ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7 | JackBam | SF] Cronos - คุณพ่อมดของผม #JackBamWonderland

    ลำดับตอนที่ #1 : พ่อมดหนุ่มผู้รักสันโดษที่อาศัยอยู่ในป่าใหญ่

    • อัปเดตล่าสุด 15 เม.ย. 64


     

    เบรค เจนีวา เป็นพ่อมดที่รักสันโดษมาก จึงแยกออกจากกลุ่มพ่อมดแม่มดมาอยู่เพียงลำพังภายในป่าอันเงียบสงบ

    เขามีเหล่าสัตว์ป่าและต้นไม้ใบหญ้าเป็นเพื่อนคุยคลายเหงา และมีงานอดิเรกที่เหล่าพ่อมดหาได้ชื่นชอบไม่นั่นก็คือการปลูกดอกไม้ หากจะให้บรรยายบรรยากาศรอบบ้านของเขาก็ต้องบอกเลยว่ารอบด้านนั้นเต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลายชนิดที่เบ่งบานออกมาอย่างงดงาม แสดงให้เห็นว่าผู้ปลูกใส่ใจมากเพียงใด

    เบรคใช้ชีวิตอย่างเฉื่อยชาไปกับการปรุงยาหรือน้ำหอมจากพรรณไม้นานาชนิดที่ตนเสาะหามาปลูกอยู่นานนับหมื่นปี ด้วยเหตุที่ว่าการเป็นพ่อมดนั้นอายุยืนยาว แต่ก็ไม่ทราบว่าอายุยืนยาวที่ว่านั่นน่ะ คือยาวนานเท่าใด เพราะเหล่าพ่อมดแม่มดส่วนใหญ่มักตายด้วยสามสาเหตุหลัก

    หนึ่งคือเข้าร่วมสงครามอย่างนึกสนุก ก่อนจะสูญสิ้นชีวิตของตนไปพร้อมกับเหล่ามนุษย์และเหล่าสัตว์วิเศษต่างๆ

    สองคือการถูกผู้ล่าฆ่า หรือไม่ก็ถูกประหารชีวิต ซึ่งในข้อนี้นั้นพบน้อยถึงน้อยมาก เพราะไม่มีผู้ใดฉลาดเป็นกรดมากกว่าเหล่าพ่อมดแม่มดแล้ว

    และสาม เหตุผลที่ทำให้เหล่าพ่อมดแม่มดสูญสิ้นชีวิตไปมากที่สุด การทดลองปรุงยาใดๆก็ตามที่มีผลทำให้เกิดการระเบิดรุนแรง ซึ่งนั่นทำให้เกิดเหตุไฟไหม้และนำไปสู่การเผาทั้งเป็นของพ่อมดแม่มดนั่นเอง

     

    แต่แล้ว ชีวิตอันเอื่อยเฉื่อยของพ่อมดหนุ่มหน้าหวานอย่างเบรคก็เปลี่ยนไป เมื่อเขาเจอจิ้งจอกเก้าหางสีขาวบริสุทธิ์นอนจมกองเลือดหายใจรวยรินอยู่ริมลำธารใกล้ๆกับบ้านของเขา

    “เอาไปกินดีไหมนะ ก็ดีๆ เราไม่ได้กินเนื้อสัตว์วิเศษมานานเพียงใดแล้วนี่” เบรคเอ่ยพูดโต้ตอบกับตัวเองไปมาก่อนจะฉีกยิ้มเหี้ยมแล้วใช้เวทย์มนตร์ของตนทำให้จิ้งจอกน้อยลอยตามตัวเองไป

    ‘ไม่นะ ห้ามกินเรานะ!!! เราเป็นถึงรัชทายาทแห่งไดอานาทเชียวนะ!!!’ พ่อมดหนุ่มนึกขำกับจิ้งจอกน้อยที่ไม่เชิงว่าเป็นจิ้งจอกที่เอาแต่บ่นในหัวโดยไม่คิดว่าเขาจะรู้เรื่องออกมา

    “รัชทายาทหรือ? รัชทายาทอะไรทำไมถึงตัวโชกเลือดมานอนอยู่ริมธารแถมไม่มีองครักษ์ผู้คุ้มกันล่ะ? ข้าควรเชื่อดีไหมนี่” จริงๆเขาก็เชื่อนั่นแหละ เพราะสัตว์วิเศษที่วิเศษกว่าสัตว์วิเศษตัวอื่นๆน่ะมีแต่ในราชวงศ์ผู้สูงส่งนั่นเท่านั้นล่ะ อย่างเจ้าเด็กนี่ที่มีหางถึงเก้าหางนอกเสียจากจะเป็นราชวงศ์แล้ว ยังเป็นสายเลือดกษัตริย์เข้มข้นอีกด้วย

    ‘เจ้า!!! ได้ยินข้าได้อย่างไร? เหตุใดเจ้าจึงได้ยินล่ะ?!!!’

    “หัดสังเกตเสียบ้าง นี่ขนาดข้าไม่ได้แปลงกาย เจ้ายังโง่เขลามองไม่ออก แล้วจะไปปกครองผู้คน ปกครองอาณาจักรได้อย่างไร?”

    ‘นี่เจ้า...เจ้าเป็นพ่อมด!!! ทั้งยังเป็นพ่อมดที่ตั้งครรภ์ได้!!!!’ เบรคคลี่ยิ้มออกมาเมื่อถูกจับได้ว่าเป็นพ่อมดที่ตั้งครรภ์ได้

    ใช่แล้ว ตั้งครรภ์ได้ นั่นเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เบรคตัดสินใจออกจากสหพันธ์พ่อมดเหล่านั้นอย่างไรเล่า

    พ่อมดแม่มดนั้นเรียกได้ว่าหาได้ยากในโลกหล้า แต่ที่หายากยิ่งกว่านั้นคือพ่อมดที่ตั้งครรภ์ได้เช่นเขา ในรอบห้าหมื่นปีจะกำเนิดมาหนึ่งถึงสองตน

    “อยู่นิ่งๆเสีย หากเลือดของเจ้าหยดลงพื้นพวกที่ทำให้เจ้าอยู่ในสภาพนี้จะตามมาได้ แม้พวกมันจะไม่สามารถผ่านม่านพลังของข้ามาได้ แต่มันก็มีข้อแม้ว่าหากพวกมันแปลงเป็นสัตว์เช่นเจ้า ก็เข้ามาได้ เห็นแก่สายตาออดอ้อนของเจ้าที่ส่งมาให้ ข้าจะไม่จับเจ้ากินแล้วกัน”

    ‘เจ้าพ่อมดจอมหลอกลวง!!!!’

    “หากยังไม่หยุดข้าจะเปลี่ยนใจต้มเจ้ากินเดี๋ยวนี้ล่ะ” จิ้งจอกน้อยที่กำลังอ้าปากจะเห่าใส่พ่อมดตรงหน้างับปากลงฉับพลันก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราไป

     

    “เจ้ามาได้จังหวะพอดิบพอดีเสียจริง ข้ากำลังอยากลองยาใหม่ที่พึ่งปรุงกับผู้อื่นอยู่เลย หึหึหึ” เบรกยกยิ้มเหี้ยมอย่างนึกอยากกลั่นแกล้งจิ้งจอกตัวน้อยที่พึ่งลืมตาตื่นขึ้นมาจากห้วงนิทรา

    ‘ไม่นะ!!!’ จิ้งจอกเก้าหางตัวน้อยรีบถอยห่างจากพ่อมดใจร้ายตรงหน้าอย่างหวาดกลัวทันที

    “เจ้าโง่ นี่ของดีเชียวนะ ไม่ขมด้วย ข้าปรุงจากเหล่าดอกไม้นานาพรรณที่แสนหายาก หึ้ หากไม่รีบกลับมาอยู่ที่เดิมล่ะก็ เจ้าได้ตายแน่”

     

    หลายวันผ่านไป

    จิ้งจอกน้อยโชกเลือดในวันแรกที่พบกันกลับกลายเป็นจิ้งจอกขาวผู้สง่าผ่าเผยซึ่งเอาแต่เดินเชิดหน้าของตนไปมาภายในบ้านของพ่อมดหนุ่มเหมือนตนเป็นเจ้าของสถานที่จนเจ้าของจริงๆคิดอยากจับจิ้งจอกดื้อลงหม้อต้มเสียให้รู้แล้วรู้รอด

    “เจ้าหายดีแล้วนี่ กลับไปได้แล้ว คนของเจ้าคงตามหาเจ้ากันทั่วแล้วกระมัง รัชทายาทหายไปเชียวนะ” หลังเบรคเอ่ยจบพลันเกิดแสงสีทองตามลำตัวของจิ้งจอกเก้าหางผู้สง่างาม ก่อนที่จิ้งจอกตัวน้อยจะกลับกลายเป็นเจ้าชายรูปงามในสภาพเปลือยเปล่าจนเบรคต้องเสกเสื้อผ้าให้ใส่

    “ตามหาข้าหรือ? ดีใจกันมากกว่ากระมังที่ข้าหายไปเช่นนี้” ร่างหนาเอ่ยพลางแค่นหัวเราะออกมาอย่างนึกสมเพชตนเอง

    “ไหนเจ้าว่าเจ้าเป็นรัชทายาท” เบรคเอ่ยด้วยความสงสัย เขาเป็นพ่อมดที่อยู่มานานก็จริง ทว่าไม่เคยสนใจเรื่องราวบ้าบอของอาณาจักรไหนเลยสักนิด เพราะเขาไม่ยุ่งกับผู้อื่น

    “ข้าได้เป็นรัชทายาทเพราะเป็นโอรสจากจักรพรรดิณี เป็นรัชทายาทโดยชอบธรรมของราชวงศ์ ทว่าพระมารดาของข้ามิได้เป็นที่โปรดปรานของฝ่าบาท ข้าจึงถูกเมินเฉยไปด้วย หากไม่ใช่เพราะอำนาจจากฝั่งของพระมารดา หรือกฎหมายที่ศาสนจักรกำหนดมา ข้าคงเป็นได้เพียงองค์ชายที่ถูกลืมเลือน” เบรคพยักหน้ารับอย่างเข้าอกเข้าใจโลกมนุษย์มากขึ้น

    “ข้าคือแสงสว่างแห่งราชอาณาจักร เจ้าชายรัชทายาทวาคาเอล อัสลาน ไดอานาท แล้วท่านล่ะ มีนามว่าอะไร?”

    “ข้ามีนามว่าเบรค”

    “ท่านจะแนะนำตัวแค่นี้หรือ?”

    “ข้ามีแค่นั้น ตระกูลของข้าเจ้าไม่จำเป็นต้องรับรู้ เพราะมันหาได้สลักสำคัญไม่ รู้เพียงข้าเป็นพ่อมดก็เพียงพอแล้ว” เบรคยักไหล่ใส่คนที่ทำหน้างุนงงก่อนจะกลับไปสนใจยาในหม้อต่อ

    “ตามตำรากล่าวว่าเหล่าพ่อมดแม่มดอยู่รวมกันเป็นกลุ่มเพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ แต่เหตุใดท่านจึงอยู่เพียงลำพังในป่าแห่งนี้?” อัสลานเอ่ยถามสิ่งที่ตนนึกสงสัยมาพักใหญ่ออกมาทันที

    “ข้าแยกจากกลุ่มสมาพันธ์พ่อมดแม่มดมานานแล้ว ส่วนเหตุผลมันเป็นเพราะข้าได้รับพรจากพระเจ้ากระมัง พรที่ทำให้ข้าเกือบกลายเป็นสินค้าของเหล่าพ่อมดด้วยกัน” อัสลานได้ยินเพียงเท่านั้นก็เข้าใจในทันทีว่าเป็นเพราะเหตุใดพ่อมดหนุ่มตรงหน้าถึงแยกตัวออกมา

    “แล้วท่านไม่มีครอบครัวหรือ? เพื่อนฝูงล่ะ?”

    “ข้าไม่มีครอบครัว ส่วนเพื่อน ข้าไม่รู้ว่าเรียกเขาเป็นเพื่อนได้หรือไม่ เขายิ่งใหญ่เกินกว่าที่ข้าจะไปเทียบเคียง” เบรคเอ่ยพลางนึกไปถึงบุคคลสำคัญที่ช่วยตนมาหลายต่อหลายครั้งอย่างแสนคิดถึง ป่านนี้คนผู้นั้นจะเป็นเช่นไรบ้างตัวเขานั้นก็ไม่รู้

    “เช่นนั้นข้าจะเป็นเพื่อนให้ท่านเองนะเบรค เป็นครอบครัวให้ท่านด้วย” อัสลานคลี่ยิ้มสดใสออกมาก่อนจะไปปั่นป่วนพ่อมดหนุ่มที่กำลังปรุงยาอย่างเฉื่อยชาอยู่

    “เป็นเพื่อนได้ แต่อย่ามากวนได้หรือไม่แสงสว่างแห่งอาณาจักร”

    “หากเป็นเพื่อนกันก็อย่าเรียกข้าเช่นนั้นสิ เรียกข้าว่าอัสลานเถอะ!!!”

    “เห้อ เอาล่ะอัสลาน กลับไปนั่งที่เดิมเสีย หากเจ้าทำให้ข้าเสียสมาธิอีก ข้าจะทำยาขมๆให้เจ้ากินจนอ้วกออกมา!!!”

    “ย๊ากกกกกก กลัวแล้ว!!! ข้ากลัวแล้วเบรค!!!!” อัสลานสะดุ้งเฮือกก่อนจะกลายร่างเป็นจิ้งจอกตัวน้อยแล้ววิ่งหนีหายไปทันที

     

    “ท่านปลูกเองหรือ?” อัสลานที่ตามเบรคออกมาดูสวนภายนอกเบิกตากว้างก่อนเอ่ยถามอย่างนึกตื่นเต้น

    “อืม พอพวกมันบาน ข้าก็ใช้เวทย์ของข้าทำให้พวกมันยังคงบานไม่แปรเปลี่ยน แล้วปลูกไปเรื่อยๆ ปลูกมานานนับหมื่นปี เจ้าชอบดอกไม้รึ?”

    “เปล่าหรอก เสด็จแม่และน้องของข้าชื่นชอบมันมาก เสด็จแม่มักพาข้าหนีเหล่าข้ารับใช้ไปปลูกดอกไม้เล่นในสวนแก้วของเสด็จแม่บ่อยๆ แต่พออะไรๆเปลี่ยนไป พวกเราก็ไม่ได้ไปที่สวนแก้วนั่นอีกเลย” อัสลานเอ่ยอย่างเศร้าสร้อย

    “โศกนาฏกรรมในหัวเจ้า...” เบรคพึมพำออกมาอย่างตื่นตกใจ

    “น้องสาวข้าอานาซตาเซีย ต้องสังเวยชีวิตตนแทนเสด็จแม่ของเรา ให้เสด็จแม่อยู่รอดต่อไปเพื่อปกป้องหลายๆคน”

    “ตั้งแต่นั้นมาเจ้าเลยเกลียดพระบิดาของตนเข้าไส้สินะ”

    “อืม ผู้ที่สั่งสังหารพระธิดาของตนเพียงเพราะสนมที่ตนโปรดปรานถูกสั่งลงโทษเนื่องจากพูดหมิ่นราชินีและรัชทายาทได้น่ะ ไม่สมควรได้รับความรักจากใครทั้งนั้น ตั้งแต่วันนั้นมาเสด็จแม่ก็เอาแต่เก็บตัวอยู่ภายในตำหนักของตนเอง และจากไปเพราะตรอมพระทัยจากการสูญเสียพระธิดาอันเป็นที่รักของตนไปต่อหน้าต่อตา ในตอนนี้ครอบครัวของข้าเหลือเพียงสอง หนึ่งคือลีวอน สองคือดยุกคีตะ หากสูญเสียพวกเขาไปอีก ข้าก็ไม่รู้จะอยู่เช่นไร”

    “ข้ารับรู้ความรู้สึกของเจ้าได้อัสลาน”

     

    “เมิร์สส่งกระแสจิตมาว่าข้าต้องรีบกลับไปแล้ว ท่านไปกับข้าเถอะเบรค ข้าจะดูแลและปกป้องท่านเอง” ในตอนนั้นอะไรดลใจให้เบรคพยักหน้าตกลงไปก็ไม่อาจทราบได้ แต่ไม่กี่ชั่วยามต่อมาเขาก็เก็บยาต่างๆจนเสร็จหมดและมาอยู่ที่ราชวังของไดอานาทเสียแล้ว

     

    ปราสาทอัสลาน

    “ข้าแต่แสงสว่างแห่งอาณาจักรถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท ท่านผู้นี้คือผู้ใดพ่ะย่ะค่ะ?” เมิร์สเอ่ยถามอย่างใคร่สงสัย

    “เขาคือคนที่ช่วยชีวิตของข้าเอาไว้เมิร์ส ไม่เป็นอันตราย จากนี้ไปเขาจะมาเป็นนักเวทย์ข้างกายของข้า หาห้องในตำหนักของข้าให้เขาอยู่ที เอาใกล้ๆห้องข้าก็ได้” เมิร์สพยักหน้ารับก่อนจะผายมือเชิญนายเหนือหัวของตน

    “เบรค ท่านตามข้ามา” เบรคพยักหน้ารับพลางเดินตามเจ้าจิ้งจอกตัวเล็กแต่มีอำนาจใหญ่โตไปตามทางพระราชวัง

    “ข้ามาร์ควิสแอนดรูว เมิร์ส อาร์คขอรับ แล้วท่านล่ะครับ?”

    “ข้ามีนามว่าเบรค” เบรคเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะไม่สนใจอีกฝ่ายอีกด้วยความมึนตึงและนิสัยอันเฉยชา

    “ฝ่าบาท ข้าเกรงว่าหากเขาไม่ยอมบอกตระกูลของตน จะเป็นปัญหาเอาได้นะพ่ะย่ะค่ะ”

    “จริงด้วย เบรค ท่านต้องมีนามสกุล และเป็นนามสกุลที่ค่อนข้างยิ่งใหญ่ ไม่เช่นนั้นแล้วท่านอาจถูกสอบสวน” เบรคพยักหน้ารับก่อนจะทอดถอนหายใจออกมาอย่างปลงตก เขาคงต้องยอมบอกจริงๆนั่นแหละ

    “ข้ามีนามว่าแอนทีอัส เบรค เจนีวา” พลันเกิดความเงียบงันทันทีที่เบรคเอ่ยจบ จนเจ้าตัวงุนงงว่าตนเองเอ่ยอะไรผิดไปหรือเปล่า

    “ท...ท่านคือบุตรคนสุดท้ายแห่งตระกูลพ่อมดแม่มดผู้ยิ่งใหญ่ผู้นั้น!!!!” เมิร์สเอ่ยออกมาอย่างตื่นตะลึง

    “ข้าเป็นบุตรคนสุดท้ายรึ?” ไม่ยักรู้ว่าตาเฒ่านั้นหยุดมักมากในกามแล้ว เหอะ แต่เขาจะอยากรู้ไปเพื่ออะไรเล่า

    “ใช่ เจ้าคือบุตรคนสุดท้าย เมิร์สเจ้าไปหาสิ่งนั้นมา” เมิร์สพยักหน้ารับก่อนจะเดินหายไปแล้วกลับมาพร้อมหนังสือเล่มโตที่สภาพค่อนข้างแย่

    “นี่คือบันทึกเกี่ยวกับพ่อมดแม่มดทั้งหมด ทุกเรื่องที่ข้าเคยถามท่านถูกบันทึกเอาไว้ในนี้ มันกล่าวถึงตระกูลพ่อมดแม่มดเชื้อสายบริสุทธิ์หนึ่งตระกูลที่แข็งแกร่งมาก ทว่าเมื่อหมื่นปีก่อนกลับเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นที่ตะกูลนั้น ว่ากันว่ามีเพียงผู้เดียวที่เหลือรอดคือบุตรคนสุดท้ายแห่งเจนีวา แอนทีอัส เบรค เจนีวา พ่อมดผู้นั้นคือท่าน” อัสลานเอ่ยออกมาอย่างนึกตื่นเต้น

    “มันว่าไว้เช่นนั้นหรือ? ตายหมดตระกูลแล้วหรือ?” เบรคเอ่ยถามเสียงสั่น เขาไม่ได้กำลังเสียใจอย่างที่ใครเข้าใจ ทว่าเขาดีใจเสียจนเนื้อเต้นต่างหากเล่า

    “บรรพบุรุษผู้ถือครองหนังสือเล่มนี้ต่างก็ออกตามหาพ่อมดแม่มดที่เหลือรอดจากเหตุการณ์นั้นมารุ่นต่อรุ่น ทว่าตามหาเท่าใดก็ไม่เคยเจอ แม้แต่บุตรคนสุดท้ายก็ไม่เจอ”

    “คงจะตายแล้วจริงๆสินะ” เบรคยิ้มร้ายออกมาเมื่อความจริงปรากฏแล้ว

    “เหตุใดท่านจึงเหลือรอดเพียงผู้เดียว? หรือท่านเป็น...”

    “ข้าเหลือรอดเพียงผู้เดียวเพราะข้าถูกขับออกจากตระกูลก่อนหน้านั้นเป็นร้อยปีอย่างไรเล่า บุตรคนสุดท้ายหรือ หึ้ ผู้เขียนจะไปรู้อะไรเล่า”

    “หากองค์จักรพรรดิทรงทราบว่าท่านคือผู้ใดก็คงหันมาสนพระทัยฝ่าบาทของข้าบ้าง”

    “เบรค ท่านต้องซ่อนตัวอย่าให้ผู้อื่นนอกปราสาทของข้ารู้ถึงการมีตัวตนของท่าน” เบรคพยักหน้ารับทันที เพราะเขาก็ต้องการเช่นนั้นอยู่แล้วจึงร่ายเวทย์อาณาเขตเอาไว้แต่แรก

    “นั่นคือสิ่งที่ข้าชอบทำเลยล่ะ ที่นี่มีพื้นที่ให้ข้าทำสวนหรือปรุงยาหรือไม่?”

    “มีขอรับ ข้าจะจัดสถานที่ให้นะขอรับ” เมิร์สที่รู้สึกปลื้มคนตรงหน้าตนขึ้นมามากกว่าเก่าเอ่ยอย่างตื่นเต้น

    “ท่านจะปลูกสิ่งใดหรือขอรับ?”

    “ดอกไม้” เมิร์สเบิกตากว้างทันทีที่ได้ยินสิ่งที่พ่อมดตรงหน้าเอ่ยออกมา พลางมองปฏิกิริยาของฝ่าบาทไปด้วย

    “ฝ…ฝ่าบาท...แต่ฝ่าบาทไม่โปรดให้มีดอกไม้ภายในตำหนัก...” เมิร์สเอ่ยออกมาอย่างกล้าๆกลัวๆ

    “ตอนนี้ข้าชอบแล้ว ให้เขาปลูกได้ตามใจชอบเลย” เมิร์สแอบคลี่ยิ้มออกมาอย่างนึกดีใจที่อย่างน้อยนายของตนก็เริ่มเปิดใจใหม่อีกครา ทั้งๆที่แม้แต่คู่หมายอย่างเลดี้อบีเกล อาธาเนเซียยังไม่สามารถทำให้จิ้งจอกเก้าหางผู้มีหัวใจดำมืดกลับมาชื่นชอบดอกไม้ได้

    “หากเจ้าชายลีวอนทรงมาเยือนในครั้งหน้าจะต้องทรงดีพระทัยมากแน่ๆพ่ะย่ะค่ะ” เมิร์สเอ่ยด้วยความดีอกดีใจและปลื้มใจเหลือล้น

    “เรียกข้ากลับมาด่วนมีเรื่องอันใด?”

    “องค์จักรพรรดิทรงเชื่อว่าฝ่าบาทเสียชีวิตแล้วพ่ะย่ะค่ะ จึงตั้งพระทัยว่าหากผ่านไปหนึ่งเดือนแล้วพระองค์ยังทรงไม่กลับมา จะแต่งตั้งเจ้าชายรองเป็นเจ้าชายรัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจึงรีบติดต่อฝ่าบาทไปทันทีที่ลูกแก้วเรืองแสงขึ้นมา ทว่ากว่าจะติดต่อได้ ก็ผ่านมานานนับสัปดาห์แล้ว” อัสลานพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปหาผู้มีพระคุณของตน

    “เบรค ข้าต้องไปเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิ ระหว่างข้าไปเตรียมตัว เมิร์สจะพาท่านไปพักผ่อนที่ห้องของท่าน ไว้ข้ากลับจากเข้าเฝ้าแล้วจะมาทานอาหารเย็นด้วย” อัสลานเอ่ยจบก็เดินแยกไปทันที

    “ข้าจะพาท่านไปที่ห้อง ท่านมีสัมภาระหรือไม่ขอรับ?” เบรคส่ายหน้าก่อนจะเดินตามเมิร์สออกจากห้องอันโอ่โถงไป

    “ที่ปราสาทแห่งนี้มีเชื้อพระวงศ์อาศัยอยู่เพียงผู้เดียวนั่นก็คือเจ้าชายรัชทายาทขอรับ ยิ่งในชั้นนี้แล้ว ยิ่งมีเพียงเจ้าชายรัชทายาทเท่านั้น เพราะฝ่าบาทของข้าน้อยชื่นชอบความเงียบสงบ และอีกอย่างเลยคือฝ่าบาทยังไม่มีชายาแม้แต่พระองค์เดียวจึงเป็นเหตุให้บนชั้นนี้ว่างทั้งหมด แต่ตอนนี้มีท่านมาอาศัยร่วมชั้นด้วยแล้ว ผู้ที่อยู่ในปราสาทนี้ล้วนแล้วแต่เป็นคนของราชินีขอรับ เราจึงเชื่อใจและไว้ใจกันได้ว่าจะไม่มีผู้ใดกระทำการใดๆลับหลัง ท่านคงสงสัยเรื่องดอกไม้สินะครับ”

    “ข้ารู้แล้วว่าเพราะอะไรเจ้าจิ้งจอกนั่นจึงเกลียดดอกไม้เข้าเส้นเลือดดำ ข้าเป็นเจนีวานะ เจ้าไม่รู้หรือว่าพ่อมดแม่มดแห่งตระกูลเจนีวาสามารถอ่านใจผู้ใดก็ได้” เบรคเอ่ยอย่างนึกขัน ก่อนจะส่ายหน้าเอือมระอาเมื่อเห็นความหรูหราและใหญ่โตของห้องพักตน

    “ข้าสามารถเปลี่ยนเหล่าของตกแต่งพวกนี้ได้หรือไม่? ข้าเกลียดสีทอง”

    “ตามใจท่านเถิด เชิญท่านพักผ่อน หากถึงเวลาของมื้อเย็นแล้วข้าจะมาตามท่านเอง”

    “ไม่ใช่หน้าที่ของเจ้านี่”

    “ท่านยังไม่รู้จักกับทุกคนภายในปราสาท เอาเป็นว่าระหว่างนี้ให้ข้าดูแลท่านตามรับสั่งของนายท่านจะดีที่สุดขอรับ ว่าแต่ท่านพกอะไรมาหรือขอรับ?” เมิร์สเอ่ยถามอย่างนึกสงสัยเมื่อพ่อมดหนุ่มหยิบขวดหลายต่อหลายขวดออกมา

    “ยาที่ข้าปรุงขึ้นจากดอกไม้ต่างๆ แผลเป็นที่หลังเจ้าน่ะ เอานี่ไปทา ทาหลังชำระล้างร่างกายเสร็จในทุกๆวัน ไม่นานจะหายไปเอง ยานี้มีกลิ่นหอม ทาเสร็จก็สามารถสวมชุดทับได้เลย” เบรคเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉยพลางยื่นยาขวดหนึ่งให้ผู้ที่คล้ายจะเป็นเลขาของเจ้าจิ้งจอกเด็กนั่นอย่างใจดี

    “มันคือของล้ำค่ามาก ท่านมอบให้ข้าจะดีหรือขอรับ?”

    “ความจงรักภักดีที่เจ้ามีให้นายเจ้าทั้งๆที่หาได้มีสายเลือดเดียวกันไม่นั้นมีค่ามากกว่ายาขวดเดียว รับไปเสีย หากอยากได้อีกก็มาบอกข้า ข้ามียาอีกมากมายที่พร้อมจะมอบให้ พ่อมดอย่างข้าไม่จำเป็นต้องใช้ยามากมายเหล่านี้เลย ข้าปรุงเพราะข้าเบื่อหน่าย รับไปเถอะ ข้ายังมีอีกหลายขวด พวกเจ้าเลิกแอบอยู่ตรงนั้นสักที ข้ารำคาญตา จะเข้ามาก็เข้ามาเสีย” เบรคตวัดสายตาไปมองเหล่าหญิงสาวที่อยู่ในชุดเหมือนกันซึ่งเขาคิดว่าอาจจะเป็นเหล่าหญิงรับใช้ของปราสาทแห่งนี้ซึ่งทำท่าทางลับๆล่อๆอยู่หน้าประตูทางเข้า

    “ข้ามีนามว่าแมรี่เจ้าค่ะ ต่อจากนี้ไปจะมาเป็นสาวใช้ประจำตัวของท่าน” สาวใช้นางหนึ่งว่าพลางส่งยิ้มแจ่มใสให้บุคคลตรงหน้า

    “ส่วนข้ามีนามว่าเรยาเจ้าค่ะ จะมาเป็นสาวใช้ประจำตัวของท่านเช่นกันเจ้าค่ะ” สาวใช้อีกนางว่าพลางทำแบบเดียวกันกับเพื่อนสาวใช้คนก่อนหน้า

    “ข้ามีนามว่าเบรค เป็นพ่อมด” เบรคเอ่ยด้วยหน้ามึนๆ

    “คือพวกข้าแอบได้ยินแต่แรกแล้วเจ้าค่ะ พวกข้าอยู่ในห้องของฝ่าบาท...” แมรี่และเรยาเอ่ยขณะห่อไหล่อย่างรู้สึกผิด พวกนางแค่เข้าไปทำความสะอาดและเตรียมน้ำรอฝ่าบาทของพวกนางนี่ ใครจะไปคิดเล่าว่าทั้งสามจะเอ่ยเรื่องราวเช่นนั้นเสียดังลั่นเข้าไปถึงด้านใน พอออกมาพวกนางก็ได้รับมอบหมายจากฝ่าบาทให้มารับใช้ท่านพ่อมดรูปงาม

    “แล้วไม่กลัวข้ารึ?”

    “สำหรับพวกข้า ผู้ที่น่ากลัวที่สุดคือองค์จักรพรรดิเจ้าค่ะ ก่อนจะมาที่นี่ พวกข้าไปหาชุดของชาวไดอานาทมาให้ท่านเบรคสวมใส่แล้วเจ้าค่ะ รับรองว่าสุดยอดมากแน่ๆเจ้าค่ะเพราะเป็นชุดที่ฝ่าบาทไม่ยินยอมใส่ด้วยเหตุผลที่ว่ามันเป็นสีสดใส” เรยาเอ่ยพลางซับหางตาคล้ายจะบอกว่าตนเสียใจเป็นอย่างมาก ทำให้เบรคนึกไปถึงตอนที่อัสลานอยู่กับเขาแล้วต้องสวมชุดหลากหลายสีตามสีของดอกไม้ที่เขาชื่นชอบ

    “เอาเถอะ อะไรที่เขาไม่ยอมใส่ ก็เอามาให้ข้าก็แล้วกัน ข้าจะใส่เอง เมิร์ส เจ้าไปได้แล้ว เดี๋ยวเจ้าเด็กนั่นก็รอนานหรอก”

     

    .

     

    .

     

    .

     

    จบตอน

     

    #JackBamWonderland

     

    .

     

    .

     

    .

     

    เป็นยังไงบ้างคะสำหรับตอนแรกของฟิคเรื่องนี้ สนุกหรือไม่สนุกหรือยังไงสามารถติชมกันได้เลยนะคะ เราจะได้เอาไปปรับใช้ต่อไปเรื่อยๆ ทั้งนี้ก็ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านนะคะ และขอฝากเนื้อฝากตัวกับโปรเจ็คนี้ด้วยค่าาา นอกจากเรื่องของเราแล้ว ยังมีนักเขียนอีกถึง 20 ท่าน 20 เรื่องเลยนะคะ อย่าลืมไปติดตามกันน๊าาาา

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×