คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : -8- We know each other
.
.
------------------------------------
รถคันสวยถูกขับมาเนิ่นนาน กว่าที่คนนั่งจะรู้ตัวว่ามันนานเพียงใดมันก็ถูกขับออกมาไกลเสียแล้ว ยูชอนขมวดคิ้วเมื่อเริ่มรู้สึกว่าทางมันไม่คุ้นตา ถนนทอดยาวไปที่ไหนซักแห่งแต่ข้างทางกลับมีทะเลใสยาวไกลไปจนสุดปลายขอบฟ้า
“ขับไปไหนน่ะ?” ยูชอนพูดเมื่อรู้สึกตัวว่ารถได้ขับไปยังจุดหมายอื่นนอกโปรแกรม รถถูกขับออกมานอกตัวเมืองตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
“ไม่รู้ฮะ~!!” ชางมินทำหน้าซีเรียส
“อือ ช่างเหอะๆ นายขับไปเลย รถนายนี่!” ประชดเซ็งๆพรางเอนเบาะลง ชางมินเลยปล่อยกร๊ากออกมาเมื่อเจ้านายเอาแต่ใจพ่ายแพ้ ยูชอนหลี่ตามองคนขับรถอย่างไม่ค่อยไว้วางใจก่อนที่จะเตะข้างรถแทนเพื่อระบายอารมณ์อัดอั้น ทำไมเขาถึงไม่ชนะคนคนนี้เลยซักครั้ง
“นี่...”
“อะไร...”
“คุณ~ ทำไมต้องร่านนะล่ะคร๊าบ!!!” ชางมินตะโกนโต้ลมเสียงดังออกไปนอกรถราวกับอยากประจานให้ใครได้ยินทั่ว ประโยคที่ไม่น่าฟังดังกระจายออกไปเพราะประทุนที่เปิดอ้า โชคดีที่คนไม่มีเดินเตร่ยังถนนกว้างเส้นสายนี้ จึงไม่เสียหายอะไรแค่ได้เพียงสร้างความปวดหัวหงุดหงิดเท่านั้น
“ก็แค่.....” ยูชอนเว้นระยะให้คนรอคำตอบอยากรู้ก่อนที่จะพูดให้จบเพื่อคลายความสงสัย
“.....ชอบมีเซ็กซ์”
เสียงถูกจบด้วยเสียงเรียบๆ ยูชอนหันไปมองปฏิกิริยาตอบสนองของชางมินอย่าอารมณ์ดี อยากจะรู้ว่าจะพูดอะไรกลับมาอีก แต่ชางมินกลับจ้องตรงเข้าไปในดวงตาของยูชอนอย่างสงบ
....ราวกลับว่าจะอ่านอะไรในดวงตานั่น
“ผมละเชื่อคุณจริงๆเลย” ชางมินพูดเอือมๆแล้วหันไปขับรถต่อ
“หึ ฉันละเชื่อนายเหมือนกัน” ยูชอนบ่น
โทรศัพท์มือถือราคาแพงไม่ปล่อยให้บรรยากาศเงียบลง ยูชอนมองไปที่หน้าจอเพื่อดูว่าใครโทรมาแต่ก็ถอนหายใจก่อนที่จะโยนไปที่เบาะหลัง
“เรากำลังไปไหนกัน?” ยูชอนถาม
“ทะเลไงคุณ ไม่เห็นเหรอ?”
“เห็นสิ ฉันไม่ได้ตาบอด”
“แล้วจะถามผมเพื่อ!?” ชางมินทำหน้านิ่งๆ ยูชอนฟังดังนั้นรู้สึกอยากจะคว้าอะไรมาปาหัวคนขับรถของเขาเสียจริงแต่ก็ได้เพียงมองซ้ายมองขวาเพราะหัวของคนขับรถมันไม่ค่อยจะคู่ควรกับของในรถเท่าไหร่
“จะดังอีกนานมั้ย!!??” ยูชอนหันไปทะเลาะกับโทรศัพท์แทนเมื่อทำอะไรคนขับรถจอนกวนประสาทข้างๆไม่ได้
“คุณก็กดสายทิ้งสิฮะถ้าคุณไม่อยากรับ ปล่อยให้ดังอยู่นั่นแหละ” ชางมินพูดอย่างรำคาญ
“นายมาสั่งฉันทำไม ฉันอยากให้มันดังแบบนี้จะทำไม!”
“ก็ไม่ทำไมแต่มันหนวกหู”
“เฮ่อ!” ยูชอนเป็นฝ่ายหยุด เขาไม่เข้าใจคนตรงหน้านี่เสียจริง โมโห....แต่เถียงไม่ทัน ด่าไปก็เท่านั้นเพราะชางมินก็คงหูทวนลมหรือมีคำพูดเถียงกลับมา....แบบทุกที
และแล้วมือถือก็ยังคงดังต่อไป..ปล่อยให้คนสองคนหงุดหงิดอยู่แบบนั้น
ฝนลงเม็ดตกลงปรอยๆยูชอนหันไปสะกิดชางมินให้มองดูท้องฟ้าครึ้มเบื้องบน คนขับรถหันมาแล้วก็หันไปขับรถต่อ
“หึ....ให้ฉันขับรถแทนนายเลยมั้ย!?” ยูชอนเอื้อมนิ้วไปกดปิดประทุน
.
.
.
.
.
______________________________
.
.
.
จุนซูเงยหน้ามองฟ้าเมื่อผนเริ่มตกลงมาปลอยๆ มือเล็กอ้ารับเม็ดฝนที่ตกลงมา ทำไมนะเมื่อเห็นฝนเขาจึงระสึกเศร้าขึ้นมาตงิดๆ เพราะเขาชอบลื่นล้มเวลาเตะบอลน่ะสิ ฝนเริ่มลงเม็ดหนักกว่าเดิมขณะที่เสื้อเปียกปอนจนหมด จุนซูจับเส้นผมสีดำของตัวเองก่อนที่จะเดินออกจากบ้านของแจจุงไป เด็กหนุ่มวิ่งไปตามเส้นถนนห่างออกไปจากบ้านหลังโตแล้วหยุดอยู่ที่ร้านขายของชำร้านหนึ่ง
“เอาอันนี้กล่องนึงฮะ” จุนซูจ่ายตังที่พอจะมีติดตัวให้คนขาย แล้วรีบแกะของในกล่องออกมา สายตากวาดวิธีใช้เสร็จสรรพก็รีบลงมือทำตามไปทีละข้อๆ
นึกไม่ออกว่าซีวอนจะทำหน้ายังไงเมื่อผมของเขาจะกลายเป็นสีน้ำตาล
จุนซูหลบฝนอยู่ในตู้โทรศัพท์อยู่นานเพื่อให้น้ำยาโกรกผมได้ทำหน้าที่ของมัน กว่าสิบนาทีผ่านไปที่นั่งร้องเพลงเสียงสั่นอยู่ในตู้สี่เหลี่ยม ภาวนาว่าให้ฝนยังไม่หยุดตก เพราะจะได้ยืมฝนล้างผมซะเลย เท่ห์กว่านี้มีอีกไหม
รถสีดำที่จุนซูไม่รู้จักยี่ห้อจอดลงหน้าตู้โทรศัพท์ เขาว่าเขารู้จักมัน มันจอดอยู่ในบ้านข้างๆหลังโตข้างๆของบ้านคุณแจจุง จุนซูหรี่ตาลงอย่างครุ่นคิด แต่ก่อนที่จะคิดอะไรต่อไปได้อีกกระจกมืดสีชาตรงหน้าก็เลื่อนลงมาพอที่จะเห็นคนด้านใน
“นี่จุนซูขึ้นมาสิ” ยุนโฮมองอย่างเหนื่อยใจ ตั้งแต่เกิดมาเคยเห็นใครวุ่นแบบนี้มาก่อน คิดแล้วก็แปลกใจจนเกือบจะได้ยิ้มออกมาแต่ก็ต้องหุบมันลงเมื่อเสียงแหลมๆของจุนซูแหวใส่
“ตามชั้นมาทำไม เรารู้จักกันหรอ ชองยุนโฮ” จุนซูตัดบทอย่างรำคาญ คนตรงหน้าเขาจงใจตามมา พยามแสดงความไม่เป็นมิตรอย่างชัดเจนทั้งน้ำเสียง และท่าทางด้วย แต่ภาพที่แสดงออกมามันอยากจะทำให้ยุนโฮหัวเราะแม้จะไม่พอใจซุกหน่อยที่ถูกเรียกอย่างไร้ความเคารพทั้งๆที่เขาอายุมากกว่าตั้งหลายปีแต่ความน่ารักกับงี่เง่าที่ชวนขำมันหักล้างกันได้
“รู้จักสิ นายชื่อจุนซู นี่ฉันรู้จักนาย แล้วเมื่อกี้นายเรียกฉันว่าชองยุนโฮด้วย”
“แล้วมัน..ทำไม??” จุนซูขมวดคิ้ว
“นั่นหมายความว่าเรารู้จักกันไงล่ะเด็กน้อย” ยุนโฮยิ้มแป้น
....เด็กหนอเด็ก..เถียงผู้ใหญ่เร็วไปสิบปี...
“ฉันเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งวิ่งออกจาบ้านขณะที่ฝนกำลังตกโดยไม่หยิบร่ม ฉันเลยสงสัยว่าเด็กคนนั้นจะไปไหน พอตามออกมาก็เลยได้รู้ว่าเด็กคนนั้นซื้อสีย้อมผมโกรกหัว แล้วรอน้ำตาทำปฏิกิริยาอยู่ในตู้โทรศัพท์ ......ซึ่งเป็นเรื่องที่ดูงี่เง่า....มาก”
ยุนโฮเน้นคำท้ายๆ ใบหน้าน่ารักนั่นเลอะสีย้อมไปด้วย ร่างเล็กเปียกปอน...ดูเหมือนจะหนาวซะด้วย
“แล้วจะทำไม?!” จุนซูทำเสียงไม่พอใจ ทำไมคนตรงหน้าต้องมายุ่งนักนะ..ก็เขาไม่อยากไปทำสีย้อมหรือน้ำยากัดเลอะในห้องน้ำสะอาดๆต่างหาก... ไม่รู้ว่าส่วนผสมของน้ำยามันมีพลกับกระเบื้องหรือปล่าว
“ขึ้นมาสิ” นัยน์ตาคมมองคนตัวเล็กอย่างอ่อนโยน จุนซูทำเสียงอู้อี้ในลำคอส่ายหน้า...
“นายจะล้างหัวกับน้ำฝนรึไง ฮื้ม?”
“เรื่องของชั้น”
นั่นไงล่ะ คิดไม่ผิดเลย เดี๋ยวก็หนาวตายตรงนี้ซะหรอก....หึ
ยูโนถือวิสาสะเดินลงจากรถและจับตัวเล็กๆซุกซนที่ทำหน้าตกใจใส่รถเข้าไปอย่างง่ายดาย จุนซูที่ถูกมัดมือชกจับยัดใส่รถเห็นดังนั้นจึงเอาหัวตัวเองถูไปทั่วๆเบาะ
“เฮ้ย..!” ยุนโฮเบิกตากว้างอย่างตกใจ แต่ก็ถอนหายใจออกมา
...ดื้อซะไม่มี...
“มันย้อมเสร็จพอดีน่ะ เลยหาผ้าเช็ดหัว” จุนซูจ้องหน้ายุโฮเขม็ง
“หึ”
..ดื้อ...แต่ก็น่ารักดี...
“เปียกหมดเลยแฮะ” ยุนโฮมองตัวเองแต่ก็รีบปิดประตูรถอย่างนึกได้ว่าเดี๋ยวเด็กดื้อตรงหน้าจะวิ่งหนีลงจากรถไปซะก่อน เขารีบขึ้นรถ
“เฮ้ยยย ชั้นไม่ไป!! ชั้นกลับเองได้ ชั้น...!! .........อ้ะ.......เปิดไม่ออก!!” จุนซูโวยวายเมื่อประตูถูกล็อกเรียบร้อยแต่เขาปลดล็อกไม่เป็น มือน้อยทุบที่กระจกหวังให้แตกไปซะเลยแต่ก็ไม่เป็นผล
“ปล่อยชั้นน!!!! ปล่อยชั้นซี่ ปล่อย!!!!”
และรถก็แล่นออกไป
.
.
.
.
ซีวอนยืนอยู่ที่ห้องโถงพรางมองออกไปด้านนอกตัวบ้านผ่านบานกระจกใส
..จุนซูหายไปไหน??
ซีวอนเพิ่งนึกขึ้นได้ มองสายฝนที่ตกลงมาอย่างกระหน่ำและแรงขึ้นๆเรื่อยๆอย่างเป็นห่วง สงสัยว่าเจ้าตัวเล็กจะออกไปวิ่งเล่นหรือเตะฟุตบอลกลางสายฝนกันแน่
เด็กอะไรไม่รู้จักโต
“ซีวอนมาเล่นไพ่กันเถอะ~” เสียงหวานถึงกับทำให้คนสูงกว่าสะดุ้ง ร่างสูงหันละสายตาจากสายฝนไปมองคนด้านหลังอย่างแปลกใจ แจจุงยิ้มร่าอย่างกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สงสัย...แปลกใจ....แต่ก็ดีใจที่เป็นรอยยิ้มไม่ใช่น้ำตา
“เล่นอะไร?” ซีวอนหลี่ตามองร่างเล็กอย่างไม่ไว้วางใจ ก็เขาเล่นไพ่เป็นซะที่ไหน
“เล่นอีแก่ ไม่ก็โป้กเกอร์ หรือนายชอบป๊อกเด้ง..อ่า..อะไรก็ได้มาเหอะ..” แจจุงเบ้ปากราวกลับรู้ว่าซีวอนจะปฏิเสธ มือเล็กถือวิสาสะคว้างมือใหญ่เอาไว้และลากไปด้านหน้า
“คุณ....” ซีวอนมองมือตัวเองอย่างตกใจ
มือเล็กที่เย็นทำให้เขารู้สึกร้อนและหนาวเจ็บจับขั้วหัวใจได้ในเวลาเดียว ร่างเล็กไม่รู้เลยว่าเขาอึดอัดใจเพียงใด จะจับไว้ให้เนิ่นนานหรือจะปล่อยออกไปก็ทำไม่ได้ทั้งสองอย่าง
“ฉันสบายดีไม่ต้องห่วงนะซีวอน เล่นไพ่ๆ” แจจุงเบ้ปากแล้วก็ยิ้มต่อ
...สุดทางแล้ว....
มือบางนั้นปล่อยมือหนาของซีวอน แจจุงทิ้งไออุ่นเหลือไว้เพียงเล็กน้อย
....ราวกลับว่าอยากให้เสียดาย..
“ครับ?” ซีวอนสะดุ้ง
“นั่งสินั่ง” แจจุงขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ ชวนมาเล่นไพ่แต่กลับเหม่อ เดี๋ยวก็สั่งให้ไปทอดไข่ซะเลย
“
.” ซีวอนไม่เอื้อนเอ่ยอะไรออกมายกมือหนาขึ้นขยี้ผมสีดำขลับตรงหน้าแล้วผละมันออกเมื่อร่างบางทำหน้าราวกลับจะโวยวาย
จะรู้ไหมนะ
คุณทำตัวเข้มแข็งขึ้น แต่ผมเหมือนจะอ่อนแอลง
.ราวกับว่าจะขาดใจ
-----------------
-----------------
ถามจริงๆเถอะ....มีคนอ่านฟิครึป่าว(ชักสงสัย55+)
ความคิดเห็น