ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The boy next door (YAOI)

    ลำดับตอนที่ #4 : [Fic CB Kei X hyde] The boy next door IV

    • อัปเดตล่าสุด 30 พ.ค. 49


    "เฮ่อ! อิ่มชะมัดเลย เรียวนี่ต้องเป็นเจ้าสาวที่ดีได้แน่ๆ" ริวอิจิ นอนแผ่ราบไปกับพื้นห้อง นิ้วอ้วนป้อมลูบไปมาที่น่าท้องอย่างสบายอารมณ์

    "พูดอะไรอย่างนั้นริวจัง" เรียวเฮย์กล่าวยิ้มๆ ขณะเก็บจานชามใช้แล้วที่วางอยู่บนโต๊ะอุ่นขาที่เอามาตั้งไว้กลางห้องแทนโต๊ะอาหารเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี้ เก็บไปใส่อ่างล้างจาน ใบหน้าขาวเนียนแดงเรื่อขึ้นเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนั้น

    "ชั้นเองยังนึกอิจฉาอญุ่เลยนะ คนที่เป็นแฟนนายคงได้ทานอาหารอร่อยๆ อย่างนี้ทุกวัน น่าอิจฉาจริงๆ" เคย์ตะกล่าวสนับสนุนริวอิจิ ขณะที่ตัวเองนั่งเหยียดขาอยู่ข้างโต๊ะ

    "ไม่เห็นน่าอิจฉาตรงไหนเลย ถ้าอยากกินก็บอกสิ ยังไงเราก็ต้องทำให้กินกันอยู่แล้ว" เสียงเรียวเฮย์ตะโกนตอบเสียงแจ๋วๆ อยู่ในห้องครัว
     
    แต่เพื่อนๆ คงไม่เห็นหรอกว่าตอนนี้ใบหน้าของเรียวเฮย์มันแดงแค่ไหน เพียงเพราะได้ยินเสียงเคย์ตะตอบกลับมาอย่างนั้น เคย์ตะจะรู้บ้างรึเปล่าว่า เคย์ตะไม่มีความจำเป็นต้องอิจฉาเลย เพราะสายตาของเขาไม่วันใครอื่นนอกจากเคย์ตะอยู่แล้ว

    "ชั้นตัดสินใจแล้ว ชั้นขอนายแต่งเลยดีกว่า" ริวอิจิวิ่งมากอดเอวบางของเรียวเฮย์ไว้ไม่ให้ร่างบางได้ตั้งตัว

    "อ๊ะ! ทำอะไรน่ะริวจัง" เรียวเฮย์อุทานออกมาด้วยความตกใจ เกือบทำจานที่ล้างอยู่หลุดมือ

    "แต่งงานกับชั้นเถอะนะเรียวเฮย์" เสียงทุ้มต่ำที่กล่าวอยู่ข้างหูนั้นช่างจริงจังผิดจากที่เคย......จริงจังเกินกว่าจะเป็นการล้อเล่น วงแขนที่กอดไว้หลวมๆ เริ่มกระชับแน่นเข้าจนสัมผัสได้ถึงเสียงหัวใจที่เต้นแรงของอีกฝ่าย การถูกรุกโดยไม่ทันตั้งตัวของริวอิจินั้นทำให้ริวเฮย์ตกใจเสียจนยืนตัวแข็งทื่ออยู่ในโอบกอดนั้น

    "ฮะฮะฮะฮะฮะ พอได้แล้วมั้งริว นายแกล้งจนเรียวจะร้องไห้อยู่แล้วนะนั้นน่ะ" วินาทีนั้นเรียวเฮย์นึกขอบคุณ เจ้าของเสียงทุ้มนุ่มนวลนั้นที่ออกมาช่วยเขาทันเวลา ริวอิจิเวลานี้ ช่างดูน่ากลัว ไม่เหมือนริวจังคนเดิมที่ร่าเริง ขี้เล่นที่เคยรู้จักเลยซักนิด นี่ริวจังเป็นอะไรไป?

    พอได้ยินเสียงคนขัดจังหวะ วงแขนที่โอบรัดแน่นนั้นก็คลายลง ชายหนุ่มเจ้าของชื่อ หันไปมองเจ้าของเสียงนั้น

    "โธ่! ไอ้เคย์แกไม่น่ามาขัดจังหวะเลย นี่ชั้นเกือบได้แม่บ้านไปทำอาหารให้กินที่บ้านอยู่แล้วนะ เลยอดเลยเห็นไหม?" ริวอิจิ ปล่อยร่างบางของเรียวเฮย์ แล้วเดินไปโวยวายกับเคตะที่เดินมาขัดจังหวะ น้ำเสียงที่ใช้นั้นเป็นน้ำเสียงเชิงล้อเล่นเฮฮาอย่างเคย ทำให้เรียวเฮย์หันกลับไปมอง ชายหนุ่มทั้งคู่วิ่งไล่กันอยู่หน้าครัว แล้วถอนใจอย่างโล่งออก เรื่องเมื่อกี้เป็นแค่เรื่องล้อเล่นเท่านั้นเองสินะ

    "ริวจังน่ะใจร้าย มาแกล้งกันแบบนี้ เราตกใจหมดเลยนะเนี่ย" เรียวเฮย์ท้วงพร้อมรอยยิ้มแสนหวานอย่างเคย และไม่รู้ว่าตาฝาดรึเปล่าเพราะว่าเหมือนกับจะเห็นแววตาริวอิจิที่มองกลับมา มันดูเจ็บปวดยิ่งนัก แต่แววตานั้นก็มีให้เห็นเพียงแว่บเดียว เพียงไม่นานแววตาที่แสนสดใส ขี้เล่นก็กลับมาฉายอย่ในดวงตาคู่นั้นอีกครั้ง

    "ฮะฮะฮะฮะ ก็พวกนายคอยแกล้งชั้นอยู่เรื่อย ชั้นก็เลยอยากเอาคืนบ้างน่ะสิ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า" ริวอิจิกล่าวอย่างร่าเริง

    "อะไรกันริวจัง เคย์ตะแกล้งนายมากกว่าชั้นอีกนะ" เรียวเฮย์เถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้
    "เฮ้ๆๆ พูดแบบนั้นถูกที่ไหน ถึงชั้นจะเป็นคนลงมือ แต่ส่วนใหญ่เป็นความคิดนายไม่ใช่รึไง" เคย์ตะก็เถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้เหมือนกัน เมื่อโดนกล่าวพาดพิง

    "เปล่านะ อย่าไปเชื่อเคย์ตะนะริวจัง เราแค่ยืนดูอยู่เฉยๆ เท่านั้นเองต่างหาก" เรียวเฮย์วิ่งไปหลบหลังริวอิจิ เพื่อหวังเรียกคะแนนสงสาร

    "คนยืนดูนั้นแหละตัวดีเลย ว่าแต่มืดค่ำขนาดนี้แล้ว ชั้นยังไม่เห็นคนข้างห้องนายเลย ไปเรียว เราไปดูกันดีกว่า ว่าตอนนี้เขาอยู่ห้องไหม?" ริวอิจิเปลี่ยนเรื่องไปยังเป้าหมายลักของการมาห้องเคตะวันนี้

    "รับทราบ" เรียวเฮย์ตอบรับอย่างรวดเร็ว แล้ว 3 หนุ่ม (2 หนุ่มวิ่งไปส่วนอีกคนโดนลากให้วิ่งตาม) ก็วิ่งออกไปนอกประตู

    เมื่อ 3 หนุ่มยืนอยู่หน้าห้อง ไม่ว่าจะมองไปห้องไหนก็ล้วนปิดไฟเงียบ คงจะมีแต่ห้องเขาละมั้งที่ยังเปิดไฟสว่างอยู่ เคย์ตะแอบโล่งใจเล็กน้อยเมื่อเห็นห้องไฮโดะซังคนนนั้นยังปิดไฟเงียบอยู่ แต่เรียวเฮย์กับริวอิจิดูจะผิดหวังไม่น้อยเลย

    "ว้า ไม่อยู่เหรอเนี่ย เสียเที่ยวชะมัดเลย" ริวอิจิบ่นออกมาดังพอให้ได้ยินกันทั่ว หลังจากพวกเขาเดินกลับมาที่ห้อง

    "เอาน่า นี่ชั้นเพิ่งได้เกมมาใหม่นะ เรามาเล่นกันดีกว่า" เคย์ตะชวนอย่างอารมณ์ดี ขณะเดินไปเซตเครื่อง PS II (Playstation II) เพื่อเตรียมเล่นเกม

    "ครืด..." เสียงประตูกระจกที่กั้นระเบียงถูกเลื่อนเปิดโดยชายหนุ่มเจ้าของห้อง
    แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยไปถึงดึกดื่นค่อนคืนแบบนี้แล้ว แต่เขาก็ยังนอนไม่หลับ ด้วยสาเหตุจากอะไรเขาก็บอกไม่ได้

    'เฮ่อ หลับสบายเลยนะพวกนาย' เคย์ตะหันไปมองเพื่อนๆ ที่หลับสนิทไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วยความอิจฉา ริวอิจินอนก่ายผ้าห่มอยู่บนฟูกข้างเตียง ส่วนเรียวเฮย์นอนตะแคงข้างซุกตัวอยู่ในผ้านวมบนเตียงของเคย์ตะ ทั้งที่เพื่อนๆ กำลังหลับอย่างเป็นสุข แต่กลับมีเขาคนเดียวที่นอนไม่หลับ ทำไมถึงเป็นแบบนี้น้า

    เคย์ตะคิดในใจอย่างหงุดหงิด ขณะที่เดินออกไปที่ระเบียง
    ท้องฟ้ามืดครึ้มเหมือนฝนกำลังจะตก คืนนี้ไม่ดวงแม้ซักดวง พระจันทร์ก็ไม่มี เป็นบรรยากาศที่ชวนหดหู่ยิ่งนัก หากแต่แสงไฟจากระเบียงของห้องข้างๆ ยังคงเปิดสว่าง บอกถึงการกลับมาของเจ้าของห้อง จึงทำให้อารมณ์ที่ขุ่นมัวของเคย์ตะ คลายลงไปได้บ้าง

    "วันนี้กลับดึกจังเลยนะครับ" เคย์ตะส่งเสียงทักทาย ร่างบางในชุดเสื้อมีฮูดสีดำที่นั่งเขียนอะไรบางอย่างที่โต๊ะเขียนหนังสือที่เอามาวางแทนที่โต๊ะรับแขกอย่างในห้องของเขา

    "มีธุระอะไร?" เสียงทุ้มหวานกล่าวขึ้นพร้อมกับดวงหน้าสวยเงยขึ้นสบตาเคย์ตะ สีหน้านั้นเรียบเฉยไร้อารมณ์ น้ำเสียงที่กล่าวต่อเขาก็เรียบนิ่งดุจเดียวกัน ปฏิกิริยาที่ต่างไปจากมื่อวานโดยสิ้นเชิงทำให้เคย์ตะนึกสงสัยว่า นี่เป็นผลกระทบจากการกระทำของเขาเมื่อวานรึเปล่านะ?

    "เย็นชาจัง เมื่อวานไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย อารมณ์ไม่ดีอย่างนั้นเหรอครับ?" เคย์ตะกล่าวอย่างร่าเริง เหมือนไม่รู้ว่าตัวเองคือสาเหตุของความหงุดหงิดของไฮด์ในวันนี้

    "เรื่องของชั้น! กลับไปเถอะวันนี้ชั้นไม่มีอารมณ์เล่นด้วยหรอกนะ" ไฮด์กล่าวห้วนๆ บ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์ของร่างบาง

    อุตส่าห์จะทำงานเสียหน่อย ดันมีไอ้เด็กนี่ มาขัดจังหวะเสียได้ หมดอารมณ์แล้ว ไปนอนดีกว่า ฝนทำท่าจะตกแล้วด้วย ไฮด์คิดพลางเก็บเข้าเตรียมจะกลับเข้าห้องก่อนฝนตก

    "ทำไมล่ะครับ?.....วันนี้ผมอุตส่าห์รอจนดึกดื่นป่านนี้เพื่อจะพบกับไฮโดะซัง ทำไมถึงรีบไล่ผมกลับล่ะครับ" เคย์ตะปีนข้ามระเบียงมาห้องข้างๆ เหมือนเมื่อวาน เพียงแต่วันนี้ต่างกันตรงที่ไฮด์พอจะรู้ถึงความไวไฟของหนุ่มข้างห้องคนนี้แล้ว เขาจึงระวังตัวเองดี เพื่อไม่ให้เรื่องอย่างเมื่อวานเกิดขึ้นอีก ดวงตากลมโตจ้องมองเคย์ตะที่เหยียบลงบนพื้นระเบียงห้องด้วยความหวาดระแวง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×