ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทางสายใหม่ในรูปใบเก่า

    ลำดับตอนที่ #7 : คอนโดฯหรูชานเมืองกับเศษซากแห่งหายนะ

    • อัปเดตล่าสุด 19 ต.ค. 55


     “หมายความว่าไง” แป้งถามด้วยความฉงน



                       “แล้วเธอคิดว่าไงล่ะ  ฉลาดนักไม่ใช่เหรอ แม่ประธานนักเรียน”



                       “อยากให้ไอ้นี่ไปอยู่ที่ปากนายมั๊ย”  แป้งพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังพร้อมกับชี้ไปที่อวัยวะส่วนที่อยู่ต่ำที่สุดของร่างกาย



                       “ก็หมายความว่าฉันเป็นคนเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอเองอ่ะดิ่” พีตอบหน้าตาย



                       แป้งลุกพรวดพราดขึ้นมา  สีหน้าเปลี่ยนเป็นขยะแขยงคนตรงหน้าสุดๆ



                       “นายมัน ……ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ ฉวยโอกาส   ไอ้หน้าปลามังกร  ไอ้ลูกหมาเอ๊ย…” แป้งสรรหาคำด่ามากมายจน

    นึกไม่ออก คนถูกด่ายังคงไม่สะทกสะท้าน



                       “พูดจบยังยัยกระดานโต้คลื่น”



                       “ไอ้บ้า  นี่แกเห็นหมดเลยใช่มั๊ย  แกเอาความบริสุทธิ์ของฉันไป”



                       “นี่! ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเธอสักหน่อย แล้วก็ไม่เคยคิดจะทำด้วย  ที่เปลี่ยนให้เนี่ยนะ เพราะเมื่อคืนฝนมันตก เธอก็เปียกอย่างกับลูกหมาตกน้ำ..อ้าว แล้วนั่นจะไปไหน  ดูสารรูปซิ!”



                       แป้งก้มลงมองตัวเอง เธออยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวตัวโคร่งที่เก่าจนมองไม่ออกว่าสกรีนเป็นรูปอะไรกับกางเกงกีฬาผู้ชายสีดำ ขาสั้น ที่ชายลุ่ยออกมาจนน่าเกลียด แล้วทำหน้าเบ้



                       “เสื้อผ้าฉันอยู่ไหน”



                       “ข้างนอก…แต่ไม่ต้องออกไปเอาหรอก ฉันไม่ได้ซัก ซักไม่เป็น แล้วมันก็เหม็นเหมือนหนูตายด้วย”



                       “แล้วจะให้ใส่อะไร” แป้งถามหน้ามุ่ย



                       “จะไปรู้ได้ไง” พีพูดแล้วเดินออกไปนอกห้อง ทิ้งให้แป้งยืนบื้ออยู่คนเดียว  พอตั้งสติได้เธอก็อาละวาดเสียงลั่น  ปาหมอนจนนุ่นกระจุย



                       “ไอ้บ้าเอ๊ย !!!!!  ปล่อยฉันให้โดนพวกบ้านั่นข่มขืนยังดีกว่าต้องมาอยู่ห้องเดียวกับผู้ชายแย่ๆ อย่างแกเลย”  แป้งพึมพันอย่างหัวเสียแล้วเริ่มค้นตู้เสื้อผ้าในห้องนั้น  เมื่อเปิดไปแล้วก็พบเสื้อผ้าผู้หญิงเต็มตู้  แถมยังเป็นเสื้อผ้าเด็กวัยรุ่นทั้งนั้น



                       “สงสัยที่นี่คงเป็นรังรักของหมอนี่แน่ๆ อี๋ ผู้ชายอะไรเลวชะมัด  ช่างเหอะ  ขอยืมซักตัวละกันนะ”



                       แป้งเลือกเสื้อผ้าที่คิดว่าโป๊น้อยที่สุดออกมา 1 ชุด แต่ก็ยังไม่วายเว้าตรงกลางหลังอีก  เธอคิดว่าผู้หญิงพวกนี้คงจะมาอ่อยพีถึงห้องนอนแน่ๆ คิดๆไปแล้วก็นึกขยะแขยงชุดเหล่านั้นจนแทบไม่กล้าใส่ โดยลืมคิดไปว่า เจ้าของห้องยังมีน้องสาวอยู่อีกคน



                       “เฮ้ย เธอ เอาชุดพวกนั้นมาจากไหนอ่ะ” พีที่นั่งอยู่หน้าห้องนอนตะโกนจนแป้งตกใจ



                       “ก็ชุดผู้หญิงที่เคยนอนห้องเดียวกับนายไง  ไม่อยากจะใส่หรอกนะ  แต่นายอยากเอาชุดฉันไปหมักไว้เอง”



                       “นี่ เธอยังไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของเลย  มาถือวิสาสะเอาไปใส่เองได้ไง”



                       “ก็ฉันจะใส่  นายจะทำไม” พูดจบ  ประธานนักเรียนจอมอวดดีก็วิ่งออกไปจาห้องทันที  ทิ้งให้ลูกนายพลยืนอึ้งอยู่นานสองนาน



                       “ชุดโปรดยัยพายซะด้วยสิ”  พีพูดเบาๆ



                                                                                         *********                  



                       “เมื่อคืนไปไหนมา” ศรุตนั่งอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขก  พูดเสียงเรียบขรึมกับคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในบ้านกับเสื้อโชว์แผ่นหลังตัวจิ๋ว



                       “แป้งก็ไปเที่ยวหาความสุขนอกบ้านบ้างสิคะ  พ่ออุตส่าห์กลับมาทั้งที  โอกาสแบบนี้หายาก”  แป้งร่ำพูดหน้าตาย



                       “ทำไมทิ้งน้องไว้หน้าบ้าน  ถ้าขืนแป้งเป็นแบบนี้อีก  พ่อจะไม่ใจดีด้วยอีกแล้วนะ”  แป้งมองตาพ่อของเธออย่างท้าทาย แล้วหัน

    หลังเดินห่างออกไป แต่ก็ได้ยินเสียงคนคนเดิมถามคำถามที่ตอบแสนยาก



                       “แล้วไปเอาชุดใครมาใส่  ทำไมมันโป๊ซะขนาดนั้น  นี่ลูกไปเที่ยวที่ไหนมากันแน่” แป้งอ้ำอึ้ง เพราะเธอไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องทั้งหมดยังไง  เด็กสาวอยากเล่าใจจะขาดว่าเธอกับน้องผ่านอะไรมา  แต่เธอก็ไม่อยากพูดกับพ่อที่เธอกำลังโกรธจนไม่อยากมองหน้าด้วยซ้ำ



                       \"พ่ออยากรู้ด้วยเหรอคะ  แป้งก็ออกไปอย่างนี้ประจำแหละค่ะ  ไปผับบ้าง  เธคบ้าง  แล้วแต่อารมณ์น่ะค่ะ พอดีเมื่อคืนหนักไปหน่อยเลยไปค้างบ้านเพื่อน…”



                       “หยุดเดี๋ยวนี้นะแป้ง  พ่อรู้ว่าลูกพูดประชด  เมื่อก่อนลูกไม่ได้เป็นแบบนี้”  



                       “คนเราเปลี่ยนกันได้ค่ะพ่อ  แม้แต่พ่อ  คนที่บอกว่ารักแม่  จะรักแต่แม่คนเดียวตลอดไป  ยังผิดคำพูดได้เลย  แล้วจะมานับประสาอะไรกับแป้ง  ขอตัวไปดูน้องก่อนนะคะ” ลูกสาวพูดกระแนะกระแหนผู้เป็นพ่อย่างเจ็บแสบ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาเปลี่ยนสีหน้าเรียบขรึมที่แฝงด้วยความอ่อนโอนเลย



                       “พรุ่งนี้พ่อจะกลับแล้วนะ  เจ้านายโทรมาตาม  และพ่อไม่อยากให้ลูกทำตัวแบบนี้อีก  แป้งน่าจะรับเรื่องทั้งหมดได้แล้วนะ  อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่” แป้งหันหลังเดินขึ้นบันไดไปหาน้องสาวที่นอนคุดอยู่ในห้องตั้งแต่เมื่อคืน





                       “น้ำอุ่น  เปิดประตูให้พี่หน่อย” แป้งร่ำพูดพร้อมกับเคาะประตูที่น้องสาวตัวแสบเอารูปอุนจิขนาดมหึมามาติดไว้



                       “ไม่มีประโยชน์หรอกพี่แป้ง  ตั้งแต่ยัยอุ่นฟื้นอ่ะนะ  มันก็ล็อกประตูห้อง  ยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า  พี่แป้งเล่าให้ฟังหน่อยดิ่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น” น้ำอบ แฝดผู้น้องบอกพี่สาวเบาๆ



                       “เอาเป็นว่าอบต้องไปหากุญแจห้องน้ำอุ่นมาให้พี่ก่อน  เพราะพี่จะปล่อยให้น้ำอุ่นเป็นแบบนี้ไม่ได้”



                       “โอเค”  น้ำอบตอบแล้ววิ่งปรู๊ดไปขอกุญแจจากแม่บ้านมา  แป้งไขกุญแจแล้วเปิดประตูห้องเข้าไปพบว่าน้ำอุ่นกำลังนอนตะแคงหันหลังให้กับเธอ  และดูเหมือนกำลังร้องไห้



                       “น้ำอุ่น” แป้งร่ำเข้าไปนั่งใกล้ๆ น้องสาว  เด็กหญิงที่นอนหมดสภาพอยู่บนเตียงลุกขึ้น  หันหน้ามาพร้อมกับน้ำตาอาบแก้ม



                       “พี่แป้ง  น้ำอุ่น..ไอ้ปิ๊กมัน…น้ำอุ่นขอโทษ” เด็กสาวพยายามจะเรียบเรียงคำพูด  แต่ก็ทำได้ไม่ดีนัก  เธอผวาเข้ากอดพี่สาวไว้แน่น  น้ำอบแฝดผู้น้องมองอย่างสงสัย



                       “ไม่เป็นไรนะ มันไม่ได้ทำอะไรอุ่น  มีคนช่วยเราไว้”



                       “ใครหรอ”  น้ำอุ่นถอนตัวออกจาอ้อมกอดพี่สาว  ถามอย่างสงสัย



                       “ช่างเถอะ พี่ว่าอุ่นกินอะไรก่อนเหอะนะ  วันนี้พี่อนุญาตให้หยุดเรียนพิเศษได้ 1 วัน” แป้งพูดยิ้มๆ  ทำให้ใบหน้าของน้องสาวปรากฏรอยยิ้มจางๆขึ้น



                       “เอ่อ  โทษนะ  มีใครอยากเล่าอะไรให้อบฟังมั่งมั๊ย”  แป้งร่ำกับน้ำอุ่นหันมายิ้มให้กันเป็นนัยๆ แต่ไม่พูดอะไรออกมา  ปล่อยให้น้ำอบยืนทำหน้ามึนอยู่คนเดียว

                  

                                                                                               ******



                       วันรุ่งขึ้นพ่อของสามพี่น้องบินกลับไปพร้อมกับภรรยาใหม่…แม่ของคนอื่น  ไม่มีใครตามไปส่งที่สนามบินนอกจากพ่อของพี  แป้งเองก็สงสัยว่าท่านทนได้ยังไง  เห็นเมียตัวเองไปกับคนอื่น   หรือจะมีอะไรมากกว่าที่เธอเห็น….



                       พียังคงอยู่ที่คอนโดฯ ของเขาตลอดวันเสาร์  และเรื่อยมาจนถึงวันอาทิตย์  การได้อยู่กับตัวเอง ทำให้เขาคิดเรื่องอะไรหลายอย่าง  เรื่องของตัวเอง  เรื่องของแม่  เรื่องของพ่อ และเรื่องของแป้ง… วันที่เขาเกือบจะใช้ให้เพื่อนข่มขืนเธอ  วันที่เสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยเธอมาจากวัยรุ่นกวนเมืองกับปืนไม่มีกระสุนกระบอกเดียว…….เพื่ออะไร  ในที่สุด เขาก็ได้คำตอบว่า……แป้งร่ำจะต้องเจ็บ……ด้วยน้ำมือของเขา….เท่านั้น





    ที่โรงเรียน



                      “แป้งเอ๊ย  ทำไมชีวิตแกช่างรันทดขนาดนี้วะ  นี่ถ้าฉันเป็นแกนะ  ฉันจะใช้เงินที่พ่อส่งมาให้หมด  ไม่ยุ่งอะไรกับเรื่องเมียใหม่เลย  พับผ่าสิ” แตมบ่นหลังจากแป้งเล่าเรื่องที่พ่อของเธอกลับมา และเรื่องที่น้องของเธอเกือบถูกข่มขืนให้ฟัง แต่ไม่ได้บอกว่าเธอต้องไปนอนค้างคอนโด ฯ นายพี ลูกชายนายพล คู่อริ 2 ต่อ 2 ทั้งคืน



                       “แต่แกก็ไม่เคยเจออย่างมันนี่หว่า  แล้วจะไปเข้าใจมันได้ไง  ช่างมันเหอะแป้ง  ไหนๆ พ่อแกก็กลับไปแล้ว  เย็นนี้เราไปร้องเกะ(คาราโอเกะ)กันมะ” ขนุนเสนอ



                       “นี่  ชวนอิฐไปด้วยดีป่ะ” นุกที่ชอบอิฐอยู่แล้วแนะ



                       “แหม  นุก วันไหนที่แกเลิกแรดนะ  ฉันว่าวันนั้นคงเป็นวันที่แม่บอกให้ฉันเลิกไปเรียนบัลเล่ต์แน่เลยว่ะ”  ประโยคที่ขนุนพูดทำให้คนอื่นๆ พลอยหัวเราะไปด้วย  ใครๆก็รู้ว่าแม่ของขนุนชอบให้ลูกทำอะไรที่มันไม่เข้ากับตัวเองเอาซะเลย



                       “คุยอะไรกันอยู่สาวๆ” วงสนทนาถูกขัดด้วยประโยคหนึ่ง



                       “อ้าว อิฐ นั่งก่อนสิ” แตมพูดพลางขยับให้ผู้ร่วงวงสนทนาคนใหม่นั่ง



                       “ลมอะไรหอบมาจ๊ะเนี่ย” นุกถาม ใส่จริตเข้าไปเต็มที่



                       “ก็  ไม่มีลมอะไรหอบมาหรอก  เราขี้เกียจอยู่บ้าน แต่ก็ไม่รู้จะไปไหนเลยออกมาเยี่ยมเพื่อนๆไง”



                       “นี่  เย็นนี้เราจะไปร้องคาราโอเกะกัน ไปด้วยกันมั๊ย” แตมชิงถามก่อนนุก ส่วนแป้งก็นั่งหน้าแดงไม่พูดไม่จาอีกตามเคย



                       “เอ้อ ก็ดีเหมือนกัน  เรายิ่งเบื่อๆอยู่”



                       ตุ๊บ!!!



                       ถุงกระดาษใบหนึ่งหล่นลงกลางโต๊ะหินอ่อน  ทุกคนในที่นั้นหันไปดู พบว่าเป็นฝีมือของลูกชายนายพลยืนกร่างอยู่  หน้าตาบอกบุญไม่รับ



                       “จะหาเรื่องอะไรอีกล่ะ  เมื่อเช้าไม่ได้กินเพ็ดดีกรีรึไง” แป้งประชด



                       “เสื้อผ้าเธอเมื่อคืนนั้น  ไม่อยากเก็บไว้  รกห้อง แล้วชุดที่ใส่ไปน่ะ เอามาคืนด้วย” พีพูดเรียบๆ แต่คนที่อยู่ในวงสนทนาเมื่อครู่ต่างมองมาที่แป้งร่ำเป็นตาเดียว

                                  

                                                                                           /////////////////////////////////////////

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×