Color Brush - Color Brush นิยาย Color Brush : Dek-D.com - Writer

    Color Brush

    ข้าเป็นแค่คนตาบอดธรรมดาที่บังเอิญได้เจอกับเขา คนที่ทำให้ชีวิตของข้ามีสีสัน ข้าจะรอวันที่ได้เจอเจ้าอีกครั้ง

    ผู้เข้าชมรวม

    787

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    787

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    6
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  7 พ.ย. 55 / 18:33 น.

    แท็กนิยาย

    มั่วๆมึนๆ



    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Color Brush

       

      คนๆนั้นเล่าให้ข้าฟังว่าท้องฟ้าคือสิ่งที่อยู่เหนือศีรษะของข้า มันกว้างใหญ่ไพศาล ไม่มีใครรู้ว่ามันมีจุดสิ้นสุดตรงอยู่ตรงไหน เขาบอกว่ามันมีสีฟ้า บางเวลาก็เป็นสีดำ บางครั้งก็มีของเหลวๆร่วงลงมาจากบนนั้น เขาเรียกมันว่าฝน

      ซึ่งข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสีฟ้าและสีดำมันเป็นยังไง เขาอธิบายว่า สิ่งที่ข้าเห็นอยู่ตลอดเวลานั้นเรียกว่าสีดำ ส่วนสีฟ้าคือสีที่ข้าไม่มีวันมองเห็น

      เมื่อยามที่ท้องฟ้าเป็นสีฟ้า จะเรียกมันว่า กลางวัน และเมื่อเวลาท้องฟ้าเป็นสีดำ จะเรียกว่า กลางคืน

      เขาบอกข้าว่าในตอนที่ท้องฟ้ากลายเป็นสีดำจะเห็น ดวงจันทร์ มันมีรูปร่างเป็นวงกลม ลอยเด่นอยู่บนฟากฟ้า ในบางครั้งวงกลมนี่ก็ลดน้อยลงไปเรื่อยๆ (แล้ววงกลมมันคืออะไร ช่างเข้าใจยากเสียจริง) จนมันไม่เหลือก็จะมีสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ ดาวดวง มันคือดวงจันทร์ย่อส่วนกระจัดกระจายเป็นชิ้นเล็กๆ อยู่เต็มท้องฟ้า บางทีเขาก็จะนั่งนับดวงดาวให้ข้าฟัง ข้ารู้สึกว่าดวงดาวต้องมีเยอะจนเต็มท้องฟ้า อยากจะเห็น อยากจะช่วยนับ แต่มันคงเป็นไปไม่ได้

      ดวงอาทิตย์ที่เขาเล่าว่าสว่างสดใสในยามที่ท้องฟ้ากลายเป็นสีฟ้าหรือยามกลางวัน ดวงอาทิตย์เป็นวงกลมๆ(เหมือนดวงจันทร์รึเปล่า?)มีแสงสว่างส่องลงมา ข้าสัมผัสได้ถึงแสงของมัน ว่าแสงของมันช่างอบอุ่น ร้อนรุ่ม และแสบผิว เขาว่าแสงของมันทำให้เขาร้อน และมาหาข้าลำบากเหลือเกิน เขาเกลียดแสงจากดวงอาทิตย์ ข้าได้แต่ไม่พูดอะไร เพราะอาจทำให้เขาไม่พอใจ และอาจไม่มาหาข้าอีกก็ได้

      เขาจะมาเฉพาะตอนที่ท้องฟ้าเป็นสีดำแล้วเท่านั้น

      ตามความเห็นของข้า ข้าว่าตอนกลางวันแตกต่างกับตอนกลางคืน ตรงที่ตอนกลางวันจะร้อน ส่วนตอนกลางคืนจะหนาวเหน็บ ข้ารู้ว่าเขาชอบตอนกลางคืนและเกลียดตอนกลางวันที่สุด

      เพราะตอนกลางวันอากาศร้อนอบอ้าวและไม่สบายเอาเสียเลย

      ทะเลที่เขาบอกข้าว่า มันเป็นสีฟ้างดงามเหมือนกับสีของท้องฟ้าในตอนกลางวัน กว้างใหญ่สุดขอบสายตา เวลาที่น้ำทะเลโดนแสงของดวงอาทิตย์ ทะเลก็จะเป็นกระกายระยิบระยับเหมือนดวงดาวในตอนกลางคืน ข้าอยากมานั่งนับดาวตอนที่ท้องฟ้าเป็นสีฟ้า

      ในทุกๆวันดวงอาทิตย์จะตกลงไปในทะเล ดวงจันทร์จะโผล่มาแทนที่ พร้อมกับดวงดาว เขาบอกข้าอย่างนั้น

      ….

      ….

      ….

      แต่ข้าคงไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นสิ่งต่างๆเหล่านี้ ข้าได้เพียงแต่จินตนาการถึงความงดงามของมันตามคำบอกเล่าของเขา ทำให้ข้าอยากเห็นของจริงเหลือเกินแต่มันคงเป็นไปไม่ได้ เพราะข้าตาบอดนี่นา

      ข้าตาบอดมาตั้งแต่เกิด แม่ข้าเล่าว่า ตอนที่ข้าลืมตาครั้งแรกดวงตาของข้าสวยงามดั่งรัตติกาลอันมืดมิด

      และเมื่อท่านรู้ตัวอีกที ข้าไม่สามารถมองเห็นได้

      เมื่อข้าอยากสัมผัสท่านข้าก็ได้แต่ควานมือไปข้างหน้าและร้องเรียกท่านเพื่อสัมผัสท่าน แต่ข้าสัมผัสได้เพียงอากาศ เพราะข้ามองไม่เห็น ท่านเล่าว่าท่านรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เพราะท่านยืนอยู่ข้างๆข้านี่เอง ท่านแม่เลยพาข้าไปให้แพทย์ตรวจ แพทย์บอกว่าตาของข้าบอดมาตั้งแต่กำเนิด ไม่ใช่ไม่มีดวงตา ข้ามีเพียงแต่มองไม่เห็นก็เท่านั้นเอง

      แทบไม่มีคนรู้ว่าข้ามองไม่เห็น ข้าได้แต่ใช้ความสามารถกลบเกลื่อนไปมากลบเกลื่อนไปมา

      ท่านแม่ของข้าชอบเล่าเรื่องต่างๆให้ข้าได้ฟัง ทั้งเรื่องเกี่ยวกับหมู่บ้านนี้และใกล้เคียง ท่านแม่ชอบสรรหาสิ่งต่างๆมาให้ข้าได้ทำ เช่น การฝึกให้ข้าเขียนหนังสือ ถึงมันจะยากก็เถอะแต่มันสนุกๆจริงนะ แต่ถึงข้าจะเขียนได้แต่ข้าก็อ่านไม่ได้อยู่ดี

      ข้าสามารถจดจำวิธีการเขียนตัวอักษรได้เกือบทั้งหมด ท่านแม่ชอบจับมือให้ข้าฝึกเป็นประจำ แล้วยังบอกให้ข้าฝึกเขียนอยู่ทุกๆวัน เริมจากเขียนชื่อตัวเอง เขียนชื่อท่านแม่ ฯลฯ

      แต่ท่านแม่ไม่มีโอกาสที่จะสอนตัวอักษรทั้งหมด แต่ข้าท่องพวกตัวอักษรได้นะ แม่ข้าสอนมา 40 ตัว เหลืออีก 4 ตัวเท่านั้นเองที่แม่ข้ายังไม่ได้สอน เพราะแม่ข้าด่วนจากไปแล้วเสียนี่

      หลังจากที่ท่านแม่เสียไปข้าก็ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก อดๆอยากๆ บางครั้งคนในหมู่บ้านที่สงสารข้าก็จะเอาอาหารเหลือๆมาให้ข้าบ้าง พอให้ข้าประทังชีวิตไปวันๆ

      ถ้าใครสงสัยว่าข้าทานอาหารยังไงล่ะก็เดี๋ยวข้าจะบอกแล้วกัน ท่านแม่ของข้านั้นซื้อเครื่องสำหรับป้อนข้าวคนตาบอด(มือที่เท่าไหร่ไม่รู้ เหมือนแม่ข้าจะได้เครื่องมาถูกๆ)ไว้อยู่แล้ว มันจะเริ่มทำงานเมื่อข้าพูดคำว่า 96325023 นั่นคือชื่อของเจ้าเครื่องนั่น ข้าต้องไปนั่งให้เซนเซอร์(มันคืออะไร? ไอเซนเซอร์เนี่ย)จับว่าปากของข้าอยู่ตรงไหน และอาหารอยู่ตรงไหน มันจะเคลื่อนที่ไปตรงอาหารและถือจานใส่อาหารมาอยู่ตรงหน้าข้า(ข้าต้องอยู่นิ่งๆเลยล่ะ ไม่งั้นเซ็นเซอร์อะไรนั่นจะตรวจจับปากข้าไม่ทันเดี๋ยวอาหารจะเข้าจมูกข้า) แม่ข้าอธิบายไว้อย่างงั้น แล้วกำชับไว้ว่าหลังจากเรียกชื่อมันเสร็จแล้วห้ามไปไหนเด็ดขาด ไม่อย่างงั้นมันจะตามข้าไปด้วยจนกว่าจะได้ป้อนอาหารข้า

      ….

      ....

      ....

      คราหนึ่งข้าได้เจอกับคนคนหนึ่ง เขามีกลิ่นเหมือนเศษดินผสมกับกลิ่นของข้าวโพด มายืนตรงหน้าข้าแล้วถามข้าว่า

      “เจ้าตาบอดใช่หรือไม่ เจ้าดูไม่เหมือนคนที่มองเห็นปกติธรรมดา ตอนที่ข้าสบตากับเจ้า ข้าไม่รู้สักเลยสักนิดว่าข้ากำลังสบตากับเจ้าอยู่ ถึงแม้ว่าตาชองเจ้าจะกระพริบได้เหมือนคนปกติก็เถอะ เหมือนดวงตาของเจ้าเป็นเพียงแค่สิ่งที่ประดับอยู่บนใบหน้าของเจ้าเท่านั้น ข้าไม่รู้สึกถึงอารมณ์ เจ้ารู้มั้ยในขณะที่ข้าพูดอยู่ต่อหน้าเจ้านี้ ข้าสบตาเจ้าอยู่ตลอดเวลา”

      ข้าไม่รู้จะพูดอะไร แต่ข้าไม่เคยได้ยินเสียงของเขามาก่อน เขาอาจจะย้ายมาจากที่อื่นก็ได้ เดี๋ยวนี้คนทั่วไปก็เข้าๆออกๆหมู่บ้านข้าเป็นว่าเล่นเชียวล่ะ

      แม่ข้าเล่าว่าหมู่บ้านของข้านั้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองนี้เลยเชียวนา ทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองนี้ล้วนแต่สวยงาม มหัศจรรย์น่าพิศวง น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถที่จะเห็นสิ่งที่สวยงามและมหัศจรรย์พันลึกแบบที่แม่ข้าเล่า

      “แล้วทำไมเหตุผลแค่นั้นเจ้าถึงคิดว่าข้าจะตาบอดล่ะ ข้าอาจจะเป็นคนประเภทเย็นชาไม่มีความรู้สึกก็ได้นะ มันเลยไม่แสดงออกทางดวงตา เจ้าจะมั่นใจได้ยังไงว่าข้าตาบอดจริงๆน่ะ” ข้าถามกลับไป

      ข้าตบตาคนทั้งหมู่บ้านได้เป็นปีๆ แล้วผู้ชายคนนี้รู้ได้ยังไง เข้าเพิ่งเดินมาหาข้าเมื่อตะกี้นี้เองนะ

      “แหะๆ เจ้านี่ไล่ต้อนข้าซะเกือบจนมุมเลยนะ ข้ารึอุสาห์หาเหตุผลที่น่าจะสมเหตุสมผลมาแล้วเชียว เอาล่ะ! เจ้าห้ามหัวเราะข้านะ ข้าจะบอกก็ได้เหตุผลจริงๆแล้วน่ะคือ..คือ...ข้าเดาเอาแล้วก็บวกกับลางสังหรณ์น่ะ”

      เดาเอาเรื่องนะเนี่ย ยังแม่นยังกับว่าจะรู้จริงๆอย่างงั้นแหละ เห็นทีข้าควรระวังผู้ชายคนนี้เองไว้ซะแล้ว

      “อย่างงั้นเองเหรอ แต่เจ้าก็เดาไม่ผิดหรอกนะ ข้าตาบอดจริงๆ แล้วเจ้าจะเอาเรื่องที่ข้าตาบอดไปบอกใครหรือเปล่า” ข้ารู้สึกว่าผู้ชายตรงหน้านี้ไว้ใจได้ ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนอันตรายไปหน่อยก็เถอะ

      “ทำไมข้าต้องบอกคนอื่นด้วยล่ะ มันก็ไม่ได้สลักสำคัญอะไรสำหรับข้าหรอกนะ ข้าเดาว่าเจ้าคงไม่มีเพื่อนใช่มั้ยล่ะ งั้น...ข้าจะเป็นเพื่อนเจ้าเอง

      อ่า..อันที่จริงแล้วข้าจะย้ายมาอยู่ที่นี่ เลยกะจะมาเดินสำรวจสักหน่อยล่ะนะ เอาเป็นว่าข้าจะมาหาเจ้าบ่อยๆแล้วกัน”

      และเขาก็มาบ่อยจริงๆด้วย มาทุกวันเลย เวลาที่เขามาแล้วเขาจะเอาข้าวมาให้ข้า เขาบอกว่าคนที่แม่ข้ารู้จักน่ะฝากเอามาให้

      เขาชอบมานั่งตรงพื้นที่หน้าบ้านกับข้าแล้วเล่าเรื่องต่างๆให้ข้าฟัง(เหมือนแม่ข้าเลยเนอะ)เวลาที่เล่าฟังจากน้ำเสียงของเขาฟังดูมีความสุขดี จนข้าหลับไป พอตื่นขึ้นมาข้ากลับพบว่าแผ่นหลังของข้าสัมผัสกับเตียงเป็นประจำ ข้าเดาว่าตอนนี้เป็นตอนเช้าเพราะข้ารู้สึกว่าแสงร้อนๆมันส่องหน้าข้าอยู่น่ะนะ

      ข้ารู้ดีว่าต้องมีวันนึงที่เขาจะจากข้าไป อาจจะไปในที่ที่ไกลแสนไกลหรืออาจอยู่ตรงหน้าข้า ตัวข้านั้นไม่อาจเดาได้

      ข้ารู้ดีว่าเขารักการเดินทางไปในสถานที่ต่างๆ ไปพบปะผู้คน

      เขาเป็นเหมือนสายลม ที่พัดมาแล้วก็พัดไป สายลมไม่เคยหยุดนิ่ง แต่สายลมไม่ได้พัดมาแค่ครั้งเดียว มันต้องมีวันที่จะพัดย้อนกลับมาบ้าง

      หวา หลังจากที่เขาไปแล้วข้าก็คงต้องใช้บริการเจ้า 96325023ซะล่ะมั้ง

      ….

      ….

      วันนี้อยู่ๆเขาก็มาบอกกับข้าว่าเขาจะออกเดินทางไปในที่ต่างๆที่ยังไม่เคยไป แต่เขาเป็นห่วงข้าจนทำให้เขาตัดสินใจลำบาก ข้ารู้อยู่แล้วว่าวันนึงเขาต้องไป ข้าอยากจะรั้งเขาไว้ แต่ข้าทำใจมาตั้งนานแล้วล่ะ ข้าจึงได้บอกให้เขาทำตามหัวใจของเขา

      แต่เขาก็ยังไม่อยากทิ้งข้าไว้อยู่ดี จึงชวนข้าไปด้วย

      ข้ารู้ว่าถ้าข้าไปข้าต้องเป็นภาระให้เขาแน่ ข้าเลยปฏิเสธไป

                      บอกว่าข้าอยู่ได้ แล้วหันหลังแล้วโบกมือลา

      แล้วอวยพรให้เขา...
                  ...
                  ...
                  ...
                  ...

                  หวังว่าเราจะพบกัน...ในสักวันหนึ่ง

                  วันที่ข้าจะได้ติดตามเจ้า....โดยไม่เป็นภาระ

                  และข้าจะรอ...รอจนกว่าข้าจะคู่ควรเคียงข้างเจ้า

                  ตราบนานเท่านาน

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      "รับวิจารณ์นิยายค่ะ"

      (แจ้งลบ)

      สัวสดีค่ะนักเขียนเจ้าของบทความเรื่องนี้ เนื่องจากว่าทางบทความ รับวิจารณ์นิยายค่ะ ติดต่อนักวิจารณ์ light ไม่ได้ เจ้าของบทความจึงส่งนักวิจารณ์ MINI_COSPLAY* มาแทนค่ะ ซึ่งนักวิจารณ์ขอแทนตัวเองว่าไรเตอร์ แม้ว่าไรเตอร์จะไม่ใช่นักวิจารณ์มืออาชีพ แต่ก็จะทำการวิจารณ์อย่างสุดความสามารถค่ะ ซึ่งแบบเรื่องสั้น ไรเตอร์ขอให้คะแนนไปก่อน 1 คะแนนเนอะ เพราะขาดองค์ประ ... อ่านเพิ่มเติม

      สัวสดีค่ะนักเขียนเจ้าของบทความเรื่องนี้ เนื่องจากว่าทางบทความ รับวิจารณ์นิยายค่ะ ติดต่อนักวิจารณ์ light ไม่ได้ เจ้าของบทความจึงส่งนักวิจารณ์ MINI_COSPLAY* มาแทนค่ะ ซึ่งนักวิจารณ์ขอแทนตัวเองว่าไรเตอร์ แม้ว่าไรเตอร์จะไม่ใช่นักวิจารณ์มืออาชีพ แต่ก็จะทำการวิจารณ์อย่างสุดความสามารถค่ะ ซึ่งแบบเรื่องสั้น ไรเตอร์ขอให้คะแนนไปก่อน 1 คะแนนเนอะ เพราะขาดองค์ประกอบสำคัญไป อย่างแรกเลยนะคะคือชื่อเรื่องค่ะ ในส่วนนี้ถือว่าสำคัญเพราะเป็นการดึงดูดในนักอ่านเข้ามาอ่าน ซึ่งในชื่อเรื่องนี้ยังไม่ถึงการตีแผ่เรื่องราวออกมามากเท่าที่ควร อยากลองให้ตั้งชื่อภาษาไทยออกมาต่อหลังภาษาอังกฤต ให้ดูสละสลวยและน่าติดตามมากขึ้นค่ะ (ครึ่งคะแนน) อย่างสองคือแนะนำเรื่อง แบบย่อๆ ค่ะ ในส่วนนี้ถือว่านักเขียนเกริ่นออกมาได้น่าติดตามในส่วนนี้ ว่าเขาคนนั้นเป็นใคร ทำให้ดูน่าติดตามต่อไปดีค่ะ (คะแนนเต็ม) อย่างสามคือข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้ ซึ่งในส่วนนี้ก็สำคัญพอๆ กับอย่างที่สอง เพียงแค่เป็นการนำเสนอรูปแบบเรื่องของเราให้ดูน่าติดตามมากยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถแทรกธีมเพิ่มให้ดูสวยงาม เพิ่มภาพโปสเตอร์บ่งบอกความเป็นเรื่องนี้ เกริ่นเรื่องราวย่อๆ ให้ดูน่าติดตามเสียหน่อย และสามารถใส่ไอเทมเพิ่มได้ให้ดูน่าอ่าน จัดหน้าให้ดี แค่นี้ก็ดูน่าสนใจขึ้นมากแล้วค่ะ (ไม่ได้คะแนน) อย่างสี่คือเนื้อเรื่องนะคะ เนื่องจากเป็นเรื่องสั้น และไรเตอร์รู้สึกว่าสั้นห้วนเกินไปจริงๆ ค่ะ เพราะการเกริ่นเรื่องให้สงสัยว่าคนเล่าเรื่องเป็นใคร ทำไมถึงมองเห็นทุกอย่างเป็นเพียงสีดำ ตรงนี้ดีตรงที่สามารถให้คนอ่านคิดไปต่างๆ นานาว่าคนเล่าเรื่องเป็นอะไรกันแน่ ก่อนจะเฉลยในตอนท้าย ดูน่าลุ้นดีค่ะ เรื่องการบรรยายยังคงเร็วไปหน่อย เพราะส่วนมากคล้ายจะบรรยายให้รู้ ทำให้ตอนเกือบจบมันสั้นห้วนไปหน่อย อยากให้ลองขยายดูเป็นการบรรยาย บทสนทนาด้วยค่ะ ทำให้เป็นแต่ละวันเลย เพื่อความกลมกลืนและให้คนอ่านคล้อยตาม เพราะในส่วนนี้ยังสั้นห้วนอยู่ จู่ๆ เขาก็มา แล้วก็ไป โดยที่นักอ่านยังซึมซับความเป็นมิตรภาพได้ไม่ดี ว่าทำไมคนเล่าเรื่องถึงคิดคำนึงหา เขา ได้ขนาดนี้ เกิดอะไรขึ้นระหว่างคนสองคน อยากให้ลองอธิบายเพิ่มเติมเพื่อความลื่นไหล คล้อยตามได้ดีค่ะ เรื่องการเว้นวรรค อยากให้ลองเว้นวรรคสำหรับสัญลักษณ์ อย่างไม่ยมก ๆ น่ะค่ะ ลองเว้นวรรคออกมา เพื่อความอ่านง่าย สบายตา ไม่ถี่ขึ้นด้วยค่ะ เรื่องขนาดตัวอักศรยังเล็กอยู่เล็กน้อย แต่ในส่วนนี้กดเพิ่มขนาดคงไม่เป็นไร แต่ทำให้มาตรฐานจะดูดีที่สุดค่ะ (ครึ่งคะแนน) มาถึงช่วงสุดท้ายของการวิจารณ์นะคะ ไม่ว่าทุกคำวิจารณ์ของไรเตอร์นักเขียนจะนำไปปรับปรุงส่วนใดบ้าง ไรเตอร์ก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะคะ เพราะเป็นเพียงการแนะนำวิจารณ์เท่านั้น และไรเตอร์เองก็ต้องขอขอบคุณทั้งนักเขียนที่มาใช้บริการของบทความ รับวิจารณ์นิยายค่ะ และขอบคุณ คุณแจน เจ้าของบทความที่ได้ให้ไรเตอร์ได้มาพบกับนักเขียนในวันนี้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ นักวิจารณ์ MINI_COSPLAY*   อ่านน้อยลง

      MINI_COSPLAY* | 1 ก.พ. 56

      • 3

      • 0

      คำนิยมล่าสุด

      "รับวิจารณ์นิยายค่ะ"

      (แจ้งลบ)

      สัวสดีค่ะนักเขียนเจ้าของบทความเรื่องนี้ เนื่องจากว่าทางบทความ รับวิจารณ์นิยายค่ะ ติดต่อนักวิจารณ์ light ไม่ได้ เจ้าของบทความจึงส่งนักวิจารณ์ MINI_COSPLAY* มาแทนค่ะ ซึ่งนักวิจารณ์ขอแทนตัวเองว่าไรเตอร์ แม้ว่าไรเตอร์จะไม่ใช่นักวิจารณ์มืออาชีพ แต่ก็จะทำการวิจารณ์อย่างสุดความสามารถค่ะ ซึ่งแบบเรื่องสั้น ไรเตอร์ขอให้คะแนนไปก่อน 1 คะแนนเนอะ เพราะขาดองค์ประ ... อ่านเพิ่มเติม

      สัวสดีค่ะนักเขียนเจ้าของบทความเรื่องนี้ เนื่องจากว่าทางบทความ รับวิจารณ์นิยายค่ะ ติดต่อนักวิจารณ์ light ไม่ได้ เจ้าของบทความจึงส่งนักวิจารณ์ MINI_COSPLAY* มาแทนค่ะ ซึ่งนักวิจารณ์ขอแทนตัวเองว่าไรเตอร์ แม้ว่าไรเตอร์จะไม่ใช่นักวิจารณ์มืออาชีพ แต่ก็จะทำการวิจารณ์อย่างสุดความสามารถค่ะ ซึ่งแบบเรื่องสั้น ไรเตอร์ขอให้คะแนนไปก่อน 1 คะแนนเนอะ เพราะขาดองค์ประกอบสำคัญไป อย่างแรกเลยนะคะคือชื่อเรื่องค่ะ ในส่วนนี้ถือว่าสำคัญเพราะเป็นการดึงดูดในนักอ่านเข้ามาอ่าน ซึ่งในชื่อเรื่องนี้ยังไม่ถึงการตีแผ่เรื่องราวออกมามากเท่าที่ควร อยากลองให้ตั้งชื่อภาษาไทยออกมาต่อหลังภาษาอังกฤต ให้ดูสละสลวยและน่าติดตามมากขึ้นค่ะ (ครึ่งคะแนน) อย่างสองคือแนะนำเรื่อง แบบย่อๆ ค่ะ ในส่วนนี้ถือว่านักเขียนเกริ่นออกมาได้น่าติดตามในส่วนนี้ ว่าเขาคนนั้นเป็นใคร ทำให้ดูน่าติดตามต่อไปดีค่ะ (คะแนนเต็ม) อย่างสามคือข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้ ซึ่งในส่วนนี้ก็สำคัญพอๆ กับอย่างที่สอง เพียงแค่เป็นการนำเสนอรูปแบบเรื่องของเราให้ดูน่าติดตามมากยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถแทรกธีมเพิ่มให้ดูสวยงาม เพิ่มภาพโปสเตอร์บ่งบอกความเป็นเรื่องนี้ เกริ่นเรื่องราวย่อๆ ให้ดูน่าติดตามเสียหน่อย และสามารถใส่ไอเทมเพิ่มได้ให้ดูน่าอ่าน จัดหน้าให้ดี แค่นี้ก็ดูน่าสนใจขึ้นมากแล้วค่ะ (ไม่ได้คะแนน) อย่างสี่คือเนื้อเรื่องนะคะ เนื่องจากเป็นเรื่องสั้น และไรเตอร์รู้สึกว่าสั้นห้วนเกินไปจริงๆ ค่ะ เพราะการเกริ่นเรื่องให้สงสัยว่าคนเล่าเรื่องเป็นใคร ทำไมถึงมองเห็นทุกอย่างเป็นเพียงสีดำ ตรงนี้ดีตรงที่สามารถให้คนอ่านคิดไปต่างๆ นานาว่าคนเล่าเรื่องเป็นอะไรกันแน่ ก่อนจะเฉลยในตอนท้าย ดูน่าลุ้นดีค่ะ เรื่องการบรรยายยังคงเร็วไปหน่อย เพราะส่วนมากคล้ายจะบรรยายให้รู้ ทำให้ตอนเกือบจบมันสั้นห้วนไปหน่อย อยากให้ลองขยายดูเป็นการบรรยาย บทสนทนาด้วยค่ะ ทำให้เป็นแต่ละวันเลย เพื่อความกลมกลืนและให้คนอ่านคล้อยตาม เพราะในส่วนนี้ยังสั้นห้วนอยู่ จู่ๆ เขาก็มา แล้วก็ไป โดยที่นักอ่านยังซึมซับความเป็นมิตรภาพได้ไม่ดี ว่าทำไมคนเล่าเรื่องถึงคิดคำนึงหา เขา ได้ขนาดนี้ เกิดอะไรขึ้นระหว่างคนสองคน อยากให้ลองอธิบายเพิ่มเติมเพื่อความลื่นไหล คล้อยตามได้ดีค่ะ เรื่องการเว้นวรรค อยากให้ลองเว้นวรรคสำหรับสัญลักษณ์ อย่างไม่ยมก ๆ น่ะค่ะ ลองเว้นวรรคออกมา เพื่อความอ่านง่าย สบายตา ไม่ถี่ขึ้นด้วยค่ะ เรื่องขนาดตัวอักศรยังเล็กอยู่เล็กน้อย แต่ในส่วนนี้กดเพิ่มขนาดคงไม่เป็นไร แต่ทำให้มาตรฐานจะดูดีที่สุดค่ะ (ครึ่งคะแนน) มาถึงช่วงสุดท้ายของการวิจารณ์นะคะ ไม่ว่าทุกคำวิจารณ์ของไรเตอร์นักเขียนจะนำไปปรับปรุงส่วนใดบ้าง ไรเตอร์ก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะคะ เพราะเป็นเพียงการแนะนำวิจารณ์เท่านั้น และไรเตอร์เองก็ต้องขอขอบคุณทั้งนักเขียนที่มาใช้บริการของบทความ รับวิจารณ์นิยายค่ะ และขอบคุณ คุณแจน เจ้าของบทความที่ได้ให้ไรเตอร์ได้มาพบกับนักเขียนในวันนี้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ นักวิจารณ์ MINI_COSPLAY*   อ่านน้อยลง

      MINI_COSPLAY* | 1 ก.พ. 56

      • 3

      • 0

      ความคิดเห็น

      ×