คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เอริกา
เอริกาและแบลร์เดินเคียงกันไปขึ้นรถไฟฟ้าที่หน้าคอนโดเพื่อไปทำงานพร้อมกัน เมื่อสาวงามสองคนอยู่เคียงข้างกันก็เรียกความสนใจจากสายตาหนุ่มๆ ได้ไม่น้อย รวมถึงเวทิน หนุ่มใหญ่หน้าตาหล่อเหลาเอาการที่เดินสวนเข้ามา ถึงกับมองตามจนทั้งสองเดินพ้นประตูไป
“เฮ้ยๆ มึง เก็บอาการหน่อยเว้ย” เพื่อนที่เดินมาด้วยกันร้องทักขึ้นมาทันทีเมื่อสังเกตเห็น
“ทำไมวะ เจอคนสวยๆ ไม่มองดิแปลก” เวทินตอบโต้ด้วยอาการเขินเล็กน้อยที่เพื่อนรู้ทัน “แต่มาหามึงตั้งหลายที ทำไมไม่เคยเห็นหน้าเลยวะ”
“แล้วปกติมึงมาเวลานี้หรอค้าบบ โน่น ตีสอง ตีสามโน่น ออกไปอีกทีก็สายๆ จะไปเจอกันได้ไงวะ” เพื่อนซี้รีบแขวะทันทีเมื่อได้โอกาส เขากับเวทินรู้จักกันมานานและมักจะออกไปดื่มกันบ่อยๆ ในวันหยุด เมื่อเมาได้ที่ก็จะมานอนที่ห้องของเขา ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยต่อตนเองและผู้อื่นตามคติเมาไม่ขับ แต่เช้านี้เวทินต้องรีบแวะมาเอาเอกสารสำคัญที่ลืมไว้ จึงทำให้เขาได้พบกับสาวสวยทั้งสอง
“เออๆ ได้ทีเอาใหญ่เลยนะมึง สรุปว่ามึงรู้จักเขาว่างั้น” ชายหนุ่มไม่รอช้า รีบซักไซ้ทันทีเผื่อจะมีโอกาสได้ทำความรู้จักกันไว้
“รู้จักครับ ไม่มีใครไม่รู้จักสองสาวคู่นี้หรอก เพราะพวกเธอโดดเด่นมากเวลาประชุมเพื่อนบ้านแต่ละทีน่ะ นอกจากจะสวยแล้วยังเก่งอีกนะเว่ย คนนึงเป็นโปรแกรมเมอร์ อีกคนก็ทำงานสถานทูต เรียกได้ว่าเพอร์เฟคสุดๆ แต่…น่าเสียดาย...”
“น่าเสียดายอะไรวะ” คนที่กำลังฟังเพลินรีบทักทันควัน เขากำลังตั้งใจเก็บข้อมูลอย่างดี แต่อยู่ๆ เพื่อนกลับชะงักไปซะอย่างนั้น
วรุธและเวทินเดินเข้าไปในลิฟท์ เมื่อกดชั้นเสร็จเขาก็หันมามองเพื่อนด้วยหน้าตาเคร่งเครียดก่อนจะกล่าวออกไปว่า “ก็สองสาวนี้ดันอยู่วงดนตรีไทยหว่ะ”
เวทินยังคงไม่เข้าใจสิ่งที่เพื่อนพูด จนกระทั่งวรุธทำเสียง “ฉิ้งง! ฉับ! … ฉิ้งง! ฉับ! … ฉิ้งง! ฉับ!” พร้อมกับทำท่าทางประกอบอีกต่างหาก
“เฮ้ย! มึงแน่ใจหรอวะ” เวทินรีบท้วงทันทีเมื่อเข้าใจความหมาย ไม่นะ ทำไมผู้หญิงผู้ชายหน้าตาดีสมัยนี้ถึงอยากจะสลับเพศตัวเองกันไปหมด เขาไม่เข้าใจ
“เออสิ เขารู้กันทั้งคอนโดนั่นแหละ มึงคิดดูสวยขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่ก็ต้องมีแฟนหรือแต่งงานไปแล้วล่ะกูว่านะ ที่สำคัญคุณแบลร์เขาถึงกับตามคุณเอริกากลับมาอยู่ด้วยกันที่เมืองไทยนี่ตั้ง 3 ปีแล้วนะเว่ย กูว่านี่มันต้องมีอะไรมากกว่าเพื่อนแน่ๆ”
เวทินไม่ตอบอะไร เขาคิดว่าก็อาจเป็นไปได้ เดี๋ยวนี้คนเรามีรสนิยมแตกต่างกันมากขึ้นทุกที หรืออาจไม่ใช่ก็ได้เพราะเท่าที่ฟังดูก็เป็นเพียงการสันนิษฐานของคนอื่นๆ เท่านั้น เพียงแต่หากเป็นเรื่องจริงเขาก็แอบนึกเสียดายในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง
เอริกาเดินเข้าไปในออฟฟิศของเธอซึ่งอยู่บนชั้น 17 บนอาคารแห่งหนึ่งย่านเอกมัย เธอทำงานที่นี่มา 3 ปีแล้วนับตั้งแต่กลับมาจากอังกฤษ หลังจากไปร่ำเรียนจนจบปริญญาตรีมาเป็นโปรแกรมเมอร์เต็มตัว เธอก็ทำงานอยู่ที่นั่นเกือบ 3 ปี ด้วยผลงานที่เป็นที่ยอมรับ ประกอบกับการที่เธอมีความเป็นไทยครึ่งนึง และเคยอาศัยอยู่ประเทศไทยจนจบชั้นมัธยมศึกษา เมื่อบริษัทมีแผนการที่จะตั้งบริษัทลูกในเมืองไทย เธอจึงเป็นหนึ่งในคนที่ถูกวางตัวให้มาร่วมกันทำทีมที่นี่ เมื่อถูกหัวหน้าเรียกตัวไปสอบถามความสมัครใจ เธอจึงคิดว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้กลับมาแผ่นดินของแม่อีกครั้ง แม้ว่าวันนี้แม่จะไม่อยู่กับเธอแล้วก็ตาม
“สวัสดีครับเจ๊ริก” เด็กหนุ่มตัวสูงโปร่ง ในมาดเซอร์ๆ ยิ้มสดใสพร้อมกับร้องทักขึ้นทันทีที่เห็นเธอเดินผ่านประตูเข้ามา
“ไง เจ้าภพ” เอริกาทักตอบระหว่างเดินตรงไปที่โต๊ะของตัวเองด้านในสุด
“ผมอยากให้เจ๊ริกช่วยตรวจดูงานให้หน่อยครับว่ามันใช้ได้รึยัง” เขาพูดพร้อมกับเดินตามมาที่โต๊ะของเธอ
“นี่ งานดีไซน์มันไม่ใช่หน้าที่เจ๊ เอาไปให้พี่ฮัทตรวจสิ” เอริกานั่งลงที่โต๊ะตัวเองพร้อมกับเปรยเอือมๆ ปนขำกับรุ่นน้องคนนี้ที่ขยันทักทายและออดอ้อนเธอ คงเพราะว่าเขาเด็กกว่าถึง 4 ปี
“ก็ผมเชื่อสายตาที่แหลมคมของเจ๊นี่นา คนสวยๆ ก็ต้องมีเซนส์ดูงานสวยๆ แน่ๆ ใช่มั้ยฮะ” เอกภพรีบทำคะแนนออดอ้อนเธอไปอีกชุด
ยังไม่ทันที่เอริกาจะได้ตอบอะไร เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นซะก่อน
“อ่อ งั้นก็ไม่ต้องให้ชั้นตรวจงานแกแล้วสินะไอ้ภพ” เอกภพตัวลีบลงทันทีที่สิ้นเสียงนั้น ไม่ต้องหันไปมองเขาก็รู้ว่าใคร เอกภพรีบยืนตรงอย่างสำรวมพร้อมทักทาย
“สวัสดีครับพี่ฮัท วันนี้มาเร็วจังนะครับ” เอกภพทักแบบหวาดๆ ไม่กล้าสบสายตาตรงๆ
“ถ้ามาช้าชั้นคงจะพลาดอะไรไปอีกเยอะสินะ” ธนากรยังคงทำเสียงเข้มใส่รุ่นน้องจอมทะเล้นของเขา
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่ฮัท เลิกทำเสียงดุได้แล้ว” เอริการีบปรามก่อนที่ธนากรจะพูดอะไรให้เอกภพตัวลีบไปมากกว่านี้
“นายรีบไปเตรียมไฟล์ให้เรียบร้อย เดี๋ยวชั้นตามไป ไม่เกิน 5 นาที”
ทันทีที่สิ้นคำสั่ง เอกภพก็รีบแล่นกลับไปที่โต๊ะตัวเองแทบไม่ทัน ด้วยรู้ดีหากมีจุดผิดพลาดคงโดนตำหนิเยอะกว่าปกติอีกหลายเท่า
เอริกามองท่าทีนั้นอย่างขำขัน แล้วจึงหันมาหาธนากร “พี่ฮัทเนี่ย สงสัยจะดุมากไปแล้วนะคะ เจ้าภพกลัวน่าดูเลย” พร้อมกับหัวเราะชอบใจ
“ไม่ได้หรอกริก ขืนใจดีมากไปจะคุมไม่อยู่กันพอดี นี่ว่าพี่ดุแล้วมันยังกะล่อนขนาดนี้” น้ำเสียงของธนากรอ่อนหวานลงทันทีเมื่อหันมาพูดคุยกับนางในฝันของเขา แม้จะรู้แก่ใจว่าเธอไม่ชอบผู้ชายก็ตาม แต่ความอ่อนหวานปนเข้มแข็งของเธอก็ทำให้เขาไม่อาจตัดใจได้เสียที แรกเริ่มบริษัทเมื่อเขารู้ว่าคนที่จะมาคุมทีมโปรแกรมเมอร์เป็นหญิงสาว เขาก็นึกหวั่นในใจว่าจะสามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ เพราะเขาในฐานะที่เป็นหัวหน้าทีมออกแบบจะต้องประสานงานกับเธอตลอด แล้วยิ่งเป็นภาวะที่ต้องบุกเบิกบริษัทด้วยแล้ว เมื่อได้พบกันเขายอมรับว่าเธอสวยกว่าที่เขาคิดไว้มาก แต่นั่นก็ยิ่งทำให้เขากังวลว่าเธอจะอึด ถึก และทนงานสักแค่ไหน หรือเพียงแต่แต่งตัวสวยเป็นอย่างเดียว แต่คำถามนั้นก็หมดไปเมื่อได้ร่วมงานกัน เอริกาไม่ใช่คนที่เอาแต่ห่วงสวย เธอเป็นคนทุ่มเทและตั้งใจกับงานมาก เวลางานหนักถึงกับต้องค้างบริษัทเธอก็ไม่มีปัญหา บางคราต้องออกไซต์ดูงานค้างอ้างแรมต่างจังหวัดเธอก็พร้อมลุย ด้วยความที่เธอทุ่มเทและทำตัวเป็นตัวอย่างส่งผลให้รุ่นน้องในทีมทุกคนพร้อมจะให้ความเคารพและเชื่อฟังเธอกันหมด แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่โก๊ะบ้างเป็นบางทีก็ตาม เรียกว่าใช้ความอ่อนนุ่มสยบความแข็งกร้าวได้อย่างแท้จริง ไม่เว้นแม้แต่ตัวเขาเองก็เช่นกัน
ความคิดเห็น