คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : HM - CHAPTER 1
01
เพียะ!!
เสียงฝ่ามือกระทบกับผิวแก้มมันทำให้ใบหน้าของคนโดนหันไปตามกฎของนิวตันที่ว่าด้วยเรื่องของแรงโน้มถ่วงโลก ใบหน้าด้านที่โดนตบชาแปร๊บขึ้นมาจนต้องกัดฟันกลั้นความแสบ ไม่ต้องเดาเลยว่าแก้มมันจะแดงขนาดไหนเพราะแม่งเจ็บโคตรๆ
“ เลิกกันเถอะ! เคธี่ทนพี่คยองซูไม่ไหวอีกแล้ว ”
“ ทำไมล่ะเคธี่ พี่ผิดตรงไหนบอกพี่ดิ! ” คยองซูคว้าข้อมืออดีตแฟนสาวแบบไม่เต็มใจเอาไว้เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะเดินจากเขาไป
“ ยังจะต้องให้เคธี่บอกพี่อีกหรอคะ พี่ไม่รู้ตัวเลยหรือไงว่าพี่น่ะมันจนเกินไป ”
เจ็บ เจ็บมาก เคธี่ล้อชื่อแม่พี่ พี่ยังไม่โกรธเท่ามาด่าว่าพี่จน
“ ต..แต่ตอนแรกที่เราคบกันเคธี่ก็ยอมรับพี่ได้นี่ครับ แล้ว… ”
“ก็จริงค่ะที่ก่อนคบเคธี่บอกว่ารับได้ที่พี่จน แต่พอคบคบๆไปมันไม่ใช่ค่ะ นอกจากหน้าตาพี่ก็ไม่มีอะไรดีเลย พี่ไม่มีเวลาให้เคธี่ ทำงานพิเศษจนไม่มีเวลาทำอย่างอื่น แถมจนก็จน เคธี่มีคนที่ให้เคธี่ได้มากกว่า! ”
ประโยคที่หญิงสาวพ่นออกมามันทำให้มือที่คว้าข้อมือค่อยๆคลายออกทีละนิดจนมันตกลงไปข้างตัว
คยองซูไม่คิดเลยว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาจะทำให้อีกฝ่ายอึดอัดใจถึงเพียงนี้ เขาคิดมาตลอดว่าการที่ต้นทุนของเขามันไม่เท่ากับคนอื่นถ้าหากเขาทำงานหาเงินมันก็จะไม่มีปัญหา แต่เขาคงคิดผิด
“ โอเค…ถ้าเคธี่อยากจบพี่ก็จะไม่รั้ง ”
“ ขอบคุณนะคะที่คืนอิสระให้เคธี่ เลิกกันด้วยดีนะคะพี่คยองซู ” หญิงสาวฉีกยิ้มร่าเริงเมื่อเขาบอกว่าเขาจะไม่รั้งเธอไว้กับตัวเอง มันยิ่งทำให้หัวใจคนแมนห่อเหี่ยวลงไปเป็นเท่าตัว เออ จะว่าชินก็ไม่เชิงหรอก เพราะมีแฟนมากี่คนๆแม่งก็โดนบอกเลิกเพราะสาเหตุที่ว่าเขาจนเกินไปทุกที
มันหมดยุคผู้หญิงรักเดียวใจเดียวยอมทนกัดก้อนเกลือกับผู้ชายจนๆแล้วสินะ
ยอมรับซะนะคยองซู มึงไม่มีเงินเลี้ยงเขามึงก็เป็นหมาหัวเน่าแบบนี้แหละ
แปะ แปะ แปะ
โห่ ไอ้ฝนห่า ตกมาอย่างกับรู้ว่าฉากไหนต้องตก!
คยองซูทิ้งตัวลงบนฟุตบาทอย่างเหนื่อยล้าทันทีที่เคธี่เดินหันหลังจากไป มือก็ยกขึ้นนวดไปที่แก้มของตัวเองเบาๆไปด้วย ก็ไม่เข้าใจ แม่งเลิกกันด้วยดีตรงไหนแก้มกูแดงเป็นปื้นขนาดนี้ ดีหน่อยที่เวลาเย็นๆถนนในมอเส้นนี้มันไม่ค่อยจะมีใครผ่าน นอนกลางถนนยังได้ เสียใจแต่แม่สอนให้คิดบวก เรื่องแค่นี้เอง ผู้หญิงไม่ตายก็หาใหม่ได้เว้ย
“ ฝนตกแล้ว คยองซูติดรถไปหอไหมครับ ผมกำลังจะไปติวที่ห้องแบคฮยอนพอดี ”
เสียงทุ้มเรียบของใครบางคนมันทำให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง แล้วก็ปะทะกับใบหน้าคมหล่อเหล่าดีกรีเดือนคณะบริหาร มองขึ้นไปอีกนิดก็เห็นว่ามือใหญ่ข้างหนึ่งกำลังถือร่มสีดำขลับที่ตรงด้ามเคลือบไปด้วยทองดูหรูหราเพื่อบังสายฝนให้เขาและตัวเองที่มันเริ่มจะตกหนักขึ้นทุกที
เออ แค่ท่าจับร่มมันยังดูรวยกว่ากูเลย น้อยใจในโชคชะตาชิบหาย
สีหน้าของคนตรงหน้าฉายแววสงสารเขาอย่างชัดเจน แค่มองแวบเดียวก็รู้ว่าไอ้คุณหนูนี่เห็นฉากดราม่าของเขาพอดี ก็เลยเป็นคนดีจะให้ติดรถไปด้วยสินะ แม่งเอ้ย
เออลืมบอกไป ไอ้คนที่ยืนเก็กหล่อค้ำหัวชาวบ้านอยู่เนี่ยคือ คิมจงอิน ลูกอธิบดีกรมตำรวจมีชื่อติดอันดับคนรวยที่สุดในประเทศ งงล่ะสิว่าเขารู้จักมันได้ยังไง ความจริงก็ไม่ได้สนิทอะไรกับมันมากหรอก เห็นกันอ่ะบ่อย แต่คุยกับมันอ่ะแทบนับคำได้ จงอินเป็นเพื่อนของเพื่อนซึ่งนั่นก็คือแบคฮยอนรูมเมทของเขาเอง แบคฮยอนเรียนอยู่คณะบริหารมันก็ไม่แปลกที่จะได้รู้จักกับลูกหลานคนรวยอย่างนี้ ใครๆก็รู้ว่าคณะนี้มีดีที่เงินในกระเป๋า
เขากับแบคฮยอนเรียนคนละคณะกัน แต่อาศัยความเป็นเพื่อนกันมาจากมัธยมต้นรวบไปจนมัธยมปลายแล้วดันสอบได้มหาลัยเดียวกันแถมคณะก็ยังตั้งอยู่ตรงข้ามกันอีกตั้งหาก แบคฮยอนอยู่คณะบริหารส่วนเขาเรียนอยู่คณะเศรฐศาสตร์ เก๋ล่ะสิ แค่คณะก็บ่งบอกถึงสิ่งที่เขาต้องการจะมีนั่นก็คือการจัดการเงินๆทองๆ
แต่ช่างมันช่างเผือกเถอะ
แล้วไอ้ที่มันบอกว่ากำลังจะไปห้องแบคฮยอนนั่นก็คือห้องเขาด้วย
“ ไม่อะ มึงไปเหอะ กูดราม่าอยู่ พระเอกเวลาโดนบอกเลิกเขาเดินตากฝนกลับหอกัน ” ก็พูดไปครับ จริงๆคือกูไม่สนิทใจจะติดรถกลับไปกับมัน เชื่อเถอะร้อยทั้งร้อยใครเขาจะอยากอยู่กับคนแปลกหน้าที่ไม่ค่อยสนิทให้อึดอัดใจเล่นกัน ไม่มีหรอก
“ แทนที่จะทำตัวเองให้มีค่าให้เขาเสียใจที่ทิ้ง ยิ่งทำแบบนี้นอกจากจะไม่น่าสงสารแล้วยิ่งน่าสมเพชนะครับ ”
!!!
เชี่ย กูหน้าชาหนักกว่าตอนโดนตบอีก
“ นี่มึงอยากจะปลอบกูจริงๆใช่ไหม หะ ไอ้คุณหนู! มึงจะไปไหนก็ไปเลยไป๊! ” พูดงี้แม่งขึ้นเลย อารมณ์ขึ้น! ไล่แม่งเลย ไม่กล้าทำอะไรมันหรอกครับ พ่อมันใหญ่ เดี๋ยวกลัวตื่นมาแล้วโดนจับไปปล่อยทะเล
“ ตามใจแล้วกัน งั้นผมไปนะ ” เขาเห็นร่างสูงๆนั้นไหว่ไหล่เล็กๆก่อนจะหันหลังเดินขึ้นรถไปอย่างไม่สนใจ ก่อนรถคันหรูจะวิ่งผ่านหน้าเขาไปแบบไม่คิดชะลอเผื่อเขาเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา
แต่ถึงแม้ว่าข่าวร้ายก็คือเขาโดนบอกเลิก แต่ข่าวดีคือคยองซูไม่ต้องเดินตากฝนกลับหอจริงๆอย่างที่พูด
เพราะจงอินมันบังเอิญลืมร่มทองคำทิ้งเอาไว้ให้กับเขา
เออๆ ไม่ได้บังเอิญหรอก แม่งตั้งใจนั่นแหละ
คงคิดว่าตัวเองพระเอกมากมั้ง
ช่างมันเถอะ เดี๋ยวถึงหอแล้วค่อยขอบคุณมันก็แล้วกัน
ใช้เวลาไม่นานพอนั่งรถเมล์ฟรีมาถึงหอ ตอนแรกก็ว่าจะขึ้นหอเลยแต่คยองซูก็ต้องหยุดยืนดูคนสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆกับรถคันหรูคุ้นตาที่จอดนิ่งสนิทอยู่หน้าหอ หนึ่งในนั้นก็คือคิมจงอิน แต่ผู้ชายอีกคนที่อยู่ในชุดสูทเขาไม่เคยเห็นมาก่อน ไหนลองเข้าไปฟังใกล้ๆดิ๊ว่ามันคุยอะไรกัน นี่ไม่ได้จะไปแอบฟังแค่จะเดินขึ้นหอ
“ คุณหนู จุ๋มให้คุณหนูติวได้ถึงสองทุ่มนะ จุ๋มรับปากคุณท่านเอาไว้แล้วครับ "
“ พอเถอะ ผมไม่ใช่เด็กๆแล้วนะคุณจุ๋ม! ผม! ปีสอง! แล้ว! ” ร่างสูงในชุดนิสิตที่พออยู่บนตัวแล้วออร่าคนรวยยังไม่หายไปไหนเอามือล้วงเข้ากระเป๋ากางเกงด้วยอารมณ์หงุดหงิด เหมือนว่ามันคงไม่ใช่ครั้งแรกที่อีกคนเจอแบบนี้ คยองซูก็เพิ่งจะรู้เหมือนกันว่าที่บ้านของจงอินมันหวงเหมือนไข่ในหินขนาดนี้ ลำบากไหมวะ รวยแต่โดนประคบประหงมแบบไม่ให้คิดเองแบบนี้
โตเป็นควายขนาดนี้แล้วต้องมีคนคอยจู้จี้เวลาจะไปไหนกูว่ามันไม่โอเคนะเว้ยจงอิน
แลกกันดีไหมวะ มาใช้ชีวิตจนๆแทนกูดีกว่า กูจะยอมรวยเอง (อ้าว)
“ โถ่ คุณหนูแต่ว่า… ”
“ คุณจุ๋ม หยุด!
ถ้าคุณจุ๋มยังพยายามกำหนดเวลาให้ผมอีกผมจะบอกพ่อว่าคุณจุ๋มเคยลืมผมเอาไว้ที่โรงเรียนตอนเด็กๆ ”
“ ค..คุณหนู ไม่เอาสิครับ จุ๋มเคยทำแบบนั้นด้วยหรอ จุ๋มรักคุณหนูจะตายอ่ะ ” คุณจุ๋มอะไรนั่นทำหน้าตาเป็นหมาหงอยทันทีที่โดนขู่ก่อนจะตรงเข้ากอดเอาหน้าพิงอกไอ้จงอินอย่างประจบประแจง จะว่าไปหน้าตาคุณจุ๋มก็ดูหล่อดีนะ แต่ดูจากท่าทางคุณจุ๋มออกจะติ๊งต๊องไปหน่อย ก็นะ เฮ้อ เสียดายความหล่อว่ะ
“ งั้นก็กลับไปรอที่บ้านครับเดี๋ยวผมโทรบอกว่าจะให้มารับเมื่อไหร่ ”
“ โหย ก็ได้ครับคุณหนู จุ๋มห่วงคุณหนูจุ๋มผิดหรอครับ ” เมื่อรู้ว่ายังไงจงอินก็จะอยู่ดึกกว่าสองทุ่มให้ได้ คุณจุ๋มก็เริ่มตัดพ้อทำแก้มพ่องงอนตุบป่อง แต่ความน่ารักแบบแปลกๆ(?)ก็ไม่ได้ทำให้จงอินมันเปลี่ยนใจแต่อย่างใด
“ เฮ้อ รู้ครับ แต่ตอนนี้กลับไปได้แล้ว ”
“ ฮึก คุณหนูของจุ๋มโตเป็นหนุ่มแล้วจริงๆ ” เอาแล้วๆ ไอ้คุณจุ๋มมันบีบน้ำตาแล้วเว้ย แล้วก็ดูเหมือนว่าจงอินมันจะกรอกตาขึ้นฟ้าอย่างเอือมระอา เห็นแล้วก็อดขำไม่ได้
เออ คุยกันน่ารักดีว่ะ
แต่ดูเหมือนจงอินมันจะอยากรีบขึ้นไปบนห้องจะแย่ เอาวะ ช่วยมันหน่อยแล้วกันกู
พึ่บ!
“ คุณจุ๋มครับ ไม่ต้องห่วงนะผมจะดูแลคุณหนูของคุณจุ๋มให้เอง ” ไม่อยากให้เรื่องมันดราม่าไปกว่านี้คยองซูเลยเดินตรงไปคว้าคอไอ้คุณหนูเข้ามากอดแบบที่ต้องเขย่งเพราะแม่งสูงกว่าเขานิดหน่อย เอ่อ เอาจริงก็ไม่นิดหรอก มากอยู่อะ
หน้าตาเหลอหลาของจงอินทำให้คยองซูยิ้มนิดๆ คงไม่รู้ล่ะสิว่าเขาแอบฟังอยู่ ก็เอาเป็นว่าถือว่าเจ๊ากันนะครับผม
“ นี่คุณใครครับเนี่ย ” คุณจุ๋มรีบปาดน้ำตาลวกๆแล้วทำหน้าฉงนใส่คนมาใหม่ทันที
“ เพื่อนสนิทผมเองครับชื่อคยองซู ” ยังไม่ทันจะอ้าปากตอบ ไอ้คุณหนูมันก็รีบสวนออกไปพร้อมมือที่คว้าหมับเข้าที่เอวของเขาราวกับอยากให้คุณจุ๋มเชื่อว่าสนิทกันจริงๆ เดี๋ยวๆกูไปสนิทกับมึงตอนไหนวะ
โห ไอ้คุณหนูลวงโลก
“ คุณคยองซูเป็นเพื่อนสนิทคุณหนูหรอครับ ”
“ ค..ครับ ใช่ครับ ” ส่วนเขาก็ต้องตามน้ำไปสิครับรออะไร
“ งั้นจุ๋มไปแล้วก็ได้ครับ คุณคยองซูช่วยดูแลคุณหนูตัวน้อยๆของจุ๋มด้วยนะครับ ” พูดจบก็สะบัดหน้าหนีเหมือนทนไม่ได้สักวินาทีที่จะจากลาแล้ววิ่งขึ้นรถไป เออ บทจะไปก็ไปง่ายๆเลยว่ะ ดีดีดี
“ ป..ปล่อยกูได้แล้วมั้ง คุณจุ๋มมึงไปแล้ว นู่น! ” ไม่ใช่อะไรนะ นี้ก็ผ่านไปเกือบนาทีไอ้คุณหนูมันยังไม่ยอมปล่อยมือออกจากเอวเขาเลย นี่กะจะอยู่ท่านี้กันยันเช้าเลยไหมล่ะ สบายใจดี
“ คยองซูตัวหอมดีนะครับ ”
“ … ”
“ เอวก็เล็กเหมาะมือดี ”
“ เชี่ย มึงอยากปากแตกหรอวะ ปล่อย!! ” มึงอย่ามาพูดจาอะไรแบบนี้ พูดแล้วขนลุกไปยันตูด นี่ถ้าพ่อมึงไม่ใหญ่(กลัวจริงจัง) คงได้กินหมัดกูจนอิ่มไปและ กูแมนเว้ย แมนทั้งแท่ง ยาวและใหญ่มากด้วยไม่อยากอวดให้เสียหน้า!
“ ผมไม่ได้เริ่มซักหน่อย คยองซูกอดผมก่อน ” หนอยย โทษกูอีก
“ เออๆ ครับผม กูเริ่มเอง ทีนี้ก็ปล่อยกูได้แล้วครับคุณหนู ” ยังไม่อยากทำคนแถวนี้ปากแตกเลยรีบบอกให้มันปล่อย เสียเวลามามากแล้วไหม ควรจะรีบๆขึ้นห้องได้และ
“ ได้ครับ ไว้ค่อยกอดกันใหม่ ”
!!!
FUCK YOU BITCH KISS MY ASS!
“ คยองซู มาแล้วหรอ อ้าวจงอิน นี่พวกมึงมาด้วยกัน? ” เป็นแบคฮยอนที่เอ่ยทักก่อนเมื่อคยองซูและจงอินเดินเข้าห้องมา บรรยากาศภายในห้องตอนนี้คือมีแบคฮยอนและเพื่อนอีกสองสามคนนั่งติวกันอยู่กลางห้องนั่งเล่น
วันนี้คยองซูรู้อยู่แล้วว่าแบคฮยอนจะเอาเพื่อนมาติว เขาเลยไม่แปลกใจที่จงอินมันจะให้ติดรถมาด้วย ส่วนใหญ่เพื่อนของแบคฮยอน คยองซูจะเคยเห็นหน้าเกือบหมดเพราะช่วงใกล้สอบมันก็จะพามาติวกันที่ห้องบ่อยๆเพราะแบคฮยอนเป็นคนหัวดี เพื่อนแบคฮยอนที่ว่าก็รวมไปถึงจงอินด้วย ก็อย่างที่บอก เห็นกันอะบ่อย แต่พอมันมาติวกันที่ห้องคยองซูก็จะเลี่ยงตัวอยู่ในห้องบ้างหรือออกไปทำงานพิเศษบ้างตามภาษาคนรวยแต่ไม่เปิดเผย
ไม่ต้องถามนะว่าแล้วเขาล่ะ ไม่ติวกับเพื่อนบ้างหรอ คือคนมันเก่งเกินอ่ะ เป็นประเภทต้องอ่านคนเดียวครับ อ่านตอนทำงานพิเศษอ่ะบ่อย ไม่มีเวลาไปติวกับเพื่อนหรอกครับ แต่มีเพื่อนอยู่นะ เพื่อนยังคบอยู่
“ เปล่า กูเจอกันตอนก่อนขึ้นมา พวกมึงติวกันไปหรือยัง ” จงอินตอบแบคฮยอนก่อนจะเดินนำเขาเข้าไปนั่งรวมกับเพื่อนๆตัวเองอย่างสนิทสนม
เออ แล้วอีกเรื่องที่สงสัยมานาน
คือจงอินพูดคำหยาบกับทุกคน ยกเว้นกับเขา
มันก็ไม่ได้ติดใจอะไรขนาดนั้นนะแต่แบบมันก็แปลกเปล่าวะ คุยกูมึงกับคนอื่นแต่ดันใช้คำแทนตัวเองว่าผมกับเขา มันอาจจะเพราะเขากับจงอินรู้จักกันห่างๆ ก็เป็นได้ที่มันจะไม่อยากเสียมรรยาทผู้ดีที่อยู่ในตัวพูดจาหยาบคายกับคนที่ไม่รู้จัก หรือเขาอาจจะถ่อยเอง ที่เวลาเจอใครที่อายุเท่าๆกันหรือรุ่นน้องก็จ้องจะกูมึงกับเค้าอย่างเดียว
อืม สงสัยจะเป็นอย่างหลัง
“ ยังอะ เพิ่งเริ่มเอง คยองซูเดี๋ยวมึงเข้าไปรอกูในห้องแปปนึง กูมีเรื่องจะคุยกับมึง ” แบคฮยอนบอกแบบนั้นมันเลยทำให้คยองซูพยักหน้ารับ ขาเรียวเดินผ่านกลุ่มเพื่อนๆของแบคฮยอนเพื่อเข้าไปในห้องนอนตามที่แบคฮยอนบอก
แต่พอเข้าไปก็ถึงกับชะงัก
เชี่ย กระเป๋าข้าวของของไอ้แบคฮยอนทั้งหมดวางไว้อยู่บนเตียง
“ คยองซู… ” แบคฮยอนที่ตามเข้ามา เรียกเพื่อนสนิทตัวเองเบาๆเพราะแบคฮยอนกลัวว่าสิ่งที่กำลังจะบอกไปมันอาจทำให้คยองซูโกรธเขาก็ได้
“ แบคฮยอนมึงจะไปไหน? ” คยองซูชี้ไปที่ของบนเตียงแล้วหันไปถาม
“ คือว่า…คยองซู มึงก็รู้ใช่ไหมว่ากูคบกับชานยอลอยู่… ”
รู้ดิ ปาร์คชานยอลเพื่อนคณะเดียวกันนั่นแหละแต่มันอยู่กันคนละสาขาและมันก็คบกันจะเข้าเดือนที่สามแล้วด้วย
ว่าแต่มันเกี่ยวอะไรกับข้าวของพวกนี้วะ
“ มึงอย่าบอกนะว่า”
“…เออ ชานยอลอยากให้กูย้ายไปอยู่ด้วยว่ะ ”
ชัดเลยยยยยยยยย
“ แบคฮยอนน มึงจะทำแบบนี้กับกูไม่ได้!! ”
“ โหยย คยองซูอาาา เห็นแก่ความรักของเพื่อนมึงเหอะนะ น้าาา ”
“ แล้วกูล่ะ เราเพิ่งต่อสัญญาไปเองนะเว้ยย!! ”
โวยย
คืองี้นะ เรื่องของเรื่องก็คือหอพักนีเขากับแบคฮยอนเพิ่งจะหมดสัญญาเช่าไปแล้วก็เลยไปต่อเพราะหอนี้มันแพงก็จริงแต่ถ้าอยู่กันสองคนมันก็ยังพอจ่ายไหว ถ้าแบคฮยอนออกไปตอนนี้ก็เท่ากับว่าเขาก็ต้องจ่ายค่าหอคนเดียว จะเปลี่ยนหอก็ไม่ได้เพราะสัญญาเช่ามันเป็นเวลา 4 เดือน ถ้าออกก่อนเขาก็จะไม่คืนเงินมัดจำที่จ่ายไปตอนทำสัญญา โวยย เรื่องเงินเรื่องทองมันหาไม่ได้ง่ายๆ แล้วทำไงล่ะ เขาก็ต้องหาคนแชร์ห้องใหม่ใช่ไหมวะ
“ นะคยองซู เงินมัดจำส่วนที่กูออกไปกูให้มึงเลยกูไม่เอา ” คือเงินมัดจำเขากับแบคฮยอนออกกันคนละครึ่ง แบคฮยอนมันก็เลยบอกว่าจะให้เขาถ้าเขายอมปล่อยให้มันไปอยู่กับผัว เออดีจริงๆเลยเพื่อนกู เห็นผัวดีกว่าเพื่อนที่เห็นกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย
“ เออก็ได้ๆ!! แบคฮยอน มึงแม่ง!! ” คือไม่ได้เห็นแก่เงินหรอกครับ เห็นแก่มันเนี่ยแหละหน้าตาจะร้องไห้อยู่ร่อมแรม
หงุดหงิดชิบ วันนี้มันเป็นวันชาติ(ชั่ว)ของโดคยองซูคนนี้หรือยังไงกัน
แฟนทิ้งแถมเพื่อนก็ทิ้งอีก แม่งเอ้ย เสียนบุหรี่เลย!
ตอนนี้ในห้องมันเริ่มติวกันไปเรื่อยๆ ส่วนคยองซูก็ออกมาสูบบุหรี่รับลมอยู่ข้างนอกระเบียง ควันสีขาวขุ่นลอยล่องขึ้นไปบนอากาศก่อนจะค่อยๆจางไป คยองซูมองภาพนั้นก่อนจะคิดอะไรในหัวไปเพลินๆ จะว่าเรื่องวันนี้ที่เจอมันก็ไม่ได้หนักอะไรถึงขนาดต้องนอยด์ แต่มันก็ทำให้เขาเซ็งจนอัดบุหรี่ไปสามสี่มวน สารนิโคตินมันทำให้เขาผ่อนคลายถึงแม้ว่าวันพรุ่งนี้กลิ่นมันจะติดกางเกงยีนส์แล้วก็เสื้อยีนส์ที่เขาสวมทับเสื้อนิสิตก็เถอะ ทำไงได้เขาใส่เสื้อซ้ำกันสองสามวันมันประหยัดค่าเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญข้างล่างหอไปได้ตั้งเยอะ
ครืดด~
เสียงเปิดประตูระเบียงทำให้คยองซูต้องหันไปมองก่อนจะเห็นว่าร่างสูงๆของคิมจงอินจะเดินออกมาพร้อมกับคุยโทรศัพท์ไปด้วย งงสิครับแม่งออกมาทำไม แล้วนี่กูต้องดับบุหรี่ไม่ให้ไปติดเสื้อผ้ามันไหมเนี่ย เดี๋ยวคุณจุ๋มจะตกใจอีกว่าไอ้นี่มันสูบบุหรี่
“ นี่มันยังไม่สองทุ่มเลยนะคุณจุ๋ม โทรมาติดๆกันแบบนี้ผมจะได้ติวไหม! ”
อ๋อ คุณจุ๋มโทรตามว่ะ
เห็นจนแบบนี้ก็ยังมีมรรยาทอยู่ เขาแสร้งหันหน้าหนีพลางสูบบุหรี่เข้าปอดไปเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมาทั้งนั้นจนกระทั่งไอ้คุณหนูมันคุยเสร็จ
“ คุณจุ๋มห่วงผมยิ่งกว่าคุณพ่อซะอีก ” แล้วอยู่ๆมันก็ชวนคุยขึ้นมาทำให้มือเรียวต้องขยี้บุหรี่ที่สูบลงกับที่เขี่ย แต่ยังไม่ทันจะได้ทำก็มีคนคว้าไปสูบเสียก่อน
“ เห้ย! มึงสูบบุหรี่ด้วยหรอ ”
“ มีบ้างครับ เวลาเซ็งๆ ” จงอินไม่ได้หันมาตอบอะไรต่อ แค่เท้าแขนทั้งสองข้างลงกับระเบียงด้วยท่าทางเซ็งๆอย่างที่พูดพร้อมสูบสารนิโคตินเข้าปอดก่อนพ่นควันออกมา จริงๆไอ้จงอินมันก็ไม่ได้ติ๋มอย่างที่ลูกคุณหนูทั่วไปควรจะเป็นหรอก ติดจะออกแมนๆแบดๆแบบผู้ดีด้วยซ้ำ ถ้าเขาไม่ได้มาเห็นกับตาว่ามันมีคนคอยดูแลอย่างใกล้ชิดก็ไม่เชื่อว่ะ
“ อึดอัดอะดิไอ้คุณหนู ”
“…”
“ จงอินกูแนะนำนะ มึงก็หาแฟนสักคนแล้วย้ายไปอยู่กับเขาเลย บอกไปว่าจะอยู่กับเมีย กล้าๆหน่อย ถ้ามึงจะอยู่ซะอย่างคุณจุ๋มก็ทำอะไรไม่ได้ ” ตบบ่าปั่กๆหมายให้มันฮึกเหิม
“ … ”
“ กูไม่ได้บอกให้มึงก้าวร้าวใส่พวกเขานะ แต่ชีวิตมึง มึงควรรู้ว่ามึงต้องการอะไร ”
“ … ”
“ ถ้ามึงไม่กล้าทำให้เขาเห็นว่ามึงโตแล้ว เขาก็จะดูแลมึงไปแบบนี้แหละ ”
“ คยองซูคิดว่าถ้าผมหาแฟนสักคนแล้วย้ายไปอยู่กับเขาจะทำให้คุณพ่อคุณแม่เลิกตามดูแลผมอย่างงั้นหรอ ”
“ กูก็แค่แนะนำเว้ย แนะแนวทางอ่ะ เก็ทมั้ย ”
“
ผมจะลองดูนะ
ขอบคุณครับ ” ร่างสูงยิ้มออกมานิดๆแล้วหันหลังกลับเข้าไปในห้อง
แต่ก่อนไปก็ขยี้ผมนิ่มของคยองซูจนอีกคนนิ่งค้างไปหลายนาที สิ่งหนึ่งที่คยองซูต้องยอมรับก็คือจงอินมันมีเสน่ห์มากจนทำให้คนที่จิตใจอ่อนแอมีอันต้องสั่นไหว
แต่มันก็แค่แวบเดียวเท่านั้นแหละ แม่เชร็ดด กูแมน กูไม่ได้ชอบผู้ชาย
หรือเพราะมันรวยกลิ่นเงินที่พุ่งออกมาจากตัวมันทำให้เขาหวั่นไหว
ใช่แน่ ต้องใช่แน่ๆ!
" ฮึก คุณหนูของจุ๋มโตเป็นหนุ่มแล้วจริงๆ "
สวัสดีอย่างเป็นทางการนะคะสำหรับใครที่หลงเข้ามา
จะบอกว่าเรื่องนี้ทั้งคู่เขาแมนๆคุยกันครัชนะ ใครคาดหวังว่าคยองซูจะเป็นเคะน่ารัก
คุณคงต้องผิดหวัง ฮ่าฮ่าฮ่า ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวไว้อีกเรื่องด้วยนะคะ
อยากให้ทุกคนอ่านสบายๆ จุ๊บๆ
ติดต่อพูดคุยกับเราได้ที่ Twitter : @michoseo
คอมเม้น&เล่นแท็กกันด้วยนะคะตัวเอง
Hastag : #ฟิคฮาร์ทเมทKD
ความคิดเห็น