คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : บทที่ 8 คำสารภาพรักของยูกิ...
“มาม๊าหนูหิวจังเลยคะ ~
”
ยุยเดินมาบอกคุโระด้วยสายตางัวเงียเพราะพึ่งตื่น
“ผมยุ่งหมดแล้วนะยุยจัง มามะมาทำผมก่อน
อีกเดี๋ยวมาม๊าก็ลงไปทานอาหารเช้าข้างล่างแล้วเพราะงั้นมาทำผมกันก่อนนะ”
“ค่า ~ ”
คุโระหยิบหวีออกมาจากกระเป๋าแล้วค่อยๆบรรจงทำผมให้ยุย
ส่วนยุยโทรไปหาใครบางคน
“เอาหล่ะเสร็จแล้ว! งั้นเราไปกันเถอะนะยุยจัง”
คุโระจับมือยุยจังแล้วพาลงไปข้างล่าง
ทรงผมยุยในตอนนี้(อาวุธเก็บอยู่ตรงสายรัดตรงน่องขา)
นี่คือชุด(เจ้าตัวชอบใส่ชุดโลลิต้ามากๆเพราะพอคุโระมาเห็นจะชมว่าน่ารักตลอด)
ชุดของคุโระ
ทรงผมของคุโระ
“คะ คุณฮิบาริทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้กันคะ!!”
คุโระพูดอย่างตกใจที่เจอฮิบาริรออยู่หน้าประตู
“มารอคุณไปกินข้าวเช้าพร้อมกัน แล้วก็.....”
ฮิบาริพูดค้างไว้แล้วเข้ามาหอมแก้มของคุโระอย่างรวดเร็ว
“นี่คือบทลงโทษ ผมบอกแล้วยังไงละว่าให้เรียกว่ายังไง...”
คุโระที่ฟังใบหน้าก็เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อและควันออกหู
ฮิบาริเดินนำไปพร้อมยุย
“คะ คนฉวยโอกาส!!”
ฮิบาริยกยิ้มอย่างพึงพอใจกับกิริยาท่าทางของคุโระแล้วหันมือส่งมาให้ทางคุโระ
“....ไปกันเถอะ...
ยูกิ...”
คุโระเงียบไปแล้วยิ้มออกมาอย่างร่าเริง
“คะ! พี่เคียว!”
คุโระจับมือของฮิบาริแล้วทั้งสามก็เดินไปห้องอาหารพร้อมกัน
ไม่ต้องใจตรงกันก็ได้...
ขอแค่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไปก็พอ....
ได้อยู่กับคนที่เข้าใจเราที่สุดแบบนี้ก็พอ....
อยู่ข้างๆคนๆนี้ที่แม้ภายนอกจะเย็นชาแต่จริงๆแสนอ่อนโยน....
แค่นี้ฉันก็ไม่ต้องการอีกแล้ว...
แต่ว่านะ...
แค่บอกซักครั้งก็คงจะดีนะ...
แค่บอกว่ารักซักครั้งก็ยังดี...
ต่อให้ถูกปฏิเสธแล้วไม่ได้อยู่ข้างๆอีกก็ไม่เป็นไร...
แค่ได้มองอยู่ห่างๆก็พอแล้ว...
แค่บอกออกไปแล้วสบายใจขึ้นก็คงจะไม่เป็นไรหรอก...
คุโระยิ้มบางๆระหว่างคิด
“หยุดเดินทำไมละยูกิ....”
เสียงของพี่เคียวฟังดูอบอุ่นตลอดเวลาพูดกับฉัน มันทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองพิเศษ...
“รักคะ....ถึงจะปฏิเสธชั้นก็ไม่เป็นไร แค่อยากพูดออกมาเพียงแค่นั้น....
แต่ชั้นรู้สึกแบบนั้นคุณนะคะพี่เคียว...”
คุโระพูดขึ้นมาด้วยแววตาเศร้าๆ
หมับ!
จู่ๆฮิบาริก็เข้ามากอดคุโระ ส่วนยุยที่รู้สึกว่าเป็นส่วนเกินเลยไปหลบอยู่ตรงมุมใกล้ๆแล้วแอบดู
“ใครจะปฏิเสธกันหล่ะ.... ผมก็รักคุณเหมือนกันเพราะงั้นคบกันเถอะนะ”
ฮิบาริพูดทั้งๆที่กอดอยู่ด้วยใบหน้าที่แดงจนถึงใบหูและด้วยความสูงของเขาทำให้ศีรษะพาดไปที่บนหัวของคุโระได้
ใครจะไปปฏิเสธคนที่ชอบที่มาบอกรักกันละ... เอาจริงๆคืนนี้ก็กะจะสารภาพรักเองแท้ๆแต่ไม่นึกว่าเธอจะมาสารภาพก่อน....แต่ตัวเล็กแล้วก็นิ่มจัง.... แถมร่างกายยังผอมแล้วก็เบาขนาดนี้ได้กินอะไรบ้างรึเปล่านะ....
จะว่าไปยัยสัตว์กินพืชที่เป็นแฟนกับซาวาดะเคยพูดเรื่องอดีตของเธอออกมาครั้งนึงสินะ เห็นบอกว่าเศร้ามากๆเลยด้วย แต่ไม่เป็นไร ผมจะรอเอง...
รอให้เธอพร้อมบอกอดีตที่แสนเศร้าของเธอเอง....
เพราะงั้นไม่ต้องพยายามเล่าก็ได้....
“เย้!! ทีนี้คุณเคียวยะก็จะได้มาเป็นปะป๋าให้หนูแล้ว!”
ยุยพูดออกมาอย่างร่าเริง
Hibari part
“เธอได้กินอะไรบ้างรึเปล่า ทำไมถึงได้เบาขนาดนี้กัน”
ผมถามออกมาระหว่างทางกลับห้อง
“ชั้นก็ว่าชั้นกินเยอะแล้วนะคะ
แต่ว่านะ....ตั้วแต่เกิดเหตุการณ์ตอนนั้นรู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้กินอะไรและกินน้อยลงเยอะเลยทำให้ผอมลงละมั้ง....”
ประโยคสุดท้ายเธอพูดออกมาเบาๆด้วยแววตาแสนเศร้าเมื่อเธอสังเกตเห็นว่าผมจ้องอยู่จึงเปลี่ยนสีหน้าทันที
ผมคิดมาตลอดว่าอดีตของเธอก่อนที่จะมาเป็นนักฆ่าและมาเฟียเป็นยังไง
พอพูดเรื่องอดีตทีไรเธอจะทำหน้าเศร้ามากๆ
มันคงจะเป็นสาเหตุที่เธอไม่ชอบสนิทกับคนอื่นละมั้ง
เธอแตกต่างจากผมที่เกลียดการสุมหัวตั้งแต่เกิด
“ยูกิ....เธอน้ำหนักแล้วสูงเท่าไรกันแน่...
ทำไมถึงเบาซะขนาดนี้กัน...”
ผมทำเป็นไม่สนใจคำพูดเบาๆเพื่อไม่ให้เธอกังวลแล้วยกตัวเธอขึ้นก่อนจะถามออกมา
“นะ น้ำหนัก 34 คะ... ละ แล้วก็สูง 152คะ...”
คุโระก้มหน้าลงตอบคำถามด้วยความอาย
ผอมมากๆ
ปกติผู้หญิงวัยนี้น่าจะน้ำหนักประมาณ40-50ได้แล้วแท้ๆ แต่ทำไมเธอถึงได้ผอมยิ่งกว่าผู้หญิงปกติขนาดนั้นกันนะ....
“ละ แล้วยุยจังละค่ะ?”
เธอถามถึงลูกสาวบุญธรรมของตัวเองที่ชื่อยุย
พอผมตกลงคบกับคุโระแล้วก็โดนเจ้าหัวกบที่ผ่านมาลากไปไหนไม่รู้ เอาจริงๆผมก็รู้สึกถูกชะตากับเด็กคนนั้นนะ พอเธอเรียกผมว่าปะป๋าผมมักจะรู้สึกใจอ่อนง่ายๆแล้วยังเป็นเด็กน่ารัก
มิน่าเธอถึงหวงนัก ขนาดผมยังหวงเลย(เห่อลูก)
“โดนเด็กหัวกบลากไปไหนไม่รู้”
ผมตอบเธอด้วยเสียงหงุดหงิดเล็กน้อยที่(ว่าที่)ลูกบุญธรรมของผมโดนเด็กที่ไหนไม่รู้ลากไป
“ฮิๆ ลองตามดูเธอกันมั้ยละคะ ยุยจังกับฟรานคุงหน่ะ
พอเห็นแล้วรู้สึกเหมือนจะแอบชอบกันอยู่ทั้งคู่เลยซะด้วย”
พรึบ!
เมื่อได้ยินแบบนั้นผมรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ในห้องพักแล้วรีบตามไปดูทันทีแต่โดนขัดไว้
“ทำตัวเป็นคุณพ่อหวงลูกไปได้ ชั้นล้อเล้นนะคะที่บอกจะตามไปดู
ชั้นได้ยินมาจากพวกเดลแล้วว่าเด็ก2คนนั้นทะเลาะกันบ่อยๆแต่จริงแค่ทำแก้เขินเลยอยากให้คุยกัน เพราะงั้นอย่าไปขวางนะคะ”
“....เฮ้อ ~ .....ก็ได้....เอ้า!”
ผมถอนหายใจแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ในห้องพักเหมือนเดิมแล้วส่ง(โยน)กล่องขนมให้ยูกิ
“มันจู?”
“กินซะสิ เธอผอมซะขนาดนั้นผมเลยซื้อมาตอนกลับมาที่นี่”
“ขอบคุณนะคะพี่เคียว...”
เธอยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วมองมันจูในกล่องด้วยสายตาดีใจอย่างปิดไม่มิด
คงจะชอบกินมันจูสินะ
“ไม่กินด้วยกันเหรอคะ?”
เธอถามแล้วหยิบมันจูชิ้นนึงจ่อปากผม
งับ!
ผมกัดมันจูที่เธอยื่นมาแล้วค่อยๆเคี้ยวก่อนจะกลืนลงคอ แปลกแฮะ...
ปกติผมไม่ชอบกินของหวานแท้ๆแต่พอเธอป้อนแล้วร่างกายมันกลับไปเอง แต่ก็อร่อยดีนะ
“แบ่งกันกินนะคะพี่เคียว
ชั้นกินคนเดียวไม่หมดหรอก”
เธอบอกกับผมแล้วชูกล่องที่ใส่มันจูไว้เกือบ20ชิ้นให้ดู
“ได้สิ แต่เธอต้องป้อนผมนะ”
“ได้สิคะ!”
อุหวา ~ ! ยูกิดันมาชิงสารภาพรักก่อนซะแล้ว
ตอนต่อไปเราจะเจอยูริจังแล้วล่ะนะ หวังว่าคงจะไม่ลืมกันนะว่ายูริเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของยุกิจังที่ยังเชื่อใจอยู่!!
ตัวอย่างจ้าา!
“ยูริ! Youทำแบบนี้กับลิเลียทำไมกัน!!”
“ยะ
ยูริไม่ได้ทำจริงๆนะเจ้าคะ!!
คุณลิเลียทำตัวเองต่างหาก!!”
“คึหึหึหึหึหึ...ไม่นึกว่าเดินเล่นอยู่ดีๆจะเชื่อมความฝันกับคนอื่นนอกจากนางิได้นะครับเนี่ย…
จะว่าไปนี่ก็ครบ1ปีพอดีสินะครับที่ไม่ได้เข้ามาแทรกความฝันของคนอื่น…
ตั้งแต่ไอ้แป๊ะยิ้มนั่นหมั้นกับโคลมที่น่ารักของผมไป...”
“หึหึหึ… สมน้ำหน้ายัยยูริ...อยากมาแย่งคริสจังของชั้นเองทำไมละ...”
“อะ อะ อะไรนะเจ้าค่ะ!! คุณทิวาแต่งงาน!! ละ แล้วทั้งๆที่พึ่งจะอายุ18!!”
ไม่รู้ว่าจะน่าสนุกรึเปล่านะแต่ช่วยๆให้กำลังใจกันด้วยล่ะ!
ความคิดเห็น