ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ความลับแตกซะแล้ว
ตอนที่ [5]
ความลับแตกซะแล้ว
หลังจากฉันไปทำงานมาแล้วก็กลับบ้าน แต่คนอื่นยังไม่มีใครรู้เรื่องที่ฉัน ถ่ายโฆษณากับนายแบบชื่อดังเลยเพราะฉันเก็บไว้เป็นความลับเอง ฮิฮิ
“นาวพวกนั้นไม่อยู่ใช่ไหม”ฉันถาม
“พวกไหน”(-?-) นาวถาม
“ก็พวกนั้นนะ”
“นั้นไหนคิม”
“ก็ 3 คนนั้นแหละ”
“อ๋อไม่มาหรอกเห็นบอกว่าต้องไปทำงานบ้านเพื่อน”
“รู้ดีจริงๆเลย งั้นวันนี้ไปเล่นบาสกัน” ฉันชวนนาว
“เทนนิสด้วย” นาวแย้ง
“เออน่า”
จากนั้นฉันเปลี่ยนชุดเป็นชุดนักบาสเก็ตบอลทันทีแถมหมวกใบโปรดใบเดิม
“แหมวันนี้มันวันอะไรเนี่ย”นิวถามขึ้น
“ถามทำไม ก็วันศุกร์นะสิ”นาวตอบ
“ไม่ทำไมหรอกแค่เห็นคนบางคนมาด้วยเลยสงสัยว่าจะติดใจใคร” นิวบอก
“มั่วแล้ว ถ้าจะให้ไปยุ่งกับ 3 คนนั้นนะเราไปกระโดดน้ำตายพร้อม Seven ของเรายังดีกว่า” ฉันว่าพลางทำตาเยิ้ม
“โห โอเวอร์มั้กๆเลยนะยัยคิม” นาวประชดเล็กๆ
เราสามคนเดินมาถึงสนามในศูนย์
“เฮ้ยจะไปไหนอะ นิว นาว” ฉันถาม
“ไปสวัสดีคุณลุง คุณป้าก่อน” นาวบอก
“ไปด้วยดิ” ฉันบอกแล้ววิ่งนำหน้า
สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า/สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า นิวและนาวพูดพร้อมกัน
“สวัสดีหลานๆ แล้วนั่นใครล่ะ”
“อ๋อ คิมค่ะ เป็นลูกพี่ลูกน้องนาวเอง”
“สวัสดีครับ” ฉันสวัสดีแต่ยังปลอมตัวเป็นชายอยู่
“จ๊ะ นั่งก่อนสิ” ทันใดนั้นเสียงที่คุ้นหูก็ดังขึ้น
“สวัสดีคร้าบบบคุณลุงคุณป้า” มันคือเสียงของนายแคมป์
“สวัสดีจ๊ะ อ้าว เตอร์กับเกียร์มาด้วยหรอเนี่ย เดี๋ยวลุงกับป้าไปหาขนมมาให้ทานนะ” บอกแล้วเดินไป
“นี่นายมาทำไมเนี่ย”ฉันถามอย่างไม่พอใจ
“จะมาไม่ได้รึไงครับนี่มันสถานที่ของประชาชนไม่ใช่ที่ส่วนบุคคลนะครับคุณคิม” แคมป์บอกกวนๆ
“นี่หรอนายคิม ที่เอ็งบอกไม่เห็นมีอะไรเลยนี่หว่า เอ่องั้นขอแนะนำตัวเลยนะครับ พี่ชื่อเตอร์ ชื่อจริงสุกณธีร์” ชายหนุ่มคนที่มาใหม่บอก คนๆนี้สูงประมาณ 170กว่าๆ ผิวสีแทน ผอม ปากบาง จมูกโด่งได้รูป รับกับใบหน้ารูปไข่ของเขา
“ส่วนพี่ชื่อวโรทัย ชื่อเล่นเกียร์นะ” ชายอีกคนกล่าวแนะนำตัวสั้นๆแล้วอ่านหนังสือต่อไป คนนี้ต่างจากคนแรกที่ สีผิวเข้มกว่านิดหน่อยแต่เรื่องความสูงและหน้าตาใกล้เคียงกับคนแรก
อ้ากก นั่นมันหนังสือ Max ที่ฉันลงปกคู่กับพี่พายหนิ ทำไงดี ทำไงดี เออ เฉยๆไว้ดีกว่าเดี๋ยวคนอื่นรู้หมด(-,-)
“ไหน นาวบอกว่า 3 คนนั้นไม่มาไง แต่นี่มาตั้ง 5 คน” ฉันถามเปลี่ยนเรื่องทันที
“ก็ไม่รู้จริงๆ” นาวบอกอย่างสำนึกผิด
“อย่าโทษน้องนาวเลยฉันอยากมาเองแต่ก็ดีนะที่มาได้เจอนายที่นี่” แคมป์บอก
“ทำไม”ฉันถาม
“ก็ได้รู้ว่านายไม่แน่จริง หลบหน้าคนอื่นมาเล่นตอนที่ชั้นไม่มาไง”
“หนอย ว่าไงนะไม่แน่จริงหรอเจอนี่หน่อยเป็นไง” ฉันสวนหมัดไปที่คางของนายนั่น
“คิมกลับบ้านเหอะ” นิวชวนแล้วดึงฉันออกมา
“ไม่กลับถ้าวันนี้ไม่ได้แก้แค้นนายนี่” ฉันบอกแล้วสะบัดมือที่นิวจับไว้จนหลุด
“อย่างนายต้องเจออีกหมัด” ฉันบอกแล้วจะต่อยออกไปแต่นายนั่นเร็วกว่าฉันจับข้อมือฉันทั้งสองข้างมาไขว้ไว้ข้างหลังเหมือนตำรวจจับผู้ร้าย
“โอ๊ย เจ็บนะปล่อยเดี๋ยวนี้”
“ไม่ปล่อยจนกว่านายจะทำตามที่ฉันบอก”
“คิมยอมๆไปเหอะจะได้หมดเรื่อง” นาวบอกอย่างกังวล
“อะ ก็ได้จะให้ทำอะไร”ฉันบอกอย่างมีแผน
“แต่ก่อนอื่นฉันจะบอกข้อเสียของนายให้นะ นายน่ะทั้งปากร้าย โลกแคบ นิสัยแย่ ไม่มีอะไรดีสักอย่างใครได้นายเป็นแฟนคงจะต้องเลิกภายใน 3 วัน 7 วันแน่”
“OoOนายเองน่าจะกลับไปส่องกระจกดูตัวเองมากกว่านะ คำแต่ละคำที่นายพูดมามันตรงกับตัวนายทุกอย่าง นายน่าจะเอาเก็บไว้บอกตัวเองดีกว่า แล้วฉันจะแถมคำนิยามเกี่ยวกับผู้ชายอย่างนายให้อีกอย่างสองอย่างนะ.......ห่วยแตกที่สุด” ฉันบอกโดยลืมนึกถึงว่าตัวฉันเองยังถูกล็อกตัวอยู่
“นายลืมอะไรไปรึเปล่า นายถูกฉันล็อกตัวอยู่นะถ้าขืนพูดมากฉันก็ไม่ปล่อย”
“จะเอายังไง” ฉันบอกด้วยน้ำเสียงแดกดันเต็มที่
“นายต้องพูดดีๆก่อน”
“ยากมากเลยอ่ะ ฉันทำไม่ได้” คราวนี้น้ำเสียงอ้อนสุดๆ
“ไม่ได้ก็ไม่ปล่อย”
“ว่ามา” ฉันบอกหลังคิดอยู่พักหนึ่ง
“นายต้องพูดว่า พี่แคมป์ครับ ปล่อยผมไปเถอะนะครับผมเป็นแค่ผู้ชายตัวเล็กๆที่..”
“ไม่มีทาง” ฉันบอกแล้วบิดข้อมือตวัดตัวกลับแล้วกระทุ้งเข่าใส่บริเวณท้องน้อยของนายนั่น
“โอ๊ย เจ็บนะ”บอกแล้วจุกลงไปกองกับพื้น
“ก็ต้องการให้เจ็บจะได้จำ” ฉันบอกแล้วเดินหนี แต่ไม่ทันระวังนายนั่นลุกขึ้นแล้วรวบตัวจากด้านหลังของฉัน จนเราสองคนล้มลงไปกองอยู่กับพื้นบนสนามหญ้า นายค่อยๆเขยิบมือขึ้นมาหยิบหมวกของฉันไปทำให้ผมยาวที่เกล้ารวบอยู่ข้างในหมวกหลุดสยายออกมา ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน
“คิมเป็นไงมั่ง” นาวถามฉันแล้วพยุงให้ฉันลุกขึ้นหลังจากได้สติเป็นคนแรก
“จะดีมากเลยถ้านายนั่นไม่มาทำให้ฉันล้ม” ฉันแขวะนายนั่น
“ดูสิได้แผลอีกแล้ว ซ้ำที่เก่า อุ๊ยได้แผลใหม่ด้วย” นิวบอกแล้วชี้ให้ดูแผลที่ข้อศอกและเข่าของฉัน
“เฮ้ยนี่ นางแบบที่ขึ้นปก Max คู่กับพี่พายภัทรใช่ไหมวะ” เกียร์เอ่ยขึ้นหลังจากเห็นหน้าฉันพลางเอาหนังสือรูปที่ฉันโพสท่ามาเทียบกับหน้าฉัน
โอ้มายก๊อด ฉันอยากอุทานเป็นภาษาสเปนเลยความลับของฉันแตกเพราะนายแท้ๆเลย
“เออ ใช่จริงด้วย น้องไปนั่งที่ห้องนั้นก่อนนะ” พี่ตี๋บอกต่อแล้วลากฉันไปในห้องดนตรีทุกคนทำเหมือนฉันเป็นคนสำคัญยังไงยังงั้น
“ไอ้แคมป์เอ็งซวยแน่ รีบไปทำแผลให้เลยเอ็ง” พี่แฟ้มสั่ง
“ทำไมต้องเป็นข้าด้วย”
“ก็เอ็งน่ะทำน้องเค้าล้มจนได้แผลเพิ่ม นี่ยังดีนะที่เป็นแผลแค่ตรงข้อศอก ถ้าเป็นแผลที่หน้าตาของน้องเค้าจนเสียโฉมเอ็งซวยกว่านี้แน่ๆ”
“เออ เออ ก็ได้วะ” นายนั่นบอกแล้วเดินไปอย่างเซ็งๆ
ในห้องดนตรี
ระหว่างที่นั่งรออุปกรณ์ทำแผลอยู่นั้นก็มีคนเปิดประตูเข้ามาซึ่งฉันก็นึกว่าเป็นนาว เลยบอกไปว่า
“นาว ไม่ต้องมาทำแผลให้หรอก เราทำเองได้” ฉันบอกแต่ไม่มีเสียงนาวตอบกลับมาฉันจึงหันไปมองจึงได้เห็นว่าเป็นใคร
“นี่นาย เข้ามาทำไม”
“ก็มาทำแผลให้เธอน่ะสิ” นายนั่นไม่พูดเปล่าพลางค่อยๆหยิบอุปกรณ์ออกมา
“ไม่ต้อง ฉันทำเองได้”
“เธอนั่งเฉยๆไว้ดีกว่า”นายนั่นบอกแล้วนำสำลีชุบแอลกอฮอล์
“ไม่เอานะมันแสบ” ฉันบอกแล้วเขยิบหนี
“อยู่เฉยๆสิ ไม่แสบหรอก” นายนั่นบอกแล้วมองหน้าฉันทำให้ฉันได้รู้ถึงความรู้สึกผิดของเขาทำให้ฉันนั่งนิ่งๆได้ นายนั่นเช็ดแผลได้เบามากและทุกครั้งที่เขาเช็ดแผลเขาจะเป่าลมลงไปทำให้แสบน้อยลง
“ขอโทษนะ” จู่นายนั่นก็พูดออกมา
“อะไรนะ” ฉันถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
“ขอโทษ” นายนั่นตอบอย่างว่าง่าย
“สงสัยพรุ่งนี้วันสันติภาพของโลกแน่เลย” ฉันพึมพำเบาๆ
“ว่าไงนะ” นายนั่นถามขึ้น
“หูดีจริงๆเลย ขอบใจนะ แต่ชั้นยังไม่หายโกรธนายหรอก” ฉันบอก
“งั้นเปลี่ยนจากคำขอโทษของพี่เป็นอย่างอื่นแทนดีมั้ยจะได้หายโกรธ” นายนั่นบอกแต่แววตาแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์
“เกรงใจ” ฉันบอกอย่างระวังคำพูด
“ดูนั่นสิ ลูกหมาน่ะ” นายนั่นเอ่ย ทำให้ฉันหันไปมองตามอาการของคนรักเรื่องหมาๆ แล้วหันกลับมาบอกว่า
“ไม่เห็นมีลูกหมาสักตัวเลย” แต่แล้วจู่ ๆหน้านายนั่นก็มาอยู่ใกล้ๆทำเอาฉันสะดุ้ง ผละออกแทบไม่ทันแต่นายนั่นไม่ปล่อยแล้วยังเอามือมาโอบเอวฉันไว้อีก
“นายปล่อยเดี๋ยวนี้” ฉันเริ่มหงุดหงิดอีกรอบ
“หายโกรธยัง ถ้าไม่หายก็ไม่ปล่อย” นายนั่นกวนต่อ
“ถ้านายไม่ปล่อยฉันจะโกรธนายอีกรอบ”
“ก็ได้ครับคุณนางแบบ&ยัยปากร้าย”
“นี่นายกวนไม่เลิกนะ เออ ขอบใจนะที่ทำแผลให้” ฉันบอกแล้วรีบเดินไปที่ประตู
“เดี๋ยวก่อนยัยปากร้ายลืมนี่เอาไว้” คำพูดนั้นดังขึ้นทำให้ฉันชะงักหยุดเดิน
“อะไรหรอ” ฉันหันกลับมามองแต่แล้วหน้านายแคมป์ก็อยู่ห่างจากหน้าฉันไม่ถึงคืบความร้อนค่อยๆแล่นสู่ใบหน้า จู่ๆนายนายนั่นขโมยหอมแก้มของฉันที่ฉันอุตส่าห์เก็บไว้รอแฟนคนแรกของฉันไป โอ๊ย หายไม่ใจออก
“ทำแผลเสร็จกันยังครับ” พี่แฟ้มและพี่ตี๋เปิดประตูเข้ามาแล้วต้องชะงักเมื่อเห็นภาพตรงหน้า แต่ทำให้ฉันได้สติวิ่งหนีออกไปทันที
“นายเข้ามามีอะไรเปล่า” แคมป์ถามอย่างหงุดหงิด
“เปล่าไม่มีอะไรแล้วข้าไปนะ” พี่แฟ้มบอกแล้ววิ่งไป
“ไอ้แฟ้มรอข้าด้วย”พี่ตี๋บอกแล้ววิ่งตามไป
พอลับหลังสองคนนั้น แคมป์ก็ล้มตัวลงนอนที่โซฟาแล้วใช้มือลูบแก้มของตัวเองอย่างถะนุถนอมแล้วอมยิ้ม
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น