ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Reinforcements
A general is just as good or just as bad as the troops under his command make him. - Douglas Macarthur.
24 hours later
6 นาฬิกาตรง ผมหยิบปืนหนึ่งกระบอกแล้วบึ่งไปยังรถบรรทุกลำเลียงพล ประจำหมู่ ผมขึ้นไปนั่งบนรถบรรทุกเปิดประทุน แล้วมองไปยังคนอื่นๆที่หน้าตาเหมือนนอนไม่เต็มอิ่ม
ผมมองนาฬิกาเข็มยาวชี้เลข 2 จากนั้นรถบรรทุกจึงเริ่มเดินทาง ผมมองกลับไปยังศูนย์บัญชาการหลัก ที่ค่อยๆลับสายตาหายไป
รถบรรทุกแล่นมาได้ราวชั่วโมงครึ่งแล้วจึงมาถึงถนนใหญ่รถบรรทุกเริ่มขับเร็วขึ้น ผมมองไปยังถนนอีกเลนหนึ่ง มีรถถังราวสี่สิบขับเรียงกันมา แล้วจึงปิดท้ายด้วยรถลำเลียงพล
ราวสองชั่วโมงต่อมา ผมมองไปตามข้างถนน ผมเริ่มเห็นการตรึงถนนมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณชายหาด อีกทั้งเครื่องบินที่ได้บินตรวจตรา มีมาก และถี่ขึ้นเรื่อย
สี่ชั่วโมงต่อมา รถหยุดลง ผมรีบลงไปยังจุดรวมพล ซึ่งหัวหน้ากองร้อยเคน ยืนเตรียมรับคำสั่งจากเบื้องบนลงมา
"เบื้องบนสั่งมา ให้จัดแนวตั้งรับเริ่มที่สงขลา กองทหารที่นราธิวาสและยะลาได้ถอยลงมาแล้ว จัดแนวตั้งรับเต็มกำลังข่าวกรองรายงานว่ากองทัพสหรัฐได้ส่งกำลังลงที่มาเลเซีย และจะตีฝ่าเข้ามา เราจะไปป้องกันที่ 5 กิโลเมตรจากทางใต้ที่นี่ ซึ่งจะมีลักษณะเป็นคอขวดป่าทึบ และบีบให้ทหารสหรัฐเข้ามาทางป่าโปร่งที่เราป้องกันอยู่ ขอให้ทุกนายเตรียทอาวุธให้พร้อม อีกห้านาทีเจอกันที่นี่"
หลังจบการมอบหมายภารกิจ ผมเดินไปหยิบซองกระสุนในเตนท์แล้วจึงไปเติมน้ำที่แทงค์น้ำใกล้เคียง บรรยากาศที่นี่ ไม่แตกต่างจากสมัยรด. เลย ผมคิดออกไป แล้วจึงกลับไปรอเคลื่อนพล
สักพักหลังผมมาถึง คนอื่นจึงค่อยทยอยกันมา ผมเห็นเต้ที่เป็นหน่วยพิเศษกำลังหิ้งปืนกลหนักมากับตั๋ง ในขณะที่ ไอซ์กับฟางแบกเครื่องยิงจรวดมาคนละเครื่อง
จากนั้นจึงมีการแบ่งชุดยิงกันต่อ ซึ่งผมได้รับมอบหมายให้ไปคุมปีกซ้ายของรถถัง M60 ของทหารม้า และเพื่อนที่กล่าวมาข้างต้นได้ไปรับรองแขกด้านหน้ารถถัง หากเพลี่ยงพพล้ำก็จะเป็นช่วงที่ผมกับรถถังของทหารม้าจะได้ลุย
ว่าแล้วก็เริ่มเดินระยะสั้น ผมนั่งท้ายรถถังที่ต้องคุ้มกัน กับทหารบกอีกสามนายซึ่งแต่ละคนสีหน้าเคร่งเครียดไม่แพ้กัน
"บุหรี่ไหม" นายทหารคนที่นั่งข้างผมถามขึ้น ผมจึงส่ายหน้าตอบ รถถังยังคงแล่นต่อไปเรื่อย ป่าทั้งป่าเงียบสงบ (ถ้าไม่นับเสียงสายพานรถถังอ่านะ) ราวกับยังไม่มีสงคราม ผมมองไปในป่าด้านข้างที่มีทหารหลายคนกำลังเดินคืบหน้าไปเรื่อยๆสักพักรถถังจึงหยุดลง ผมกระโดดลง และยืนดูทหารหลายร้อยนายที่ที่ยังเดินคืบหน้าไปยังแนวป้องกันมากขึ้นเรื่อยๆ
"สามารถดักฟังวิทยุข้าศึกได้แล้ว ใช้ช่องสัญญาณที่ 187.41"วิทยุที่ติดมากับหมวกพูดออกมา
ผมไม่สนใจ เพราะเป็นการบอกเฉพาะทหารช่าง และหน่วยแกะรอยเท่านั้น ฉับพลัน เสียงปืนดังขึ้น เป็นชุดๆ ผมมองไปด้านหน้า เห็นทหารหลายสิบนายพากันหมอบลง
ผวัะ! หน้าผมลงไปกระแทกพื้นดิน
"เหม่ออะไรอยู่ได้ ตั้งสติหน่อยสิ"
ผมมองไปยังคนข้างๆ คนที่ให้บุหรี่ ผมยิ้มตอบแล้วจึงกลับไปยังเบื้องหน้า ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า "นายว่าเราจะเอาอยู่มะ"
"ไม่แน่นอนหรอก ของอย่างงี้มันต้องลองสักตั้ง"
ผมจึงกล่าวขอบคุณเขาที่เตือนสติผมในเมื่อสักครู่ "ขอบใจ เรานิว นายล่ะ"
เขามองหน้าก่อนจะตอบ "เราชื่อ..."
ตูม! กระสุนปืนใหญ่นัดหนึ่งมาตกในระยะไม่ไกล หูผมอื้อจนฟังคนพูดไม่ได้ศัพท์ ผมมองทหารที่ล่วงหน้ากำลังค่อยๆวิ่งกลับมาพร้อมกระสุนปืนใหญ่ที่ยิงไล่มาเรื่อยๆ
นายทหารคนที่ใกล้ผมที่สุดล้มลง หัวมีรูกระสุนหนึ่งรู ผมกำชับไว้แน่น ตั้งท่าเตรียมยิง มองไปยัง หทารฝรั่งในชุดพรางเขียวที่กำลังค่อยๆเดินเข้ามาหา
ตามตอนต่อไปเนอะ
24 hours later
6 นาฬิกาตรง ผมหยิบปืนหนึ่งกระบอกแล้วบึ่งไปยังรถบรรทุกลำเลียงพล ประจำหมู่ ผมขึ้นไปนั่งบนรถบรรทุกเปิดประทุน แล้วมองไปยังคนอื่นๆที่หน้าตาเหมือนนอนไม่เต็มอิ่ม
ผมมองนาฬิกาเข็มยาวชี้เลข 2 จากนั้นรถบรรทุกจึงเริ่มเดินทาง ผมมองกลับไปยังศูนย์บัญชาการหลัก ที่ค่อยๆลับสายตาหายไป
รถบรรทุกแล่นมาได้ราวชั่วโมงครึ่งแล้วจึงมาถึงถนนใหญ่รถบรรทุกเริ่มขับเร็วขึ้น ผมมองไปยังถนนอีกเลนหนึ่ง มีรถถังราวสี่สิบขับเรียงกันมา แล้วจึงปิดท้ายด้วยรถลำเลียงพล
ราวสองชั่วโมงต่อมา ผมมองไปตามข้างถนน ผมเริ่มเห็นการตรึงถนนมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณชายหาด อีกทั้งเครื่องบินที่ได้บินตรวจตรา มีมาก และถี่ขึ้นเรื่อย
สี่ชั่วโมงต่อมา รถหยุดลง ผมรีบลงไปยังจุดรวมพล ซึ่งหัวหน้ากองร้อยเคน ยืนเตรียมรับคำสั่งจากเบื้องบนลงมา
"เบื้องบนสั่งมา ให้จัดแนวตั้งรับเริ่มที่สงขลา กองทหารที่นราธิวาสและยะลาได้ถอยลงมาแล้ว จัดแนวตั้งรับเต็มกำลังข่าวกรองรายงานว่ากองทัพสหรัฐได้ส่งกำลังลงที่มาเลเซีย และจะตีฝ่าเข้ามา เราจะไปป้องกันที่ 5 กิโลเมตรจากทางใต้ที่นี่ ซึ่งจะมีลักษณะเป็นคอขวดป่าทึบ และบีบให้ทหารสหรัฐเข้ามาทางป่าโปร่งที่เราป้องกันอยู่ ขอให้ทุกนายเตรียทอาวุธให้พร้อม อีกห้านาทีเจอกันที่นี่"
หลังจบการมอบหมายภารกิจ ผมเดินไปหยิบซองกระสุนในเตนท์แล้วจึงไปเติมน้ำที่แทงค์น้ำใกล้เคียง บรรยากาศที่นี่ ไม่แตกต่างจากสมัยรด. เลย ผมคิดออกไป แล้วจึงกลับไปรอเคลื่อนพล
สักพักหลังผมมาถึง คนอื่นจึงค่อยทยอยกันมา ผมเห็นเต้ที่เป็นหน่วยพิเศษกำลังหิ้งปืนกลหนักมากับตั๋ง ในขณะที่ ไอซ์กับฟางแบกเครื่องยิงจรวดมาคนละเครื่อง
จากนั้นจึงมีการแบ่งชุดยิงกันต่อ ซึ่งผมได้รับมอบหมายให้ไปคุมปีกซ้ายของรถถัง M60 ของทหารม้า และเพื่อนที่กล่าวมาข้างต้นได้ไปรับรองแขกด้านหน้ารถถัง หากเพลี่ยงพพล้ำก็จะเป็นช่วงที่ผมกับรถถังของทหารม้าจะได้ลุย
ว่าแล้วก็เริ่มเดินระยะสั้น ผมนั่งท้ายรถถังที่ต้องคุ้มกัน กับทหารบกอีกสามนายซึ่งแต่ละคนสีหน้าเคร่งเครียดไม่แพ้กัน
"บุหรี่ไหม" นายทหารคนที่นั่งข้างผมถามขึ้น ผมจึงส่ายหน้าตอบ รถถังยังคงแล่นต่อไปเรื่อย ป่าทั้งป่าเงียบสงบ (ถ้าไม่นับเสียงสายพานรถถังอ่านะ) ราวกับยังไม่มีสงคราม ผมมองไปในป่าด้านข้างที่มีทหารหลายคนกำลังเดินคืบหน้าไปเรื่อยๆสักพักรถถังจึงหยุดลง ผมกระโดดลง และยืนดูทหารหลายร้อยนายที่ที่ยังเดินคืบหน้าไปยังแนวป้องกันมากขึ้นเรื่อยๆ
"สามารถดักฟังวิทยุข้าศึกได้แล้ว ใช้ช่องสัญญาณที่ 187.41"วิทยุที่ติดมากับหมวกพูดออกมา
ผมไม่สนใจ เพราะเป็นการบอกเฉพาะทหารช่าง และหน่วยแกะรอยเท่านั้น ฉับพลัน เสียงปืนดังขึ้น เป็นชุดๆ ผมมองไปด้านหน้า เห็นทหารหลายสิบนายพากันหมอบลง
ผวัะ! หน้าผมลงไปกระแทกพื้นดิน
"เหม่ออะไรอยู่ได้ ตั้งสติหน่อยสิ"
ผมมองไปยังคนข้างๆ คนที่ให้บุหรี่ ผมยิ้มตอบแล้วจึงกลับไปยังเบื้องหน้า ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า "นายว่าเราจะเอาอยู่มะ"
"ไม่แน่นอนหรอก ของอย่างงี้มันต้องลองสักตั้ง"
ผมจึงกล่าวขอบคุณเขาที่เตือนสติผมในเมื่อสักครู่ "ขอบใจ เรานิว นายล่ะ"
เขามองหน้าก่อนจะตอบ "เราชื่อ..."
ตูม! กระสุนปืนใหญ่นัดหนึ่งมาตกในระยะไม่ไกล หูผมอื้อจนฟังคนพูดไม่ได้ศัพท์ ผมมองทหารที่ล่วงหน้ากำลังค่อยๆวิ่งกลับมาพร้อมกระสุนปืนใหญ่ที่ยิงไล่มาเรื่อยๆ
นายทหารคนที่ใกล้ผมที่สุดล้มลง หัวมีรูกระสุนหนึ่งรู ผมกำชับไว้แน่น ตั้งท่าเตรียมยิง มองไปยัง หทารฝรั่งในชุดพรางเขียวที่กำลังค่อยๆเดินเข้ามาหา
ตามตอนต่อไปเนอะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น