ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Danger Lover [SuJu & TVXQ Fan Fiction YAOI]

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 6 : Work

    • อัปเดตล่าสุด 31 มี.ค. 52



    ฉันเลือกที่จะไป...

    ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะต้องไปจากชีวิตนาย

    ไม่ว่าตัวฉันจะอยู่ห่างนายมากแค่ไหน...แต่ใจฉันยังอยู่กับนายเสมอ!




    Chapter 6

     

                ทงแฮไขประตูห้องพักเข้ามาอย่างเคยชิน ภายในห้องพักมืดสนิท บ่งบอกให้รู้ว่ารูมเมทรุ่นพี่ของเขายังไม่กลับเข้ามา เขาสาวเท้าตรงไปที่ห้องตนเอง แต่ก็ต้องชะงักเท้า เมื่อสังเกตเห็นแสงไฟลอดออกมาใต้ประตูห้องของอีทึก

                พะ...พี่อีทึกครับ! นั่นพี่อยู่ข้างในรึเปล่า!?ทงแฮกลืนน้ำลายแล้วเปล่งเสียงถามอย่างกล้าๆกลัวๆ

                นั่นทงแฮเหรอ!? เข้ามานี้หน่อยสิ เสียงตอบรับดังออกมาจากด้านในบานประตู

                ให้ผมเข้าไปหาในห้องเหรอครับ!?ทงแฮทำหน้าไม่อยากเชื่อ

                ใช่! มาเร็วๆด้วย อีทึกตะโกนเร่ง ทงแฮค่อยๆเดินเข้าใกล้ประตูห้องของรูมเมททีละนิด ชั่งใจอยู่นานกว่าจะเอื้อมมือไปเปิดมันออก

                ภาพห้องนอนขนาดกลางตกแต่งด้วยสีเอิร์ธโทนปรากฏสู่สายตา เฟอร์นิเจอร์หลายชิ้นเหมือนกับห้องของเขา แต่สิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจนที่สุด คือความเป็นระเบียบและความสะอาดตา

                อึ้งอะไรอยู่ทงแฮ? แปลกใจที่ห้องฉันมันธรรมดากว่าที่นายคิดรึไง? อีทึกพูดแทรกขึ้นมา ดึงสายตาของทงแฮให้กลับมาที่เจ้าของห้อง

                อืม ใช่ครับ พี่ห้ามใครเข้าเด็ดขาดขนาดนั้น ผมเลยผิดหวังนิดหน่อยที่เข้ามาแล้ว มันธรรมดายิ่งกว่าห้องผมซะอีก

                ความจริงแล้ว มันก็ไม่ธรรมดาหรอกนะ ที่ฉันสั่งห้ามใครเข้า เพราะเป็นห่วงหรอก

                เป็นห่วง? เรื่องอะไรครับ? อีทึกทำหน้าขรึม มองไปรอบๆห้อง แล้วทำเสียงชวนขนลุก

                ก็ห้องนี้...ไม่ได้มีแค่ฉันอยู่น่ะสิ ทงแฮทำหน้าเหวอ

                หมายความว่ายังไงฮะ ไม่ได้อยู่คนเดียว? ทงแฮเริ่มใจคอไม่ดี ขยับเข้าใกล้เจ้าของห้องมากขึ้น

                ก็...ห้องนี้ มีผีสิง!”

                พี่ต้องล้อเล่นแหง!” ทงแฮยิ้มเฝื่อนๆ แววตาแสดงถึงความหวาดหวั่นชัดเจน เจ้าของห้องส่ายหัว นัยน์ตาสีดำขลับมองไปยังอากาศว่างเปล่าข้างทงแฮ

                ยะ..อย่าบอก...ว่าเขาอยู่...ข้างๆผม ทงแฮกล่าวตะกุกตะกัก ไม่กล้าหันมองข้างกาย อีทึกพยักหน้ารับเบาๆ ทงแฮเริ่มเบ๊ะปาก พริบตาเดียวร่างเล็กก็ปลิวมานั่งข้างๆอีทึก พร้อมหลับตาปี๋ เจ้าของห้องลอบยิ้ม

                ฉันล้อเล่นน่ะ ทงแฮ ห้องนี้ไม่มีอะไรหรอก

                ...พี่พูดจริงรึเปล่า? อีกฝ่ายถามอย่างไม่มั่นใจ

                จริงสิ ฉันเห็นนายคาดหวังอยากเห็นอะไรลึกลับในห้องฉัน ก็เลยจัดให้ อีทึกหัวเราะขำๆ ส่วนทงแฮถอนหายใจขยับตัวกลับไปนั่งที่เดิม แต่ก็ยังอดระแวงไม่ได้

                พี่ไม่น่าแกล้งผมเลย ทงแฮพูดน้ำเสียงงอนๆ

                ฉันไม่ง้อนะจะบอกให้ อีทึกพูดดักคอ ทงแฮพ่นลมหายใจพรืด

                ...แล้วพี่เก็บกระเป๋าจะไปไหนฮะ?

                นั่นแหละ เรื่องที่ฉันเรียกนายเข้ามาคุยอีทึกพับเสื้อผ้าใส่กระเป๋าอย่างไม่รีบร้อน ทงแฮมองพี่ชายต่างสายเลือดอย่างรอคำตอบ

                ...ฉันจะไปทำธุระฯนานหน่อย ไม่รู้ว่าจะกลับเมื่อไหร่ อาจจะอาทิตย์นี้ อาทิตย์หน้า หรือเดือนหน้า ระหว่างที่ฉันไม่อยู่ ฉันอยากให้นายดูแลตัวเองให้ดีๆ

                พี่จะทิ้งผมเหรอ? ทงแฮเริ่มทำหน้าเศร้า อีทึกถอนหายใจ ...การจากลาเป็นสิ่งที่น่าเศร้า เขาไม่ถนัดเลยที่จะบอกลาใครสักคน แบบนี้...

                ฉันไม่ได้ทิ้งนาย ฉันกลับมาแน่ เพียงแต่ไม่รู้เวลาที่แน่นอน...นายไม่ต้องกลัวเหงา ฉันฝากให้ฮีชอลดูแลนายแล้ว พอได้ยินชื่อฮีชอล ทงแฮก็เปลี่ยนโหมดแทบจะทันที

                อะไรนะฮะ!? พี่ให้พี่ฮีชอลมาดูแลผมเหรอ!? ให้ผมอยู่คนเดียวยังจะปลอดภัยกว่าอีก!” ทงแฮทำหน้าเซ็ง

                ไม่ขนาดนั้นมั้งทงแฮ

                โหยย! พี่ไม่รู้อะไร แม่มดใจร้ายในนิทานทุกเรื่องที่ผมเคยรู้จักรวมกันยังโหดร้ายไม่เท่าพี่ฮีชอลเลย!” ทงแฮกล่าวอย่างดุเดือด อีทึกหัวเราะขันๆ

                พี่อีทึกต้องรีบกลับมานะครับ ทงแฮทำหน้าอ้อน

                ได้ แต่นายต้องสัญญาก่อน ว่ามีอะไรจะต้องบอกฮีชอลทันที แล้วก็เชื่อฟังฮีชอลด้วย

                ...สัญญาครับ ทงแฮสัญญาอย่างขัดไม่ได้

                งั้นตามนี้ ...เอาล่ะ ไปหาข้าวกินกัน หิวแล้ว อีทึกรูดซิปกระเป๋าเดินทาง แล้วลากทงแฮตามออกไป

     

     

     

     

     

                รถยนต์สีดำความปลอดภัยสูง ขับผ่านประตูรั้วสีทองตระหง่านเข้าสู่คฤหาสน์หลังงาม ในยามสายของวันใหม่ อีทึกมองระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลในใจเงียบๆ

                เขาก้าวลงจากรถ เมื่อพาหนะสีดำแข็งแรงจอดเทียบหน้าคฤหาสน์ อีทึกกวาดตามองคฤหาสน์กว้างสวยงาม ด้านหน้ามีรูปปั้นสิงโตสวยสง่าอยู่หนึ่งคู่ขนาบประตูทั้งสองด้าน มือเรียวรับกระเป๋าจากเยซองทั้งๆที่อีกคนบอกว่าจะช่วยถือ แต่ผู้เป็นเจ้าของกลับปฏิเสธ เยซองไม่ได้ขัดอะไร เดินนำแขกคนสำคัญไปที่ห้องประชุมเล็ก

                อีทึกกวาดสายตามองไปรอบๆ ภายในห้องมีแค่ฮันกยอก คิบอม เยซองและเขาเท่านั้น ห้องนี้มีขนาดเล็กกว่าห้องนอนของเขานิดหน่อย มีโต๊ะไม้ยาววางอยู่ตรงกลาง และเก้าอี้เข้าชุดกับโต๊ะ อีกหกตัว ผนังด้านข้างด้านหนึ่งถูกบุด้วยหน้าต่างบางใหญ่ความสูงเท่าผนัง มีผ้าม่านสีน้ำเงินเข้มปิดไว้อีกชั้น เมื่อต้องการความเป็นส่วนตัว นอกจากนั้นก็ยังมีโทรทัศน์ขนาดเล็ก พร้อมเครื่องเล่นอยู่ที่มุมห้องด้วย

                นั่งสิ ฮันกยอกผายมือไปยังที่นั่งว่างๆที่เหลืออยู่ อีทึกเลือกที่จะนั่งตรงข้ามกับฮันกยอก ร่างสูงยกยิ้มที่มุมปากน้อยๆ

                ขอกระเป๋าด้วย อีทึกขมวดคิ้วชักสีหน้าเล็กๆ แต่ก็ทำตามโดยไม่ต้องให้ขอซ้ำ มือบางผลักกระเป๋าส่งให้ผู้ขอ กระเป๋าเดินทางขนาดกลางสีดำสนิทถูกหยุดการเคลื่อนไหวด้วยฝ่ามือหนาของฮันกยอก ร่างสูงส่งมันให้กับเยซอง ผู้รับจัดการเปิดทุกซอกทุกมุมของกระเป๋า และเทข้าวของออกมากองบนโต๊ะแบบไม่เกรงใจเจ้าของ

                ข้าวของทุกชิ้นถูกสำรวจอยู่ต่อหน้า แต่อีทึกก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไร นอกจากชักสีหน้าใส่ด้วยความไม่พอใจบ้างที่คุ้ยข้าวของจนเละ แค่อึดใจเยซองก็เก็บข้าวของ หรือเรียกอย่างง่ายว่า ยัด คืนลงกระเป๋า   

                ไม่มีอะไรน่าสงสัย ข้าวของที่เอามามีเฉพาะเสื้อผ้า กับของใช้จำเป็นง่ายๆสองสามอย่าง

                คิบอม ค้นตัวสิ สิ้นคำสั่งฮันกยอก อีทึกก็ขยับลุก

                ต้องทำกันขนาดนี้เลยรึไง!?

                เพื่อความปลอดภัย ถ้านายบริสุทธิ์ใจจริง ก็ไม่มีอะไรน่าห่วง ฮันกยอกขยับยิ้มเยาะ ช่างน่าแปลกที่ยิ้มนั้นไม่ได้ดูน่าเกลียด แต่กลับทำให้ใบหน้าคมคายมีเสน่ห์ขึ้นอย่างร้ายกาจ อีทึกไม่โต้ตอบ ปล่อยให้คิบอมตรวจหาอาวุธที่คิดว่าเขาพกติดตัวมาแน่ๆ ภายไปเพียงครู่ ผู้ค้นก็ส่ายหัวเบาๆ

                ไม่มีอาวุธ เขาพูดแล้วเดินกลับมานั่งที่เดิม ฮันกยอกขมวดคิ้ว แววตาฉายแววผิดหวังอยู่น้อยๆ

                น่าแปลกใจชะมัด ที่นักฆ่าไม่พกอาวุธคู่กายมาด้วย

                ฉันบอกนายแล้วไง ว่าฉันไม่ใช่ อีทึกบอกเอือมๆ ขยับยิ้มนิดๆ

                ฉันก็บอกนายแล้วเหมือนกัน ว่าฉันไม่เชื่อ ฮันกยอกล่าวตอบพร้อมรอยยิ้มมุมปากเช่นกัน

                เอาล่ะ ฉันจะแนะนำอย่างเป็นทางการ ในฐานะที่พวกนายจะต้องทำงานด้วยกัน...นี่คิบอม มือขวา และนี่ก็เยซอง มือซ้ายของฉัน ผู้ถูกกล่าวถึงก้มศีรษะทักทาย อีทึกก้มศีรษะทักทายตอบ

                แนะนำตัวสิ ฮันกยอกผายมือบอกให้เริ่มได้

                ปาร์ค จองซู...เรียก อีทึก ก็ได้ ฮันกยอกเลิกคิ้วประหลาดใจ

                สั้นดีนะ...เอาล่ะ งานของนาย คือ เป็นการ์ดประจำตัวของฉัน ถ้าฉันเป็นอะไรไปแม้ปลายก้อย นั่นหมายถึง นายทำงานผิดพลาด

                แล้วจะให้ฉันเรียกนายว่าอะไร? แล้วก็สองคนนี่ด้วย?

                ฉันมีชื่อเรียกหลายชื่อ นายใหญ่ ท่านประธาน หรือนายท่าน แล้วแต่นายสะดวก อ้อ! และขึ้นอยู่กับกาลเทศะหรือความเหมาะสมด้วย ส่วนสองคนนี่ก็เหมือนกัน ปกติแล้วก็เรียกชื่อธรรมดา

                รับทราบ

                ยังมีอีกหลายคนที่นายต้องรู้จัก ไว้ฉันจะแนะนำให้ทีหลัง ตอนนี้ฉันจะพาไปที่ห้องของนายฮันกยอกหยิบกระเป๋าของอีทึก โยนคือให้เจ้าของ ร่างบางรับมันไว้ในอ้อมกอดได้อย่างแม่นยำ

                คิบอม เยซอง ตามตัวสองคนนั้นให้กลับมาทานข้าวเย็นที่บ้านด้วย ฮันกยอกเอ่ยบอกทิ้งท้าย ก่อนจะก้าวนำบอดี้การ์ดคนใหม่ออกไป

     

     

     

     

     

                สวัสดีครับ ท่านประธานชอง ซองมินยิ้มทักทายอย่างอารมณ์ดี

                สวัสดีครับ ท่านประธานลี ยุนโฮยิ้มทักทายตอบ

                โถ่! พี่ยุนโฮครับ เรียกผมแบบนี้ ผมก็แก่แย่เลยสิครับเนี้ยซองมินพูดพร้อมหัวเราะ

                ก็คุณซองมินเรียกพี่ว่าท่านประธานก่อนนี่ครับ ยุนโฮแก้ต่าง

                ครับๆ พี่ยุนโฮ ต่อไปผมจะไม่เรียกแล้วครับ ซองมินทำท่ายอมแพ้

                แล้วประธานฮันไม่ว่างเหรอครับ คุณซองมินถึงได้มาถึงนี้ใบหน้าหวานเกินชายของซองมิน ง้ำงอขึ้นทันทีที่อีกฝ่ายถามถึงพี่ชาย

                ครับ! คนโปรดเขาเพิ่งกลับมา คงโอ๋กันอยู่ เลยให้ผมมาแทนยุนโฮยิ้มเจื่อน รู้ตัวว่าชวนสนทนาผิดเรื่องเสียแล้ว

                งั้น พี่ว่า เราไปดูช่างอัญมณีคัดเกรดเพชรดีกว่าครับ ยุนโฮเปลี่ยนเรื่อง เดินนำซองมินเข้าไปในห้องปฏิบัติการ นักอัญมณีฝีมือดีหลายคนกำลังเพ่งพินิจพิจารณาอัญมณีหลากสีหลากชนิดที่วางเกลื่อนอยู่บนโต๊ะกลาง

                นั่นชิม ชางมิน นักอัญมณีมือหนึ่งของเราครับ คอเล็กชั่นเด่นๆ เขาจะเป็นคนคัดเลือกชนิดอัญมณีเองยุนโฮให้ข้อมูลแล้วลอบถอนหายใจ เมื่อเห็นทีท่าของซองมินเลิกคิดเรื่องชวนอารมณ์เสียเมื่อครู่ มาให้ความสนอกสนใจกับอัญมณีสวยงามแวววาวตรงหน้าแทนเสียแล้ว

                ว้าว! แต่ละเม็ดสวยๆทั้งนั้นเลยนะครับเนี้ย!” ซองมินทำตาโต นัยน์ตากลมวาวระยับอย่างสนใจ

                อัญมณีของเราคุณภาพเยี่ยมทั้งนั้นครับ พวกที่เกรดต่ำลงไป เราก็จะขายเป็นเม็ดในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป ถ้าเอาเข้าเรือนแล้วจะไม่คุ้มน่ะครับ ยุนโฮชี้แจงต่อ เมื่อร่างเล็กทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจ ทั้งคู่เดินผ่านห้องปฏิบัติการจนทะลุมาถึงห้องจัดแสดงโชว์

                ทำงานกับของสวยๆงามๆราคาแพงๆอย่างนี้ คงต้องระมัดระวังตัวพอดูนะครับ โจรสมัยนี้ยิ่งน่ากลัวอยู่ด้วยซองมินพูด พร้อมกับเดินเปลี่ยนไปดูตู้โชว์เครื่องประดับในคอเล็กชั่นต่างๆ

                ใช่ครับ เรามีระบบความปลอดภัยสูง กระจก หน้าต่างและประตูกันกระสุนทั้งหมด ผนังนี่ก็หนาพิเศษ กล้องวงจรปิด เราก็ติดกันแทบทุกเมตรเลย เวรยามก็เดินกันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยยุนโฮเคาะกระจะตู้โชว์อัญมณีเบาๆ

                แต่มันก็คุ้มครับ ปากหยักยกยิ้มน้อยๆ เดินนำหุ้นส่วนคนสำคัญไปยังตู้โชว์เครื่องเพชรหลากรูปแบบ

                ขอโทษครับ เสียงทุ้มดังขึ้นด้านหลังเรียกความสนใจจากผู้ที่กำลังดูเพชรทั้งสอง

                พี่เยซอง มาทำอะไรที่นี้ฮะ? คิ้วเรียวเลิกขึ้นสูง ก้าวสองสามก้าวก็เข้าถึงตัวพี่ชายคนสนิท

                ...ท่านประธานให้ผมมาบอกนายน้อยว่า เย็นนี้ให้นายน้อยกลับไปทานข้าวที่บ้านด้วยครับ เยซองกล่าวด้วยวาจาสุภาพตามหน้าที่ ซองมินชักสีหน้าเล็กน้อย

                จ้างผมก็ไม่กลับไปหรอก เว้นเสียแต่ว่า ไอ้โจวนั่น จะไม่มาร่วมโต๊ะกับเรา!” เยซองถอนหายใจเบาๆ แต่สีหน้ายังคงเรียบเฉยตามเดิม ยุนโฮรู้ตัวว่าเขาไม่สมควรจะยืนร่วมวงสนทนา จึงเอ่ยปากขอตัวไปรอที่ห้องปฏิบัติการ เยซองจึงเลิกแกล้งสำรวมสุภาพตามหน้าที่

                ซองมิน! ไม่เหมาะเลยนะที่เราจะพูดแบบนั้น เย็นนี้พี่ชายเรามีคนแนะนำให้รู้จัก วงหน้าขาวเบนหันกลับมาจ้องคนพูด

                ใครฮะ?

                เย็นนี้ที่โต๊ะอาหาร ได้รู้แน่นอน

     

     

     

     

                ภายในห้องคาราโอเกะย่านใจกลางเมือง แต่ละห้องมีความกว้างแค่ 10 ตารางเมตร ตกแต่งด้วยโทนสีครีม มีประตูเข้าออกเพียงประตูเดียว ตรงกลางคือโต๊ะยาวตัวใหญ่ และสุดปลายโต๊ะ คือโทรทัศน์เครื่องใหญ่ พร้อมเครื่องเล่น บนเพดานติดลูกไฟดิสโกเอาไว้  มีโซฟาบุหนังตัวใหญ่ตั้งชิดผนังห้องทั้งสามด้าน บนโซฟานั้น มีชายหนุ่มหน้าตาคมคายกับลูกน้องชุดดำนั่งโซฟาซีกขวาติดประตูทางเข้า และชายวัยกลางคน ร่างท้วมตาตี่ กับลูกน้องอีกสอง นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

                ชายหนุ่มผิวขาวพยักหน้าให้ลูกน้องที่นั่งอยู่ข้างๆ ผู้รับคำสั่งหยิบกระเป๋าเอกสารสีดำส่งให้ ชายหนุ่มวางมันไว้บนโต๊ะ ชายร่างท้วมที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามนั่งยิ้มกริ่มอย่างอารมณ์ดี กระดิกนิ้วสั่งลูกน้องในโอวาทเพียงอึดใจเดียว กระเป๋าเอกสารแบบเดียวกันก็ถูกนำมาวางบนโต๊ะ

                ทั้งสองขยับแขนดันกระเป๋าของตนให้อีกฝ่ายพร้อมๆกันอย่างรู้หน้าที่ เมื่อได้รับกระเป๋า ต่างก็ปลดล็อก และสำรวจของที่บรรจุด้านใน

                ของที่บรรจุอยู่ในกระเป๋าของชายหนุ่ม คือ ธนบัตรสกุลดอลล่าสหรัฐ ชายหนุ่มสุ่มหยิบปึกธนบัตรที่วางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเต็มกระเป๋าขึ้นมาปึกหนึ่ง พร้อมส่งให้ลูกน้อง ผู้รับคำสั่งเอื้อมมือมารับพร้อมทำการพิสูจน์ว่าเป็นของจริงหรือไม่ เพียงอึดใจเดียวลูกน้องคนเดิมก็ส่งธนบัตรคืน และรายงานผลว่าธนบัตรนั้น เป็นของจริง

                ส่วนของที่บรรจุอยู่ในกระเป๋าของชายร่างท้วม คือ ซองใสด้านในบรรจุผงสีขาวสามห่อใหญ่ ชายร่างท้วมส่งให้คนสนิทห่อหนึ่งเพื่อทำการพิสูจน์เช่นกัน ผู้รับคำสั่งบรรจงแกะห่ออย่างระมัดระวัง แต่เพราะความชำนาญ งานจึงไม่เยิ่นเย่อจนน่าหงุดหงิดใจ

                ผงสีขาวถูกแบ่งใส่จานกระดาษที่เตรียมมาไม่ถึงหนึ่งกำมือ *น้ำยาสีขาวใสบรรจุขวดแก้วเล็ก ถูกหยดลงบนนั้น เพียงครู่เดียว ผงสีขาวที่ถูกละลายจากน้ำสีใสก็แปรเปลี่ยนกลายเป็นสีม่วงเข้มอย่างน่าอัศจรรย์  ชายร่างท้วมยิ้มกว้างกว่าเดิมจนตาตี่นั้นปิดมิด

                ไม่ผิดหวังที่ทำการค้ากับราชสีห์ ของๆคุณ คุณภาพเยี่ยมเสมอ ชายร่างท้วมเชื้อชาติจีนกล่าวด้วยภาษาจีนกลางบ้านเกิด ชายหนุ่มโค้งศีรษะให้ผู้สูงวัยกว่า พร้อมยกยิ้มนิดๆ

                ขอบคุณที่วางใจเรา ทางราชสีห์ก็ยินดีมากเช่นกัน คุณเฉินเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่ซื่อตรงและน่าทำธุรกิจด้วยมากๆ หวังว่าเฮโรอีน 60 กิโลกรัม จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของธุรกิจของเราเขาเอ่ยตอบด้วยภาษาเดียวกันกับผู้ถามอย่างไม่ติดขัดหรือเคอะเขิน

                ฮ่าฮ่า เยี่ยมๆแหม เข้าใจพูดจริงๆ ว่าแต่ ทำไมถึงเป็น 60 ล่ะ ทางเราออเดอร์ของไปแค่ 50 ไม่ใช่เหรอ? ชายร่างท้วมเอ่ยถาม หากแต่สีหน้ามิได้แสดงถึงความสงสัยข้องใจใดๆ

                ครับ อีก 10 กิโลฯนั้น ถือเป็นของกำนัลเล็กๆน้อยๆจากราชสีห์ ที่คุณเฉินตกลงร่วมทำธุรกิจกับเราอีกฝ่ายหัวเราะชอบใจ

                ฮ่าฮ่า ฉันไม่เคยเห็นเจ้าไหนใจป้ำขนาดนี้มาก่อนเลย ของก็คุณภาพเยี่ยม ยังมีน้ำใจอีก ฮ่าฮ่าฉันเคยเดินทางมาติดต่อธุรกิจกับราชสีห์หลายครั้งแล้ว คนเก่าที่มาพบฉันประจำไปไหนเสียล่ะ?

                อ้อ คุณคิมเขาไม่ได้รับหน้าที่ดูแลงานทางนี้โดยตรงครับ เขาเพียงแค่มาทำหน้าที่แทนผมตอนผมไม่อยู่ แต่ตอนนี้ผมกลับมาทำหน้าที่ตามเดิมแล้ว ต่อไป เราคงได้พบกันบ่อยๆครับ ชายร่างท้วมพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ

                อืมๆ แล้วคุณชื่อแซ่อะไรล่ะ?ชายหนุ่มยิ้ม

                โจว คยูฮยอนครับ

     

     

     

     

     

                คยูฮยอนโค้งลาลูกค้า ก้าวขาออกประตูผ่านการ์ดคุ้มกันของคุณเฉินที่ยืนอารักขาความปลอดภัยอยู่ด้านนอกห้องคาราโอเกะ ขายาวแข็งแรงก้าวยาวๆออกจากร้านคาราโอเกะ ไปที่รถสีดำวาววับ ความปลอดภัยสูงที่จอดรออยู่ด้านข้าง โดยมีลูกน้องคนสนิทเดินตามมาในระยะประชิด 

                ร่างสูงชะงักฝีเท้า เมื่อเห็นรถดำขึ้นเงาอีกคันจอดอยู่ด้านหลังรถของตน และมีชายลึกลับนั่งอยู่เบาะด้านหลังรถที่เขานั่งมา ซึ่งที่ตรงนั้นมันสมควรจะเป็นที่ของเขา สัญชาตญาณจากการทำอาชีพเสี่ยงๆแบบนี้ ทำให้คยูฮยอนเลือกที่จะระมัดระวังตัวไว้ก่อน เขาก้าวช้าๆตรงไปที่รถ แต่ยังไม่ถึงตัวรถดี กระจกรถก็เลื่อนลงมาเสียก่อน

                พี่คิบอม!” ร่างสูงถอนหายใจ คิบอมยิ้มให้น้อยๆ มองน้องชายต่างสายเลือดเปิดประตู ดันตัวเองเข้ามานั่งข้างๆพร้อมกระเป๋าเอกสารสีดำ คิบอมเองรู้ดีว่าในนั้นบรรจุอะไร จึงไม่เอ่ยปากถาม

                มีเรื่องสำคัญอะไรรึเปล่าครับ มารอผมถึงนี้เลย คยูฮยอนเอ่ยถาม สมุนที่พกมาด้วยสองคนนั่งประจำที่ที่เบาะหน้าเรียบร้อย พร้อมออกรถ หากคิบอมไม่สั่งไว้ว่าเขาจะกลับรถของเขาเอง

                ฉันมาพาตัวนายกลับไปทานข้าวเย็นที่บ้านน่ะสิ คยูฮยอนเลิกคิ้วนิดๆ เพียงครู่เดียวเสียงถอนหายใจก็ดังตามมา

                ให้ผมไปทานข้าวเย็นที่บ้าน...ซองมินเขาจะไม่โวยเอาเหรอครับ?

                เป็นคำสั่งของฮันกยอก ใครจะโวยยังไงก็ต้องไป นายใหญ่เอ่ยปากสั่งทั้งที คิบอมพูดพลางยักไหล่

                มีเรื่องสำคัญอะไรจะคุยรึเปล่าครับ?

                ก็คงงั้น เรื่องบอดี้การ์ดคนใหม่ที่ฮันกยอกรับเข้ามาน่ะ

                อะไรนะฮะ? พี่ฮันรับบอดี้การ์ดใหม่เหรอ? ในเวลาที่มีคนตามฆ่าอย่างนี้เนี้ยนะ!?” คยูฮยอนเบิกตากว้าง คนถูกถามพยักหน้ารับเบาๆ

                พี่ฮันคิดอะไรของเขา?

                หมอนั้นกำลังสงสัยว่าบอดี้การ์ดคนใหม่ เป็นนักฆ่าที่บุกเข้ามาในบ้านคืนนั้น คิบอมอธิบายตามที่เขารู้ คยูฮยอนพยักหน้ารับ เขาทราบเรื่องที่ฮันกยอกถูกหมายหัวจากนักฆ่าทั้งหมดตั้งแต่วันแรกที่กลับมา

                แล้วพี่ฮันรู้ได้ยังไงว่า เขาเป็นนักฆ่าคนนั้น

                อืม...เห็นบอกว่า มันเห็นแผลที่แขนของเขา จุดเดียวกับที่มันยิงคนที่บุกมาคืนนั้นคยูฮยอนพยักหน้ารับ

                แล้วทำไมไม่จับมาสอบล่ะครับ ไม่เห็นจำเป็นต้องจับมาเป็นบอดี้การ์ดเลย อย่างนี้มันเสี่ยงโดนเขาฆ่าตายเอาง่ายๆนะครับ? อีกฝ่ายส่ายหัว

                นอกเหนือจากนั้น คงเหตุผลส่วนตัวแล้วล่ะ

                แต่มันไม่เวิร์กแน่ฮะ เรียกศัตรูเข้าบ้านแบบนี้ ...เขาก็รู้ทางหนีทีไล่หมดสิฮะ? แบบนี้แย่แน่

                แต่เราก็ยังไม่มีหลักฐานหรือข้อมูลอะไรที่ชี้ชัดว่าเขาเป็นนักฆ่า มีแต่ฝ่ายเราอุปมาอุปไมกันไปเอง ทั้งสองเงียบกันไปอึดใจหนึ่ง คยูฮยอนก็เอ่ยถามขึ้น

                ...แล้วพี่คิบอมจะไปไหนต่อครับ?

                อ้อ...ธุระฯนิดหน่อย อย่าลืมล่ะเย็นนี้ที่บ้าน ห้ามเบี้ยว คิบอมชี้หน้าน้องชาย ถึงแม้พวกเขาทั้งหมดจะไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน แต่ก็โตมาด้วยกัน รักกันดั่งสายเลือดแท้ๆ

                ครับ ผมไปแน่ คยูฮยอนให้คำมั่น คิบอมตบบ่าน้องชายเบาๆ

                ก็ดี เรามีส่งของต่อรึเปล่า?คยูฮยอนยกแขนขึ้นดูนาฬิกาข้อมือ

                อีกรายในเมืองนี่ล่ะครับ อีกครึ่งชั่วโมงจะถึงเวลานัด คิบอมพยักหน้ารับ

                งั้นไปล่ะ เย็นนี้เจอกัน คิบอมดันตัวเองออกจากรถคันหรู ยืนมองรถเคลื่อนตัวห่างไปจนลับสายตา คิบอมยกยิ้มนิดๆ ยกแขนขึ้นดูเวลาบ้าง ...เพิ่งจะบ่ายสาม เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะแว่บไปไปไหนมาไหนได้บ้าง...

     

     

     

     

     

                กรุ๊ง กริ๊ง!

     

                สวัสดีครับ Cool cake ยินดีต้อนรับครับอ้าว!” ฮีชอลมองหน้าลูกค้าคนใหม่ของร้านในวันนี้ แล้วอุทานเบาๆ

                มากินเค้ก ชายหนุ่มบอกไม่รอให้อีกฝ่ายเอ่ยถาม พร้อมกับก้าวเท้ายาวเข้าไปนั่งที่โต๊ะเดิมที่เคยมาครั้งก่อนโดยไม่เปิดโอกาสให้ซักถามอะไรต่อ

                สวัสดีครับ! อ้าว! คุณคิบอม วันนี้รับอะไรดีครับ?ทงแฮเอ่ยทักทายอย่างอารมณ์ดี

                ขอกาแฟปั่นกับเค้กสักชิ้นก็พอ ทงแฮขมวดคิ้ว

                ทานแต่กาแฟ มิน่าหน้าถึงเย็นชาตลอดเวลาขนาดนี้คราวนี้เป็นคิบอมบ้างที่ขมวดคิ้วแน่น

                เอานมสดดีกว่าครับ ดื่มนมเยอะๆตัวจะได้โตๆ แถวจะได้หน้าเด็กไม่เย็นชาแบบนี้ด้วย ทงแฮยิ้มกว้าง พูดไปก็จดไปโดยไม่ให้โอกาสลูกค้าหนุ่มได้ทักท้วง

                รอสักครู่นะคราบ คุณลูกค้า!” เพียงครู่เดียวจริงๆอย่างที่ทงแฮว่า ร่างเล็กก็วิ่งฉิวนำนมสดกับเค้กสีชมพูหวานมาเสิร์ฟที่โต๊ะพร้อมนั่งแหมะลงบนเก้าอี้ตรงกันข้าม คิบอมมองสิ่งที่ทงแฮนำมาเสิร์ฟแล้วทำหน้าปั้นยากจนทงแฮหัวเราะขัน

                มันไม่เลวร้ายขนาดนั้นหรอกครับ รับรองอร่อยกว่ากาแฟขมๆที่เคยกินแน่นอน!” ทงแฮพูดพร้อมกับดันแก้วนมสดทรงสูงกับจานเค้กเข้าไปตรงหน้า พร้อมทำท่าคะยั้นคะยอ

                แต่...มัน เหมือนของเด็กผู้หญิงกินมากกว่า คิบอมยังไม่แตะของตรงหน้า ดีหน่อยที่ลูกค้าวันนี้มีแค่ไม่กี่โต๊ะ ไม่งั้นเขาคงอับอายกว่านี้แน่ ถ้าทุกคนพร้อมใจกันมองแล้วเห็นเขาสั่งเค้กสตอรเบอรี่นมสดรสชาติผู้หญิ๊งผู้หญิงแบบนี้มาทาน

                โถ่! แล้วผู้ชายจะกินอะไรแบบนี้บ้างไม่ได้รึไงครับ มานี้! เดี๋ยวผมกินให้ดูเป็นตัวอย่าง ทงแฮไม่พูดเปล่า มือบางหยิบช้อน แล้วตักเค้กสีหวานคำโตเข้าปาก พร้อมทั้งคว้าแก้วนมสดมาดื่มอีกอึกใหญ่

                ฮ่า...อร่อยจะตาย ลองสิครับ!” ทงแฮคะยั้นคะยออีกรอบ เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังทำหน้าปุเลี่ยนๆ ทงแฮก็หยิบช้อนคันเดิมขึ้นมาตักเค้กคำใหม่ พร้อมส่งใส่มือหนา คิบอมทำใจอยู่สักครู่ ก่อนจะนำเค้กเข้าปาก

                กองเชียร์เพียงคนเดียวยิ้มกว้างพร้อมหัวเราะขำอย่างอารมณ์ดี

                เป็นไง? อะไรอร่อยใช่ม้า? งั้นดื่มนี้ด้วย!” ทงแฮยกแก้วนมสดใส่มือหนาอีกครั้ง ทั้งยังหวังดีช่วยจับหลอดจ่อริมฝีปากให้เสร็จสรรพ คิบอมจำใจทำตาม แล้วก็คิดได้ว่า อันที่จริงมันก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เขาคิดไว้เลยนี้หน่า

                อร่อยล่ะสิ กินให้เยอะๆนะคราบ ถ้าต้องการเบิ้ลอีก เรียกลี ทงแฮได้ตลอดเวลา เดี๋ยวผมต้องไปดูแลคุณลูกค้าสาวๆทางโน้นแล้วล่ะครับ เป็นหนุ่มป๊อบมันก็เหนื่อยเหมือนกันนะเนี้ย ทงแฮถอนหายใจหลังพูดจบ แต่ใบหน้าเนียนยังแต้มยิ้มขี้เล่น แล้วผละตัวไปคุยเล่นกับลูกค้าหญิงอีกกลุ่มอย่างสนุกสนาน

                คิบอมมองตามแล้วหันกลับมามองเค้กสีหวานที่พร่องไปเกือบครึ่ง เช่นเดียวกับนมสดแก้วโต ร่างสูงย้อนคิดแล้วอดร้อนซู่ที่ใบหน้าไม่ได้

     

                ...อ่า...ช้อน..กับหลอดนี่...-///-

     

                ลี ทงแฮ นายให้ความสนิทสนมแบบนี้กับทุกคน เหมือนที่ให้ฉันรึเปล่า?

     

     

     

     

     

     

     

    ++++++++++++++++++++++

     

     

    เฮโรอีน มี 2 ชนิด คือเฮโรอีนบริสุทธิ์ และเฮโรอีนผสม เฮโรอีนที่กล่าวถึง คือ เฮโรอีนบริสุทธิ์ มีเนื้อเฮโรอีนสูงถึง 80-90% มีลักษณะเป็นผงสีขาว มีรสขม ไม่มีกลิ่น ละลายน้ำง่าย จึงมักนิยมฉีดใส่เส้นเลือด เสพติดกันง่ายๆ ทดลองเพียง 2-3 ครั้งก็อาจติดได้

    น้ำยาสีใส ในที่นี้ คือ น้ำยามาควิส สามารถใช้ตรวจเฮโรอีน มอร์ฟีน ยาบ้าและยาอีได้ บรรจุในหลอดแก้วขนาด 1 ซีซี

    เมื่อหยดน้ำยามาควิสลงในยาเสพติด จะให้สีที่แตกต่างกัน

    -          ถ้าเป็นมอร์ฟีนและเฮโรอีน จะให้สีม่วง

    -          ถ้าเป็นยาบ้า จะให้สีส้มหรือสีน้ำตาล

    -          ถ้าเป็นยาอี จะให้สีเทาหรือดำ

     

    ขอบคุณ  www.google.co.th  ที่มาของข้อมูล

     

     

    ++++++++++++++++++++++

     

     

     ^[]^ ไรเตอร์มาแล้วว! โว้วว! ^O^ ในที่สุดนู๋โจวก็โผล่ อ๊างง! รีดเดอร์อย่าไปทำอาชีพเดียวกะนู๋โจวน้า!~  ฮ่าฮ่า ...บอม-ด๊อง แอบหวานกันอีกแร้วว ไม่เกรงใจลูกค้าคนอื่นเลยนะเนี้ย!

     

                ตอบเม้นกันนิสนึง!

     

    คห.63+76 > 55+ ยังไม่เลิกขอ NCอีก รอต่อไป อย่างนี้ต้องติดตามจร้า~    

    คห. 64+65+66+69+71+72+73 > ขอบคุณค่ะ อย่างนี้ต้องติดตาม ^^

    คห. 67 > ^-^ อ่า คยูหายไป จุด จุด จุด มา (อ๊ากก! รีดเดอร์อย่าเพิ่งฆ่าไรเตอร์น้า) คำตอบมีแน่นอน! แต่ยังไม่ถึงเวลาเฉลยค่ะ ต้องติดตาม ^^ ฮันเลี่ยนใส่ทึกไม? ก็ฮันพอใจซะอย่าง --^คนหล่อทำไรก็ไม่น่าเกลียด โฮะๆ

    คห. 68+70+74+77 > ขอบคุงค่ะที่ติดตามค่ะ ^^

    คห. 75 > อ่า...ติดตามกันต่อไป ^-^  

    คห. 78 > ฮ่าฮ่า ดีใจที่ชอบค่ะ สำหรับคำถาม แหมๆ อดใจรอกันอีกนิด มันต้องมีเฉลยอยู่แล้ว! แต่ตอนนี้ไรเตอร์ขออุบไว้ก่อน ^o^ 

     

     

     To be Continue...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×