ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [::::**Can You Keep A Secret?**::::]

    ลำดับตอนที่ #4 : ::: Part 4 :::

    • อัปเดตล่าสุด 31 ต.ค. 48














    .........................................................







    “คัตจังเสียงสูงอีกนิดนึงนะ”  โปรดิวเซอร์พูดใส่ไมค์ที่เชื่อมระหว่างห้องอัดกับห้องควบคุม







    “ค่ะ...” ร่างบางพยักหน้ารับมือเรียวยกขึ้นจับหูฟังอีกครั้ง สมาธิจดจ่ออยู่กับบทเพลงตรงหน้า ตาสวยหลับพริ้มราวกับว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของเพลง



    Nobita kage o hodou ni narabe



    You yami no naka o kimi to aruite-ru



    Te o tsunaide itsu mademo zutto



    Soba ni ireta nara nakechau kurai



    Kaze ga tsumetaku natte



    fuyu no nioi ga shita



    Sorosoro kono machi ni



    kimi to chika-zukeru kisetsu ga kuru



    Kotoshi saisho no yuki no hana o



    Futari yori sotte



    Nagamete iru kono toki ni



    Shiawase ga afure-dasu



    Amae toka yowasa janai



    Tada kimi o aishite-ru



    kokoro kara sou omotta





    ย้อนไปเมื่อห้าปีที่แล้ว..ในวันที่คาซึมิตัดสินใจเลือกเดินทางเดียวกับแม่ของตน วันนั้นเป็นวันแรกของฤดูใบไม้ผลิ...เธอกำลังยืนร้องเพลงกับ



    เพื่อนของเธออีกสามคน และ กับอีกหนึ่งคนเฝ้าภายในสวนสาธารณะเซนได..ผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่างหยุดยืนฟังอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเดินมาวาง



    เศษเงินลงในกระเป๋าใส่กีต้าร์ ที่วางอยู่ตรงหน้าคนทั้งสี่ ร่างบางผู้ทำหน้าที่เป็นนักร้องนำโค้งให้แก่บุคคลเหล่านั้นทุกครั้งที่พวกเขาวางเศษเงิน



    ให้ และเมื่อเพลงจบเสียงปรบมือดังขึ้นแทบจะในทันที คนทั้งสี่จับมือกันก่อนโค้งให้พวกเขาอย่างสุภาพ...ไลฟ์เล็กๆที่ถูกจัดขึ้นภายในสวนสา



    ธาณะเป็นประจำทุกวันหลังเลิกเรียน..เสียงเพลงที่ถูกแต่งขึ้นเองจากบุคคลเหล่านี้ ถูกขับกล่อมออกมา ณ. ที่แห่งนี้.......





    ในขณะที่ทั้งสี่กำลังจัดแจงเก็บข้าวของนั่นเอง...เสียงฝีเท้าดีใกล้เข้ามาเรื่อยๆจากด้านหลังทำให้ร่างบางหันไปมองอย่างสนใจ...









    “ขอคุยด้วยหน่อยได้มั้ย?”  ชายหนุ่มมาใหม่ยิ้มบางๆให้กับร่างบางที่กำลังทำหน้าประหลาดใจอย่างมาก







    “หนูหรือคะ?” อีกคนพยักหน้ารับ...หน้าสวยหันไปถามความเห็นเพื่อน







    “ผมไปด้วย!!”  หนุ่มน้อยลุกพรวดมายืนข้างๆคาซึมิ





    “นี่..อย่าเอะอะสิ”  ร่างบางหันไปว่าหนุ่มน้อยข้างกาย  







    “เอ่อ..มีอะไรกับหนูเหรอคะ”  ชายแปลกหน้ายิ้มให้คาซึมิก่อนหยิบกระดาษแข็งภายในกระเป๋าเสื้อออกมายื่นให้คนตรงหน้า..ร่างบางรับมางงๆ



    ก่อนก้มลงอ่านอักษรบนกระดาษนั้น..ค่ายเพลง...







    “ชั้นมาดูไลฟ์ที่นี่ทุกวัน...คงไม่ต้องอธิบายมากหรอกใช่มั้ย?”  คาซึมิมองอีกคนก่อนหันไปมองหน้าน้องชายอีกคนก็ยืนอึ้งเงียบไม่พูดไม่จา...ช็อคไปเลยเหรอเนี่ย...







    “อะ..ค่ะ..”  ชายแปลกหน้ามองนาฬิกาก่อนเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้







    “เก็บไปคิดนะ..ถ้าสนใจก็เจอกันวันเสาร์..”  







    “คะ...”  เก็บนามบัตรลงในกระเป๋าเสื้อ..







    “ไปละ..แล้วเจอกันวันเสาร์นะ โคดากิริจัง”  พูดจบก็เดินหายไปในทันที







    “อะ...รู้จักเราได้ไงหว่า..”  หันหลังกลับก็เจอเพื่อนๆยืนยิ้มให้







    “ถ้าไม่ไปเสียดายแย่เลยน้า...”  สาวห้าวประจำกลุ่มพูดยิ้มๆ







    “คิดว่างั้นเหรอ ไอ”  







    “ช่าย...”  อีกสองหนุ่มพูดทับ..









    “เธอว่างั้นมั้ย มากิ?”  ไอโกะหันมาถามคนที่นิ่งเงียบ..







    “อะจ้ะ..เสียดายแย่เลยเนอะ...ชั้นว่าชั้นกลับก่อนดีกว่าเย็นมากแล้วล่ะ”  มากิยิ้มเฝือนๆให้เพื่อนก่อนขอตัวกลับบ้าน..







    “อืม..แล้วเจอกันนะ”  คาซึมิบอกก่อนหันไปหยิบกีต้าร์ขึ้นมาสะพายไว้บนบ่า..และลุกขึ้นมายืนมองแผ่นหลังเพื่อนตัวเล็กนิ่งๆ







    “เธอพอจะรู้ตัวเองบ้างหรือยังล่ะ?”  ไอโกะถามขึ้น







    “อะไร?”  









    “มากิกำลังอิจฉาเธออยู่นะ..ชั้นบอกเธอมากี่ครั้งแล้วคาซึมิ”  ร่างบางก้มหน้านิ่ง







    “ไม่ใช่หรอก..ชั้นกับมากิก็มีเหมือนๆกันนะ..ไม่เห็นจะมีใครเด่นกว่าใครเลย..คิดมากน่า”  คำพูดที่ไม่จริงจังแต่มันคือความจริงจากใจ...หลัง





    จากนั้นมากิก็ไม่มายุ่งวุ่นวายกับพวกเขาอีกกลับไปโดดเด่นท่ามกลางพวกเสเพล.........ชั้นไม่ได้อิจฉาเธอหรอกคาซึมิ..แค่ไม่อยากเห็นเธอ



    เด่นกว่าก็เท่านั้นเอง......นี่คือคำพูดที่ออกมาจากปากของมากิต่อหน้าไอโกะ....มากิทำตัวเป็นศัตรูกับคาซึมินับแต่นั้นจนวันเสาร์ คาซึมิตัดสิน

    ใจไม่ไปตามที่ค่างเพลงแนะนำ













    “ยัยโง่!!!เธอบ้าไปแล้วเหรอ”  ไอโกะเขย่าแขนเพื่อนแรงๆเป็นการเตือนสติ “เธอบ้าไปแล้ว...ความฝันของเธอไม่ใช่หรือไง...ฟังอยู่หรือเปล่า

    ห๊า...ยัยบ๊องเอ๊ย!!!เธอต้องไปนะ เข้าใจมั้ย?”  









    “ชั้นไม่อยากไป..”  คาซึยะลุกพรวดขึ้นมา เดินตรงเข้าไปหาพี่สาวที่ดูท่าจะไม่ค่อยมีสติก่อนลงมือลากแขนพี่สาวแรงๆ “ทำอะไรของนายน่ะ”









    “พี่ต้องไปเข้าใจมั้ย?ผมไม่ยอมให้พี่มาเสียโอกาสเพราะคนขี้อิจฉาอย่างมากิหรอก..ไม่มีทาง...”  









    “เรื่องของชั้นน่า”









    “พี่รู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังทำให้แม่ของพี่เสียชื่อน่ะ..”  คาซึมิหันไปมองหน้าคาซึยะแววตากร้าว









    “ชั้นมั่นใจในความคิดของชั้นแล้ว นายเลิกพูดสะทีเถอะ”  









    “พี่!!!!!!!!!”  คาซึมิสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของน้องชาย ทั้งสองทะเลาะกันเสียงดังลั่นและหยุดเมื่อได้ยินประโยคของไอโกะ









    “คาซึมิ..ไอ้โง่..โง่มาก..เสียชาติเกิดจริงๆ แกไม่น่าเกิดเป็นลูกแม่แกเลย...แกมันอ่อนแอ..ขี้ขลาด..โง่ที่สุดในโลก”  คาซึมินิ่งขึ้งหันมองหน้าเพื่อนแววตากร้าว





    “ว่าไงนะ...”  







    “ไอ้โง่..ไอ้ขี้ขลาด..”  







    “ชั้นไม่ได้ขี้ขลาด!!ไม่เชื่อคอยดูสิ”  คาซึมิสูดหายใจลึกก่อนเดินผลุนผลันออกไป







    “อ้าว...ไปสะละ”  ไอโกะพูดยิ้มๆ..ก่อนเดินตามเพื่อนออกไป....







    ...และหลังจากนั้นสองพี่น้องก็หายไปจากโรงเรียนและลาออกในที่สุด..ทั้งคู่ตัดสินเรียนการศึกษานอกโรงเรียนที่ถึงจะแพงหน่อยแต่จบแน่นอน..ไอโกะเฝ้ารอดูความสำเร็จของเพื่อนอย่างจดจ่อ เช่นเดียวกับโทมะที่พอเรียนจบชั้นปีก็ไปต่อไฮสคูลที่ต่างประเทศ รายนั้นก็ติดตามข่าวเพื่อนทุกวันเป็นประจำ..จนกระทั่งในวันแรกของฤดูใบไม้ผลิปีต่อมาพวกเขาสองพี่น้องปรากฏตัวอีกครั้งบนจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ใจกลางชิบูย่า....ในนามของนักร้องหน้าใหม่...KAZU...







    ...................................................







    ปึก...







    ร่างบางโยนกระเป๋าลงบนโซฟาตัวโตกลางห้อง วันนี้เป็นอีกวันที่คาซึมิต้องอยู่คนเดียว ร่างบางทิ้งตัวลงกับโซฟาอย่างเหนื่อยอ่อน วันนี้ทั้งวันอยู่แต่ในห้องอัดเสียง..บอกตรงๆว่าเหนื่อย..พอใจในงานตรงนี้มั้ย? พอใจสิความฝันที่อยากจะเป็นเหมือนแม่ ทำไมจะไม่พอใจล่ะ







    “เฮ้ออ..”  ถอนหายใจออกมาก่อนเอื้อมมือไปกดเปิดโทรทัศน์







    ~”ทั้งหมดนี้เป็นเพราะ ทานิงุจิซังทีเดียวเลยนะคะ....”~  คาซึมิยืดตัวตรงทันทีที่ได้ยิน ชื่อของคนแปลกหน้าที่เจอกันเมื่อหลายวันก่อน..ที่คิดถึงทีไรใจก็เต้นแรงทุกครั้ง...ภาพของนาสึในจอทีวียิ่งเพิ่มความสงสัยในเนื้อหาข่าวได้เป็นอย่างดี จนข่าวจบลงนั่นล่ะ ร่างบางถึงรู้สึกและทิ้งตัวพิงกับพนักโซฟาอีกครั้ง







    “เราจะได้เจอกันอีกมั้ย? ทานิงุจิคุง”  มองแก้วลายสวยที่ซื้อมาเมื่อหลายวันก่อนอย่างเหม่อลอย เริ่มขดตัวและหลับไปทั้งชุดนั้น







    .........................................................................





    แก๊ก..แก๊ก..แอ๊ดดด





    ไอโกะเปิดประตูเข้ามาเสียงเบาและจัดการปิดให้อย่างเรียบร้อย





    “แม่คะ หนูหิว”  ฮานะจังบอกผู้เป็นแม่เสียงเบา





    “จ้า..คนเก่งไปอาบน้ำก่อนนะลูก..แล้วออกมาทานข้าวนะจ้ะ”  ก้มลงหอมแก้มลูกสาวเบาๆ





    “ค่ะ..”  รับคำแล้ววิ่งไปหายเข้าไปในห้องนอนทันที ไอโกะเดินไปเปิดสวิตท์ไฟกำลังจะเดินไปวางของที่โซฟาแต่ชะงักเมื่อเห็นหัวทุยๆของ



    เพื่อนซบอยู่กับที่วางแขนหลับพริ้มไม่รู้เรื่องรู้ราว





    “ให้ตายเถอะ..กลับดึกแน่เลยถึงมาหลับคาโซฟาแบบนี้เนี่ย”  บ่นเบาๆก่อนจะวางกระเป๋าลงกับโต๊ะแล้วเขย่าตัวเพื่อนเบาๆ “คาซึมิ!..ตื่นๆ..เฮ้..ตื่นสิ...คาซึมิ!!!ยัยบ้าตื่นเดี๋ยวนี้นะ!!!!”  







    “หือ??”  ผงกหัวขึ้นมาก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง “กลับมาแล้วเหรอ?”







    “ทำไมมานอนอยู่ตรงนี้เนี่ย?บอกกี่ครั้งแล้วให้ไปนอนในห้องตัวเองน่ะ”  เท้าเอวว่าคนที่ยังนอนงึมงำอยู่บนโซฟา







    “ก็มันเพลียนี่”  ลุกขึ้นมานั่ง







    “ไม่ได้อาบน้ำด้วยล่ะสิ”  คาซึมิยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ







    “หิวๆๆ ทำอาหารเช้าให้กินหน่อย”  ไอโกะแทบจะตบหัวคนตรงหน้าให้สลบคามือ...ตื่นมาได้ก็สั่งเชียว





    “เออๆ กลับมาก็ใช้ชั้นเลยนะ”  คาซึมิหาสนใจไม่...จัดแจงเดินเข้าไปในห้องนอนของตนเองแล้วปิดประตูพอเป็นสัญญาณ  “เชื่อเขาเลย”  ส่ายหน้าเบาๆอย่างเหนื่อยใจ







    *****************ชั้นคงทิ้งเธอไม่ได้จริงๆ..คาซึมิ******************







    TALK:::::



    ไม่มีอะไรจะพูดนอกจาก เม้นให้ด้วยนะคะ

    อย่าแอบว่าในใจนะ...มีความเห็นอะไรก็บอกมาเธอ

    อยากรู้ไง...ติกันในใจ เราก็ไม่ตรัสรูหรอกนะ



    ขอบคุรล่วงน้าค่ะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×