ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 4 Years After
"One death is tragedy, One million is statistics" Joseph Stalin.
4 ปีต่อมาหลังเหตุการณ์การสังหารหมู่
ผมตื่นขึ้นมามองไปรอบๆห้อง
'ไมมืดงี้วะ = =" '
ผมจึงค่อยๆเอื้อมมือไปยังนาฬิกาปลุกที่ ดูเวลาซึ่งแสดงเป็นตัวเลข 04:45
ผมจึงลุกขึ้นถอดเสื้อยืดและบอกเซอร์ แล้วจึงเข้าไปอาบน้ำ ผมออกมานาฬิกาแสดง 05:13 แล้วจึงค่อยๆเปิดตู้
กระจกบานหนึ่งข้างตู้สะท้อนให้เห็นคนๆหนึ่งร่างกายกำยำ ผิวสีแทนอ่อน หน้าตาพอได้ อายุเริ่มต้นวัยทำงาน ผมหยิบเครื่องแบบทหารออกมาใส่ตามปกติ แล้วจึงตามด้วยรองเท้าผ้าใบสีเขียวเข้ม
ผมเดินออกมาจากห้องตามทางเดินกว้างขวาง ของตึกขนาดใหญ่ที่พึ่งถูกสร้างขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน สิ่งก่อสร้างประกอบด้วยสนามบินพื้นหญ้า โกดังจอดรถ ศูนย์วิจัย กำแพงคอนกรีตเสริมเหล็กล้อมรอบ ปืนต่อสู้อากาศยานจำนวนมาก ที่นี่ไม่เคยถูกกลุ่มก่อการร้ายค้นพบ บุคคลที่อยู่ภายในล้วนแต่เป็นบุคคลที่มีความสามารถเฉพาะทางในด้านต่างๆ ตั้งแต่ทหาร ช่างเครื่องยนต์ จนไปถึงนักวิจัย ซึ่งผมมาอยู่ที่นี่ในฐานะนายทหารคนหนึ่ง
โครงการกลุ่มปฏิบัตการณ์ปลดปล่อยถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อการต่อต้านผู้การการร้าย ซึ่งปัจจุบันตั้งตัวเองเป็นศาลเตี้ย ปลดปล่อยนักโทษ และสังการนักโทษบางส่วน สังหารบุคคลที่ลือว่าคอร์รัปชัน ฆ่าล้างกลุ่มมาเฟีย และผู้กระทำผิดกฏหมาย และอื่นอีกมาก
ผมก็ไม่ชอบนายกฯซะทีเดียวหรอก แต่ผมไม่ชอบให้ใครมาตั้งตนเองเป็นศาลเตี้ยแล้วไล่ฆ่าคนอย่างนี้มากกว่า ผมเป็นอดีตนักบิน Barcelona Airline ผมเลิกเพื่อเข้าโครงการนี้ซึ่งเพื่อนผมหลายๆคนที่เป็นนักวิทยาศาสตร์อยู่ที่นี่ ผมเคยเป็นรด.อยู่สามปี ผลงานก็ไม่ดีมากหรอก
สองปีที่ผ่านมา โครงการถูกตั้งขึ้น แต่ผลงานส่วนใหญ่คือความล้มเหลว หลังจาก กองเรือหลักถูกจมลงในน่านน้ำ อ่าวไทย แม้ว่าจะเคยมีศัตรูเช่นกัมพูชาที่เคยจะบุกเข้ามา แต่แล้วก็กลับประกาศสงบศึกในไม่กี่สัปดาห์
ด้านความปลอดภัยในเมืองดีขึ้น ไม่ใช่เพราะพวกเรา แต่เพราะกลุ่มก่อการร้ายที่ล้างบางอาชญากร แต่ในทางกลับกัน ผู้คนสัญจรน้อยลง สนามบินเกือบร้าง สายการบินต่างประเทศไม่ยอมมาลง ตำรวจ กลายเป็นความปลอดภัยระดับต่ำกว่ามาตรฐาน
ผมเิดินไปตามทางเดิน และตรงไปยังห้องประจำหน่วย ซึ่งวันนี้ค่อนข้างจะพิเศษตรงที่ผู้ตรวจการณ์เข้ามา ซึ่งจะต้องเอาผักชีโรยหน้าทุกอย่าง ไม่ให้มีช่องว่างให้ถูกหักงบได้ การสงครามที่นี่ส่วนใหญ่เป็นด้านคอมฯ เพราะว่า แฮคเกอร์หลายคนพยายามจะเจาะข้อมูลเข้ามา ซึ่งสงครามทางทหารครั้งล่าสุดก็คงประมาณปีที่แล้ว ซึ่งเราสูญเสียกองเรือไปกว่า ครึ่ง ทั้งของเราเอง และของกองทัพเรือ
หลังผมเข้าฟังประชุมเสร็จ ผมต้องไปเตรียมรอรับผู้ตรวจการณ์ที่จะลงฮอที่กลางสนามบิน
Chinnok ลำหนึ่งบินมาจากขอบป่าที่อยู่ทางตะวันออก แล้วจึงค่อยลดระดับลง แล้วจึงจอดสนิทบนพื้น และคนที่เดินออกมา คือชายคนหนึ่งที่ผมรู้จัก หน้าตานิ่งขรึม ตัวเล็ก ผอมบาง แต่เป็นรด.ที่มีความรู้สูงมากด้านการทหาร แต่โดยปกติเขาจะมีตาดีทั้งสองข้าง แต่วันนี้ ตาข้างซ้ายของเขา กลับมีผ้ามาปิดตาไว้ เขาเดินออกมาพร้อมๆเป้ใบหนึ่ง แล้วจึงมีการคุยกันระหว่างหัวหน้าโครงการ กับเขาแล้วจึงค่อยๆเดินไปยังห้องประชุมของระดับสูง
หลังจากเขาเดินพ้นสายตา ทุกคนเริ่มแยกย้าย ในขณะที่ผมกำลังจะเดินไปยังห้องฝึกบินก็สังเกตเห็นเพื่อนคนหนึ่ง เขาเป็นนายทหารระดับสูง ซึ่งมีชื่อว่าเคน แต่สีหน้าของเขาไม่ดีเท่าที่ควร หลังผมเดินเข้าไป เขาจึงพึมพำออกมาว่า "แย่จริง ทำไมต้องไอ้มิกด้วยวะ" เคนคงพูดถึงผู้ตรวจการณ์คนตะกี้ ผมลืมบอกไปผมมีนามว่านิวครับ 'ลืมซะสนิทเลย'
ผมพยายามปลอบใจเคน แต่มันคงไม่ดีสักเท่าไร เพราะเวลาที่มันอารมณ์เสีย มันจะอาละวาดเอาง่ายๆ ผมจึงเดินไปยังแผนกวิจัย ซึ่งเพื่อนส่วนใหญ่ของผมอยู่ที่นี่ นักคณิตศาสตร์ หนอน และไอซ์ ,นักฟิสิกส์ อู๋ ,แพทย์ เคน ,นักวิจัย ตั๋ง และผู้เชี่ยวชาญทางคอมพิวเตอร์ เบน แต่ในขณะเดียวกัน ตั๋งและไอซ์ก็ยังรบแนวหน้าด้วย
ผมเดินไป และด้วยความประหลาดใจ มันปิดพักเที่ยง ผมเหลือบไปดูนาฬิกา มันบอกเวลา 12.41 ซึ่งผมคงเหม่อนานไปหน่อย ผมจึงเดินไปยังส่วนของการทหาร มีตั๋ง เต้ ไอซ์ ฟาง และ เอก เป็นหมู่แนวหน้าที่ได้รับการยอมรับมากเป็นอันดับต้นในนี้
ผมเดินไปเจอทางตัน พร้อมป้ายแปะที่กำแพง "" ปิดปรับปรุงชั่วคราว""
'ผมคงต้องเดินอ้อมสินะ' ผมเดินกลับไปแล้วเดินลงจากตึก เพื่อเลี่ยงทางที่ปิดซ่อมแซมอยู่
เสียงสัญญาณไซเรนดีงขึ้น ผมมองขึ้นท้องฟ้าแล้วจึงไปรอบๆ เห็นเครื่องบิน ร่วมสามลำกำลังบินเข้ามาในระดับความสูงที่สูงมากๆ ผมรีบวิ่งไปยังสนามบิน เห็นเครื่องบินสองลำ กำลังถูกขนออกมาจากโรงเก็บที่ซ่อนไว้ และอีกสองลำที่ขึ้นบินไปแล้ว
การต่อสู้กลางอากาศดำเนินไปได้ไม่นาน เครื่องของเราลำหนึ่งก็ระเบิดลุกเป็นไฟ และร่วงตกลงในป่าใกล้เคียง เครื่องอีกสองลำทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เสียงปืน และอาวุธต่อต้านอากาศยานต่างๆภายในเริ่มคำราญขึ้น จรวดนับสิบลูกถูกยิงออกไป ปืนนับสิบกระบอกเริ่มทำการยิง แต่เครื่องของอีกฝ่ายบินด้วยความชำนาญ และหลบจรวดมิสไซล์อย่างปราดเปรียว พร้อมๆกับโต้กลับจนเครื่องลำที่สองของเราตกไป เมื่อเครื่องทั้งสองของเราตก อีกฝ่ายเริ่มความเร็วหนี เครื่องฝ่ายเราพยายามตามไป ในขณะที่อีกฝ่ายใช่พลุแสงกับเทคนิคต่างๆ เพื่อหลบเลี่ยงปืนกลและจรวดทียิงออกไป
แล้วเครื่องหนึ่งของศัตรูก็พลาดท่าถูกปืนกลของเครื่องที่ตามหลังยิงตก และค่อยๆดิ่งลงสู่พื้นดิน นักบินของอีกฝ่ายดีดตัวออกมา แล้วจึงกางร่มชูชีพ แล้วจึงถูกทิวทัศน์ป่าทึบบัง
แล้ววิทยุติดตัวผมก็ดังขึ้น ผมได้รับภารกิจใหม่ คือให้จับตัวนักบินของศัตรูที่เครื่องตกลงกลางป่าฝั่งตะวันตก
ติดตามต่อตอนต่อไปเน้อ
4 ปีต่อมาหลังเหตุการณ์การสังหารหมู่
ผมตื่นขึ้นมามองไปรอบๆห้อง
'ไมมืดงี้วะ = =" '
ผมจึงค่อยๆเอื้อมมือไปยังนาฬิกาปลุกที่ ดูเวลาซึ่งแสดงเป็นตัวเลข 04:45
ผมจึงลุกขึ้นถอดเสื้อยืดและบอกเซอร์ แล้วจึงเข้าไปอาบน้ำ ผมออกมานาฬิกาแสดง 05:13 แล้วจึงค่อยๆเปิดตู้
กระจกบานหนึ่งข้างตู้สะท้อนให้เห็นคนๆหนึ่งร่างกายกำยำ ผิวสีแทนอ่อน หน้าตาพอได้ อายุเริ่มต้นวัยทำงาน ผมหยิบเครื่องแบบทหารออกมาใส่ตามปกติ แล้วจึงตามด้วยรองเท้าผ้าใบสีเขียวเข้ม
ผมเดินออกมาจากห้องตามทางเดินกว้างขวาง ของตึกขนาดใหญ่ที่พึ่งถูกสร้างขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน สิ่งก่อสร้างประกอบด้วยสนามบินพื้นหญ้า โกดังจอดรถ ศูนย์วิจัย กำแพงคอนกรีตเสริมเหล็กล้อมรอบ ปืนต่อสู้อากาศยานจำนวนมาก ที่นี่ไม่เคยถูกกลุ่มก่อการร้ายค้นพบ บุคคลที่อยู่ภายในล้วนแต่เป็นบุคคลที่มีความสามารถเฉพาะทางในด้านต่างๆ ตั้งแต่ทหาร ช่างเครื่องยนต์ จนไปถึงนักวิจัย ซึ่งผมมาอยู่ที่นี่ในฐานะนายทหารคนหนึ่ง
โครงการกลุ่มปฏิบัตการณ์ปลดปล่อยถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อการต่อต้านผู้การการร้าย ซึ่งปัจจุบันตั้งตัวเองเป็นศาลเตี้ย ปลดปล่อยนักโทษ และสังการนักโทษบางส่วน สังหารบุคคลที่ลือว่าคอร์รัปชัน ฆ่าล้างกลุ่มมาเฟีย และผู้กระทำผิดกฏหมาย และอื่นอีกมาก
ผมก็ไม่ชอบนายกฯซะทีเดียวหรอก แต่ผมไม่ชอบให้ใครมาตั้งตนเองเป็นศาลเตี้ยแล้วไล่ฆ่าคนอย่างนี้มากกว่า ผมเป็นอดีตนักบิน Barcelona Airline ผมเลิกเพื่อเข้าโครงการนี้ซึ่งเพื่อนผมหลายๆคนที่เป็นนักวิทยาศาสตร์อยู่ที่นี่ ผมเคยเป็นรด.อยู่สามปี ผลงานก็ไม่ดีมากหรอก
สองปีที่ผ่านมา โครงการถูกตั้งขึ้น แต่ผลงานส่วนใหญ่คือความล้มเหลว หลังจาก กองเรือหลักถูกจมลงในน่านน้ำ อ่าวไทย แม้ว่าจะเคยมีศัตรูเช่นกัมพูชาที่เคยจะบุกเข้ามา แต่แล้วก็กลับประกาศสงบศึกในไม่กี่สัปดาห์
ด้านความปลอดภัยในเมืองดีขึ้น ไม่ใช่เพราะพวกเรา แต่เพราะกลุ่มก่อการร้ายที่ล้างบางอาชญากร แต่ในทางกลับกัน ผู้คนสัญจรน้อยลง สนามบินเกือบร้าง สายการบินต่างประเทศไม่ยอมมาลง ตำรวจ กลายเป็นความปลอดภัยระดับต่ำกว่ามาตรฐาน
ผมเิดินไปตามทางเดิน และตรงไปยังห้องประจำหน่วย ซึ่งวันนี้ค่อนข้างจะพิเศษตรงที่ผู้ตรวจการณ์เข้ามา ซึ่งจะต้องเอาผักชีโรยหน้าทุกอย่าง ไม่ให้มีช่องว่างให้ถูกหักงบได้ การสงครามที่นี่ส่วนใหญ่เป็นด้านคอมฯ เพราะว่า แฮคเกอร์หลายคนพยายามจะเจาะข้อมูลเข้ามา ซึ่งสงครามทางทหารครั้งล่าสุดก็คงประมาณปีที่แล้ว ซึ่งเราสูญเสียกองเรือไปกว่า ครึ่ง ทั้งของเราเอง และของกองทัพเรือ
หลังผมเข้าฟังประชุมเสร็จ ผมต้องไปเตรียมรอรับผู้ตรวจการณ์ที่จะลงฮอที่กลางสนามบิน
Chinnok ลำหนึ่งบินมาจากขอบป่าที่อยู่ทางตะวันออก แล้วจึงค่อยลดระดับลง แล้วจึงจอดสนิทบนพื้น และคนที่เดินออกมา คือชายคนหนึ่งที่ผมรู้จัก หน้าตานิ่งขรึม ตัวเล็ก ผอมบาง แต่เป็นรด.ที่มีความรู้สูงมากด้านการทหาร แต่โดยปกติเขาจะมีตาดีทั้งสองข้าง แต่วันนี้ ตาข้างซ้ายของเขา กลับมีผ้ามาปิดตาไว้ เขาเดินออกมาพร้อมๆเป้ใบหนึ่ง แล้วจึงมีการคุยกันระหว่างหัวหน้าโครงการ กับเขาแล้วจึงค่อยๆเดินไปยังห้องประชุมของระดับสูง
หลังจากเขาเดินพ้นสายตา ทุกคนเริ่มแยกย้าย ในขณะที่ผมกำลังจะเดินไปยังห้องฝึกบินก็สังเกตเห็นเพื่อนคนหนึ่ง เขาเป็นนายทหารระดับสูง ซึ่งมีชื่อว่าเคน แต่สีหน้าของเขาไม่ดีเท่าที่ควร หลังผมเดินเข้าไป เขาจึงพึมพำออกมาว่า "แย่จริง ทำไมต้องไอ้มิกด้วยวะ" เคนคงพูดถึงผู้ตรวจการณ์คนตะกี้ ผมลืมบอกไปผมมีนามว่านิวครับ 'ลืมซะสนิทเลย'
ผมพยายามปลอบใจเคน แต่มันคงไม่ดีสักเท่าไร เพราะเวลาที่มันอารมณ์เสีย มันจะอาละวาดเอาง่ายๆ ผมจึงเดินไปยังแผนกวิจัย ซึ่งเพื่อนส่วนใหญ่ของผมอยู่ที่นี่ นักคณิตศาสตร์ หนอน และไอซ์ ,นักฟิสิกส์ อู๋ ,แพทย์ เคน ,นักวิจัย ตั๋ง และผู้เชี่ยวชาญทางคอมพิวเตอร์ เบน แต่ในขณะเดียวกัน ตั๋งและไอซ์ก็ยังรบแนวหน้าด้วย
ผมเดินไป และด้วยความประหลาดใจ มันปิดพักเที่ยง ผมเหลือบไปดูนาฬิกา มันบอกเวลา 12.41 ซึ่งผมคงเหม่อนานไปหน่อย ผมจึงเดินไปยังส่วนของการทหาร มีตั๋ง เต้ ไอซ์ ฟาง และ เอก เป็นหมู่แนวหน้าที่ได้รับการยอมรับมากเป็นอันดับต้นในนี้
ผมเดินไปเจอทางตัน พร้อมป้ายแปะที่กำแพง "" ปิดปรับปรุงชั่วคราว""
'ผมคงต้องเดินอ้อมสินะ' ผมเดินกลับไปแล้วเดินลงจากตึก เพื่อเลี่ยงทางที่ปิดซ่อมแซมอยู่
เสียงสัญญาณไซเรนดีงขึ้น ผมมองขึ้นท้องฟ้าแล้วจึงไปรอบๆ เห็นเครื่องบิน ร่วมสามลำกำลังบินเข้ามาในระดับความสูงที่สูงมากๆ ผมรีบวิ่งไปยังสนามบิน เห็นเครื่องบินสองลำ กำลังถูกขนออกมาจากโรงเก็บที่ซ่อนไว้ และอีกสองลำที่ขึ้นบินไปแล้ว
การต่อสู้กลางอากาศดำเนินไปได้ไม่นาน เครื่องของเราลำหนึ่งก็ระเบิดลุกเป็นไฟ และร่วงตกลงในป่าใกล้เคียง เครื่องอีกสองลำทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เสียงปืน และอาวุธต่อต้านอากาศยานต่างๆภายในเริ่มคำราญขึ้น จรวดนับสิบลูกถูกยิงออกไป ปืนนับสิบกระบอกเริ่มทำการยิง แต่เครื่องของอีกฝ่ายบินด้วยความชำนาญ และหลบจรวดมิสไซล์อย่างปราดเปรียว พร้อมๆกับโต้กลับจนเครื่องลำที่สองของเราตกไป เมื่อเครื่องทั้งสองของเราตก อีกฝ่ายเริ่มความเร็วหนี เครื่องฝ่ายเราพยายามตามไป ในขณะที่อีกฝ่ายใช่พลุแสงกับเทคนิคต่างๆ เพื่อหลบเลี่ยงปืนกลและจรวดทียิงออกไป
แล้วเครื่องหนึ่งของศัตรูก็พลาดท่าถูกปืนกลของเครื่องที่ตามหลังยิงตก และค่อยๆดิ่งลงสู่พื้นดิน นักบินของอีกฝ่ายดีดตัวออกมา แล้วจึงกางร่มชูชีพ แล้วจึงถูกทิวทัศน์ป่าทึบบัง
แล้ววิทยุติดตัวผมก็ดังขึ้น ผมได้รับภารกิจใหม่ คือให้จับตัวนักบินของศัตรูที่เครื่องตกลงกลางป่าฝั่งตะวันตก
ติดตามต่อตอนต่อไปเน้อ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น