คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : CHAPTER 08
08
“ มึง! ไอ้ดำ บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าคนที่มึงคุยอยู่ที่หน้าโรงเรียนคือใคร! ”
“ อะไร? ใคร? ” ก้าวเท้าเข้ามาในห้อง ก่อนจะเอาของที่พวกแฟนคลับให้ระหว่างทางวางลงบนโต๊ะข้างโซฟาที่มีไอ้เพื่อนตัวดีทั้งสองนั่งอยู่คนหนึ่งก็ยิงคำถามส่วนอีกคนก็จ้องมาเหมือนอยากจะรู้ ดูเหมือนว่าจงอินคงจะต้องได้ตอบคำถามอีกยาว
“ อย่ามา! กูเห็นมึงเดินเข้าโรงเรียนมาด้วยกัน ” คำพูดของแบคฮยอนที่ทำให้จงอินต้องส่งสายตาไปขอความช่วยเหลือจากชานยอล แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือสายตาที่บอกเป็นนัยๆว่า ‘ เรื่องนี้กูจะไม่ยุ่ง ’ ถอนหายใจก่อนจะเดินตรงไปหยิบกีต้าร์ตัวโปรดที่วางอยู่ใกล้ๆขึ้นมาและเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่ไม่ไกลจากโซฟามากนัก
“ มึงชอบเขาหรอวะ ? ”
กึก!
“ …. ”
“ ใช่สินะ หึหึหึหึ ” ตอนแรกก็ลองถามแหย่ไปอย่างงั้นเอง แต่เมื่อเห็นปฎิกริยาตอบรับของจงอินก็พอจะเดาได้ไม่ยาก มันเดาได้ตั้งแต่อยู่กันหน้าประตูโรงเรียนแล้วล่ะ เพราะดูก็รู้ว่าเดินมาโรงเรียนด้วยกันส่วนใครจะไปรับใครไปเจอกันที่ไหนอันนี้ไม่รู้ รู้แต่คนที่จะทำให้ไอ้จงอินมันแหกขี้ตาตื่นมาตั้งแต่เช้าแล้วเดินเข้าโรงเรียนมาแบบอารมณ์ดีได้คนนั้นคงจะไม่ธรรมดา
ชอบชัวร์ แบคฮยอนฟันธง!
“ แล้วไปรับเขามา คืบหน้าอะไรมั่งป่ะวะ? ” และก็เป็นชานยอลที่นั่งข้างๆเอ่ยถามออกมาบ้าง ไอ้ที่ไม่ได้แปลกใจที่แบคฮยอนบอกว่าจงอินอยู่หน้าโรงเรียนกับใครก็เพราะรู้อยู่แล้วว่ามันจะไปรับนกฮูกของมันที่บ้าน และคนที่บอกให้ไอ้ดำไปรับนกมันที่บ้านก็คือเขาเองเนี่ยแหละ
ตั้งแต่วันนั้นที่คยองซู(เค้นถามจากไอ้จงอินกว่ามันจะยอมบอก)มาหาเพื่อนเขาที่คอนโดและได้รับสถานะความสัมพันธ์ให้เป็น ‘เพื่อน’ ก็ดูเหมือนว่าเพื่อนของเขาที่ก็มีประสบการณ์ในเรื่องแบบนี้พอสมควรถึงกับไปไม่เป็น ปกติก็ไม่เห็นว่าเวลามันจะจีบใครจะต้องมาขอคำแนะนำกับเขาให้วุ่นวายแต่พอวันนั้นได้รับโทรศัพท์จากมันก็อดขำให้กับความขี้ป๊อดไม่กล้าจีบเด็กเนิร์ดแว่นๆอย่างคยองซูที่ดูยังไงก็ไม่น่าจะทำให้เพื่อนเขาเป็นหนักได้ขนาดนี้ไม่ได้
“ ยังหว่ะ กูยังไม่กล้าทำอะไรมาก ”
คำตอบที่ทำให้ชานยอลหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ก็กะเอาไว้อยู่แล้วว่าต้องได้รับคำตอบแบบนี้ เพราะเพียงแค่จะโทรไปหาหรือส่งข้อความไปมันยังไม่กล้าเลยจากสถิติที่เก็บรวมรวบมาตั้งแต่ได้รู้จักกับคิมจงอินมา แค่มันทำท่าว่าจะจีบใครไม่เกิน 5 วันหรอกเดินอวดไปทั่วโรงเรียน
“ เห้ยยๆ เดี๋ยวนะ กูยังอยู่ตรงนี้เห็นกูไหม คุยข้ามหัวกูเพื่อ? ” คนที่ไม่ได้อยู่ในวงสนทนาตั้งแต่เมื่อ10วิที่แล้วสลับตามองไอ้เพื่อนสองคนที่กำลังคุยอะไรที่แบคฮยอนผู้มีความสามารถในการรับรู้เรื่องของคนอื่นรอบตัวเร็วปานจรวดไม่รู้เรื่อง เริ่มหงุดหงิดแล้วนะโว้ย! เมินคำถามกันเห็นๆแถมยังคุยอะไรที่เขาเผือกไม่ได้อีก!
“ คนที่มึงควงๆมาก็มีตั้งเยอะแยะ จะมาตกม้าตายเพราะน้องมิของมึงเนี่ยนะ ”
“ สัด! ไอ้มิอ่ะ กูเรียกชื่อนั้นได้คนเดียว! ” ชื่อที่เขาเป็นคนตั้งเขาก็ต้องเป็นคนเดียวที่ได้เรียก จ้องชานยอลอย่างเอาเรื่องจนทำให้ทำเอาคนโดนสายตาอาฆาตต้องยอม
แค่ชื่อมึงยังขนาดนี้ เชื่อแม่งเลยจริงๆ
“ อ่ะ คยองซูๆๆ มึงพอใจยัง ”
“ เออ แต่กับไอ้มิมันไม่เหมือนกันนี่หว่า ” ต่างกันคนละเรื่องเลยก็ว่าได้ พูดไปก็นึกไปถึงหน้าของคยองซูที่ดูเหมือนว่าจะตามการกระทำของเขาไม่ค่อยทันเท่าไหร่ ที่วันนี้ไปรับตอนเช้าเนี่ยก็คงจะนึกว่าทำเพราะเป็นเพื่อน ทั้งที่ใครๆเขาก็ดูออกว่าสิ่งที่เขาทำมันอยากได้สถานะมากกว่าคำว่าเพื่อน จะเร่งรัดไปก็ไม่ได้ ตอนนี้ที่ทำได้ก็ได้แต่หาทางที่ว่าจะทำยังไงให้ไอ้มิเลิกคิดกับเขาแค่เพื่อน
“ ไม่เหมือนกันยังไง? ”
“ กูอยากค่อยๆเป็นค่อยๆไปว่ะ ”
“ งั้นเที่ยงนี้มึงลองส่งข้อความไปบอกให้คยองซูมาทวนวิชาที่เรียนไปดิ ”
และไม่แปลกอะไรที่ชานยอลจะรู้ว่าทำไมคยองซูถึงได้รับการไหว้วานจากครูให้เอาชีทไปให้จงอินและทวนวิชาที่คิมจงอินตามไม่ทัน ถ้าไม่ใช่เพราะความที่เป็นลูกชายสุดที่รักของผู้อำนวยการโรงเรียนอย่างปาร์คชานยอลที่เป็นคนไปขอร้องครูให้ระบุชื่อคยองซูส่งไปให้เพื่อนของเขา ใช่ มันไม่ใช่ความบังเอิญหรอกที่อยู่ๆคยองซูจะได้ที่อยู่พร้อมเบอร์ห้องของคิมจงอินไปง่ายดายขนาดนั้นถ้าไม่ใช่เพราะจงอินรู้อยู่แล้วว่าคยองซูจะต้องมาหา
คิมจงอินวางแผนเรื่องนี้เอาไว้หมดทุกอย่าง
“ นี่มันก็จะเรียนแล้วนะเว้ย ไอ้มิมันจะอ่านหรอวะ ” ถึงปากจะบอกปัดแต่มือก็ยกกีต้าร์วางลงแล้วล้วงลงไปหยิบเครื่องมือสื่อสารในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาดู
“ มึงกลัวเขาไม่อ่านหรือไม่กล้าส่งก็บอกกูมา ”
“ ไอ้ปาร์ค ใครไม่กล้าวะ นี่ไง!! กูส่งไปแล้ว!! ” คนไม่ชอบให้ใครท้าทายอย่างจงอินมีหรือจะอยู่เฉย ก้มลงไปกดอะไรในมือถือสักพักก่อนยกมันขึ้นโชว์เป็นหลักฐานว่าได้ส่งข้อความไปให้ไอ้มิของตัวเองเรียบร้อยแล้ว
‘ ไอ้มิ เที่ยงนี้มาทวนหนังสือให้กูด้วย ’
“ เออดี! แต่ข้อความที่มึงส่งไปนี้มึงขู่เขาหรือมึงจะจีบเขาวะ ”
“ เออน่า ช่างกู! ”
“ พวกมึง! กูยังอยู่นะรู้ยัง ”
“ เงียบไปก่อนเตี้ย เมะเมะเขาจะคุยกัน ” ชานยอลพูดกวนอารมณ์คนข้างๆอย่างสนุกสนาน ตอนแรกชานยอลก็ไม่รู้หรอกว่าไอ้คำว่าเมะเคะอะไรเนี่ยมันมาจากอะไร ก็ได้ยินมาจากแฟนคลับสาววายมาบ่อยๆว่า เซเมะ คือ ผู้ชายที่เป็นฝ่ายรุก อุเคะ คือผู้ชายที่เป็นฝ่ายรับ และทั้งเขาและจงอินก็ถูกแฟนคลับสาววายให้คำนิยามว่าเป็นเมะ แต่สำหรับแบคฮยอน ก็ต้องเป็นเคะไปตามระเบียบ และเมื่อเจ้าตัวได้รู้ว่าตัวเองยังไงก็ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของพวกแฟนคลับให้คิดว่าเป็นเมะได้ เวลาพูดถึงเรื่องนี้ทีไรเป็นต้องปรี๊ดแตกให้ได้ขำกันทุกที
“ ห่า!! เมะพ่องง!! กูก็เมะเหอะ! รุกอ่ะรุก! ”
“ อย่างมึงอ่ะรุกได้นะแบคฮยอน… ”
“ เออมันต้องอย่างงี้ไอ้ดำ! ” เริ่มยิ้มออกเมื่อมีคนเข้าข้าง แต่ยิ้มได้ไม่นานก็ต้องหุบยิ้มพร้อมทั้งคิ้วกระตุกไปกับประโยคต่อจากนี้ของจงอิน
“ …แต่รุก(ลุก)มารับนะ หึหึ ”
ครืดด~
เสียงข้อความเข้าทำให้จงอินต้องละจากแบคฮยอนก่อนจะกดเปิดข้อความเข้าใหม่ที่มาจากคนที่เขาเพิ่งจะส่งไปให้ด้วยความตื่นเต้น ก็ไม่ได้คิดหรอกว่าไอ้มิมันจะตอบกลับมาเร็วขนาดนี้ แต่ก็ต้องหน้าตึงเมื่อได้เห็นประโยคที่ตอบกลับมา…
‘ เราขอโทษนะ แต่เที่ยงนี่เราไม่ว่างแล้วล่ะ ’
“ เราขอโทษนะ เที่ยงนี้เราไม่ว่าง ว้าาาาา คิมจงอินนน คยองซูไม่ว่างว่ะ ฮ่าๆ ” ถือวิสาสะตอนที่เพื่อนกำลังหน้าตึงเดินไปชะโงกมองที่หน้าจอ อ่านออกเสียงข้อความเข้าด้วยเสียงดังฟังชัด ก็ที่มันคุยๆกันก็พอจะเข้าใจเรื่องราวทุกอย่างได้อยู่หรอกว่าไอ้ข้อความนี้มันเป็นของคนเมื่อเช้าที่จงอินอยู่ด้วย ล้อมันซะหน่อยเมื่อกี้แม่งพูดอะไรไม่เข้าหูแบคอย่างแรง!!
“โอ้ย! ไอ้ดำ ปล่อยแก้มกู!! ” แล้วก็ต้องตีไปที่มือของไอ้จงอินที่กำลังบีบอยู่ที่แก้มของตัวเองรัวๆ แค่ล้อแค่นี้ถึงกับต้องทำร้ายร่างกายเลย แม่งฝากไว้ก่อน!
“ ไม่ว่างหรอวะ ” ชานยอลเดินตรงมาจับแขนของจงอินให้หลุดออกจากแก้มของคนตัวเล็กข้างๆและก็เอ่ยถามย้ำคำตอบที่จงอินได้จากคยองซูให้แน่ใจ แต่ตาก็ยังเหลือบไปมองคนตัวเล็กที่พอหลุดจากจงอินมาได้ก็ลูบแก้มของตัวเองไปมา คาดว่าแรงบีบเมื่อกี้คงจะแรงไม่น้อยเพราะดูได้จากแก้มเนียนที่แดงระเรื่อนิดๆตรงที่จงอินออกแรงบีบ
“ เออ ”
“ เดี๋ยวๆ นี้มึงจะไปไหน ” ถามขึ้นอีกรอบเมื่อเห็นว่าเพื่อนตัวสูงของเขาลุกขึ้นเดินไปหยิบกระเป๋าทำท่าว่ากำลังจะออกไปข้างนอก
“ กูจะไปเรียน ” ใจร้อนไม่คิดนี่ที่หนึ่ง ชานยอลรีบคว้าไหล่จงอินให้นั่งลงที่เดิม “ ใจเย็นดิวะ! มึงปล่อยให้เขาได้ทำอะไรของเขาบ้างเหอะ ไปตามติดคยองซูแบบนั้นเขาก็อึดอัดดิ ” เมื่อเห็นมันนิ่งไปก็พูดต่อ
“ รอไปก่อน ไว้ตอนเที่ยงถ้ามึงทนไม่ไหวค่อยไปหาเขาโอเคไหม? ” รู้ว่านิสัยของจงอินเป็นยังไง อยากจะได้อะไรดั่งใจพอไม่ได้ก็ต้องเอาให้ได้เดี๋ยวนี้ อย่างเนี่ยเขาไม่ว่างตอนเที่ยงเขาเดาว่าที่รีบร้อนจะออกไปก็คงจะไปเค้นหาคำตอบจากคยองซูว่าทำไมอะไรยังไง โดยที่ปากตัวเองเพิ่งบอกไปว่าไม่รีบอยากค่อยเป็นค่อยไป แต่ไม่ได้รู้เลยว่ายิ่งไปทำแบบนี้ความสัมพันธ์อาจจะยิ่งแย่ลง
กูต้องมานั่งสอนมันใหม่ตั้งแต่ประโยคเริ่มจีบเลยไหม?
“ นี่ๆ กูแนะนำ มึงลองเปลี่ยนสไตล์การพูดดิ ” แบคฮยอนที่ตอนนี้ไปนั่งอยู่ที่โซฟาเหมือนเดิมพูดขึ้น จากที่จงอินจ้องมองชานยอลอยู่ก็หันมามองแบคฮยอนอย่างสนใจ เห็นแบบนี้แบคฮยอนน่ะร้ายยิ่งกว่าจงอินผสมชานยอลซะอีก กูรูด้านความรักอย่างแบคฮยอนผ่านมานับไม่ถ้วน มีปัญหาปรึกษาพี่แบคครัช
ก็จริงอยู่เมื่อกี้เขารีบร้อนเกินไปหน่อยก็แค่อยากไปเจอ อยากไปถามให้ชัดๆไปเลยว่าทำไมถึงส่งข้อความมาปฎิเสธเขาแบบนี้ทั้งๆที่ไอ้มิมันก็ไม่น่าจะมีธุระอะไรกับใครให้ทำเยอะแยะมากมายอยู่แล้ว แต่พอลองได้มาฟังชานยอลและแบคฮยอนพูดเขาก็เริ่มชะงักและคิดตาม
“ ยังไง? ”
“ก็แค่พูดให้มันหวานๆหน่อย อย่าไปสั่งเขาให้มากนัก ”
“…”
“ ไม่ต้อบถามนะว่ารู้ได้ยังไง แค่ที่มึงส่งข้อความไปหาเขากูก็รู้แล้ว ” พยักหน้าไปที่โทรศัพท์ในมือของไอ้เพื่อนดำ ตอนที่มันยกมือถือขึ้นมาให้ชานยอลดูสายตาไว้อย่างเหยี่ยวของเขาก็เห็นได้โดยง่ายว่าข้อความที่มันส่งไปคืออะไร จากที่เห็นก็พอจะรู้ว่าแม่งเวลาคุยกันก็คงจะขู่เขาซะส่วนใหญ่
“…”
“ ก็ไม่มีอะไรมาก แค่เติมคำว่า ‘ นะ ได้ไหม ไม่เป็นไร หรือเปล่า หรอ ’ ต่อท้ายเวลามึงพูด ” พูดไปเห็นหน้าไอ้ดำก็รู้ว่ามันคงไม่เข้าใจเท่าไหร่เลยต้องพูดเสริมต่อ “ อ่ะ เอาง่ายๆ มึงลองส่งข้อความตอบเขาไปดิ๊ มึงจะส่งว่าอะไร ”
“ ไปกับใครวะ ? งั้นมาหากูตอนเย็น? ” ตอบออกมาอย่างใจคิดแต่เหมือนว่าคำตอบของเขาจะใช้ไม่ได้เมื่อดูจากหน้าของทั้งแบคฮยอนและชานยอลที่มองเขาเหมือนว่าเขาทำอะไรผิดร้ายแรงอย่างงั้นแหละ ก็ทำไมล่ะ ไอ้มิบอกไม่ว่างเขาก็แค่อยากรู้ว่ามันทำอะไรแค่นั้นเองแล้วถ้ามันไม่ตอบกลับมาก็ไปหา คุยให้รู้เรื่องก็จบ
“ ใช้ไม่ได้ เดี๋ยวลองเติมคำที่กูบอกมึงไปเมื่อกี้ดู ” พูดไปตัวก็เขยิญไปด้านข้างโซฟาเมื่อชานยอลเดินมานั่งลงที่โซฟาข้างๆเขา ตาเหลือบไปมองขวางนิดๆใส่ไอ้โย่งอย่างขัดใจ ที่บนโซฟามีตั้งเยอะแยะดันมาแย่งนั่งที่ข้างๆเขา เบียดกูจะตกขอบอยู่แล้วถ้าไม่ไม่ติดว่าโซฟามีพนักวางแขนกั้นเอาไว้
“ ถ้ามึงเปลี่ยนเป็น ‘ไปกับใครครับ… งั้นไม่เป็นไร ตอนเย็นล่ะมิว่างหรือเปล่า’ แบบนี้น่ารักกว่าตั้งเยอะ ไหนลองพูดดิ๊ ”
“ เอาจริง? ”
“ เออ ”
“ เอาจริงดิ? ”
“ เอออ! ”
“ ไปกับใคร..ห..หรอ… โว้ยยยยย!! กูทำไม่ได้ ” แค่คิดว่าจะต้องไปพูดหรือส่งข้อความไปหาไอ้มิแบบนั้น เขาก็แทบที่จะทำไม่ได้ รู้สึกแปลกๆยังไงชอบกล
“ อะไรวะ! มึงก็แค่พูด ”
“ กูทำไม่ได้.. ”
“ พ่อง! มึงอย่าลีลา ทำไมมึงจะพูดไม่ได้ ”
“ กู…เขิน ”
กูจะทำได้ไหมวะเนี่ยย เหอะ! ทำไมกูต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยวะ!
ยืนวนไปวนมายืนบ่นยืนทะเลาะกับตัวเองไปเรื่อยๆ ตอนนี้เขามาอยู่ที่หลังตึกเรียน ที่ๆไม่ค่อยมีใครเดินผ่านมากนักเพราะยิ่งเวลาเลิกเรียนเด็กนักเรียนก็ยิ่งเยอะ ยิ่งคนพลุกพลานเขาก็ยิ่งไม่มีอิสระไหนจะแฟนคลับของเขาในโรงเรียนที่มีอยู่ทุกที่อีก เลยเลือกที่นี่ดีสุดแล้ว รอเวลาเข็มนาฬิกาเคลื่อนที่ไปยังเวลาโรงเรียนเลิกสักที
ห้ะ? อะไรนะ ข้อความ? อ๋อที่จะส่งข้อความตอบกลับไปให้ไอ้มิน่ะหรอ ไม่อ่ะ ไม่ได้ส่งอะไรแบบนั้นตอบกลับไปทั้งนั้นแหละ แค่ส่งกลับไปว่าจะมารอตรงนี้ตอนเลิกก็เท่านั้น ไม่ว่างตอนเที่ยงงั้นก็มารอมันตอนเลิกเลยแล้วกัน อย่าถามว่าทำไมไม่เข้าไปนั่งในห้องเรียนแล้วเรียนกับไอ้มิซะเลย การเข้าไปนั่งเรียนในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆนั้นทั้งวันเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาจะเลือกทำ เอาเวลาไป นอน ซ้อมดนตรี รับงานเดินแบบ ไม่ดีกว่าหรอ
“ จงอิน! ” เสียงร้องเรียกที่คุ้นหูทำให้จงอินหันไปมองตามเสียงเรียก ก็พบกับคยองซูที่ยืนแว่นหนายิ้มแฉ่งมาให้เขา
แต่เดี๋ยวก่อน…
“ ทำไมตัวถึงมอมแมมขนาดนี้ ไปทำอะไรมา ” พูดจบก็เห็นคนตัวเล็กชะงักไปนิดนึงก่อนจะก้มลงสำรวจเสื้อนักเรียนกางเกงนักเรียน มอมแมมเหมือนไปคลุกฝุ่นมาอย่างนั้นแหละ
“ เอ่อ อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก สงสัยตอนไปช่วยครูจัดของแน่เลย ” เงยขึ้นมาส่งยิ้มให้แล้วดันแว่นที่ใกล้จะหลุดออกจากสันจมูกเล็ก มือก็เริ่มปัดๆไปตามเสื้อตามกางเกงหวังจะให้คราบฝุ่นหลุดออกไปไม่มากก็น้อย
“ ที่มึ.. เอ่อ ที่ตอนเที่ยงส่งข้อความมาบอกว่าไม่ว่างเพราะไปช่วยครูหรอ ? ” พอได้เจอใบหน้าน่ารักๆใต้แว่นส่งยิ้มจ้องมองมาก็ทำให้ประโยคที่เมื่อกี้พอจะเตรียมๆไว้ว่าพูดยังไงต้องติดขัด ตอนซ้อมอยู่คนเดียวก็พูดได้ แต่พอเอาเข้าจริงก็ติดขัดซะจนอยากจะทึ้งหัวตัวเองตายๆไปซะ
“ อื้ม! ”
“ ช่างมันเถอะ ” ตอนนี้อะไรก็ไม่สำคัญเท่าสิ่งที่จะพูด
“ แล้ว… ”
“ เดี๋ยว! อย่าเพิ่งพูดอะไรนะ ฟังกูก่อน ” พอได้รับคำตอบโดยการพยักหน้ารับรัวๆจนแว่นจะหลุด จงอินก็ถอนหายใจออกมา สูดลมหายใจเข้าลึกๆอีกสักรอบเป็นกำลังใจให้ตัวเอง
นี้มันตื่นเต้นยิ่งกว่าเวลาเขาไปแคสงานเดินแบบครั้งแรกซะอีก
“ มิ..พรุ่งนี้…ว่างหรือเปล่า กู..เอ่อ เรา เอ่อไม่ๆ ฉัน แค่ถามดูถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไร แค่ชวนน่ะ ”
“…”
“…”
“ ยิ้มอะไร!…หรอ ”
ยิ่งไม่กล้าสบตาเข้าไปอีกจนต้องลู่ตาลงมองเชือกรองเท้าของตัวเอง เผลอตัวขึ้นเสียงใส่ไปหน่อยเพียงเพราะแค่เห็นว่าไอ้มิจ้องมาที่เขาแล้วอมยิ้ม รอยยิ้มน่ารักนั่นยิ่งทำให้เขาประหม่าเข้าไปอีก
กูเขินนะ! กูอายนะ! ไม่มีใครเข้าใจกูหรอก!!
“ เราเปล่านะ ” รีบส่ายหน้าพรืดปฎิเสธทันที
จงอินก็อยากจะเชื่ออยู่หรอกนะ ถ้าตอนส่ายหน้าคยองซูไม่ได้กลั้นยิ้มไปด้วย
โว้ยย! อยากจะบ้า!
“ ไม่ต้องมายิ้ม! ” จ้องแขม่งจนคนโดนสั่งค่อยๆหุบยิ้มลง
คยองซูก็แค่คิดว่าจงอินน่ารักดีเท่านั้นเอง
“ จงอิน… ”
“…”
“ จงอินไม่ต้องพูดอะไรที่ขัดกับตัวเองหรอก พูดอะไรที่จงอินอยากจะพูดเถอะไม่ต้องพูดเพราะๆกับเรามากนักก็ได้ …เราไม่อยากให้จงอินอึดอัด ”
“…สมมุติ”
“…”
“ …สมมุติว่าถ้ามีคนมาชอบมึง ไม่ได้พูดจาเพราะๆ จะชอบเขาตอบหรือเปล่า? ” จงอินเงียบไปสักพักเมื่อหยุดคิดอะไรบางอย่าง จนยอมเปิดปากพูด คำถามที่ถูกส่งมาทำให้คยองซูต้องเอียงคอสงสัยเล็กๆ ก่อนจะตีความได้ว่าที่จงอินพยายามฝืนพูดเพราะกับเขาต้องเกี่ยวกับคำถามที่จงอินถามมาแน่ๆ
เอ้อ แบบนี้นี่เอง จงอินกำลังฝึกพูดเพราะๆ เพียงเพื่อจะเอาไปพูดกับคนที่ชอบอยู่สินะ
“ สมมุติถ้าเกิดว่าเรา…จะชอบจงอินขึ้นมา เราก็ไม่ได้สนหรอกว่าจงอินจะพูดเพราะหรือไม่เพราะ เราคงชอบที่จงอินเป็นแบบนี้มากกว่า ”
พอมองก็เห็นว่าคนตัวเล็กตรงหน้าส่งยิ้มให้อยู่ก่อนแล้ว รอยยิ้มที่ไม่ว่าจะมองกี่ทีก็ทำให้เขาใจสั่นขึ้นมาทุกทีที่ได้เห็น ยิ่งเต้นแรงเมื่อได้ฟังคำตอบจากคยองซู ถ้าแม้ว่าในใจจะรู้อยู่เต็มอกว่าร่างบางแค่พูดขึ้นมาตามเรื่องที่เขาสมมุติเท่านั้น
จงอินอยากจะรู้จริงๆว่าคยองซูไปเรียนวิธีทำให้ใจเขาเต้นไม่หยุดแบบนี้มาจากที่ไหนกัน
“ แล้วเรื่องสมมุติที่มึงพูดเมื่อกี้ มันจะเกิดขึ้นจริงๆ…ได้หรือเปล่า ”
“…”
“ จะชอบกูจริงๆอย่างที่เพิ่งพูดได้หรือเปล่า ”
“ คนที่จงอินชอบเขาต้องชอบจงอินตอบแน่ๆ เชื่อเราสิ ”
“ กูหมายถึงมึง ..ไม่ได้หมายถึงคนอื่น ”
จงอินยังไงก็ยังคงความเป็นจงอินอยู่วันยังค่ำ ยิ่งมาได้ยินคำตอบของคยองซูแบบนี้คำพูดสวยหรูที่พยายามอยากจะพูดให้คนตรงหน้าพอใจตอนนี้ก็คงจะไม่ต้องแล้ว
เอาเป็นว่ายังไม่ล้มเลิกที่จะลองพูดเพราะๆกับไอ้มิดู แต่ค่อยๆเป็นค่อยๆไปแล้วกันไอ้การจะให้มาเปลี่ยนแปลงตัวเองเลยภายในไม่กี่ชม.มันก็ดูจะไม่ใช่สักเท่าไหร่
“ ?? ” คยองซูทำหน้างงจนจงอินอดเอามือไปขยี้ผมนุ่มของคนตัวเล็กตรงหน้าไม่ได้ รู้ดีว่าที่พูดไปเมื่อกี้ไอ้มิมันคงไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเรื่องสมมุติที่เพิ่งสร้างขึ้นมาทั้งหมดจริงๆแล้วถ้าเป็นคนอื่นคงจะรู้ไปแล้วว่าเขาเพิ่งบอกไปนัยๆว่าชอบนั่นแหละ แต่นี้เป็นคยองซู ยังไงคยองซูก็คือคยองซูอยู่วันยังค่ำ ไม่ได้หงุดหงิดหรือรำคาญที่อุตส่าพูดไปขนาดนี้แล้วร่างเล็กยังไม่เข้าใจ รู้สึกชินแล้วมากกว่า
เพราะไอ้มิมันเป็นแบบนี้
เขาถึงได้...ชอบ
“ เฮ้อ! เอาเป็นว่ายังไม่ต้องให้คำตอบตอนนี้หรอก แต่… ”
“…”
“ พรุ่งนี้เลิกเรียนไปกินไอติมกัน…นะ ”
เมื่อเห็นว่าคยองซูยังนิ่งอยู่ เลยถือโอกาสกดหัวเล็กขึ้นลงเบาๆเป็นเชิงบังคับให้พยักหน้าตอบรับ ก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อคนตัวเล็กเริ่มหน้านิ่วเป็นตูดเป็ด
โคตรน่ารักเลยว่ะให้ตายสิ!
“ จ..จงอิน ขี้โกงนี่! เรายังไม่ได้ตกลงเลย ” ไม่รู้จงอินคิดไปเองหรือเปล่าที่แอบเห็นว่าแก้มใสของคยองซูค่อยๆแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างน่าดู ใบหน้าเล็กพร้อมกรอบแว่นหนางุดหน้าลงจนคางแทบจะติดกับอก มันน่ารักซะจนจงอินอยากจะเลิกแสร้งทำเป็นเพื่อนที่แสนดีแปลงร่างเป็นจงอินคนเห็นแก่ตัวอยากดึงไอ้มิมาฟัดหลายๆรอบซะจริงๆ
“ ล้อเล่น หึหึ ถ้ามิไม่อยากกูก็ไม่บังคับหรอก ”
“ ก็ได้..ไปกินไอติมกันนะ ”
ถ้าใครได้มาเห็นคิมจงอินคนฮ็อตตอนนี้ คงไม่เชื่อแน่ๆว่าเขาจะยิ้มได้กว้างเท่าที่เคยกว้างมากได้ขนาดนี้ ไม่รู้ทำไมมันถึงต้องดีใจขนาดนี้ กับอีแค่ประโยคตอบรับว่าจะไปกินไอติมด้วยกันกับท่าทางที่คนตัวเล็กกำลังมองช้อนขึ้นมามองหน้าเขาด้วยรอยยิ้มแค่นั้นแหละเหมือนเขารู้สึกว่าเขาได้ชนะคนบนโลกทั้งใบแล้วล่ะ สงสัยเขาคงจะบ้าไปแล้วจริงๆ
“ พอดีเลย เราว่าเราอยากได้หนังสืออยู่พอดีเดี๋ยวไปดูกันนะ ”
“ อืม เอาสิ ”
“ ไปกินไอติมเสร็จซื้อหนังสือเสร็จค่อยไปทวนหนังสือกันนะ… ”
“ อืมม ได้หมดเลยครับ ”
อัพเกินให้ เป็นของขวัญให้ทุกคน ก่อนที่มิชจะไปอ่านหนังสือสอบ
ใครที่อยากเห็นคิมจงอินพูดเพราะกับน้องมิ เห็นแล้วนะ
ล่มไม่เป็นท่าเพียงเพราะน้องมิบอกว่า ชอบที่จงอินเป็นตัวของตัวเองแบบนี้มากกว่า
ถถถถถถถถ แต่นางน่ารักนะ ดูดูตอนสุดท้าย อืมม ได้หมดเลยครับ
มีครับด้วยนะแกรรรรร 55555555 อารมณ์ประมาณว่าได้หมด มิพาไปไหนไปได้หมด
จะพาขึ้นเขาลงห้วยพาไปตายจงอินไปหมดเลย ยอมทุกอย่างจริงๆ
หลงน้องมิขั้นสุดอ่ะ!! ถถถถถถถถถ
คอมเม้น & สกรีมในแท็ก เป็นกำลังใจให้เรามากๆเลย
เป็นแรงผลักดันให้เราอัพเร็วๆเพราะงั้นอ่านแล้วอย่าลืมกระตุ้นเราด้วยสองวิธีนี้นะ
บอกเลยเราอ่านทุกคอมเม้นทุกสกรีม ><
ความคิดเห็น