ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : การแต่งงานที่ไม่เป็นจริง(1)
Boy's side
....ผมรู้สึกว่าตัวเองจะติดกับดักคำพูดของตัวเองซะแล้ว..
"ใครล่ะหือ.. แฟนของลูกที่ว่าจะแต่งงานด้วยน่ะ"เสียงที่บ่งบอกถึงความรู้สึกตื่นเต้นและดีใจของคู่สามีภรรยาดู่หนึ่งดังออกมาจากห้องนั่งเล่นในร้านของคุณลุงที่ผมค่อนข้างชอบมาแวะกินอาหารที่นี่ เพราะวันนี้หลานสาวเขามาและยังมีเรื่องไม่คาดฝันอีกว่า... แฟนหนุ่มของหล่อนดันมาทิ้งซะดื้อๆในวันนี้
"เอ่อ..คือว่า พ่อคะ แม่คะ..คือ"เสียงหวานใสของเธอคนนั้นพูดอึกอัก นั่นทำให้ผมรู้เลยว่า คงจะลำบากใจสินะ กลัวว่าถ้าพูดไปพ่อกับแม่คงต้องเสียใจแน่ๆ
"ครับ ผมขอโทษที่มาสายนะชิกิ พอดีติดธุระนิดหน่อยน่ะ และก็สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ของชิกิ"..นี่ผมพูด อ้อ ไม่ต้องแปลกใจหรอกเพราะผมเป็นผู้ดำเนินรายการหนึ่งที่ดังอยู่ และเขาอยากให้ผมเขียนสคริปเกี่ยวกับชีวิตที่มีความสุขซะด้วย ผมก็เลยแค่ถือโอกาสนี้ในการหาไอเดียเขียนมันซะเลย
"เธอ..เธอคือ เซน พิธีกรรายการนั้นนี่นา แหมจริงหรอเนี่ย"
"ครับ"
"งั้นหรอ... ทีนี้พวกเราก็หมดห่วงพอดี ฝากดูแลเขาด้วยล่ะ และถ้าทำให้เขาร้องไห้ล่ะก็พวกเราไม่ยกโทษให้แน่"
ตั้งแต่วันนั้น..ผมก็ได้ใช้ชีวิตอยู่กับเธอในฐานะสามีภรรยากำมะลอ...
"เธอนี่นะ ไม่เห็นต้องรอเลยนี่นา"
"ไม่เห็นเป็นไรนี่ นายจะได้มีไอเดียด้วย.."
ผมไม่รู้หรอกว่าความจริงแล้วเธอรู้สึกยังไง เพราะทุกครั้งที่เธออยู่ต่อหน้าผม เธอมักจะยิ้มให้ผมเสมอ แม้ว่าผมจะพูดอะไรที่ต้องทำให้เธอรู้สึกแย่ก็ตาม...
"พอเขียนจบฉันกับฮันนี่ก็จะได้กลับไปเป็นเหมือนเดิมไง ดีมั๊ยล่ะ"
"อะ...อื้ม ฉันจะได้อยู่แบบสงบซักที"
แต่ทำไมกันนะ..ผมถึงรู้สึกว่าไม่อยากให้สคริปครั้งนี้จบไปเลย...อยากให้มันนาน..นานทำไมกันนะ
"ฮันนี่ ต่อจากนี้ไม่ต้องมาที่กองถ่ายอีกแล้วนะ"
ตอนนั้นผมพูดไปเพราะหึงและหวงเธอหลังจากที่เห็นเธอโดยเจ้าบ้าผู้กำกับนั่นลวนลามออกนอกหน้าเลยเผลอพูดไป แวบนึง..ผมเห็นเธอทำหน้าเศร้า..นั่นทำให้ผมใจหายและคิดว่า...นี่เราทำให้เธอทำหน้าแบบนี้มากี่ครั้งแล้วล่ะ..
"เดี๋ยวฉันจะไปคอยพาพวกเธอเดทละกัน..นี่นะต้องไปที่หรูๆ กินอาหารกลางเเสงเทียนด้วยกันจะได้เป็นเดทที่ดีไง..ใช่มั๊ย"
เธอคนนี้เป็นคู่พิธีกรกับผมแต่ส่วนตัวผมแค่พูดเล่นๆไปงั้นแหละ แต่เจ้าตัวดันคิดไปเองว่าผมชอบเธอ และผมเองก็รู้เหมือนกันว่าเธอเองก็ชอบผม...
"ก็ดีนะว่าไงบ้างล่ะ ฮันนี่" ผมว่าแล้วรอดูว่าเธอจะต่อยังไง..
"ไม่ล่ะ พวกเราน่ะอยากไปซื้อของด้วยกัน คุยกัน และกลับไปกินข้าวบ้านด้วยกัน แบบที่คนที่มีคู่แล้วเขาทำกัน ถึงมันจะดูโลโซไปหน่อยก็เถอะ..แต่ฉันอยากเดทแบบนี้"
ผิดคาด...คำตอบนั่นเล่นทำให้ผมสับสนกับความรู้สึกตัวเองนิดๆ อื้มผมว่าผมคงเป็นฝ่ายที่ตกหลุมรักเธอซะแล้วสิ
"ขอโทษทีนะ แต่ฉันอยากไปเดทแบบที่สองมากกว่าเนอะฮันนี่ งั้นไปกันเถอะ"
"แต่..มากับฉันน่ะดีหรอ ทางนู้นฟังดูน่าไปมากกว่าอีกนะ"
"ก็นะฉันเองก็เริ่มเบื่อสถานที่แบบนั้นแล้ว ไปกับฮันนี่นี่แหละดีที่สุดล่ะ"
ผมพูดจากใจจริงเลย ใช่ผมเบื่อสถานที่แบบนั้นเต็มทนละ ความจริงผมชอบแบบที่เธอบอกมากกว่าของเธอคนนั้นซะอีก แต่แล้วผมดันเผลอทำให้เธอต้องร้องไห้ซะได้
"นี่..ชิกิ ฉันน่ะรักเธอนะ เธอไม่อยากให้ความสัมพันธ์นี่เป็นจริงหรอ"
ผมยอมรับว่าที่ผมพูดไปนั้นมันเป็นอารมณ์ที่แท้จริงและผมต้องการแบบนั้นจริงๆ
"....มันจะเป็นได้จริงๆน่ะหรอ..นายแค่ต้องการทำบทพูดไม่ใช่หรอ"
ผมรู้ว่าเธอกำลังตัดความหวังตัวเองอยู่ ผมเองก็ดันมีทิฐิอยู่เหมือนกัน....
"ล้อเล่นน่า ฮันนี่คิดว่าเป็นเรื่องจริงหรอ ฉันแค่พูดลอยๆเท่านั้น ใช่อยากที่เธอบอกฉันแค่เอาเรื่องแบบนี้ไปเป็นไอเดียเขียนนั่นล่ะ พอเสร็จแล้วพวกเราก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม"
"...ทุกที..เพราะนางชอบล้อเล่น นายชอบทำให้คนอื่นเขาคิดว่า นายรัก แต่ความจริงมันไม่ใช่..นายน่ะแค่สนุกที่ได้เล่นความรู้สึกคนอื่นรวมถึงฉันด้วย.. เพราะอย่างนี้ไงฉันถึงไม่กล้าแสดงสิ่งที่ฉันเก็บให้นายดู และไม่กล้าที่จะเชื่อใจ"
ผมน่ะไม่รู้ว่าประดยคที่ผมพูดมันจะทำให้เธอเจ็ยขนาดนี้... และร้องให้ออกมาเพราะผมขนาดนี้..
"อย่าร้องนะ.."
ผมดึงตัวเธอมากอดและเอามือลูบหัวของเธออย่างแผ่วเบา... ก่อนจะพละออกจากอ้อมกอดผม ก่อนจะเช็ดนำตาและมองผมด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มประดับอย่างเช่นเคย
"ไม่ได้ร้องซะหน่อย...แค่คิดว่าถ้านี่พอจะเป็นไอเดียนายเขียนต่อได้ฉันก็โอเค เพราะงั้นไปนอนเถอะนะ นายเองก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้วด้วย "
ผมอยากรู่เหลือเกินว่าตอนนี้ความรู้สึกของเธอเจ็บไหมนะ ผมที่พูดออกไปแบบนั้นเธอยังจะยิ้มให้และบอกผมด้วยประโยคที่เป็นห่วงในทุกครั้งที่ผมมีปัญหาอีกหรอ นี่..ทำให้ผมเห็นทีสิ ผมน่ะอยากเข้าไปกอดร่างบางที่ชอบเก็บความรู้สึกที่หนักอิ้งนั้นเหลือเกิน อยากบอกเธอเหลือเกินว่าผมไม่ได้ตั้งใจที่จะพูด..ผมอยากบอกเธอเหลือเกินว่าผมน่ะ... รักเธอเข้าให้ซะแล้ว.. แต่ผมจะยังสามารถแสดงความรู้สึกนี่ไปถึงเธอได้มั๊ยนะ..
.................................................................................................................................................................................
จบไปแล้ววว ว่าแต่เป็นยังไงบ้างเอ่ย?? ความรู้สึกของชายผู้นี้คงจะสื่อถึงใจของทุกท่านนะ..
พาร์ทหญิงไว้ครั้งหน้านะครับ
....ผมรู้สึกว่าตัวเองจะติดกับดักคำพูดของตัวเองซะแล้ว..
"ใครล่ะหือ.. แฟนของลูกที่ว่าจะแต่งงานด้วยน่ะ"เสียงที่บ่งบอกถึงความรู้สึกตื่นเต้นและดีใจของคู่สามีภรรยาดู่หนึ่งดังออกมาจากห้องนั่งเล่นในร้านของคุณลุงที่ผมค่อนข้างชอบมาแวะกินอาหารที่นี่ เพราะวันนี้หลานสาวเขามาและยังมีเรื่องไม่คาดฝันอีกว่า... แฟนหนุ่มของหล่อนดันมาทิ้งซะดื้อๆในวันนี้
"เอ่อ..คือว่า พ่อคะ แม่คะ..คือ"เสียงหวานใสของเธอคนนั้นพูดอึกอัก นั่นทำให้ผมรู้เลยว่า คงจะลำบากใจสินะ กลัวว่าถ้าพูดไปพ่อกับแม่คงต้องเสียใจแน่ๆ
"ครับ ผมขอโทษที่มาสายนะชิกิ พอดีติดธุระนิดหน่อยน่ะ และก็สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ของชิกิ"..นี่ผมพูด อ้อ ไม่ต้องแปลกใจหรอกเพราะผมเป็นผู้ดำเนินรายการหนึ่งที่ดังอยู่ และเขาอยากให้ผมเขียนสคริปเกี่ยวกับชีวิตที่มีความสุขซะด้วย ผมก็เลยแค่ถือโอกาสนี้ในการหาไอเดียเขียนมันซะเลย
"เธอ..เธอคือ เซน พิธีกรรายการนั้นนี่นา แหมจริงหรอเนี่ย"
"ครับ"
"งั้นหรอ... ทีนี้พวกเราก็หมดห่วงพอดี ฝากดูแลเขาด้วยล่ะ และถ้าทำให้เขาร้องไห้ล่ะก็พวกเราไม่ยกโทษให้แน่"
ตั้งแต่วันนั้น..ผมก็ได้ใช้ชีวิตอยู่กับเธอในฐานะสามีภรรยากำมะลอ...
"เธอนี่นะ ไม่เห็นต้องรอเลยนี่นา"
"ไม่เห็นเป็นไรนี่ นายจะได้มีไอเดียด้วย.."
ผมไม่รู้หรอกว่าความจริงแล้วเธอรู้สึกยังไง เพราะทุกครั้งที่เธออยู่ต่อหน้าผม เธอมักจะยิ้มให้ผมเสมอ แม้ว่าผมจะพูดอะไรที่ต้องทำให้เธอรู้สึกแย่ก็ตาม...
"พอเขียนจบฉันกับฮันนี่ก็จะได้กลับไปเป็นเหมือนเดิมไง ดีมั๊ยล่ะ"
"อะ...อื้ม ฉันจะได้อยู่แบบสงบซักที"
แต่ทำไมกันนะ..ผมถึงรู้สึกว่าไม่อยากให้สคริปครั้งนี้จบไปเลย...อยากให้มันนาน..นานทำไมกันนะ
"ฮันนี่ ต่อจากนี้ไม่ต้องมาที่กองถ่ายอีกแล้วนะ"
ตอนนั้นผมพูดไปเพราะหึงและหวงเธอหลังจากที่เห็นเธอโดยเจ้าบ้าผู้กำกับนั่นลวนลามออกนอกหน้าเลยเผลอพูดไป แวบนึง..ผมเห็นเธอทำหน้าเศร้า..นั่นทำให้ผมใจหายและคิดว่า...นี่เราทำให้เธอทำหน้าแบบนี้มากี่ครั้งแล้วล่ะ..
"เดี๋ยวฉันจะไปคอยพาพวกเธอเดทละกัน..นี่นะต้องไปที่หรูๆ กินอาหารกลางเเสงเทียนด้วยกันจะได้เป็นเดทที่ดีไง..ใช่มั๊ย"
เธอคนนี้เป็นคู่พิธีกรกับผมแต่ส่วนตัวผมแค่พูดเล่นๆไปงั้นแหละ แต่เจ้าตัวดันคิดไปเองว่าผมชอบเธอ และผมเองก็รู้เหมือนกันว่าเธอเองก็ชอบผม...
"ก็ดีนะว่าไงบ้างล่ะ ฮันนี่" ผมว่าแล้วรอดูว่าเธอจะต่อยังไง..
"ไม่ล่ะ พวกเราน่ะอยากไปซื้อของด้วยกัน คุยกัน และกลับไปกินข้าวบ้านด้วยกัน แบบที่คนที่มีคู่แล้วเขาทำกัน ถึงมันจะดูโลโซไปหน่อยก็เถอะ..แต่ฉันอยากเดทแบบนี้"
ผิดคาด...คำตอบนั่นเล่นทำให้ผมสับสนกับความรู้สึกตัวเองนิดๆ อื้มผมว่าผมคงเป็นฝ่ายที่ตกหลุมรักเธอซะแล้วสิ
"ขอโทษทีนะ แต่ฉันอยากไปเดทแบบที่สองมากกว่าเนอะฮันนี่ งั้นไปกันเถอะ"
"แต่..มากับฉันน่ะดีหรอ ทางนู้นฟังดูน่าไปมากกว่าอีกนะ"
"ก็นะฉันเองก็เริ่มเบื่อสถานที่แบบนั้นแล้ว ไปกับฮันนี่นี่แหละดีที่สุดล่ะ"
ผมพูดจากใจจริงเลย ใช่ผมเบื่อสถานที่แบบนั้นเต็มทนละ ความจริงผมชอบแบบที่เธอบอกมากกว่าของเธอคนนั้นซะอีก แต่แล้วผมดันเผลอทำให้เธอต้องร้องไห้ซะได้
"นี่..ชิกิ ฉันน่ะรักเธอนะ เธอไม่อยากให้ความสัมพันธ์นี่เป็นจริงหรอ"
ผมยอมรับว่าที่ผมพูดไปนั้นมันเป็นอารมณ์ที่แท้จริงและผมต้องการแบบนั้นจริงๆ
"....มันจะเป็นได้จริงๆน่ะหรอ..นายแค่ต้องการทำบทพูดไม่ใช่หรอ"
ผมรู้ว่าเธอกำลังตัดความหวังตัวเองอยู่ ผมเองก็ดันมีทิฐิอยู่เหมือนกัน....
"ล้อเล่นน่า ฮันนี่คิดว่าเป็นเรื่องจริงหรอ ฉันแค่พูดลอยๆเท่านั้น ใช่อยากที่เธอบอกฉันแค่เอาเรื่องแบบนี้ไปเป็นไอเดียเขียนนั่นล่ะ พอเสร็จแล้วพวกเราก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม"
"...ทุกที..เพราะนางชอบล้อเล่น นายชอบทำให้คนอื่นเขาคิดว่า นายรัก แต่ความจริงมันไม่ใช่..นายน่ะแค่สนุกที่ได้เล่นความรู้สึกคนอื่นรวมถึงฉันด้วย.. เพราะอย่างนี้ไงฉันถึงไม่กล้าแสดงสิ่งที่ฉันเก็บให้นายดู และไม่กล้าที่จะเชื่อใจ"
ผมน่ะไม่รู้ว่าประดยคที่ผมพูดมันจะทำให้เธอเจ็ยขนาดนี้... และร้องให้ออกมาเพราะผมขนาดนี้..
"อย่าร้องนะ.."
ผมดึงตัวเธอมากอดและเอามือลูบหัวของเธออย่างแผ่วเบา... ก่อนจะพละออกจากอ้อมกอดผม ก่อนจะเช็ดนำตาและมองผมด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มประดับอย่างเช่นเคย
"ไม่ได้ร้องซะหน่อย...แค่คิดว่าถ้านี่พอจะเป็นไอเดียนายเขียนต่อได้ฉันก็โอเค เพราะงั้นไปนอนเถอะนะ นายเองก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้วด้วย "
ผมอยากรู่เหลือเกินว่าตอนนี้ความรู้สึกของเธอเจ็บไหมนะ ผมที่พูดออกไปแบบนั้นเธอยังจะยิ้มให้และบอกผมด้วยประโยคที่เป็นห่วงในทุกครั้งที่ผมมีปัญหาอีกหรอ นี่..ทำให้ผมเห็นทีสิ ผมน่ะอยากเข้าไปกอดร่างบางที่ชอบเก็บความรู้สึกที่หนักอิ้งนั้นเหลือเกิน อยากบอกเธอเหลือเกินว่าผมไม่ได้ตั้งใจที่จะพูด..ผมอยากบอกเธอเหลือเกินว่าผมน่ะ... รักเธอเข้าให้ซะแล้ว.. แต่ผมจะยังสามารถแสดงความรู้สึกนี่ไปถึงเธอได้มั๊ยนะ..
.................................................................................................................................................................................
จบไปแล้ววว ว่าแต่เป็นยังไงบ้างเอ่ย?? ความรู้สึกของชายผู้นี้คงจะสื่อถึงใจของทุกท่านนะ..
พาร์ทหญิงไว้ครั้งหน้านะครับ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น