คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : อย่าพึ่งถาม !?
หลังจากที่ข้าตาลีตาเหลือกวิ่งหนีลูกไปของท่านอาจารย์กลับไปนอนแล้ว
ข้าก็รีบทำภารกิจส่วนตัวก่อนนอนของข้า แล้วรีบแพคของใช่จำเป็นลงในกระเป๋า
เอ่ออันที่จริงเรียกว่ายัดลงในกระเป๋าดีกว่า 55+ พอจัดการทุกอย่างเสร็จเวลาก็ปาเข้าไปเที่ยงคืนล้ะ
เฮ้อ ข้าต้องรีบนอนก่อนหล่ะ แล้วเจอกันตอนเช้า
+++++++++ เช้าวันต่อมา ++++++++
05.00 น.
“ ว๊ากกกกกกก ” อย่าถามว่าเสียงใคร แน่หล่ะ มันเสียงของข้าเอง
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว
“ ข้าบอกเจ้าว่าไงห๊ะเด็กน้อย เราต้องไปรับภารกิจกี่โมง หึ ? ” ท่านอาจารย์ถามข้า แล้วเลิกคิ้วข้างนึงเป็นเชิงถาม
“ แหะๆ 6 โมงไงท่านอาจารย์ ”
“ แล้วนี่มันกี่โมงแล้วห๊ะ เจ้าก็รู้ว่าสำนักเรามันใกล้กับเมืองหลวงมากแค่ไหน ยังจะมามัวโอ้เอ้อยู่อีก ”
“ ที่พูดมาเนี่ยท่านประชดใช่มั๊ย ? ”
“ เอ่อดิ มันไกลซะขนาดนี้เจ้ายังต้วมเตียมเชื่องช้าอย่างเต่าอยู่อีกไป !รีบไปแต่งตัว เราต้องรีบออกเดินทางกันหน่อยแล้ว ”
“ จ้า ศิษย์ไปหล่ะ ท่านออกไปรอข้างนอกเถอะ ศิษย์จะไปอาบน้ำแต่งตัว ”
“ หืม ? ทำไม? ข้านั่งรอเจ้าในนี้ไม่ได้รึไง ? ” = 0 =
“ ท่านอาจารย์ ศิษย์จะอาบน้ำนะ อาบน้ำๆๆ ท่านต้องออกไปรอข้างนอกสิ ”
“ โห เจ้านี่ ข้าเลี้ยงเจ้ามาตั้งแต่เด็ก อายรึไง ? ดีซะอีกมีหนุ่มหล่ออย่างข้ามานั่งเฝ้าเจ้าอาบน้ำเนี่ย 55+ ”
“ ดีกับผีสิท่านอาจารย์ ไปเลยออกไปได้แล้ว หรือว่าท่านอยากให้การเดินทางล่าช้ากว่านี้ ห๊ะ ! ”
“โด่เรื่องแค่นี้ทำมาอาย ที่เมื่อก่อนยังวิ่งแจ้นมาให้ข้าอาบน้ำให้เจ้าอยู่เลย >3< ”
>//////<
“ ทะ ทะ ท่านอาจารย์ หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ ! >//// < ”
“ ว๊าย ตายแล้วศิษย์ข้าเขินงั้นหรือเนี่ย 55+ ข้าไม่แกล้งเจ้าแล้ว รีบๆไปอาบซะเดี๋ยวจะเดินทางไม่ทันเอานะ^^ ”
“ ท่านก็ออกไปก่อนเซ่ ! ”
“ กล้าขึ้นเสียงใส่ข้าหรอ ข้ามีเวลาให้เจ้า 10 นาทีรีบๆไปแต่งตัวเดี๋ยวนี้ถ้าช้าหล่ะก็ เจอดีแน่ หึหึ ”
ปัง !!!!!
ซวยของจริงหล่ะคราวนี้ ข้ารู้นะว่าพวกเจ้าสงสัยอะไรบางอย่าง ข้าก็เลยจะบอกพวกเจ้าว่า เก็บความสงสัยนั้นไว้ก่อนเถอะ
เพราะถ้าข้ามัวแต่มาตอบคำถามของพวกเจ้า และ สาธยายเรื่องราวต่างๆให้ฟังข้าว่าข้าคงโดนท่านอาจารย์ฆ่าตายแน่
ไว้ว่างๆข้าจะเล่าให้พวกเจ้าฟังล้ะกันนะ ตอนนี้ข้าขอไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะ
“ นี่ท่านอาจารย์ ไหนว่ารีบนักรีบหนาไงหล่ะ ทำไมถึงมัวแต่เดินโอ้เอ้อย่างนั้นหล่ะห๊ะ ! ”
ข้าที่ชักจะอารมณ์บ่จอบกับท่านอาจารย์ที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เดี๋ยวจริงจัง เดี๋ยวหน้าถีบของข้า
เพราะอะไรหน่ะหรอ เหอะ ก็ท่านอาจารย์เนี่ยดิ มัวแต่เดินทอดน่อง ชมนกชมไม้อยู่ ก่อนหน้านี้ยังเร่งข้านักหนา ชิ
“ ซินเนีย เจ้าต้องเข้าใจข้าบ้าง นานๆทีข้าจะได้ออกมาจากสำนักฝึกวิชาอันน่าเบื่อนั่น ไหนๆก็ออกมาแล้ว
ขอข้าเดินเล่นให้สบายอารมณหน่อยล้ะกัน ” แล้วท่านอาจารย์ก็เดินไปเด็ดดอกไม้ที่ขึ้นอยู่ริมทางมาถือไว้
แล้ว เดินร้องเพลงไปอย่างมีความสุข (บนความทุกข์ของข้า ) ว่าแต่เมื่อกี๊ท่านอาจารย์บอกว่า สำนักฝึกวิชา
อันแสนจะน่าเบื่อ ? น่าเบื่อแล้วตั้งทำไมว่ะ ข้าหล่ะกลุ้ม เฮ้อ
“ ท่านเดินแบบนี้เมื่อไหร่จะถึงหล่ะ นี่มันก็จะตีห้าครึ่งแล้วนะ ท่านอาจารย์ เฮ้ย ! ” ท่านอาจารย์หายไปแล้ว
นี่ข้าบ่นให้พวกเจ้าฟังนานขนาดนั้นเลยหรอ ? ไม่ไม่ไม่ ท่านอาจารย์ไม่อยู๋แล้วข้าจะไปเมืองหลวงยังไงหล่ะ
ในชีวิตข้ายังไม่เคยได้เข้าไปในเมืองหลวงเลยสักครั้งนะ โอ่ว ม่ายยยย
“ ท่านอาจารย์ ท่านอาจารย์ ท่านอยู่ที่ไหน ข้าไม่สนุกกับท่านนะ อย่าเล่นซ่อนแอบแบบนี้สิ ! ”
ข้าตะโกนเรียกท่านอาจารย์อยู่นานแต่ก็ไม่เป็นผล หายไปทำไมตอนนี้ว่ะ ตอนที่อยากให้หายไปดันมาอยู่ตรงหน้า
ไอ่ตอนที่ไม่อยากให้หายไปกลับหายไปซะงั้น
ฟุ๊บ
“ เฮ้ย ว๊ากกกกกก ” เฮ้ย ! ทำไมอยุ่ดีดีข้าก็ลอยขึ้นมาซะงั้น ข้ายังไม่ได้สั่งให้เหาะเลยนะ ที่สำคัญ
ทำไมข้ามองอะไรไม่เห็นเลย ข้ารู้สึกเหมือนลมที่พัดมาตีหน้าข้าแรงขึ้น ตัวเอนไปทางซ้ายทีขวาที
สักพักก็หยุดนิ่ง แล้วข้าก็เริ่มจะมองเห็นอีกครั้ง เฮ้ย นี้มันข้างบน ข้ากำลังลอยอยู่ เหมือนกับว่าข้าจะถูกอุ้มอยู่นะ“
“ ว่าไงหล่ะเด็กน้อย ถ้ามาแบบนี้ก็จะได้เดินทางเร็วขึ้นแล้วใช่มั๊ย ?” เสียงนุ่ม ทุ้มที่ฟังดูคุ้นหู แต่ข้าไม่กล้าหันไปหรอกข้า
กลัวตกนี่ >3< แหงหล่ะถึงข้าจะเหาะได้ แต่ถ้าเกิดร่วงลงไป ข้าไม่มั่นใจว่าจะมีสติพอที่จะสั่งเหาะได้รึเปล่า
“ เจ้าเงียบทำไมซินเนีย ? ไม่ตื่นเต้นหรอ อาจารย์สุดหล่อพาเจ้าเหาะทั้งที เฮ้อข้าผิดหวังนะเนี่ย ”
อาจารย์สุดหล่อ อืม เหมือนว่าในชีวิตของข้าจะได้พบเจอกับอาจารย์อยุ่คนเดียวหล่ะมั้งนะ เหอะๆ
“ ท่านอาจารย์ ! ”
“ ก็ใช่หน่ะสิ เจ้าจะตะโกนทำไมเนี่ย เดี๋ยวพวกข้างล่างก็ได้ยินกันหมดพอดี >3 < ” ข้ารู้ว่าตอนนี้แก้มท่านอาจารย์
ของข้ากำลังป่องแบบสมบูรณ์อยู่แน่ แต่นี่ไม่ใช่ประเด็น
“ ท่านหายตัวไปแล้วโผล่มาแบบนี้เนี่ยนะ ข้าหัวใจจะวายตายแล้วท่านรู้มั๊ย ”
ตอนนี้ท่านอาจารย์เอาแขนมาล็อคเอวข้าไว้แล้วให้ข้ายืนอยู๋บนเท่าของท่านอาจารย์ แต่ท่านคงไม่หนักหรอก
ก็แหงหล่ะ ตอนนี้ลอยฟ้าอยุ่นี่
“ 55 ข้าอยากแกล้งเจ้าเล่น อีกอย่างข้ารำคาญเจ้าชอบมาบ่นว่าข้าต้วมเตียมอย่างกับเต่า ”
“ ก็มันจริงนี่ ท่านควรรีบเดินทางไม่ใช่หรือไง ตอนเช้าเร่งข้านักเร่งข้าหนา ”
“ เอาหน่าช่างมัน เจ้าก้มลงไปดูสิตอนนี้เราอยู่ใกล้ๆกับพระราชวังแล้วนะ ”
หืม เร็วขนาดนั้นเชียว ถึงข้าจะเหาะเป็นแต่ก็ไม่เคยลองใช่มันเดินทางดูเลยสักครั้ง
“ ว้าว จริงด้วยท่านอาจารย์ เราใกล้ถึงแล้ว ว่าแต่เราจะลงไปยังไง ? ” ข้าลืมบอกไป ท่านอาจารย์ของข้า
ตอนนี้อยู่ในร่างของหนุ่งหล่อรูปงามเลยหล่ะ แต่หน้าตาหล่อน้อยกว่าข้านะ 55 ผมสีน้ำตาลเข้ม ซอยสั้นประบ่า
นัยน์ตาสี ม่วง แวววาวเหมือนอัญมณีเชียวหล่ะ แต่มีหรือที่จะสู้ข้าได้
สีตาของข้าเรียกได้ว่าต่อให้พลิกอาณาจักรทั้งอาณาจักรหายังหายากเลย แน่หล่ะก็ตาสีแดงนิ
ใครมันจะไปเจอกันได้ง่ายๆหล่ะ >3< เพราะคนส่วนใหญ่มักมีนัยน์ตาสีดำ ไม่ก็สีน้ำตาล
ลองลงมาก็จะมีสีเทา แต่ข้าไม่ชอบเท่าไหร่ มันดูเย็นชายังไงก็ไม่รู้ หายากหน่อยก็สีเหลือง สีส้ม สีเขียว
ยากอีกหน่อยก็สีน้ำเงินและม่วง ซึ่งอย่าคิดว่าข้าไม่เคยเห็นนะ เพราะท่านอาจารย์ชอบแปลงร่างบ่อย และทุกครั้ง
ก็จะเปลี่ยนสีตาไปด้วย แต่ข้าว่านัยน์ตาสีน้ำเงินดูจะลึกลับ ซับซ้อนเอามากๆเลยหล่ะ ดูทรงพลังและมีอำนาจ
ส่วนสีม่วงดูน่าพิศวง อ่านยาก ไม่รู้ว่าคนนั้นคิดอะไรอยู่ อย่างที่เป็นตอนนี้ข้าไม่สามารถรู้ความคิดของอาจารย์ได้
ผ่านจากนัยน์ตาทั้งคู่ของท่านเลย ต่อมา ยากที่สุด 55 ได้แก่สีแดงนั่นเอง มันยากได้ไงข้าก็ไม่รู้ ท่านอาจารย์บอกมา
แค่นี้ แต่พอข้าคะยั้นคะยอถามให้ตายยังไงท่านก็ไม่ยอมบอก เฮ้อ ข้าหล่ะสงสัยจริงเชียวว่ามันจะอะไรหนักหนา กับตาสีนี้
แต่ช่างเหอะ เรื่องหน้าปวดหัวแบบนี้ข้าก็ขี้เกียจจำเหมือนกันหล่ะน่า ตอนนี้ข้าว่ามาหาทางลงไปจากตรงนี้แบบ
ไม่มีใครจับได้ดีกว่า ข้าเคยบอกพวกเจ้าไปแล้วว่า น้อยคนนักที่จะเหาะได้แบบนี้ ถือได้ว่าเป็น 1 ในล้านเลยก็ว่าได้ !!
“ ไม่เห็นต้องคิดมากเลยนี่เด็กน้อย ก็แค่ทำแบบนี้ ”
ฟึบ
- - ;;
เอ่อ ทะทะ ท่าอาจารย์ ท่านช่างกล้า
“เฮ้ย ท่านอาจารย์ ! ลงมาแบบนี้ก็มีคนเห็นหมดหรอกท่าน ! ”
ข้าพูดเตือนท่านอาจารย์ผู้แสนจะบ๊องๆของข้า ข้าบอกแล้วว่า 1 ในล้าน แบบนี้ก็เป็นเป้าสายตาแย่สิ
“ 555+ เจ้าบ้าเอ้ย เจ้ามาเป็นศิษย์ของข้าได้ไงเนี่ย เฮ้อ เจ้ามองดูดีดี แถวนี้มันมีคนมั๊ยหล่ะห๊ะ ! ”
เอ๊ะ ข้าก็กำลังดูอยู่นี่ไง เอ่อ.. เหมือนข้าจะกังวลกับคำว่า 1 ในล้านมากไปจนลืมสังเกตว่ารอบข้างตอนนี้ยังไม่มี
ผู้คนเนื่องจาก ตรงที่ลงจอดเทียบท่า ? เป็นหน้าประตูวังเลยไม่ค่อยมีผู้คน อีกอย่างเวลาประมาณนี้ส่วนใหญ่คนเขามักจะไปตลาดกัน เฮ้อ เพราะข้าได้ท่านอาจารย์บ๊องๆ ต๊องๆนี่เป็นอาจารย์ไง ข้าเลยทั้งบ๊องทั้งต๊องแบบนี้ ><
“ 55+ ไม่มีสักคน ข้าว่าเรารีบเขาไปกันเถอะ ” เปลี่ยนเรื่องด่วน ก่อนที่ข้าจะโดนด่ายับ
“ หึ เด็กยังไงยังไงก็คือเด็ก ” - -++ ข้าได้ยินนะ ชิ แต่ดูเหมือนท่านอาจารย์ก็ตั้งใจพูดให้ข้าได้ยินนั่นหล่ะ
พอทหารยามเห็นหน้าท่านอาจารย์ ไม่เพียงแต่ขุกเข่าทำความเคารพ ยังจะวิ่งไปเอบพรมแดงมาปูให้เป็นทางเดินด้วยซ้ำ
แหงหล่ะ มันแปลกอยู่นะ ทำไมถึงได้เคารพท่านอาจารย์ขนาดนี้ คำถามข้อแรกยังไม่กระจ่าง ข้อที่สองก็ตามกันมาติดๆ
“ ยินดีต้อนรับกลับวัง พะยะคะองค์ชายเมอล์เรย์ ” OoO
วะ วะ วะ ว่าไงนะ องค์ชายงั้นหรอ ? ข้าที่กำลังอึ้งกิมกี่กับสัพท์นามที่ทหารองค์รักษ์คนนั้นใช้เรียกท่านอาจารย์
แต่เจ้าตัวเนี่ยดิ กับไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเลย หรือว่าจะเป็นเรื่องจริง
กึก กึก (เสียงที่ซินเนียกระตุกแขนเสื้อของอาจารย์)
“ หืม ว่าไงเด็กน้อย ? ” ยังจะมา หืม มา แหอีกนะ
“ หมายความว่ายังไงที่ทหารพวกนั้นเรียกท่านว่าองค์ชาย ” ข้าถามท่านอาจารย์ขณะที่พ้นสายตาเทิดทูล
ของทหารคนนั้นมา ตอนนี้เรากำลังเดินไปตามพรมแดงที่ทหารยามคนนั้นระเห็จไปเอามาปูให้เดิน
ซึ่งทางที่ไปคาดว่าน่าจะเป็นทางไปยังท้องพระโรง ที่ประทับของพระราชา
“ ก็หมายความตามนั่นแหละ มันก็ออกจะชัดนี่ ”
“ ชัด ? ชัดอะไรยังไงตรงไหนมิทราบห๊ะ ท่านอาจารย์ ท่านไปเป็นองค์ชายได้ยังไง ? ”
“ ไว้จะเล่าให้ฟัง ตอนที่กลับไปถึงสำนัก เจ้าอย่าลืมสิว่าตอนนี้เรามาที่นี่ทำไม ”
“ โห ท่านกะจะให้ข้าเอาความสงสัยที่ยิ่งใหญ่นี้โยนทิ้งเลยงั้นหรอ ? ”
“ ไม่ขนาดนั้นแค่เก็บเอาไว้ก่อน แล้วข้าจะเล่าให้เจ้าฟังทั้งหมดที่เจาอยากรู้ ”
“ ท่านแน่ใจนะ ? ” ____ “ เจ้าเห็นอาจารย์คนนี้เป็นคนยังไงห๊ะ แน่สิข้ารักษาสัญญาเสมอ ”
“ ข้าก็เห็นท่านเป็นอาจารย์ที่ติงต๊อง บ๊องๆคนนั้นก็เท่านั้น ” คริคริ ได้ทีแกล้งวะหน่อยดีกว่า
ข้ายังไม่ได้แกล้งอาจารย์เลยตั้งแต่เช้า ดูดู คิ้วท่านอาจารย์กระตุกถี่ยิบเลย
“ ไว้กลับไปที่สำนักก่อนเถอะซินเนีย ที่นี่ยังไม่ได้ ข้ายังไม่อยากเสียภาพพจน์ ”
“ โอ้โห เดี๋ยวนี้กลัวเสียภาพพจน์ด้วยหรอ ? ข้าว่าท่านไม่มีภาพพจน์ให้เสียตั้งแต่แรกอยุ่แล้ว ”
“ นี่เจ้าว่าไงนะ วันนี้ข้าอุตส่าพาเจ้าบินมาเลยนะ ไม่ขอบคุณไม่พอยังว่าข้าอีก ”
“ ข้าเปล่าว่าท่านนะ ข้าแค่พูดตามเนื้อผ้าเท่านั้น ”
“ กลับไปเจ้าได้กินลูกไปข้าเป็นอาหารแน่ ซินเนียไอ่เด็กบ้า ” 555+ อูย เหมือนจะเล่นเยอะเกิน
สงสัยต้องง้อสักหน่อย ข้ายังอยากอิ่มื้องเพราะข้าวอยู่ พวกเจ้าคงไม่คิดว่าถ้ากินลูกไฟแล้ว
มันจะอิ่มกว่ากินข้าวหรอกใช่มั๊ย ?
“ ท่านอาจารยือย่างอนข้าสิ ” ข้าอ่านแววตาไม่ออก แต่ก็ฟังได้จากน้ำเสียงข้ารู้ว่าท่านงอนข้าอยู่
ถึงสีหน้า นัยน์ตา ท่าทางจะเรียบเฉยก็เหอะ ข้าพึ่งรู้นะเนี่ย ว่าท่านอาจารย์วางมาดเบบนี้ก็เป็น กับเข้าด้วย
“ ข้าไม่ได้งอนเจ้า แค่แค้นนิดหน่อย พอแค่นี้เถอะ ถึงท้องพระโรงแล้ว ”
· ท้องพระโรง
ข้ากับท่านอาจารย์ก้าวขาเข้ามาในท้องพระโรง โดนที่ท่านอาจารย์เดินนำอยุ่ข้างหน้า
มีบุคคลที่คาดว่าน่าจะเป็นพระราชานั่งอยู่ตรงบัลลัง สีพระพักตร์ดูยิ้มแย้มสดใส นัยน์ตาสีฟ้าทอประกายดีใจและอ่อนโยน
ผมสีดำสนิท พลิ้วไหวไปตามสายลมที่พัดเข้ามาทางบานหน้าต่าง ดูท่าพระราชาคงจะใจดีมากๆเลย
ท่านอาจารย์และข้าหยุดอยู่ตรงหน้าบัลลัง พร้อมกับโค้งทำความเคารพ
“ มาแล้วหรอ เมอล์เรย์ เจ้าจากไปนานมาก ข้าคิดถึงเจ้าที่ซู้ดด มามะมาให้พี่คนนี้แกล้งเจ้าวะดีดี ”
แป่ว ไหงพระราชาต๊องขนาดนี้เนี่ย
“ ท่านพี่ ท่านลืมไปแล้วหรือว่าท่านอยู่ในฐานะอะไร ” ท่านอาจารย์ทำเสียงโหดดุคนตรงหน้า
ทั้งๆที่ความจริงตัวเองก็เป็นแบบนี้ออกบ่อย
“ ชิ เจ้าน้องบ้าเจ้ายังดุไม่เปลี่ยนเลยนะ แล้วนั่นใครกัน หน้าตานารักไม่เบาเลยนะ ขอข้ากอดหน่อยเถอะ ”
ห๊ะ ซะ ซะ ซวยแล้ว องค์ราชาตรงมาทางนี้แล้ว ทำไงดีอ่ะ
5 ก้าว 4 ก้าว 3 ก้าว 2 ก้าว และ
หมับ !
“ ท่านพี่ นั่นเป็นศิษย์ของข้าเอง ท่านหยุดอยู่ตรงนั้นแหละ ถ้าท่านยังดึงดันเข้าใกล้เด็กนั่นอีก ”
ท่านอาจารย์ตีหน้าโหด ตามบทท่านคงจะขู่องค์ราชาโดยการไม่รับภารกิจ 55+ ใช่แน่ๆ
“ ข้าจะไปทำลายโมเดลหุ่นกระป๋องกิ๊กก๊อกของท่านให้หมดเดี๋ยวนี้เลย ” นั่น วันนี้ข้าอึ้งมากี่รอบแล้ว
พวกเจ้าพอจำได้บ้างหรือเปล่า ไอ่คนที่ข้าเรียกว่าอาจารย์เนี่ย ตีหน้าโหดเสียงโหดก็จริง แต่สติปัญญา
และความคิดยังต๊องอันดับ 1 (ถ้าไม่รวมพระราชานะ )
“ นี่เจ้ากล้าขู่องค์ราชาอย่างข้าหรอ หึข้าไม่ยุ่งกับเด็กนี่ก็ได้ หวงยังกับลูกตัวเองงั้นแหละ ”
โอ่วม่ายยยย อย่าให้ข้าเป็นลูกของท่านอาจารย์เลย ข้ายังไม่อยากเข้าโรงพยาบาลบ้าตอนนี้
“ หึ แหงหล่ะเด็กนี่มีข้าคนเดียวเท่านั้นที่จะแกล้งมันได้ ข้าเลี้ยงมันมากับมือเลยนะ ”
“ ท่านอาจารย์ ข้าควรซึ้งใจหรือเสียใจดีที่ท่านปกป้องข้าเอาไว้แกล้ง ” ข้าถามออกไปทั้งอย่างนั้นหล่ะ
ไอ่เราก็นึกว่าท่านอาจารย์เป็นห่วงที่ไหนได้ ปกป้องเพื่อแกล้ง
“ ขอประทานอภัย แต่ท่านทั้งสองคนจะเสวนาธรรมกันตรงนี้อีกนานมั๊ยพระเจ้าค่ะ”
ข้าชักหมดความอดทน
“ หึหึ เมอล์เรย์ ศิษย์เจ้าดูจะไม่เกรงกลัวข้าเลยนะ แต่ช่างเถอะ เรามาคุยเรื่องสำคัญกันดีกว่า ”
แล้วพระองค์ทำตัวให้หน้าเกรงกลัวบ้างมั๊ยหล่ะ เฮ้อ
“ อืม ” ตอบแค่เนี่ยหรอท่านอาจารย์ ข้าหันไปมองหน้าท่านอาจารย์แบบปลงๆ ท่านอาจารย์หันมาเลิกคิ้วให้ข้า
แล้วยิ้มออกมาน้อยๆ เหอะๆ กลับไปมีเรื่องต้องเคลียร์อีกยาว ไหนจะเรื่องฐานะ ไหนจะเรื่องอายุ อีกนี่ข้าโดนหลอก
ใช่มั๊ยเนี่ย !
............................................
วันนี้มาอัพอีกตอนแล้ว อ่านแล้วเม้นด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็น