ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Danger Lover [SuJu & TVXQ Fan Fiction YAOI]

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4 : Deten

    • อัปเดตล่าสุด 24 มี.ค. 52



    หวังเพียงว่า คุณจะเข้าใจในทุกสิ่งที่ผมทำ


    Chapter 4

     

                วันนี้เป็นวันพุธ ทงแฮไม่ต้องเข้าไปทำงานที่ร้าน Cool cake เขาหยุดสองวันต่อสัปดาห์ คือ พุธกับอาทิตย์ แต่เขาก็ไม่ปล่อยให้เวลาว่างนี้ทิ้งไปเฉยๆ เขายังมีงานพิเศษอีกที่ที่ต้องไปทำ ทงแฮลงกลอนประตูห้องพักอย่างไม่รีบร้อนนักหลังจากรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังสถานที่ทำงาน

               

                ไง เรียวอุค กินข้าวรึยัง? ทงแฮเอ่ยถามทันทีที่ก้าวพ้นประตูร้านเข้ามา

                อ้าวทงแฮ! ยังเลยอ่ะ ฉันอ่านหนังสือเพลินไปหน่อยคนถูกถามเงยหน้าจากหนังสือ กฎหมาย เล่มใหญ่

                มีสอบอีกล่ะสิ วันนี้ลูกค้าไม่เยอะ ฉันเฝ้าร้านให้เอง นายไปกินข้าวแล้วก็อ่านหนังสือที่บ้านเถอะ ทงแฮวางกระเป๋าลงหลังเคาร์เตอร์ เรียวอุคยิ้มกว้าง

                ขอบใจนะทงแฮ ไว้สอบเสร็จ ฉันจะเลี้ยงข้าวตอบแทน

                ไม่เป็นไร นายเป็นทนายความดังที่ระเบิดเมื่อไหร่ ฉันจะไปเก็บต้นเก็บดอกพร้อมกันเมื่อนั้น เรียวอุคพยักหน้าปลื้มๆ เก็บข้าวเก็บของออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว

                ทงแฮมองตามขำๆ เรียวอุคเป็นเพื่อนร่วมมหาลัย รู้จักกันเพราะทำงานที่ร้าน Bookworm แห่งนี้เหมือนกัน เรียวอุคใฝ่ฝันจะเป็นนักกฎหมาย จึงขยันอ่านขยันท่องหนังสือจนคนที่เรียนง่ายๆ อย่างการวาดภาพ ถ่ายภาพ ดนตรีอย่างเขาถึงกับเหนื่อยแทน

                ทงแฮมองไปภายในร้าน มีลูกค้าเป็นพนักงานบริษัทแถวๆนี้เลือกอ่านหนังสืออยู่สามสี่คน ทงแฮหยิบอุปกรณ์วาดภาพ ซึ่งเขามีเก็บไว้ที่นี้บางส่วนขึ้นมาขีดๆเขียนๆแก้เหงา เวลาว่างในช่วงบ่ายมีมากพอที่เขาจะเสก็ตภาพงานส่งอาจารย์ได้สบายๆ

                ขอโทษครับ พอจะมีหนังสือเก่าๆเกี่ยวกับประวัติศาสตร์บ้างมั๊ย? ทงแฮละสายตาจากภาพเสก็ตในมือ

                มีครับ ..อ้าว! คุณลูกค้า!”

     

                ไม่น่าเชื่อว่าคุณชอบอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ ทงแฮกล่าวยิ้มๆ พาลูกค้าคนเดียวที่มีอยู่ในร้านเดินซอกแซกเข้าไปด้านหลังอย่างชำนาญ

                เพิ่งจะสนใจอ่านนะ อีกฝ่ายยังคงพูดน้อยในความรู้สึกของทงแฮเช่นเดิม

                อืม...ผมว่าถ้าคุณเพิ่งเริ่มอ่าน คุณน่าจะลองวรรณกรรมสมัยใหม่ก่อน เพราะภาษาจะอ่านง่าย เข้าใจเร็วกว่า พอคุณบรรลุขั้นแรก คุณก็ค่อยขยับขั้นขึ้นมาอ่านอะไรที่ยากขึ้น ทงแฮพูดจ้ออย่างอารมณ์ดี ร่างบางหยิบหนังสือประวัติศาสตร์เล่มใหญ่ปกสีน้ำตาลเข้ม หากแต่กาลเวลาทำให้มันซีดหม่นลงไปมาก

                หนังสือเล่มนี้ อยู่ที่นี้นานแล้วล่ะครับ ไม่มีคนสนใจมันเท่าไหร่ เพราะอ่านกันไม่ค่อยจะรู้เรื่อง เห็นคุณถามหาเก่าๆ ผมเลยเลือกเล่มนี้ให้ ...แต่ไม่ใช่เพราะขายไม่ออกหรอกนะครับ!” ทงแฮโบกมือปฏิเสธเมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่งไป

                อืม แล้วมีเล่มไหนแนะนำมือใหม่บ้างล่ะ?

                คุณเลือกร้านถูกแล้วครับ ผมแนะนำคุณได้เต็มที่เลย!” ทงแฮทำท่ามาดมั่น จนคนดูอดขำนิดๆไม่ได้

                เอ่อ...ว่าแต่คุณ ชื่ออะไรครับ? ร่างสูงชะงักไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะคลี่ยิ้มตอบ

     

                คิม คิบอม

     

     

     

     

     

                ชายหนุ่มสวมสูทท่าทางภูมิฐาน นั่งยิ้มกริ่มมองบุคคลที่ตนส่งคนไปเชื้อเชิญมา ทรุดนั่งลงตรงข้ามด้วยท่าทางไม่พอใจนัก

                เชิญตัวฉันมาทำไมไม่ทราบ? อีทึกถามฉุนๆ

                กินข้าว อีกฝ่ายตอบหน้ายิ้มเช่นเคย อีทึกทำท่าจะอ้าปากพูด แต่ก็เปลี่ยนใจ เมื่อบริกรสาวเดินตรงเข้ามาพร้อมอาหารสองชุด

                ฉันกินมาแล้ว อีทึกเอ่ยตอบ เมื่อบริกรสาวคล้อยหลังไปไม่ไกล

                ฉันรู้ว่านายยังไม่ได้กิน ถ้านายอยากกลับเร็วๆ ก็กินซะ ฮันกยอกมองอาหารสลับกับหน้าอีทึก เป็นเชิงสั่ง ร่างสูงลงมือจัดการกับอาหารตรงหน้าอย่างไม่รีบร้อน

                มีอะไรก็รีบๆพูดมาดีกว่า ขอแบบรวบรัดด้วย อีทึกไม่แตะต้องอาหาร เขาต้องการทราบจุดประสงค์ที่แท้จริงของการเชิญตัวเขามาครั้งนี้มากกว่า

                ...เอางั้นเหรอ?

                อืม!” อีทึกตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ผิดกับคนถาม ฮันกยอกรวบช้อน ยกน้ำขึ้นดื่มพอเป็นพิธี

                ฉันจะจ้างนายไปฆ่าคนๆนึง จ่ายอย่างงาม นายจะตกลงมั๊ย? อีทึกขมวดคิ้ว ร่างบางพ่นลมหายใจ

                นายบ้ารึไง? ฉันไม่ใช่นักฆ่า นายเรียกใช้ผิดคนแล้วล่ะ!”

                ฉันจะจ้างนาย ไปฆ่าคนที่มันจ้างนายมาฆ่าฉัน มันเรียกเท่าไหร่ ฉันให้นายสองเท่าเลย นายจะโอเคมั๊ย?

                หึ ถ้าฉันเรียกค่าจ้าง...หมดตัว นายจะยอมจ่ายมั๊ย? ฮันกยอกชะงักเล็กๆ ก่อนจะคลี่ยิ้มมุมปาก

                ได้สิ ฉันจ่ายให้ทั้งตัว ...ทั้งหัวใจเลยก็ได้ ถ้านายต้องการ อึทึกกำมือแน่น อารมณ์ครุกรุ่นที่มีมาตั้งแต่ต้นเริ่มควบคุมไม่อยู่ ถ้าโดนปั่นหัวจนป่วนแบบนี้ เขาต้องฆ่าหมอนี่ตายภายในสองวิแน่ๆ!!

                เก็บมุขเน่าๆของนายไว้เถอะ! ฉันไม่สนข้อเสนอของนายหรอก!” ฮันกยอกหัวเราะน้อยๆ

                แหม...น่าเสียดายจัง งั้นเอาใหม่ ฉันจ้างนายมาเป็นบอดี้การ์ดของฉัน นายเรียกเท่าไหร่ฉันจ่ายให้ได้ทั้งนั้น ข้อเสนอนี้เป็นไง?

                หึ ฉันไม่สน! ฉันเป็นแค่พนักงานร้านเค้ก ไม่ใช่สตั้นแมน!”

               

                ฟึ่บ!

     

                ฮันกยอกปามีดหั่นเสต็กในมือใส่คนตรงหน้า ขณะที่เจ้าตัวยังไม่รู้เรื่องมาก่อน ร่างสูงยกยิ้ม เมื่อคนตรงหน้าคีบเจ้ามีดนั่นไว้ได้ด้วยสองนิ้วก่อนที่มันจะพุ่งเข้าที่กลางอก

                แต่นายเป็นยิ่งกว่านั้น! ปฏิกิริยาโต้ตอบของนายฉับไว นายถูกฝึกมาดี ปาร์ค จองซู เอาข้อเสนอของฉันไปคิดดูให้ดีๆ ฮันกยอกหยุดเว้นวรรคเพื่อดูปฏิกิริยาของอีกฝ่าย เมื่อเขาเห็นว่าอีกฝ่ายทำท่าไม่เล่นด้วย และขยับปากจะโต้ตอบ เขาก็ชิงพูดขึ้นก่อน

    ทำงานฆ่าคนไม่เลือกแบบนี้! นายก็เป็นแค่เดรัจฉานตัวหนึ่ง แต่ถ้านายทำงานกับฉัน มือที่คลุ้งไปด้วยคาวเลือดของนาย จะสะอาดขึ้น และนายก็จะขยับเข้าใกล้คำว่า คน ขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งด้วย!” อีทึกกำมีดในมือแน่นโดยไม่รู้ตัวและไม่รู้สึกรู้สากับบาดแผลที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย

    หึ พล่ามมาพอรึยัง!? ไอ้ที่นายทำอยู่ทุกวันนี้ มันต่างอะไรกับสิ่งที่นายพูดมา! หันมองตัวเองเสียก่อนที่จะสอนคนอื่นเถอะ! มือที่นายว่าใสสะอาด มันแค่ม่านมายา มือนายมันโสโครกยิ่งกว่าที่นายกล่าวหาฉันเสียอีก!!” อีทึกปามีดในมือลงบนโต๊ะก่อนจะก้าวฉับๆออกจากห้องอาหารส่วนตัว ฮันกยอกมองตามพร้อมรอยยิ้มมุมปาก

     

    อืม...ไม่ปฏิเสธว่าเป็น แต่ก็ไม่ยอมรับว่าไม่เป็น ฉันต้องทำให้นายพูดให้ได้ว่านายเป็นนักฆ่า!’

     

     

     

     

     

    บริเวณคฤหาสน์กว้างของฮันกยอก มีเวรยามเดินสำรวจทั่วบริเวณอย่างขันแข็ง ร่วมกับสุนัขพันธุ์ดีอย่างเยอรมันเชพเพิร์ด และร็อกไวเลอร์

    ชายหนุ่มผิวขาว แต่งกายชุดลำลองสบายๆกับรองเท้าผ้าใบ สวมหมวกกับแว่นตาสีชา และสะพายเป้หลังใบใหญ่ ในมือถือแผนที่เดินเตร็ดเตร่อยู่รอบๆคฤหาสน์หลังงามนี้

    นั่นใคร!!? เสียงเรียกจากด้านในรั้วทำเอาคนที่เดินเตร่อยู่แถวนั้นสะดุ้ง

    เอ่อ...ผม ผมเป็นนักท่องเที่ยว มาจากญี่ปุ่นครับ คือผมหลงทาง ที่นี้ที่ไหนในแผนที่ครับ? ชายหนุ่มตอบพร้อมกับชี้มือไปที่แผนที่

    พูดภาษาอะไรว่ะ? ไม่เห็นรู้เรื่อง!” ชายหนุ่มกำยำที่อยู่ด้านในรั้วเกาหัวแกรกๆ คิดในใจว่าจะเอายังไงกับไอ้หนุ่มต่างชาตินี้ดี

    ไปๆๆ!! แถวนี้เขาห้ามเข้าใกล้ ถ้าไม่อยากตาย!” ชายกำยำใช้นิ้วทำท่าเชือดคอตัวเองให้หนุ่มแปลกหน้าดู เมื่อสื่อสารทางภาษาไม่รู้เรื่อง ก็เห็นจะมีแต่ภาษากายนี้แหละที่ใช้แทนกันได้ดีที่สุด อีกฝ่ายแบมือทั้งสองข้างพร้อมยักไหล่อย่างไม่เข้าใจนัก

    เฮ้ย! มีไรว่ะ!?ชายกำยำคนที่สองเดินตรงเข้ามาถามเพื่อนพร้อมกับเยอรมันเชพเพิร์ดตัวใหญ่ เมื่อมันเห็นบุคคลแปลกหน้า ก็ตั้งท่าขู่แฮ่ พร้อมเห่ากรรโชกเสียงต้อนรับจนคนแปลกหน้าขวัญเสีย

    เฮ้ย! เบาก่อนๆ ชายกำยำคนที่สองตบหัวสุนัขตัวใหญ่เบาๆ เจ้าสุนัขเงียบเสียงเห่าลงแต่ก็ยังอดขู่แฮทิ้งท้ายไม่ได้

    ไอ้หนุ่มนี้มาเดินป้วนเปี้ยนแถวนี้นะสิ

    ก็ไล่มันไปสิว่ะ จะยากอะไร?

    ก็มันเป็นญี่ปุ่น พูดกันไม่รู้เรื่องโว้ย!”

    ไอ้น้อง เป็นญี่ปุ่นเหรอ? ชายกำยำคนที่สองถาม ชายหนุ่มแปลกหน้าทำหน้างง แบมือทั้งสองแล้วส่ายหัว ชายทั้งสองตบศีรษะตัวเองเบาๆ

    ไปๆ ถ้าแกมาแถวนี้อีก ตาย!” ชายกำยำคนที่สองทำมือไม้ประกอบทุกคำพูด หนุ่มแปลกหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่ก่อนร้องอ้อทำหน้าเหมือนเข้าใจ แล้วเดินจากไป

     

    ได้เรื่องอะไรมั้ง? ร่างสูงในชุดลำลองสบายๆเหมือนกันเงยหน้าขึ้นถาม เมื่อเขาเดินเข้ามานั่งใต้ต้นไม้ร่มรื่นแต่ลับตาคนแถวๆนั้น

    ก็ได้อยู่ เวรยามแน่นหนาขึ้นเยอะ ไอ้หมาบ้านั่นก็โครตน่ากลัว เขี้ยวยาวยังกับเสือขั้วโลก ถ้ากัดขานะ ขาฉันต้องขาครึ่งภายในงับเดียวแหง!” ชายหนุ่มบ่นอุบ วางหมวกใบใหญ่ที่สวมลงบนพื้นหญ้าข้างตัว

    แล้วนายล่ะ ได้เรื่องอะไรมั้ง?

    เท่าที่สังเกต เวรยามแน่นหนา ไม่มีใครอู้สักคน! ผลัดเปลี่ยนเวรยามกันตอนห้าโมงเช้า แล้วไอ้หมาที่นายว่า นอกจากเขี้ยวยาวแล้ว ยังจมูกไวด้วย ฉันแค่เฉียดเข้าไกลรั้วหน่อยเดียว มันก็ทำจมูกฟุดฟิดๆ แล้วก็รีบวิ่งมาเลย

    บ้านนี่เข้ายาก เราคงต้องใช้จังหวะอื่น

    นั่นสิ ฉันว่า...ดักอุ้มกลางทางดีมั๊ย? เป้าหมายไปกับผู้คุ้มกันอีกสองคน เป็นสาม อย่างนี้น่าจะพอมีทางมากกว่าบุกเข้าไปสู้กับไอ้พวกร่างบึกแล้วก็สี่ขาหน้าขนข้างในนั่นยูชอนเสนอความคิด มองเพื่อนที่กำลังวาดแผนที่รอบๆคฤหาสน์กว้างอย่างคร่าวๆ

    เป็นความคิดที่ดี แต่นายจะอุ้มเป้าหมายลงจากรถได้ยังไง?

    อืม...แกล้งวิ่งตัดหน้ารถดีมั๊ย พอมันเปิดประตูรถลงมาก็เอาไม้ฟาดหัวไปเลย!”

    งี่เง่าเกินไปแล้วปาร์ค ยูชอน! ไปจำวิธีห่วยๆนี้มาจากไหน? อีกฝ่ายทำหน้าหงุดหงิด

    หนังไทย นายไม่เคยดูเหรอ?ยูชอนตอบพร้อมทำหน้าสงสัย อีกฝ่ายถลึงตาให้

    เลิกพูดมากได้แล้ว มาช่วยกันคิดแผนต่อไปดีกว่า!”

    ปฎิบัติเดี๋ยวนี้ครับผม!”

    ยูชอน! นั้นใครมา? อีกฝ่ายชี้นิ้วไปยังประตูรั้วด้านหน้าคฤหาสน์ใหญ่ มีรถแท็กซี่ป้ายทะเบียนโซลจอดอยู่ พร้อมกับชายร่างสูงสวมแว่นสีชาก้าวลงจากรถ

    เห? ยูชอนหยิบกล้องส่องทางไกลอันเล็กที่เขาพกติดมาด้วยขึ้นส่องดู

    ไม่รู้สิ ไม่คุ้นหน้าเลยยูชอนยื่นกล้องให้ อีกฝ่ายรับมาดูพร้อมขมวดคิ้ว

    นั่นสิ ชายร่างกำยำวิ่งออกมาต้อนรับ เสียงสุนัขเห่าดุดันค่อยเงียบลงเมื่อถูกเจ้านายมันปราม ท่าทีน้อบน้อมของชายเหล่านั้นที่แสดงออกต่อผู้มาใหม่ ทำให้เขาตั้งแง่คิด

    มีตำแหน่งใหญ่กว่าพวกชุดดำ ขนกระเป๋าเสื้อผ้ามา แสดงว่าเพิ่งกลับจากการไปที่ไหนมาซักแห่ง ข้าวของเยอะแบบนี้แสดงว่าไปอยู่ที่นั้นนานพอสมควร คนพูดลดกล้องลงมองด้วยสายตาปกติ

    นายคิดว่าหมอนี่เป็นใคร?

    อืม ให้ฉันค้นก่อนนะ ยูชอนตอบ โน๊ตบุ๊กเครื่องบางเล็กตรงหน้าแสดงข้อมูลที่เขากำลังค้นหา

    คิดว่า...เป็นมือขวาของประธานฮัน ข้อมูลบอกมาว่า ประธานฮันมีมือขวาด้านธุรกิจผิดกฎหมายอยู่คนหนึ่ง แล้วก็...มีน้องชายต่างแม่อีกคนหนึ่ง เป็นมือขวาด้านธุรกิจถูกกฎหมาย นายคิดว่าเป็นใคร? ยูชอนละสายตาจากจอเล็กขึ้นมามองเสี้ยวหน้าเพื่อนซี้ที่กำลังจ้องเป้าหมายอยู่อย่างสนใจ

    น่าจะคนแรก คนที่สองฉันเคยเห็นลงหนังสือพิมพ์บ่อยๆ นายคิดว่าใช้หมอนี่ต่อรองประธานฮันได้มั๊ย?

    ถ้าเป็นคนแรก ก็อย่าเสี่ยงเลย หมอนี่คงฝีมือพอตัว ไม่งั้นไม่ได้เป็นมือขวาหรอก ผีมือประธานฮันกับลูกน้องขึ้นชื่อทั้งนั้น นายน่าจะรู้ฝ่ายที่ถูกดักคอเงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะเผยรอยยิ้มเย็นๆ

    ...แล้วถ้าคนที่สองล่ะ นายว่าพอไหวมั๊ย?

     

     

     

     

     

    พี่ชาย!! มาได้ไงเนี้ย? ลี ซองมินแทบจะวิ่งเข้ามากระโดดกอดคอฮันกยอก ถ้าไม่ติดที่ว่า เขาเพิ่งจะประชุมเสร็จและแยกจากผู้ใหญ่ไปเมื่อครู่นี้เอง

    บริษัทพี่เหมือนกันนี่ ทำไมจะมาไม่ได้? ฮันกยอกยิ้ม มือหนาโยกหัวน้องชายต่างมารดาเบาๆ

                งั้นพี่ก็มาเอาคืนไปซะสิ ผมจะไปดูแลงานทางโน้นเอง

                หัวแหลมนักนะ!”

                ก็ผมเบื่องานทางนี้แล้วนี่นา ไม่น่าตื่นเต้นเอาซะเลย ซองมินทำหน้าเหม็นเบื่อ แต่ก็โดนพี่ชายบีบจมูกรั้นเอาอย่างหมั่นเขี้ยว

                ทำมาเป็นเบื่อ! แล้วเรียนไปถึงไหนแล้ว?

                ก็ดีฮะ ผมมีประสบการณ์จริงแล้ว เวลาเรียนครูเขาเลยไม่สนผมเท่าไหร่

                ไม่ได้! อย่าทำตัวเป็นเด็กเส้นเรียนเล่นๆก็จบสิ ถึงเราจะทำงานจริงแต่เราก็ต้องเรียนรู้ทางทฤษฎีด้วย ไม่งั้นจะพากันล้มเอานะ ฮันกยอกทำเสียงดุ

                ครับๆพี่ชาย เอ่อ...ผมหิวแล้วอ่า ประชุมตั้งสองชั่วโมง ผมได้กินกาแฟเย็นชืดแค่แก้วเดียว ซองมินตั้งท่าจะบ่นอีกรอบ แต่โดนฮันกยอกดักเอาไว้ก่อน

                พอๆ เดี๋ยวกลับไปกินข้าวที่บ้านกัน มีคนรออยู่นะ

                ใครฮะ?

     

               

                ฮันกยอกเดินนำซองมินเข้าไปที่ห้องอาหารกว้างของบ้าน ด้วยความที่อยากรู้มาก ซองมินจึงวิ่งนำพี่ชายลิ่วเข้าไปก่อน

                อ้าว! มีแต่อาหาร ไม่เห็นมีใครเลย ซองมินทำหน้าผิดหวังปนงงเล็กน้อย

                อยู่ข้างบนน่ะ เราขึ้นไปตามเขามาทานข้าวหน่อยสิ เดี๋ยวพี่จะรอที่นี้ ฮันกยอกทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ที่ประจำ ตามด้วยเยซองและคิบอมที่มองตากันยิ้มๆ

                ทำไมต้องผมด้วยล่ะฮะ? ใช้เด็กไปก็ได้หนิ ซองมินทำท่างอแง

                เราเป็นเจ้าของบ้าน ขึ้นไปเชิญแขกแค่นี้ทำอิดออด ฮันกยอกทำเสียงดุ น้องชายตัวดีจึงจำยอมทำตามคำสั่งพี่ชาย

                ห้องที่สาม ซ้ายมือนะ ฮันกยอกกล่าวบอกไล่หลัง ซองมินเดินลงส้นเท้าขึ้นไปอย่างไม่สบอารมณ์นัก แต่นึกถึงแขกคนสำคัญก็ออดอยากรู้ไม่ได้ ความหงุดหงิดแปรเปลี่ยนเป็นอยากรู้อยากเห็นทันที ซองมินตรงรี่ไปยังห้องที่สาม ซ้ายมือตามคำสั่งพี่ชายอย่างรวดเร็ว

     

                ก๊อกๆ

     

                ........ เงียบ

     

                ก๊อกๆๆ

     

                ......... เงียบอีก

     

                ก๊อกๆๆๆๆ!!!

     

    ซองมินเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาอีกรอบ เมื่อเจ้าของห้องไม่มีปฏิกิริยาตอบรับเสียงเคาะประตูของเขาเลย หลังมือเคาะรัวลงบนประตูห้องอย่างไม่เกรงใจ

     

    ผลั่ว!

     

    ประตูห้องนอนถูกเปิดออกแรงจนร่างเล็กที่ทำท่าจะเคาะรัวอีกรอบชะงักมือ

     

    O_O!

     

    ค..คยูฮยอน!”

     

     

     

     

     

    ทงแฮฮัมเพลงกลับมาที่ห้องพักหลังงานเลิก เจ้าตัวชะงักเล็กๆ เปลี่ยนจุดหมายจากห้องนอนของตนไปยังโซฟาสีครีมตัวใหญ่แทน

    เป็นอะไรฮะ หน้าบึ้งเชียว?” ทงแฮมองเสี้ยวหน้าของรูมเมทตนที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่ แต่ในความรู้สึกของเขา ...เหมือนเปิดทีวีให้ดูคนมากกว่า...

    เปล่าหรอก แค่เจอคนนิสัยเสีย ก็เลยพาลทำให้อารมณ์เสียไปด้วยทงแฮพยักหน้าอย่างเข้าใจ

    แล้วมือพี่ไปโดนอะไรมาอีกฮะ? อย่าบอกว่าวันนี้ไปช่วยป้าแกรีดผ้ามา แล้วโดนเตารีดล้มทับนะครับ!?” ทงแฮทำหน้าตื่นๆ หยิบมือเรียวของอีทึกที่โดนพันเอาไว้ขึ้นมาสำรวจ

    เยอะไปแล้วทงแฮ อุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะ ...ว่าแต่นาย วันนี้มีอะไรผิดปกติมั๊ย?

    ทำไมฮะ? อะไรที่เรียกว่าผิดปกติ? ทงแฮเอียงคอถามอย่างสงสัย

    ก็...รู้สึกแปลกๆเหมือนถูกจ้องตลอดเวลาบ้างมั๊ย? หรือว่า มีคนน่าสงสัยมาป่วนเปี้ยนใกล้ๆตัว? ทงแฮขมวดคิ้วยุ่ง

    พี่พูดเหมือนกับผมโดนสะกดรอยอย่างไงอย่างนั้น ทงแฮพูดแล้วหัวเราะขำ ๆ แต่อีกฝ่ายไม่มีท่าทีว่าจะขำด้วย

    ไม่มีหรอกฮะ วันนี้ผมเฝ้าร้านคนเดียวทั้งวัน ไม่เห็นว่าจะมีความรู้สึกแปลกๆแบบนั้นเลย  ว่าแต่ว่า พี่ถามทำไมฮะ? ทงแฮตอบปฏิเสธไป แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมอยู่ๆอีทึกถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา

    เปล่า! ไม่มีก็ดีแล้ว พี่เจอพวกแปลกๆมาก็เลยเป็นห่วงนาย ระวังตัวหน่อยก็ดี

    คราบบ แล้วนี้ผมว่าผมทำให้พี่ใหม่ดีกว่า ทงแฮมองไปที่มือพันแผลของอีทึกแล้วอยากช่วยพันให้ใหม่ เหตุผลคือ อีทึกพันแผลได้ขี้เหร่สุดๆ เวลามีแผลทีไร เขาต้องคอยเป็นบุราพยาบาลจำเป็นเสมอ ขืนปล่อยให้เจ้าตัวทำเอง มีหวังเน่าแน่ๆ!

     เสร็จแล้วครับ!” ทงแฮตบแผลที่มือของอีทึกเบาๆ เจ้าของแผลมองดูผลงานแล้วยิ้มน้อยๆ

    ขอบใจ นายทำออกมาดูดีกว่าที่ฉันทำเยอะเลย

    แน่นอนครับ ผมทำแผลให้พี่บ่อยจนผมคิดจะใช้มันเป็นความสามารถพิเศษอยู่แล้วนะครับเนี้ย ทงแฮกอดอกยิ้มอย่างภาคภูมิใจ

    ...ฉันรบกวนนายมากไปรึเปล่า? ทงแฮทำหน้าเหวอเมื่ออีกฝ่ายเปลี่ยนอารมณ์เข้าโหมดเศร้ากะทันหัน

    เฮ้ย! พี่อีทึก พูดอะไรอย่างนั้นครับ ผม..ผมไม่คิดแบบนั้นซะหน่อย!” ทงแฮปฏิเสธพัลวัน

    ...ขอบใจนายมากนะทงแฮ ยังไงนายต้องดูแลตัวเองดีๆ มีอะไรแปลกๆเกิดขึ้น นายต้องบอกพี่นะ

    ครับ ผมสัญญา ด้วยเกียรติของผู้ชายหล่อเลย!” ทงแฮตอบพร้อมรอยยิ้มกว้างจนอีกฝ่ายอดยิ้มไปด้วยไม่ได้

     

    ครืด ครืด~

     

    อีทึกหยิบเครื่องมือสื่อสารที่วางไว้บนโต๊ะตรงหน้ามาเปิดอ่านข้อความใหม่ ทงแฮมองปฏิกิริยาแปลกๆของรูมเมทแล้วถอนใจ

    เขารู้ และชินกับพฤติกรรมมีลับลมคมในของรูมเมทตนมานาน พี่อีทึกดูเป็นคนเข้าถึงง่าย คุยสนุก แต่ในทางกลับกันก็เป็นคนปากหนัก ลึกลับและไม่เปิดเผย ถึงเขาอยากจะถามเกี่ยวกับที่มาของบาดแผล หรือถามเรื่องการออกจากบ้านไม่เป็นเวล่ำเวลาของพี่อีทึก เขาก็ไม่กล้า และคิดว่าถึงถามไป ก็ไม่ได้คำตอบกลับมาอยู่ดี

    ดูบ้านด้วยล่ะ พี่จะเข้าห้องแล้ว

    ครับทงแฮรับคำ มองตามแผ่นหลังที่หายเข้าห้องไปแล้วถอนหายใจ

     

    ผมจะรอจนกว่าพี่จะบอกผมเอง ว่าพี่เป็นใครและเป็นอะไรกันแน่

     

     

     

     

     

    ภายในห้องนอนโทนสีสว่าง เจ้าของห้องสวมแว่นตา กำลังยกกาแฟขึ้นจิบ ก่อนมือเรียวจะย้อนกลับมารัวแป้นพิมพ์ต่ออีกหน นิ้วเรียวเคลื่อนไปที่เมาส์เลื่อนขึ้นลงอย่างชำนาญ

    เฮ้อ เสียงนุ่มถอนหายใจเบาๆ นิ้วเรียวเลื่อนจากเมาส์มาคลึงขมับทั้งสองข้างแทน

    ทำไมถึงหายากหาเย็นขนาดนี้นะ! อ่ะ!” ตาเรียวสะดุดเข้ากับข้อความหน้าจอคอมพิวเตอร์

                สององค์กรใหญ่แห่งการฆ่า หนึ่ง คือ K (Keynote) และ สอง คือ I (Icy)...

     

                ครืด ครืด~

     

                คนที่ถูกรบกวนด้วยเสียงโทรศัพท์ทำหน้าหงุดหงิดที่ถูกขัดจังหวะสำคัญ มือเรียวคว้าเครื่องมือสื่อสารขึ้นมากดรับ กระแทกน้ำเสียงใส่ตามอารมณ์โดยไม่ทันดูเบอร์ที่โชว์หราบนหน้าจอ

                ฮัลโหล!”

                [หึ ฉันโทรฯมากวนเวลาสำคัญของนายรึเปล่า? ฮีชอล] ปลายสายถามด้วยน้ำเสียงเจือหัวเราะ

                อ้าว! ฮัน...มีอะไร?น้ำเสียงกระแทกกระทั้นเมื่อครู่อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อรู้ว่าปลายสายคือใคร

                [ก็ไม่มีอะไร ฉันแค่โทรมาถามเรื่องนั้น]

                อ้อ! ฉันกำลังสืบอยู่ ข้อมูลพวกนี้เป็นความลับสุดยอดมากๆ เจาะกันลำบากเลือดตาแทบกระเด็นเลยล่ะ ..ฉันเพิ่งจะได้ข้อมูลเรื่ององค์กรที่รับงานฆ่าเมื่อกี้นี้เอง นายอยากจะฟังหน่อยมั๊ย?

                [...เอาสิ]

                แปบนะ...องค์กรที่ได้รับความไว้วางใจให้ทำงานฆ่ามากที่สุดมีสององค์กร คือ KและI พวกนี้ทำงานเร็ว ผิดพลาดน้อย และไว้ใจได้ ไม่มีประวัติคดในข้องอในกระดูก หรือหักหลังกันทีหลัง อืม...นี่ไง การว่าจ้าง ต้องไปว่าจ้างกับนายใหญ่โดยตรง ไม่บอกที่อยู่ เบอร์โทรฯติดต่อแล้วก็เว็บไซต์ ...ข้อมูลมีแค่นี้ ฮีชอลเลื่อนอ่านเฉพาะใจความสำคัญของเนื้อหา

                [ขอบใจมาก นายพอจะหาวิธีติดต่อสององค์กรนี้ให้ฉันหน่อยได้มั๊ย?]

                ...อืม...ถึงไม่ได้ก็ต้องได้อยู่แล้ว มีชีวิตนายเป็นเดิมพันทั้งที ไม่ให้ช่วยได้ยังไง...อ้อ! ฉันมีอะไรจะถามอีกอย่าง คิม คิบอม นายให้หมอนั่นมาทำอะไร?

                [ฮ่าฮ่า ทำไมไม่ถามหมอนั่นดูเองล่ะ?]

                ก็เหมือนกันทั้งนายทั้งลูกน้องเลยนี้น่า มิหน่าเป็นเพื่อนซี้กันได้

                [ไม่มีอะไรหรอก รับรองได้ว่าลี ทงแฮจะปลอดภัย]

                ทงแฮเหรอ?...ฉันนึกว่านายให้คิบอมมาตามอีทึกซะอีก

                [ทีแรกก็คิดแบบนั้น ฉันลองให้คิบอมตามแล้ว แต่อีทึกของนาย ไวอย่างกับลิง แถมระวังตัวแจ อย่างกับรู้ว่ามีคนตามอยู่ เลยคิดว่าตามลี ทงแฮน่าจะดีกว่า]

                ทำอะไรอย่าให้เกิดกว่าเหตุล่ะ ไม่งั้นฉันเอานายตายแน่!”

                [ครับๆ ...ฉันต้องวางล่ะ มีเรื่องวุ่นๆเกิดขึ้นที่บ้านนิดหน่อย]

                เรื่องอะไร? มีคนลอบเข้ามาอีกเหรอ?

                [เปล่า! ..แค่มือขวาฉันกลับมาแล้ว]

     

     

     

     

     

     

     

    ++++++++++++++++++++++

     

     

                อ๊างงง! -O-! ไรเตอร์ Sorry sorry อย่างแรงง! (เข้าเพลงได้อีก --^) หายหน้าหายตาไปหลายวัน แม่ลากไปวัดคร่ะ ไปเช้าเย็นกลับอ่านะ แต่แบบว่าพอกลับมาบ้าน ปวดหัว+ปวดท้องขั้นรุนแรง  โอ้วว! เข้าวัดก็งี้ล่ะ 55+ ก็กว่าจะไปถึงวัด ถนนตัดผ่านเขาสองลูก ทางก็ไม่ได้ดีเด่อะไร นั่งไปตูดไม่ติดเบาะเลย เด้งๆๆ ตลอดทาง ประมาณว่ากินข้าวอิ่มๆ  แล้วคิดสภาพไปนั่งเด้งๆสิ --^(หวุดหวิดเป็นริดสีดวง ^-^)

    ^[]^ ตอนนี้ตัวละครโผล่อีกสองคน ฮ่าฮ่า ที่จริงแล้วโผล่สามนะ แต่เปลี่ยนใจ มันจะโผล่เยอะเกินไปเลยเก็บไว้ก่อน ฮ่าฮ่า ...ฮัน-ทึกแรงได้อีก โอ้วว! รู้สึกแต่งไปแต่งมาชักเปลี่ยนแนว -O-!

     

                ตอบเม้นกันนิสนึง!

     

    คห.34 > ^^ จาพยายามค่ะ เม้นบ่อยๆไรเตอร์ก็รักตายเลยเหมือนกัน ฮ่าฮ่า

    คห. 35 > ไรเตอร์ก็รักรีดเดอร์ (ปากหวานเชียว) ฮ่าฮ่า อันนี้ต้องติดตามค่ะ ว่าฮัน-ทึกจะรักกันได้ยังไง ^o^

    คห. 36+39+42+44+45 > ขอบคุงค่ะ  ติดตามกันต่อไป ^^

    คห. 37 > อันนี้ต้องติดตามว่าจะรักกันได้ไง ส่วนฉากหวานๆ มันต้องมีอยู่แล้ว! ^o^

    คห. 38 > โอ้วว! อินไปมั๊ยคุนเพื่อนปิ๊ง! 55+ พ่อฉันมิพกปืนย่ะ มีกระบี่รับเสด็จแค่เล่มเดียวเอ๊ง! ทึกช่วยฮันเพื่อ...ไม่รุ้เหมือนกัน ไม่ใช่ทึก ฮ่าฮ่า ...ด๊องรอใคร ...รอเค้าไง! >[]< ป.ลิง เค้าไม่ให้เฟ้ยย!

    คห. 40 > ^-^ อินได้อีก ฮ่าฮ่า ต้องติดตามกันต่อปายย!

    คห. 41 > จาพยายามจร้า แหมๆ ให้เจ้มีเวลาปั่นนิสนึงดิ ^^

    คห. 43 > ฮ่าฮ่า อย่าจิ้นไกลนะค่ะ บางทีตัวละครที่คิดว่าใช่ อาจไม่ใช่ก็ได้ ^-^(มีลับลมคมในได้อีก) ทึกต้องจับฮันส่งคนจ้างยุแล้วว มันหน้าที่เขานิ ชิมิ? ^^

                คห. 46 > ไรเตอร์ชื่อ เชอรี่ ค่ะ ^^ ว้าวว! ตามมาจากเดสแดนรึนี้? ขอบคุงที่ชอบนะค่ะ แล้วก็ขอบคุณที่ติชมด้วย ^o^

    คห. 47+52 > ก๊าก! น้องปอทวงตลอด อะโหยย! มาทีไรเรียกร้องแต่ NC เอิ๊กๆ ก็รู้ๆกานยุ เจ๊ถนัดซ้าทีไหน (เหรอ?) 55+ โรคเก่ากำเริบ เอิ่มๆ ไม่บอกหรอก >.< ต้องติดตาม! ^-^ ฮัน-ทึกสุโค่ยย! 55+

    คห. 48+49+50+51 > ฮ่าฮ่า ขอบคุงที่ติดตามค่ะ เป็นแฟนฟิคเรื่องเดสแดนด้วยชิมิ จามได้! ^-^ โอ้วว! แบบว่าอินกะเนื้อเรื่องมากเลยนะเนี้ย -O- หุหุ ถ้าอยากรู้ต้องติดตามค่ะ มีคำถามมันก็ต้องมีเฉลยชิมิล้า? เพราะงั้น...ติดตามๆ ^0^


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×