ลำดับตอนที่ #21
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : 2 Heart & Triangle of Love : Part 4
Talk : ไม่รู้ทำไม อยู่ดีๆก็อยากมีตัวแปรมาใส่ในฟิคเฉยเลย 55 ฟีลมันกำลังมาเพราะเพลงใหม่นี่แหละ^^
วันนี้เธอนัดกับจียงเอาไว้ว่าจะออกไปกินข้าวด้วยกันหลังจากที่ต่างคนต่างติดธุระกันจนนัดเลื่อนไปหลายรอบแล้ว สุดท้ายแล้วดินเนอร์มื้อสวยหรูที่ทั้งเธอแล้วจียงวาดหวังไว้ ไปๆมาๆกลับกลายเป็นการสังสรรค์ระหว่างเพื่อนฝูงของจียงไปซะได้-_- ร้านอาหารกึ่งผับที่มีทั้งอาหารอร่อยๆให้ทาน และยังมีเพลงเพราะๆฟังให้พอจิบแอลกอฮอล์ได้ลื่นไหลดูจะเพอร์เฟคมากในเวลานี้ จะว่าไปแล้วเธอก็เคยเจอกับเพื่อนของจียงไม่กี่ครั้งเองนะแต่ก็คิดว่าพอคุ้นๆหน้าอยู่บ้างแต่ถ้าชื่อนี่อาจจะจำไม่ได้-_-
"เป็นไงบอมมี่ อาหารที่นี่อร่อยใช่ไหม^_^"
"อืม อร่อยเหมือนที่ซึงโฮโม้ไว้เลย นี่กะว่าถ้าไม่อร่อยนะจะโทษซึงโฮคนเดียวเลย^^"
"นี่โชคดีนะที่บอมมี่บอกว่าอร่อย ไม่งั้นชั้นได้โดนดุแหงๆ ฮ่าๆๆ ^^" บอมมี่ยิ้มขำรับประโยคของหนึ่งในเพื่อนสนิทของจียงอย่าง 'ยางซึงโฮ' คนตัวสูงหน้าเหวี่ยงแต่ใจดีแถมยังคุยง่ายทำให้เธอคุยด้วยอย่างไม่ขัดเขินเท่าไหร่นัก เพื่อนคนอื่นๆของจียงเธอก็ยิ้มแย้มพูดคุยธรรมดาแต่ก็อดที่จะแอบเกร็งไม่ได้อยู่ดี-_-
"นั่งตัวเกร็งเชียว^^" นั่นปะไร-_- ขอเถอะไอ้ประเภทแซวตอนที่กำลังรู้สึกแบบนั้นอยู่อ่ะมันยิ่งทำให้รู้สึกเกร็งมากกว่าเดิมอีกนะ
"เปล่าซักหน่อย-_-" ถึงเธอจะบอกแบบนั้นแต่เชื่อเถอะว่าคนอย่างควอนจียงมองออกแน่นอน เพราะมือข้างที่กุมไว้กำลังบีบมีเธอเบาๆก่อนจะไล้นิ้วโป้งไปมาน้อยๆเหมือนพยายามให้เธอคลายความรู้สึกกดดันลงไปบ้าง แถมด้วยรอยยิ้มบางๆที่เหมือนกำลังใจชั้นดีสำหรับเธอในเวลานี้ เพราะดูเหมือนควอนจียงจะจำได้ดีว่าเธอประหม่าแค่ไหนเมื่อเจอกับคนแปลกหน้าที่ไม่สนิทเท่าไหร่นัก เธอเลยได้แต่ส่งยิ้มคืนไปให้เพื่อจะยืนยันว่า 'ไม่เป็นไร' พร้อมกระชับมืออุ่นๆข้างนั้นกลับ
ขอแค่นี้แหละแค่ค่อยอยู่ข้างๆกันเวลาที่เธอไม่มั่นใจ เวลาที่เธอกำลังประหม่า เวลาที่เธอกำลังต้องการกำลังใจ แค่กุมมือเธอไว้แบบนี้ก็เพียงพอแล้วจริงๆ^_^
"อิจฉาโว้ย!!!!!!!!" เสียงตะโกนแซวของเพื่อนบนโต๊ะเล่นเอาหญิงสาวหน้าขึ้นสีบางๆอย่างห้ามไม่อยู่ ส่วนจียงก็เพียงแค่บ่นๆเพื่อนตัวเองเล็กน้อยแถมท้ายด้วยการยกกำปั้นใส่หน้ามันซะเลย-_- แต่ถึงอย่างนั้นบอมมี่ก็เริ่มคลายความกดดันลงไปแถมยังยิ้มออกมาอีกทำเอาคนอื่นๆค่อยคลายกังวลไปบ้าง เห็นนั่งนิ่งตัวเกร็งก็แอบสงสารเพราะดูท่าแล้วเจ้าตัวจะขี้อายไม่น้อย ก็เข้าใจว่ามาเจอคนที่ไม่สนิทขนาดนั้นก็มีบ้างที่จะเงียบแต่ดูเหมือนว่าตอนนี้บรรยากาศกดดันคงสลายไปกับประโยคเอ่ยแซวเมื่อครู่แล้วละ กลายเป็นว่าเกิดรอยยิ้มและเสียงหัวเราะมากมายจากคนที่โต๊ะแม้กระทั้งตัวของเธอเอง
"นี่ลืมชั้นไปแล้วหรือยังไงกัน? กินไม่รอเลยนะ-_-" เสียงของหญิงสาวที่ดังขึ้นเจือไปด้วยอารมณ์เหวี่ยงน้อยๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอกับจียง ตาเรียวคู่นั้นหรี่ลงเล็กน้อยอย่างกะประเมินก่อนจะเหลือบตาไปมองคนอื่นๆที่นั่งอยู่รอบๆ
"ใคร?" เหมือนเกิดบรรยากาศแปลกๆตอนที่หญิงสาวพูดห้วนๆออกมาแบบนั้น บอมมี่ไม่รู้หรอกว่าเธอเป็นใครแต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่พอใจเธอซักเท่าไหร่นัก ยิ่งตอนที่เจ้าตัวตวัดตากลับมามองเธอแบบนั้นแล้วเรียกได้เลยว่าเธอคงโดน 'เหม็นขี้หน้า' ตั้งแต่ยังไม่ทันจะได้รู้จักกันด้วยซ้ำ
"พูดให้ดีๆหน่อย…แชริน" หลังจากจบประโยคของจียงก็ดูเหมือนว่าความเงียบและความอึดอัดจะเข้ามาแทนที่ แต่ก่อนที่บรรยากาศจะดูกระอักกระอ่วนไปมากกว่านี้ ซึงโฮก็ทำลายมันลงด้วยการดึงตัวคนที่ชื่อแชรินให้นั่งลงก่อนจะเริ่มคุยเล่นกันต่อ บอมมี่ได้ยินซึงโฮบอกว่าผู้หญิงที่ดูเหวี่ยงๆคนนี้ชื่อ 'ลีแชริน' เป็นเพื่อนรุ่นน้องที่สนิทกันมาก ถึงจะดูเหวี่ยงๆวีนๆไปบ้างแต่จริงๆแล้วนิสัยดีแถมยังรักพวกพ้องสุดๆ ถึงตัวเธอจะไม่ได้คุยกับแชรินตรงๆแต่ก็เริ่มรู้สึกผ่อนคลายกับท่าทางที่เป็นกันเองกับเพื่อนๆของอีกคนลงบ้าง
"เอ้าๆ ของกินเต็มโต๊ะขนาดนี้มัวแต่คุยกันอยู่ได้ กินเข้าไปๆ" เพื่อนๆคนอื่นๆต่างหันมาทำตัวเฮฮาเหมือนเดิม แต่ระหว่างที่บรรยากาศกำลังสนุกได้ที่เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าใบโตของบอมมี่ก็แผดดังขึ้นมา เวลาแบบนี้ไม่ต้องดูหน้าจอก็พอจะรู้ดีว่าใครโทรมา จียงเพียงแค่ชำเลืองตามามองเธอเพียงแค่นิดหน่อยก่อนจะยอมคลายมือที่กุมไว้ออกให้เธอสามารถเดินไปคุยกับปลายสายในที่สงบๆได้ ไม่อยากให้ไปไม่อยากให้รับสายแต่ก็เอ่ยปากห้ามได้ไม่เต็มปากนัก เพราะต่างคนต่างก็รู้และเข้าใจจุดยืนของตัวเองดีอยู่แล้ว
(บอมมี่)
"อืม ว่าไง"
(ทานอะไรหรือยัง?)
"กำลังทานอยู่ นายล่ะ"
(ว้า~ ว่าจะชวนไปกินอาหารทะเลบุฟเฟ่ต์แถวๆนี้ซะหน่อย อดไปนะบอมมี่)
"วันหลังก็รีบบอกซิ จะได้เตรียมล้างท้องรอ^^"
(ถ้าบอกก่อน มีหวังเข้าไปร้านเค้าได้ขาดทุนพอดี ฮ่าๆๆ)
"นี่!!หยุดเลยนะอีตาบ้า กล้าพูดแบบนี้ได้ยังไงกัน-_-"
(อ้าว หรือไม่จริง? จำได้เลยคราวนั้นพาเธอไปกินบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นเธอยังแทบจะคลานออกมา ผู้หญิงอาร๊าย~กินจุจนน่านับถือ ฮ่าๆๆ^^)
"เดี๋ยวเถอะชเวซึงฮยอน-_-*"
(อยู่กับจียงใช่ไหม?) โทนเสียงทุ้มต่ำราบเรียบของปลายสายทำเอาบอมมี่ชะงักกึกพูดไม่ออก เสียงที่ฟังดูเหมือนพยายามที่จะอดกลั้นไว้แต่ก็ยังรับรู้ได้ว่า…เจ็บปวด
"อืม"
(งั้นเหรอ? อ่า~ ถ้าอย่างงั้นไม่กวนดีกว่าไปกินข้าวเถอะ)
"นายก็อย่าลืมหาอะไรกินนะ"
(คนอย่างชั้นไม่มีทางอดข้าวหรอกน่า^^ งั้นแค่นี้นะ)
"อืม ดูแลตัวเองด้วยนะ"
(อืม)
สายโทรศัพท์ถูกตัดไปแล้วแต่สายตากลมคู่สวยกลับหม่นแสงยามจ้องมองไปที่หน้าจอที่เพิ่งจะดับไป ไม่รู้ตอนไหนที่ภาพพื้นหลังของหน้าจอถูกเปลี่ยนเป็นรูปวิวทิวทัศน์แทนที่จะเป็นรูปคู่ของเธอกับเค้าเหมือนแต่ก่อน แกลลอรี่ภาพถ่ายในมือถือที่แต่ก่อนจะมีแค่รูปของเธอกับท็อป บัดนี้กำลังถูกเพิ่มเติมมาด้วยรูปคู่ของเธอกับจียง เลื่อนเปิดดูรูปเก่าๆก็อดจะยกยิ้มออกมาไม่ได้แต่พอมองเห็นรูปที่แทบจะเป็บปัจจุบันก็เริ่มรู้สึกถึงความลังเลของหัวใจตัวเอง
ท็อปคือคนที่เธอสามารถพูดได้เต็มปากว่าครั้งหนึ่ง 'เคยรัก' ถึงขั้นที่เธอคิดจะฝากชีวิตไว้ในมือของเค้าได้ แต่ควอนจียงก็เป็นอีกคนที่เธอกำลัง 'เริ่มสร้าง' ความรู้สึกที่เรียกว่ารักขึ้นมา แม้จะยังไม่ได้รู้จักกันมายาวนานเหมือนอย่างท็อปแต่เธอเชื่อว่าในอนาคตจียงคือคนที่เธอจะสามารถพูดได้เต็มปากว่า 'รัก' เหมือนกัน ปมความสัมพันธ์ที่นับวันจะพัวพันกันจนยุ่งเหยิงจนแทบจะไม่มีทางแก้ ถ้ามีใครคนหนึ่งยอมก้าวถอยไปทุกอย่างก็คงจะลงตัว…แล้วถ้าเธอเป็นคนที่ถอยไปเองละ?
"เธอมีคนอื่นทั้งๆที่คบกับโอป้าเนี่ยนะ!" เสียงที่ดังขึ้นด้านหลังทำเอาคนที่กำลังเหม่อลอยอย่างเธอสะดุ้งสุดตัว สายตาที่บ่งบอกว่าไม่พอใจถูกส่งให้เธออีกครั้งจากแชริน บอมมี่ทำได้เพียงแค่เบือนหน้าหนีสายตาทิ่มแทงคู่นั้นไป เพราะจะให้เธอไปเถียงก็ใช่เรื่องในเมื่อเรื่องมันเป็นอย่างที่อีกคนเข้าใจจริงๆ
"เธอทำได้ยังไง ใจเธอทำด้วยอะไร"
"…"
"โอป้าเค้ารักเธอขนาดไหนไม่รู้เลยหรือไง ทำไมยังคิดที่จะหักหลังเค้า!!" มือเรียวจากคนตรงหน้าเอื้อมมาบีบแขนเธออย่างแรง แต่บอมมี่ก็ไม่ได้คิดที่จะโต้ตอบอะไร ทำไมจะไม่รู้ว่าควอนจียงรักเธอขนาดไหน ทำไมเธอจะไม่เข้าใจความรู้สึกของเค้า เพราะว่าเข้าใจแต่ทำอะไรไม่ได้แบบนี้ไงเธอถึงได้ทรมานอยู่อย่างนี้
"พูดอะไรบ้างเซ่!!!!" แรงที่พลั่กมาทำเอาตัวหญิงสาวเซไปเล็กน้อย ใบหน้าหวานเริ่มมีหยดน้ำตาประดับสองข้างแก้มแต่ก็ไม่ได้คิดที่จะยกมือเช็ดมันออกไป ถ้าน้ำตาของเธอคือการชดใช้ความผิดแล้วละก็เธอก็ไม่คิดว่าทั้งชีวิตนี้เธอจะมีน้ำตาเพื่อชดใช้ได้มากพอ อารมณ์กราดเกรียวของแชรินไม่ได้ลดลงไปด้วยซ้ำยิ่งพอเห็นอีกคนนิ่งเงียบก็ยิ่งโมโห
"ถ้าเธอสำนึกได้ก็เลือกซะ…เลือกว่าจะจับมือโอป้าไว้หรือจะปล่อยมือเค้าไป ทำแบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลย" นั่นซินะไม่ยุติธรรมเอาซะเลยบอมมี่ เธอจะเห็นแก่ตัวแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไหร่กัน จะต้องมีกี่คนที่จะเจ็บปวดเพราะเธอกัน
"อย่ามาให้ชั้นเห็นอีกถ้าเธอยังลังเลแบบนี้"
……………………………
จำไม่ได้แล้วเหมือนกันว่าเธอออกมาจากร้านนั้นได้ยังไง จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่านั่งอยู่ตรงม้านั่งริมถนนมานานเท่าไหร่ จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองร้องไห้มานานเท่าไหร่แล้ว ไม่มีเสียงสะอื้นน่าเห็นใจสำหรับเธอหรอกมีเพียงแค่หยดน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าเท่านั้นที่ทำให้รู้ว่าเธอกำลังร้องไห้ บอมมี่กำลังทบทวนกับคำพูดของแชรินอยู่และเข้าใจสิ่งที่อีกคนทำได้ดี ไม่มีเพื่อนคนไหนอยากให้เพื่อนตัวเองเสียใจหรือถูกหลอกหรอก เพื่อนมักหวังดีกับเพื่อนแทบจะทั้งนั้นและนั่นก็ไม่ทำให้เธอโกรธแชรินซักนิดแม้อีกคนจะทำเกินไปหน่อยก็ตาม
"คุณบอมมี่?" เสียงหวานๆที่เรียกขึ้นอย่างไม่แน่ใจทำให้เธอต้องรีบยกมือขึ้นเช็ดหน้าเช็ดตาเป็นการใหญ่ มันคงดูแปลกพิลึกถ้าคนที่ทักเธอเห็นว่าเธอกำลังนั่งร้องไห้แบบนี้
"คุณบอมมี่ใช่ไหม?" เงยหน้าขึ้นไปสบตากับใบหน้าอ่อนใสของคนที่เอ่ยทัก ดวงตาสุกใสกับรอยยิ้มอ่อนหวานทำให้เธอดูน่ารักและน่าทะนุถนอมยิ่งขึ้น แถมตัวเล็กๆแบบนั้นยิ่งชวนให้คนมองรู้สึกอย่างปกป้องขึ้นไปอีก ดูเหมือนว่าบอมมี่จะเจอเธออีกครั้งแล้ว ผู้หญิงอีกคนที่กำลังจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตของท็อป ผู้หญิงคนที่ผู้ชายอย่างชเวซึงฮยอนยอมที่จะละเลยคนรักอย่างเธอไป คนที่ทั้งสดใสและน่ารักในทุกครั้งที่ได้มอง ไม่แปลกใจเลยซักนิดว่าทำไมท็อปถึงเลือกที่จะบอกว่าบอมมี่เป็นแค่เพื่อนและเลือกที่จะปล่อยมือจากเธอไปหาคนๆนี้
"ซานดาร่า"
"บอมมี่จริงๆด้วย^^"
ดูเหมือนว่าตอนนี้ตัวของบอมมี่เองจะตัดสินใจกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้แล้ว ความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิงของคนเรามักจะมีตัวแปรอื่นๆเข้ามาทำให้มันเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ชเวซึงฮยอนยังคงมีผู้หญิงที่ดีอย่างซานดาร่าคอยดูแล ควอนจียงยังคงมีเพื่อนที่รักและเอาใจใส่อยู่ไม่ห่าง เพียงเท่านี้เธอก็ตัดสินใจได้แล้วว่าจะจัดการกับเรื่องของพวกเราทั้งสามคนได้อย่างไร
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
แค่เพียงเธอปล่อยมือออกจากสองคนนั้นแล้วทิ้งทุกอย่างไว้ที่เกาหลีก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ?
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น