คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Tale 1: forbidden lover 1
Title : inu to usagi monogatari | Tale 1: forbidden lover 1
Author : Mikoto
Pairing :GH (HG ... maybe ... 5555) , TH
Rate : Don't know
Genre : CB
Warning : ก็แค่สนอง NEED ตัวเอง ว่าจะสามารถเขียนเนื้อเรื่องให้เป็นโลกคู่ขนานกับโปรเจค Yg ได้ไหม?
Status : END Tale
Music Station Super Live 24, 2004.12
ในช่วงวันหยุดที่สุดแสนวิเศษแห่งปี เช่นวันคริสมาส ทุกคนต่างพากันออกเดินเที่ยวในเมือง หรือไม่ก็อยู่ฉลองกับคนรัก นั่งดูทีวีกับครอบครัว ทุกคนล้วนแต่ได้พักผ่อนอย่างผ่อนคลายในช่วงเวลานี้
...หากแต่ว่าไม่ใช่สำหรับพวกเขา...
ในช่วงเทศกาลเช่นนี้กลับเป็นช่วงที่นักดนตรีอย่างพวกเขามีงานยุ่งที่สุด และการเล่นไลฟ์ในรายการนี้ก็นับเป็นงานที่สำคัญงานหนึ่งที่จะพลาดเสียไม่ได้ในตารางงานของพวกเขา
เทตสึเงยหน้าขึ้นจากตารางงานที่จดเอาไว้อย่างละเอียดถึงวัน เวลา และสถานที่ที่จัดงานนั้นๆ แล้วถอนใจออกมาเบาๆ
'ปีนี้ก็ไม่ได้กลับไปฉลองอีกแล้วสินะ'
เขาคิดอยู่ในใจตามลำพัง วันจริงวันนี้เป็นวันที่หมอนั่นสมควรที่จะอยู่บ้านมากที่สุดแท้ๆ เพื่อจะได้ฉลองกับหญิงสาวที่เจ้าตัวปลื้มนักหนาว่าเธอเป็น "นางในฝัน"
....จากคริสมาสปีนั้นเวลาผ่านมานานเท่าไหร่แล้วนะ...
แม้จะจำจำนวนรอบของมันไม่ได้ แต่วันที่นั้นเขาจำได้อย่างแม่นยำ ...เพราะว่าวันนี้เป็นวันครบรอบวันแต่งงานของหมอนั่น... วันครบรอบงานแต่งงานของคนที่เขารักมากที่สุด ....
ยังจำได้ทั้งสีหน้าและความดีใจตอนที่หมอนั่นเดินมาบอกว่าเธอยอมรับคำขอแต่งงานของของตนแล้ว .... แล้วยังขอร้องให้เขาไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้อีก
ใครจะรู้บ้างว่าเวลานั้นเขารู้สึกอย่างไร ... คำพูดของหมอนั่นเสียดแทงใจเขาเพียงใดมีใครเคยรู้บ้าง....
ไม่หรอกไม่มีใครรู้ทั้งนั้น เมื่อเขาไม่เคยแสดงความปวดร้าวราวกับแหลกสลายนี้ออกไปให้ใครเห็น .... ด้วยสำนึกของเพื่อนที่ดีผมมีแต่พยักหน้ารับและแสดงความยินดีกับเขาเท่านั้น ...
หากคุณสมบัติข้อแรกของการเป็นเพื่อนที่ดีคือความซื่อสัตย์แล้วล่ะก็ เขาคงไม่มีคุณสมบัติถูกเรียกว่า 'เพื่อนที่ดี' ได้เสียแล้ว ...
เพราะเบื้องหลังใบหน้าอันยิ้มแย้มแสดงความยินดีกับข่าวดีของหมอนั่น เขากำลังกรีดร้องด้วยความทรมานอยู่ภายใน ทั้งเคียดแค้น ชิงชังว่าที่เจ้าสาวของหมอนั่นเหลือประมาณ เขาเคยนึกอยากสาปแช่งให้เธอตายเสียเดี๋ยวนั้น โทษฐานะที่มาแย่งหมอนั่นไปจากเขา
....แต่สุดท้ายมันก็จบลงที่ความคิดเขาเช่นเคย ....
เขายังไม่เห็นแก่ตัวพอที่จะทำลายความสุขของคนที่รักได้ แม้อยากได้มาครอบครองมากเท่าไหร่ แต่หากหมอนั่นไม่มีความสุขแล้วล่ะก็...เขาเองก็คงว้าวุ่นใจไม่แพ้กัน ดังนั้นเพื่อความสุขของหมอนั่น เขาจึงเก็บความรู้สึกอันเลวร้ายนี้ไว้กับตัวเอง ...
... แต่ถึงจะเจ็บปวดอย่างไรก็ตาม แต่มันก็เป็นทางที่เขาเลือกเอง ... เขาเลือกที่จะรักแต่หมอนั่นเอง ดังนั้นถึงต้องทุกข์ทรมานต่อทางเดินที่เต็มไปด้วยลวดหนาม เขาก็ยังคงเดินต่อไปอยู่ดี
... เรื่องที่จะให้หยุดรักหมอนั่นน่ะ .... ทำไม่ได้หรอก...
แต่จะว่าไปเท่าที่เขารู้หลังจากแต่งงานแล้วหมอนั่นไม่เคยได้อยู่ฉลองวันพิเศษกับเธอคนนั้นเลยซักครั้ง เพราะถึงช่วงนี้ของปีทีไรงานกองพะเนินก็จะโถมใส่พวกเราเสียทุกครั้ง คิดๆ ไปแล้วก็น่าสงสารหมอนั่นขึ้นมาเหมือนกัน
แต่ทั้งๆ ที่ทุกคนก็ต่างคิดแบบนั้น เจ้าตัวกลับไม่ค่อยทุกข์ร้อนเท่าที่ควร แถมยังหัวเราะพวกเขาที่คิดแบบนี้เสียด้วยซ้ำ ...
.... ความคิดและการกระทำของหมอนั่น ไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจได้ง่ายๆ เลย ....
"นั่งเงียบอย่างนี้ตื่นเต้นเหรอ? ไฮโดะ" เทตสึเอ่ยทักเพื่อนตัวเล็กซึ่งหลังจากแต่งตัวเสร็จแล้วก็นั่งมองกระจกอยู่เงียบๆ ตามลำพังมาได้พักใหญ่แล้ว ซึ่งทุกคนล้วนแต่เข้าใจดีว่าเป็นเพราะอะไร พอนึกถึงเรื่องนี้ทีไรท่านหัวหน้าวงอดนึกขำขึ้นมาไม่ได้ เพราะถึงแม้ว่าพวกเขาจะอยู่วงการนี้มานานกว่าครึ่งชีวิตกันแล้วก็ตาม ทว่าอาการตื่นคนของเจ้าตัวเล็กนี่ก็ยังแก้ไม่หายเสียที
"... ใช่ ... คนเยอะจังเลยเทตจัง" ใบหน้าหวานสวยที่เขาเฝ้ามองมาตลอดหันกลับมามองเขา พลางพยักหน้ารับกับคำพูดของเขา สีหน้าดูวิตกกังวลอย่างที่ว่าไว้จริงๆ จะว่าไปแล้วหมอนั่นก็เป็นคนแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ก็แค่ไม่มีความมั่นใจในตัวเองในบางครั้งเท่านั้น สิ่งที่ไฮโดะต้องการเวลานี้เป็นเพียงคำให้กำลังใจให้มีแรงผลักดันให้ก้าวไปข้างหน้าเท่านั้น
....หมอนั่นไม่ใช่คนไม่มีความสามารถ....
เรื่องนี้สมาชิกทุกคน รวมทั้งตัวเขากล้ายอมรับได้เต็มปาก ระดับความสามารถของหมอนั่นอาจจะเรียกได้ว่าเป็น 'อัจจริยะ' ด้วยซ้ำ เป็นผู้ชายที่มีความสามารถรอบด้าน สามารถทำในสิ่งที่คนอื่นไม่คิด ออกมาเป็นรูปเป็นร่างได้อย่างยอดเยี่ยม แต่บางครั้งอาจเกิดความไม่มั่นคงในจิตใจขึ้นมาบ้าง ช่วงเวลาที่ต้องขึ้นไลฟ์เท่านั้น ดังนั้นเขาจึงคอยอยู่ข้างๆ เพื่อปลุกเร้าความเชื่อมั่นในตัวของหมอนั่นให้ตื่นขึ้นมา
.... เรื่องที่เขาทำได้... มีเพียงเท่านี้เอง ....
"ใจเย็นๆ น่า ฉันรู้นายทำได้อยู่แล้ว" เทตสึกล่าวพลางตบลงบนบ่าเพื่อนตัวเล็กเบาๆ เป็นการให้กำลังใจ และเมื่อเขาทำเช่นนั้น เขาก็เชื่อว่าตัวเองจะได้รับรางวัลเป็นรอยยิ้มแสนสดใสกลับมาเป็นการตอบแทน
"ขอบคุณเทตจัง งั้นฉันออกไปข้างนอกก่อนนะ ออกไปดูบรรยากาศข้างนอกจะได้ชินกันมาเสียที" ร่างบางเอ่ยขอบคุณเขาอีกครั้ง เขาเห็นแววตาที่เปี่ยมด้วยความมั่นใจกลับมาสะท้อนอยู่ในดวงตากลมโตของอีกฝ่าย เขาอมยิ้มน้อยๆ ขณะพยักหน้ารับกับคำพูดนั้นและมองตามร่างบางที่ค่อยเดินออกจากประตูไป...
................................................................
เรือลำน้อยที่ล่องลอยอยู่บนผื่นน้ำทะเลที่เงียบสงบในคืนที่มีเมฆมากคืนหนึ่ง ทุกคนต่างกำลังสนุกสานกับการจัดการเลี้ยงฉลองในโอกาสสำคัญ ที่นานๆ จะมีซักที เวลานั้นทั้งคุณแมวและคุณลิงกำลังรื่นเริงกับงานเลี้ยงฉลองบนเรืออย่างเต็มที่ คุณหมาเองก็รู้สึกสนุกสนานมากเช่นเดียวกัน
ทว่า ...
'มันเหมือนขาดอะไรบางอย่างไปนะ?' คุณหมาคิดอยู่ในใจ ขณะที่พยายามมองหาสิ่งที่หายไปในงานเลี้ยงที่แสนครื้นเครงนี้
คุณหมาผู้รอบคอบใช้เวลาไม่นานก็พบถึงสิ่งที่ขาดหายไปของงานเลี้ยง เพราะเก้าอี้ตัวหนึ่งว่างเปล่าไร้คนนั่ง ... เก้าอี้ของคุณกระต่าย ...
แต่แล้วก็นึกได้ว่าคุณกระต่ายรู้สึกไม่ค่อยดีเพราะดื่มมากไปก็เลยขออกไปเดินรับลมข้างนอก แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่กลับเข้ามาเลย
คุณหมารู้สึกสงสัยและเป็นห่วงคุณกระต่ายอย่างยิ่ง ทั้งๆ ที่เพื่อนกำลังสนุกสนานขนาดนี้ คุณกระต่ายหายไปไหนกัน? พอคิดแบบนั้นคุณหมาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ออกไปเดินตามหาคุณกระต่าย
ทั้งๆ ที่งานรื่นเริงเป็นสิ่งที่คุณกระต่ายโปรดปรานที่สุด เพราะมีทั้งไวท์และอาหารให้ทานมากมาย ทั้งๆ ที่เคยชอบมากขนาดนั้น แล้วทำไมถึงหายตัวไปเงียบๆ แบบนี้?
'หรือว่ามีอะไรไม่สบายใจ?' ระหว่างเดินหาไปทั่วทั้งเรื่อคุณหมาก็นึกถึงสาเหตุการหายตัวของคุณกระต่ายอยู่เงียบๆ อยู่ตามลำพัง
... แล้วในที่สุดก็เจอคุณกระต่าย ....
คุณกระต่ายที่หายออกมาตามลำพัง กำลังเงยหน้าขึ้นมองพระจันทร์ ... พระจันทร์ที่เพิ่งโผล่จากหมู่เมฆที่ปกคลุมท้องฟ้าให้ยิ่งมืดครื้ม ... มืดครื้มเหมือนในใจของคุณหมา...
แววตาที่เศร้าสร้อยแต่แฝงความปรารถนาของคุณกระต่ายซึ่งมีเห็นอยู่เสมอยามมองดวงจันทร์นั้น ...ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดตามไปด้วย....
.... กับความปรารถนาที่มีต่อคนที่ไม่อาจคว้ามาครอบครองได้ ....
.....ใครกันจะเข้าใจว่า รสชาติมันขื่นขมบาดคอแค่ไหน ....
... หากไม่ได้ประสบด้วยตัวเอง ....
แต่แล้วคุณกระต่ายก็ก้าวเท้าเข้าไปใกล้กับพระจันทร์ซึ่งไม่ได้มีท่าทางรับรู้การมาถึงของคุณกระต่ายเลยแม้แต่น้อย...
ในเวลานั้นทุกอิริยาบถของทั้งคู่ล้วนอยู่ในสายตาของคุณหมาทั้งสิ้น ทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะอย่างร่าเริงของคุณกระต่ายที่ตลอดเวลาที่พูดคุยอยู่กับดวงจันทร์... ท่าทางเหล่านั้นมันทำให้เขานึกอิจฉาพระจันทร์นัก
เพราะแม้ว่าคุณกระต่ายจะทุกข์ทรมานจากความรู้สึกที่มีต่อดวงจันทร์เท่าไหร่ก็ตาม แต่คุณกระต่ายก็ยังคงเฝ้ามองแต่ดวงจันทร์อยู่ดี ต่างกันโดยสิ้นเชิงกับตัวเขาที่แม้ว่าจะทุ่มเทความรัก ความเอาใจใส่ให้คุณกระต่ายมากมายเท่าไหร่ก็ตาม แต่ก็ไม่เคยได้ความรักกลับคืนมาเลย
..... สุดท้ายคุณกระต่ายก็ยังคงเฝ้ามองแต่ดวงจันทร์อยู่ดี ....
....................................................................
หลังจากที่ยืนมองภาพความสนิทสนมของทั้งคู่อยู่ซักใหญ่ เทตสึก้มลงมองนาฬิกาของตนเองซึ่งบอกเวลาที่ควรจะไปเตรียมตัวขึ้นเล่นไลฟ์ได้แล้ว เมื่อทราบดังนั้นเขาจึงเดินตรงไปยังจุดที่คนทั้งสองยืนคุยกันอยู่เพื่อเตือนให้ไฮโดะทราบว่าควรไปได้แล้ว
"มาอยู่นี่เอง ชอบทำให้ชาวบ้านเขาเป็นห่วงอยู่เรื่อยเลยนะ จะเล่นแล้วรีบกลับไปเตรียมตัวเร็วเข้า" ท่านหัวหน้าวงกล่าวเตือนด้วยน้ำเสียงเร่งเร้า พลางเหลือบสายตาไปมองเขม่นชายหนุ่มร่างสูงโปร่งที่เป็นคู่สนทนาของร่างบาง แสดงความเกลียดชังอีกฝ่ายออกมาอย่างไม่ปิดบัง ทว่าเพียงพริบตาเดียวแววตาแห่งความชิงชังก็หายไป กลับแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนมากขึ้นเมื่อมองเห็นคิ้วเรียวสวยของไฮโดะขมวดเข้าหากันด้วยความไม่พอใจ
แต่สีหน้าที่แสดงความไม่พอใจนั้นก็มีอยู่ไม่นานก็หายไป เพราะตระหนักถึงหน้าที่ของตัวเองดี ก็วันนี้มาทำงานนี่นะ... ยังไงเรื่องงานก็ต้องสำคัญที่สุดอยู่แล้ว ...ร่างบางคิดอยู่ในใจ ก่อนจะกล่าวขอโทษเทตสึที่ต้องให้เดินมาตาม
"อ๊ะ โทษทีเทตจัง ชั้นมัวแต่คุยเพลิน ไปก่อนนะกั๊จจัง เดี๋ยวเล่นเสร็จแล้วจะมายืนคุยเป็นเพื่อน ไปล่ะ" ไฮโดะหันมาบอกลาคู่สนทนาแล้ววิ่งตามหลังตามหลังท่านหัวหน้าวงไปทำงานของตน ทิ้งให้ชายหนุ่มร่างสูงที่ถูกเรียกว่า 'กัจจัง' ยืนอยู่เพียงลำพัง
...........................................................
ในขณะที่ได้เฝ้ามองคุณกระต่ายเงยหน้าขึ้นมองพระจันทร์อยู่เงียบๆ นั่น คุณหมาถึงเคยกับพึมพำกับตัวเองขึ้นมา
"... อย่ามองพระจันทร์อีกเลย .... นายไม่มีวันได้พระจันทร์มาเป็นของนาย .... ทั้งๆ ที่รู้แต่ทำไมถึงยังไม่เลิกหวัง .... พระจันทร์น่ะไม่เข้าใจความรู้สึกของนายหรอก ... เลิกมองมันเสียทีเถอะ"
คุณหมาพึมพำกับตัวเองด้วยความปวดร้าว เมื่อรู้ว่ามันไม่มีวันเป็นอย่างที่เขาหวัง เช่นเดียวกับที่คำพูดเหล่านี้เขาไม่มีทางกล่าวออกไปได้
TBC
..
ความคิดเห็น