ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : แบลร์ออกโรง
เช้าวันถัดมา หลังจากจัดการกิจวัตรต่างๆ แบลร์ก็ตรงไปพบคนๆ หนึ่งที่ร้านอาหารในย่านทองหล่อ เธอคิดว่าเขานี่แหละที่จะช่วยให้ความกระจ่างกับเธอได้ และอาจจะกลายมาเป็นตัวช่วยคนสำคัญอีกด้วย เมื่อไปถึงเธอก็จัดแจงสั่งอาหารรอเตรียมเอาใจเต็มที่ ไม่นานเป้าหมายของเธอก็มาถึง
"สวัสดีครับคุณแบลร์" ธนากรทักทายเมื่อเดินมาถึงโต๊ะอาหาร
"สวัสดีค่ะคุณธนากร เชิญนั่งก่อนสิคะ" แบลร์ยิ้มกว้างผูกมิตร เชื้อเชิญให้เขานั่ง
"ขอบคุณครับ" ธนากรยิ้มตอบเล็กน้อยอย่างงงๆ ระคนแปลกใจ ตั้งแต่พบกัน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอยอมเรียกชื่อเขาดีๆ "คุณแบลร์มีอะไรด่วนหรือเปล่าครับ ถึงกับโทรนัดผมออกมา ทั้งที่...คุณดูจะไม่ชอบหน้าผมเท่าไหร่"
"แหม่ อย่าพูดแบบนั้นสิคะคุณธนากร ไม่ชอบหน้าอะไรกันคะ หรือว่าคุณทำอะไรให้แบลร์ไม่ชอบหรือคะ" แม้จะตั้งใจมาสงบศึก แต่แบลร์ก็ยังเผลอยียวนใส่เขาจนได้ "โอเค แบลร์ยอมรับก็ได้ค่ะ ว่าแบลร์เป็นคนขี้หึงมาก ก็แหม ริกกี้น่ะ ทั้งสวย ทั้งเท่ห์ จะผู้ชายหรือผู้หญิงก็มาหลงรักได้หมด แบลร์ก็ต้องคอยระวังให้ดี คุณธนากรเข้าใจแบลร์ใช่มั้ยคะ" ว่าแล้วก็ทำตาออดอ้อนใส่เขา
ธนากรสะอึกไปเล็กน้อย รู้ตัวดีว่าเขาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น จึงได้แต่ยิ้มแห้งๆ รู้สึกกระหายจนต้องรีบยกแก้วน้ำขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว
แบลร์แอบอมยิ้ม นึกขำในใจว่าเขาช่างอ่านง่ายจริงๆ พูดแค่นี้ก็ออกอาการแล้ว แต่ก็ดี ถึงจะเซ่อแต่ก็ดูจริงใจ ตรงไปตรงมา ไม่มีพิษมีภัยอะไร ถ้าเธอจะต้องยอมให้ใครสักคนได้เอริกาไปจริงๆ ล่ะก็ นายคนนี้น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด แต่เธอต้องแน่ใจอะไรบางอย่างก่อนที่จะจัดการขั้นต่อไป เธอจึงเอ่ยต่อไปว่า
"ที่วันนี้แบลร์นัดคุณธนากรออกมาพบ ก็เพราะอยากจะปรึกษาเรื่องของริกกี้นั่นแหละค่ะ" แบลร์แกล้งตีสีหน้ากลัดกลุ้ม
"มีเรื่องอะไรหรือครับ หรือว่าพวกคุณทะเลาะกัน" ธนากรหันกลับมาตั้งใจฟังทันที
"เปล่าหรอกค่ะ แต่พักนี้ริกกี้ดูกลุ้มใจยังไงไม่รู้ คุณธนากรพอจะทราบมั้ยคะว่ามีปัญหาอะไรที่ทำงานหรือเปล่า"
"อืม พักนี้งานหนักหน่อย ริกอาจจะเหนื่อยก็ได้นะครับ ส่วนเรื่องอื่นนอกจากงานก็ไม่มีอะไรแปลกไปจากเดิมเท่าไร เว้นแต่..." ใบหน้าชายคนหนึ่งลอยขึ้นมา เขาช่างใจว่าจะเล่าต่อไปดีหรือไม่
"เว้นแต่อะไรคะ..." แบลร์รีบไล่ถาม
"เอ่อ ดูเหมือนจะมีผู้ชายคนหนึ่งมาตามจีบริกอยู่นะครับ" ธนากรไม่อยากยุ่งเรื่องคนอื่น แต่ในเมื่อแบลร์เป็นคนรักของเอริกา เขาคิดว่าเธอควรจะรู้ไว้
"นั่นไง แบลร์คิดอยู่แล้วว่ามันต้องมีอะไร หมอนั่นเป็นใคร เล่ามาให้ละเอียดเลยค่ะ" แบลร์แสร้งทำประหลาดใจราวกับไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน
"เป็นลูกค้าของเราครับ ชื่อคีตะ มาตามจีบได้ประมาณ 3 เดือนแล้วล่ะครับ เห็นว่าเทียวมารับ ซื้อของมาฝากแทบทุกวันเลยนะครับ แต่รายละเอียดมากกว่านี้ ผมไม่ทราบหรอกครับ" ธนากรไม่ได้ใส่ใจนัก ยังไงริกก็ไม่ชอบผู้ชายอยู่แล้ว เขาคิดว่าเดี๋ยวอีกฝ่ายก็คงเลิกราไปเอง แต่ไม่คิดว่าเขาจะมีผลกับเอริกาถึงขนาดทำให้เธอลำบากใจ
"แบลร์คิดว่าต้องเป็นเขาแน่ๆ ที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ริกกี้ไม่สบายใจ คุณธนากรคิดว่านายคีตะอะไรนี่เป็นคนยังไงคะ" แบลร์แสร้งถาม เธออยากรู้ว่าในสายตาผู้ชายด้วยกันจะคิดอย่างไร
"ก็ดูเป็นคนดีทีเดียวนะครับ ทำงานเป็น รับผิดชอบดี แล้วก็มีน้ำใจด้วย ให้ความร่วมมือกับเราอย่างดี จนผมทำงานได้ราบรื่นเลย และเจ้านายของเขาก็ดูจะชอบเขามากด้วยนะครับ" ธนากรตอบจากมุมที่ได้ร่วมงานกันมา เขาคิดว่าคีตะเป็นคนที่น่าคบคนหนึ่งเลยทีเดียว
"ขนาดนั้นเลยเหรอคะ งั้นก็คงจะสนิทกันมากเลยสินะคะ" ใบหน้าคมคายของชายอีกคนลอยขึ้นมาในความคิด ทำให้แบลร์เสียงขื่นขึ้นมาทันตา แต่ก็ไม่มากพอที่อีกฝ่ายจะทันสังเกตเห็น
"ครับ เห็นคุณคีตะบอกว่าคุณเวทินเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย พอเรียนจบก็เลยชวนมาทำงานด้วยกันน่ะครับ ถ้าไม่สนิทหรือไม่เชื่อในฝีมือ คงไม่ชวนมา"
"อย่างนี้นี่เอง คงจะ 'สนิทกันมาก' จริงๆ ด้วยนะคะ" ความรู้สึกโกรธแล่นพล่านไปทั่วร่าง สมองของเธอเรียบเรียงเรื่องราว แล้วก็เข้าใจแทบจะในทันทีว่าเวทินเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเธอทำไม แบลร์พยายามสงบสติอารมณ์ และบอกตัวเองว่าในเมื่อเรื่องเป็นไปตามที่เธอสังหรณ์ใจไว้ เธอก็จะดำเนินการตามแผนขั้นต่อไป "คุณธนากรคะ ในฐานะที่เราก็รู้จักกันมาพอสมควร และคุณเองก็เป็นเพื่อนที่ริกกี้รักมากคนหนึ่ง เพื่อความสบายใจของริกกี้ คุณจะอยู่ฝั่งเดียวกับแบลร์ คุณจะช่วยแบลร์ใช่มั้ยคะ"
"แน่นอนครับ ว่าแต่...ช่วยอะไรหรอครับ" ธนากรเริ่มสังหรณ์ใจว่าเขาจะต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องวุ่นๆ ซะแล้ว
"แบลร์ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะทำยังไง รู้แต่ว่าต้องกำจัดพวกนั้นออกไปให้พ้น"
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อาทิตย์ถัดมา เวทินมารอรับแบลร์ที่สถานทูตเพื่อไปปีนหน้าผาจำลองตามที่นัดกันไว้ ตั้งแต่แยกกันที่คอนโดคราวนั้น แบลร์ก็ดูจะหมางเมินและหลบเลี่ยงเขามากขึ้น เวทินคิดว่าคงเพราะเธอโกรธที่เขาล่วงเกิน และถ้าแบลร์จะรู้สึกผิดกับเอริกาก็คงไม่แปลก เรื่องระหว่างเขาและเธอคงเป็นไปไม่ได้ แต่เวทินยังไม่ยอมแพ้ ต่อให้ถูกหาว่าแย่งแฟนคนอื่นเขาก็จะลองดูอีกสักครั้ง
ไม่นานเขาก็เห็นแบลร์เดินออกมาจากตึก เวทินรีบลงไปทักทายและเปิดประตูรถให้อย่างเอาใจ แบลร์เพียงยิ้มตอบตามมารยาท เขาพยายามชวนคุยตลอดทาง แต่แบลร์ก็เพียงถามคำตอบคำเท่านั้น เมื่อไปถึงก็แยกกันไปเปลี่ยนชุด แบลร์แต่งตัวเสร็จออกมาก็พบธนากรและคีตะมาร่วมสมทบแล้ว
"อ้าว! สวัสดีค่ะคุณธนากร คุณคีตะ มาได้ยังไงคะเนี่ย" แบลร์แสร้งประหลาดใจทั้งที่เธอทราบจากธนากรแล้วว่าวันนี้ทั้งสองจะมาด้วย
"ปกติผมกับคีย์จะมาปีนหน้าผาด้วยกันอยู่แล้วครับ แต่วันนี้พิเศษหน่อย เพราะคุณแบลร์กับคุณธนากรมาด้วย วันนี้เป็นวันแรกของคุณทั้งคู่ ดังนั้นเราจะแยกคู่กันปีน ผมจะคอยดูแลคุณ ส่วนเจ้าคีย์ก็จะคอยดูคุณธนากร " เวทินอธิบายแผนการเล่นของเขาให้ทุกคนฟัง
"เดี๋ยวก่อนนะคะ คุณรู้จักคุณคีตะด้วยเหรอคะ" แบลร์ทำเป็นงง ราวกับไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน
"อ่าว นี่คุุณแบลร์ไม่ทราบเหรอครับ ว่าคุณคีตะเป็นลูกน้องคนสนิทของคุณเวทินเลยนะครับ" ธนากรรีบพูดเสริมตามที่ทั้งสองคนนัดแนะกันไว้
"ไม่เลยค่ะ คุณคีตะ คุณมาวอแวกับริกกี้ยังไม่พอ คุณยังส่งเจ้านายคุณมายุ่งวุ่นวายกับชั้นอีก คุณต้องการทำอะไรกันแน่ ตั้งใจจะให้ฉันกับริกกี้มีปัญหากันใช่มั้ย" แบลร์ตั้งใจจะต่อว่าให้เต็มที่ เอาให้ชายหนุ่มได้อายไปเลย
"ไม่เกี่ยวกับคีย์หรอกครับ ถ้าจะว่าก็ว่าผมเถอะที่เกิดอยากจีบคุณเอง" เวทินโพล่งขัดจังหวะออกมา ทำให้แบลร์ถึงกับอึ้งชะงักไป "เดี๋ยวพวกคุณเข้าไปเล่นกันก่อนนะ ผมขอเวลาคุยกับคุณแบลร์ก่อน" ว่าแล้วเขาก็จูงแบลร์ที่ยังดูงงๆ เดินห่างออกไปด้านนอก ปล่อยให้ธนากรกับคีตะ มองหน้ากันงงๆ
"เราควรจะตามไปมั้ยครับ" ธนากรเอ่ยขึ้น
"อย่าเพิ่งดีกว่าครับ พี่เวทินคงมีอะไรจะคุยกับคุณแบลร์จริงๆ" คีตะก็ไม่แน่ใจว่าที่พี่ชายเคยบอกว่าจะจีบนี่พูดขำๆ หรือเอาจริงกันแน่ เพราะที่เขาเห็นสีหน้าตอนนี้มันดูจริงมากเลยทีเดียว
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น