ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : 2 Heart & Triangle of LOVE : Part 1
คำเตือน:เรื่องนี้ยังหาข้อสรุปสำหรับตัวละครไม่ได้ แต่แต่งจบแน่นอนไม่ต้องห่วงนะคะ^^ อาจจะมีเปิดโหวตด้วยนะ
ปล.และเพราะว่าเพิ่งแต่งแนวนี้ครั้งแรก อาจจะตะกุกตะกักไปบ้างยังไงก็ช่วยชี้แนะด้วยน่ะ
ปล.และเพราะว่าเพิ่งแต่งแนวนี้ครั้งแรก อาจจะตะกุกตะกักไปบ้างยังไงก็ช่วยชี้แนะด้วยน่ะ
ไม่มีใครที่ในชีวิตจะเกิดมาแล้วไม่เคยเจ็บปวดเพราะความรักหรอก แต่อยู่ที่ว่าเรื่องที่เจอจะหนักหนาขนาดไหน อาจจะแค่ร้องไห้สองสามวันแล้วดีขึ้น หรืออาจจะเปลี่ยนให้กลายเป็นคนละคนกับช่วงแรกๆที่เจอ ทุกคนบนโลกล้วนแต่พบปัญหากันทั้งนั้นไม่เว้นแม้กระทั้งตัวเธอเองด้วย
ไม่รู้เหมือนกันว่าวังวนเรื่องความรักของเธอเริ่มมาจากจุดไหน?และก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าจุดจบของมันจะมาถึงเมื่อไหร่? แต่ถ้าถามว่าเพราะอะไรถึงเกิดเรื่องบ้าๆแบบนี้ขึ้นมาได้ คงบอกได้แค่ว่าเกิดจากความ 'ไม่ใส่ใจ' 'หวั่นไหว' 'อ่อนแอ' ของหัวใจของ 'พวกเรา' ก็เป็นได้ บอกอย่างนี้ก็คงรู้แล้วใช่ไหมว่าความรักของเธอไม่ใช่เรื่องของ 'คนสองคน' คนอื่นอาจจะมองว่ามันน่าสมเพชแต่เธอกลับรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ 'ช่วยไม่ได้' หัวใจของคนเรามักเล่นตลกเสมอในยามที่อ่อนแอและหวั่นไหว อย่าถามว่า 'เพราะอะไร?' เพราะเธอก็หาคำตอบจากมันไม่ได้เหมือนกัน
"เอ้า!กินได้แล้วอย่ามัวแต่นั่งทำหน้าสวยอยู่^^" แรงเคาะเบาๆจากข้อนิ้วของคนที่นั่งข้างๆกันทำเอาหญิงสาวเจ้าของใบหน้าหวานๆเบ้ปากก่อนจะตีแขนคนข้างๆคืนไป ซึ่งก็คงบอกได้แค่ว่าไม่เบานักหรอก-_-
"จะบ้าหรือไง! หน้าแบบนี้ไม่ต้องทำก็สวยเถอะ-_-" เสียงหวานๆที่ตอบกลับทำเอาชายหนุ่มถึงกับหัวเราะออกมาอย่างไม่ปิดบัง ตากลมโตหรี่มองคนข้างตัวก่อนจะหยิบตะเกียบคีบต๊อกโบกกิตรงหน้าเข้าปาก ชายหนุ่มยกยิ้มน้อยๆก่อนจะเอื้อมมือมาขยี้ผมหนาเบาๆแล้วไปสนใจของกินตรงหน้าต่อ หญิงสาวแอบเหลือบตามองคนข้างๆเล็กน้อยก่อนจะแอบอมยิ้มกับตัวเองเบาๆ ไม่ใช่อะไรก็แค่รู้สึกสบายใจที่ได้อยู่กับคนข้างๆ
"อยากกินขนมอะไรต่ออีกไหม 'บอมมี่' ^_^" 'ปาร์คบอม' หรือที่คนสนิทๆเรียกว่าบอมมี่ผงกหัวเป็นเชิงว่ามีของที่อยากทานต่อ
"อยากกินเค้กอ่ะ แต่คงจะซื้อกลับไปกินที่ห้องแหงๆ" ชายหนุ่มพยักหน้ารับก่อนจะแกล้งขยับขารบกวนการกินของคนข้างๆ ซึ่งก็ดูท่าว่าจะได้ผลเพราะขาเรียวสวยที่พ้นออกมาจากกางเกงขาสั้นที่สั้นจริงๆกระแทกกลับมาแรงๆ บอมมี่แอบยู่ปากส่งเสียงอื้ออ้าในลำคอเบาๆเมื่อโดนรบกวนแต่ดูเหมือนคนกวนจะยิ้มร่าหน้าบานที่ทำให้เธออารมณ์เสียได้-_- สุดท้ายแล้วต๊อกโบกกิแค่จานเดียวแต่เล่นนั่งเอาขากระแทกกันจนแสบละนะ
"ร้านไหนละ เค้กที่เธออยากกิน?" ถามหญิงสาวตาโตข้างตัวเบาๆเมื่อเดินออกมาจากร้านแล้ว มืออุ่นๆเอื้อมไปกอบกุมมือเรียวสวยไว้แน่นก่อนที่ขาสองคู่จะพากันก้าวเดินไปตามทาง คราวนี้เป็นหญิงสาวที่เดินนำหน้าเล็กน้อยก่อนจะพาไปร้านเค้กที่เจ้าตัวอยากทาน เห็นยืนเลือกชิ้นที่น่ากินมาประมาณสองชิ้นก่อนจะเดินทำหน้าอารมณ์ดีมาหาเค้าที่ยืนรออยู่
"ป่ะ กลับเถอะ^_^" แต่ยังไม่ทันที่จะเอื้อมมือไปดึงมืออุ่นๆของคนข้างหน้า เสียงเรียกเข้าสำหรับใครคนหนึ่งก็ดังขึ้น เสียงเรียกเข้าเฉพาะสำหรับแค่ 'คนๆนั้น' แค่คนเดียว คนหน้าหวานชะงักกึกอยู่กับที่ก่อนจะเงยหน้ามามองชายหนุ่มที่ยืนรออยู่
"รับเถอะ" เค้าเอ่ยเสียงเรียบก่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่นแทนเพื่อให้เวลากับเธอ
"จียง" เสียงหวานๆที่เรียกแผ่วค่อยทำเอาเจ้าของชื่อใจอ่อนยวบ ก็รู้นะว่าอะไรเป็นอะไรเพราะเค้าเป็นฝ่ายตัดสินใจเองโดยที่ตั้งใจจะยอมรับมัน แต่พอเจอแบบนี้ที่ไรก็พาลให้เกิดอาการแปลกๆทุกที 'ควอนจียง' ปลีกตัวเดินไปอีกมุมที่ไม่ใกล้ไม่ไกลนักเพื่อให้บอมมี่ได้มีโอกาสคุยโทรศัพท์แต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะเดินตามมาห่างๆให้อยู่ในระยะได้ยิน เหมือนต้องการให้เค้า 'รับรู้' ไปด้วยว่าเรื่องที่เธอพูดไม่มีอะไรที่ต้องปิดบัง
"อืม ว่าไง" บทสนทนาเริ่มต้นขึ้นแล้วโดยที่ควอนจียงได้ยินทุกคำพูดแม้จะเป็นแค่ฝั่งของบอมมี่ก็ตาม
"อืม ออกมาหาอะไรกิน"
"ทำไมเหรอมีอะไรหรือเปล่า?"
"ไม่ต้องหรอก อยู่กับจียง" เค้าเหลือบตาไปมองบอมมี่ที่ยืนอยู่ไม่ไกลกันยามได้ยินบทสนทนาที่มีชื่อเค้าเข้าไปเอี่ยวด้วย และเค้าคิดว่าปลายสายอาจเกิดอาการไม่พอใจเล็กน้อยแน่ๆหญิงสาวถึงได้ขมวดคิ้วมุ่นแบบนี้
"ฉันว่าเราเข้าใจตรงกันแล้วนะ นายอย่ามางี่เง่าได้ไหม ทั้งหมดมันไม่ใช่เพราะนายหรือไงกัน!!!!" เสียงหวานๆที่เริ่มหวีดดังขึ้นเล่นเอาจียงต้องเดินไปคว้าโทรศัพท์มาก่อนจะกรอกเสียงลงไปและกดวางสายอย่างเสียมารยาทโดยไม่รอให้ปลายสายได้เอ่ยอะไรซักคำ
"ฉันว่านายวางก่อนเถอะ คุยไปก็ทะเลากันเปล่าๆ" เสร็จแล้วก็จัดแจงปิดเครื่องให้เจ้าตัวทันทีก่อนจะยื่นไปให้ หน้าหวานๆที่เคยยิ้มหัวเราะเมื่อครู่กับหม่นแสงลงเพียงเพราะคนที่โทรเข้ามาแค่คนเดียว
"อย่าคิดมากเลยน่า^^" ก็ไม่ใช่ว่าเค้าจะไม่คิดมาก แต่ดูท่าทางของหญิงสาวแล้วถ้าเค้าไม่พูดอะไรออกไปคงมีอาการบ่อน้ำตาแตกแน่นอน
"เค้าคุยไม่รู้เรื่อง" ปลายเสียงสะบัดน้อยๆบ่งบอกอารมณ์ขุ่นมัวที่เจือเสียงสั่นเครือเพราะความเสียใจ เค้ายกมือขึ้นลูบกลุ่มผมหนาสีเข้มเบาๆก่อนจะดันคนตรงหน้าให้มาซบกับบ่าตัวเอง
"ทั้งๆที่เค้าเป็นคนเริ่มเรื่องทั้งหมดแท้ๆ" บ่นเสียงอู้อี้เบาๆ จียงเพียงแค่ยกยิ้มบางขึ้นมาอย่างเหนื่อยๆ เค้าเหนื่อยจริงๆนั้นแหละกับวังวนที่ไม่รู้จุดจบแห่งนี้ 'ความผูกพัน' ที่ตัดกันไม่ขาดหรือ 'ความรัก' ที่เพิ่งเริ่มก่อตัวขึ้นมา ไม่รู้เหมือนกันว่าอย่างไหนจะมั่นคงกว่ากัน
"โทษเค้าคนเดียวก็ไม่ถูกหรอกบอมมี่ คนเรามันก็ไม่เคยพอทั้งนั้น^^" พูดสอนคนที่ซบบ่าไปด้วยสอนตัวเองไปด้วย ต้องคอยย้ำทุกครั้งที่เริ่มรู้สึกไปไกล
"ทั้งฉัน ทั้งเธอ แล้วก็ 'ท็อป'^_^" ต้องโทษท็อปที่ 'ไม่ใส่ใจ' และละเลยสิ่งสำคัญจนคนๆหนึ่งต้องเจ็บช้ำและผันความสัมพันธ์ที่เคยแน่นแฟ้นเหลือแค่บางเบา ต้องโทษเค้าที่ 'หวั่นไหว' ไปกับความรู้สึกตอนเจอกันครั้งแรกจนกลายเป็นเอาตัวเองไปผูกกับความสัมพันธ์ที่กำลังคลายตัวลงให้ขมวดปมใหม่ขึ้นมา ต้องโทษบอมมี่ที่ 'อ่อนแอ' จนยอมละทิ้งความผูกพันที่เคยมีเพราะความไม่เข้าใจและยอมคว้าเอาความรู้สึกที่ค่อยๆก่อตัวขึ้นมาใหม่แทนความรู้สึกเดิมๆ สุดท้ายแล้วปมเชือกแห่งความสัมพันธ์ที่ยังไม่คลายออกจากกันดีกลับโดนเชือกเส้นใหม่ขมวดพันเข้าไป ก่อให้เกิดความไม่รู้จักจบจักสิ้นในวังวนของ 'ความรัก'
"โทษใครไม่ได้จริงๆ" เสียงหวานๆพึมพำออกมาเหมือนคนหมดแรงจนจียงต้องกดจูบลงไปแผ่วเบาที่เรือนผมนุ่ม เค้ารู้ว่าตอนนี้เธอเจ็บปวดกับเรื่องพวกนี้แค่ไหน เพราะเค้าและท็อปต่างก็รู้สึกมันไม่ต่างจากเธอ และถ้าถามว่าเค้าและเธอเริ่มขึ้นมาเมื่อไหร่?
'จียง วู้วววว~^^' เสียงโหวกเหวกอารมณ์ดีของเพื่อนสนิทชอบปาร์ตี้เล่นเอาชายหนุ่มเจ้าของชื่อจียงถึงกับหัวเราะร่า ก็รู้หรอกนะว่าวันนี้เพื่อนๆนัดสังสรรค์กันเนื่องด้วยโอกาส 'อยากกินขึ้นมาดื้อๆ' เค้าก็ทำได้แค่เลยตามเลยเพราะนานๆได้ออกมาบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เจ้าตัวเดินเข้าไปนั่งลงที่มุมหนึ่งของโต๊ะก่อนจะทักทายคนที่นั่งดื่มกันอยู่ก่อนแล้ว เพราะสนิทกันมากบางทีมารยาทในร้านแบบนี้ก็คงไม่จำเป็น
'เชิญคร๊าบบบบ เครื่องดื่มของคุณควอนจียงงงงง!!!!' เค้าหันไปรับเครื่องดื่มดีกรีหนักมาไว้ในมือก่อนจะพยักหน้ารับเพื่อนสนิทที่เริ่มส่งเสียงอ้อแอ้แข่งกับเสียงเพลงดังๆในคลับแห่งนี้ ความสนุกสนานจากโต๊ะที่เค้ารวมกลุ่มและโต๊ะรอบๆทำให้เค้าอดไม่ได้ที่จะมอง มันไม่ใช่อะไรหรอกก็เค้าก็แค่อยากหาอาหารตาดีๆที่ดูท่าวันนี้จะเยอะเป็นพิเศษ แถมหลายๆคนก็ส่งสายตามาหาเหลือเกินถ้าไม่สนองสักหน่อยก็กลัวว่าพวกเธอจะเสียเซลฟ์เอาได้😏
มือของเค้ากำลังจะยกเครื่องดื่มขึ้นจิบหลังจากกวาดตามองไปรอบๆกลับสะดุดลงจังๆ เมื่อสายตาของตัวเองดันเล่นตลกลากผ่านไปยังหน้าเคาท์เตอร์บาร์อีกฝั่งที่มีหญิงสาวร่างบางกำลังนั่งทอดอารมณ์อยู่คนเดียว ตอนแรกก็คิดแค่ว่า 'ผู้หญิงคนนั้นคิดอะไรถึงมานั่งคนเดียวในที่แบบนี้?' แต่สุดท้ายขาสองข้างก็พาเค้าเดินมาหยุดข้างๆกับเธอ
บอกได้เลยว่าถ้าที่เค้านั่งอยู่ไกลๆอีกฝั่งหนึ่งยังสะดุดตากับเธอขนาดนี้ คงไม่ต้องบอกใช่ไหมว่าพอเข้ามาใกล้ๆแล้วเธอจะดูดีขนาดไหน เธอไม่แม้แต่จะแต่งตัวโชว์หวิวเหมือนสาวๆเกือบทั้งหมดในนี้แต่กลับให้ความรู้สึกเย้ายวนอย่างน่าประหลาด กลิ่นกายหอมๆของเธอยังได้กลิ่นอ่อนๆแม้จะอยู่ในที่ๆเต็มไปด้วยกลิ่นอับของคนในโลกกลางคืน จียงเลือกนั่งเก้าอี้ข้างๆแต่เว้นระยะห่างไว้หนึ่งตัวเพื่อมองท่าทีของเธอ
'จะมานั่งใกล้ๆก็ได้ ฉันไม่กัดหรอก' เสียงหวานๆพูดขึ้นเรียบๆก่อนที่ตามกลมหวานที่แลดูเลื่อนลอยจะจับจ้องอยู่ที่แก้วเครื่องดื่มในมือ เหมือนประโยคเมื่อครู่เป็นแค่คำพูดแสนเลื่อนลอยแต่พอดวงตากลมโตลากกลับมาสบตาเค้าจียงถึงได้ขยับตัวตามคำเชิญของหญิงสาว แต่เพียงแค่ประโยคเดียวนั่นที่เธอพูดกับเค้าเพราะหลังจากนั้นใบหน้าหวานจึงหันกลับไปจ้องแก้วในมือต่อ ซึ่งหลังจากที่สังเกตุดีๆจียงก็เห็นวัตถุบางอย่างจมอยู่ก้นแก้วจากที่ดูแล้วเค้าว่าน่าจะเป็นสร้อย?
'สวยใช่ไหม?' เค้าไม่ได้ตอบคำถามชวนงงนั่นแต่กลับขมวดคิ้วสงสัยส่งไปให้หญิงสาวที่ดูเหม่อลอยอยู่ข้างๆแทน
'สร้อยเส้นนี้เป็นเหมือนความรักของฉัน'
'มันสวยงามแต่เปราะบาง กระตุกเบาๆก็ขาดแล้ว' อ๋อ!สงสัยเธอคงอกหักมั้งแต่สวยแบบนี้เนี้ยนะ?ผู้ชายคนนั้นแมร่งคงบ้าจริงๆแหละทิ้งคนสวยๆแบบนี้ได้
'ถ้าเป็นนายจะทำยังไงระหว่างเก็บไว้หรือขว้างมันทิ้ง' ตอนนี้คนข้างๆหันมาสบตากับเค้าเต็มๆจึงทำให้จียงมีโอกาสสำรวจเธอจริงๆจังๆได้ซักที เสื้อยืดสีขาวซ่อนรูปร่างชวนมองไว้กระทบกับแสงไฟจนทำให้เปลี่ยนเป็นสีม่วง กางเกงขาสั้นทำให้ขาเรียวขาวโผล่พ้นออกมาจนต้องเหลือบมอง หน้ารูปไข่ประดับด้วยคิ้วได้รูปกับตากลมโตใต้แพขนตาหนาๆ จมูกรั้นๆกับแก้มสีสวยและริมฝีปากอิ่มเย้ายวนนั้นทำเอาคนมองใจเต้นผิดจังหวะ
'แล้วถ้าสร้อยเส้นนั้นมันอยู่กับนายมาเกือบเจ็ดปี นายยังจะเก็บไว้หรือขว้างมันทิ้ง' จียงไม่ตอบเพียงแต่เอื้อมมือไปหยิบแก้วมาแทน เค้าเพียงแค่มองมันและหันมายกยิ้มให้เธอน้อยๆก่อนจะขยับมือที่ถือแก้วและปล่อยมันลงตามแรงโน้มถ่วงจนมันกระแทกพื้นแตกออกเป็นเสี่ยงๆ หญิงสาวไม่ได้มีท่าทีตกใจอะไรเพราะเธอทำแค่มองตามมันแค่นั้น
'ถ้าสร้อยเส้นนั้นเหมือนความรักของเธอ แก้วใบนั้นคงเป็นความรู้สึกที่เธอมีให้เค้า'
'และเป็นเพราะเธอมาเจอกับฉัน ฉันจะทำให้ความรู้สึกที่เธอมีต่อเค้าแหลกสลายและคว้ามือเธอมากุมไว้เอง' ไม่รู้ว่าการพูดคุยครั้งนี้เริ่มมาจากอะไรแต่พอคุยกับเธอแล้วจียงก็อยากจะทำแบบนั้นจริงๆ อยากจะขยี้ความรู้สึกผูกพันนั้นและเอื้อมมือไปคว้าเธอไว้แทน มือเรียวสวยยกขึ้นมาก่อนจะเริ่มทุบไปที่อกตัวเองเบาๆตอนแรกเค้าก็ตกใจคิดว่าเธอจะเป็นอะไรแต่พอเริ่มได้ยินเสียงพูดที่สั่นเครือเจือเสียงสะอื้นนั้นแหละถึงได้รู้.......เธอกำลังร้องไห้
'จ เจ็บ....เจ็บจนจะตายอยู่แล้ว' สุดท้ายแล้วเค้าถึงได้ดึงตัวผู้หญิงแปลกประหลาดตรงหน้ามากอดปลอบเบาๆอยู่แบบนั้น
นั้นคือจุดเริ่มต้นของเค้ากับเธอที่เกิดขึ้นโดยที่เธอยังไม่ได้ตัดขาดจากผู้ชายคนนั้นโดยเด็ดขาด 'ท็อป' คือผู้ชายที่บอมมี่ 'เคยรัก' ใช่แล้วเค้าคือคนที่เธอเคยรักแสดงว่าเธอหมดรักเค้าแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะหมดความรู้สึก 'ผูกพัน' ลงไปด้วย ความรู้สึกเกือบเจ็ดปีที่ผ่านมาทำให้เธอตัดเค้าไม่ขาด และจียงก็ยังเลือกที่จะอยู่กับเธอโดยไม่มีข้อแม้ สำหรับเค้าแล้วบอมมี่บอกว่าเค้าคือคนที่เธอ 'ไม่ได้ผูกพัน' เพราะเพิ่งรู้จักกันแค่ไม่เท่าไหร่ แต่เค้าคือคนที่บอมมี่ 'เริ่มรัก' เธอถึงไม่ยอมปล่อยมือเค้าเหมือนที่เค้ายังคงดึงดันจะกุมมือเธอไว้แน่นเช่นเดียวกับท็อปชายหนุ่มอีกคนที่เธอกำลังจะปล่อยมือแต่เค้ากลับเลือกกุมมือเธอไว้เช่นกัน ทั้งๆที่เมื่อก่อนตัวเองสะบัดมือเรียวสวยคู่นี้ทิ้งไปเองแท้ๆ
"กลับเถอะ^^" เค้าเลือกตัดบรรยากาศกดดันชวนทำให้หัวใจปวดหนึบไป ก่อนจะจับมือบอมมี่เดินไปส่งที่คอนโดที่คาดว่าตอนนี้คงจะมีคนๆนั้นที่กำลังรออยู่ ดึงดันทั้งๆที่มันอาจจะไม่มีประโยชน์อะไร
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น