ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุณหนูจอมห้าวกับคุณชายจอมยุ่ง

    ลำดับตอนที่ #5 : ความลับแตกซะแล้ว

    • อัปเดตล่าสุด 19 มี.ค. 52



    ตอนที่  [5]
    ความลับแตกซะแล้ว
     
    หลังจากฉันไปทำงานมาแล้วก็กลับบ้าน   แต่คนอื่นยังไม่มีใครรู้เรื่องที่ฉัน ถ่ายโฆษณากับนายแบบชื่อดังเลยเพราะฉันเก็บไว้เป็นความลับเอง ฮิฮิ 
    “นาวพวกนั้นไม่อยู่ใช่ไหม”ฉันถาม
    “พวกไหน”(-?-) นาวถาม
    “ก็พวกนั้นนะ”
    “นั้นไหนคิม”
    “ก็ 3 คนนั้นแหละ”
    “อ๋อไม่มาหรอกเห็นบอกว่าต้องไปทำงานบ้านเพื่อน”
    “รู้ดีจริงๆเลย   งั้นวันนี้ไปเล่นบาสกัน”   ฉันชวนนาว
    “เทนนิสด้วย” นาวแย้ง
    “เออน่า”
    จากนั้นฉันเปลี่ยนชุดเป็นชุดนักบาสเก็ตบอลทันทีแถมหมวกใบโปรดใบเดิม
    “แหมวันนี้มันวันอะไรเนี่ย”นิวถามขึ้น
    “ถามทำไม ก็วันศุกร์นะสิ”นาวตอบ
    “ไม่ทำไมหรอกแค่เห็นคนบางคนมาด้วยเลยสงสัยว่าจะติดใจใคร” นิวบอก
    “มั่วแล้ว ถ้าจะให้ไปยุ่งกับ 3 คนนั้นนะเราไปกระโดดน้ำตายพร้อม Seven ของเรายังดีกว่า”  ฉันว่าพลางทำตาเยิ้ม
    “โห โอเวอร์มั้กๆเลยนะยัยคิม” นาวประชดเล็กๆ
    เราสามคนเดินมาถึงสนามในศูนย์
    “เฮ้ยจะไปไหนอะ นิว นาว”   ฉันถาม
    “ไปสวัสดีคุณลุง คุณป้าก่อน” นาวบอก
    “ไปด้วยดิ” ฉันบอกแล้ววิ่งนำหน้า
    สวัสดีค่ะคุณลุง  คุณป้า/สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า นิวและนาวพูดพร้อมกัน
    “สวัสดีหลานๆ   แล้วนั่นใครล่ะ
    “อ๋อ คิมค่ะ เป็นลูกพี่ลูกน้องนาวเอง”
    “สวัสดีครับ” ฉันสวัสดีแต่ยังปลอมตัวเป็นชายอยู่
    “จ๊ะ นั่งก่อนสิ”     ทันใดนั้นเสียงที่คุ้นหูก็ดังขึ้น
    “สวัสดีคร้าบบบคุณลุงคุณป้า” มันคือเสียงของนายแคมป์
    “สวัสดีจ๊ะ อ้าว เตอร์กับเกียร์มาด้วยหรอเนี่ย เดี๋ยวลุงกับป้าไปหาขนมมาให้ทานนะ” บอกแล้วเดินไป
    “นี่นายมาทำไมเนี่ย”ฉันถามอย่างไม่พอใจ
    “จะมาไม่ได้รึไงครับนี่มันสถานที่ของประชาชนไม่ใช่ที่ส่วนบุคคลนะครับคุณคิม” แคมป์บอกกวนๆ
    “นี่หรอนายคิม    ที่เอ็งบอกไม่เห็นมีอะไรเลยนี่หว่า    เอ่องั้นขอแนะนำตัวเลยนะครับ   พี่ชื่อเตอร์ ชื่อจริงสุกณธีร์   ชายหนุ่มคนที่มาใหม่บอก     คนๆนี้สูงประมาณ   170กว่าๆ ผิวสีแทน ผอม    ปากบาง จมูกโด่งได้รูป รับกับใบหน้ารูปไข่ของเขา
    “ส่วนพี่ชื่อวโรทัย ชื่อเล่นเกียร์นะ”   ชายอีกคนกล่าวแนะนำตัวสั้นๆแล้วอ่านหนังสือต่อไป คนนี้ต่างจากคนแรกที่ สีผิวเข้มกว่านิดหน่อยแต่เรื่องความสูงและหน้าตาใกล้เคียงกับคนแรก
    อ้ากก   นั่นมันหนังสือ  Max   ที่ฉันลงปกคู่กับพี่พายหนิ   ทำไงดี ทำไงดี   เออ   เฉยๆไว้ดีกว่าเดี๋ยวคนอื่นรู้หมด(-,-)
    “ไหน นาวบอกว่า   3 คนนั้นไม่มาไง    แต่นี่มาตั้ง 5 คน” ฉันถามเปลี่ยนเรื่องทันที
    “ก็ไม่รู้จริงๆ” นาวบอกอย่างสำนึกผิด
    “อย่าโทษน้องนาวเลยฉันอยากมาเองแต่ก็ดีนะที่มาได้เจอนายที่นี่”   แคมป์บอก
    “ทำไม”ฉันถาม
    “ก็ได้รู้ว่านายไม่แน่จริง   หลบหน้าคนอื่นมาเล่นตอนที่ชั้นไม่มาไง
    “หนอย ว่าไงนะไม่แน่จริงหรอเจอนี่หน่อยเป็นไง” ฉันสวนหมัดไปที่คางของนายนั่น
    “คิมกลับบ้านเหอะ” นิวชวนแล้วดึงฉันออกมา
    “ไม่กลับถ้าวันนี้ไม่ได้แก้แค้นนายนี่” ฉันบอกแล้วสะบัดมือที่นิวจับไว้จนหลุด
    “อย่างนายต้องเจออีกหมัด” ฉันบอกแล้วจะต่อยออกไปแต่นายนั่นเร็วกว่าฉันจับข้อมือฉันทั้งสองข้างมาไขว้ไว้ข้างหลังเหมือนตำรวจจับผู้ร้าย
    “โอ๊ย   เจ็บนะปล่อยเดี๋ยวนี้
    “ไม่ปล่อยจนกว่านายจะทำตามที่ฉันบอก”
    “คิมยอมๆไปเหอะจะได้หมดเรื่อง” นาวบอกอย่างกังวล
    “อะ ก็ได้จะให้ทำอะไร”ฉันบอกอย่างมีแผน
    “แต่ก่อนอื่นฉันจะบอกข้อเสียของนายให้นะ นายน่ะทั้งปากร้าย โลกแคบ นิสัยแย่ ไม่มีอะไรดีสักอย่างใครได้นายเป็นแฟนคงจะต้องเลิกภายใน 3 วัน 7 วันแน่”
    “OoOนายเองน่าจะกลับไปส่องกระจกดูตัวเองมากกว่านะ   คำแต่ละคำที่นายพูดมามันตรงกับตัวนายทุกอย่าง   นายน่าจะเอาเก็บไว้บอกตัวเองดีกว่า แล้วฉันจะแถมคำนิยามเกี่ยวกับผู้ชายอย่างนายให้อีกอย่างสองอย่างนะ.......ห่วยแตกที่สุด” ฉันบอกโดยลืมนึกถึงว่าตัวฉันเองยังถูกล็อกตัวอยู่
    “นายลืมอะไรไปรึเปล่า นายถูกฉันล็อกตัวอยู่นะถ้าขืนพูดมากฉันก็ไม่ปล่อย”
    “จะเอายังไง” ฉันบอกด้วยน้ำเสียงแดกดันเต็มที่
     “นายต้องพูดดีๆก่อน”
    “ยากมากเลยอ่ะ   ฉันทำไม่ได้”  คราวนี้น้ำเสียงอ้อนสุดๆ
    “ไม่ได้ก็ไม่ปล่อย”
    “ว่ามา” ฉันบอกหลังคิดอยู่พักหนึ่ง
    “นายต้องพูดว่า   พี่แคมป์ครับ ปล่อยผมไปเถอะนะครับผมเป็นแค่ผู้ชายตัวเล็กๆที่..
    “ไม่มีทาง”   ฉันบอกแล้วบิดข้อมือตวัดตัวกลับแล้วกระทุ้งเข่าใส่บริเวณท้องน้อยของนายนั่น
    “โอ๊ย เจ็บนะ”บอกแล้วจุกลงไปกองกับพื้น
    “ก็ต้องการให้เจ็บจะได้จำ” ฉันบอกแล้วเดินหนี แต่ไม่ทันระวังนายนั่นลุกขึ้นแล้วรวบตัวจากด้านหลังของฉัน   จนเราสองคนล้มลงไปกองอยู่กับพื้นบนสนามหญ้า     นายค่อยๆเขยิบมือขึ้นมาหยิบหมวกของฉันไปทำให้ผมยาวที่เกล้ารวบอยู่ข้างในหมวกหลุดสยายออกมา    ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน
    “คิมเป็นไงมั่ง” นาวถามฉันแล้วพยุงให้ฉันลุกขึ้นหลังจากได้สติเป็นคนแรก
    “จะดีมากเลยถ้านายนั่นไม่มาทำให้ฉันล้ม”   ฉันแขวะนายนั่น
    “ดูสิได้แผลอีกแล้ว ซ้ำที่เก่า อุ๊ยได้แผลใหม่ด้วย” นิวบอกแล้วชี้ให้ดูแผลที่ข้อศอกและเข่าของฉัน
    “เฮ้ยนี่   นางแบบที่ขึ้นปก Max คู่กับพี่พายภัทรใช่ไหมวะ”  เกียร์เอ่ยขึ้นหลังจากเห็นหน้าฉันพลางเอาหนังสือรูปที่ฉันโพสท่ามาเทียบกับหน้าฉัน
    โอ้มายก๊อด ฉันอยากอุทานเป็นภาษาสเปนเลยความลับของฉันแตกเพราะนายแท้ๆเลย
    “เออ ใช่จริงด้วย น้องไปนั่งที่ห้องนั้นก่อนนะ”   พี่ตี๋บอกต่อแล้วลากฉันไปในห้องดนตรีทุกคนทำเหมือนฉันเป็นคนสำคัญยังไงยังงั้น
    “ไอ้แคมป์เอ็งซวยแน่ รีบไปทำแผลให้เลยเอ็ง” พี่แฟ้มสั่ง
    “ทำไมต้องเป็นข้าด้วย”
    “ก็เอ็งน่ะทำน้องเค้าล้มจนได้แผลเพิ่ม   นี่ยังดีนะที่เป็นแผลแค่ตรงข้อศอก    ถ้าเป็นแผลที่หน้าตาของน้องเค้าจนเสียโฉมเอ็งซวยกว่านี้แน่ๆ
    “เออ เออ ก็ได้วะ” นายนั่นบอกแล้วเดินไปอย่างเซ็งๆ
     
    ในห้องดนตรี
    ระหว่างที่นั่งรออุปกรณ์ทำแผลอยู่นั้นก็มีคนเปิดประตูเข้ามาซึ่งฉันก็นึกว่าเป็นนาว เลยบอกไปว่า
    “นาว ไม่ต้องมาทำแผลให้หรอก เราทำเองได้” ฉันบอกแต่ไม่มีเสียงนาวตอบกลับมาฉันจึงหันไปมองจึงได้เห็นว่าเป็นใคร
    “นี่นาย เข้ามาทำไม”
    “ก็มาทำแผลให้เธอน่ะสิ” นายนั่นไม่พูดเปล่าพลางค่อยๆหยิบอุปกรณ์ออกมา
    “ไม่ต้อง ฉันทำเองได้” 
    “เธอนั่งเฉยๆไว้ดีกว่า”นายนั่นบอกแล้วนำสำลีชุบแอลกอฮอล์
    “ไม่เอานะมันแสบ”   ฉันบอกแล้วเขยิบหนี
    “อยู่เฉยๆสิ ไม่แสบหรอก”   นายนั่นบอกแล้วมองหน้าฉันทำให้ฉันได้รู้ถึงความรู้สึกผิดของเขาทำให้ฉันนั่งนิ่งๆได้   นายนั่นเช็ดแผลได้เบามากและทุกครั้งที่เขาเช็ดแผลเขาจะเป่าลมลงไปทำให้แสบน้อยลง
    “ขอโทษนะ” จู่นายนั่นก็พูดออกมา
    “อะไรนะ” ฉันถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
    “ขอโทษ” นายนั่นตอบอย่างว่าง่าย
    “สงสัยพรุ่งนี้วันสันติภาพของโลกแน่เลย” ฉันพึมพำเบาๆ
    “ว่าไงนะ” นายนั่นถามขึ้น
    “หูดีจริงๆเลย   ขอบใจนะ แต่ชั้นยังไม่หายโกรธนายหรอก   ฉันบอก
    “งั้นเปลี่ยนจากคำขอโทษของพี่เป็นอย่างอื่นแทนดีมั้ยจะได้หายโกรธ”   นายนั่นบอกแต่แววตาแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์
    “เกรงใจ” ฉันบอกอย่างระวังคำพูด  
    “ดูนั่นสิ ลูกหมาน่ะ” นายนั่นเอ่ย ทำให้ฉันหันไปมองตามอาการของคนรักเรื่องหมาๆ แล้วหันกลับมาบอกว่า
    “ไม่เห็นมีลูกหมาสักตัวเลย” แต่แล้วจู่ ๆหน้านายนั่นก็มาอยู่ใกล้ๆทำเอาฉันสะดุ้ง ผละออกแทบไม่ทันแต่นายนั่นไม่ปล่อยแล้วยังเอามือมาโอบเอวฉันไว้อีก
    “นายปล่อยเดี๋ยวนี้” ฉันเริ่มหงุดหงิดอีกรอบ
    “หายโกรธยัง ถ้าไม่หายก็ไม่ปล่อย” นายนั่นกวนต่อ
    “ถ้านายไม่ปล่อยฉันจะโกรธนายอีกรอบ” 
    “ก็ได้ครับคุณนางแบบ&ยัยปากร้าย” 
    “นี่นายกวนไม่เลิกนะ   เออ ขอบใจนะที่ทำแผลให้   ฉันบอกแล้วรีบเดินไปที่ประตู
    “เดี๋ยวก่อนยัยปากร้ายลืมนี่เอาไว้” คำพูดนั้นดังขึ้นทำให้ฉันชะงักหยุดเดิน
    “อะไรหรอ” ฉันหันกลับมามองแต่แล้วหน้านายแคมป์ก็อยู่ห่างจากหน้าฉันไม่ถึงคืบความร้อนค่อยๆแล่นสู่ใบหน้า จู่ๆนายนายนั่นขโมยหอมแก้มของฉันที่ฉันอุตส่าห์เก็บไว้รอแฟนคนแรกของฉันไป โอ๊ย หายไม่ใจออก
    “ทำแผลเสร็จกันยังครับ” พี่แฟ้มและพี่ตี๋เปิดประตูเข้ามาแล้วต้องชะงักเมื่อเห็นภาพตรงหน้า แต่ทำให้ฉันได้สติวิ่งหนีออกไปทันที
    “นายเข้ามามีอะไรเปล่า” แคมป์ถามอย่างหงุดหงิด
    “เปล่าไม่มีอะไรแล้วข้าไปนะ” พี่แฟ้มบอกแล้ววิ่งไป
    “ไอ้แฟ้มรอข้าด้วย”พี่ตี๋บอกแล้ววิ่งตามไป
    พอลับหลังสองคนนั้น แคมป์ก็ล้มตัวลงนอนที่โซฟาแล้วใช้มือลูบแก้มของตัวเองอย่างถะนุถนอมแล้วอมยิ้ม
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×