ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุณหนูจอมห้าวกับคุณชายจอมยุ่ง

    ลำดับตอนที่ #1 : เปิดฉาก

    • อัปเดตล่าสุด 19 มี.ค. 52


    ตอนที่  [1]
    เปิดฉาก
     
    โอ๊ยง่วงจังเลย!   หญิงสาว  หน้าตาดี ร่างผอมสูงโปร่ง   ผิวสีน้ำผึ้งขาวนวล  ผมยาวดำเงาประมาณไหล่ถูกรวบขึ้นไปอย่างประณีต  ในชุดแบบฟอร์มพลศึกษาของโรงเรียนชื่อดังบ่นออกมาอย่างไม่เกรงใจใครหลังจากกลับมาจากเรียนพิเศษในวันเสาร์ ฮิ ฮิ ในที่สุดก็ได้กลับมาบ้านซะที วันนี้ฉันแทบไม่อยากไปเรียนพิเศษเลย ตอนเรียนแทบจะหลับแน่ะ   แต่โชคดีวันนี้แค่เรียนพิเศษช่วงปิดเทอมไม่ใช่เรียนตามปกติ   ขืนเรียนตามปกติป่านนี้ฉันได้ออกไปวิ่งรอบสนาม10รอบหรือไม่ก็ทำรายงานเป็นหางว่าวแล้ว
    “คิม จะเข้ามูลนิธิฯรึเปล่าเย็นนี้”    เสียงของป้าจิตดังขึ้น
    “ยังไม่รู้เลยค่ะป้า    ต้องถามแม่ก่อน    เจ้าของชื่อสุดเท่กล่าวขึ้น       
    ลืมบอกไปวันนี้ที่มูลนิธิที่อยู่ใกล้บ้านฉันมีงานพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันนี้วันที่  15   ม.ค 48 และอีกอย่างที่ไม่บอกไม่ได้คือชื่อของฉัน   ฉันชื่อ อคัมย์กร สุทธิไชยแก้ว  ชื่อเล่น คิม 
     
    กริ้ง................ง เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้นหลังจากฉันกลับมานอนตีพุงอืดๆของฉันอย่างสบายใจที่บ้านสวนอันแสนสงบร่มรื่นของฉัน
    “คิม ตื่นๆ   ป้านวลโทรมาเรียกแล้วจะไปกับป้าเปล่า” เสียงแม่ดังขึ้น
    “ม่ายอาวอะแม่   ง่ำง่ำ ง่วงขี้เกียจไปแล้วด้วย” ว่าแล้วก็นอนต่อ
    “ไม่ได้ป้าเค้ารออยู่” แม่พูดพลางมีเสียง    เพี๊ยะ!   คงไม่ต้องถามว่าเสียงอะไรหรอกนะคะ 
     ก็เสียงฝ่ามือกระทบต้นขาของฉันเอง
    “โอ๊ย ไปก็ได้    เชอะ”(= _ =) ว่าแล้วเจ้าตัวก็รีบชิ่งหนีก่อนจะโดนหนักกว่าเดิมแต่ก่อนจะไปฉันขอสำรวจตัวเองหน้ากระจกก่อนแล้วกันนะ  
    “ เฮ้อ ไม่เข้าใจจริงๆ” ฉันมองผ่านกระจกแล้วบ่นกับตัวเองดังๆ
    จะว่าไปนะฉันเองหน้าตาออกจะสวยใสไร้ที่ติขนาดนี้ ขนาดดารายังชิดซ้าย   ซูปเปอร์สตาร์ยังชิดขวาแล้ว ทามม้าย ทามมาย ฉันไม่ยักจะมีแฟนสักคน น่าเวทนาตัวเองจริงๆเลย(-^-) 
    “เฮ้อ”    ว่าแล้วฉันก็ถอนหายใจอีกครั้งดังๆแล้วเดินจากบ้านไปอย่างอาลัยอาวรณ์ *๐*(นี่หล่อนทำเหมือนโดนไล่ออกจากบ้านเชียวนะ)
     
    “อ้าว! ป้ายังไม่ไปหรอคะ” คิมถาม
    “จะไปแล้ว    รอใครอยู่ล่ะถามได้”(- -! )
    “แหะ แหะ” เจ้าตัวหัวเราะเบาๆก่อนเดินตามป้าไป
    ระหว่างทางเข้าอยากจะบรรยายให้ครบแต่ก็ทำไม่ได้ต้องมาเห็นด้วยตาของตัวเอง สวยมากเลยสองทางเข้าร่มรื่นด้วยต้นไม้นานาชนิด   ส่วนทางซ้ายก็มีสนามกีฬาสีเขียวอยู่ หากมองตรงไปข้างหน้า   ภาพที่ได้เห็นเป็นเหมือนความฝันจริงๆ   เสียงดนตรีแว่วมา พร้อมสายลมยามเย็นพัดเบาๆชวนน่าหลงใหล    ภายในตกแต่งอย่างมีสไตล์   โทนสีครีมตัดลงตัวกับสีม่วงอ่อนของหลังคาทำให้สบายตา พร้อมกับแม่น้ำสายใหญ่ที่เข้ากับบรรยากาศโดยรอบอย่างลงตัว
     
    “คิม นั่งก่อนสิ”   ป้านวลกล่าวโดยเว้นที่ให้ฉันนั่งลงข้างๆ
    ฉันรับคำอย่างว่าง่ายพลางใช้สายตาสำรวจสถานที่รอบๆและไปสะดุดที่ หญิงสาวสองคนที่เดินเข้ามาใหม่
    “อ้าวที่รัก”เสียงเล็กใสของนาวเรียกฉันพลางโอบไหล่ฉัน
    นาว หรือ   ณรัญญา   ลูกพี่ลูกน้องของฉัน   เป็นสาวน้อยที่จัดเข้าประเภทคูณหนูคงเพราะหน้าตาที่ดูคล้ายลูกครึ่งชาวไทย-ยุโรป ผมสีน้ำตาลอ่อนยาวสลวย ผิวขาวอมชมพูของเธอละมั้งแต่นิสัยต่างกันลิบลับเลย   คุณเธอน่ะทั้งเฮี้ยว    เปรี้ยวแถมขี้งอนอีก   แต่ถ้าเอาจริงเมื่อไหร่แทบจะไม่มีใครอยากใกล้เธอเลย   แม้แต่ตัวเองยังไม่รู้เลยว่าโหดขนาดไหน
    “คิม   มาด้วยหรอเนี่ย”หญิงสาวอีกคนพูด
    ไหงทำหน้าแบบนี้อะ ไม่อยากให้เค้ามาหรอ   เค้าจาฟ้องแม่ แง แง(>o<)
    เธอคนนี้ชื่อ   นิว ชื่อจริง    ศุธาณี    เพื่อนของฉัน เวลามองหาสองสาวจะสังเกต นิว ง่ายที่สุดเพราะคุณเธอน่ะมีผมสีดำอมน้ำตาลเงาแถมหยิกเป็นลอนอีก     ผิวสีแทน ฉันเพิ่งรู้จักนิวเมื่อตอนฉันอยู่ ม.1นี่เอง (ตอนนี้ฉันเรียนอยู่ ม.4)ก็สนิทกันพอสมควร
    แต่ไม่มากเท่ายัยนาวที่แทบจะรู้จักกันตั้งแต่ออกจากท้องแม่
    เหตุผลที่ยัยนาวเรียกฉันว่าที่รักนะหรอ    ขอย้อนกลับไปตอนที่ยังไม่สนิทกับเพื่อนๆของยัยนาว   เราเดินกอดคอกันตอนที่เจอกันในตลาด แถมกลับบ้านพร้อมกันแล้วฉันยังถือกระเป๋าให้อีก    ยัยนาวก็ใช่ย่อยถือแก้วน้ำปั่นส่งให้ฉันดูดน้ำอีกป้อนฉันอีก    เท่านั้นแหละค่ะวันรุ่งขึ้นเป็นข่าวเลย         เพื่อนๆปากตระไกรของยัยนาวถามกันใหญ่เลยว่าเป็นอะไรกันหรอ     บางคนก็ว่าไปนู้นเลยหาว่าเป็นคู่ทอมกับดี้กันอีก
    โอ้ว!พระเจ้าช่างแกล้งกันด้าย ช้านอยากจากระโดดลงหลังยุงตาย(- -;;)
     แต่ตอนนี้ฉันเอากับมันด้วยเลยโกหก โกเจ็ด     ไปเลยว่าเป็นแฟนกันแถมเรียกดาร์ลิ้งทุกวัน ยัยนาวก็สมรู้ร่วมคิดโกเก้าไปว่าเป็นแฟนเหมือนกันและเรียกฉันว่าที่รักทุกวัน
    โป้ก! เสียงถาดกระทบศีรษะนาว&นิวตามด้วยเสียงอะไรคงไม่ต้องบอก
    “โอ๊ย!ใครฟะ?/โอ๊ย!ใครฟะ?”    สองคนพูดขึ้นพร้อมกัน
    “จำเราไม่ได้หรอ    อุ้มไง      ชายคนนั้นตอบ
    “อ๋อ!   อุ้มมาอยู่นี่ได้ไง?    นาวถาม
    แล้วพวกเราทั้งหมดได้ลงคุยกันตรงสนามหญ้าโดยไม่แคร์สายตาหลายคู่ที่มองมา   ขณะนั้นบนเวทีมีการแสดงวงดนตรีเห็นอุ้มบอกว่าเป็นวงของลูกลุงมนตรี   ชื่อว่าวง Zest    พวกเราก็ไม่ได้สนใจอะไรจนกระทั่ง    ถึงตอนแนะนำตัวพวกเราตั้งใจฟังกันอย่างมากด้วยความหมันไส้ในท่าทีขี้เก๊กของพวกนั้นหน้าตาไม่ต้องพูดถึงงั้นๆทั้งกลุ่ม
    “เทสๆ one   two   three เอ่อ ..สวัสดีครับผมนักร้องนำ ชื่อสิรวิชญ์ ชื่อเล่น แคมป์ ครับ”ชายหนุ่มรูปร่างสูงประมาณ  178 กว่าๆ หน้าตาก็ธรรมดา เรียบๆแหละ ผิวสีแทนแต่ไม่ดำ   คิ้วหนา ปากโค้งได้รูป   ตานี่นะใสเป็นประกายอย่างกับมีลูกแก้วไว้ในตาอย่างไงอย่างงั้น    
    ส่วนคนที่สองยิ่งแล้วใหญ่ทำเก๊กแมน   จริงๆแมนเปล่าไม่รู้
    “ผมแฟ้ม ชื่อจริง ญาณาธิป เป็นมือเบสวงZest   ครับ” คนนี้ดูขี้เก๊กสุดๆ นิวเอ่ยขึ้น     ใบหน้าเคร่งขรึม พร้อมช่วงไหล่กว้างรับกับหุ่นนักกีฬา      ผิวสีน้ำผึ้ง    สูงกว่าคนแรกนิดหน่อย         พูดเสร็จพลางส่งไมค์ให้คนสุดท้ายที่ท่าทางขี้เล่นกว่าคนอื่น
    “ผมขอกล่าวคำว่าสวัสดีก่อนนะครับ   อืม เอ่อ ผมไม่อยากบอกชื่อผมเลยแต่ต้องบอกเพราะชื่อผมนี้ช่างเหมาะกับหน้าตาอันหล่อเหลาของผมซะจริงๆเลยคือว่าผมเนี้ย ชื่อ    ชิโนกร   ชื่อเล่น    ชินครับ” 
    “อย่ามั่ว ชินเชินอะไร เอ็งน่ะชื่อ ไอ้ตี๋”    เพื่อนในวงสองคนพูดขัดขึ้นทำให้เจ้าของชื่อที่เพื่อนตั้งให้ ยิ้มอายๆบิดเขินไปมา (^_^) 
    คนๆนี้รูปร่างสูงมีกล้ามเนื้อตรงแขนเพราะเป็นนักกีฬาว่ายน้ำของโรงเรียน ผิวขาวเนียน(อิจฉาผิวอ่ะขาวชะมัดเลย)ปากนิด   จมูกหน่อย    ที่สำคัญตาตี่เหมาะกับชื่อตี๋จริงๆ    ถ้าทางลูกครึ่งไทย-จีนแหงเลย
    สรุปหน้าของทุกคนในวงนะ   หน้าตาไม่เห็นน่าสนใจสักคน(ความจริงตรงข้ามกับที่บรรยายเกือบหมดหน้าตาอย่างนั้นเหรอยะที่เรียกว่างั้นๆ-ผู้แต่ง)
    “เพื่อไม่ให้เสียเวลาเรามาฟังเพลงกันเลยครับ”    นายนั่นพูดต่อกลบความอาย
    บรรยากาศตนนี้ช่างน่านอนจริงๆเลย     ท้องฟ้าเริ่มมืด     เสียงดนตรีเบาๆ ลมเย็นๆ  เฮ้อ!สมองก็สั่งการให้ตาเริ่มปิด      
     
    บ๊อก บ๊อก    “เฮ้ย!   เสียงลูกหมานี่นา”   จากที่ง่วงเมื่อกี้นี้กลายเป็นอาการตื่นเต้นขึ้นแทน
    “ลูกหมาน่ารักจัง    น้องๆลูกหมาชื่ออะไรหรอ” ฉันถาม
    “สีดำชื่อเมี่ยง     สีครีมชื่อเม่นคร้าบบบบ”  
    “ขอบใจนะน้อง” ฉันเอ่ยขอบคุณน้องคนนั้น พลางอุ้มเจ้าเมี่ยงขึ้นจ้องหน้ามันกัดจมูกฉันด้วย  หุหุ ฉันเดินไปที่บ้านสุนัขเพื่อเล่นกับเจ้าเม่นอีกตัว    ตอนที่ฉันก้มลงไปอุ้มเจ้าเม่นขึ้นมาแล้วเงยหน้าขึ้นปุบ      ฉันแทบจะกรี๊ด   เกือบทำลูกหมาหลุดมือเพราะอะไรนะหรอ   ก็มีคนมายืนตรงดูตรงหน้า    อยากรู้ใช่ไหมว่าใคร ก็วง Zest   Memory  นะสิ   ไม่ใช่จะกรี๊ดเพราะความหล่อความเท่หรอกนะ      ตกใจมากกว่า     ทาแป้งซะหน้าขาววอกแล้วยืนตรงที่มืดๆอีกเหมือนผีเลย   โอ้มายก๊อด! ผีหรอ
    ม่ายนะ    ใครก้อด้ายช่วยด้วยยยยยยยยยย    ฉันไม่ชอบพวกเรื่องผีสางนางไม้ซะด้วยสิจะเรียกว่าไม่ถูกชะตาจะง่ายกว่า     ยิ่งคิดลมยิ่งพัดแรงขึ้นจนผมยาวที่รวบไว้อย่างดีหลุดสยายออกมาทันใดนั้นเจ้าเม่นดิ้น   ฉันยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่    
    “นะโมตัสสะ    ภะคะวะโต    แม่จ๋าช่วยด้วยพลางพนมมือสวดมนต์ต่อไป
    “คิม ทำอะไรอยู่” นิวเรียกทำให้ฉันสะดุ้งจากภวังค์
    “นิว   ฉันเห็น ผะ....ผี   ผี 3 ตัวมันอยู่ตรง...ตรง....นั้นน่ะ   ฉันพูดพลางชี้ไปตรงที่ฉันเห็น
    “ฮ้า ฮ้า ฮ้า   เฮ้ย ไม่ใช่ผีนะคิมนั่นคนมั่วแล้ว
    “หรอจริงอ่ะ”    ฉันบอกแล้วลืมตาเงยหน้ามองแล้วเห็น 3 คนนั้นยืนอยู่
     
    (-*-)     สีหน้าของนักร้องนำ
    ( -?-)    สีหน้าของมือเบส
    (- -! )    สีหน้าของมือเบสที่หน้าตี๋ 
    “แหะ แหะ ไปกันเถอะนิวเราอาย”    ฉันบอกพลางรีบเดินออกจากมูลนิธิด้วยความอาย
    อ๋อยหน้าแตกเลยช้านนนน   ช้านเกียจมัน บังอาจมาหลอกผีชั้น เดี๋ยวได้เจอดีแน่ ไม่เร็วก็ช้าละวะ
     
    “เราขอ ห้าม ห้าม ห้าม ให้ใครไปชอบไอ้เหมือนหล่อ    ไอ้เก๊ก    และก็ไอ้ตี๋ โดยเด็ดขาดนะ
    “เฮ้ยเหมือนหล่อ กับ เก๊ก นี่ใครอ่ะ”นาวถาม
    “นั่นสิ   ตี๋นี่ยังรู้ว่าเป็นใคร”นิวเสริม
    “ก็ไอ้นักร้องนำ   กับ มือเบสนั่นไง
    “เราไม่ชอบอยู่แล้ว”    นิวบอกพร้อมทำหน้าจริงจัง
    “นาวล่ะ ว่าไง”
    “เราด้วยเราไม่ชอบแน่นอนแต่นานๆไปเราอาจจะชอบก็ได้มั้ง ฮิฮิ”    นาวตอบเล่นๆ
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×