คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : เพื่อนรัก
เอริกาเฝ้ารอเวลาเลิกงานอย่างไม่เป็นสุข
เมื่อวานหลังจากที่เวทินและคีตะกลับไปแล้ว เธอก็รีบขอลาป่วยกลับบ้านทันที่ เพราะกลัวว่าคีตะจะมารอพบเธอหลังเลิกงาน แต่วันนี้ล่ะ เธอจะเลี่ยงเขาอย่างไร
เมื่อถึงเวลาเอริกาก็แอบลอบมองไปที่ประตูทางออกก็ไม่เห็นใคร ระหว่างทางจากบริษัทไปจนถึงรถไฟฟ้า
เธอคอยระแวดระวังตลอดเวลาแต่ก็ไม่พบคนที่เธอกลัว
‘โถ่เอ๊ย
ดีแต่ขู่นี่นาพี่คีย์ ปล่อยให้เราระแวงไปได้ หรือเขาอาจจะคิดว่าเราไม่ใช่ ‘ริกาน้อย’ แล้วนะ’ หญิงสาวแอบตัดพ้อ ใจหนึ่งก็โล่งอก
แต่อีกใจก็เจ็บปวดที่เขาลืมเธอได้จริงๆ ในขณะที่เอริกากำลังเดินขึ้นคอนโด ด้วยความน้อยใจและคิดอะไรลำพัง
เธอจึงไม่ทันสังเกตรอบข้างว่ามีใครเดินตามเธอมาไม่ห่างนัก เธอแตะบัตรผ่านเข้าตึก ขึ้นลิฟท์ จนกระทั่งเดินไปเกือบจะถึงหน้าห้องแล้วเธอจึงก้มควานหากุญแจในกระเป๋า
จังหวะนั้นเองที่เธอชนกับคนที่ตั้งใจเดินมาขวางอย่างจัง
“ขอโทษค่ะ พอดีฉัน...”
เอริกาเอ่ยปากพลางเงยหน้าขึ้นมอง “คุณ! คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
“แหม! ไม่รู้ตัวตอนผมเดินตามเข้าไปในห้องเลยล่ะครับ”
คีตะเอ่ยพลางนึกกังวลว่าทำไมหญิงสาวช่างไม่ระวังตัวเช่นนี้นะ
ถ้าคนที่ตามมาไม่ใช่เขาล่ะจะเกิดอะไรขึ้น “คุณนี่จริงๆ เลยนะ เหม่อลอยอะไรอยู่
รู้มั้ยว่าผมตามคุณมานานขนาดไหน ถ้าเป็นคนอื่นล่ะก็...”
“เดี๋ยวๆ ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลย ฉันต่างหากที่ต้องเป็นคนโกรธ
คุณมีสิทธิ์อะไรตามฉันขึ้นมาถึงบนนี้ มันจะมากเกินไปแล้วนะ ฉันคงต้องจัดการกับคุณจริงๆ
ซะที” เธอควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋าเพื่อจะโทรหา รปภ.
คีตะไม่รู้ว่าเอริกาจะทำอะไรแต่เขาต้องหยุดเธอไว้ก่อน เขาจึงดึงมือเธอออก ทั้งสองฉุดยื้อกันไปมาแต่แรงผู้หญิงหรือจะสู้ผู้ชายได้ เอริกาจึงเสียหลักไปตามแรงดึง และล้มลงซุกอยู่ที่อกของเขา ใจเธอเต้นระรัวกับความอบอุ่นที่ได้สัมผัส และเมื่อเธอช้อนตาขึ้นมอง ใบหน้าของทั้งสองก็เกือบจะชนกันอยู่แล้ว สายตาของเขาแทบจะสะกดเธอไว้ เพราะถึงแม้จะเพียรห้ามใจ แต่เมื่อเจ้าชายในวัยเด็กของเธอมาอยู่ตรงหน้านี้แล้ว จะไม่ให้เธอหวั่นไหวได้อย่างไร
ผัวะ!
“ปล่อยเพื่อนฉันเดี๋ยวนี้นะ
ไอ้คนบ้า!” แบลร์ใช้ไม้กวาดฟาดเข้าให้ทีกลางหลังของคีตะเต็มแรง เธอได้ยินเสียงเอะอะ จึงมองลอดตาแมวมาเห็นทั้งคู่กำลังยื้อยุดกัน
จึงรีบคว้าอาวุธที่พอจะหาได้ใกล้ตัว แล้วออกมาช่วยเพื่อนสาว แบลร์รีบดึงเอริกามาอยู่ข้างกาย แล้วจับอาวุธเล็งไปยังคนบ้ากามอย่างป้องกันตัว “แกขึ้นมาบนนี้ได้ยังไง ริก!
แกรีบโทรเรียก รปภ. เลย”
“เอ่อ แบลร์ ฉันว่าแค่นี้ก็พอแล้วล่ะ เรารีบเข้าห้องกันเถอะ” ใจจริงเธออยากเข้าไปดูว่าเขาเป็นอะไรมากมั้ย
แต่ก็ไม่อยากแสดงความห่วงใยออกไป แค่นี้เขาก็คงจะเข็ดแล้วล่ะ
“เดี๋ยว! ริกา
อย่าพึ่งไป” ชายหนุ่มคลำหลังป้อยๆ ถึงจะเจ็บก็ยังไม่วายรั้งเธอไว้
“แกรู้จักเขาด้วยหรอริก” แบลร์ชะงักไปนิดนึง เมื่อรู้ว่าคนบ้ากามคนนี้อาจเป็นคนรู้จักกับเพื่อนของเธอ
“ลูกค้าน่ะ” เอริกาตอบพลางเสมองทางอื่น เพราะตอนนี้เขาเองก็เป็นแค่ว่าที่ลูกค้าของเธอเสียด้วยซ้ำ
“หา! ลูกค้า!” แบลร์แทบจะทำไม้กวาดหลุดจากมือ “เดี๋ยวนะ แล้ว..แล้วคุณลูกค้าจะตามมาทำไมถึงบ้าน
แล้ว...ทำไมแกต้องยื้อยุดกับเขา แล้วเมื่อกี้...ทำไมแก...”
“พอๆ แกมากับฉัน” เอริกาคว้าข้อมือเพื่อนดึงเข้าห้อง
แล้วหันมามองคีตะ “ส่วนคุณ กลับไปซะ วันนี้ฉันเหนื่อยแล้ว
มีอะไรไว้ค่อยคุยกันเถอะนะ” แล้วเธอก็ปิดประตูห้องลง
คีตะเห็นด้วยว่าวันนี้ควรจะพอเท่านี้ก่อน อย่างน้อยเขาก็รู้แล้วว่าเธออยู่ที่นี่จริงๆ ตามคำบอกเล่าของเวทิน และยิ่งไปกว่านั้น เขาได้เห็นกับตาแล้วว่าเธออยู่กับคู่เลสเบี้ยนจริงๆ ด้วย เขาสับสนไปหมดแล้วว่า ริกาน้อยของเขาเปลี่ยนรสนิยมไปตั้งแต่เมื่อไร เพราะเท่าที่นึกย้อนไปได้ เขามั่นใจว่าเธอรักเขาแน่ๆ หรือเขาจะเข้าใจผิด หรือนั่นเป็นเหตุผลที่จู่ๆ เธอก็หายไปจากชีวิตเขาซะเฉยๆ โดยไม่บอกกล่าว หรือบางทีเขาอาจจะไม่ได้มีความหมายกับเธอมากอย่างที่เคยคิด แม้แต่เมื่อครู่นี้ ตอนที่เพื่อนสาวของเธอทำร้ายเขา เธอยังไม่เข้ามาดูดำดูดี และไม่ว่ากล่าวเพื่อนเธอสักนิด จู่ๆ คีตะก็รู้สึกว่าโลกของเขาพลิกกลับตาลปัตรไปหมด ไม่ว่ายังไง เขาจะต้องรู้ความจริงให้ได้ เพื่อตัวเขาเองจะเลิกยึดติดกับอดีตและก้าวต่อไปซะที
ท่ามกลางอากาศที่ถูกปรับอุณหภูมิให้อุ่นสบาย
และคลุ้งไปด้วยกลิ่นน้ำมันหอมระเหย หมอนวดก็ส่งแรงบีบนวดที่กำลังพอดีๆ
ลงไปบนแผ่นหลังของสาวสวยอย่างรู้ใจ แบลร์คงจะรู้สึกเพลิดเพลินกว่านี้
หากแต่สิ่งที่กำลังกวนใจทำให้เธอวางความคิดไม่ลง
หลังจากคืนนั้นเธอก็พยายามถามเอริกาถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้ความอะไรเลย แม้จะอ้างถึงความเป็นเพื่อนรักเพื่อนตายออกมาก็ไม่ได้ผล
เอริกาเพียงแต่บอกว่าพร้อมเมื่อไรจะเล่าทุกอย่างให้ฟัง ก็แล้วมันเมื่อไรเล่า
แบลร์คิดอย่างขัดใจ ที่ผ่านมาเธอกับเอริกาก็ผ่านอะไรมาด้วยกันมากมาย
แต่ไม่มีครั้งไหนที่เพื่อนจะปิดปากเงียบสนิทเท่าคราวนี้
“เฮ้อ!”
หญิงสาวเผลอทอดถอนใจออกมา
“เป็นอะไรรึเปล่าคะคุณแบลร์ วันนี้ป้าสังเกตว่าคุณดูไม่ค่อยสบายใจเลยนะคะ”
หมอนวดขาประจำของเธอเอ่ยทักขึ้น เมื่อเห็นสาวสวยที่มักจะอารมณ์ดีเสมอมีท่าทีแปลกไปจากทุกที
“นิดนึงค่ะป้า เพื่อนหนูน่ะค่ะ ปกติมันเป็นคนเข้มแข็งมากเลยนะคะ แล้วมีอะไรมันก็จะเล่าให้หนูฟังทุกเรื่อง แต่มาคราวนี้น่ะ ทำยังไง ถามยังไงก็ไม่ยอมเล่าค่ะ” แบลร์บ่นระบายความในใจ
“อืม ป้าว่าปกติแล้วเรื่องที่ทำให้ผู้หญิงเราหวั่นไหวได้
ก็มักจะไม่พ้นเรื่องผู้ชายนะคะคุณแบลร์” หมอนวดกล่าวอย่างผู้ผ่านประสบการณ์ชีวิตมามาก
“โห ป้าเดาเก่งมาก มีผู้ชายมาเกี่ยวจริงๆ ค่ะ แต่ผู้ชายคนนี้เป็นใครก็ไม่รู้
หนูไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ปกติถ้าใครเข้ามาจีบมันล่ะก็ โดนหนูเขี่ยกระเด็นไปหมด
จะมีก็แต่ตาหัดเยอรมันนี่ล่ะนะ ที่ไม่ยอมเข็ดซะที” แบลร์คิดพลางนึกถึงหน้าจืดๆ
ของธนากรขึ้นมา ที่จริงเธอก็ไม่ได้คิดว่าเขาเป็นคนเลวร้ายอะไร
แต่มันผิดที่เขาดันคิดมาชอบเพื่อนรักของเธอ ดังนั้นในฐานะองครักษ์พิทักษ์หัวใจ
เธอจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายหัวใจเพื่อนเธอได้อีก
ตอนนั้นเป็นตอนที่เธอพึ่งจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ ในขณะที่คิดว่าทุกอย่างในชีวิตกำลังไปได้สวย เธอก็มารู้เข้าโดยบังเอิญว่าพ่อกับแม่กำลังจะหย่ากัน ความจริงทั้งสองก็มีทะเลาะเบาะแว้งกันบ้าง แต่แบลร์ก็ไม่คิดว่าจะถึงกับต้องเลิกรากันไป พอหย่ากันแล้ว ทั้งพ่อและแม่ก็มีคนรักใหม่ แบลร์อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินที่ไม่มีใครต้องการ ความรู้สึกสมเพทเวทนาในโชคชะตาของตัวเองจึงทำให้เธอเริ่มทำตัวประชดชีวิต ไม่ไปเรียนหนังสือ
เที่ยวเมาหัวราน้ำ เปลี่ยนแฟนไปเรื่อยๆ เพราะหมดศรัทธากับความรักหรือการแต่งงาน การเรียนก็แย่ลงจนติดทัณฑ์บน และถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปอีกเทอม เธอก็จะเรียนไม่จบ ในขณะที่ทุกอย่างกำลังย่ำแย่ที่สุด เธอก็ได้พบกับเอริกา
ถึงแม้จะทำตัวเละเทะเพียงใด แต่ปัจจัยที่สำคัญในการใช้ชีวิตต่อไปก็คือเงิน ทางครอบครัวจะช่วยส่งเสียเพียงค่าเทอมเท่านั้น แบลร์จึงต้องหางานพิเศษทำ และที่นี่เองที่เธอได้พบกับเอริกา เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัย แต่ต่างคณะ เนื่องจากเอริกาทำงานมาก่อน เธอจึงเป็นคนสอนงานต่างๆ ให้แบลร์ เมื่อได้รู้จักกันมากขึ้น
เธอก็พบว่าเอริกาเองก็มีชะตาชีวิตที่น่าเศร้าไม่ต่างจากตัวเธอนัก ต้องสูญเสียแม่ จากคนรัก แล้วยังต้องมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในที่ที่ไม่รู้จักใครสักคน ถึงแม้จะมีพ่อ
แต่ท่านก็มีครอบครัวใหม่ไปแล้ว เอริกาต้องพึ่งตัวเองเท่านั้นจริงๆ แต่ถึงจะอย่างนั้น เธอกลับไม่มีแววย่อท้อหรือยอมแพ้เลยแม้แต่น้อย
และนั่นเองที่ทำให้แบลร์เริ่มคิดได้ว่า ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับตัวเราต่างหากที่จะทำให้ชีวิตเราเป็นอย่างไร เธอจึงเริ่มกลับมาเรียนและใช้ชีวิตอย่างที่นักศึกษาที่ดีควรจะทำ
ทั้งสองย้ายมาเช่าหออยู่ด้วยกันตั้งแต่นั้นมา เอริกาก็ช่วยติวให้เธอในรายวิชาที่มีเรียนตรงกัน คอยให้กำลังใจจนเธอผ่านทัณฑ์บนและเรียนจบมาได้ พอเอริกาจะต้องย้ายกลับมาเมืองไทย
แบลร์จึงไม่ลังเลที่จะติดตามมาด้วย
เพราะคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตเธอตอนนี้ก็คือเอริกาคนเดียวเท่านั้น และมันก็คงเป็นแบบนั้นตลอดไป
เพราะเราทั้งคู่ต่างก็เกลียดผู้ชาย
...นั่นสินะ เรื่องที่ทำให้ริกกี้เจ็บปวดที่สุดในชีวิตก็เห็นจะมีแต่เรื่องแม่และผู้ชายคนนั้นเท่านั้นนี่นา
“หรือว่า...”
จู่ๆ แบลร์ก็โพล่งขึ้นมา หลังจากเงียบไปนาน
“อ่าว
ตื่นแล้วหรอคะคุณแบลร์ ป้านวดเสร็จพอดีเลย” ป้าหมอนวดเอ่ย พลางสับหลังให้เธอ 3
ครั้ง เป็นอันจบการนวด แล้วก็เดินออกไปเพื่อให้เธอได้เปลี่ยนชุด
“หนูไม่ได้หลับนะคะ
หนูกำลังใช้ความคิดต่างหาก” แบลร์งึมงำแก้ตัวอย่างไม่ใส่ใจนักว่าป้าจะเข้าใจหรือไม่
“อีตาบ้ากามนั่นอาจจะเกี่ยวข้องอะไรกับผู้ชายคนนั้น!”
ความคิดเห็น