ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (END) ก็คนมันชอบ...좋아해 ♡ - KAISOO

    ลำดับตอนที่ #8 : CHAPTER 07

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ย. 59













    07

     



                     “ เดี๋ยวนี้ติดเพื่อนมากกว่าติดหม่าม๊าแล้วหรอเราน่ะ? ” เสียงทักที่ทำให้คนตัวเล็กที่กำลังจะตักข้าวเข้าปากต้องวางช้อนลงก่อนจะรีบตรงเข้าไปกอดเอวคุณแม่ยังสาวที่กำลังหันหลังเข้าหาที่ล้างจาน โดยองอา พูดด้วยน้ำเสียงเป็นเชิงแหย่กับลูกชายของตัวเอง

     

                      “ ม๊าา ลูกเปล่าสักหน่อย ” ปฎิเสธก่อนจะอ้อนด้วยการกดจมูกลงไปบนแก้มของผู้เป็นแม่หลายๆรอบ เมื่อโดยตัดพ้อ อยากให้รู้ว่ายังไงโดยองอาก็เป็นที่หนึ่งของคยองซูอยู่แล้ว

     

                      คยองซูมักจะชอบแทนตัวเองกับหม่าม๊าว่า ‘ลูก’ เสมอ อาจจะเป็นเพราะว่ามันเป็นคำพูดที่ติดมาตั้งแต่เขายังเด็กๆ

     

     

                      หม่าม๊าน้อยใจนะเนี่ย เพื่อนใหม่เป็นใคร หม่าม๊ารู้จักไหมครับลูก ? ”

     

                      “ ก็ ..เพื่อนที่โรงเรียนน่ะครับ ”

     

                      เอ๋ ใช่เพื่อนที่เมื่อวันก่อนมาส่งเราที่บ้านหรือเปล่า ? ” โดยองอายกมือขยี้ผมลูกชายของเธออย่างเอ็นดูเมื่อเห็นว่าคยองซูเหมือนจะดูเขินๆที่ต้องพูดถึงเพื่อนที่เธอแอบเห็นว่ามาส่งคยองซูถึงที่บ้าน เพื่อนของลูกชายที่ทั้งสูงยาวเข่าดี หน้าตาหล่อเหลาอย่างกับนายแบบขึ้นปกที่เธอคุ้นตา แถมยังเท่มากซะด้วย ไม่ได้หวังตั้งแต่แรกแล้วว่าลูกชายของเธอจะไปดูแลใครแต่ลูกชายของเธอเหมาะที่จะมีคนมาคอยดูแลปกป้องมากกว่า

     

                      ที่พูดตัดพ้อไปแบบนั้นเธอก็แค่อยากแกล้งแหย่คยองซูเท่านั้น ดีซะอีกที่เห็นว่าคยองซูจะได้มีเพื่อนกับเขาบ้างเพราะที่ผ่านมาลูกชายตัวเล็กของเธออยู่คนเดียวมาตลอดเพราะไม่ค่อยที่จะเข้าหาใครมันเลยทำให้เธอเป็นกังวล แต่พอสองสามวันมานี้เธอเห็นว่าคยองซูเริ่มที่จะออกไปไหนกับใครบ้างก็ทำให้คลายความกังวลไปได้ไม่น้อย

     

                      “ เอ่อ…ฮะ

     

                      หล่อซะด้วยนะ ไว้ว่างๆพา เพื่อนคนนี้มาแนะนำให้หม่าม๊ารู้จักมั้งนะครับลูก ” โดยองอาจงใจเน้นประโยคคำว่าเพื่อนอย่างมีเลศนัยก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเมื่อเห็นว่าลูกชายตัวเล็กของเธอเริ่มทำปากเบะ

     

                      ม๊าาาา

     

                      “ ฮ่าๆ  กินข้าวครับลูก เดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะ

     

     


     

     


                     

     

                      7 โมง 15 นาที

     

                      เขามาทำอะไรหน้าบ้านไอ้มิมันตั้งแต่เช้า

     

                      ดวงตาคมจ้องมองนาฬิกาบนข้อมือยืนพิงขอบรั้วบ้านของใครบางคนที่ทำให้เขาตื่นเช้าได้ขนาดนี้ถ้าไม่นับวันไหนที่มีถ่ายแบบเช้าหรือไอ้เพื่อนรักสองตัวโทรตามให้เข้าไปซ้อมรวมวง มืออีกข้างก็จับโทรศัพท์เอาไว้แน่นหน้าจอยังคงค้างอยู่ที่หน้าข้อความ

     

                      ยอมรับเลยก็ได้ว่าตั้งแต่วันนั้นที่ได้เบอร์มา คิมจงอินก็ไม่คิดที่จะทำอะไรเลยอย่างเช่นส่งข้อความหรือโทรไปหา ถ้าจะให้อ้างเหตุผลดีๆมาสักข้อก็คงจะบอกว่าก็งานมันเยอะไม่ค่อยว่างแต่ถ้าจะให้เอาตามความจริงก็คือ  เขาไม่กล้า 

     

                      ยิ่งคยองซูเพิ่งจะให้คำจำกัดความของคำว่า เพื่อน’ มาให้เขาแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้คิมจงอินทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้เลยว่าควรที่จะวางตัวยังไง เพราะถ้าเกิดว่าเขาทำอะไรเอาแต่ใจแบบเดิมอีกมันก็อาจจะทำให้คนตัวเล็กกลัวที่จะต้องอยู่กับเขาอีกก็ได้ ไม่อยากเห็นไอ้มิมันทำหน้ากลัวตัวสั่นเป็นลูกนกฮูกแบบวันนั้นที่เขาเผลอหอมแก้มไป…

     

                      คิดจะทำการใหญ่ใจต้องนิ่ง

     

                    ฟู่วว!  โทรหรือข้อความดีวะ ” ความสับสนเล็กๆที่มีมาตั้งแต่ก่อนมาถึงที่นี่ทำเอาคนที่ไม่เคยต้องมาคิดเล็กคิดน้อยอะไรแบบนี้ให้วุ่นวายอย่างเขาหงุดหงิด  หงุดหงิดกับร่างกายตัวเองที่มันทำตามหัวใจให้ถ่อมาถึงที่นี่

     

                    เอาวะ! โทรแล้วกัน แต่ขอซ้อมก่อน

     

                    อะฮึ่ม!!  เอ่อ ไอ้มิ! กูมารับ ไปโรงเรียนกันได้แล้ว!!  ….แม่งไม่ใช่ โหดไป 

     

                    เออ หวัดดีไอ้มิ กู เอ่ออ กูเอง พอดีว่าเป็นห่วงกลัวหลงทางเลยมารับไปเรียน จริงๆก็ไม่ได้อยากจะมาหรอกเห็นว่าเป็นเพื่อนกันน่ะนะ….!! เชี่ยย โคตรแย่! ”

     

                    นี่ถ้าแถวบ้านไอ้มิคนผลุกผล่านซักนิดคงต้องมีคนหาว่าเขาบ้าแน่ๆ

     

        “ กูก็ไม่ได้อะไรหรอก ก็แค่ผ่านมาอะนะ… ”

     

                     “….กูผ่านมาทางนี้พอดีกูเลยจะมาเดินไปโรงเรียนเป็นเพื่อน 

     

                     ..เอ่อ  ได้สิ ไปโรงเรียนกัน

     

                  !!!!

     

                  น้ำเสียงที่แทรกขึ้นมาเมื่อกี้มันทำให้จงอินไม่ต้องคิดให้เสียเวลา หน้าหล่อๆค่อยๆหันไปด้านหลังที่มาของต้นเสียงที่เขาได้ยินเมื่อกี้ ร่างเล็กที่กำลังยืนส่งยิ้มน่ารักๆนั่นมาให้คิมจงอิน

     

                   น่าอายชิบหาย!

     


          “ …..ออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ”

     

     

          “ ก็..มาทันตอนที่จงอินพูดอะไรอยู่คนเดียว

     

     

          “ แล้ว เอ่อ ได้ยินอะไรบ้าง ” ในตอนนี้คิมจงอินจะไม่ขออะไรเลยถ้าคนตรงหน้าแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูดไปเมื่อกี้ทั้งหมด ใครจะไปคิดว่าอยู่ๆคยองซูจะเดินมาอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ไอ้มิมันเดินเบาหรือเขาเองที่จมอยู่แต่กับการสรรหาคำพูดมากไปจนไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง

     

          แต่ก็ดูเหมือนว่าจงอินคงจะไม่ได้ตามที่ขอ…

     

                      ก็ตั้งแต่จงอิน ..อะฮึ่!! แบบเนี่ย ” ไม่พูดเปล่าแถมยังทำท่ากำมือแล้วยกขึ้นมารองเอาไว้ตรงปากก่อนจะทำน้ำเสียงล้อเล่นเขาอีก คนตัวเล็กดูเหมือนจะชอบใจที่ได้เห็นความน่าอายของเขาแบบนี้ 

     

                      เออดี หมด หมดกัน ความเท่ของคิมจงอิน

     

                      ล้อกูหรอไอ้มิ ” แกล้งทำหน้าดุกลบเกลื่อนความน่าอายของตัวเอง แต่ดูเหมือนว่าคยองซูจะไม่กลัวแถมยังส่งยิ้มแบบที่ชอบทำมาให้เป็นคำตอบ

     

     

                      ก็จงอินตลกนี่! ” คยองซูพูดก่อนจะยิ้มกว้าง เจ้าตัวคงจะไม่ได้รู้เลยว่ารอยยิ้มของตัวเองมีอิทธพลต่อคิมจงอินขนาดไหน  พอได้เห็นใบหน้าเล็กๆนั่นประดับไปด้วยรอยยิ้มแค่นั้นจงอินก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้ ความง่วงที่เคยมีเพราะตื่นเช้ามันหายไปปลดทิ้งเมื่อได้มาเจอกับคนตัวเล็กตรงหน้า  ท่าทางที่ดูจะไม่กลัวเหมือนก่อนแถมยังส่งยิ้มหวานมาให้เขาขนาดนี้ แค่นี้วันทั้งวันของจงอินคงไม่มีเรื่องให้ต้องอารมณ์เสีย

     

         ดูเหมือนว่าพอเป็นเพื่อนกันแล้วไอ้มิจะดูทำตัวสบายๆกับเขามากขึ้น

     

                      ว่าแต่ ทำไมจงอินผ่านมาแถวนี้ล่ะ คอนโดจงอินกับบ้านเรามันคนละทางเลยนะ ” เอียงคอเล็กๆเป็นเชิงถาม มือก็กระชับสายกระเป๋าบนไหล่แน่น ก่อนจะรีบสาวเท้าให้เดินตามร่างสูงที่เริ่มออกตัวเดินไปข้างหน้าเมื่อฟังคำถามจบ

                     

                      เอาไงดีวะ

                      ลืมคิดคำตอบเอาไว้ด้วยดิ!


                      “ ….”

                      ก็ได้ เราไม่อยากรู้ก็ได้ ” เขาไม่เห็นหรอกว่าไอ้มิมันทำหน้ายังไงตอนที่พูดเพราะเดินอยู่ข้างหน้า แต่น้ำเสียงของมันทำให้เขาต้องถอดหายใจ

     

                      “ เออๆๆ กูอยากไปโรงเรียนกับมึง จบนะ แล้วไม่ต้องถามต่อ กูจะไม่ตอบแล้ว! ”

     

                      โอเคเราจะไม่ถามต่อ..”

     

                      “…”

     

                      ว่าแต่จงอินมาทางเดิมหรือเปล่า จริงๆแล้วมันจะมีอีกทางนึงมันเป็นทางลัดหน่ะ ถ้ามาทางนั้นจะเร็วกว่าเยอะเลย

     

                      “…”

     

                      แถวๆนั้นมีร้านอาหารร้านนึงอร่อยมากๆเลย ไม่แพงด้วย เราว่าถ้าจงอินได้ไปกินต้องติดใจเหมือนเราแน่ๆเลย ผ่านไปทีไรเรากับหม่าม๊าเราไปเหมาเขาเกือบหมดร้านแน่ะ

                     

          “ อืม

     

                      “ เอ่อ เราพูดเยอะไปใช่ไหม เราว่าเราเดินอยู่เงียบๆดีกว่า ”

     

                      ไม่หรอก พูดไปดิ กูชอบฟังมึงพูด

     

                      “ เราก็แค่ไม่อยากให้คนที่อยู่กับเราต้องเบื่อไปมากกว่านี้น่ะ ”

     

                      “…”

     

                      เพราะแค่มาอยู่กับคนแบบเรามันก็น่าเบื่อพออยู่แล้ว

     

                      กึก!

                      ใครบอกมึง

     

                      “….”

     

                      ถึงใครจะเบื่อ กูไม่เบื่อก็แล้วกัน


         หันไปมองหน้าคนตัวเล็กที่ยังคงจ้องมาที่เขา ดวงตากลมโตคู่สวยภายใต้แว่นหนานั่นไม่มีแววของความอ่อนแอเหมือนในประโยคที่พูดออกมากลับเห็นแต่รอยยิ้มกว้างของไอ้มิเท่านั้น คำพูดที่คนอื่นพูดจงอินก็คงจะคิดว่ามันก็แค่ประโยคเรียกร้องความสนใจ ที่ต้องการได้รับความเห็นใจ แต่กลับกันพอมันออกมาจากปากของคนตรงหน้า เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่คยองซูพูดคือสิ่งที่เจ้าตัวหมายความว่าแบบนั้นจริงๆ

     

         อะไรที่ทำให้คยองซูมีความคิดแบบนั้น

     

                      และเวลาเพียงไม่นานก็เดินมาจนเห็นรั้วโรงเรียน จะว่าไปจากบ้านไอ้มิถึงโรงเรียนมันก็ไม่ได้ไกลเท่าไหร่ หรือเขารู้สึกไปเองว่าเวลามันเดินเร็วกว่าปกติ ถึงแม้ว่าเขาเลือกที่จะเดินนำหน้าคยองซูให้คนตัวเล็กเดินตามก็เถอะ แต่จงอินก็รู้สึกว่ามันจะดีกว่าที่จะต้องให้ไอ้มิเห็นว่าเขาทำสีหน้ามีความสุขยังไงที่ได้ฟังมันพูดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เพราะหลังจากที่เงียบกันไปได้สักพักคนตัวเล็กก็ยิ้มกว้างก่อนจะชวนเขาคุยโน่นคุยนี้ต่อ

     

                      จงอินเดินเร็วจัง เราตามไม่ทัน ” พูดจบก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งให้ทันเดินไปข้างๆคนคนโต แต่ดูเหมือนว่าคนตัวเล็กจะลืมดูรถบนถนนที่กำลังวิ่งมาทางด้านหลังด้วยความเร็ว…

     

     

    ปี๊นนนน!!

     

     

                      หมับ!!

     

                      เห้ยยย!! ” มือใหญ่เผลอกระชับร่างของคนตัวเล็กที่เดินข้างๆเข้ามาติดกับตัวเมื่อกลัวว่าจะโดนรถคันเมื่อกี้ ทั้งที่เข้าเขตโรงเรียนแต่กลับขับเร็ว ถึงแม้ว่าในเวลานี้นักเรียนจะไม่ค่อยเยอะมากเพราะยังค่อนข้างเช้าก็เถอะ ถ้าเกิดเมื่อกี้เขาคว้าไอ้มิเอาไว้ไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้นก็ยังไม่รู้

     

     

                      “ …ไม่เป็นไรนะ

     

     

                      อื้อ เราไม่เป็นไร ” เหมือนว่าคยองซูจะดูตกใจกับเหตุการณ์เมื่อกี้อยู่นิดๆ ดวงตากลมโตตื่นขึ้นนิดๆจนทำให้จงอินลูบเบาๆตรงไหล่ที่กอดอยู่ ยิ่งมองดูดีๆแล้วเมื่อเอาไอ้มิมากอดไว้แบบนี้ทำให้จงอินรู้ว่าคนตรงหน้าตัวเล็กกว่าที่เขาคิดเอาไว้และก็ต้องนิ่งไปกันทั้งคู่เมื่อเริ่มมีสติรับรู้ว่าระยะห่างในตอนนี้แทบจะเรียกได้ว่าใกล้ชิดกันจนได้ยินเสียงลมหายใจ

     

     

                      ตึกตัก  ตึกตัก  ตึกตัก ตึกตัก

     

                      ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเสียงใจเต้นนี่มันเป็นของใคร

     

     

                      ..อืม ก็ดีแล้วหนิ  ไปอยู่ห่างๆกูได้แล้ว ไปเดินข้างในเดี๋ยวรถก็สอยเอาไปด้วยอีก ” พูดจบก็ดันคนในอ้อมกอดกลับไปยืนอยู่ข้างในถนนให้ตัวเองเป็นคนยืนด้านนอกเองก่อนจะยกมือขึ้นเกาท้ายทอยแก้เขิน ใจจริงอยากจะเดินโอบมันเดินเข้าโรงเรียนด้วยซ้ำ แต่ด้วยความเป็นเพื่อนที่อีกฝ่ายมีให้มันค้ำคอ เลยทำให้คิมจงอินทำตามใจตัวเองได้ลำบากขึ้น

     

     

                      “ เอ่อ ขอบคุณ… ”

     

     

                      คยองซู! ” เสียงเรียกที่ทำให้ทั้งเขาและคยองซูต้องหันไปมอง หญิงสาวร่างเล็กที่พอดูจากขอบปกเสื้อสีแดงของเครื่องแบบนักเรียนแล้วก็คิดว่าคงจะเป็นรุ่นพี่ปี 3 โรงเรียนของเขาจะแบ่งเป็นสี สีเหลืองจะเป็นของมัธยมต้นและมัธยมปลายปี 1 สีน้ำเงินคือมัธยมต้นและมัธยมปลายปี 2 และสีแดงก็เป็นของ ปี 3 ไปตามลำดับ และเมื่อเดินมาใกล้ๆก็เห็นว่าทั้งหญิงสาวรุ่นพี่กับคยองซูดูจะไม่ได้สูงต่างกันมากเท่าไหร่ ตัวพอๆกัน ไม่น่า..เลยรู้จักกันได้  

     

                      “ อ๊ะ! นูน่า

     

                      นี่ใคร ? ” เห็นไอ้มิทักทายจงอินก็เลยต้องขมวดคิ้วเอ่ยถามออกไปอย่างสงสัยโดยที่หญิงสาวรุ่นพี่ก็ได้ยินในสิ่งที่เขาถาม แต่ใครจะสน ในตอนนี้คนที่เขาสนก็มีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ

     

                      คยองซู รีบไปกันเถอะ! ”

          ยังไม่ทันที่จะได้คำตอบ หญิงสาวที่คยองซูเรียกว่านูน่าก็ตรงเข้าไปจับแขนร่างบางก่อนจะดึงให้เดินไปด้วยกัน ถ้าจงอินสายตาไม่ได้แย่เกินไปเมื่อกี้เขาเห็นเหมือนว่ารุ่นพี่ปี 3 คนนี้จะมองเขาด้วยสายตาไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่

     

                       เอ๊ะ  เอ่ออ งั้นเราไปก่อนนะจงอิน

     

                      “ …อะไรวะไม่ทันที่จะได้รั้งอะไรก็เหมือนว่าร่างเล็กๆทั้งสองคนจะจากไปอย่างรวดเร็ว จนคนที่หวังจะได้อยู่กับไอ้มินานกว่านี้อีกหน่อยได้แต่นึกโทษคนมาใหม่อยู่ในใจ แต่ก็เห็นว่าทั้งคู่รู้จักกันก็เลยไม่ได้คิดจะเดินตามไปเพราะยังไงก็ยังมีเวลาอีกทั้งวันให้ได้เจอ


     

     

     

     

     

                     ชานยอลลล ชานยอลโว้ยยย! ” แรงผลักประตูเข้ามาบวกกับเสียงเรียกที่ทำเอาคนที่กำลังนั่งอ่านโน็ตเพลงในมือถึงกับต้องส่ายหน้า เสียงดังแบบนี้มีอยู่คนเดียว เตี้ยแล้วยังจะเสียงดังอีกให้ตายสิ จะมีวันไหนบ้างที่แบคฮยอนมา แล้วเสียงมันจะไม่มาก่อนตัว

     

         “ มีอะไร? ”                  

     

         “ อะ..ไอ้ชานยอล เรื่องใหญ่แล้ว เรื่องใหญ่ พอวางของบนโต๊ะเสร็จเรียบร้อยก็รีบตรงเข้าไปชิดปาร์คชานยอลทันที และด้วยความที่กำลังอึ้งทึ้งกับเรื่องที่ได้ไปประสบพบเจอมาเลยทำให้แบคฮยอนไม่รู้จะเริ่มพูดจากตรงไหนก่อนดี

     

                      ใจเย็น เวลามึงตื่นเต้นเป็นแบบนี้ทุกที

         มือใหญ่เอื้อมไปจับที่ต้นคอของอีกคนที่กำลังตื่นเต้น ลูบเบาๆเพื่อให้คนตรงหน้าตั้งสติ

     

                      อะไร! กูไปตื่นเต้นให้มึงเห็นตอนไหน ” แบคยอนหลบสายตาของคนตัวสูงกว่าจนชานยอลต้องยกยิ้มมุมปากกับการกระทำที่ตรงข้ามกับคำพูด ปากเก่งตลอด

     

                      ก็ตอนเรา… ” ชานยอลเลือกที่จะก้มลงไปกระซิบข้างหูของคนตัวเล็กกว่า  พูดอะไรบางอย่างต่อจากประโยคที่พูดเกริ่นเอาไว้ที่ทำให้คนฟังหน้าแดงขึ้นมาทันที

     

                      อะ ไอ้ โอ้ยยพอ! จะหยุดไม่หยุด! ” สะบัดตัวออกห่างทันทีเท่าที่จะทำได้  การกระทำที่เรียกเสียงหัวเราะจากปาร์คชานยอล ทำให้ร่างบางหน้าบึ้งเข้าไปใหญ่

     

     

                      แกล้งกันได้นี้สนุกนักรึไงไอ้โย่ง!

     

                      “ เออ  ฮ่าๆ กูไม่แกล้งมึงแล้ว มีอะไรก็พูดมา? ” พอหัวเราะจนพอใจก็เอ่ยเข้าเรื่องทันที

     

                      มึง! กูเห็นไอ้ดำอยู่กับใครไม่รู้หน้าโรงเรียน!! ”


                   เมื่อกี้หลังจากที่เดินเข้าโรงเรียนมา พอหันหลังกับไปก็เผอิญเจอเข้ากับใครบางคนที่สีหัวดูคุ้นๆตา ก็ฟันธงเลยว่าเป็นไอ้เพื่อนดำของแบคแน่นอน กะว่าจะเข้าไปแซวว่าอะไรดลใจให้มันนึกครึ้มตื่นเช้าอาบน้ำแต่งตัวมาโรงเรียนได้ แต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อเห็นว่ามันไม่ได้อยู่คนเดียว และก็ยิ่งต้องชะงักเข้าไปใหญ่เมื่อเห็นว่าคนที่ไอ้ดำอยู่ด้วยไม่น่าจะใช่คนประเภทแบบที่เพื่อนดำจะอยากจะเข้าไปทำความรู้จักด้วยแน่ๆ

     

                   อื้ม แล้วไง ? ”

     

                      แล้วไง?  นี่มึงไม่แปลกใจเลยหรอไง

     

                      อืม ไม่อ่ะ

     

                      แสดงว่ามึงรู้จัก?  บอกกูมาเลย! ”

     

                      “ หอมแก้มกูก่อน เดี๋ยวบอก ” เอานิ้วจิ้มเข้าไปที่แก้มของตัวเองบอกตำแหน่งจนทำให้คนมองนึกหมั่นไส้อยู่ตะหงิดๆ น่ารักตายแหละ!!

     

                      พ่องง!!  งั้นกูไปถามไอ้ดำเองก็ได้ ไม่ต้องลำบากมึงหรอกครับ ” แบคฮยอนทำทางจะลุกออกไปแต่ก็ต้องหยุดเมื่อไอ้เพื่อนตัวดีที่เขาอยากเจอเปิดประตูเข้ามาให้เผือกพอดี

     

     

         “ นั่นไง มันมาให้มึงถามแล้ว ตายยากจริงๆ

     

               

     

     

     

     


                  คยองซู ” เมื่อโดนลากออกมาหยุดยืนอยู่ที่ข้างหน้าตึกเรียน หญิงสาวรุ่นพี่ก็เอ่ยปากเรียกจนทำให้คนโดนเรียกยิ้มรับ

     

                 อึนจองนูน่ามีอะไรหรอครับ ” อึนจองนูน่าเป็นรุ่นพี่ที่คยองซูรู้จัก เขาเจอกับอึนจองนูน่าตอนที่เลือกชมรม หญิงสาวก็เหมือนเป็นพี่สาวที่คยองซูเคารพคนหนึ่ง

     

                 นูน่าไม่อยากให้เราไปยุ่งกับคิมจงอินอะไรนั้นเลยอ่ะ

     

                 ทำไมล่ะครับ

     

                 คยองซู จงอินอะไรนั่นน่ะแบดบอยจะตาย แล้วถ้าคยองซูไปยุ่ง พวกสาวกมันก็จะแกล้งคยองซูอีกไม่กลัวหรอไง ” หญิงสาวตรงเข้าเขย่าร่างของคยองซูไปมาเพื่อให้เข้าใจว่าถ้าคยองซูไปยุ่งอาจจะโดนหมายตาจากบรรดาพวกขี้อิจฉราที่คลั่งจงอินอยู่ก็ได้ ยิ่งเมื่อกี้เธอเหมือนว่าจงอินเดินเข้าโรงเรียนมากับคยองซู เขาก็ยิ่งไม่อยากให้คยองซูเข้าใกล้

     

                 นูน่าบอกจงอินไม่ดี แต่ชานยอลก็เป็นเพื่อนกับจงอินนะครับ

     

    “ เอ่อ ก็เว้นชานยอลไว้คนหนึ่งไง ”

     

    คยองซูสนิทกับอึนจองพอสมควร พอที่จะรู้ว่าหญิงสาวรุ่นพี่เป็นแฟนคลับอันดับหนึ่งของชานยอลเลยก็ว่าได้

     

    ผมกับจงอินไม่ได้มีอะไรแบบนั้นอย่างที่นูน่าเข้าใจหรอกครับ นูน่าไม่ต้องเป็นห่วงนะ

     

    จะไม่ให้เป็นห่วงได้ยังไง เราน่ะสู้ใครเขาเป็นที่ไหนกัน

     

                 มีอึนจองนูน่าอยู่ทั้งคน ผมก็ไม่กลัวอะไรแล้ว

     

     

                  ถึงจะเป็นแบบนั้นก็เถอะแต่เธอก็เป็นห่วงคยองซูอยู่ดี

     

     


                






    เฮ้!  ตัวละครมาใหม่เพิ่มขึ้นอีกตัวนึงแล้วสินะ สินะ
    ใครที่รอคู่ชานแบค เริ่มแล้วนะคะ นางเริ่มออกมาให้เห็นกันบ้างแล้ว
    บางคนบอกไหนวะที่ไรต์บอกว่ามี ft. Chanbaek ด้วยไม่เห็นจะมีเลย
    มีแล้วนะแจ้ะะะะ และก็จะเริ่มมีมาเรื่อยๆ รอก่อนเน้อะยังไม่อยากให้คู่นี้มาแย่งซีนคู่หลักของเรา

    ฮี่ๆ ยังไงก็ติดตามกันไปเรื่อยๆเลยนะคะ ห้ามทิ้งเค้านะ
    ขอบคุณทุกๆคนมากจริงๆที่ให้การตอบรับกับฟิคไร้สาระไม่มีเนื้อหาให้รกสมองเรื่องนี้ 5555
    รักนะคะ จุ๊บ จุ๊บบบบบ! แล้วเจอกันคะ อิอิ


    เพลงน่ารักมั้ย อยากรู้ว่าเพลงอะไรทวิตมาหาเก๊าได้นะตะเอง 
    \(>q<)/



    มิชจะอัพเร็วหรือไม่เร็วขึ้นอยู่กับรีดเดอร์ทุกคนนะคะ
    เม้นท์ & สกรีม กันเยอะก็จะมาต่อเร็วเพราะกลัวจะรอกัน
    แต่ถ้าไม่ค่อยมีเม้นท์หรือสกรีมเราก็จะต้องขอดองเอาไว้ก่อน อิอิ



    (c)  Chess theme
       








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×