ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (END) ก็คนมันชอบ...좋아해 ♡ - KAISOO

    ลำดับตอนที่ #25 : CHAPTER 22

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.05K
      97
      16 ก.ค. 59












    22



     

     

     

    “ พี่ๆๆ จอดตรงนี้แหละครับพี่ ไม่ต้องทอนนะ ขอบคุณครับ ” แบคฮยอนสั่งให้พี่คนขับรถแท็กซี่ที่นั่งมาเหยียบเบรกชะลอความเร็วจนหัวแทบจะทิ่มเมื่อรถกำลังจะถึงหน้าโรงเรียน ตอนนี้มันก็เย็นมากแล้ว นักเรียนก็แทบจะไม่มีเหลือ พอลงมาจากรถได้แล้วแบคฮยอนก็รีบวิ่งเข้าไปในโรงเรียนทันที มือเล็กยกโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเพื่อนผิวแทนของตัวเองไปด้วย ตอนนี้เขาคนหนึ่งแหละที่ก็เป็นห่วงคยองซูไม่แพ้ใคร  ยิ่งขนาดเขาเป็นห่วงขนาดนี้ จงอินยิ่งไม่ต้องพูดถึง

     

    วิ่งหาไปเรื่อยๆก็ต้องสะดุดเข้ากับ ร่างของเพื่อนตัวเองที่กำลังส่งเสียงสถบหยาบดังลั่นก่อนมือใหญ่จะชกเข้ากับกำแพงตึกไม่หยุดและนั่นมันก็ทำให้แบคฮยอนเบิกตากว้าง รีบเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง

     

    “ จงอิน!! มึงหยุดเดี๋ยวนี้!!!! ” แบคฮยอนพยายามร้องห้ามก่อนจะรีบวิ่งตรงเข้าไปหาจงอินทันที เพราะเขากับจงอินยืนอยู่ห่างกันพอสมควร กว่าขาสั้นๆจะก้าวเข้าไปถึงตัว มือของจงอินก็บวมแดงเป็นแผลถลอกไปหมด แบคฮยอนรั้งแขนแกร่งมาจับเอาไว้เพื่อกันไม่ให้เพื่อนของเขาทำร้ายตัวเองไปมากกว่านี้

     

    โธ่เว้ยย! ปล่อย! ”

     

    จงอิน มึงใจเย็นๆได้ไหมวะ!! กูรู้ว่าตอนนี้มึงเป็นห่วงคยองซู แต่มึงก็ควรจะห่วงตัวเองด้วย!! ”

     

    กูตามหาไอ้มิหมดทุกที่แล้วแบคฮยอน กูหาทุกที่แล้วจริงๆ มีที่ไหนที่กูต้องหาอีก บอกกูสิ! กูไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ” ตอนนี้จงอินแทบจะคิดไม่ออกแล้วว่าที่ไหนที่ไอ้มิมันจะไปได้อีก ทั้งไปหาที่บ้านก็ยังล็อกกลอนแน่น ไปหาที่คอนโดเพราะคิดว่าไอ้มิน่าจะกลับมารอเขาแต่ก็ไม่มี หรือแม้แต่ที่นี่ เขาพยายามหาหมดไม่ว่าจะเป็นบนตึก ห้องสมุด เอาง่ายๆ แทบจะผลิกแผ่นดินหาแต่ก็ไร้วี่แวว ยิ่งเย็นลงความเป็นห่วงมันก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีก ความรู้สึกนึกโทษตัวเองมันอยู่ในหัวของเขาตลอดเวลา ถ้าหากคยองซูเป็นอะไรไปเขาคงไม่ให้อภัยตัวเอง

     


    มึงตั้งสตินะจงอิน เราต้องหาคยองซูเจอ มึงไม่ต้องกลัวเลย!  ” แววตากระวนกระวายและกังวลใจที่แบคฮยอนได้เห็นมันทำให้เขารู้ว่าตอนนี้เพื่อนเขาใกล้จะบ้าแล้วเต็มที ถึงตอนนี้จะยังไม่รู้ว่าจะไปตามหาคยองซูได้จากที่ไหน แต่ถ้าจงอินมันยังไม่ได้สติแบบนี้หายังไงก็หาไม่เจอ

     

     

    “ จงอิน!!! ” แล้วเสียงเรียกมันทำให้สองคนหันไปมอง ชานยอลที่กึ่งวิ่งกึ่งเดินมาหาเมื่อจอดรถเสร็จก็เดินตรงเข้ามาหาจงอินกับแบคฮยอนทันที

     

    พั่บ!

     

    ยังไม่ทันจะได้ถามอะไร ชานยอลก็โยนพวงกุญแจที่ใช้สำหรับเปิดห้องทุกอย่างในตึกเรียนไปให้จงอิน

     

    “ มึงรีบขึ้นไป อึนจองนูน่าบอกว่าตอนแยกกันคยองซูกำลังจะไปเข้าห้องน้ำตรงตึกที่ใกล้ห้องสมุด

     

    !!!

     

    ..เดี๋ยวสิจงอิน รอกูด้วย! แบคฮยอนเมื่อเห็นว่าจงอินพอได้ยินแบบนั้นก็ไม่พูดอะไรรีบวิ่งขึ้นไปบนตึกทันทีแล้วทิ้งให้เขาต้องอยู่กับชานยอลสองคน คือแม่งเมื่อกี้ตึงกันอยู่ไง แล้วนี่ทิ้งให้อยู่สองคนไม่คิดว่าจะอึดอัดหรอ ใครอยากอยู่ก็อยู่ไป แบคฮยอนคนนึงที่จะไม่อยู่กับมันสองคนแน่ๆ

     

    หมับ!

     

    กูแค่ไปหาเขาเพราะจะถามเรื่องคยองซู จริงๆนะ ” ชานยอลรั้งข้อมือของแบคฮยอนเอาไว้ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินตามจงอินไป เขารู้ว่าเขาไม่เคยปล่อยให้แบคฮยอนโกรธนานขนาดนี้ แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ตั้งใจจะขึ้นเสียงใส่แบคฮยอนไปแบบนั้น เขาผิด เขารู้ตัว และนี่ก็กำลังง้ออยู่ไง

     

    แต่มันก็ดูจะไม่ได้ผลเพราะแบคฮยอนหันกลับมามองหน้าเขาแวบนึงก่อนจะใช้มืออีกข้างแกะมือของเขาออก

     

    กูไม่ได้อยากรู้

     

    เฮ้อ โดนงอนอีกแล้วสิ

     


     



     

                     

     



     

    อืออ ” นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่คยองซูผลอยหลับไป ตื่นมาอีกทีคยองซูก็เห็นว่าฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว คยองซูอดยอมรับไม่ได้ว่าเขากลัว ถ้าหากไม่มีใครคิดหาเขาขึ้นมาเขาก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ในนี้ทั้งคืนจนสว่าง อากาศในนี้ทั้งหนาวและชื้น คยองซูก็คิดเอาไว้แล้วล่ะว่าตัวเขาเองคงไม่ไหวแน่ๆ เพราะตอนนี้ก็เริ่มปวดหัวและรู้สึกร้อนๆเหมือนไข้จะขึ้น แต่ทำอย่างไรได้ในเมื่อถ้าไม่มีใครหาช่วยเขาก็คงออกไปไม่ได้

     

    ทั้งเนื้อทั้งตัวของคยองซูตอนนี้ไม่มีอะไรเลย ของทุกอย่างอยู่ข้างนอกหมดทั้งโทรศัพท์ทั้งกระเป๋าเป้ แต่ถึงมีโทรศัพท์ก็โทรออกไม่ได้อยู่ดีเพราะแบคหมด ทุกอย่างมันช่างเป็นใจให้คยองซูต้องค้างคืนอยู่ที่นี่เหลือเกิน


     

    มิ ไอ้มิ!! ได้ยินกูไหม!! อยู่ในนี้หรือเปล่า! ”

     

    !!!

    เสียงตะโกนพร้อมเสียงก็อกแกร็กเหมือนคนกำลังไขกุญแจประตูทางเข้าห้องน้ำมันทำให้คยองซูมีความหวัง เสียงร้องเรียกชื่อของเขามันทำให้คยองซูแน่ใจว่าเสียงนั่นคือเสียงของใคร ร่างเล็กค่อยๆลุกขึ้นไปยืนชิดประตูก่อนจะใช้แรงที่มีทั้งหมดส่งเสียงออกไปเพื่อให้อีกฝั่งได้ยิน

     

    “ ..จงอินน

     

    เห้ยจงอิน กูได้ยินเสียงคยองซู  ห้องน้ำนี้แหละไขกุญแจเลย ” คยองซูจำได้ว่านั่นคือเสียงของแบคฮยอน



     

    ปึกๆ

     

    “ จ..จงอิน เราอยู่ห้องนี้!! ” คยองซูพยายามทุบมือไปที่ประตูเพื่อให้รู้ว่าตัวเองอยู่ห้องไหน

     

    มิ!! ถอยออกไปให้ห่างประตู กูจะพังเข้าไป

     

     

    ปัง!!

     

    สิ่งที่เห็นมันทำให้จงอินเหมือนโดนหมัดล่องหนซัดเข้าที่หน้าจนล้มทั้งยืน ความรู้สึกเจ็บไปทั้งหัวใจแล่นผ่านไปทั่วร่างของเขา ประตูห้องน้ำที่เปิดออกเผยให้เห็นคยองซูที่กำลังนั่งกอดเข่าตัวเองเอาไว้แน่นบนฝาชักโครก เนื้อตัวเปียกไปหมดจนร่างเล็กเริ่มสั่นเพราะอากาศที่เริ่มหนาว ภาพที่มันทำให้ขอบตาของจงอินร้อนผ่าว คำพูดของเซฮุนมันดังขึ้นมาในหัวของเขาไม่หยุด

     

     

    คยองซูต้องทนโดนแกล้ง ทนให้คนอื่นนินทาด่าสารพัดก็เพราะมึง มึงก็รู้แฟนคลับมึงมีอยู่ทั่วโรงเรียน แล้วถ้าเขารู้ว่าคยองซูมายุ่งกับมึงพวกเขาจะทำยังไงล่ะ ..ถ้าเป็นกูป่านนี้เลิกยุ่งกับมึงไปนานแล้ว

     

     

    ทั้งหมดมันเป็นเพราะเขา เพราะเขาคนเดียว!

     

                จงอินตรงเข้าไปโอบร่างเล็กที่เปียกปอนไปด้วยน้ำเข้ามากอดเอาไว้แน่นอยากไม่นึกกลัวตัวเองเปียก ใบหน้าหล่อซบลงบนบ่าเล็กของคยองซูทันทีพลางพูดขอโทษออกมาไม่ขาดปาก การปกป้องคนที่ตัวเองรักไม่ได้มันเจ็บจนเขาได้แต่พูดคำว่าขอโทษ แค่คำขอโทษอาจไม่พอเลยด้วยซ้ำสำหรับสิ่งที่คยองซูต้องเจอ

     

    จงอินจริงๆ ด..ด้วย ” คยองซูยกมือขึ้นกอดตอบก่อนจะพูดตอบอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม ใจของเขาเริ่มคลายความกังวลและความกลัวทั้งหมดลงเมื่อได้อยู่ในอ้อมกอดของจงอิน รู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย และคิดถึงในเวลาเดียวกัน

     

    เจ็บมากไหม ขอโทษนะ ขอโทษ ” เสียงทุ้มสั่นพร่าเมื่อผละออกมาแล้วสำรวจไปบนใบหน้าเล็กก่อน มือใหญ่เอื้อมไปเตะเบาๆที่รอยช้ำข้างแก้มของคยองซูทีเมื่อเช้าตอนเจอกันมันไม่มี คยองซูจะเจ็บมากแค่ไหน เขาต้องการแลกความเจ็บปวดของคยองซูเอามาไว้ที่เขาทั้งหมดเหลือเกินถ้าทำได้ เพราะเขาคยองซูถึงต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้

     


    คยองซูส่ายหน้าช้าๆก่อนมือเล็กทั้งสองข้างจับมือของร่างสูงที่กำลังสัมผัสอยู่ที่หน้าของตัวเองเอาไว้ ตอนนี้คยองซูแค่รู้สึกเหนื่อล้าเกินกว่าจะพูดตอบอะไรไปมากกว่านี้ พอจงอินมาคยองซูรู้ว่าเขาไม่ต้องกลัวอะไรอีกต่อไป

     

    “ จงอิน เราง่วงจังอยากนอนแล้ว

     

    “ ครับ งั้นกลับห้องกันนะ ” เสียงกระซิบที่ข้างหูมันทำให้คยองซูพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้ม ร่างสูงค่อยๆช้อนคนตัวเล็กขึ้นแนบอก ใบหน้าเล็กของคยองซูซบกับอกแกร่งก่อนจะค่อยๆหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า ก่อนจงอินจะหันหน้าไปทางชานยอลโดยที่อีกฝ่ายก็พยักหน้ารับอย่างรู้กัน

     

     

    ชานยอล กูฝากมึงดูเรื่องนี้ด้วย เอามาให้หมดไอ้คนที่ทำ

     

    อย่าคิดว่าเขาจะปล่อยไปง่ายๆ เรื่องนี้ต้องมีคนโดนแบบเดียวกับที่คยองซูเจอ

     





     







     

                และหลังจากที่จงอินพาคยองซูกลับไป แบคฮยอนที่จะตามจงอินไปด้วยก็ต้องจิ๊ปากอย่างขัดใจที่ชานยอลรั้งเขาเอาไว้ให้กลับด้วยกันโดยให้เหตุผลว่าให้สองคนนั้นเขาอยู่ด้วยกัน มันก็เลยทำให้แบคฮยอนต้องยอมจำนนซ้อนท้ายเวสป้าคันเก่งของชานยอลกลับคอนโดมาอย่างเงียบๆ แบบที่เขาไม่คิดจะคุยอะไรกับชานยอลเลยถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะชวนคุยมากแค่ไหนก็เถอะ

     

                พอเห็นว่าเขาเงียบ ชานยอลก็เริ่มที่จะเงียบบ้าง สงครามประสาทเริ่มต้นขึ้นโดยที่ก็ไม่มีใครยอมใคร แบคฮยอนทิ้งตัวนั่งดูทีวีบนโซฟาไม่พูดไม่จา ชานยอลก็เข้าไปอาบน้ำก่อนจะเดินออกมาทั้งชุดคลุมอาบน้ำแถมในมือยังถือโทรศัพท์คุยกับใครซะด้วย

     

    ในเมื่อแบคฮยอนไม่ยอมคุย ก็ไม่ต้องคุย

     

     ครับอึนจองนูน่า คยองซูโอเคแล้ว ไม่ต้องห่วงครับ ครั… ”

     

    พลั่ก! ติ๊ด!

    !!!

     

    มึงเป็นอะไรวะแบคฮยอน เอาโทรศัพท์กูไปตัดสายทำไม ” ชานยอลมองโทรศัพท์ของตัวเองในมือแบคฮยอนที่มาจากไหนไม่รู้ มาแย่งเอาไปและกดตัดสาย

     


    กูไม่ให้คุย! มึงจะทำไม! ”

     

    เขาแค่โทรมาถามว่าคยองซูเป็นยังไงบ้างก็เท่านั้นเอง ” ตั้งแต่ตอนที่เขาไปหาอึนจองนูน่าที่บ้าน เจ้าตัวก็ดูเป็นห่วงจนอยากจะไปด้วย แต่เขาก็บอกว่าให้รออยู่บ้านดีกว่าเพราะมันดึกแล้ว และเดี๋ยวเขาจะโทรบอกแต่ยังไม่ทันที่ชานยอลจะได้โทรหา เจ้าตัวคงจะใจร้อนโทรมาถามเชาซะก่อน

     

     มึงเป็นของกูชานยอล! กูไม่ให้มึงคุย มึงก็ไม่ได้คุย เข้าใจไหม! ”

     

    เห็นแก่ตัว

     

    ชานยอล!! นี่มึง!! …อ๊ะ! ” แบคฮยอนร้องออกมาทันทีเมื่ออยู่ๆชานยอลก็จับเขาทุ่มลงเตียงก่อนจะตามมาขึ้นคร่อม ยิ่งดิ้นหนีมากเท่าไหร่ชานยอลก็จับเขาล็อคให้อยู่ใต้ร่างมากขึ้นจนแบคฮยอนเริ่มเหนื่อยและนอนจ้องตากับคนตัวสูงนิ่งๆ

     

    “ ทีมึงมีใครไปทั่วกูยังปล่อยให้มึงมี พอกูมีบ้างก็เอาแต่ใจตัวเอง ไม่น่ารักเลยนะ ” แบคฮยอนเคยบอกหรือยังว่าเขาแพ้เสียงทุ้มนุ่มของชานยอลเวลาร่างสูงก้มกระซิบที่ข้างหู มันทำให้ใจของแบคฮยอนเต้นไม่เป็นจังหวะทุกทีที่ชานยอลทำแบบนี้ ใบหน้าน่ารักเริ่มแดงระเรื่อจนคนด้านบนระบายยิ้มออกมาอย่างอดไม่อยู่

     

    ปล่อยนะ! มึงหมายความว่ายังไง แสดงว่ามึงคบกับนูน่าจริงๆหรอ หะ!! มึงบอกกูมานะชานยอล! บอกมา!! ”

     

    แบคฮยอนคงไม่รู้หรอกว่าตัวเองหึงได้น่ารักมากขนาดไหน

     

    “ อึนจองนูน่าเขาชอบกู กูจะคบกับเขาก็ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน ”

     

    !!!

     

                ไม่ได้!! ฮึก! กูไม่ให้มึงคบกันนะ!! ” แบคฮยอนน่ารักจนชานยอลแทบอดใจไม่ไหวจะจับฟัดบนเตียงอยู่แล้ว คนอย่างแบคฮยอนปากแข็งอย่างกับอะไร ถ้าไม่ทำให้รู้สึก เขาก็คงไม่ได้ยินแบคฮยอนพูดอะไรออกมาแบบนี้ เสียงสะอื้นของเจ้าตัวทำให้ชานยอลนึกสงสารและนึกขำในเวลาเดียวกันจนเขาต้องกลั้นยิ้มให้หน้าจริงจังต่อไป

     

                 ทำไมล่ะ ไหนบอกเหตุผลของมึงมา

     

                 “ ไม่มีเหตุผลเหี้ยอะไรทั้งนั้นอะ ไหนมึงบอกจะไม่เอาใครนอกจากกูไงอะ ฮืออ ” ตอนนี้แบคฮยอนกลายเป็นเด็กห้าขวบไปเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าแค่ไอ้ชานยอลมันจะคบกับคนอื่นขึ้นมาทำไมน้ำตามันไหลมาแบบสั่งได้ขนาดนี้

     

                  บ้าชิบหาย โคตรเสียฟอร์ม!

     

                  แต่อึนจองนูน่าเขาชอบกู.. ”

     

     “ แล้วกูล่ะ ฮืออ กูก็ชอบมึงเหมือนกันนะเว้ยชานยอล!!! ฮือออ ไอ้เหี้ย! ถ้ามึงคบกับเขาเพราะเขาชอบมึง มึงก็ต้องคบกับกูเหมือนกันน!! ไม่แฟร์เลย! ฮือออ

     

    ได้ งั้นคบกัน

     

    เออ!! คบกัน! ”

     

    ก็แค่นั้นแหละที่กูอยากได้ยิน

     

    !!!

     

    ด..เดี๋ยวนะ รับรู้ได้ถึงความแปลก

     

    ชานยอล!! เดี๋ยว! มึงออกไปจากซอกคอกูเลยนะ ยังคุยไม่จบ!! ” พอได้ยินแบบนี้น้ำตาพี่แบคนี่หยุดไหลเลยครับ รู้สึกงงจนต้องดันหน้าอีกคนให้มาคุยให้เคลียร์

     

    จบแล้ว ก็สรุปว่าคบกันไง

     

    เดี๋ยวววแบคฮยอนดันใบหน้าหล่อที่กำลังจะก้มลงไปป้วนเปี้ยนแถวซอกคอให้กลับขึ้นมาเหมือนเดิม

                     

    อะไรของมึงอีกแบคฮยอน

     

    แล้วเรื่องอึนจองนูน่านี่ยังไง

     

    “ กูบอกมึงแล้วว่ามันไม่มีอะไร ”

     

    ไม่เก็ท ถ้าไม่มีอะไรมึงจะไปสนิทกับเขาได้ยังไงอย่ามาหลอกกูซะให้ยาก มึงอยู่กับกูตลอดชานยอล ทำไมกูไม่เห็นรู้ว่ามึงรู้จักอึนจองนูน่าเป็นการส่วนตัวด้วย นี่ยังเคืองไม่หายนะบอกเลย

     

    เฮ้อ คืองี้ มึงจำวันที่กูให้มึงไปรอกูที่คอนโดไอ้จงอินได้ไหม… ”

     

     


     

     

     

                      คยองซู จงอินมันให้เรามารับคยองซูไปส่งที่คอนโดน่ะ

     

                      เอ่อ ชานยอลไม่นั่งหรอ

     

                      ไม่ล่ะ ขอยืนดีกว่า

     

     

                      นี่อึนจองนูน่า พอดีอยู่ชมรมเดียวกันก็เลยสนิทกันน่ะ นูน่า นี่แบคฮยอน ชานยอลนะครับแต่ผมว่าคงไม่ต้องแนะนำหรอกเน้อะ

     

                        อ๊ะ คยองซู เพื่อนพี่โทรมาแล้วอ่ะ เดี๋ยวไปก่อนนะ หวัดดีนะแบคฮยอน ล..และก็เอ่อ ชานยอล >.<

     

                      ด้วยความที่ชานยอลยืนอยู่ข้างหลังหญิงสาวพอดี มันทำให้เขาเผลอเหลือบไปเห็นหน้าจอของอึนจองนูน่าพอดี

     

                      Rrrrr

     

                      สายเรียกเข้า

                      ซนนาอึน

     

                      !!!

                       

                      รูปภาพที่ปรากฏอยู่บนจอมันทำให้ชานยอลชะงัก ซนนาอึนมันคือคนเดียวกับแฟนของไอ้จงอินเมื่อสองปีก่อน

     

                      …คนเดียวกันแน่ๆ

     

     

                      แบคฮยอน ”

     

         “ ว่าไง? ”

     

         “ ไปรอกูที่คอนโดไอ้จงอินก่อนนะ เดี๋ยวกูไปรับ

     

                      อ้าว แล้วไม่ไปด้วยกันหรอวะ? ”

     

                      มีเรื่องต้องทำนิดหน่อยน่ะ กูไปก่อนนะไม่รอให้แบคฮยอนตอบอะไรกลับมา ชานยอลก็เดินตามอึนจองไปทันที

     

     

     

     

     

                      เดี๋ยวสิครับนูน่า

     

                      อ...เอ่อ มีอะไรหรอจ๊ะชานยอล

     

                      พอดีว่าผมเห็นคนที่โทรมาหานูน่าเมื่อกี้ ชื่อซนนาอึนหรอครับ  ” เอาจริงๆเขาไม่ได้ตั้งใจจะแอบดูหรอก แต่ตำแหน่งที่ชานยอลยื่นอยู่มันเห็นชื่อและรูปภาพพื้นหลังเบอร์โทรที่หญิงสาวรุ่นพี่ตั้งเอาไว้สำหรับเบอร์นั้นเวลาโทรเข้ามาเข้าพอดี และเขาว่าเขาจำไม่ผิดแน่ๆ ชื่อแบบนี้ และรูปร่างหน้าตาของผู้หญิงที่ชื่อซนนาอึนคนนั้น เหมือนแฟนเก่าของเพื่อนเขาไม่มีผิด

     

                      อ๋อ ใช่จ่ะ เพื่อนพี่เอง ซนนาอึน

     

                      งั้นผมมีอะไรอยากจะรบกวนนูน่าหน่อยได้หรือเปล่าครับ… ”

     

     

     

     

    กูก็เลยให้นูน่าเขาช่วยกูแอบถ่ายคลิปนาอึนมาให้หน่อยเพราะกูสงสัยเรื่องวันนั้น มันดูแปลกๆ โชคดีที่นูน่าเขาชอบกูเขาก็เลยช่วยง่ายๆ กูก็เลยได้คลิปมาอย่างที่เห็น แต่นอกจากจะได้คลิปแล้วกูยังได้เห็นมึงปากตรงกับใจ หวงกูอีก ยิงปืนนัดเดียวได้นกตั้งสองตัว

     

    “…”

     

    “ เก็ทยัง เก็ทนะครับ กูจะได้ต่อ ”

     

    นี่มึงหลอกกูหรอชานยอล!!!! ”

     

    “…โอ้ยย!! แบคฮยอนเกินไปหรือเปล่า! ถึงกับถีบเลยหรอวะ!! ”

     

     มึงไปนอนนอกห้องเลยนะ!!! ไอ้เลวว!!! ”














                     “ มิ อย่าเพิ่งหลับนะ กินยากันเอาไว้หน่อย กูจะได้สบายใจ

     

        เมื่อถึงห้องจงอินก็ค่อยๆวางร่างเล็กของคยองซูที่หลับมาตลอดทางลงบนเตียงก่อนจะจัดการเช็ดตัวให้ตัวแห้งพอจะแน่ใจว่าจะไม่เป็นหวัด พออิงไปที่หน้าผากก็รู้สึกเหมือนไอ้มิจะตัวรุมๆก็เลยต้องฝืนใจปลุกคนตัวเล็กให้ลุกขึ้นมากินยากันเอาไว้ก่อน ถึงจะรู้ว่าไอ้มิไม่ชอบแต่เขาก็อยากให้แน่ใจว่ามันจะไม่แย่ไปกว่านี้ ถึงแม้ว่าเขามีเรื่องมากมายที่อยากบอก แต่ตอนนี้เขาก็อยากให้คยองซูนอนพักก่อน

     

          ดีหน่อยที่ไอ้มิมันไม่ดื้อตื่นมารับยาเข้าปากแล้วตามด้วยน้ำอย่างว่าง่าย

     

                      เจ็บหรือเปล่า ” จงอินรับแก้วมาก่อนจะใช้มือข้างที่ว่างยกขึ้นจับไปที่รอยช้ำตรงข้างแก้มของคยองซูที่ตอนนี้มันเริ่มช้ำมากขึ้น แต่ก็ได้คำตอบจากร่างบางแค่ยิ้มก่อนจะส่ายหน้าไปมาราวกับบอกว่าไม่เจ็บ ไม่เป็นอะไร

     

                      เขารู้ว่าตอนนี้คยองซูคงเหนื่อยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันยิ่งตอกย้ำให้เขาคิดโทษตัวเองอยู่ในใจ

     

                      กูขอโทษ ขอโทษนะมิ ” ถ้ามีคำพูดไหนที่มันทำให้รู้สึกได้มากกว่าคำว่าขอโทษจงอินจะพูดมัน ใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดที่ปกป้องไอ้มิไม่ได้ เขายกมือไอ้มิขึ้นมาทาบกับหน้าตัวเอง พร่ำขอโทษก่อนกดจูบเบาๆที่ข้อมือเล็ก

     

                      ..จงอินอย่าขอโทษเราเลยนะ เราไม่เป็นอะไรจริงๆ ” คนที่นอนอยู่ขยับมือที่เขากอบกุมเอาไว้แล้วไล้นิ้วไปที่ข้างแก้มของเขาอย่างเบามือ สัมผัสอ่อนโยนคล้ายเป็นการปลอบและไม่อยากให้เขาคิดมาก มันทำให้จงอินยิ่งรู้สึกอยากปกป้อง ทำไมคยองซูถึงอ่อนแอและแข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน เปราะบางแต่ไม่แตกหักง่ายๆ 

     

     

                      “ ครับ นอนได้แล้วนะ กูไม่กวนแล้ว ” สิ่งสำคัญในตอนนี้เขาอยากให้ไอ้มิได้พักก่อน

     

    จงอินเอื้อมวางแก้วเปล่าไว้ตรงโต๊ะข้างเตียงโดยที่ยังไม่ปล่อยมือจากอีกคน ก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งกระชับผ้าห่มผืนหนาให้คลุมไปถึงคอให้คยองซูอบอุ่น ถอดแว่นออกจากใบหน้าเล็กช้าๆเพื่อให้อีกคนนอนหลับสบายๆ

     

                      พอเห็นว่าไอ้มิค่อยๆหลับตาพริ้มจงอินก็ค่อยๆผละตัวออกเพื่อจะให้ไอ้มิได้นอน แต่ก็ต้องชะงักเมื่อมือของไอ้มิไม่ยอมปล่อยให้เขาไป แต่กลับกระชับแน่นเมื่อสัมผัสได้ว่าเขากำลังจะลุกออกไป

     

                      จงอิน จงอินจะไม่ไปไหนจนกว่าเราจะตื่นใช่ไหม ” เสียงแผ่วเบาพร้อมแรงบีบจากมือเล็กมันทำให้จงอินต้องทิ้งตัวลงนั่งที่ตำแหน่งข้างเตียงเหมือนเดิม ฝ่ามือร้อนบีบตอบเพื่อบอกให้รู้ว่าเขาไม่ได้ไปไหน

     


                      “ อืม จะอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหนแล้ว 

     

                      สิ่งที่เขาพูดมันไม่ได้หมายถึงแค่ ณ ตอนนี้ มันคือต่อจากนี้ด้วยต่างหาก

     

     



     

     

     

     

     

     

     

     

                      เออดีขึ้นแล้ว ตอนแรกกูนึกว่าจะเป็นไข้เลยต้องเฝ้าทั้งคืน แต่ไม่เป็นไรแล้วไม่ต้องห่วง….อืม นี่เพิ่งลงไปซื้อโจ๊ก ไม่รู้ว่าจะตื่นหรือยัง เออๆ วางได้แล้วถ้าเป็นห่วงก็มา วันนี้กูคงไม่ให้มันไปเรียน… ” คุยกับแบคฮยอนอีกไม่กี่คำจงอินก็วางสาย เขาเข้ามาในห้องวางถุงโจ๊กลงบนเค้าน์เตอร์ครัวก่อนจะสะดุดตาเข้ากับร่างเล็กๆของไอ้มิที่พอเขาเดินเข้ามาตอนแรกก็เหมือนว่าคยองซูจะดูกระวนกระวายหาอะไรบางอย่าง แต่เมื่อไอ้มิเห็นเขาก็เงียบลงก่อนจะเดินตรงไปนั่งที่โซฟาห้องรับแขก เป็นเขาเองที่กระวนกระวายเข้าไปหาไอ้มิแทน

     

                      “ มิ!! ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ ดีขึ้นหรือยัง ปวดหัวไหม แล้วเจ็บแผลหรือเปล่า  ” จับโน่นจับนี่ไอ้มิไปทั่วอย่างเป็นห่วงแต่อีกคนก็ทำแค่มองเขาเงียบๆโดยไม่คิดจะตอบอะไรเขาเลยสักคำ

     

                      “…”

     

                      มิ ตอบกูหน่อยได้ไหม

     

                      “…”

     

                      มิ!

     

                      “…”

     

    เป็นอะไรไหนหันมาคุยกันดีๆจงอินขยับตัวไปอยู่ตรงหน้าคนที่กำลังนั่งทำเป็นมองไปทางอื่นอยู่บนโซฟา และค่อยๆนั่งย่องๆลงไปให้ระดับความสูงเท่ากัน ใบหน้าน่ารักที่เขาชอบมองมันดูดีขึ้นจากเมื่อวานแบบเห็นได้ชัด รอยช้ำข้างแก้มที่เมื่อคืนเขาประคบร้อนให้ตอนอีกคนหลับก็ดูเหมือนจะช่วยได้มากเพราะรอยมันค่อยๆจางลง มันทำให้เขาเบาใจไปได้เยอะว่าไอ้มิมันไม่ได้เป็นอะไรมาก

     

    “ … ”

     

    “ ถ้าไม่หันงั้นกูไป… ”

     

    หมับ!

     

    ไอ้มิดึงปลายเสื้อเขาไปจับเอาไว้แน่น

     

    “ เราตื่นมาไม่เจอจงอินนี่หน่า เรา อึก เราเลยคิดว่าจงอินจะไป ฮึก จากเราอีกแล้ว ” จงอินยังไม่ทันพูดจนจบประโยคว่าจะไปเอาชามมาใส่โจ็กจะได้ให้ไอ้มิกินตอนร้อนๆ หยาดน้ำใสที่คลอและร่วงลงเต็มสองแก้มเหมือนสั่งได้ของไอ้มิ ทำให้จงอินทำอะไรไม่ถูก เขาไม่คิดว่าคยองซูจะกลัวว่าเขาจะหายไปขนาดนี้ จริงๆเขาลงไปซื้อโจ๊กแค่ไม่ถึง 20 นาทีเลยด้วยซ้ำ เขาไม่คิดว่าไอ้มิมันจะตื่นมาตอนเขาลงไปพอดิบพอดี

     

    แล้วจงอินก็สัญญากับเรา ล..แล้วว่าจะไม่ไปไหนจนกว่าเรา ฮึก จะตื่น

     

    สรุปที่ไม่พูดเพราะตื่นมาแล้วไม่เจอเขาสินะ

     

    “ ไม่ได้ไปไหนเลยครับ ไปซื้อโจ๊กมาให้กินเผื่อมิตื่นมาแล้วหิวไง ” อธิบายไปก็รวบคยองซูเข้ามาในอ้อมกอดของตัวเองไปด้วย

     

    จงอิน  

     

    ครับ?

     

    คราวนี้อย่าเพิ่งไปไหน แล้วฟังเราจนจบได้ไหม ” คำขอร้องที่ทำให้จงอินพยักหน้ารับก่อนจะกระชับกอดร่างบางให้แน่นขึ้นเพื่อรอฟังสิ่งที่คยองซูจะพูด

     

    “ ระ เรารู้สึกแบบที่จงอินรู้สึก ฮือ เรารู้จริงๆนะว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร ฮึก เราไม่อยากให้จงอินไปกับใคร ไม่อยากให้จงอินจับมือกับใคร ฮืออ ไม่อยากให้จงอินทำกับใครทั้งนั้น อึก ไม่อยากให้ทำแบบ…บะ..แบบที่จงอินทำกับเรา ”

     

    น้ำตาที่เก็บกักเอาไว้มันพรั่งพรูออกมาราวกดเปิดสวิตซ์ ทุกสิ่งทุกอย่างที่คยองซูพูดคือสิ่งที่อยู่ในใจเขาทั้งหมด ไม่อยากปิดมันอีกแล้ว กลัวเหลือเกินว่าถ้าไม่รีบบอกออกไปจงอินจะหันหลังเดินจากเขาไปอีก แค่นึกคยองซูก็แทบทนไม่ไหวแล้ว บทเรียนในวันนั้นหัวใจของคยองซูก็สั่งให้ริมฝีปากเล็กเอื้อนเอ่ยคำๆหนึ่งออกไป…

                                                                                             

     

    “ ฮึก! เราว่าเราชอบจงอิน ฮืออ ได้ยินไหมว่าเร...อื้อ!!! ” ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเมื่ออยู่ๆ จงอินก็คว้าร่างเข้าไปจูบ จงอินกระชับฝ่ามือที่โอบรอบต้นคอขาวของคนตัวเล็กให้เอียงปรับองศาเพื่อรับจูบให้ง่ายขึ้น ดวงตากลมโตหลับพริ้มปล่อยให้ความรู้สึกและหัวใจทำหน้าที่นำพา แขนเรียวทั้งสองข้างยกขึ้นโอบรอบคอของจงอินแน่นเมื่อสัมผัสวาบหวามของลิ้นร้อนที่สอดเข้ามาชิมความหวานอย่างชำนาญ ความรู้สึกทั้งหมดในตอนนี้มันบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ถูก มันหวิวๆ ปั่นปวนไปหมดแต่ทว่าก็รู้สึกดีในเวลาเดียวกัน ตักตวงความหอมหวานนานพอจนจงอินเดาได้ว่าอีกคนคล้ายจะหมดลมหายใจ ร่างสูงก็กลับมาขบเม้มดูดดึงที่ริมฝีปากเล็กรูปหัวใจอย่างเย้าแหย่ก่อนจะผละออกมาพิงหน้าผากกับตำแหน่งเดียวกันกับคยองซู มือก็เช็ดคราบน้ำใสตรงขอบปากให้คนตัวเล็กที่กำลังสูดลมหายใจเข้าสู่ร่างกาย

     


    ความรู้สึกของไอ้มิ เขารับรู้ได้หมดทุกอย่าง ดีใจแทบบ้าที่ได้ยินคำว่าชอบออกกมาจากปากเล็กๆนั้น ในที่สุดเขาก็มั่นใจได้แล้วจริงๆว่าคยองซูกับเขาคิดตรงกัน บางทีความรู้สึกมันต้องมีคำพูดมาเน้นย้ำให้ชัดเจน และคยองซูก็ทำให้เขารู้แล้ว

     

    จงอินจ้องมองใบหน้าของคยองซูที่ขอบตารื้นไปด้วยน้ำตาของคนตรงหน้าก่อนจะกระซิบชิดริมฝีปากของอีกคนเสียงเบา “ อย่าร้องไห้นะครับ พอแล้วนะ ได้ยินชัดเลย

     


    น้ำตามันไม่เหมาะกับไอ้มิของเขาเลยจริงๆ ให้ตายสิ

     

    “ ก..ก็เพราะใครล่ะ ฮึก ” เสียงแผ่วเบาของร่างบางเหมือนจะยังไม่หยุดร้อง มีสะอื้นออกมาหน่อยๆจนจงอินอดไม่ได้ กดจูบไปที่ริมฝีปากเล็กเร็วๆแล้วถอนออก เขาคิดว่าคงไม่มีใครมีความสุขได้มากกว่าเขาตอนนี้อีกแล้ว ร่างสูงไล้สันจมูกไปบนจมูกจิ้มลิ้มของอีกคนเบาๆเพื่อบอกว่ารู้ว่าเขาอยากให้ไอ้มิหยุดร้องเสียที


     

    “ ไอ้คนที่ชื่อจงอินนี่มันแย่เน้อะมือใหญ่ค่อยๆใช้นิ้วโป้งปาดลงไปที่แก้มใสหวังเช็ดน้ำตาที่เปอะเปื้อนไปทั่วใบหน้าเนียน ปากก็พูดด่าราวกับชื่อจงอินไม่ใช่ชื่อของตัวเองและพร้อมจะไปจัดการทันทีหน้าตาเฉย

     

    อือ

     

    เจอแล้วจะจัดการให้เลยครับ ไม่ร้องไห้นะ ทำมิของกูร้องไห้ได้ไง… ”

     

                 ปั่ก! ปั่ก!

     

                 อึก ไม่ต้องถึงมือจงอินหรอก เราก็จัดการได้ ฮึก ” กำปั้นเล็กถูกกำหลวมๆก่อนจะตีไปที่อกแกร่งของอีกคนอย่างไม่แรงนัก โดยที่มีเสียงหัวเราะพร้อมมือใหญ่ที่กอดปลอบพร้อมปาดน้ำตาให้คนตัวเล็กไปด้วย

     

                 ยังจะมีอารมณ์มาเล่นอีก เขาคิดมากจะตายอยู่แล้วไม่รู้หรอไง

     

                  จงอินไม่รู้หรอกว่าเขาตกใจแค่นี้ที่ตื่นมาแล้วทั้งห้องเหลือเพียงความว่างเปล่า ในใจคิดไปต่างๆนานาว่าจงอินหายไปไหนแล้วจะทิ้งเขาไปอีกหรือเปล่า แต่พอได้ยินเสียงเปิดประตูใจมันก็ชื้นขึ้นแต่ก็อดกังวลไม่ได้ แต่เงียบไปก็ไม่ใช่ว่างอนอะไร แต่เขาพยายามกลั้นน้ำตาไว้ต่างหาก พอจงอินหายไปคยองซูก็เป็นคนขี้แยขึ้นมาทันทีแบบบังคับตัวเองไม่ได้

     

    คยองซู… ”

     

    “….”

     

    คบกั… ” 

     

                 !!!!


    ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด แกร็กก~

     

     

    “ คยองซู!!! แบคมาหาแล้ววว..อะ อุ้ยย

     

    “…”

     

    “…”

     

    ชานยอล กูว่าเรากลับกันก่อนดีกว่าเน้อะ รู้สึกเหมือนว่าจะโดนตีนยังไงก็ไม่รู้อ่ะ

     

    “ บยอนแบคฮยอนน!!!! ”

     

    ถ้าวันนี้ไอ้แบคฮยอนมันไม่ตายคาตีนอย่ามาเรียกเขาว่าคิมจงอิน!!!

     








     




    บยอนแบคฮยอนน!! กรี๊ดดดดดดด เข้ามาขัดจังหวะคู่นี้ตลอดเลยอ่ะ
    ฉันจะโดนรีดเดอร์ตบตายอยู่แล้วไม่รู้หรอ 5555555555555

    เกือบแล้วค่ะ คู่นี้เกือบแล้วแต่เรายังไม่ให้คบกันตอนนี้
    เดี๋ยวจบเร็วว ฮิฮิฮิฮิ
    เราจะอัพเรื่องอื่นมากขึ้นแล้วนะคะ
    อาจจะมีแววไม่ลงจบจนกว่าจะส่งหนังสือครบหมดแล้วนะเออ
    เพราะงั้นถ้าใครไม่อยากรอนานแนะนำให้ซื้อฟิคไปนอนอ่านนะคะ
    (ขายของตลอดดดดด)



    ทุกคนน เราเปิดเรื่องใหม่แหละ ตามไปอ่านกันได้นะคะ
    go go go
    (คลิ๊กที่รูปได้เลยจ้า)




    ใครยังไม่ได้จับจองเป็นเจ้าของฟิคเรื่องนี้
    กดที่รูปข้างล่างเลยค่าาาา ซื้อนะ *ขยิบตาปิ๊งๆ*

         






    เล่นแท็กกับคอมเม้นให้มิชชื่นใจหน่อยนะคะ
    กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญของคนแต่งฟิคนะเออ รักกกกก




    (c)  Chess theme
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×