คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
กาลครั้งหนึ่ง...นานมาแล้ว ยังมีหญิงสาวรูปงาม
เอ่อ...งามรึเปล่านะ... ถึงจะไม่สวยมาก หน้าอกรึก็ออกจะแบนไปหน่อย แต่ดวงตากลมโต และผิวขาวๆ ของเราก็คงพอชดเชยกันได้ละมั้ง
เธอเป็นเด็กสาวธรรมดาที่ช่างฝันและรักการอ่าน วันหนึ่งพ่อของเธอถูกจับตัวไประหว่างเดินทางไปต่างเมือง เมื่อเธอตามไปช่วยจึงพบว่าคนที่จับเขาไปไม่ใช่โจรร้าย แต่เป็นอสูรกายที่น่ากลัว
แถมยังปากเสียอีกต่างหาก
ซึ่งอาศัยอยู่ในปราสาท มันหลงรักเธอแต่แรกพบจึงบังคับให้เธออยู่ที่นี่เป็นตัวประกันแทน
จากวันเป็นเดือนที่อยู่ร่วมกัน หญิงสาวพบว่าเจ้าอสูรนั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แต่กลับเป็นความรู้สึกดีดีที่ก่อตัวขึ้นระหว่างกันเสียด้วยซ้ำ
ถึงเขาจะไม่หล่อแต่ก็มีเสน่ห์มากนะ
หลังจากนั้นสองสามเดือนเธอจึงขอตัวกลับไปเยี่ยมพ่อบ้างเพราะไม่ได้เจอกันนาน เจ้าอสูรไม่มั่นใจเลยว่าเธอจะกลับมา แต่ด้วยความรักเขาจึงยอมปล่อยเธอไป
และแล้วกลางคืนดึกสงัด ลมพายุเริ่มโหมกระหน่ำ เจ้าอันธพาลประจำหมู่บ้านซึ่งแอบหลงรักเธอมานานก็พาพวกที่รวบรวมไว้บุกตะลุยมาที่ปราสาท ด้วยความหวังที่จะกำจัดเจ้าอสูรร้ายศัตรูหัวใจ พวกเขาบุกเข้ามาอย่างง่ายดายจนมาพบเจ้าอสูรอยู่บนหอคอย แต่แม้ผู้บุกรุกจะอยู่ตรงหน้า เจ้าอสูรก็ไม่แม้แต่จะสนใจอีกต่อไป เพราะเมืื่อไม่มีเธอเคียงข้างจะอยู่หรือตายก็ไม่ต่างกัน ในจังหวะที่เกือบจะเพลี่ยงพล้ำนั่นเอง ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
“ไม่!!!” สาวสวยผู้เป็นที่รักของเขายืนอยู่ที่ประตู เมื่อเห็นเธอ เจ้าอสูรร้ายก็มีพลังใจต่อสู้กลับและกลายเป็นฝ่ายชนะได้อย่างง่ายดาย
สุดยอดมั้ยล่ะ เจ้าชายของฉัน
เธอดีใจรีบวิ่งเข้าไปหา แต่แล้วเขาก็ล้มลง เธอรีบเข้าไปประคองทันทีด้วยความตกใจ
เจ้าอสูรร้ายเพียงมองมา ไม่มีคำพูดใดๆ มีเพียงสายตาเท่านั้นที่ทำให้รู้ว่าเขารักเธอ และในวินาทีที่เธอคิดว่าเขาจะจากไป เจ้าอสูรกลับลอยขึ้นช้าๆ มีลำแสงเจิดจ้าออกมาจากตัวเขาจนเธอแสบตา เมื่อเธอลืมตามองเขาอีกครั้ง ไม่มีเจ้าอสูรอีกต่อไป มีเพียงชายหนุ่มรูปงามปรากฏอยู่ต่อหน้า หญิงสาวลังเลใจ เธอมองลึกเข้าไปในดวงตาของเขาและพบว่ามันคล้ายคลึงกับใครบางคนที่เธอรู้จัก
อืม...คล้ายกับใครกันนะ สายตาแบบนี้
แล้วเธอก็แน่ใจว่านี่คือเจ้าอสูรนั่นเอง ทั้งสองโผเข้ากอดกันอย่างมีความสุข งานมงคลเกิดขึ้นทันที ระฆังวิวาห์ดังก้องกังวาน แก๊ง... แก๊ง... ต่อหน้าบาทหลวงและสาธุชนที่มาร่วมงาน... แก๊ง...แก๊ง...คำปฏิญาณได้ถูกเอ่ยขึ้น...แก๊ง...แก๊ง...
ทำไมระฆังดังนานจังนะ...
แก๊ง...
ริก...กริ๊ง... ริกกี้...ตื่น!!
เอริกาลืมตาขึ้นทันที ภาพแรกที่ปรากฏต่อสายตาคือเพดานสีเบจ ผนังห้องสีขาว และใบหน้าเพื่อนรักที่โน้มเข้ามาใกล้
“ไงจ้ะ ฝันถึงเจ้าชายรูปงามอีกแล้วล่ะสิ” แบลร์ล้มตัวลงนอนข้างเพื่อนสาวด้วยอาการงัวเงีย เพราะถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงนาฬิกาปลุกที่คนข้างๆ ตั้งเวลาไว้ แต่เจ้าตัวกลับไม่ยอมตื่นซะเอง
“อือ... รู้ได้ไงเนี่ย” เอริกาตะแคงตัวมาคุยกับคนที่นอนข้างๆ ด้วยอาการที่ยังไม่ตื่นดีเช่นกัน
“จะไม่รู้ได้ไงล่ะ ฝันเรื่องแบบนี้ทีไรแกก็หลับลึกจนฉันต้องคอยปลุกแบบนี้ทุกที” คนพูดบ่นอุบอิบทั้งที่ยังหลับตา “ไม่น่าเชื่อเลยนะ ว่าจนปานนี้แล้ว แกก็ยังฝันเรื่องเจ้าหญิงเจ้าชายอีกหรอเนี่ย”
“ความฝันมันบังคับกันได้ด้วยเหรอ ถ้าทำได้ฉันก็อยากจะเลิกเหมือนกัน เพราะรู้แล้วว่ามันไม่มีจริงหรอก ไอ้เรื่องรักนิรันดร์ รักแท้ปาฎิหาริย์ มันเรื่องหลอกเด็กทั้งเพ” เอริกายันตัวลุกขึ้นนั่งบิดร่างกายให้คลายความเมื่อยล้าจากการนอนนิ่งมาตลอดคืน
“แหม แกก็พูดเกินไป รักนิรันดร์อาจไม่มีจริง แต่ความรักสร้างปาฏิหาริย์ได้นะ” แบลร์เงยขึ้นมองเพื่อนรักที่เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเตรียมอาบน้ำ
“ปาฏิหาริย์!! นี่เป็นคำพูดของคนที่มองเรื่องเจ้าหญิงเจ้าชายเป็นเรื่องเพ้อเจ้อเนี่ยนะ” เอริกาประหลาดใจ แต่ก็ฉุกคิดได้จึงพูดต่อไปว่า “อ่อ ฉันลืมไป...สำหรับสาวสวย เซ็กซี่ มีหนุ่มมาจีบไม่ขาดสายอย่างแก ก็อาจเคยเจอปาฏิหาริย์แห่งรักมาแล้วก็ได้” เธอทำหน้ากรุ้มกริ่มให้เพื่อนก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป
แบลร์มองตามเอริกาไปแล้วก็คิดในใจว่าปาฏิหาริย์แห่งรักที่เธอได้พบก็คือมิตรภาพที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเธอต่างหาก ถ้าไม่มีเอริกาในวันนั้น แบลร์ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดไปแบบไหน เธอจะเป็นยังเป็นตัวเธออย่างวันนี้รึเปล่านะ...
ความคิดเห็น