ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุณหนูจอมห้าวกับคุณชายจอมยุ่ง

    ลำดับตอนที่ #3 : จักรยาน ความโกรธและรอยแผล

    • อัปเดตล่าสุด 19 มี.ค. 52



    ตอนที่  [3]
    จักรยาน    ความโกรธและรอยแผล
     
    ทุกๆวันตลอดสองสัปดาห์ก็ไม่มีอะไรสนุกๆทำเลยนอกจาก ตอนเช้าไปเรียน     ตอนเย็นกลับบ้านจนกระทั่งวันเสาร์
     “แม่ไปร้านนะ”ฉันบอก
    “จะไปแต่งตัวให้ดีๆหน่อยสิ      เป็นผู้ชายรึไง”แม่ฉันบ่นหลังเห็นการแต่งตัวของฉัน
    จะไม่ให้แม่ฉันบ่นได้ยังไงหละก็ดูฉันสิ ใส่เสื้อยืด และกางเกงตัวโคร่ง แถมเอาหมวกแก๊ปโปรดมาใส่อีก
    ระหว่างทางเดินมาร้านมีรถจักรยานคันหนึ่งโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้มาเฉี่ยวฉันจนหกล้มแขนขาถลอกเลือดไหลซิบๆเลย
    “โอ๊ย”    คำแรกที่ฉันร้องออกมาเพราะความเจ็บพร้อมเอามือมาจับข้อศอก
    “เป็นอะไรเปล่าน้องชาย”    คนที่เฉี่ยวฉันพูดขึ้น
    ใครว่าฉันเป็นผู้ชาย สงสัยหน้าอกฉันจะแบนแต๊ดแต๋เป็นไข่ดาวแน่เลยใครๆถึงชอบนึกว่าฉันเป็นผู้ชาย หึจะต่อยให้ม้ามแตกเลย 
    ฉันเงยหน้าขึ้นไปมอง เฮ้ย ไอ้เหมือนหล่อ
    “น้องเป็นไรเปล่า    ถามไม่ตอบเป็นใบ้แน่เลย    นายนั่นว่าพร้อมทำไม้ทำมือส่งภาษาใบ้
    “ฉันไม่ได้เป็นใบ้หรอกนะ”
    “โอ้โห   พูดได้หรอกเหรอเนี่ย แล้วเป็นไงเจ็บมากมั้ย
    “เจ็บมากสิถามได้”
    “ว้าผู้ชายอะไรแค่นี้เจ็บ”
    “ก็ฉันไม่ใช่ผู้ช.........อุ๊บ”     ฉันรีบเอามือปิดปาก
    “ไม่ใช่อะไรหรอ หรือว่านายเป็นตุ๊ด” นายนั่นพูดแล้วทำหน้ากวนๆใส่
    “ไอ้บ้า     ไอ้ทุเรศ
    “โอะ โอ๋เข้าข่ายเลยนะเนี่ย คำพูดแบบนี้พวกตุ๊ดพวกแต๋วเค้าใช้กัน”   
     “ไอ้วิปริต    ไอ้หน้าด้าน    ชนคนอื่นแล้วไม่ขอโทษ แล้วยังมาหาว่าเป็นตุ๊ดอีก
    “ปากดีนักนะนายเนี่ย    ผีเจาะปากมาพูดมากรึไง
    อ้ายยยยย   หาว่าฉันเป็นตุ๊ดเป็นแต๋วอย่างเดียวไม่พอ แล้วยังมาปากเสียใส่อีก
    “ทำไมหนักหัวนายรึไง ไอ้จิตไม่ปกติ   ชอบหาเรื่องคนอื่น   ทำผิดแล้วจะชิ่งหรือไง ฮะไอ้บ้า
    “ฉันไม่ผิดนะ    นายนั่นแหละผิด” นายนั่นตอกกลับ
    “ฉันก็ไม่ผิดนะ”     ฉันสวนขึ้นทันที
    “นายนั่นแหละผิด”
    “นายผิด”
    “นายมีหลักฐานหรือไงมาหาว่าฉันผิด ขี้ตู่แล้วอย่างเนี้ย” ฉันรัวใส่นายนั่นไม่ยั้ง
    “ไม่มี แต่นายนั่นแหละผิด รถขับมาตามถนน แล้วคนเดินอย่างนายก็ต้องหลบรถสิ”
    “นี่มันจักรยานไม่ใช่รถแบบนั้น” ฉันย้อนเข้าให้
    “เอ๊ะ นายนี่พูดไม่รู้เรื่อง ฉันบอกว่านายผิดไง”
    “นายผิด”
    “นายนั่นแหละผิดเต็มประตูเลย”
    “ไม่มีประตูก็ไม่เต็มสิ”   ฉันพูดแล้วยิ้มเยาะ
    “นายนี่มัน”   นายนั่นชี้หน้าฉันแล้วก็ทำอะไรไม่ได้
    “ทำไม    มีอะไร” ฉันกวนกลับทันที
    “อะไรกันเนี่ย   เสียงนี่ดังไปถึงหน้าบ้านโน้นเลยนะ   นาววีนขึ้นหลังเห็นว่าเป็นคนรู้จักทั้งคู่
    “ก็ไอ้นี่นะสิมาเฉี่ยวเราจนได้แผลเลยเนี่ย”   ฉันพูดพลางยกข้อศอกที่เป็นแผลเลือดไหลซิบๆให้ดูแล้วกระซิบอะไรบางอย่างกับนาว(นาวห้ามบอกนายนั่นว่าเราเป็นผู้หญิงนะ-----ข้อความนี้แหละที่ฉันกระซิบ)
    “ไม่จริงนะนาว   พี่แค่ขับรถมาดีๆนายนั่นโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้
    “พอๆหยุดเลยเอาเป็นว่าต่างฝ่ายต่างผิด”นาวพูดขึ้นอย่างมีเลศนัย
    “ได้ไงอ่ะ/ได้ไงอ่ะ” ทั้งฉันและนายนั่นพูดขึ้นพร้อมกัน
    “แต่ก่อนอื่นเลยนะ คิม นี่ พี่แคมป์คนที่เก็บมือถือมาให้เรา    แล้วนี่ก็คิมนะพี่แคมป์ลูกพี่ลูกน้องนาวเองรู้จักกันไว้สิ
    “ไม่อยากจะรู้จัก/ไม่อยากจะรู้จัก”    ทั้งฉันและนายนั่นพูดขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง
    “งั้นตามใจ” นาวเอ่ยขึ้น
    “นายจะเอายังไง คิม”
    “ไม่มากหรอกแค่คำขอโทษก็พอ”
    “อะไรนะขอโทษงั้นเหรอ    ทั้งๆที่ฉันไม่ผิดเนี่ยนะ
    “พี่แคมป์ขอโทษไปเหอะจะได้หมดเรื่อง”   นาวเริ่มพูดเสียงแข็ง
    “ก็ได้เห็นแก่น้องนาวนะ     ขอโทษ   นายนั่นบอกเสียงเบาแบบไม่เต็มใจ
    “อะไรนะ   เมื่อกี้ฉันไม่ได้ฟัง   ฉันยังกวนไม่เลิก
    “ขอโทษ” นายนั่นตะโกนดังลั่น
    “พอๆเบาๆก็ได้ ไม่ต้องตะโกนหรอกได้ยินแล้ว”
    “คิมด้วยขอโทษพี่เค้าด้วยโทษฐานไปว่าพี่เค้าหลายอย่าง”   นาวพูดต่อ
    “เออ   เออ   ขอโทษ”ฉันกลั้นใจพูดออกไปเสียงดังกลัวนายนั่นจะมาย้อนฉันเหมือนที่ฉันแกล้งนายนั่น   
    “ก็แค่เนี่ย” นาวพูด
    “งั้นเราไปก่อนนะนาวขี้เกียจอยู่ ถ้าอยู่นายนี่อาจจะเป็นศพ”
    “ถ้าฉันตายไปชั้นจะมาหลอกหลอนนายคนแรกเลยคอยดู”   นายนั่นกวนประสาทฉันอีกแล้ว
    โครมมม   ฉับถีบจักรยานของไอ้เหมือนหล่อจนล้มดูท่านายนั่นจะเจ็บไม่เบาเพราะอะไรนะหรอก็นายนั่นขึ้นไปนั่งบนเบาะเตรียมจะไปแล้วสิ สมน้ำหน้าเลยล้มทั้งคนทั้งรถเลย รู้จักคิมน้อยไปแล้ว
    “โอ๊ย   เจ็บนะ
    “อ้าว ขอโทษนะมองไม่เห็นน่ะ   พอดีขามันไปเตะเองน่ะ   หึหึ
    “เจ็บนะเว้ย”
    “ว้าผู้ชายอะไรแค่นี้เจ็บ”     ฉันย้อนคำที่นายนั่นเคยพูดไว้กับฉันแล้ววิ่งกระเพลกๆไปจนถึงร้าน
    “มาพี่แคมป์   นาวช่วย” นาวพยุงพี่แคมป์ขึ้นอย่างเขินอาย
    “ขอบใจนะ” 
    “ไม่เป็นไรค่ะ    เดี๋ยวนาวปั่นจักรยานไปส่งนะคะ” พลางขึ้นไปนั่งเบาะหน้าแล้วเอามือจับแฮนไว้
    “ขอบใจอีกครั้งนะนาว”
     
    “ถึงแล้วค่ะ” นาวบอกเมื่อขี่จักรยานมาถึงศูนย์
    “เฮ้ยไอ้แคมป์ไปทำอะไรมายังกับไปฟัดกับหมามาแน่ะ”   ชายคนหนึ่งกล่าวซึ่งนาวจำได้ดีว่าเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพี่แฟ้ม 
    “จริงด้วยว่ะ”    ชายอีกคนว่าต่อซึ่งก็คือ ตี๋ นั่นเอง
    “เออ   ไปฟัดกับหมามา   คนถูกถามบอก
    “นาวไปก่อนนะคะ        บ๊าย   บายพี่ๆทั้งสามค่ะ
    “ขอบใจนะที่มาส่งเพื่อนพี่” แฟ้มตอบ
    “ไม่เป็นไรค่ะ” นาวกล่าวแล้วเดินออกไป
    “มาข้าช่วย”   แฟ้มบอก  
    “น่าจะคิดได้ตั้งนานแล้วนะ” แคมป์อดจะแขวะเพื่อนไม่ได้
    “เออน่าไม่ต้องทะเลาะกัน เดี๋ยวข้าไปเอาอุปกรณ์ทำแผลก่อนนะ” ตี๋บอก
     
    “โอ๊ยแสบนะเว้ย เบาๆหน่อยดิวะไอ้ตี๋”
    “เอ้า   เสร็จแล้ว   ว่าแต่นายไปมีเรื่องกับใคร ฮะถึงได้รุนแรงขนาดนี้เนี่ย”
    “ลูกพี่ลูกน้องของนาวเค้านั่นแหละ”
    “เอ็งเล่าเรื่องให้ฟังก่อนดิ”
    “คือมันมีอยู่ว่า...................................................”
    “แล้วเอ็งจะทำยังไงต่อไป”     แฟ้มเอ่ยถามขึ้น
    “แก้แค้น”
    “จะบ้ารึไง เอ็งทำเค้าเจ็บเหมือนกันนะว้อย”
    “ไม่รู้ล่ะต้องแก้แค้น”
    “แล้วไงจะเอายังไงคิดออกยัง” ตี๋ถาม
    “ยังไม่รู้เลย เดี๋ยวค่อยคิดเอาก็ได้”
    “เฮ้ยเอายังงี้สิวะ ไอ้แคมป์”   ตี๋พูดขึ้น
    “อะไรวะ” แคมป์ถามขึ้น
    “เอ็งก็ไปถามนาวเอาสิว่านายนั่นไม่ชอบอะไร แล้วเราก็ให้นาวไปชวนเข้ามาในศูนย์แล้วค่อยลุย”
    “เออ   ดีเหมือนกัน
    “ฝากจัดการด้วยนะแฟ้ม”
    “อ้าว ทำไมเป็นข้าละ” แฟ้มถามอย่างงงๆ
    “ก็เอ็งน่ะรู้จักนิวเพื่อนนาวเค้าไม่ใช่หรอ”
    “นิดหน่อยเอง”
    “นั่นแหละ เอ็งไปบอกนิวให้ไปบอกนาวนะว่า ข้าจะบอกเค้าเรื่องที่จะเอาอะไรจากเค้า”
    “เซ็งเลย” แฟ้มบ่น
    “ที่เหลือทางนี้ ข้าจัดการเอง”
    “หึหึ   ไม่รอดแน่ นายคิม”  
     
     “แสบ เบาๆหน่อยดินาว”ฉันพูดขึ้น
    “เฮ้อ   จริงๆเลยนะ   นาวพูดขึ้น
    “เกิดอะไรขึ้นเนี่ย”   นิวถามเมื่อมาถึง
    “ก็ คิมนะสิโดนพี่แคมป์เฉี่ยว”   นาวบอก
    “เออ เราเพิ่งนึกได้ว่า พี่แฟ้มฝากมาบอกว่า พี่แคมป์เค้าอยากจะคุยด้วยเย็นนี้ที่สนามเทนนิสเรื่องวันนั้น” นิวกล่าว
    “จริงอะ”นาวบอกอย่างดีใจ
    “ โอ๊ยยยยยยย นี่ยัยนาว หล่อนดีใจจนกดแผลฉันเลยนะ” ฉันบอกอย่างโมโหและประชดที่ได้ยินชื่อนายนั่น
    “แหะ แหะ   ขอโทษนะ เจ็บมั้ย”นาวถามอย่างสำนึกผิด
    “เจ็บสิ   ถามได้   จะไปหานายนั่นก็ไปเลย   เราทำแผลเองได้
    “งั้นเราไปนะ   แต่วันนี้ คิมเท่มากเลยนะเหมือนผู้ชายมากๆขอบอก” นาวแซวพลางวิ่งหนี
    “ห้ามบอกนายนั่นว่าเราเป็นผู้หญิงนะนาว” ฉันตะโกนไล่หลังนาวไป
     
    ที่สนามเทนนิส
    “สวัสดีตอนเย็นครับน้องนาว น้องนิว”แคมป์เอ่ยทักทาย
    “สวัสดีค่ะ/สวัสดีค่ะ” นาวและนิวเอ่ยขึ้นพร้อมกัน
    “นิวไปเล่นเทนนิสกับพี่แอฟนะ”   นิวบอกถึงพี่ในศูนย์
    “พี่แคมป์จะขออะไรนาวหรอ”นาวถามพลางบิดม้วนเขินอาย
    “พี่แค่อยากถามเรื่องเกี่ยวกับคิม”
    “แค่นั้นหรอคะ”นาวถามอย่างผิดหวัง
    “อืมแค่นั้นแหละ”
    “ว่ามาเลยค่ะ ตามสบาย”
    “พี่แค่อยากรู้ว่านายนั่นชอบไม่ชอบอะไร ทำอะไรได้ไม่ได้”
    “พี่แคมป์อยากรู้ไปทำไมคะ” นาวถามด้วยความสงสัย
    “เพื่อนพี่ฝากมาถาม”
    “หรอคะ คือคิมเค้าน่ะเกียจสัตว์เลื้อยคลานที่สุดเลยโดยเฉพาะจิ้งจก แต่ไม่เกียจทุกอย่างหรอกนะคะอย่างตัวอีกัวน่าเนี่ยเค้าชอบมากๆ ส่วนที่ทำไม่ได้ก็คงจะว่ายน้ำน่ะค่ะ”
    “อ้าวนายนั่นว่ายน้ำไม่เป็นหรอ ทำไมล่ะ”
    “คือความลับน่ะค่ะ”
    “งั้นไม่เป็นไร ว่าแต่นาว กับ นิวเกิดวันไหนหรอ”
    “นาวเกิดวันที่ 12 กันยายน    ส่วนนิวเค้าวันที่ 5 พฤษภาคม แล้วคิมเค้าก็วันที่   29   กุมภาพันธ์” นาวตอบอย่างรู้ทันว่าอย่างไรแคมป์ ต้องถามถึง คิมด้วยแน่นอน
    “อืม 4   ปีครั้งสินะ นายนั่นก็น่าสงสารเหมือนกัน
    “พี่แคมป์คงไม่ต้องสงสารคิมหรอกค่ะ”   นาวพูดประชดที่ไม่เห็นแคมป์ค้านที่นาวบอก
    “ทำไมล่ะนาว” แคมป์ถาม
    “ก็คิมเนี่ยนะคะ แต่ละปีถึงไม่ใช่วันเกิดเค้าก็มีคนให้อยู่แล้วอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 10 กล่องล่ะค่ะ”
     นาวเจื้อยแจ้วต่อไปโดยที่ไม่รู้ว่าแคมป์เดินหนีไปแล้วโดยมีตี๋มานั่งแทนที่   
    “แต่ของนาวก็มีคนให้เหมือนกันนะคะพี่แคมป์อยากรู้มั้ยว่าเป็นใคร” นาวถามทั้งๆที่ยังไม่หันไปมอง
    “อยากรู้สิครับ”เสียงกวนๆของตี๋ลอยขึ้นมาทำให้นาวหันไปมอง
    “อ้าว พี่แคมป์ล่ะคะ” นาวถามแล้วพยามยามมองหาแคมป์
    “แคมป์มันไปหาคุณลุงแป๊บนึงเดี๋ยวมา”
    “แล้วพี่มานั่งตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ” นาวถาม
    “ก็ตอนที่น้องถามพี่แหละครับ” ตี๋ยังกวนต่อไปไม่เลิก
    “เชอะไม่ได้ถาม อย่ามั่วสิ”
    “เวลาน้องงอนนี่น่ารักนะครับ”
    “ใครว่าฉันงอน”
    “โห ทีกับไอ้แคมป์นะ น้องพูดซะเพราะ แต่ทำไมพูดกับพี่อย่างนี้ละครับ” ตี๋กล่าวแล้วทำหน้าน้อยใจ
    “ฉันพูดดีเฉพาะคนบางคนที่อยากจะพูดด้วยเท่านั้น”  นาวพูดจบแล้วลุกไปหานิวที่เล่นเทนนิสอยู่กับพี่แอฟ
    “เดี๋ยวครับ น้องชื่อนาวใช่มั้ย    พี่ชื่อชิน หรือจะเรียกพี่ว่า ตี๋ ก็ได้นะ   ตี๋ตะโกน ทำให้นาวหันมามอง
    “ไม่จำเป็นต้องบอกเพราะฉันไม่อยากรู้” นาวบอกแล้วรีบเดินหนีไป
    “น้องนาวกลับแล้วหรอ”   แคมป์ถามระหว่างเดินสวนกัน แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก ตู๊ดๆๆ
    “ไอ้ตี๋เอ็งทำอะไรน้องเค้าวะ”
    “เปล่าแค่คุยด้วย   เค้าคงงอนเอ็งมั้งที่เดินหนีเค้าไปไม่บอกเค้าเลย” ตี๋กล่าวแล้วเดินหนีไปอีกคน
    “อะไรกันวะ ทั้งสองคนเลย งง ไปหมดแล้วนะเนี่ย” แคมป์พึมพำเบาๆ
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×