ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุณหนูจอมห้าวกับคุณชายจอมยุ่ง

    ลำดับตอนที่ #4 : ความรู้สึกของเพื่อนและความลับของฉัน

    • อัปเดตล่าสุด 19 มี.ค. 52



    ตอนที่  [4]
    ความรู้สึกของเพื่อนและความลับของฉัน
     
    เช้านี้อากาศดีจัง ไปวิ่งหน่อยดีกว่า     ฉันบอกกับตัวเองที่เพิ่งตื่นนอน
    “ นิว   ไปวิ่งกัน”ฉันโทรไปปลุก นิว แต่เช้า
    “อืม ก็ดีเหมือนกันนะ เจอกันที่ไหนดีล่ะ” นิวกรอกเสียงมาตามสายโทรศัพท์
    “งั้นเจอกันที่ Street   นะเดี๋ยวจะไปปลุกยัยนาวก่อน”ฉันบอก
    “ก็ได้แล้วเจอกัน” นิวตอบกลับมา
    “นาวตื่นได้แล้ว เช้าแล้วไปวิ่งกัน”ฉันเรียกนาวแต่นาวก็ยังนอนอยู่
    “ไปเหอะขี้เกียจไป” นาวบอก
    “ตามใจจะนอนให้รากงอกเลยก็ได้นะ”    ฉันอดแขวะนาวอย่างเสียไม่ได้ก่อนหยิบหมวกใบเก่งมาใส่
     
    “ไม่มีเธอให้รำคาญ เหมือนเก่า   มีเพียงแต่ความว่างเปล่า     แล้วน้ำตา ทำไม ทำไม ต้องไหล ไม่ขอให้เธอหายโกรธ แต่โปรดกลับมาหน่อยได้ไหม      พึ่งเข้าใจ.........”เสียงเรียกโทรศัพท์ของฉันดังขึ้น
    “ฮัลโหล ว่าไงนิว”   ฉันถาม
    “คือ เอ่อ”นิวอึกอักไม่ยอมบอก
    “อะไรล่ะว่ามาสิ”
    “คือพี่แฟ้มเค้ามาวิ่งแล้วเจอเรา เค้าก็จะวิ่งไปพร้อมๆกับพวกเราด้วย” นิวบอกออกมา
    “ได้สิตอนนี้เราอยู่ข้างหลังนิวแล้วนะไปวิ่งกันได้แล้ว” ฉันตอบออกมาทำให้นิวสะดุ้งหันหลังมามอง
    “คิมมาตอนไหนทำไมเราไม่เห็น” นิวบอกอย่างตกใจ
    “ก็ตั้งแต่เห็นนิวยืนคุยกับพี่แฟ้มนั่นแหละ”
    “แล้วทำไมเราไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ล่ะ”
    “ความลับ ไม่บอกหรอก ไปวิ่งได้แล้วเดี๋ยวเราจะต้องไปทำงาน”    จากนั้นเราสามคนก็วิ่งไปเรื่อยๆจนกระทั่งเราสามคนวิ่งวนมาถึงบ้าน
    “นี่คิมทำงานอะไรหรอ ยังเรียนไม่จบเลยด้งานแล้วดีจัง” แฟ้มถาม
    “นั่นสิไม่บอกกันมั่งเลย” นิวถามต่อด้วยความสงสัย
    “เราเพิ่งได้งานพิเศษเมื่ออาทิตย์ก่อนนี่เอง   เป็นงานถ่ายภาพน่ะ”      ฉันตอบ
    “อืม น่าสนใจเนอะ นิตยสารอะไรหรอ” นิวบอก
    “เห็นเค้าบอกว่านิตยสาร  Max   เป็นหนังสือเรื่องแฟชั่นและการท่องเที่ยวในและต่างประเทศ”   ฉันบอกเท่าที่จำได้
    “นิตยสารดังด้วย แต่ว่าถ่ายภาพนางแบบนายแบบหรือว่าตัวเองไปเป็นนายแบบล่ะ”   แฟ้มบอกเพราะรู้ว่าเป็นหนังสือประเภทภาพถ่ายแฟชั่น
    “ก็ม่ายรุเหมือนกัน”
    “เดี๋ยวจะคอยดูผลงานนะคิม” นิวบอกอย่างตื่นเต้น
    “แล้วค่อยเจอกันใหม่นะ เราไปก่อน” ฉันเอ่ยลาสองคนนั้น
    “น่าอิจฉาคิมจังเลย ได้งานทั้งที่ยังเรียนอยู่” นิวชมแกมอิจฉาเล็กน้อย
    “นั่นสิ แต่ตอนนี้พี่หิวข้าวแล้วไปหาข้าวต้มหรือโจ๊กร้อนๆกินกัน” แฟ้มเอ่ยชวนนิว
    “ ไปสิเดี๋ยวนิวไปเอาจักรยานก่อน นิวรู้จักร้านอร่อยๆแถวนี้” นิวบอกแล้วเข็นจักรยานออกมา
    “เดี๋ยวพี่ขับแล้วนิวซ้อนนะ”
    “OK ค่ะนิวก็ขี้เกียจขับเพราะพี่แฟ้มตัวหนัก”  แล้วก็ขึ้นไปนั่ง
    “ยังไม่เคยลองขับดูแล้วจะรู้มั้ยว่าพี่ตัวหนัก”
    “คำนวณดูก็รู้อย่างพี่แฟ้มเนี่ยดูง่ายจะตาย”
    “โห งอนแล้ว”
    “ก็ได้พี่แฟ้มเนี่ยน่ารักตัวเบาที่สุดเลย”
    “ถ้างั้นนิวต้องเลี้ยงข้าวต้มพี่นะ พี่ถึงหายงอน”
    “ได้เลยสบายมาก” นิวบอก
    “อ่ะ ถึงร้านข้าวต้มแล้ว”แฟ้มบอก
    “พี่แฟ้มจะกินข้าวต้มอะไร”
    “พี่ขอเป็นข้าวต้มกุ้งนะ”
    “ป้าคะข้าวต้มกุ้ง 2 ที่ค่ะ” นิวบอกกับป้าเจ้าของร้าน ต่อมา 5   นาทีข้าวต้มกุ้งหอมฉุยก็มาตั้งอยู่ตรงหน้า
    “มาวิ่งออกกำลังกายหรอจ๊ะหนู” ป้าเจ้าของร้านถาม
    “ค่ะ/ครับ” นิวและพี่แฟ้มบอกพร้อมกัน
    “น่ารักจังเลยนะแฟนหนูเนี่ย” ป้าเจ้าของร้านหมายถึงแฟ้ม
    “ไม่ใช่ค่ะแค่รู้จักกัน”นิวหันไปบอกป้าแล้วหันมามองหน้าพี่แฟ้มที่เอาแต่อมยิ้มอย่างเดียว
    “งั้นป้าไม่รบกวนแล้วนะจ๊ะตามสบายเลย” ป้าเจ้าของร้านบอกแล้วเดินหนี
    หลังจากนั้นทุกวันพี่แฟ้มก็มาวิ่งด้วยกันกับเราสามคน และต่อจากนั้นก็ไปทานข้าวกันกับนิวสองคนทุกวัน
    (-_-!)*บางครั้งฉันก็ไปด้วย แหะๆแค่แอบไปสำรวจดูความคืบหน้าของเพื่อนหน่อยเดียวไม่ต้องทำหน้าเหมือนคนเบื่อหน่ายเต็มที่ก็ได้หนิ*
     
    หนึ่งสัปดาห์ก่อนได้งาน
    ฉันได้ไปเยี่ยมญาติที่กรุงเทพแล้วว่างๆก็เลยไปเดินผ่อนคลายที่สยามพารากอนห้างสรรพสินค้าที่ดีที่สุด แต่ฉันก็ยังแต่งตัวเหมือนเดิม
    “อุ๊ย   ขอโทษค่ะ   ระหว่างที่ฉันเดินคิดอะไรเพลินก็เดินไปชนใครคนหนึ่งเข้า
    “ไม่เป็นไรค่ะ” หญิงคนนั้นกล่าวอย่างสุภาพ
    “ฉันช่วยค่ะ”ฉันบอกพลางช่วยเก็บของแล้วพยุงหญิงคนนั้นลุกขึ้น
    “ขอบคุณนะหนู”
    “ยินดีค่ะ” ฉันกล่าวอย่างถ่อมตัว
    “นี่ของหนูเปล่าจ๊ะ” หญิงคนนั้นส่งภาพถ่ายที่ฉันเพิ่งล้างฟิล์มให้
    “อ๋อใช่ค่ะ ขอบคุณค่ะ”ฉันขอบคุณ
    “หนูชอบถ่ายรูปหรอ” 
    “ค่ะ   หนูน่ะฝันอยากเป็นช่างภาพน่ะค่ะ
    “หนูว่างมาคุยกับฉันสักพักได้ไหม”
    “ได้ค่ะ”หลังจากนั้นเราสองคนก็ไปนั่งคุยที่ร้านกาแฟ
    “นี่นามบัตรของฉัน”หญิงคนนั้นส่งนามบัตรให้
    “นี่คุณทำงานด้านถ่ายภาพหรอคะ”
    “ใช่จ๊ะ ฉันชื่อ พรรณี   เรียกว่า ณี ก็ได้
    “ค่ะคุณณี”
    “หนูสนใจเรื่องถ่ายภาพใช่ไหม ฉันอยากให้หนูมาทำงานด้วย เพราะภาพที่หนูถ่ายน่ะมีศิลป์มากๆ”
    “ขอบคุณที่ให้โอกาสหนูนะคะแต่หนูพึ่งจะขึ้นต่อ ม.4 ปีนี้เองนะคะ”
    “ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะเป็นงานเสริมไม่เบียดเวลาเรียนหรอก ขอที่อยู่ติดต่อหนูด้วยนะ”
    “ได้ค่ะ”   ฉันหยิบนามบัตรของฉันให้ไป
    “ไว้ฉันจะติดต่อไปนะ”   คุณณีกล่าวแล้วเช็คบิล
    “ขอบคุณค่ะ”ฉันกล่าวแล้วไหว้อย่างสวยงาม
    หลังจากนั้นคุณณีก็ติดต่อฉันมา ให้ฉันไปทำงาน
    วันเริ่มงานที่ทาวเวอร์ชั้นด่านฟ้าของโรงแรม        ที่เนรมิตเป็นสถานที่ดินเนอร์ของโรงแรมดัง
    “นางแบบยังไม่มาอีกหรอ” คุณณีกล่าว
    “คือนางแบบของเราป่วยกะทันหันจนต้องโรงพยาบาลค่ะ” ทีมงานคนหนึ่งเอ่ย
    “แย่แล้วจะต้องส่งภาพต้นฉบับอีก2วันนี้แล้วด้วยแล้วกว่าจะล้างรูปอีก”ทันใดนั้นคุณณีหันมามองเห็นฉันที่กำลังถอดหมวกแล้วหวีผมอยู่    ทำให้ฉันต้องกลายเป็นนางแบบจำเป็น
    “นี่เอ็มม่า   เธอไปจัดการแต่งตัวแต่งหน้าให้คิมเค้าด้วยนะ
    “ได้เลยค่ะ”   เอ็มม่ากระเทยร่างเล็กกล่าว
    “หนูหรอคะ” ฉันถามอย่างสงสัย
    “ใช่เลยค่ะคุณน้องไปเถอะค่ะ เดี๋ยวไม่ทันงาน” จากนั้นเอ็มม่าก็ลากฉันไปแต่งตัว
    ฉันออกมาในชุดราตรีหรูสีทองอร่ามยาวไล่ระดับจากเข่าจนถึงพื้น รองเท้าส้นสูง 3 นิ้วสีทองพร้อมผมที่จัดแต่งทรงไว้อย่างดี
    “คุณณีขาดูลุคใหม่ ของหนูคิมเค้าสิคะ”เอ็มม่ากล่าวแล้วลากฉันออกมา
    “สวยมากคิม หนูไปเริ่มถ่ายแบบได้เลย”
    “แล้วช่างภาพละคะ”
    “ทางเรามีช่างสำรองอยู่   อ้าวนายแบบโฆษณามายัง
    “มาแล้วครับ” เสียงนุ่มหูของนายแบบดังขึ้น
    “นี่ พายนายแบบของเรา” เอ็มม่ากล่าวขึ้น
    “ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
    “เช่นกันค่ะ” ฉันตอบอย่างเสียไม่ได้ ก็นี่น่ะพายภัทรนายแบบในดวงใจของฉันเลยล่ะ
    “น้องสวยมากเลยนะครับ” 
    “ขอบคุณค่ะ”
    “เอ้าเริ่มงานกันได้แล้ว”     หลังจากถ่ายโฆษณาเสร็จเราก็ถ่ายภาพลงปกนิตยสารต่อแล้วนิตยสารเล่มนี้จะออกวางแผงขายในอีกสัปดาห์ข้างหน้า    ส่วนโฆษณาจะออกฉายทางโทรทัศน์สัปดาห์หน้าเช่นกัน
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×