ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟิค Short fic 2ne1 bigbang VOL.3

    ลำดับตอนที่ #18 : First & Last

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ย. 56


    Talk: คุยมันตั้งแต่ต้นเรื่องเลย 555  อยากจิบอกว่ากลับมาแล้วจ้า!!!!!!  ไม่ได้หนีหายไปไหน
    แต่พล๊อตที่วางไว้หายหมดเรียบ (เชื่อว่าหลายคนเจอปัญหานี้เหมือนกัน-_-) เรื่องที่ค้างไว้ต้องมารื้อฟื้นใหม่
    เพราะงั้นมันอาจจะช้ามากกกกกก  แต่ไม่ทิ้งแน่นอน วันนี้เลยเอาแบบนี้มาฝากแทน รอหน่อยนะคะ^^






     
     
     
     
     
     
              ผมเชื่อว่าประชากรทุกคนบนโลกใบนี้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม   ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องมีประสบการณ์เกี่ยวกับความรักกันมาบ้างไม่ว่าจะมากหรือน้อยแล้วแต่ช่วงอายุ  แน่นอนว่าผมก็เป็นประชากรคนหนึ่งบนโลกเหมือนกันเพราะงั้นไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าผมจะมีประสบการณ์ความรักคล้ายๆชาวบ้านชาวช่องเค้า-_- (ที่ไม่บอกว่าเหมือนคนอื่นไม่ได้ทำเพื่อให้ดูเท่หรอกนะ แต่ความรักของผมต่างกับคนส่วนใหญ่จริงๆ-_-)  หลายๆคนอาจจะยังนึกถึงประสบการณ์รักแรกได้อยู่หรือาจจะลืมเลือนไปตามกาลเวลา   บางคนอาจจะกำลังใช้ชีวิตอยู่กับรักสุดท้ายของตัวเองเรียกแบบบ้านๆก็คู่ชีวิตที่แต่งงานกันนั้นแหละ  แต่เชื่อเถอะไม่ว่าจะเป็นรักแรกหรือรักสุดท้ายในชีวิตมันมักจะมีความสุขเล็กๆซ่อนไว้เสมอ
     
     
     
     
     
     
     
     
            เคยมีหลายๆคนพูดให้ฟังเหมือนกันว่าสำหรับผู้ชายแล้วรักแรกคือสิ่งที่พวกเค้ายังคงจดจำได้อยู่  และแน่นอนว่าผมก็เป็นหนึ่งในผู้ชายปกติจำนวนนั้นด้วย (ย้ำบ่อยๆให้รู้ว่าผมยังปกติดี-_-)  เรื่องราวความรักครั้งแรกของผมเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยประถมนู้นนนนนน  อย่าว่าผมเป็นเด็กแก่แดดนะเพราะผมรู้ว่าพวกคุณก็เริ่มพร้อมๆผมแหละเผลอๆก่อนผมด้วยซ้ำ-_-   แต่มันก็เป็นเรื่องน่ารักๆแบบเด็กๆนั่นแหละนะแต่มาเริ่มจริงๆจังๆเอาตอนไฮสคูลนี่แหละ   ว่าแต่ว่าผมเกรินนำเรื่องมาขนาดนี้แล้วอยากฟังเรื่องของผมกันบ้างไหม^^~  แต่ถึงไม่ฟังผมก็จะเล่าอยู่ดี-_-
     
     
     
     
     
     
     
     
    ย้อนกลับไปสมัยยังเป็นเด็กชายอ้วนกลมนามว่า ชเวซึงฮยอน กันหน่อยละกันนะ^_^
     
     
     
     
     
    "ซึงฮยอนลูก วันนี้ข้างบ้านจะมีเพื่อนใหม่ย้ายมาด้วยนะ^^"  ผมจำได้ว่าตอนนั้นตื่นเต้นมากแค่ไหนที่จะมีเพื่อนใหม่ย้ายมาอยู่ข้างบ้าน นึกไปต่างๆนานาว่าถ้าเจอเพื่อนใหม่จะพาเค้าไปเล่นที่ไหนอะไรยังไง แต่บางทีแม่อาจจะลืมบอกผมไปว่าเพื่อนใหม่ที่ว่าดันเป็นผู้หญิงแถมยังเป็นนูนาอีกต่างหาก-_-
     
     
     
     
     
    "ซึงฮยอนจ๊ะ มานี่เร็วๆมาทักทายครอบครัวคุณปาร์คเค้าหน่อย^^" แม่กวักมือเรียกผมที่ยืนเตะลมเตะอากาศแถวๆรั้วบ้านให้เดินเข้ามาทำความรู้จักับบ้านข้างๆ ตอนนั้นผมไม่สนใจอะไรมากหรอกรู้แค่ว่าบ้านข้างๆคือครอบครัวของคุณปาร์คที่มีลูกสาวอายุมากกว่าผมเรียนอยู่ไฮสคูลแล้ว-_-   คิดเอาว่าผมเซ็งแค่ไหนที่แพลนที่วางไว้ว่าจะพาเพื่อนใหม่ไปเล่นด้วยล้มไม่เป็นท่าขนาดนี้
     
     
     
     
     
    "ชื่อซึงฮยอนเหรอ นูนาชื่อโกอึนนะ 'ปาร์คโกอึน'^_^"   ผมผงกหัวรับพี่สาวคนสวยก่อนจะแนะนำตัวเองบ้างผมก็มีมารยาทพอนะจะบอกให้-_- 
     
     
     
     
     
    "จริงๆแล้วนูนามีน้องสาวอายุพอๆกับนายด้วยนะ แต่เธอค่อนข้างขี้อายไปหน่อยนะ^_^"  ถึงจะดีใจเล็กน้อยว่าจะเจอเพื่อนอายุใกล้ๆกันแต่ดันเป็นผู้หญิงซะได้  แต่ก็เอาเถอะยังมีคนให้แกล้งบ้าง^_^~ (อย่ามองว่าผมนิสัยเสียแต่เด็กนะมันเป็นเรื่องธรรมดาจะตายไป-_-)
     
     
     
     
     
    "อ่ะ  เดินมานั่นพอดีเลยมานี่เร็วบอมมี่"  ผมเห็นโกอึนนูนาหันกลับไปกวักมือเรียกใครซักคนที่กำลังเดินออกมาหน้าบ้าน ผมเดาว่านั่นคงเป็นน้องสาวของเธอนั่นแหละแต่ผมยังไม่เห็นหน้าเธอเลย 
     
     
     
     
     
    "มาเร็วๆบอมมี่ มารู้จักซึงฮยอนหน่อยเร็วซิ"
     
     
     
     
     
    "คะ ออนนี~"  เสียงเล็กๆของเด็กผูหญิงไม่ได้ทำให้ผมสนใจเท่าไหร่หรอกนะเอาจริงๆ  แต่พอเธอค่อยๆโผล่หน้าออกมาจากด้านหลังโกอึนนูนานั่นแหละที่ทำให้ผมที่ตอนนั้นยังอายุแค่ 12 ขวบถึงกับชะงักไป   สิ่งแรกที่ผมเห็นคือผมสีดำตรงสวยของเธอต่อมาก็เป็นลูกตากลมโตที่แวววาวคู่นั้น ใบหน้าขาวใสของเธอเผยออกมามากขึ้นๆจนในที่สุดผมก็เห็นเธอเต็มๆตาซักที ปากเล็กๆนั่นส่งยิ้มน้อยๆอย่างคนขี้อายมาให้ผมจนโกอึนนูนาต้องดันหลังเธอออกมาประจันหน้ากับผมนั่นแหละ แต่ดูเหมือนเธอจะสูงกว่าผมเล็กน้อยแหะ-_- (อย่ามองแบบนั้นเด็กผู้ชายส่วนใหญ่ตอนเด็กๆตัวเล็กกว่าเด็กผู้หญิงทั้งนั้น-_-)
     
     
     
     
     
    "แนะนำตัวซิบอมมี่ อย่าเสียมารยาท" 
     
     
     
     
     
    "สวัสดีคะ"  เด็กผู้หญิงตรงหน้าก้มหัวลงต่ำจนผมตกใจรีบก้มตามแทบไม่ทัน  จะมารยาทดีไปไหม-_-
     
     
     
     
     
    "ปาร์คบม อายุ12 เรียกบอมมี่ก็ได้^^" 
     
     
     
     
     
    "ซึงฮยอน ชเวซึงฮยอนอายุ12เหมือนกัน"  
     
     
     
     
     
     
            นั่นคือครั้งแรกที่ผมได้เห็นหน้าและพูดคุยกับเธอ  ถ้าถามถึงความประทับใจแรกตอนที่เจอกันผมคงบอกได้ว่าเธอก็ดูน่ารักสดใสตามแบบฉบับของเด็กทั่วไป  แต่อาจจะพิเศษกว่าเด็กผู้หญิงคนอื่นนิดหน่อยตรงที่เธอมีใบหน้าหวานที่ทำเอาผมชะงักไปนั่นแหละ-_-   ตอนนั้นผมยังเด็กเลยไม่ค่อยเข้าใจเรื่องแบบนี้หรอกแต่โตมาถึงได้เข้าใจว่าที่ผมรู้สึกกับเธอแบบนั้นคือาการของรักแรกพบนั่นแหละ   และตั้งแต่ทำความรู้จักกันคราวนั้นก็กลายเป็นว่าผมกับเธอแทบจะไม่ห่างกันเหมือนเงาตามตัวกันเลยทีเดียว  อายุเท่ากันเรียนห้องเดียวกันและไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆเพราะบ้านดันอยู่ใกล้กันด้วย  แต่เรื่องราวจริงๆจังๆกับรักแรกของผมเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นตอนที่พวกเราอยู่ไฮสคูลกันต่างหาก
     
     
     
     
     
     
            เพราะพวกเราอายุเท่ากันเลยเรียนอยู่ชั้นเดียวกันเท่านั้นยังไม่พอ  พ่อแม่ของบอมมี่ยังฝากฝังเธอไว้กับเค้าเพราะกลัวว่าลูกสาวตัวเองจะไร้เพื่อนฝูง ซึ่งเอาจริงๆแล้วบอมมี่เพื่อนเยอะกว่าเค้าอีกมั้ง-_-  แต่เค้าก็ไม่ได้เดือดร้อนที่จะรับคำของผู้ใหญ่เลยกลายเป็นว่าทั้งเค้าและบอมมี่อยู่ห้องเดียวกันตลอด  เหมือนจะเบื่อแต่จริงๆแล้วผมว่าสนุกดีออกใครจะไปรู้ว่าผู้หญิงสวยหน้าหวานอย่างเธอจะมีมุมโก๊ะๆเปิ่นๆฮาๆมาให้ผมได้หัวเราะทู้กกกกวัน^_^  น้อยคนนะที่จะรู้ว่าคนขี้อายอย่างบอมมี่ร้องเพลงเพราะมากและเค้าก็มักจะได้ฟังบ่อยๆตอนที่ทานข้าวเสร็จแล้วแอบมางีบในสวนกว้าง  น้อยคนที่จะรู้ว่าบอมมี่กลัวเสียงพลุดังๆและก็เป็นเค้านี่แหละที่ค่อยกลั้นขำไปด้วยปลอบเธอไปด้วย   มันเป็นมุมต่างของบอมมี่ที่คนอื่นมักไม่ค่อยรู้แต่เค้ารู้เรื่องพวกนั้นก็แน่ละอยู่ด้วยกันมาซักพักแล้วนี่-_-
     
     
     
     
     
    "หิวแล้วอ่ะT_T"   เสียงหวานๆของผู้หญิงที่นั่งติดๆกับผมดังขึ้นก่อนที่เจ้าของผมยาวสวยจะขยับตัวลุกขึ้น  และแน่นอนว่าใบหน้าหวานๆของเธอกำลังวางเกยอยู่บนโต๊ะเรียนของผม  สุดท้ายผมเลยต้องละสายตาจากวิวข้างนอกมามองบอมมี่แทน
     
     
     
     
     
    "ไปหาอะไรกินกันนะ^_^"
     
     
     
     
     
    "อืม ไปซิ"  ผมพยักหน้าให้เธอก่อนจะลุกเดินตามหลังไปเหมือนอย่างเคย  หลายๆคนที่เรียนอยู่ที่นี่รู้กันดีว่าถ้าอยากเจอผมต้องหาบอมมี่ให้เจอเรียกได้ว่าเป็นเหมือนเงาตามตัวกันเลย   อย่าคิดว่าผมกับบอมมี่ไม่มีใครคบนะก็อย่างที่บอกว่าเราถูกฝากฝังให้ดูแลกันเลยมักจะอยู่ด้วยกันบ่อยกว่าเพื่อนคนอื่นๆ  และผมกับบอมมี่ก็รู้สึกสบายใจดีเมื่อได้อยู่เงียบๆแบบนี้  เออ อันที่จริงแล้วก็อาจจะไม่เงียบเท่าไหร่หรอก-_-  ก็ไม่ได้อยากจะอวยกันเองหรอกนะแต่ผมกับบอมมี่ค่อนข้างนะดังพอตัวเลยแหละ  เรียกได้ว่าเดินไปทางไหนก็มีแต่คนมองตาม(มันน่าขนลุกไปไหม-_-)  แต่พวกเค้าก็ยังมีมารยาทพอที่จะไม่ตามติดกันเกินไปเพราะผมค่อนข้างจะรักสันโดษไม่น้อย
     
     
     
     
     
    "เสร็จแล้วไปนั่งเล่นที่สวนดีไหม?"  บอมมี่หมุนตัวกลับมาถามผมซึ่งผมก็ได้แต่พยักหน้าตอบไป  มันเป็นเหมือนเรื่องปกติที่เราจะต้องไปนั่งเล่นที่นั่นกัน  แน่นอนว่าที่ตรงนั้นเหมือนกับสถานที่ส่วนตัวสำหรับพวกผมไปแล้วเพราะไม่มีใครกล้าเข้าไปรบกวนเลย  ระยะเวลาที่นั่งกินข้าวในคาเฟ่ทีเรียเป็นไปตามปกติเหมือนทุกวันและทุกๆครั้งที่ทานเสร็จบอมมี่มักจะไปซื้อขนมปังไปนั่งกินที่สวนเสมอ   หลังจากเดินมาที่สวนแล้วผมก็ถอดสูทตัวนอกออกก่อนจะปูลงกับพื้นเพื่อให้บอมมี่นั่ง  ส่วนผมนะเหรอ?อาศัยซุกหัวลงกับตักนิ่มๆของบอมมี่เอนตัวลงนอนเหมือนทุกทีนั้นแหละ
     
     
     
     
     
            เจ้าของตักนิ่มส่งยิ้มหวานมาให้ก่อนที่ผมจะฉวยเอามือข้างซ้ายของเธอมาแนบอกตัวเองไว้  การกระทำของผมชัดเจนขนาดนี้แต่เชื่อไหมว่ามันยังมีคนอยากลองดีอยู่-_-  ถึงเรื่องของผมกับบอมมี่เราสองคนจะไม่ได้พูดไปอย่างชัดเจนแต่ทั้งผมและบอมมี่ต่างก็รับรู้ได้ว่าเรา 'พิเศษ' กว่าคนทั่วไปยังไง   แถมนักเรียนที่นี่ส่วนใหญ่ก็รู้กันทั้งนั้นว่าบอมมี่กับซึงฮยอนเป็น 'PC' กัน  มันคือตัวย่อของคำว่า 'Perfect Couple' นั่นแหละ  นี่ผมกับบอมมี่ไม่ได้ตั้งเองนะพวกแฟนคลับตั้งให้ต่างหาก (ดังไม่ดังคิดดูว่ามีแฟนคลับตามบ่อยๆอ่ะ-_-)   แค่นี้ก็รู้แล้วใช่ไหมว่าเราสองคนไม่ได้เป็นแค่เพื่อนข้างบ้านกัน แต่ขยับสถานะมาเป็นคู่รักกันเรียบร้อยแล้วและถ้าจะถามว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่ผมก็คงให้คำตอบได้ไม่ชัดเจนหรอก  เอาเป็นว่าเรารู้ได้ด้วยตัวของเราเองทั้งคู่และพอใจกับมันเอามากๆเลยละ
     
     
     
     
     
    "บอมมี่  หยิบกิ่งไม้ตรงนั้นให้หน่อย"  ผมชี้มือไปทางกิ่งไม้ด้านขวามือของเธอเจ้าตัวแค่ทำหน้าสงสัยก่อนจะหยิบมาให้ตามที่ผมบอก  ผมมองกิ่งไม้ในมือเล็กน้อยก่อนจะกะระยะทางสายตาและขว้างมันออกไปทางพุ่มไม้ด้ายซ้ายมือของตัวเองเต็มแรง
     
     
     
     
     
    ป๊อก!
     
     
     
    "โอ้ย!!!!!"  เป็นไงแม่นไหมละ-_-  
     
     
     
     
     
    "จะออกมาดีๆหรือจะให้ฉันเดินไปหา"  ผมพูดเรียบๆแต่ไม่นานเจ้าของเสียงเมื่อกี้ก็เดินออกมาพร้อมกิ่งไม้ที่ผมเพิ่งขว้างมันออกไป เจริญดีจริงๆ-_-
     
     
     
     
     
    "ทำไมไปแอบอยู่ตรงนั้น"  ผมถามทั้งๆที่ยังนอนหนุนตักบอมมี่อยู่โดยมีเด็กผู้ชายคนนั้นยืนก้มหน้าก้มตาไม่กล้ามองหน้ายืนอยู่ไม่ไกลนัก
     
     
     
     
     
    "เออ....คือ.....ผะ ผม....อ่า"
     
     
     
     
     
    "จะต้องให้ช่วยง้างปากไหม?"
     
     
     
     
     
    "นี่อย่าดุเค้าซิ  ว่าแต่ทำไมไปแอบตรงนั้นละมีอะไรกับพวกเราหรือเปล่า^_^"  ดุผมเสร็จก็หันไปถามไอ้ตัวอ้ำอึ้งเสียงหวานเชียวแถมยังยิ้มให้อีก เหอะ!!!อย่างนี้ทุกทีเลย-_-   แล้วเป็นไงสุดท้ายไอ้ตัวอ้ำอึ้งก็ทำหน้าเคลิ้มใส่ เดี๋ยวปัดเตะยอดหน้า!!!  นี่มัน 'ผู้หญิงของผม' นะครับคุณณณณณณ-_-
     
     
     
     
     
    "บอมมี่ชิ  คือผมเห็นคุณชอบกินขนมมากแล้วผมก็เพิ่งไปญี่ปุ่นมาเลยเอาโตเกียวบานาน่ามาฝาก"  ว่าจบยังยื่นกล่องขนมมาให้คนที่ผมนอนหนุนตักอีก  เดี๋ยวก็กัดซะหรอกคนยิ่งหวงๆอยู่-_-
     
     
     
     
     
    "โอ๊ะ  ขอบใจมากนะแต่คราวหลังไม่ต้องลำบากก็ได้^^"  
     
     
     
     
     
    "แค่นี้ใช่ไหม-_-"   บอกตามตรงว่าตอนนี้ชเวซึงฮยอนโคตรจะไม่สบอารมณ์เลย-_-*********   ทั้งๆที่ผมยังนอนหนุนตักเธออยู่แท้ๆแล้วไอ้ตัวอ้ำอึ้งนี่มันยังไงกัน  ไม่เข้าใจภาษากายขั้นเบสิกหรือยังไงกันทั้งจ้องทั้งพูดจนแทบจะกระโจนเข้าไปงับคออยู่แล้ว(สรุปผมคือหมา-_-?)ยังจะมีอารมณ์มายืนอายม้วนทำท่ายังกะจะจีบอีก
     
     
     
     
     
    "อยู่นี่เองเหรอวะไอ้0_0 ว๊ากกกกกกกก!!!!!!!"  พวกผมหันไปมองต้นเสียงที่โวยวายแถมยังยืนหน้าซีดเหมือนผีเข้าอยู่ก่อนจะต้องขมวดคิ้วมุ่น  นี่มันหมายความว่าไง?เจอแล้วโวยวายแบบนี้?ความสงบสุขในสวนที่เคยมีมันหายไปไหน-_-? 
     
     
     
     
     
    "แกไอ้บ้า!อยู่ดีไม่ว่าดีอยากโดนกระทืบตายหรือไงว่ะ!!!"  ไอ้คนที่เพิ่งเดินมาถึงโวยวายใส่ไอ้ตัวอ้ำอึ้งยกใหญ่ก่อนจะยกมือเขกหัวอย่างแรง  อย่างนี้ไม่ต้องสงสัยเพื่อนกันชัวร์-_-
     
     
     
     
     
    "ขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยนะ  อย่าไปถือสามันเลยมันบ้าๆนะ^^!"  ผมโบกมือไล่สองคนนั้นก่อนจะหลับตาลงเป็นการบอกกลายๆว่า 'เชิญพวกแกไปทางอื่นเถอะ'  แต่ก็ยังไม่วายได้ยินเสียงนินทาลอยมาตามลมอีกระรอก-_-
     
     
     
     
     
    "แกประสาทเสียหรือไงว่ะไอ้บ้า  แฟนเค้าก็นอนหนุนตักอยู่นั่นเดี๋ยวก็โดนกระทืบตายห่านหรอก!!!!"
     
     
     
     
     
    "แฟนอะไรกัน  บอมมี่เค้าโสดไม่ใช่เหรอวะ?"
     
     
     
     
     
    "โสดบ้านพ่อคุณเหรอครับ  ใครๆก็รู้ว่าสองคนนั้นคบกัน"
     
     
     
     
     
    "คบกันที่ไหนไม่เห็นประกาศตัวเลย แค่เห็นว่าอยู่ด้วยกันบ่อยๆเฉยๆก็เห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทกันนี่"
     
     
     
     
     
    "พูดแบบนี้แกอยากตายใช่ไหม สองคนนั้นเค้าคบกันอยู่เว้ย!!!"  
     
     
     
     
     
    "ไม่เชื่อ"
     
     
     
     
     
    "จริงๆ"
     
     
     
     
     
    "ไม่จริง"
     
     
     
     
     
    "เออ จริง!!!รู้แล้วก็ช่วยหายออกไปเงียบๆซักทีมันหนวกหู-_-"  และก็เป็นผมนี้แหละที่เฉลยข้อสงสัยให้ไอ้ตัวอ้ำอึ้งแทนไอ้เพื่อนตัวซีดนั่นแทน(นั่นหรือคือชื่อคนที่แกตั้ง-_-)  โวยวายกันอยู่ได้ไม่ไปซักที 
     
     
     
     
     
    "คิกๆ^_^"
     
     
     
     
     
    "หัวเราะอะไรบอมมี่ มีอะไรน่าตลก-_-"
     
     
     
     
     
    "ไม่มีอะไรน่าตลกหรอกน่า นอนไปเถอะๆเดี๋ยวปลุกนะ^^"
     
     
     
     
     
    "น่าหงุดหงิดจริงๆ ไอ้ตัวอ้ำอึ้งนั่นไม่รู้หรือไงว่าเราคบกัน-_-!"
     
     
     
     
     
    "อย่าไปโทษเค้าเลยก็เค้าไม่รู้จริงๆนี่นา ไม่ใช่ทุกคนซักหน่อยที่จะรู้เรื่องของเรา^^"  อยากจะเถียงเหลือเกินว่าถ้าพวกนั้นไม่รู้ก็โคตรโง่แล้ว-_-  ทั้งกลับบ้านพร้อมกัน นั่งกินข้าวด้วยกัน แถมยังมาเจอช๊อตหนุนตักอีกถ้าไม่รู้ก็เกินไปป่ะ-_-   เอ๊ะ!!!แต่จะว่าไปแล้วผมก็ยังไม่ได้ทำอะไรให้ชัดเจนจริงๆใช่ไหมละ  ถ้าอย่างงั้นพรุ่งนี้ผมจะทำให้ชัดเจนเอาแบบชัดจนไม่กล้ามีใครเข้าใจผิดว่าเราเป็นแค่เพื่อนสนิทกันอีกต่อไป^^~
     
     
     
     
     
     
     
            นั่นคือเรื่องสมัยที่ผมยังอยู่ไฮสคูลนู้นนนนน(พูดเหมือนผมแก่มากแล้ว-_-)  หลังจากที่คิดได้ว่าจะทำอะไรให้คนรับรู้ว่าผมกำลังคบกับบอมมี่อยู่ขั้นแรกก็ขอเธอเป็นแฟนอย่างจริงๆจังๆ แต่เรื่องแบบนี้ผมขอตอนที่อยู่กันสองคนนะส่วนเรื่องที่ทำให้คนรู้กันทั้งโรงเรียนก็ไม่ยาก  พวกแฟนคลับมีก็ใช้ให้เป็นประโยชน์แค่นั้นเองโดยการให้พวกนั้นมาถ่ายรูปตอนที่ผมยื่นดอกไม้ช่อสวยๆให้บอมมี่ในโรงเรียนนั้นแหละ (อย่าถามว่าผมไปเอาดอกไม้มาจากไหน แอบหนีไปสั่งไว้ให้เค้ามาส่งตอนที่ยัยนั่นไปเข้าห้องน้ำนั้นแหละ)  
     
     
     
     
     
            ยังหรอกแค่นั้นยังไม่พอ-_-อัพเลเวลอีกนิดด้วยการมีของคู่กันที่เห็นได้ชัดๆอย่างแหวนแล้วก็การที่ผมเดินจับมือเธอแทนที่จะเดินตามหลังเหมือนเมื่อก่อน  เชื่อไหมว่าทำแบบนั้นแล้วไม่มีผู้ชายคนไหนกล้ามาเจ๊าะแจะบอมมี่อีกเลย  รู้งี้ประกาศตัวตั้งแต่แรกก็ดี-_-  ถ้าจะถามว่าทำไมถึงเพิ่งมาทำผมก็จะบอกให้ว่าผมมีเหตุผลนะ เพราะพวกเราก็แค่นักเรียนธรรมดาๆที่ไม่ได้อยากจะเด่นดังอะไรมากอยากอยู่แบบเงียบๆมากกว่า  แต่ทำไงได้ก็พวกผมมันป๊อปนี่นา-_-  เลยเป็นธรรมดาที่จะมีคนสนใจประหนึ่งเป็นเน็ตไอดอล  สุดท้ายแล้วผมก็ต้องทำให้ชัดเจนอยู่ดีเพราะทนพวกเจ๊าะแจ๊ะไม่ไหว
     
     
     
     
     
            นั่นคือเรื่องราวน่ารักๆของรักครั้งแรกของผมจากที่เป็นแค่เพื่อนข้างบ้านกันธรรมดาๆก็กลายมาเป็นคนรักกันในที่สุด  ก็มีบ้างที่จะทะเลาะกัน งอนกัน โกรธกัน  เพราะผมกับบอมมี่ก็แค่คนธรรมดาๆที่มีความรู้สึกเหมือนคนมีแฟนทั่วไป  ทะเลาะกันจนร้องไห้เกือบเลิกกัน งอนกันจนไม่คุยกันเป็นอาทิตย์ โกรธกันจนผมต้องตามง้อแทบตายเพราะเจ้าตัวดันใจแข็งเหลือเกิน-_-   แต่พวกคุณก็รู้ใช่ไหมว่าการคบกันนานๆแบบนี้มันก็ต้องมีบ้างที่เราจะเบื่อกันหรือไม่ได้หวานกันเหมือนเมื่อก่อน  และถ้ายังเป็นอย่างนั้นไปเรื่อยๆสุดท้ายแล้วเราก็ต้องห่างกัน  ต้องมีคนใหม่และเลิกกันในที่สุด  
     
     
     
     
     
     
            แน่นอนระหว่างผมกับบอมมี่ที่เป็นรักครั้งแรกของผมก็เริ่มห่างกัน  เพราะตอนเข้ามหาลัยเราเรียนกันคนละคณะกันและเวลาว่างก็แทบจะไม่ตรงกันเลย  เธอว่าง-ผมไม่ว่าง เธอเรียน-ผมว่าง เธอติดโปรเจค-ผมมีเรียน  ช่วงนั้นแหละเป็นช่วงที่เราเจอกันน้อยมากเรียกได้ว่าเดือนหนึ่งเจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง  มันเหมือนกับเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของความรักที่ถ้าเกิดว่าเราประคองมันไว้เราก็ยังคบกันอยู่  แต่ถ้าเราละเลยมันจะพังลงอย่างแน่นอน  คุณคิดว่าถ้าเราห่างกันขนาดนั้นผมกับบอมมี่ยังจะรักกันอยู่เหมือนเดิมไหม?แน่นอนว่ามันไม่เหมือนเดิม  เมื่ออะไรๆมันไม่เป็นใจแล้วสุดท้ายเราสองคนก็ต้องจากกัน
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     






     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    ซะที่ไหนกันละ!!!!!!!-_-
     
     
     
     
           ถ้าตอนนั่งผมเลิกกับบอมมี่จริงๆแล้วยัยผู้หญิงที่ซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดผมบนโซฟาหน้าทีวีนี่มันใครก๊านนนน!!!!!   เจ้าของผมตรงสวยนุ่มมือนี่จะเป็นใครกัน? เจ้าของผิวขาวแสนนิ่มที่ผมใช้ตักเธอต่างหมอนบ่อยๆนี่มันใครกัน? เจ้าของตากลมโตแวววาวที่กำลังจ้องทีวีตาไม่กระพริบนี่ใครกัน? เจ้าของริมฝีปากอิ่มสีอ่อนที่ผมได้ลิ้มลองความหวานหอมบ่อยๆนี่มันใครก๊านนนนน?  ทั้งหมดที่ผมพูดมาคงไม่ใช่ใครอื่นไกลหรอกก็บอมมี่นั้นแหละ-_-  ปาร์คบมที่เป็นเพื่อนข้างบ้านสมัยอายุ12 ที่เรียนมาด้วยกัน ที่เป็นรักแรก ที่ทะเลาะกันจนเกือบจะเลิกกัน และที่สำคัญปาร์คบมหรือบอมมี่คนนี้นี่แหละที่เป็น 'ภรรยา' ของผม  ของผู้ชายที่ชื่อชเวซึงฮยอนคนนี้นี่แหละ^_^~
     
     
     
     
     
            ตอนนี้ผมพูดได้เต็มปากเลยว่าบอมมี่เป็นรักครั้งแรกของผม เป็นรักเดียวของผม และเป็น 'รักสุดท้าย' ของผมเช่นกัน^_^   บอกแล้วว่าความรักของผมไม่เหมือนกับคนอื่นๆหรอก  น้อยคนนะที่จะพูดได้แบบผมว่ารักแรกของตัวเองคือรักสุดท้ายของตัวเองเชื่อเถอะว่ามีแค่หนึ่งในล้านเท่านั้นแหละ  แต่กว่าที่ผมกับบอมมี่จะลงเอยกันได้ขนาดนี้ก็เกือบตายเหมือนกันน่ะ-_-  ก็อย่างที่บอกว่าพวกเราเกือบจะเลิกกันไปแล้วแต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างทำให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกครั้ง  แต่ก็เสียน้ำตากันไปหลายลิตรเหมือนกันนะ (อย่ามองเหมือนสงสัย ผมร้องไห้เหมือนกันนะครับไม่ใช่แค่บอมมี่คนเดียว-_-)   แต่หลังจากที่เราผ่านช่วงยากลำบากนั้นมาอะไรๆมันก็ดีขึ้นจนในที่สุดผมก็ขอเธอแต่งงาน  ยังจำได้อยู่เลยว่าวันนั้นบอมมี่ร้องไห้ไปพยักหน้าไปทั้งน้ำตา ก็นะ!นานๆผมจะมีโมเม้นท์โรแมนติกๆบ้าง
     
     
     
     
     
           ผมก็แค่เขียนตัวหนังสือบนลูกโป่งหนึ่งพันใบว่า 'แต่งงานกับผมนะบอมมี่' ด้วยลายมือของตัวเอง ย้ำ!ตัวลายมือตัวเอง (ผมเกือบจะนิ้วล๊อคไปเหมือนกันนะ-_-)  จากนั้นก็ให้คนอื่นช่วยนิดหน่อยด้วยการปล่อยมันขึ้นฟ้าที่หน้าคอนโดของผม (ผมยังไม่ได้บอกใช่ไหมว่าผมย้ายมาอยู่คอนโดใกล้ที่ทำงานแทน ส่วนบ้านก็กลับไปบ้างถ้ามีเวลา)  จัดแจงให้เธอไปยืนตรงระเบียงเพื่อได้เห็นชัดๆก่อนจะคุกเข่าโชว์แหวนขอแต่งงานเหมือนในหนัง กะไว้ว่าถ้าเธอไม่ตอบตกลงจะขู่ว่าจะโดดระเบียงตายไปเลย-_- (ผมล้อเล่นนะ^_^!)
     
     
     
     
     
    "อุ๊ย! ซึงฮยอนดูเด็กคนนั้นดิ น่ารักดีเนอะ>_<"  ผมหันไปมองตามที่เธอบอกในทีวีก็เห็นเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มยืนยิ้มแผล่ให้ผมอยู่  ก็น่ารักดีอยู่นะถ้าเป็นลูกของพวกเราเอง-_-  คือจะว่าไงดี?!?! ถึงผมกับบอมมี่จะแต่งงานกันมาซักพักแล้วแต่เราก็ยังไม่ได้ผลิต 'บอมมี่น้อยๆ' หรือ 'ซึงฮยอนน้อยๆ' ออกมาให้เหล่าคุณพ่อตาคุณแม่ยายได้ชื่นใจเลย  แถมผมยังโดนเพื่อนๆแซวอีกต่างหากว่า 'ไม่มีน้ำยา' คือไอ้ผมก็อยากจะบอกว่าน้ำยาอ่ะมีแต่บอมมี่ไม่พร้อม!!!!  เธอบอกว่าอยากจะอยู่แบบนี้ไปอีกซักพักหนึ่งก่อน แต่บางทีผมใจร้อนอย่างมีลูกทันใช้บ้างได้ไหมละ-_-
     
     
     
     
    "น่ารักจริง แต่อยากมีแบบนั้นบ้างไหมละ-_-"
     
     
     
     
    "อ อะไรๆ บอกแล้วไงว่าอยู่ขออยู่สองคนแบบนี้อีกนิด (.///.)"  โว๊ะ!!!แต่งงานกันแล้วยังจะอายอะไรอีกครับคุณบอมมี่  แต่เจอหน้าแดงๆแถมยังก้มหน้าอายแบบนี้ซึงฮยอนใจเต้นไปไม่เป็นทู้กกกกกที
     
     
     
     
    "แล้วเมื่อไหร่จะพร้อมละบอมมี่ นี่ก็นานแล้วนะ"
     
     
     
     
    "ก ก็ ม ไม่รู้ซิ" อ่าว-_- ถ้าคุณไม่รู้แล้วใครจะรู้คร๊าบคุณบอมมี่!?!?!?
     
     
     
     
    "งั้นตอนนี้เลยไหมฉันพร้อมแล้ว-_-"
     
     
     
     
    "(.///////////.)" เวรกรรม!หน้าแดงจนจะระเบิดอยู่แล้วนะนั่น แต่ขอเถอะ!เห็นแบบนี้แล้วมันหมั่นเขี้ยวขอฟัดแก้มนิ่มๆทีเถอะ -.,-
     
     
     
     
    ฟอดดดดดดด
     
     
     
     
    "ซึงฮยอน0_0"  เอาเข้าไป ตาโตตกใจเข้าไปเถอะ-_-   บอกไว้ก่อนนะถ้าน้องยังทำตัวน่ารักอยู่แบบนี้พี่ก็จะไม่ทนนะจะบอกให้-.,-
     
     
     
     
    "ทำไม หอมแก้มภรรยาตัวเองมันผิดตรงไหนกัน"
     
     
     
     
    "ปะ ป่าวไม่ใช่แบบนั้นแต่ อื้อ~"  บอกแล้วไงถ้ายังทำตัวน่ารักแบบนี้ก็จะไม่ทน-_-  สุดท้ายแล้วผมเลยปิดปากบอมมี่ซะเลยปิดด้วยปากผมเนี้ยแหละ  จุมพิตที่ทั้งหวานและหอมจนผมเสพติดขนาดนี้ต่อให้เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมเหอะ-_-  บอมมี่เกาะบ่าผมไว้แน่นเลยตอนที่ผมขยับริมฝีปากไปมาและด้วยความหมั่นเขี้ยวเต็มอก?ผมเลยแอบขบปากล่างของเธอเบาๆก่อนจะลากมือที่อยู่บนแผ่นหลังเบาๆจนมือน้อยๆนั่นกำแน่นขึ้นไปอีก  ผิวขาวลื่นมือที่โผล่พ้นเสื้อแขนกุดเว้าหลังน้อยๆทำให้ผมเพลิดเพลินได้ไม่ยาก  แต่ดูเหมือนว่าความเพลินเพลินของผมกำลังจะกลายเป็นปัญหาในไม่ช้านี้แน่ๆ-_-  ผมค่อยๆผละออกจากริมฝีปากหวานๆนั่นช้าๆโดยที่บอมมี่พยายามจะทำให้จังหวะการหายใจของเธอกลับมาเป็นปกติให้เร็วที่สุด  แต่ผมว่าผมคงไม่ได้หยุดแค่นี้แล้วละเชื่อไหม?!?!?!
     
     
     
     
    "บอมมี่"  เพิ่งรู้ว่าเสียงตัวเองมันจะเซ็กซี่ขนาดนี้นะเนี้ย  ว่าจบก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะดึงบอมมี่ที่ยังงงๆอยู่ให้เดินตามมา
     
     
     
     
    "นายจะไปไหนนะ"
     
     
     
     
    "ยังจะถามอีกเหรอ-_-"  มือนี่จับลูกบิดประตูเปิดแล้วนะขอบอก  แต่ต้องหันกลับมาขยายข้อข้องใจของภรรยาต่อ
     
     
     
     
    "?"
     
     
     
     
    "ไม่ไหว มาเพิ่มประชากรให้โลกกันเถอะ-_-"
     
     
     
     
    "ดะ เดี๋ยว0_0 ซะ ซึงฮยอน"  ลากเข้าไปๆ ปิดประตูล๊อคกลอนก่อนจะหัวเราะหึหึเหมือนในหนัง(เพื่ออะไร-_-)
     
     
     
     
    "บอมมี่จ๋า~  มาปั้นเด็กๆของเราดีกว่าเนอะ^_^~"  ทำไมผมทำตัวเหมือนคนโรคจิตวะเนี้ย นี่ภรรยาผมนะเนี้ย!!!!!
     
     
     
     
    "ตะ แต่....."
     
     
     
     
    "ไม่ทันและ ซึงฮยอนจะไม่ทน-_-"  ว่าจบก็โถมตัวเข้าใส่ก่อนจะพาภรรยาคนสวยลงไปนอนบนเตียงหนานุ่มแทน  และเป็นอีกครั้งที่ผมไม่อยากห่างจากริมฝีปากอิ่มคู่นั้นอีกเลย  ทั้งค่อยๆละเลียดชิมและขยับไปมาจนแทบจะหลอมละลายไปทั้งตัวเพราะความร้อนของร่างกายที่พุ่งสูงขึ้นแบบไม่ตั้งใจ  แต่ก็ต้องยอมผละออกมาให้อีกคนสูดอากาศเข้าปอดบ้างส่วนผมก็ระดมจูบไปทั่วทั้งหน้าผากมน เปลือกตาบาง ปลายจมูกรั้นๆและพวงแก้มที่กลายเป็นสีแดงจัดแบบว่าจัดมากๆ ก่อนจะแนบริมฝีปากร้อนๆลงกับลำคอขาวผ่องจนเธอสะดุ้งเฮือก
     
     
     
     
    "อ่ะ!!!!!"
     
     
     
     
    "ไม่ให้ออกไปแล้วนะ"
     
     
     
     
    "?" สงสัยจะไม่เข้าใจแหะ-_- เครื่องหมายคำถามตัวเบ้อเร่อเต็มหน้าเชียว
     
     
     
     
    "ถ้าวันนี้เพิ่มประชากรให้โลกไม่ได้ ไม่ให้ออกไปไหนจริงๆด้วย-_-"
     
     
     
     
    "ซึงฮยอน!!!!! อื้ม~"  
     
     
     
     
     
            ขออภัยนะครับทุกคน ผมคงต้องหยุดเรื่องราวความรักของผมไว้แต่เพียงเท่านี้-_-  เพราะตอนนี้ผมมีภาระอันใหญ่หลวงรออยู่  ภารกิจที่ผมจะต้องเพิ่มประชากรให้โลกกำลังรออยู่เพราะฉะนั้น  ตอนนี้เป็นเวลาของผมกับบอมมี่สองคนเท่านั้นนะครับขออนุญาติ ปิดไฟ ปิดม่าน จบปึ้ง!!!!!!!!-_-
     
     
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×