เดินถอยหลังห่างออกมาจากหุ่นไม้เดินได้ตัวนั้น เขารู้แล้วที่แท้คู่สนทนาของเขาเป็นหุ่นไม้ที่คุณลุงสัญญาว่าจะแกะให้ในช่วงที่เขาอยู่ที่ไต้หวันน่ะเอง คู่แฝดของเขาที่หวังจะได้หนักหนาบัดนี้ได้เห็นแล้ว เขากลับรู้สึกทั้งหวาดกลัวและขยะแขยง
”อ้าว! จะรีบไปไหนล่ะ เราเพิ่งได้คุยกันนิดเดียวเองนะ เมื่อก่อนนายเองก็อยากจะเห็นชั้นไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ชั้นมาให้นายเห็นแล้วนี่ อยู่ด้วยกันอีกหน่อยน่า” มือที่สลักด้วยไม้อย่างประณีตทั้งยังมีข้อต่อของนิ้วประกอบเข้ากับมือทำให้เคลื่อนไหวราวกับมือคนจริงๆนั้นยังคงกำขอมือของร่างบางไว้แน่นไม่ยอมปล่อยง่ายๆ
“ปล่อยชั้นนะ! ปล่อย!” Hyde พยายามสลัดให้หลุดจากการแกะกุมจากสิ่งประดิษฐ์ที่น่ารังเกียจนี่ แต่มันไม่ใช่เรื่อง่ายเลย เมื่อมันไม่ยอมปล่อยซ้ำยังพยายามดึงดังตัวเขาเข้าไปใกล้ๆ อีก
“ว่าไง ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ ไม่ดีใจที่เจอชั้นเหรอ? ชั้นดีใจมากเลยนะที่ได้เจอนาย นี่ๆๆดูสิ นิ้วของชั้นน่ะ ขยับได้เหมือนของจริงเลยใช่ไหม คุณลุงน่ะนะ นอกจากจะสร้างพวกเราท่านยังทุ่มจิตใจใส่ลงไปในตัวพวกเราด้วย หลังจากคุณลุงตายเพราะไฟไหม้พวกเราหลายตัวก็ตายลงช้าๆ เพราะไม่มีใครดูแล จนสุดท้ายเหลือแต่ชั้นเท่านั้น” แม้ว่าจะทั้งขยะแขยงและกลัวมากก็ตามทีแต่ hyde ก็มองริมฝีปากที่แกะจากไม้นั้นขยับขึ้นลงตลอด แถมตาที่ใส่ลูกแก้วเข้าไปก็เหมือนจะเป็นประกายวาบขึ้นมาด้วย มันกระดิกนิ้วทุกนิ้วขึ้นลงอย่างพึงพอใจ ริมฝีปากของมันเหยียดยิ้มกว้างได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“แต่แค่นี้ชั้นยังไม่พอใจหรอกนะ ชั้นเองก็มีความฝันเหมือนกัน และนั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้ชั้นตามหานาย” เจ้าหุ่นไม้กล่าวช้าๆ พร้อมดึงมือ hyde ให้ตามเข้าไปข้างในตึกร้างหลังนั้น
“เดี๋ยว! เดี๋ยวก่อนนั้นนายจะลากชั้นไปไหน ปล่อยชั้นเดียวนี้นะ นายจะฝันอะไรชั้นไม่สนใจ ปล่อยชั้นนะ!!!” hyde ร้องขณะที่ถูกดึงเข้าไปในซากตึกที่ถูกไฟไหม้หลังนั้นด้วยพลังที่ไม่น่าเชื่อว่าเป็นพลังของหุ่นไม้ตัวหนึ่ง เจ้าหุ่นไม้ตัวนั้นคล้ายไม่ได้ยินเสียงเขาจะดึงเขาเข้าไปข้างในให้ได้
“ หาไอ้นี่อยู่สินะ?” เสียงทุ้มแต่หวานหูเอ่ยขึ้นเมื่อเดินมาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้า Hyde  เสียงนั้นช่างคล้ายกันมากกับเสียงของเขา ผู้ชายคนนั้นชูไดอารี่เล่มเก่าของ Hyde ขึ้นร่างบางมองมันแล้วก็รีบสาวเท้าเข้าไปรับมันกลับคืนมา
“ชะ ใช่ เอ่อ ขอบคุณมาก” Hyde กล่าวขณะที่คิดว่าคนตรงหน้าช่างทำตัวลึกลับเหลือเกิน ทั้งๆ ที่เป็นหน้าร้อน เขายังใส่เสื้อแขนยาวมีฮูดแบบนี้ ทำราวกับต้องการจะปิดบังใบหน้าของตัวเองอย่างนั้นเแหละ
“ เอ่อ .คุณมีธุระอะไรกับผมรึเปล่าฮะ” Hyde ถามออกไปเพราะพอรับสมุดกลับมาแล้ว ชายหนุ่มใส่ฮูดคนนั้นก็ยังยืนนิ่งจ้องหน้าเขาอยู่อย่างนั้น แถมยังยิ้มแปลกๆเวลามองหน้าเขาด้วย มันทำให้เขารู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ
“ชั้นรอนายมานานแล้วนะ ..ดีใจจริงๆ ที่นายกลับมา ชั้นรอนายอยู่ตลอดเลยนะรู้รึเปล่า?” เสียงทุ้มหวานนั้นกล่าวอย่างยินดี
“ ..เอ่อ .เราเคยรู้จักกันเมื่อไหร่เหรอฮะ .” แม้การที่อยู่ๆ มีคนมาตีสนิทแบบนี้จะทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด แต่ก็พยายามถามอีกฝ่ายอย่างสุภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาไม่ชอบคนประเภทนี้เอาซะเลย
“ใจร้าย ..น่าน้อยใจจริงๆ ที่นายลืมฝาแฝดของนายอย่างชั้นเสียได้ ที่บอกคุณลุงคนนั้นว่าอยากมีฝาแฝดก็เป็นเรื่องโกหกสินะ” ชายในชุดเสื้อฮูดคนนั้นกล่าวตัดพ้อด้วยความน้อยใจจะแสร้งทำรึเปล่าเขาไม่สนใจ เขารู้แต่นี่มันล้อเล่นกันมากเกินไปแล้ว
“มันจะมากเกินไปแล้วนะ! ผมไม่เคยมีพี่น้องที่ไหน เพราะฉะนั้นยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่มีฝาแฝด .ผมเกลียดการล้อเล่นอย่างนี้ที่สุด ขอบคุณที่เก็บของให้ ขอตัวล่ะ!” Hyde ตะโกนใส่คู่สนทนาอย่างเหลืออด คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหาอย่างไม่สบอารมณ์ เขาเกลียดพวกที่ชอบอ้างว่าเป็นอะไรกับเขาที่สุด มันมักทำให้เขาหงุดหงิดจนทนไม่ได้ทุกทีที่ได้ยินเรื่องแบบนั้น และขณะที่ Hyde กล่าวจะเดินจากไปนั้นเอง มือที่แข็งกระด้างข้างหนึ่งก็เอื้อมมาขว้ามือเขาเอาไว้ Hyde หันกลับไปมองเจ้าของมือด้วยความไม่พอใจ ดวงตาสีน้ำตาลคู่สวยเป็นประกายวาบขึ้นด้วยอารมณ์ แต่ชายหนุ่มปริศนากลับไม่สนใจเขายิ่งเพิ่มแรงจับยึดให้มากขึ้น ขณะที่พยายามกล่าวระลึกความหลังเพื่อให้อีกฝ่ายจำเขาได้
“ความจริงจะว่าไปเรา 2 คนก็ไม่ได้เจอกันนาน ไม่แปลกอะไร ถ้านายจะลืมชั้นไป จะว่าไปนายก็ไปตั้งแต่ก่อนที่ชั้นจะเสร็จด้วยซ้ำ นายโตขึ้นเยอะนะเนี่ย สวยเสียจนชั้นเกือบจำไม่ได้แน่ะ” ชายปริศนาพูดไปยิ้มไป เป็นรอยยิ้มที่ให้ความรู้สึกขนลุกอย่างไรพิกล ยิ่งคำพูดของเขายิ่งทำให้เขารู้สึกสะกิดใจถึงเรื่องอะไรบางอย่างที่อยู่ลึกสุดในความทรงจำ
‘คุณลุง? ไปก่อนที่จะเสร็จ? ฝาแผด?’ เอ...เรื่องแบบนี้เหมือนเคยได้ยินที่ไหนน้า Hyde นึกในใจขณะที่จ้องมองชายในชุดฮูดไม่วางตาด้วยความสงสัย
“ยังจำไม่ได้อีกเหรอ ทั้งที่ชั้นเป็นคนเอาสมุดไดอารี่ไปคืนนายเมื่อ 2 วันก่อนชั้นก็นึกว่ามันจะช่วยทำให้นายนึกอะไรออกบ้างซะอีก น่าเสียใจจริงๆ” ชายปริศนาเห็นคู่สนทนาของตนไม่มีทางท่าจะจำเขาได้ก็เริ่มตัดพ้อขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้คำพูดของชายในชุดฮูดเข้าไปกระแทกความจำของ Hyde อย่างแรง เพราะไปชมกับคนคนหนึ่งตามทางเดินเข้าจึงได้สมุดเล่มนี่มาหรือว่าจริงๆแล้ว.....
“หรือว่านายคือ.....” Hyde เงยหน้าขึ้นมองคู่สนทนาด้วยความประหลาดใจเขาไม่คิดว่าสิ่งที่เขาคิดว่าบังเอิญจะเป็นการวางแผนของชายคนนี้ จริงๆแล้วเขาวางแผนทำแบบนี้มีจุดประสงค์อะไรกันนะ
“ฮะฮะฮะฮะ ในที่สุดก็นึกอะไรออกแล้วใช่ไหมล่ะ ความรู้สึกช้าจังเลยนะ ใช่แล้วล่ะ คนที่เดินชนนายวันนั้นคือชั้นเอง” ชายปริศนากล่าวพลางหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“งั้นที่ทำคุณต้องการอะไร? แล้วทำไมต้องปิดบังหน้าตาเอาไว้แบบนี้ด้วย” Hyde ถามด้วยความไม่เข้าใจ แต่แทนที่จะตอบคำถามชายปริศนากลับดึงเอาฮูดที่ใส่มาตลอดเวลาออกเพื่อให้เห็นใบหน้าของเขา
“อะ ..” ร่างบางเผลอหลุดเสียงร้องด้วยความตกใจออกมา เมื่อได้เห็นในสิ่งที่ชายหนุ่มคู่สนทนาปิดปังเอาไว้ตลอดเวลา ส่วนหัวที่กลมคลึงที่ได้รับการขัดจากกระดาษทรายอย่างดีนั้นโล้นเลี่ยนไร้เส้นผมแม้ซักเส้น ใบหน้าที่แกะสลักจากไม้มีรอยถูกไฟไหม้ไปครึ่งซีกหนึ่ง ส่วนที่แกะเป็นปากกำลังขยับขึ้นลงดูแล้วช่างน่าขยะแขยงสิ้นดี Hyde เดินถอยหลังห่างออกมาจากหุ่นไม้เดินได้ตัวนั้น เขารู้แล้วที่แท้คู่สนทนาของเขาเป็นหุ่นไม้ที่คุณลุงสัญญาว่าจะแกะให้ในช่วงที่เขาอยู่ที่ไต้หวันน่ะเอง คู่แฝดของเขาที่หวังจะได้หนักหนาบัดนี้ได้เห็นแล้ว เขากลับรู้สึกทั้งหวาดกลัวและขยะแขยง
”อ้าว! จะรีบไปไหนล่ะ เราเพิ่งได้คุยกันนิดเดียวเองนะ เมื่อก่อนนายเองก็อยากจะเห็นชั้นไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ชั้นมาให้นายเห็นแล้วนี่ อยู่ด้วยกันอีกหน่อยน่า” มือที่สลักด้วยไม้อย่างประณีตทั้งยังมีข้อต่อของนิ้วประกอบเข้ากับมือทำให้เคลื่อนไหวราวกับมือคนจริงๆนั้นยังคงกำขอมือของร่างบางไว้แน่นไม่ยอมปล่อยง่ายๆ
“ปล่อยชั้นนะ! ปล่อย!” Hyde พยายามสลัดให้หลุดจากการแกะกุมจากสิ่งประดิษฐ์ที่น่ารังเกียจนี่ แต่มันไม่ใช่เรื่อง่ายเลย เมื่อมันไม่ยอมปล่อยซ้ำยังพยายามดึงดังตัวเขาเข้าไปใกล้ๆ อีก
“ว่าไง ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ ไม่ดีใจที่เจอชั้นเหรอ? ชั้นดีใจมากเลยนะที่ได้เจอนาย นี่ๆๆดูสิ นิ้วของชั้นน่ะ ขยับได้เหมือนของจริงเลยใช่ไหม คุณลุงน่ะนะ นอกจากจะสร้างพวกเราท่านยังทุ่มจิตใจใส่ลงไปในตัวพวกเราด้วย หลังจากคุณลุงตายเพราะไฟไหม้พวกเราหลายตัวก็ตายลงช้าๆ เพราะไม่มีใครดูแล จนสุดท้ายเหลือแต่ชั้นเท่านั้น” แม้ว่าจะทั้งขยะแขยงและกลัวมากก็ตามทีแต่ hyde ก็มองริมฝีปากที่แกะจากไม้นั้นขยับขึ้นลงตลอด แถมตาที่ใส่ลูกแก้วเข้าไปก็เหมือนจะเป็นประกายวาบขึ้นมาด้วย มันกระดิกนิ้วทุกนิ้วขึ้นลงอย่างพึงพอใจ ริมฝีปากของมันเหยียดยิ้มกว้างได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“แต่แค่นี้ชั้นยังไม่พอใจหรอกนะ ชั้นเองก็มีความฝันเหมือนกัน และนั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้ชั้นตามหานาย” เจ้าหุ่นไม้กล่าวช้าๆ พร้อมดึงมือ hyde ให้ตามเข้าไปข้างในตึกร้างหลังนั้น
“เดี๋ยว! เดี๋ยวก่อนนั้นนายจะลากชั้นไปไหน ปล่อยชั้นเดียวนี้นะ นายจะฝันอะไรชั้นไม่สนใจ ปล่อยชั้นนะ!!!” hyde ร้องขณะที่ถูกดึงเข้าไปในซากตึกที่ถูกไฟไหม้หลังนั้นด้วยพลังที่ไม่น่าเชื่อว่าเป็นพลังของหุ่นไม้ตัวหนึ่ง เจ้าหุ่นไม้ตัวนั้นคล้ายไม่ได้ยินเสียงเขาจะดึงเขาเข้าไปข้างในให้ได้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น