คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #33 : บทที่ 26
หลังจากที่คุโรยูกิได้เอ่ยคำพูดที่ทำให้ทั่วทั้งห้องโถงต้องหยุดเสียงลง
เธอหันไปมองที่ใบหน้าของไลลาที่ซีดเผือดส่วนอดีตชายหนุ่มที่เธอเคยหลงรักเมื่อสมัยเด็กก็มีสีหน้าตกใจและไม่อยากจะเชื่อ
“หึ...”
ยูกิแค่นหัวเราะออกมาอย่างสมเพชในตัวของไลลาที่หลังจากที่เข้าไปเกาะกียุลได้อีกครั้งก็ทำตัวเหมือนกับตัวเองคุมเกมไว้ทั้งหมดแล้ว
ทั้งๆที่ความจริงที่ว่าตัวเองมีดีแค่เสแสร้งและใช้ร่างกายเท่านั้น....ยูกิยกยิ้มออกมาบางๆเมื่อเห็นท่าทางแบบนั้น ซึ่งมันไม่ใช่รอยยิ้มตามปกติ
ไม่ใช่รอยยิ้มที่อบอุ่นหรือว่าเย็นชา
มันเป็นรอยยิ้มที่ให้ความรู้สึกคล้ายถูกเหยียดหยามยามมองดู
คล้ายกับว่าตัวเองนั้นเป็นเพียงแมลงตัวเล็กๆที่ฆ่าทิ้งได้ง่ายๆยังไงอย่างงั้น
มันเป็นความรู้สึกที่เย็นยะเยือกจนไม่กล้าขยับตัวไปไหนเลย...
หญิงสาวเบนสายตามองไปยังผอ.ที่ทำหน้าที่เป็นพิธีกรก่อนจะส่ายหัวไปมาอย่างเหนื่อยหน่ายใจกับท่าทีที่ดูระริกระรี้ไม่เข้ากับสถานการณ์ในตอนนี้ก่อนจะส่งสายตาไปหาครูมารีที่ทำสีหน้าแบบเดียวกับตัวเอง
แถมยังส่งสายตาดุๆบอกเป็นเชิงว่าให้จัดการให้เรียบร้อยซะให้เธออีก...
“อันดับแรกที่จะประกาศคือพวกเราจะมาแลกเปลี่ยนกับโรงเรียนนี้เป็นเวลาหนึ่งปีและพวกเราจะมีงานแข่งขันในด้านต่างๆระหว่างทั้งสองโรงเรียน
ทุกๆวิชาที่พวกเธอทั้งหมดได้เรียนคือวิชาที่จะใช้แข่งขันกับโรงเรียนของพวกเราทั้งหมด
ถ้าหากโรงเรียนของพวกคุณชนะ
รางวัลก็จะเป็นการขออะไรก็ได้จากโรงเรียนของพวกเราและหากพวกเราชนะก็จะขออะไรจากโรงเรียนพวกคุณได้เช่นกัน”
หญิงสาวมองไปที่นักเรียนในโถงก่อนจะพยักหน้าอย่างพึงพอใจกับท่าทางสงบเสงี่ยมเช่นนั้นแล้วพูดต่อโดยไม่สนใจว่าสิ่งที่ตัวเองจะพูดต่อไปนี้มันจะเลวร้ายยังไง
“จำนวนนักเรียนที่จะต้องแข่งขันในรอบหลักจะมีอยู่ด้วยกัน15คน
ซึ่งคนพวกนั้นจะต้องไปแลกเปลี่ยนกับโรงเรียนของพวกเราที่อิตาลี
แต่ที่นั่นพวกเราจะให้เพียงไปเรียนร่วมกันเท่านั้น
หลังจากจบการแลกเปลี่ยนนักเรียนจากลาฟลอร่าที่ได้รวมกับโนอาห์บางส่วนก็จะถูกพาไปยังเกาะส่วนตัวที่โรงเรียนของพวกเราร่วมกับนักเรียนจากวองโกเล่เพื่อแข่งขันกัน”
แม้หลายๆคนจะโห่ร้องออกมาอย่างไม่พอใจแต่ยูกิก็ไม่คิดจะสนใจ
เธอยังคงรักษาท่าทีอันนิ่งสงบไว้ได้และยังกล่าวต่อไปโดยไม่คิดจะมองไปยังไลลา
ลิเลีย คริสโตเฟอร์หรือแม้กระทั่ง...กียุล
ยูกิรู้ตัวดีว่ากียุลไม่ผิดและไม่สมควรที่จะโกรธหรือว่าเย็นชาใส่
แต่เพราะโรงเรียนแห่งนี้เต็มไปด้วยความทรงจำมากมายที่มีทั้งทุกข์และสุข
เรื่องราวต่างๆมากมายที่พบเจอในสมัยเด็กที่สนุกสนานแตกต่างจากช่วงเวลาอันเลวร้ายในปัจจุบัน
เธอเกลียดไลลา เกลียดลิเลียและโกรธคริสโตเฟอร์
แต่สำหรับกียุลแล้วไม่ว่าจะผ่านไปนานขนาดไหนความรู้สึกผิดหวังก็ไม่เคยเลือนหายไปเลย
เพราะเขาเป็นคนที่เธอเคยแอบชอบเหรอ? ไม่เลย... ไม่ใช่เลย สำหรับ'ทิวา'แล้ว กียุลคือเพื่อนคนหนึ่งที่เข้าใจเธอมาตลอด
เชื่อในตัวเธอยิ่งกว่าใครๆ เป็นคนที่'ทิวา'เคยคิดว่าจะไม่มีวันทรยศเธอ
แต่ก็แค่เคยนั่นล่ะนะ...
“อ่อ! แล้วก็อย่างที่ทุกคนน่าจะทราบกันดีว่าทุกครั้งที่เรือโนอาห์เข้ามาเทียบท่าจะมีการจัดงานเต้นรำกระชับมิตรขึ้น แม้ว่านี่จะเป็นการรวมโรงเรียนเข้าด้วยกันแต่ก็จะยังมีงานเต้นรำอยู่ดี
เพียงแต่งานจะจัดขึ้นก่อนที่จะจบการแลกเปลี่ยนของนักเรียนจากวองโกเล่เพื่อเป็นการอำลา”
ฉันมองผอ.ที่รับไมค์ไปพูดก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้จึงเข้าไปกระซิบบอกก่อนจะได้รับการพยักหน้าเป็นเชิงว่าเข้าใจแล้วจากทางผอ.
ถึงความจริงจะไม่ค่อยมั่นใจว่าผอ.เข้าใจจริงๆรึเปล่าก็เถอะ...
“ดูเหมือนพวกวองโกเล่จะเปลี่ยนกำหนดการแล้วเพราะธุระส่วนตัวกัน พวกเขาจะอยู่ที่นี่จนถึงภาคเรียนที่หนึ่งและพวกเราจะเลือกตัวแทนไปแข่งขันและแลกเปลี่ยนไปอยู่ที่นั่นอีกหนึ่งภาคเรียนกันแทน”
เสียงตอบรับที่ได้จากพวกนักเรียนทำให้ผอ.ยิ้มออกมาเพราะพอจะเข้าใจความรู้สึกที่เหมือนได้ถูกปลดปล่อยจากนรกที่เรียกว่าการฝึกอันยาวนาน เพราะพวกเขาต้องทนฝึกอีกแค่สามเดือนเพราะถูกลดไปราวสี่เดือนจากทั้งหมดแปดเดือนได้(พอดีว่าเราไม่รู้ว่าลาฟลอร่ามีวันหยุดยังไงเลยเอาให้คล้ายๆกับของไทยดู//ไรต์)
คุโรยูกิมองดูท่าทางร่าเริงของแต่ละคนที่อยู่ในห้องโถงก็ได้แต่หัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะเหลือบไปเห็นท่าทางของพวกเพื่อนๆที่มีท่าทางดูเบื่อๆกันไม่ใช่น้อยๆหลังได้รู้ว่าความสนุกและความสะใจที่จะได้เห็นท่าทางของไลลากับลิเลียมีสภาพอนาถหายไปเร็วขนาดนี้
พอเห็นท่าทางแบบนั้นก็เลยยกยิ้มออกมาบางๆก่อนที่ผอ.จะบอกให้สมาชิกสภานักเรียนที่ใจเย็นที่สุดในตอนนี้อย่างโรซารี่พาไปห้องพักและให้ประธานและรองประธานนักเรียนอย่างไลลาและลิเลียนำทางพวกนักเรียนโนอาห์ไป
ถึงจะดูประหลาดและเสียมารยาทไปบ้างที่ไม่ให้ประธานนักเรียนนำทางนักเรียนแลกเปลี่ยนแต่ให้สมาชิกไปแทนแต่เพราะผอ.ไนติงเกลสั่งเลยไม่มีใครคิดอะไรมาก
เพราะรู้เรื่องนิสัยของไลลากับลิเลียที่ทำกับพวกนักเรียนแลกเปลี่ยนก่อนหน้านั้นและเรื่องเก่าๆเกี่ยวกับทิวาจึงไม่คิดว่ามันไม่เหมาะสมอะไร
ออกจะดีด้วยซ้ำที่ไม่ให้สองคนนั้นทำหน้าที่นี้
“ห้องพักของพวกเธอจะอยู่ในหอเดียวกับพวกผู้ชายแต่ผู้หญิงจะอยู่ที่ชั้นสามกับสี่
ในห้องจะมีห้องน้ำกับห้องนอน ถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศก็สามารถไปอาบน้ำตรงนู้นก็ได้ ถึงจะไกลไปซักหน่อยแต่มันเป็นบ่อน้ำพุร้อน
ถ้าจ่ายเงินเพิ่มก็ไปพักที่เรียวกังแบบญี่ปุ่นตรงนั้นก็ได้ หรือจะไปรีสอร์ทริมทะเลหรือโรงแรมก็มี ถ้าอยากอยู่ยาวๆก็ต้องจ่ายแพงหน่อย
แต่ถ้าจะไปก็มาบอกสภาก่อนนะ”
โรซารี่อธิบายพร้อมกับชี้ไปที่ภูเขาใกล้ๆแล้วก็บังกะโล
ริมทะเลที่ข้างหลังเป็นต้นไม้ร่มรื่นมีความเป็นส่วนตัว พวกผู้หญิงที่ได้ฟังก็พยักหน้าเข้าใจแต่ก็อดคิดแบบเดียวกันไม่ได้ว่าทำไมโรงเรียนมันเหมือนกับแหล่งท่องเที่ยวที่มีครบทุกอย่างจัง?
ขนาดยูกิที่เคยเรียนยังอดแปลกใจไม่ได้ที่โรงเรียนดูต่างจากเดิมไปมากโขเพราะเท่าที่ดูๆมามันมีร้านค้าทุกประเภท
มีที่พักทุกรูปแบบ ถ้าบอกว่าเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่กลางแหล่งท่องเที่ยวแบบปิดแทนโรงเรียนที่มีพื้นที่ทั้งหมดบนเกาะก็ไม่มีใครคิดว่าแปลกเลยด้วยซ้ำ
ก็ดูสิ... ขนาดพวกผับ บาร์หรือแม้กระทั่งสถานที่เริงรมณ์ต่างๆที่ไม่เหมาะกับนักเรียนยังมาเปิดเลย
ถึงจะรู้มาบ้างว่าพวกนี้มันต่างจากเดิมมากโขแต่ใครจะไปคิดล่ะว่าจะมีพวกนี้อยู่!
“คงจะตกใจกับความเปลี่ยนแปลงของโรงเรียนล่ะสิยูกิ พวกนี้ทั้งหมดไลลากับลิเลียเป็นคนทำเองล่ะ
ตอนแรกๆก็มีแค่พวกร้านค้าธรรมดานั่นล่ะ
พอมันเริ่มพัฒนาไปเรื่อยๆก็กลายมาเป็นพวกโรงแรมและก็รีสอร์ทพวกนั้น
ตอนแรกๆก็เห็นดีเห็นงามกันไม่เว้นแม้แต่ผอ.หรอกนะ แต่พอรู้ตัวอีกทีร้านพวกนั้นก็โผล่ออกมาจนต้องออกกฏเพิ่มเพราะทุบทิ้งไม่ได้ไปแล้วนี่สิ....”
โรซารี่มองไปทางจุดที่ยูกิมองก่อนจะบอกด้วยสายตาเลื่อนลอย ถึงโรซารี่จะไม่บอกอะไรเพิ่มเติมแต่พวกที่อยู่ในโลกมืดอย่างพวกเธอได้ฟังก็พอจะรู้อยู่ว่าหมายความว่ายังไงกัน
แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองพวกหนุ่มๆที่เดินอยู่ด้วยกันพร้อมหรี่ตามองอย่างจับผิดกัน
ร้อนถึงพวกหนุ่มๆที่เห็นสายตาแบบนั้นจากหญิงสาวทั้งสามคน(อย่างเคียวโกะ
ฮารุและโคลม)ก็รีบเข้าไปแก้ความเข้าใจผิดกันทันที
จนได้รับคำยืนยันจากยูริที่เดินมาหาอย่างถูงเวลาพอดีนั่นล่ะถึงได้ยอมเชื่อกันได้
ส่วนยูกิ ยูอิและเดลก็ไม่ได้มองคนรักด้วยสายตาจับผิดอะไร
อย่างยูกิก็เพราะยังไงๆก็แต่งงานจนมีลูกไปแล้วแถมนิสัยของสามีคนนี้เธอก็รู้ดี จะให้มัวแต่จ้องจับผิดแบบพวกเพื่อนๆก็คงไม่มีทาง อีกอย่างถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นจริงก็ยังมียูคุงกับมิจังอยู่อีก
ไว้หอบทั้งคู่ไปหาคุณพ่อคุณแม่ที่ไทยก็ยังได้ ส่วนยูอิกับเดลก็เป็นเพราะเจ้าตัวไม่คิดเรื่องพวกนี้อยู่ในหัวกับเลยแม้แต่น้อย
อีกอย่างทั้งคู่ก็ดูจะนึกภาพกันไม่ออกเลยจริงๆว่าพวกหนุ่มๆจะกล้านอกใจกันได้ยังไง
ก็ลองดูพ่อของสองคนนี้ดูสิ
แล้วจะเห็นเลยว่ามันเป็นเพราะอะไร...
“งั้นถ้ามีอะไรก็บอกชั้นได้เลยนะ”
โรซารี่พูดก่อนจะเดินกลับไปหลังทำหน้าที่เสร็จ พวกยูกิมองโรซารี่ที่เดินกลับไปก่อนจะเดินเข้าห้องตามหมายเลขกุญแจที่หญิงสาวผมฟ้าไฮไลท์เหลืองให้มาเพื่อจัดของให้เรียบร้อย
“หลีกไป”
คุโรยูกิปรายตามองคนสองคนที่มาขวางทางตัวเองก่อนจะถอนหายใจและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงและสายตาที่ราบเรียบ
แต่เพียงแค่นี้ก็ทำให้คนตรงหน้าเกิดความกลัวไปไม่มากก็น้อยแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นยูกิก็ไม่ได้มีท่าทางเหมือนตอนหงุดหงิดหรือต่อสู้ที่ทำให้คนเห็นแล้วต้องกลัวตัวสั่นขนาดนั้นซักหน่อย ออกจะมีท่าทางปกติไม่เหมือนมาเฟียหรือนักฆ่าเลยด้วยซ้ำไป
ถึงจะไม่ได้ร่าเริงสดใสเหมือนสมัยเด็ก แต่ยูกิที่เป็นแบบนี้ก็ทำเอาเพื่อนๆกับพวกคนที่รู้จักต้องซับน้ำตาด้วยความยินดีกันใหญ่เลยล่ะนะที่เห็นเธอดูสดใสขึ้นบ้าง
แต่แม่สาวผมชมพูตรงหน้าดันมาแข้งขาสั่น
อ่อนแรงแล้วทำสีหน้ากลัวตัวสั่นขนาดที่ต้องให้คนข้างหลังประคองขนาดนั้น... ถึงจะรู้ว่าเสแสร้งเก่ง แต่มันจะดูอ่อนแอเกินไปรึเปล่าเนี่ย?
“เธอทำอะไรไลลาหน่ะทิวา!
ทำไมไลลาถึงจู่ๆก็กลัวเธอขนาดนี้!”
ชายหนุ่มสัญชาติเกาหลีผู้มีเส้นผมสีน้ำตาล ดวงตาสีม่วงอเมทิสและมีใบหน้าหล่อเหลาตะคอกใส่คุโรยูกิพลางพยุงไลลาอย่างทะนุถนอมจนหญิงสาวผมดำที่มองดูท่าทางของทั้งคู่เกือบจะตบหน้าผากอย่างอ่อนใจท่าทางเสแสร้งของไลลาและความงี่เง่าของกียุลซะจริงๆ
แต่ยูกิก็อดไม่พอใจไม่ได้ที่ถูกเรียกด้วยชื่อที่เคยทิ้งไปแล้วอย่างทิวาอีกไม่ได้อยู่ดี แต่จะหยวนๆให้เพราะครั้งแรกแล้วกัน
แต่ถ้ามีครั้งที่สอง....
“ไม่มีตา?”
เห็นๆอยู่ว่าจู่ๆก็ทำเป็นกลัวเองแท้ๆ
“อย่ามากวนกันนะทิ-โอ้ย!”
คุโรยูกิมองคนที่ตะคอกตนด้วยท่าทางนิ่งๆ
แต่ว่าก่อนที่ชายตรงหน้าจะได้เรียกชื่อเดิมที่ละทิ้งไปเธอก็ยกเท้าขึ้นเหยียบไปที่เท้าของอีกฝ่ายเพื่อเป็นการเตือนก่อนจะพูดออกมาเบาๆแต่ก็เพียงพอที่จะให้อีกฝ่ายได้ยินอย่างชัดเจน
“ชื่อของชั้นคือคุโรยูกิ
ถ้านายมีสมองบ้างก็หวังว่าจะจำได้”
ยูกิพูดจบก็เดินผ่านไลลาและกียุลเพื่อไปเรียนวิชามาเฟียภาคปฏิบัติกับอดีตคู่หูอย่างรีบอร์นที่สนามข้างล่าง ซึ่งความจริงแล้วไลลากับกียุลก็ต้องไปเรียนด้วยกันนั่นล่ะแต่ไม่รู้เป็นอะไรกันถึงได้มาขวางทางออกจากห้องหลังเปลี่ยนเป็นชุดฝึกแบบเมื่อกี้นี้เสร็จ
(เหมือนแอบบอกเป็นนัยๆว่าถ้าเรียกอีกทีก็แปลว่าแกมันโง่จริงๆ
หรือไม่ก็ถ้าอยากเจ็บตัวอีกก็ลองเรียกดูดิ
เหมือนสุภาษิตที่ว่าไว้ว่าเจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือควาย แต่ถ้ากียุลมันยังทนเจ็บเพิ่มก็เป็นยิ่งกว่าควายแล้ว
เพราะมันหลงไลลาสุดๆ//ไรต์)
เพื่อให้ทุกอย่างสะดวกผอ.เลยจัดให้พวกยูกิได้อยู่รวมกับห้องเอ และเพื่อให้รองรับจำนวนคนให้พอดีผอ.เลยจับย้ายพวกอดีตห้องเอไปห้องบีไปก่อนชั่วคราว แต่ถึงอย่างนั้นที่พวกยูกิทั้งหมดอยู่ดูจะแออัดไปบ้างเพราะต้องรองรับนักเรียนร่วมสี่สิบคนได้ ซึ่งมีพวกยูกิสิบสี่คน(เพราะยุยจังกับฟรานแล้วก็บลูเบลเก่งเลยข้ามชั้นมา
ส่วนท่านฮิบาริ...ไม่สิๆ ท่านเคียวยะเราแค่หย่อนๆลงไปเฉยๆให้มันอยู่พร้อมหน้า//ไรต์)
ราชาทั้งห้า ไลลา ลิเลีย พวกมาริโอน่าแล้วก็นาซิสซ่าแล้วก็คนที่ยูกิไม่รู้จักอีกนิดๆหน่อยๆ
เพราะงั้นห้องเอเลยโดนฝึกหนักเป็นพิเศษ...
แต่ถึงงั้นไลลากับลิเลียก็ยังเสแสร้งได้เสมอต้นเสมอปลาย
ทำตัวเป็นเด็กร่างกายอ่อนแอไม่ยอมเข้าฝึกแบบคนอื่นเขาจนพวกผู้ชายในห้องสงสาร ดูเผินๆรีบอร์นก็ดูจะเหมือนปล่อยๆไลลากับลิเลียไปเพราะเอ็นดูแต่ใครจะรู้ว่าความจริงแล้วเพื่อไม่ให้ทั้งคู่แข็งแกร่งขึ้นต่างหาก
เพราะแบบนั้นมันจะได้จัดการได้ง่ายๆ
____________________________________________________________________________________________
ขอโทษรีดทุกๆคนที่ติดตามจริงๆนะคะ! ตอนนี้หัวตันสุดๆไม่รู้จะไปต่อยังไงดี แถมยังติดงานอีกเพียบจนไม่มีเวลาไปคิดพล็อตนิยาย ยิ่งเขียนมันก็ยิ่งประหลาดขึ้นเรื่อยๆเลยด้วย.... ถึงรีดจะช่วยกันคิดการแก้แค้นแต่หัวเราตันจริงๆ ขนาดที่เขียนๆมาลงอันนี้ยังแย่เลย แต่ไรต์ไม่ทิ้งเรื่องนี้แน่นอนเลยนะคะ! จะพยายามแต่งถ้าคิดออก กว่าจะอัพอีกทีก็คงอีกยาว.... แถมช่วงนี้ก็กำลังจิตตกแบบสุดๆเพราะงานโปรเจค ยังไงก็อย่าทิ้งไรต์กันเลยนะคะ
ความคิดเห็น