ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 1. แรกพบ สบตา เมื่อเจอหน้าเธอ..
Title: Little Lot Like Love ลุ้นรักป่วนก๊วนเทพ
Author: ParkWorld
Genre: Romantic- Comedy
Pairing : NO Yoosu, NO Yunjae, just their fiction
Starring: TVXQ boys & Wonder Girls
1. แรกพบ สบตา เมื่อเจอหน้าเธอ...
เสียงกริ่งจักรยานดังรัวสนั่นต่อเนื่องไปตลอดเส้นถนนในมหาวิทยาลัย SMJYP เจ้าของรถฮัมเพลงสบายใจไม่สนสายตารำคาญปนหนวกหูของนักศึกษาสองข้างทาง แหม เปิดเทอมวันแรกมันก็ต้องครึกครื้นกันหน่อยเด้ อ่ะ เทลมีๆ ตั๊ด ตา ดั๊ด ตา ดั๊ด เทลมี (เพลงเธอมันช่าง - -“)
ทันทีที่เลี้ยวโค้ง
อ๊ากก เอี้ยดดดดดด เคร้งง!!!!
จักรยานอาราเล่สีแดงแปร๋นพร้อมคนขี่ล้มหมดท่าทันทีที่ชนเข้ากับเฟอร์รารี่สีขาวตรงทางแยก ซอนเยล้มกลิ้งขลุก ๆ รถคู่กรณีจอดกึก ก่อนที่เสียงกรี๊ดดังถล่มทลายจะดังมาจากรอบบริเวณทันที่ที่ประตูรถเปิดออก เจ้าของรองเท้าบูทสูงสีน้ำตาลกับกางเกงยีนส์ขาเดปสีเข้มก้าวออกจากรถ
“ครับ พี่ลี ช่วยเอารถไปซ่อมให้ทีนะครับ อะไรนะครับ”
ชายหนุ่มก้มลงดูโทรศัพท์ตัวเอง อีกมือหนึ่งก็คอยกันกองทัพนักศึกษาสาวๆ ที่กรูเข้ามากรี๊ด
รุมถ่ายรูปเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เกิดเป็นคิมแจจุงนี่มันลำบากจริงๆ ทั้งหล่อ ทั้งรวย บางวันก็ซวยซะงั้น
“ออ เพิ่งชนกับจักรยานเมื่อกี๊นี่เองครับ น่าจะสีถลอก เสร็จแล้วเอากลับมาจอดที่เดิมด้วยนะครับ” ว่าแล้วก็เดินฉับๆ ออกไปพร้อมโขยงชะนี ไม่ได้สนใจซอนเยที่นั่งแอ้งแม้งอยู่ที่พื้นเนื้อตัวมอมแมม ยิ่งใหญ่มาจากไหนมิทราบ เล่นจอดรถกลางสี่แยกแบบเนี้ย!
“นี่! “ ไม่สนใจ
“เน้ ไอ้หน้าสวยมารยาททราม ”
ซอนเยตะโกนสุดเสียง ได้ผล ร่างสูงชะงัก หันหน้าสวยๆ แต่บึ้งตึงกลับมากวนๆ
“นี่
นายทำรถฉันพัง ขอโทษเดี๋ยวนี้” เสียงดังกลบเกลื่อน ใจจริงกลัวฝูงชะนีแหวกตับจะแย่
ร่างสูงยักไหล่หน้าเฉย ก่อนจะออกเดินต่อไป มันน่าโมโหนัก ซอนเยกระชับกระเป๋าในมือ เป้าหมายคือหัวกลมๆสีทองของไอ้คนกวนประสาทนั่น แต่ทั้งคู่ก็ต้องชะงักกับเสียงประกาศที่ดังขึ้น
“โปรดทราบ โปรดทราบ นักศึกษาที่มีรายชื่อต่อไปนี้ ให้มาพบอธิการบดีที่ห้องเดี๋ยวนี้ จองยุนโฮ คิมแจจุง ปาร์คยูชอน คิมจุนซู ชิมชางมิน ปาร์เยอึน มินซอนเย ซึงมี คิมยูบิน และ อานโซฮี”
อะไรอีกล่ะเนี่ย
.
+++++++++++++++++++
“วู้ๆๆๆ” ปากอิ่มส่งเสียงดังอารมณ์ดี มือหมุนพวงมาลัยเข้าโค้ง
เพียะ ฝ่ามือเพชฌฆาตของปาร์คเยอึนฟาดเข้าให้ที่แขนไอ้น้องชายตัวดี
“ไอ้ยูชอน แซงๆๆ แม่ง ช้าชิบเป๋ง” ชางมินแหกปากกรอกหูไอ้เพื่อนที่นั่งข้างๆ
ฝ่ามือเดิมเลื้อยมาจากข้างหลัง ตบป๊าบเข้าที่กกหูเด็กดำเสียงดังสนั่น
“หุบปากนั่งเงียบๆ แล้วกลัวคนนึกว่าตายไปแล้วรึไง แกอีกคน ไอ้ยูชอน ขับแบบนี้เด๋วได้ตายโหงกันยกรถก่อนถึงมหาลัยแน่” เยอึนบ่นเอือมๆ ตาเรียวเหลือบไปมาระหว่างน้องชายกับเพื่อนน้องที่ตอนนี้ลูบหูตัวเองป้อยๆ
“โห เจ๊ ตบแรงแบบนี้ ยกตีนมาถีบหน้ากันเลยมา”
เยอึนคนว่าง่ายกำลังจะถีบไอ้เด็กดำกวนตีน แต่ก็หัวคะมำซะก่อน เพราะอยู่ดีๆ เลกซัสคันหรูที่นั่งมาดันเบรคเอี๊ยดอยู่หน้ามหาลัยพอดีเป๊ะ
“ลืมบัตรนักศึกษาหรอเมิง จอดซะหน้าประตูเด๊ะ” นอกจากจะโดนพี่มันตบ มันยังแกล้งเบรคซะตูหัวทิ่ม
“กูป่าวแกล้งเว้ย ไอ้คันหน้าอยู่ดีๆ มันก้อจอดว่ะ” ยูชอนรีบแก้ตัวก่อนโดนเพื่อนด่าพี่ตบ
แล้วไอ้ลีมูซีนคันข้างหน้ามันจะรีบไปส่งศพพ่อมันที่วัดไหนวะ เบรกกะทันหันแบบนี้ ถ้ารถตูชนตูดไป ใครมันจะมีปัญญาจ่ายมัน แบบนี้ขอคนหล่อสั่งสอนมารยาททีเหอะ
ยูชอนก้าวขาออกมาจะด่าชายในชุดเสื้อเชิ้ตขาวที่กำลังจะเปิดประตูหลังให้เจ้านาย
ชางมินกับเยอึนเห็นท่าไม่ดี กลัวน้องรังแกคนแก่ (อนาถจริง ปาร์ค) รีบก้าวเท้าออกจากรถตาม
“อ๊ากก นางฟ้า”
“น่าร๊ากกกกกกกกก” ชางมินเอาบ้าง
เยอึนกำลังงงว่าไอ้สองตัวนี้อยู่ดีๆ มันเกิดจะประสาทแดกอะไรขึ้นมา แต่พอหันไปมอง
“อ้าว โซฮี”
โซฮี หรือนางฟ้าของไอ้ปาร์คที่เพิ่งก้าวออกจากรถ หันมาตามเสียงเรียกจนผมลอนยาวสะบัดเคลียแก้มป่อง ตาหยีเวลาที่ยิ้มกว้างบวกกับจมูกโด่งเล็กน่ารัก ทำเอาหัวใจสองหนุ่มกระตุกวูบๆ
“อ๊ะ เจ๊เยอึน คิดถึงจัง” ขานรับน้ำเสียงสดใส ก่อนจะวิ่งเข้ามาสวมกอดพี่คนสนิทที่ไม่ได้เจอกันมานาน
“ กลับมาเมื่อไหร่ไม่เห็นบอกเจ๊เลย จะได้ไปรับ” เยอึนยิ้มเอ็นดู
“กะทันหันนิดหน่อยค่ะ ทำเรื่องย้ายบ้านได้ก็รีบบินมาเลย กลัวไม่ทันเปิดเทอมวันแรก”
สาวน้อยยังยิ้มน่ารักให้คนตรงหน้า เผื่อแผ่ไปให้ไอ้สองหน่อที่กำลังยืนตาลอย น้ำลายย้อยอยากกินซาลาเปา (ไปเซเว่นง่ายกว่ามั้ย?)
“นี่หรอคะ น้องชายเจ๊” โซฮีเอ่ยถาม ให้ปาร์คตายห่าเถอะ คนอะไรเสียงใสน่ารักสมตัวเจงๆ
“ค้าบ พี่ชื่อยูชอนครับ น้องโซฮีน่ารักจัง” ไก่น้อยรีบแย่งตอบ ก่อนหยอดไปหนึ่งเม็ด
“พี่ชื่อชางมินครับ เป็นเพื่อนไอ้นี่ น่ารักขนาดนี้ เป็นแฟนพี่มั้ย” ป๊าดด ไอ้นี่
“เข้าเรียนดีกว่า คุยกะพวกมันมากๆ สมองฝ่อเอา” เยอึนรีบปกป้องเด็กใส
“โปรดทราบ โปรดทราบ นักศึกษาที่มีรายชื่อต่อไปนี้ ให้มาพบอธิการบดีที่ห้องเดี๋ยวนี้ จองยุนโฮ คิมแจจุง ปาร์คยูชอน คิมจุนซู ชิมชางมิน ปาร์เยอึน มินซอนเย ซึงมี คิมยูบิน และ อานโซฮี”
“หึม” สี่เสียงประสานกันโดยมิได้นัดหมาย
++++++++++++++++++
“โปรดทราบ โปรดทราบ นักศึกษาที่มีรายชื่อต่อไปนี้ ให้มาพบอธิการบดี
.”
เออ เรียกอยู่นั่นแหละ ไปค้างค่าเทอมมันรึก็เปล่า จิกกูยิกๆ เชียว
“เฮ้ย หลบดิวะ ไอ้หน้าจืด เดินแบบนี้เดี๋ยวก็ชนตีนกูหรอก” คิม ยูบินร้องด่าเด็กรุ่นน้องชะตาขาดด้วยอารมณ์หงุดหงิด ไอ้แว่นดวงซวยรีบวิ่งหนีงุดๆ จนชายเสื้อช็อปวิศวะปลิวหวือ เจ้าแม่ร้องทักขนาดนี้ ขืนยังยืนเอ๋ออยู่ คงได้กินตีนรุ่นเตะควายตาย
“อะไรของมันวะ ทำเป็นวิ่งหนีตูดปลิว กูน่ากลัวตรงไหนเนี่ย”
บ่นเสียงดังแล้วก็เดินตาขวางมุ่งหน้าไปทางตึกอธิการ เด็กที่นั่งอยู่ตรงม้านั่งสองข้างทางต่างหลบตากันเป็นแถว ยูบินเริ่มหงุดหงิดมากขึ้นจนคิ้วกระตุก เห็นอะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมด
ปึ๊ก ปึ๊ก ปึ๊ก
เสียงแข้งกระทบเบาะนวมดังไม่ขาดระยะ เดาไม่ยากว่าคนเตะต้องแข็งแรงเกินคนทั่วไป ยูบินหรี่ตามองภาพตรงหน้า ไอ้แรงเยอะน่ะไม่เถียงหรอก แต่มันเล่นมากางเบาะซ้อมฮับกิโด้ซะโล่งโจ้งตรงใต้คณะแบบเนี้ย จะยั่วยวนกันเกินไปแล้ว อย่างงี้มันต้อง
“ย๊ากกกกกกกกกก”
ผลั่ว
“อ๊ากกกกกกกกกกกกก”
ภาพที่ชอง ยุนโฮสุดหล่อ โดนยูบินน็อคจากข้างหลังจนนอนคว่ำเป็นหมีตายแผ่หลา เสียงและภาพอันแสนคุ้นชินของคนแถวนี้ดังขึ้นเป็นครั้งแรกของวัน หลายคนเอานิ้วปิดตาเพราะรับความรุนแรงไม่ได้ ให้ตายเหอะ อนาถใจหมี
“อ้าว ยูบิน เธอเองหรอ” ยุนโฮหันมายิ้มทักโชว์ฟันขาว เหงื่ออาบท่วมตัว
เออ กูเองอ่ะ คนบ้าอะไรวะ โดนถีบจนหลังเป็นรอยดอกยางรองเท้าขนาดนั้น มันยังทำเฉย
“แกมาโชว์ออฟอะไรตรงนี้วะ ห้องซ้อมไม่มีรึไง”
“อ๋อ ชุมนุมเชียร์เค้ายืมไปทำห้องเก็บของชั่วคราวน่ะ”
“แล้วแกก็ให้เขายืม” ยุนโฮพยักหน้าหงึกๆ
“แล้วแกจะไปซ้อมที่ไหน” หมีทำหน้ามึนงง ก็ตรงนี้ไง “ ซื่อบื้อเป็นควายเลยแกเนี่ย สมองมีก็เอาคิดบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้มันลีบแหลมไปตามหน้า ทำเป็นใจกว้าง โดนหลอกใช้ไม่รู้ตัว ถุย”
บุญยังมี ยุนโฮยกขาหลบกระสุนน้ำลายได้อย่างเฉียดฉิว
“ป่ะ ไปกันได้แล้ว” ว่าแล้วหันหลังเดินไปอีกทาง
“ไปไหนหรอ” ยังไม่รู้จุดหมาย แต่ทำไมตูต้องเดินตามมาด้วยว้า
“แกก็ช่วยแหกขี้หูฟังประกาศดิ โง่แล้วยังหูตึงอีก” เค้าได้ยินกันทั้งคณะวิศวะ ทั้งมหาลัย ลามไปถึงเกาะเชจูแล้วมั้ง มีแต่ไอ้หน้าหมีนี่ หูหนวกอยู่คนเดียว
“ ออ ป่ะๆ “ ยุนโฮที่เพิ่งได้ยินประกาศที่ดังซ้ำไปซ้ำมาเกือบสิบรอบตลอดเช้านี้
“ใครจะไปกะแก”
“อ้าว ก็มันมีชื่อเธอด้วยนะ”
“เออ หูกูไม่ได้ตึง แต่ไม่อยากเดินกะหมีควายเว้ย” ว่าแล้วก็ออกวิ่งจนเต็มฝีเท้า
“เฮ้ย รอด้วย” คำก็หมี สองคำก็โง่ เจ๊แกไม่ได้ดูตัวเองเล้ย
++++++++++++
ตึ๊กๆๆๆๆ เสียงฝีเท้าของคนตรงหน้าดังไม่ขาดระยะ ซอนเยก้าวเท้ายาวจนกลายเป็นวิ่งเพื่อให้ทันคนหลังงอแต่เดินเร็ว เสื้อกล้ามสีขาวเนื้อบางของคนตรงหน้าเปิดเผยรอยสักตรงเนื้อขาวๆ หลังคอ ไอ้นี่มันยังไงนะ ท่าทางเหมือนลูกคุณหนูแต่ดูเถื่อนชะมัด
“นี่ “ ซอนเยเรียกไอ้หน้าสวยตรงหน้าเป็นรอบที่ร้อยของเช้านี้แล้วมั้ง ไม่หันมาเลย บ้าจริง
“นี่ นี่ นี่ นี่ นี่” หลับหูหลับตาเรียกย้ำให้มันรำคาญเล่น มีไรป่ะ
ปึ๊ก หน้าซอนเยชนเข้าเต็มๆ กับหลังของคนตรงหน้าที่อยู่ดีๆ ก็หยุด
“เดินตามมาทำไม” ถามเสร็จก็ถอดหูฟังออก มิน่าล่ะ เรียกเท่าไหร่ก็ไม่หัน
“ใครว่าฉันเดินตาม” ลอยหน้าลอยตาตอบ
“แล้วไป” หันหลังเดินต่อเฉย ซอนเยเดินตาม
“ทำเป็นเท่ ชิ หล่อตายล่ะ หน้ายังกะกระเทย” ซอนเยพึมพำ แต่พอเห็นว่าคนที่เดินนำหน้าไม่สนใจ สงสัยมันจะฟังเพลงอยู่ ซอนเยก็เพิ่มเสียงขึ้นเรื่อยๆ
“ทำตัวยังกะดารา แหวะ ตัวก็เตี้ย หลังก็ค่อม” ซอนเยยิ้มสะใจ ดีจัง ด่ายังไงก็ไม่ได้ยิน คิดได้แบบนั้นก็แกล้งทำท่าล้อเลียนแจจุงตอนเดินอยู่ข้างหลัง ปากก็คิดหาคำกัดจิกไปเรื่อยๆ
“ว๊ายยย” ซอนเยร้องตกใจเสียงหลง เพราะจู่ๆ แจจุงก็หันกลับมา มือเรียวขาวจับไหล่ซอนเยทั้งสองข้าง ดันให้ไปชิดกำแพง แล้วโน้มหน้าเข้ามาจนใกล้แค่ไม่ถึงคืบ ก่อนก้มลงกระซิบข้างหู
“เลิกเดินตามฉัน แล้วจะไปไหนก็ไป”
“ใครว่าฉันเดินตามนาย ฉันก็จะไปหาอธิการเหมือนนายนั่นแหละ” ซอนเยตะโกนใส่หน้าเสียงดังลั่นจนแจจุงผงะ ซอนเยตอนนี้ หน้าแดงแปร๊ดเพราะสบเข้ากับตากลมโตของคนหน้าสวยจังๆ ทำเอาใจเต้นแรงไปหมด แล้วแจจุงก็ผละออกมา
“ไอ้หลงตัวเอง” ซอนเยด่าให้ แต่ก็กลับร้องเสียงหลงอีกรอบเพราะแจจุงยื่นหน้าเข้ามาอีกครั้ง ใกล้กว่าเดิม หญิงสาวรู้สึกได้ถึงแพขนตางอนยาวของคนตรงหน้าสั่นไหวอยู่ไม่ไกล
“งั้นหลบไป ฉันไม่อยากวุ่นวาย โดยเฉพาะกับผู้หญิง” กวาดตาไปทั่วจนคนถูกมองหน้าแดงก่ำ
“ขี้เหร่ แบบเธอ”
เสียงมารร้ายในหัวยอนเซกำลังกรีดร้องประสานเสียงกันดังลั่น จะตอบโต้มันยังไงดี ๆๆ
ทันใดนั่นเองที่ทั้งคู่รู้สึกเหมือนมีลมพัดผ่านหน้าไปไวๆ หายเข้าไปในทางมืดตรงหน้า
“เอ่อ เมื่อกี๊ นะ นายเห็นอะไรมั้ย” ถึงกะติดอ่างเลยทีเดียว
“ไม่นิ” แจจุงยักไหล่ แต่ตายังไม่กล้าหันกลับไปดู
ทั้งสองคนตกอยู่ในความเงียบ ขนลุกอย่างไร้สาหตุ ความจริงห้องอธิการนี่มันก็ลึกลับน่าดู ตึกหลังเล็กทรงโบราณสีขาวเก่าๆ ดูแปลกแยกและห่างไกลออกมาจากตึกเรียนสูงต่างๆ โดยสิ้นเชิง ตึกนี้เป็นตึกเก่าตั้งแต่ก่อตั้งมหาวิทยาลัย จึงไม่น่าแปลกที่จะมีสิ่งเร้นลับอาศัยอยู่
“หรือว่า เมื่อกี๊ จะเป็นผี
..”
“ตุ๊บ กรี๊ดดดด อ๊ากกกก” เสียงของกระทบพื้นดังลั่น ซอนเยเผลอกรี๊ด แจจุงเองก็เอามือปิดปาก กันเสียงอุทานของตัวเอง
“อุ้ย ขอโทษครับ “ จุนซูหยิบหนังสือที่ทำตกพื้นพลางขอโทษเบาๆ สาบานได้ ไม่ได้ต้องการจะมาขัดเวลาคนพลอดรักกันเล้ย “คือผมแค่จะถามว่าห้องอธิการไปทางนี้ใช่มั้ยครับ”
ซอนเยค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาดูให้แน่ใจว่าไอ้ที่ถามเนี่ย คนหรือผี พอเห็นว่าเป็นคนก็ค่อยๆ ตอบ
“ชะ ใช่ค่ะ”
“ขอบคุณครับ” จุนซูยิ้มกว้างขอบคุณ ก่อนรีบเดินออกไป
“เฮ้อ โล่งอกไปที ไอ้เราก็นึกว่าผีหลอก” ซอนเยถอนหายใจยาว
“โล่งแล้วก็เลิกลวนลามฉันซะทีสิ” แจจุงบอกเสียงเย็น ซอนเยเงยหน้าจากอกร่างสูง มือสองข้างยังเกาะรอบเอวบางของคนตรงหน้าอยู่ ตายละ นี่เราเผลอไปกอดอีตาบ้านี่หรอเนี่ย ร่างเล็กรีบผลักตัวออก แจจุงปัดแขนตัวเองแรงๆ เป็นเชิงรังเกียจ
“ให้มันน้อยๆ หน่อยนะ แหม ทำเป็นรังเกียจ ชิ โดนชั้นกอดน่ะ โชคดีสุดๆ ไปเลยนะ จะบอกให้”
ซอนเยหมั่นไส้หนัก จนต้องเอาศอกกระทุ้ง แจจุงหรี่ตามอง สีหน้ารำคาญยัยฟันกระต่ายตรงหน้านี้จะแย่ รีบเดินหนีไป
ชิ หวงตัวยังกะตุ๊ดเด็ก ไปซะได้ก็ดี ซอนเยยืนกอดอกอยู่ซักพัก ว่าแต่ ไอ้ตึกบ้านี่ มันไม่มีไฟฟ้าใช้รึไงนะ มืดตื๋อเลยอ่ะ แล้วถ้าเกิดผีมันโผล่มาจริงๆ จะทำไงเนี่ย
“เฮ้ย รอด้วยดิ ไอ้ขี้เก๊ก รอด้วยยยย” ซอนเยออกวิ่งตามเต็มแรง
“อย่าตามมานะเว้ย” แจจุงวิ่งหนี แต่ก็ช้าไป มือเล็กคว้าหมับเข้าที่แขนเสื้อแจจุง มีเอฟเฟคเสียงเสื้อขาดดังแควกกก
“เฮ้ย เสื้อช้านนนน” โถ่ เสื้อไหม่ที่ตั้งใจใส่มาต้อนรับเปิดเทอมวันแรก แพงด้วยนะตัวนี้
“อุ้ย ขาดเรย แหะๆ” ซอนเยยิ้มหวานกลบเกลื่อนจนตาหยี แต่พอหันมาเห็นแจจุงยืนถลึงตาเปลี่ยนจากคนหน้าสวยกลายเป็นหน้ายักษ์อยู่ตรงหน้า เหงื่อก็เริ่มซึม
“เมื่อเช้าก็รถ ตอนนี้ก็เสื้อ เธอนี่มันวอนหาเรื่องจริงๆ” พูดพลางย่างสามขุมเข้ามา
หึๆ หึๆ ขืนอยู่ต่อ ชะตาขาดแน่เรา ซอนเยยิ้มหนึ่งที ก่อนใส่ตีนหมาโกยสุดแรง
“อย่าหนีนะ ฉันจับได้ เธอตายแน่”
TBC
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น