คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #31 : บทที่ 25 (คิดชื่อตอนไม่ออก)
บทที่ 26
ผ่านไปแล้วหนึ่งเดือนตั้งแต่ที่เหล่านักเรียนของลาฟลอร่าและโนอาห์ได้รับการฝึกโหดในการเรียนภาษาอิตาลี
วิชามาเฟียที่สอนการต่อสู้และเรื่องต่างๆของมาเฟียเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการไปยังโรงเรียนวองโกเล่(ขี้เกียจเรียกวาโกเนลแล้วเปลี่ยนเป็นวองโกเล่ดีกว่า//ไรต์)
“ในที่สุดก็ถึงลาฟลอร่าซักทีนะค่ะ”ยุยเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางร่าเริงพลางนั่งลงบนโซฟาใกล้ๆยูกิ
“อีกเดี๋ยวก็จะได้เจอฟรานแล้วดีใจใช่มั้ยล่ะ?”
ยูกิพูดแล้วเอื้อมมือไปลูบหัวยุยที่หน้าแดงเมื่อพูดถึงฟรานพร้อมรอยยิ้มก่อนที่จะกลับมาหวีผมให้กลับมาตรงเหมือนเดิมจากการถูกถักเปียเดียวในตอนที่สอนพวกนักเรียนโนอาห์ให้ไม่ฟูจนเกินไปแล้วหยิบโบว์สีดำที่ตรงปลายผ้ามีลายผีเสื้อสีม่วงขึ้นมามัดรวบผมเป็นทรงโพนี่เทล
กรี้ด ~ !
เสียงกรี้ดดังขึ้นชั่วขณะหนึ่งก่อนที่มันจะกลายเป็นเงียบกริบ
ยูกิอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวหน่ายใจกับเรื่องเดิมๆที่เกิดขึ้นเป็นประจำเวลาที่เรือลำนี้มาจอดเทียบท่ายังลาฟลอร่า นักเรียนยังคงมารวมตัวรอต้องรับกันเป็นประจำเหมือนตลอดมา
ถึงครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เรือโนอาจะได้ใช้งานแล้วก็ตาม
“ดูเหมือนจะถึงแล้วล่ะนะยุยจัง เรารีบออกไปกันเถอะนะ”ยูกิบอกกับยุยที่เผลอสะดุ้งตกใจกับเสียงกรี้ดของพวกผู้หญิงจากลาฟลอร่าจำนวนมากจนเผลอจับมือเธอด้วยเสียงที่ปนความขบขันไว้เล็กน้อยแล้วจุงเธอไปหาพวกเคียวโกะที่จุดรวมตัวพร้อมกระเป๋าสัมภาระของตัวเอง
เพราะถ้าพวกเธอออกไปพร้อมพวกโนอาห์คงจะเสียเวลาไปมากจึงขออนุญาตผู้อำนวยการโรงเรียนโนอาห์ออกไปทางประตูอีกจุดที่ห่างจากประตูทางออกของพวกเด็กนักเรียนพอตัว
ถึงจะมีเด็กนักเรียนอยู่บ้างแต่ก็ไม่ค่อยมีใครสนใจกันเพราะพวกเธอออกมาก่อนพวกนักเรียนโนอาห์จะออกกันทำให้สายตาของพวกผู้หญิงจดจ่อไปที่เรือเท่านั้น
“ฮาฮิ!เมื่อกี้เสียงดังมากเลยนะคะยูกิจัง! มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่าคะ!?”ฮารุเข้ามาถามยูกิที่เดินมาดวยความสงสัยและตกใจ
เพราะเมื่อกี้จู่ๆก็มีเสียงกรี้ดของผู้หญิงจนทำให้เผลอสะดุ้งตกใจแต่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอกเพราะตรงจุดที่พวกเธออยู่มันไกลจากตรงจุดที่เกิดเสียงมากพอดู
“มันเป็นเสียงพวกผู้หญิงจากลาฟลอร่าข้างนอกที่แห่มารวมตัวกันเพื่อรอรับพวกโนอาห์หน่ะฮารุ”ยูกิพูดพลางถอนหายใจกับนิสัยของเด็กผู้หญิงโรงเรียนนี้ที่ดูจะโอเวอร์ซะเหลือเกิน
“เกิดเรื่องแบบนี้เป็นประจำเลยเหรอจ๊ะยูกิจัง”เคียวโกะลองถามดูบ้าง
เธอไม่เคยนึกไม่เคยฝันมาก่อนเลยว่าจะมีนักเรียนจำนวนมากแห่มารอรับผู้ชายเหมือนกับรอรับพวกดาราจากต่างประเทศแบบนี้
“พวกโนอาห์จะมากันทุกๆสามปีแล้วเพราะที่นี่เป็นโรงเรียนหญิงล้วนเลยไม่ค่อยจะมีผู้ชายมันเลย....”ยูกิเว้นคำพูดไว้แล้วเบือนหน้าหนีเมื่อนึกถึงเรื่องสมัยก่อนที่ไม่น่าพูดถึงในหลายๆเรื่องเกี่ยวกับงานลีลาศกระชับมิตรระหว่างโรงเรียนเมื่อช่วงที่เธอยังเป็นเด็ก
“มะ...มันเลวร้ายขนาดนั้นเลยเหรอคะ...ยูกิจัง?”โคลมถามด้วยใบหน้าที่ดูซีดๆเมื่อเห็นว่าขนาดคุโรยูกิที่แข็งแกร่งกว่าตัวเองขนาดนั้นยังดูกลัวๆมันจะขนาดไหนกันถ้าเธอไปเจอเข้า
“ฮาฮิ! ฮารุคิดว่าฮารุพอจะเข้าใจนะคะ! ตอนสมัยที่เรียนอยู่โรงเรียนหญิงล้วนเพราะมีแต่ผู้หญิงพอเจอผู้ชายก็อดตื่นเต้นไม่ได้
ให้อารมณ์เหมือนไปงานคอนเสิร์ตนักร้องดังๆที่มีแต่ผู้หญิงเลยมั้งค่ะ?”ฮารุพูดพลางนึกเรื่องตอนสมัยที่ยังเรียนอยู่ที่โรงเรียนสตรีมิโดริสมัยม.ต้น
“ดูน่ากลัวใช่เล่นเลยนะจ๊ะ...”เคียวโกะเริ่มรู้สึกยิ้มไม่ออกเพราะเคยเห็นความวุ่นวายและน่ากลัวของคอนเสิร์ตมาแล้วจึงรู้สึกหวั่นๆในตัวของผู้หญิงในโรงเรียนนี้
“พะ...พวกผู้หญิงโรงเรียนนี้น่ากลัว...จังคะ....”
พอโคลมนึกถึงตอนที่ได้ดูคอนเสิร์ตพร้อมๆกับคนอื่นๆก็อดรู้สึกหวาดระแวงไม่ได้
เพราะตัวของเธอเบามากทำให้เคยถูกฝูงคนที่ไปดูชนจนล้มแล้วลุกขึ้นมาทันทีไม่ได้เนื่องจากมีคนรีบวิ่งกันไปเป็นจำนวนมาก
เธอก็ได้แต่นั่งสั่นอยู่ตรงนั้นในที่มืดๆมีแสงสลัวๆโดนคนนู้นคนนี้เหยียบขาบ้างมือบ้าง
มันช่างเป็นประสบการณ์ที่น่ากลัวจริงๆนั่นแหล่ะ...
หลังจากที่ตอนนั้นได้เจอกับเคียวโกะ ฮารุแล้วก็คนอื่นๆจนครบแล้วโคลมถึงได้เล่าให้ฟังจนมีแต่คนยิ้มไม่ออกและไม่คิดจะพาโคลมมาอีก มันก็แน่ล่ะ
ถ้าขืนพามาอีกมีหวังโคลมต้องร้องไห้แน่ๆแถมดูจากที่เล่ามายังอดทำให้คนอื่นๆรู้สึกกลัวแล้วก็ไม่อยากเฉียดไปงานแบบนั้นอีกแล้วด้วย
“ดูเหมือนพวกเราจะต้องไปรวมตัวกับพวกผู้ชายที่เวทีใหญ่ในอาคารด้านนู้นก่อนนะทุกคน”เดลที่แยกตัวไปถามครูในโรงเรียนลาฟลอร่าเรื่องกำหนดการหลังจากนี้พร้อมๆกับรัลแล้วถึงได้เข้ามาบอกทุกคนที่กำลังคุยกันอยู่ เธอยกสัมภาระขึ้นมาถือ/สะพายไว้แล้วชี้ไปที่อาคารหลังใหญ่ไม่ไกลมากจากจุดที่ทุกคนอยู่
เดลเดินนำทุกๆคนไปยังอาคารนั้นเพื่อไปหารัลที่ไปรออยู่ก่อนแล้ว เคียวโกะ
ฮารุ โคลมแล้วก็ยูอิดูที่จะตื่นเต้นกับรอบๆมากพอดู
ลาฟลอร่าเรียกได้ว่าเป็นโรงเรียนที่มีพื้นที่ครอบคลุมถึงทั้งเกาะ มีร้านค้าทุกรูปแบบและอาคารหลากหลายสไตล์ บ้านเรือนของคนธรรมดาและยังมีชุมชน มีทั้งภูเขาและทะเลรวมถึงแม่น้ำกับน้ำตก หากให้เรียกแล้วลาฟลอร่าคงจะเรียกได้ว่าเป็นประเทศบนเกาะแห่งหนึ่งได้เลย
“อ๊ะ! ตรงนั้นมันพวกสึคุงนี่จ๊ะทุกคน!”เคียวโกะพูดด้วยท่าทางดีใจพร้อมกับชี้นิ้วออกไปข้างหน้าเพื่อให้ทุกคนมองจุดที่ชี้
“ฮาฮิ ~ !
ตรงนั้นอยู่กันครบทุกคนเลยนี่คะ”ฮารุมองพวกผู้ชายและพวกเอสเมอรันด้าที่อยู่ด้วยกันด้วยท่าทางดีใจ
หลังจากที่มารวมตัวกันจนครบทุกคนก็ได้พูดคุยกันนิดหน่อยก่อนที่จะมีพนักงานในโรงเรียนมารับหน้าที่ขนสัมภาระไปยังห้องพักที่เตรียมไว้แลวถึงถูกคุณครูคนหนึ่งในโรงเรียนมาพาไปยังด้านหลังเวทีเพื่อเตรียมแนะนำตัวต่อทุกคน
ระหว่างที่รอเวลาอยู่ทั้งยูกิและเคียวยะต่างเงียบใส่กัน
หลังจากที่ไม่ได้เจอกันนานถึงหนึ่งเดือนทั้งคู่ทำเพียงแค่กอดกับเพียงครู่เดียวแล้วเงียบใส่กันเท่านั้น จะมีสิ่งที่บอกถึงความคิดถึงของทั้งคู่ได้ก็คือมือที่จับกันไม่ยอมปล่อย ส่วนยุยก็ทำเพียงแค่เข้าไปกอดเคียวยะแป๊บเดียวแล้วไปหาฟรานต่อ
ปล่อยให้ปะป๊าและมาม๊าแสดงความคิดถึงในแบบของตัวเองไปด้วยท่าทางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
ไม่ว่าจะฮิบาริ คุโรยูกิหรือฮิบาริ เคียวยะต่างก็เป็นคนที่มีนิสัยเงียบๆชอบแสดงออกทางการกระทำมากกว่าคำพูดที่กล่าวออกมา อีกอย่างทั้งคู่จะแสดงออกมาว่าคิดถึงกันไม่ได้ทั้งหมดเพราะครอบครัวยังไม่ได้อยู่พร้อมหน้ากัน
ห่างกันแค่เดือนเดียวจะเทียบอะไรกับลูกสาวลูกชายของทั้งคู่ที่ต้องทนรออยู่บ้านอีกตั้งปีได้ล่ะ ยุยก็เหมือนจะเข้าใจเพราะเธอก็คิดถึงน้องๆเหมือนกันถึงได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูรูปถ่ายของน้องๆเป็นพักๆด้วยความคิดถึงจนฟรานได้แต่ลูบหัวปลอบแล้วจับมือไม่ปล่อยให้ห่าง
“meว่าทั้งสามคนเลิกเป็นห่วงคายะจังกับยูยะคุงเถอะครับ ถ้าเหงาก็โทรไปหาไม่ก็วิดิโอคอลไปก็ได้ โฮโลแกรมก็มีนี่ครับถึงจะจับไม่ได้แต่ก็เหมือนกับได้ไปเจอกันเลยนะครับmeคิดว่างั้นนะ”ฟรานอดไม่ได้ที่จะพูดด้วยความหน่ายใจกับบรรยากาศที่แสดงออกว่าห่วงเด็กๆทั้งสองซะเหลือเกินของทั้งสามคนที่มีมากจนน่าอึดอัดจึงพูดออกไปอย่างไม่คิดอะไรมาก
“ขอบใจที่บอกนะฟราน!”แต่ดูเหมือนว่าขนาดยูกิ
ยุยแล้วก็เคียวยะยังคิดไม่ถึงว่าวิธีนี้ก็ยังมีอยู่เลยเข้าไปลูบหัวฟรานทีละคนจนถึงตายุยเธอทำหน้าคิดอะไรแป๊บหนึ่งแล้วจึงเปลี่ยนจากยกมือลูบหัวคนตัวสูงกว่ามาเป็นเขย่งเท้าขึ้นมาหอมแก้มของเด็กหนุ่มแทน
“ถือเป็นรางวัลที่ช่วยบอกนะฟราน...”ยุยแอบเบือนหน้าหนีพร้อมหน้าที่ขึ้นสี
แต่ดูเหมือนฝ่ายชายจะไม่ได้ฟังอะไรเพราะรู้สึกว่าจะเคลิ้มจนวิญญาณออกจากร่างไปแล้ว
“นักเรียนคงจะทราบกันดีแล้วว่าพวกเราได้ทำการแลกเปลี่ยนคณะครูและนักเรียนจากโรงเรียนวองโกเล่ที่อิตาลีเป็นเวลาหนึ่งปี
โดยให้คณะครูและนักเรียนที่เป็นผู้ชายมายังลาฟลอร่าและผู้หญิงมายังโนอาห์เพื่อให้เคยชินต่อการรวมกันระหว่างโรงเรียนหญิงและชายล้วนก่อนหนึ่งเดือนระหว่างรอเรือโนอาห์แล่นมายังลาฟลอร่า...”ผู้อำนวยการไนติงเกล
ฟลอเรียประกาศบอกกับเหล่านักเรียนที่มารวมตัวกันภายในห้องโถงใหญ่ที่บรรจุนักเรียนไว้มากมายนับไม่ถ้วนทั้งชายและหญิง
“แต่ก็อย่างที่รู้ๆกันว่าพวกเราจะจัดการแข่งขันกับโรงเรียนวองโกเล่ที่อยู่ในอิตาลีจึงได้เพิ่มหลักสูตรวิชาที่จำเป็นเข้าไปอีกหลายวิชาเพื่อให้สามารถแข่งขันกับเหล่านักเรียนของทางนู้นได้
แต่ที่ครูเรียกทุกคนมาในวันนี้ก็เพื่อให้คณะครูและนักเรียนที่มาแลกเปลี่ยนจากอิตาลีได้แนะนำตัวกันก่อน”โดยปกติแลวหน้าที่นี้จะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการนักเรียนที่มีไลลาเป็นประธานและลิเลียเป็นรองประธาน
“ขอเริ่มจากผู้ชายแล้วไปผู้หญิงนะคะนักเรียน...”ไนติงเกลกล่าวก่อนจะผายมือได้ด้านข้างเพื่อให้ทุกๆคนเดินออกมาแนะนำตัว(อย่างไม่กลัวอำนาจมืด)
“ชั้นรีบอร์น สอนวิชามาเฟีย”รีบอร์นพูดแนะนำตัวเป็นคนแรก
“ซันซัส...สอนวิชายิงปืนที่แยกมาจากวิชามาเฟีย...”ซันซัสพยายามกัดฟันพูดให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ตามคำขอร้องของเรโอนี่
“โว้ยยย! ชั้นสเปลบี สควอโล่สอนวิชาดาบที่แยกมาจากวิชามาเฟียเหมือนกับหมอนี่!!”สควอโล่ตะโกนใส่ไมค์จนเกิดเสียงดังยิ่งกว่าเดิมจนคนที่ไม่รู้เรื่องเสียงของสควอโล่อย่างโนอาห์ถึงกับปิดหูกันแทบไม่ทัน
บางคนแทบสลบเพราะช็อคก็มี...
“ยินดีที่ได้รู้จักน้าทุกคน
~ ชั้นเบียคุรัน
เจสโซ่เป็นครูสอนวิชาภาษาอิตาลีแล้วก็เป็นครูผู้ช่วยของครูประจำชั้นในห้องเรียนที่พวกนักเรียนแลกเปลี่ยนต้องอยู่กันน้า
~ ”เบียคุรันพูดด้วยท่าทางเป็นกันเองทำให้บรรยากาศอึดอัดจากสามคนแรกหายไปทันที
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับผมซาวาดะ สึนะโยชิ”สึนะพูดพร้อมแจกรอยยิ้มอ่อนโยนให้ทุกคนอย่างเป็นมิตร
“ชิ!...โกคุเดระ ฮายาโตะ”โกคุเดระแนะนำตัวด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์
“ฮะฮะฮะฮะ อย่าทำท่าแบบนั้นตอนแนะนำตัวสิฮายาโตะ ชั้นยามาโมโตะ
ทาเคชินะทุกคน ~ !”ยามาโมโตะหัวเราะออกมาก่อนจะกอดคอพูดด้วยความขบขันแล้วแนะนำตัวพร้อมรอยยิ้มร่าเริงและเป็นมิตร
“ฮิบาริ....เคียวยะ....”ชายหนุ่มเหลือบตามองยูกิที่ยกยิ้มอ่อนๆก่อนจะแนะนำตัวแล้วยืนนิ่งไม่ทำอะไร
“คุฟุฟุ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ผมโรคุโด
มุคุโร่”มุคุโร่หัวเราะออกมาก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาเมื่อเห็นใครซักคน
“ชิชิชิชิชิ
เจ้าชายมีชื่อว่าเบลเฟกอลนะ”เบลหัวเราะออกมาอย่างมีเอกลักษณ์ไม่ต่างอะไรกับมุคุโร่ก่อนจะยกยิ้มออกมาแม้จะไม่เห็นดวงตาที่ซ่อนไว้ใต้ผมสีทองนั่นก็ตาม
“meชื่อฟรานนะครับทุกคน
แต่ที่เห็นใส่หัวกบแบบนี้ไม่ใช่ความชอบหรอกนะครับmeถูกบังคับ
~ ”ฟรานพูดด้วยสีหน้าที่ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเลย(มันก็เรียกง่ายๆก็หน้าตายนั่นล่ะครับ meก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมไรต์ต้องเขียนให้มากความด้วย?//By ฟราน)
“ชั้นรัล
มิวจิต่อจากนี้ไปจะสอนวิชามาเฟียภาคทฤษฏีแทนภาคปฏิบัติที่ตอนนี้รีบอร์นรับไป”รัลพูดโดยไม่สนใจสายตาของพวกนักเรียนชายที่ตัวเองเคยสอนที่โนอาห์เลยว่าดีใจกันขนาดไหน
“อ๋อ!
ลืมบอกไปว่ารีบอร์นฝึกหนักกว่าชั้นหลายเท่าน่ะเด็กๆ”
นักเรียนชายที่เคยเข้าคอร์สนรกแตกพวกนั้นถึงกับกรีดร้องกันด้วยความเสียใจที่ตัวเองดันคิดว่าจะรอดแต่ดันต้องมาเจอหนักกว่าเดิมร่วมกับพวกผู้หญิงทั้งหลายที่เจอกับการฝึกของรีบอร์นไปแล้วที่กรีดร้องออกมาอย่างโศกเศร้าตั้งแต่ที่ได้ยินว่ารีบอร์นมาสอนภาคปฏิบัติ
(ก็อย่างว่าล่ะนะ
ถึงรีบอร์นจะโอนอ่อนให้ผู้หญิงมากกว่าผู้ชายแต่รีบอร์นก็ยังเป็นรีบอร์นวันยังค่ำ สอนยังไงแม่ง(?)ก็โหดอยู่ดี...)
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะทุกคนชั้นซาซางาวะ เคียวโกะ”เคียวโกะแนะนำตัวแล้วโค้งตัวลงเป็นมารยาท
“มิอุระ ฮารุค่าา ~ !”ฮารุทักทายทุกคนและโบกมือให้อย่างร่าเริงและไฮเปอร์เหมือนปกติ
“คะ...โคลม โดคุโร่ค่ะ...”โคลมแนะนำตัวด้วยเสียงตะกุกตะกักแล้วรีบโค้งตัวลงเป็นการทักทายอย่างเร็วด้วยความเขินอาย
“หนูชื่อยูอินะคะ!”ยูอิแนะนำตัวพร้อมรอยยิ้มกว้างอย่างร่าเริงแล้วโค้งตัวลง
“บลูเบล...”บลูเบลแนะนำตัวแล้วหันหน้าหนีทุกคนที่มองมาอย่างเด็กเอาแต่ใจแล้วก็เข้าไปกอดยุยที่อยู่ข้างๆอย่างรักใคร่ทันที
“สเปลบี เดลฟีโน่ เคยมีชื่อว่าราตรี โบราณรักษ์ที่เคยเรียนอยู่ที่นี่ ยินดีที่ได้รู้จักนะ”เดลก้มหัวลงนิดหน่อยคล้ายกับพยักหน้า
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ ชั้นคุโรยูกิ
เคยเรียนที่ลาฟลอร่าเหมือนเดลแล้วก็มีชื่อเดิมคือทิวา พุดพิชญา
และตั้งแต่วันนี้ไปจะมาอยู่ในโรงเรียนนี้ในฐานะนักเรียนไม่ใช่ครูสอนวิชาภาษาอิตาลีนะทุกคน”
ยูกิโค้งตัวลงพร้อมยิ้มนิดๆอย่างสะใจเมื่อเห็นท่าทางและสีหน้าตกใจของนักเรียนรอบๆรวมถึงพวกที่อยากให้ตกใจกันที่สุดอย่างคิม กียุลและไลลา
บลองชาร์ด
แต่ดูเหมือนจะได้ของแถมเป็นสีหน้าของพวกนักเรียนโนอาห์ที่เคยสอนที่ต่างก็ตกใจกันกับเรื่องที่เกิดขึ้นปุบปับแบบนี้และพวกนักเรียนลาฟลอร่าที่รู้จักกับเรื่องเมื่อสิบกว่าปีก่อนทั้งเรื่องจริงและเรื่องโกหก
_________________________________________________________________________________
ในที่สุดก็แต่งได้ซักที สมองตอนนี้ตันมากๆเพราะงั้นกว่าจะอัพซักตอนก็นานกันหน่อยนะ!(เอาจริงๆมันก็ไม่ได้หน่อยหรอกแต่เป็นมากเลย...)
ไรต์เขียนไปเขียนมาก็พึ่งมานึกได้ว่าลืมเบียคุรันกับบลูเบลซะงั้น!? แล้วก็ในเรื่องทุกคนมีคู่กันหมดแล้วเลยอยากขอความเห็นเรื่องคนรักของบลูเบลซักหน่อย(กลัวเธอเหงา//ไรต์) เอาในรีบอร์นหรือในลาฟลอร่าก็ได้นะแต่ช่วยเขียนกันมาหน่อย(จะให้ดีช่วยเขียนสาเหตุที่เจอกันหรือว่าคบกันก็ได้นะ)
ความคิดเห็น