คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : -6- Be sweetheart
เคลียร์ก่อนอ่าน -0- ถามว่ามิกเป็นเมะไม่ใช่หรอ
ถ้ามิกเป็นเมะแล้วยุนเคะ แจเสะหรอคะ 5555555+ อย่าสงสัยนักสิ จริงๆแล้วถึงมิกมันหน้าหื่น พูดอีกแง่คือหน้ายั่วค่ะ -0-“ และมิกเป็นคนอ่อนไหวร้องไห้เก่งจิงป่ะ - - เรื่องนี้มิกกี้ก็อ่อนไหวนะ -->หรืออ่อนระทวย -*- (เอิ่ม อ่านไปเถอะค่ะ) พูดมากเดี๋ยวหลุดออกมาหมด (ไม่ได้สร้างกระแสมิกเคะ แต่...มันเคะมานานแล่ว) เอิ๊กๆ
เรื่องนี้มันไม่ซับซ้อนหรอก แต่ออกวุ่นวาย -*- (พูดเพื่อ??)
............................................................................................................................................
““ซีวอนนายเข้มแข็ง” จุนซูตบไหล่ร่างสูงเป็นการปลอบใจ
จุนซูได้แต่มองร่างสูงช้อนตัวแจจุงขึ้น ห่างออกไป....
“ฉันควรจะพูดอะไรดี?” จุนซูพูดสิ่งที่เขาคิดออกมาตรงๆขณะผลักประตูของห้องนอนของแจจุงเข้าไป
ซีวอนหันมามองจุนซูที่ยืนทำหน้าฉายแววสับสนแล้วยิ้มให้
“ไม่ต้องพูดอะไรหรอกน่า เด็กโง่ ฉันไม่เจ็บหรอก” มือหนาเลื่อนไปเช็ดน้ำตาที่อยู่บนแก้มสวย เวลาแจจุงร้องไห้มันดูน่ารักเสมอ แต่เวลาแจจุงร้องไห้เพราะยุนโฮมันกลับดูเจ็บปวด...
“โกหกนี่พี่ชาย” จุนซูพูดเบาๆก่อนที่จะปล่อยให้ห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง
“....”
“....”
“...ฮึก...ยุนโฮ..” เสียงหวานสะอื้นทั้งๆที่ไม่ได้สติ ภาพคมกรีดและเสียงที่บาดหูแจ่มชัดเจนในหัวของร่างบางที่นอนแน่นิ่ง มือใหญ่ได้แต่กุมมือเรียวบางหวังว่าความอบอุ่นที่มือจะทำให้ร่างเล็กรู้สึกดีขึ้นแม้ในยามหลับ..
“ทะเลาะเรื่องอะไรอีก ทำไมมันถึงทำแจจุงร้องไห้!” ซีวอนเค้นเสียงในลำคอ ไม่ใช่ครั้งแรกที่แจจุงร้องไห้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่แจจุงเสียใจ
วันนี้เขาจูบฉันทั้งหมดสี่ครั้งซีวอน...
...ไม่นะหรือว่าห้า อ๊า~ เดี๋ยวบนรถสองครั้ง...
...ไม่ใช่สิฉันเป็นคนจูบเค้าสองครั้ง สามครั้งเขาจูบฉันสิ...
...บ้าจริง ฮิๆ ฉันเล่าให้นายฟังทำไมนะ...
“ผมเกลียดที่คุณชอบเล่าอะไรให้ผมฟัง เกลียดที่คุณไม่เคยรู้อะไร และก็เกลียดที่คุณบอกว่ารักยุนโฮกับผม..” ซีวอนพูดให้ร่างบางที่ยังคงไม่ได้สติฟัง.. ก็แน่ถ้าร่างบางมีสติเขาคงไม่พูดออกมา..
“อย่าหาว่าฉันด่านายล่ะ..นายมันทึ่มที่สุดเลยซีวอน” จุนซูนั่งลงกับพื้นทั้งๆที่ยังจับลูกบิดประตูอยู่ และนอนลงกับพื้นก่อนที่จะถอนหายใจยาวๆออกมา
“นายช่วยฟังหน่อยนะจุนซู” ใบหน้าคมยกระดับขึ้นเงยมองเพดานแล้วหันกลับมามองที่จุนซูอย่างจริงจัง
“....” จุนซูรู้สึกเข้าใจแววตาที่เศร้าหมองนั่นถึงกับเจ็บจุกไปด้วย แต่ก็ไม่ได้หลบสายตา รอรับฟังคำพูดของร่างสูงโดยไม่เอ่ยอะไรขัด
“ฉันรักแจจุง”
“หันไปพูดกับเขาสิ บอกฉันทำไม” นิ้วเล็กเคาะที่พื้นไปพรางอย่างเก็บอารมณ์ ชักอยากจะลุกขึ้นไปปลุกแจจุงแล้วบังคับให้แจจุงหันมารักซีวอนซะเดี๋ยวนั้น ถึงไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรที่ผ่านๆมาก็เถอะ
...แต่ความรักมันบังคับกันไม่ได้...
“ฉันไปดีกว่า” จุนซูเด้งตัวขึ้นแล้วเดินออกจาห้องไป
..นายคงอยากอยู่เงียบๆสินะ..
จุนซูเดินออกจากห้องของแจจุงและเดินไปตามทางทอดยาว มองผ่านหน้าต่างไปยังบ้านหลังใหญ่ที่ตระหง่านอยู่เพียงเอื้อม
..ยุนโฮ เป็นคนแบบไหนกันนะ..
“ฟู่~” จุนซูเป่าลมออกทางปากก่อนที่จะนึกถึงสิ่งที่สร้างสรรค์ อองรีกำลังเตะฟรีคิกเข้าโกลอย่างสวยงาม..ม!
“เยสสส!!” ตะโกนเสียงแหลมแล้ววิ่งจ๊อกกิ้งกับที่ จุนซูออกตัววิ่งไปรอบๆบ้านไปก่อนที่จะไปนั่งโยกชิงช้าที่สวน..
“นายจะเข้าไปมั้ย”
“นี่บ้านใคร?”
“บ้านของคู่นอนใหม่ไงล่ะ”
“เออผมรู้ แต่ใครล่ะ!??”
“ยุนโฮไง ชองยุนโฮ นายจะเข้าไปไหม ข้าทาสพิศวาสในเรือนเบี้ย”
เสียงสนทนาโหวกเหวกราวกับมีใครมาเปิดประเด็นโต้วาทีทำให้จุนซูที่นั่งอยู่หันไปดูอย่างเสียไม่ได้ สมองน้อยประมวลผลก่อนที่จะด่าออกมาอย่างไม่ทันกลั่นกรอง
“เลวจริงๆ ไปนอนกับคนอื่นทั้งๆที่มีแฟนอยู่แล้ว เชี่ย!!!” ตะโกนเสียงแหลมก่อนเอามือตะคลุบปากตัวเองเมื่อคนหนึ่งในสองคนหันมามองหน้าเพราะคำว่าเชี่ยดังไปหน่อย ความรู้สึกที่มีต่อคนชื่อยุนโฮกำลังติดลบลงเรื่อยๆ
“....” จุนซูหันไปมองอีกสองคนที่กำลังคุยกันเบาลงอย่างหัวเสีย เขาไม่น่าโหวกเหวกเลย
“......คุยอะไรกันวะไม่ได้ยิน.....” พึมพำในลำคอพรางนั่งลงกับที่เหมือนเดิม มองตามคนใส่ชุดสูทเข้าบ้านของชองยุนโฮไป..แล้วหันกลับมามองอีกคนที่ยืนพิงรถเปิดประทุนอยู่
“นี่นาย นายตรงนั้นน่ะ” เสียงแสบแก้วหูตะโกน
“....” ชางมินหันมามองเจ้าของเสียงแสบแก้วหูแล้วหันไปมองรอบๆ
“นายนั่นแหละ มานี่ๆ
อ้ะ อยู่ตรงนั้นแหละ” จุนซูกวักมือเรียกเสร็จสรรพ ก่อนที่จะเดินออกไปเองอย่างนึกออก เขาเกือบเอาคนแปลกหน้าเข้าบ้านของคนอื่นแล้ว
Flash back
“นายจะเข้าไปมั้ย” ยิ้มเย็นๆที่มุมปากก่อนที่จะปลดกระดุดเม็ดบนออกเชิงบอกให้รู้ถึงสิ่งที่จะทำ
“นี่บ้านใคร?” ชางมินถามเรียบๆอย่างไม่สนใจ
“บ้านของคู่นอนใหม่ไงไล่” ยูชอนยักไหล่พรางมองออดหน้าประตู คิดว่ากดดีหรือถือวิสาสะเดินเข้าไปดี
“หึ ผมรู้ แต่ใครล่ะ!??” ยิ้มเหยียดๆให้กับผู้เป็นเจ้านายแล้วถามซ้ำ ยูชอนหันมาตอบแสยะยิ้ม
“ยุนโฮไง ชองยุนโฮ นายจะเข้าไปไหม ข้าทาสพิศวาสในเรือนเบี้ย”
“เชี่ย!!!” คำหยาบเสียงแหลบแทงเข้ามาในหูยูชอนหันไปมองเจ้าของเสียงก่อนที่จะหันกลับมาคุยต่อ
“นายว่าใครนะ” ชางมินเลิกคิ้วขึ้นไม่สนใจเสียงโหวกเหวก
“สงสัยบ้านนั้นจะรู้ว่าสามีมีกิ๊ก นายรู้มั้ยนั่นบ้านคิมแจจุงไงล่ะ ติดกันด้วยน่าตื่นเต้นจริงโอ้หลั่นล้าทุกคืน ชู้มาแล้วหมอนั่นหายไปไหนนะ” ยูชอนพูดกระซิบ
“คุณมันมั่วไม่เลือก ขนาดคนเค้ารักกันยังไปยุ่ง” ชางมินหลี่ตาลงพ่นลมเบาๆเพื่อกลืนความน่ารังเกียจลงไปในลำคอ กริยานั่นทำให้ยูชอนมองชางมินอย่างพอใจ
“ตกลงจะเข้าไปเรียนรู้ไหม จะได้โตไวไว เผื่อนายพิศวาสขึ้นมา”
“....” ชางมินไม่ตอบ ได้แต่ถุยน้ำลายลงพื้นเพราะนึกคำพูดไม่ออก..
“แล้วเจอกันนะ เสร็จเมื่อไหร่จะโทรตาม” ยูชอนตบไหล่เด็กหนุ่มเบาๆก่อนที่จะถือวิสาสะเดินเข้าบ้านหลังโตอย่างไม่เกรงใจ
“นี่นาย นายตรงนั้นน่ะ” เสียงแสบแก้วหูตะโกน
“....” ชางมินหันมามองเจ้าของเสียงแสบแก้วหูแล้วหันไปมองรอบๆ ก่อนที่จะหยุดสายตาที่เด็กหนุ่มผมสีดำที่อยู่ในรั้วของบ้านหลังโตอีกหลัง
“นายนั่นแหละ มานี่ๆ
อ้ะ อยู่ตรงนั้นแหละ” จุนซูกวักมือเรียกเสร็จสรรพ แต่ก็เดินมาหาชางมินเองอย่างนึกอะไรออก
“อะไรฮะ”
“ไม่ต้องมาอะไรฮะเลย คุณแจจุงร้องไห้เพราะเจ้านายสั่วสะถั่วงี่เง่าของนาย นายไปลากเขากลับเลยนะ” จุนซูพูดรวดเดียวจบ ชางมินเงียบหยุดคิดเสยผมสั้นๆของตัวเองก่อนจะพูดบ้าง
“ผมเป็นแค่คนขับรถฮะ”
“หยุดสุภาพกับชั้นนะ งี่เง่า! อายุเท่าๆกับฉันนั่นแหละ” ชางมินเงียบไปกับคำด่าของจุนซูอีกรอบ ทำไมเขาต้องโดนคนอายุรุ่นไล่ๆกันด่าอย่างไร้เหตุผลด้วย ด่าแบบไม่คิดอีกตังหาก
“......ฟังนะ ขี้ข้าที่ดีไม่สะเออะเรื่องเจ้านาย สองผมไม่ใช่ขี้ข้าที่ดี แต่สามอยากให้คุณคิดดูหน่อย ไอ้ปาร์คนั่นทำอะไรไม่ได้หรอกถ้าเกิดคุณยุนโฮไม่มีใจน่ะ เข้าใจเรื่องนี้ด้วย”
จุนซูถึงกับพูดไม่ออก สรุปเขาต้องไปด่าคนชื่อยุนโฮถึงจะถูก แต่เจ็บใจชะมัดที่คนขับรถของปาร์ค(?) พูดจาดูมีน้ำหนัก
“ไอ้ปาร์ค ชื่ออะไร” จุนซูเปลี่ยนมาถามแต่ก็ได้รับคำตอบกลับที่ชวนปวดหัว
“เสียมารยาท คุณกำลังใช้คำว่าไอ้กับเจ้านายของผม ไอ้หมอนั่นชื่อยูชอน หมดธุระแล้วผมขอตัว” ชางมินสร้างความงุนงงให้กับจุนซูไม่น้อยและทิ้งมันไว้แบบนั้น เด็กหนุ่มชื่อชางมินกลับเข้าไปนั่งในรถก่อนที่จะพารถของเจ้านายขับออกไป....
.
.
.
“ชองยุนโฮ?” ยูชอนมองไปรอบๆก่อนที่จะไล่เปิดประตูที่ละบาน แปลกที่ไม่มีใครอยู่ซักคน สงสัยว่าบ้านนี้ไมมีคนใช้รึไงกันนะ บ้านออกใหญ่โต
“เรียกชื่อฉันอีกทีซิ” เสียงทุ้มกระซิบรดต้นคอจากด้านหลัง มือแกร่งกอดแน่นที่ร่างเล็กกว่าสร้างความรู้สึกเสียวสะท้านให้กับคนถูกกอดไม่น้อย จมูกคมสันกดลงไปที่ต้นคอสวยที่ยังมีรอยแดงไม่จาง
“อะ..นายกำลังทำให้ฉันเร่าร้อนนะ..ไม่มีคนใช่มั้ย..” เอ่ยครางพรางหันไปโอบคอร่างสูงกว่าเอาไว้
“เสียงนายมันยั่วฉันเหมือนกัน ฉันแทบจะกินนายได้อยู่แล้ว” ยุนโฮไม่ตอบคำถาม ผลักร่างบางกว่าชนกับผนังฝ้าจนเกิดเสียงดัง ร่างบางแม้เจ็บแต่ก็เจ็บอย่างพึงพอใจไม่ปริปากอะไร
“จูบของนายทำฉันนอนไม่หลับ” ยูชอนเอ่ยแผ่วเบา ร่างกายมันเรียกให้ดำเนินการกระทำต่อไป
“ฉันรู้” ยุนโฮกดจูบลงไปที่ซอกคอขาวอีกรอบ มือบางเกาะหลังแกร่งพรางกระซิบ
“นายก็คิดถึงจูบของฉัน”
“ก็ถูกอีก” ยุนโฮขบฟันลงไปที่เนื้อละเอียดจนเกิดรอยแดง มือใหญ่ไม่รอช้าที่จะปลดเปลื้องเสื้อเชิร์ตที่บดบังรอยต่างๆที่ตัวเองทำไว้นั่นออก
“อะไร เยื้อยืดจัง ยุนโฮ หรือกำลังคิดถึงแจ.....!” ประโยคถูกตัดด้วยจูบร้อน เยาไม่อยากฟังชื่ออีกคนนัก ยุนโฮถอนจูบนั่นออกช้าๆแล้วพูดต่อ
“อย่าเอ่ยชื่อเขา ฉันมีเรื่องจะถามนายสองอย่าง หนึ่งนายคบกับใครอยู่รึปล่าว สองเรื่องของเราจะเป็นข้ามคืนหรือนายจะสานต่อ...มาคบกันมั้ย?”
ยูชอนตีแก้มร่างสูงกว่าก่อนที่จะใช้มือเดิมลูบมันอย่างแผ่วเบา
“ข้อแรกฉันไม่เคยคบกับใครเพราะข้ามคืนมันดีต่อฉัน ข้อสองฉันไม่คบกับนาย...”
"........"
“....แต่เราจะคบกัน..”
จูบเร่าร้อนมันแทนคำพูดทุกอย่าง ยูชอนปล่อยใจกับความสัมพันธ์อันหวาบหวาม.. ไม่มีครั้งใดที่รู้สึกอยากจะผูกมัดต่อชั่วคืน แต่ครั้งนี้ได้ยอมรับกับตัวเองและพร้อมที่จะผูกมัด
ความคิดเห็น