ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (END) ก็คนมันชอบ...좋아해 ♡ - KAISOO

    ลำดับตอนที่ #19 : ตอนพิเศษ : THANK FOR FANFAV.

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ย. 59




    เนื่องในโอกาส แฟนเฟบครบ 9000 คน
    เลยอยากจะขอบคุณคนอ่านทุกคนที่น่ารักของมิชโดยการลงตอนพิเศษ
    ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในเรื่องนะคะ
    เป็นตอนพิเศษหลังจากเขาเป็นแฟนกันแล้วอะเน้อะ
    ขอให้สนุกนะคะ รักนะ จุ๊บ!!







    좋아해 Special

     

     

     

     

     

     

     

     

    กรุ๊งกริ๊ง ~

     

    เสียงกระดิ่งที่แขวนไว้ที่ประตูไม้ส่งเสียงก้องกังวานเมื่อประตูไม้ถูกผลักออกด้วยมือใหญ่ของชายหนุ่มร่างสูงที่เสื้อผ้าหน้าผมถูกจัดแต่งให้เหมือนหลุดออกมาจากรันเวย์ พอเข้าบ้านมาได้ก็เดินตรงเข้าไปในครัวอย่างคุ้นเคยเสมือนเป็นบ้านของตัวเองด้วยใบหน้าที่ติดจะง่วงนอนอยู่หน่อยๆ แต่พอเจอคนที่ตัวเองตั้งใจเข้าไปหาก็ต้องพยายามทำหน้าไม่ง่วงส่งยิ้มสุดเท่ไปให้

     

    ม๊า สวัสดีครับ ” พอเห็นว่าคุณแม่ยังสาวที่กำลังยุ่งอยู่กับการทำอาหารเช้าต้อนรับวันเสาร์อยู่หน้าเตาหันมาส่งรอยยิ้มที่คุ้นตาเพราะได้เห็นมันจากแฟนของตัวเองอยู่บ่อยๆ มาให้ก็ทำให้คิมจงอินอดยิ้มกลับไปไม่ได้

     

    เห็นรอยยิ้มแบบนี้แล้วก็แทบอยากจะขึ้นไปหาคนข้างบนซะเดี๋ยวนี้

     

    “ อ้าวมาแต่เช้าเลย เพิ่งเสร็จงานหรอลูกเสื้อผ้าหน้าผมจัดเต็มมาเลย กินข้าวมาหรือยังล่ะจงอิน นี่ม๊าทำของโปรดเราไว้เพราะน้องบอกว่าเราจะมา

     

    น้องที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ลูกชายคนเดียวของหม่าม๊าที่คิมจงอินคนนี้ตั้งใจจะมารับทั้งๆที่เพิ่งจะเลิกถ่ายงานไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วนี่เอง ไม่สนใจจะเปลี่ยนชุดเปลี่ยนอะไรเลยสักนิดถ่ายเสร็จก็รีบบึ่งรถของผู้จัดการส่วนตัวที่ขอยืมมาก่อน มาที่นี่เลยทันที ก็ดูเอาแล้วกันว่าคิดถึงแฟนขนาดไหน

     

    เดี๋ยวไว้ก่อนก็ได้ครับม๊า ว่าจะขึ้นไปหาลูกม๊าก่อนน่ะครับ คิดถึง ” คำพูดที่ทำให้คุณแม่ยังสาวหัวเราะด้วยความหมั่นไส้ปนเอ็นดู ตอนนี้จงอินก็เหมือนเป็นคนในครอบครัวของเธอคนหนึ่งไปแล้ว ทุกครั้งที่แฟนของลูกชายมาบ้านก็มักจะเอาของฝากมาฝากหรือไม่ก็เข้ามาคุยเล่นกับเธออยู่เสมอ ด้วยความที่จงอินเอาใจคนแก่แบบเธอเป็น มันเลยทำให้ทั้งเธอและจงอินสนิทกันไปโดยปริยาย

     

    “ จ่ะ ตามสบายเถอะพ่อคุณ ถ้าง่วงมากก็ขึ้นไปนอนกับคยองซูก่อนก็ได้นะลูก น้องคงยังไม่ตื่นหรอก

     



     

                  หลังจากขอตัวขึ้นมาชั้นสองของบ้านได้แล้วร่างสูงก็เดินไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องนอนที่คุ้นตาก่อนจะค่อยๆบิดลูกบิดประตูให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อจะไม่ให้เจ้าของห้องรู้ตัว และก็เป็นอย่างที่หวัง ปิดประตูห้องเสียงเบาก่อนจงอินจะค่อยๆเดินไปหยุดอยู่ข้างๆเตียงนอนลายนกฮูกน้อยสีน้ำตาลเข้าชุดกันทั้งหมอนผ้าปูผ้าห่มที่ดูเหมาะกับร่างเล็กที่กำลังหลับตาพริ้มนอนกอดตุ๊กตาหมีคู่ใจอยู่บนเตียงอย่างไม่ได้รับรู้เลยว่ามีใครบุกรุกเข้ามาจนเขาอดคิดไม่ได้ว่าถ้าไม่ใช่เขาคนตัวเล็กตรงหน้าจะทำยังไง

     

                  ผ้าห่มที่อยู่หมิ่นๆตรงปลายเตียงทำให้เดาได้ว่าเจ้าตัวคงร้อนเลยถีบออกจนเห็นเสื้อนอนลายการ์ตูนที่เลิ่กขึ้นมาเผยหน้าท้องขาวนิดๆแบบที่ทำให้คนมองมีความคิดจิตอกุศลกับแฟนตัวน้อยที่นอนยั่วเขาแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวขึ้นมา

     

     

                หื้มม นอนยั่วขนาดนี้ลักหลับเลยดีไหมเนี่ย

     

     

     

     

     

     

            ว่าแล้วก็ค่อยๆหย่อนตัวลงไปนั่งบนเตียงนุ่ม ปัดปอยผมของอีกคนก่อนจะโน้มลงไปกดจูบที่หน้าผาก จูบซ้ำย้ำไปทั่วไปหน้าจนใบหน้าน่ารักที่ยังคงไม่ลืมตามามองอะไร ยู่หน้าอย่างขัดใจเมื่อมีอะไรมาปลุกให้ตื่นจากฝัน

     

            อือออ~ ” คนตัวเล็กเบี่ยงหน้าไปมาเพื่อหนีการก่อกวนของผู้มาใหม่ที่ยังคงสาละวนอยู่ที่แก้มนิ่มอย่างชอบใจ จากที่ล้ามาเพราะถ่ายงานจนสว่าง ก็รู้สึกมีกำลังขึ้นมาทันทีเพียงแค่ได้เห็นหน้าไอ้มิ   

     

            ยัง ยังไม่ตื่นอีก ” คนตัวสูงหัวเราะออกมานิดๆ เมื่อเห็นว่าไม่ว่าจะปลุกยังไงดวงตากลมโตคู่สวยก็ไม่มีท่าทีว่าจะลืมขึ้นมาให้เห็นเลยสักนิด

     

             มองไปก็อยากจะจับตีมากกว่าจับลักหลับเมื่อเห็นว่าแว่นตาที่ตอนแรกจงอินไม่คิดจะชอบเลยแต่ตอนนี้กลับไม่อยากให้ไอ้มิคิดถอดก็ยังคงวางไว้บนสันจมูกได้รูปของคนตัวเล็กแบบที่ดูก็รู้ว่าคงเผลอหลับไปเลยไม่ได้ถอดแน่ๆ ไม่ใช่แค่นั้นในมือที่กำลังโอบตุ๊กตาก็จับโทรศัพท์เอาไว้แบบหลวมๆจนทำให้คนมองถอนหายใจ

     

              ไม่ใช่ว่ารอโทรศัพท์จากเขาจนผลอยหลับไปหรอกนะ


             เมื่อคืนตอนสองทุ่มเขาเป็นคนบอกเองว่าไม่ต้องรอเพราะถ่ายแบบดึก ให้นอนไปก่อน ยังไงพรุ่งนี้ก็เดี๋ยวไปหาแต่เช้า แต่พูดไปก็เหมือนจะไร้ประโยชน์เมื่อมาเห็นกับตาว่าไอ้มิมันหลับคาโทรศัพท์ไปแบบนี้ 



             ก็ดูเอาแล้วกันว่าเชื่อฟังกันแค่ไหน

     

             มือใหญ่คว้าเข้าที่กระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาก่อนจะกดโทรออกด้วยเบอร์ด่วนเบอร์แรกที่ตั้งเอาไว้เป็นเบอร์ของไอ้มิจนเสียงเรียกสายของโทรศัพท์เครื่องในมือเล็กจะส่งเสียงร้องออกจนทำให้คนตัวเล็กสะดุ้งนิดๆแต่ก็ยังไม่ได้ลืมตา โทรศัพท์ถูกกดรับสายแล้วเอามาแนบหูอย่างอัตโนมัติเหมือนตั้งระบบไว้

     

              ..จงอิน ” เสียงง่วงเงียที่ดูจะตื่นเต้นกับการโทรมาของเขาบวกกับใบหน้าน่ารักที่ยังไม่ยอมลืมตาทำให้คนมองแทบอยากจะเข้าไปจับฟัดให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ยังทนยื่นมองกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์ที่ถือแนบหูของตัวเองเพื่อตอบ

     

               อะไร ทีเมื่อกี้ปลุกล่ะไม่ตื่น พอโทรเท่านั้นแหละตื่นเฉย

     

               “ ดูง่วงนอนนะ นอนต่อไหม

     

               “ ฮื่ออ ” ครางหงิ้งๆเหมือนลูกแมวแล้วก็ยกมืออีกข้างขึ้นขยี้ตาแต่ก็ไม่ได้ลืมตาเต็มที่อะไร ก่อนริมฝีปากรูปหัวใจจะหาวออกมาเพราะความง่วงยังมีอยู่เต็มเปี่ยม ภาพน่ารักๆที่ทำให้คิมจงอินหลุดยิ้ม คิดอยากจะแกล้งไอ้มิอีกสักหน่อย

     

                อยากขี้เซา ก็ต้องโดนแบบนี้แหละ

     

    “ งั้นนอนไปแล้วพรุ่งนี้กูค่อยมารับ

     

    ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์หม่าม๊าอนุญาติให้เขาเอาไอ้มิไปนอนกอดที่คอนโดได้สมใจ ช่วงเวลาเสาร์อาทิตย์ก็เหมือนช่วงเวลาที่ทั้งเขาแล้วก็ไอ้มิจะได้อยู่ด้วยกันแบบเต็มเวลา ไม่ต้องไปเรียน ไม่ต้องรับงาน เพราะแบบนี้เขาถึงได้รับขับรถมาหาไอ้มิยังไงหล่ะ

     

               “ ไม่เอา ไม่นอนแล้ว ” เสียงของไอ้มิ ติดจะง้อเขานิดๆมันทำให้ต้องกลั้นยิ้มมากขึ้นไปอีก จะขี้เซาอะไรขนาดนั้น ปากบอกไม่เอา ไม่นอนต่อแต่ตาน่ะยังไม่ลืมเลย

     

               แฟนใครทำไมน่ารัก ให้ตายสิ!!

     

               “ ทำไมล่ะ ดีเลยกูจะได้ไปอยู่กับกิ๊กกู ” กิ๊กเก๊ออะไรไม่มีหรอก แกล้งบอกไปงั้นแหละ

                 

               “ ม..ไม่เอา..มิไม่ให้จงอินไป..ตื่นแล้ว..เราตื่นแล้ว..ฮื่อ...จงอินมารับมินะ ”  ประโยคคำสั่งปนขอร้องแล้วก็อ้อนไปในประโยคเดียวกันมันทำให้ร่างสูงต้องกลั้นยิ้มจนเมื่อยปาก หัวใจมันพองโตเต้นรัวไปหมดเมื่อที่ได้เห็นว่าไอ้มิแสดงอาการหวงเขาออกมาแบบนี้
     

               ปกติแล้วถ้าไม่ใช่ว่าทำผิดหรืออยากอยากจะอ้อนจริงๆ ไอ้มิมันก็ไม่ค่อยแทนตัวเองว่า 'มิ' เท่าไหร่มันเลยทำให้พอได้ฟังแล้วก็รู้สึกว่าไอ้มิมันน่ารักน่าฟัดขึ้นอีกเป็นสิบเท่า

     


     

    คนตัวเล็กรีบตื่นขึ้นมาเพราะกลัวว่าปลายสายจะไปอยู่กับกิ๊กจริงๆตามที่บอก แต่ก็ต้องเบิกตาโตๆนั้นมากขึ้นไปอีกเมื่อรู้ว่าคนที่คุยอยู่ในโทรศัพท์มาปรากฏตัวนั่งจ้องหน้าเขาพร้อมทั้งหัวเราะ ใบหน้าน่ารักที่แสดงสีหน้าว่าตกใจสุดขีดแบบเพิ่งตื่นบวกกับผมที่ยุ่งนิดๆ มันทำให้คิมจงอินละสายตาไปไม่ได้จริงๆ

     

                !!!!

    จงอินอ่ะ!! ”

     

                บอกเลยว่า…

                น่ารักชิบหาย!!!!!!



     

     

     

                พรึบ!

                อดใจไม่ไหวดึงให้ไอ้มิมันลุกขึ้นมานั่งก่อนจะรั้งเอาคนตัวเล็กเข้ามาไว้ในอ้อมกอดทันทีแบบที่ตอนแรกไอ้มิมันก็ขัดขืนแต่คงรู้ว่ายังไงก็สู้แรงเขาไม่ได้ก็เลยนั่งอยู่นิ่งๆให้เขากอดแต่โดยดี
     

                “ ตกลงวันนี้กูขอไปหากิ๊กนะ ได้ไหม? ”
               ยังไม่จบ ยังอยากเห็นแฟนตัวน้อยออกอาการหวงตัวเองอยู่ ได้เห็นแล้วมันชื่นใจ

     

                “ … ”

                “ ว่าไง

                จริงๆก็รู้คำตอบได้จากแขนเล็กที่เริ่มกอดตอบแถมกอดเอวเขาเอาไว้แน่นแต่ร่างสูงก็ยังอยากถามต่อ  

     

                “ ก็....ถ้าจงอินอยากไป เราก็คงห้ามไม่ได้ ”

     

                งั้นกูไปนะ ” จงอินทำท่าจะลุกจริงๆอย่างที่พูด แต่พอจะผละออกแรงกอดตรงเอวกลับไม่ยอมปล่อย

     

     

    “ ตกลงให้ไปหรือไม่ให้ไป ”

     

    ขวับ ขวับ

                กลุ่มผมนิ่มที่อยู่ตรงอกส่ายไปมาเป็นคำตอบว่า ไม่ให้ไปไหน  ไอ้มิซุกหน้าอยู่กับอกเขาไม่ยอมเงยขึ้นมามองเลยว่าเขายิ้มกว้างจนเมื่อยปากมากแค่ไหน อะไรทำให้แฟนของเขาน่ารักได้ขนาดนี้ ให้ตายสิ!            

     

                “ โอเคๆ กูไม่ไปหรอก กูต้องอยู่กับแฟน ไม่อยากให้แฟนงอน หึหึ ” พอคนตัวเล็กได้ยินเขาหัวเราะ ก็เงยหน้าขึ้นมามอง แก้มใสแดงระเรื่อขึ้นมานิดๆสงสัยจะเขิน เสียงพึมพำว่าถูกแกล้งอีกแล้วของไอ้มิทำให้ร่างสูงต้องหัวเราะออกมาใหม่

     

                “ จงอิน..เอ่อ…มานานหรือยัง ยังไม่ได้กลับไปที่คอนโดเลยหรอ ” พอคยองซูได้มองสำรวจเสื้อผ้าหน้าผมของคนตรงหน้าแบบเต็มๆตา ก็รู้ว่าจงอินคงยังไม่ได้กลับเปลี่ยนชุดหรือทำอะไรที่คอนโด สงสัยเสร็จงานแล้วก็มาที่นี่เลย

     

                “ ไม่นาน อยากมารับก่อนแล้วค่อยกลับคอนโดกัน ” พูดจบก็จับมือเล็กทั้งสองข้างมาประกบอยู่ที่หน้าของตัวเองจนตาโตๆมองมาเป็นเชิงถามว่ากำลังจะทำอะไร

     

    “ วันนี้กูหล่อนะ ออกไปเดทกันป่ะ ”

     

                ริมฝีปากรูปหัวใจค่อยๆฉีกยิ้มจนเห็นตาปิดพร้อมพยักหน้าขึ้นลงเร็วๆ มันน่ารักมากจนหัวใจของจงอินเต้นเร็วเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ของวันนี้


               อะไรจะมีความสุขไปกว่าการได้อยู่กับแฟนล่ะจริงไหม

     

               

     

     

     

     

     

     

                ใช้เวลาเพียงไม่นานทั้งจงอินและคยองซูก็มาถึงห้างที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลคอนโดมากนักเพราะจะได้ตรงกับไปที่คอนโดเลยแบบไม่ต้องเสียเวลา แต่ก่อนจะมาถึงก็มีเรื่องให้ทะเลาะกันนิดหน่อยระหว่างขับรถมาที่นี่

                ก็จะเรื่องอะไรหล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะวันนี้ไอ้มิมันแต่งตัวน่ารักเกินไปน่ะสิ  จะเรียกว่าทะเลาะหรอก็ไม่หรอกเขาเนี่ยแหละที่โวยวายอยู่คนเดียวเหมือนคนบ้า!!

     

                “ กูไม่ชอบเสื้อนี้ บอกให้ไปเปลี่ยนชุดๆ เคยฟังกันบ้างป่ะ ดื้อตลอด ” พอจูงมือไอ้มิผ่านร้านเสื้อผ้าก็พูดทุกครั้งจนรู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนแก่ที่บ่นเป็นหมีกินน้ำผึ้ง

     

                “…” เนี่ย พอพูดอะไรไปก็เงียบ จนเขาต้องถอนหายใจออกมารัวๆ

     

                รู้บ้างไหมเนี่ยว่าหวง

     

                เสื้อคอกลมสีฟ้าลายทางที่พอใส่ก็เห็นหมดว่าตัวไอ้มิมันเล็กแค่ไหนแถมบางนิดๆจนเขารู้สึกหงุดหงิดเวลาที่ได้เห็น ก็เข้าใจว่านี้มันหน้าร้อน ใจนี้อยากจับมันใส่เสื้อแขนยาวกางเกงขายาวให้มันรู้แล้วรู้รอดแบบไม่สนสภาพอากาศเลย แต่ทำไม่ได้ไง

     

                “ จงอิน เราอยากกินไอ้นั้นๆ ” คนตัวเล็กบีบมือใหญ่เบาๆแล้วกระตุกก่อนจะใช้อีกมือชี้ให้ดูว่าอยากกินไอศกรีมร้านที่อยู่ตรงข้ามกับร้านที่พวกเขายืนอยู่

     

                เปลี่ยนเรื่องล่ะสิไม่ว่า แบบนี้มันน่าจับตีนัก

     

     

     

                คยองซู! คยองซูหรือเปล่า ”

     

                แต่ก็ยังไม่ทันจะได้ก้าวเท้าเดินไปก็มีเสียงทุ้มดังขึ้นจากด้านหลัง หันไปก็เห็นผู้ชายที่สูงพอๆกับเขากำลังยืนยิ้มค้างส่งสายตาว่าดีใจสุดๆที่ได้เจอไอ้มิของเขา กรอบแว่นหนาๆกับทรงผมที่มันดูขัดกับรูปร่างหน้าตามันทำให้เขารู้สึกว่าไอ้นี่มันเนิร์ดแบบเต็มขั้น

     

     

                ยังไม่ทันได้สำรวจต่อมือที่จับกันถูกคนตัวเล็กบิดให้หลุดออกจนเขาต้องมองมือที่หลุดออกไปอย่างหงุดหงิด แต่พอจะคว้ากลับมาใหม่ก็สายไปเพราะตอนนี้ไอ้มิมันเดินเข้าไปคุยกับไอ้แว่นโย่งนั้นเรียบร้อยแล้ว

     

                “ มินฮยอก! มาทำอะไรที่นี่ ???

     

                นี่มันเรื่องบ้าอะไร

    แล้วไอ้แว่นโย่งที่ยิ้มแป้นให้แฟนเขามันเป็นใคร!!

               

     

     

    พอมันทำท่าจะเดินเข้ามาใกล้ไอ้มิ ก็ไม่ได้รอช้าเดินไปแทรกอยู่กลางวงทันทีแบบไม่คิดจะรักษามารยาททางสังคมจนไอ้โย่งแว่นมันเริ่มขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ แต่ใครแคร์ คุยกันน่ะไม่ต้องคุยใกล้ก็ได้ไหม ถ้าคุยกันไม่ได้ก็ไม่ต้องคุยครับ ไปไหนก็ไป

     

     

     

    “ เอ่อนี้ใครหรอคยองซู ” เออ ตอนนี้เขาก็สงสัยเหมือนกันว่าไอ้เนี่ยเป็นใคร มาจากไหน รู้จักกันได้ยังไงสงสัยมากจริงๆ โคตรจะสงสัย แต่ถ้ามันถามมาก่อนเขาก็จะตอบให้มันหายสงสัยก่อนก็ได้ว่าเขาเป็นใคร

     

    “ เป็นผั…. !!! ” ยังไม่ทันได้พูดให้จบประโยคมือของไอ้มิก็ยกขึ้นมาปิดที่ปากของเขาเหมือนจะรู้ว่าเขาจะพูดอะไรก่อนจะเป็นคนตอบคำถามไอ้โย่งที่รอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อด้วยหน้าตาซื่อๆ  คนตัวเล็กถอดหายใจพรืดใหญ่ก่อนจะตอบ

     

    “ ค..คือ มินฮยอกนี่จงอิน เป็น..เอ่อ...แฟนเราเอง เหมือนคำตอบที่ได้มันจะทำให้จงอินพอใจ คยองซูเลยเอามือที่ปิดปากจงอินออกก็เห็นว่าจงอินกำลังส่งยิ้มที่ติดจะเหยียดๆแบบผู้ชนะไปให้อีกคน จนคยองซูต้องถอนหายใจออกมาอีกรอบ

     

    จงอินน่ะเป็นแบบนี้ตลอดเลย เวลามีใครเข้ามาใกล้ๆจะรู้จักหรือไม่รู้จัก จะแค่เดินมาถามทางหรือแค่เข้ามาทักทาย ถ้าจงอินไม่รู้จัก จงอินก็ไม่ชอบให้คยองซูคุยอะไรกับใคร แถมบ้างครั้งยังไปหาเรื่องคนนั้นอีก พอถามก็บอกว่าหึงบ้างแหละ กลัวจะมีคนมาจีบบ้างแหละ ความจริงน่ะไม่มีใครเขาคิดแบบนั้นเลย ก็มีแต่จงอินเนี่ยแหละที่กลัวไปเองคนเดียว เขาไม่มีอะไรให้คนอื่นสนใจด้วยซ้ำ ไม่เห็นมีอะไรให้จงอินต้องหงุดหงิดเลยสักนิด

     

               

                “ จงอิน นี่มินฮยอก เพื่อนเราเอง ”

     

                “ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ คุณจงอิน ” อีกฝ่ายว่าก่อนจะส่งมือจะทักทายมาตรงหน้าจงอินที่กำลังหรี่ตามองอย่างไม่ชอบใจก่อนจะปัดมือนั้นลงอย่างไม่รับไมตรีใดใดทั้งสิ้น

     

    การกระทำที่มันอาจจะทำให้อีกคนยั่วะได้ แต่ไม่…

     

                มันยิ้ม

     

               

                “ ยิ้มไรของมึง ”

     

    ทนไม่ไหวเลยเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียหงุดหงิด อยากรู้มันจะยิ้มอะไรนักหนา ยิ้มในที่นี้คือยิ้มตาหยีเห็นฟันครบทุกซี่ แบบคนซื่อบื้อๆของยิ้มกัน

     

    “ ผมยิ้มเพราะผมแค่ดีใจที่ได้เจอคยองซูครับคุณจงอิน ” พูดเสร็จก็เอามือข้างนึงดันแว่นกรอบหนาพอๆกับของไอ้มิขึ้นไปชิดสันจมูกแล้วหันไปยิ้มให้ไอ้มิแบบที่ไม่ได้เห็นหัวเขาเลยสักนิด แถมไอ้มิมันก็ยังยิ้มตอบอีกเนี่ยดิ!!

     

    คนอะไรทำไมครบสูตรของคำว่าเชยได้ขนาดนี้

     

    เชยตั้งแต่หน้าตา เสื้อผ้า ยันคำพูดแม่งเลย!

     

    หงุดหงิด!

     

    “ จะเลิกยิ้มได้ยัง แฟนกู ระวังหน่อย

     

    “ รู้ครับว่าเป็นแฟนกัน เมื่อกี้ได้ยินชัดแจ๋วหูไม่ได้มีปัญหา ”

     

    กวนตีน!

     

                “ เอ่อ…มินฮยอก เราจะไปกินไอศกรีมร้านนั้นพอดี ป..ไปด้วยกันไหม ” คยองซูคิดว่าตอนนี้เขาควรทำอะไรสักอย่างก่อนที่จงอินจะอารมณ์ไม่ดีไปมากกว่านี้  ความจริงก็อยากจะขอตัวแยกออกมาเหมือนกันแต่จะให้คยองซูพูดไปแบบนั้นกับเพื่อนที่นานๆได้เจอที คยองซูทำไม่ได้จริงๆ

     

                “ อื้ม เอาสิ… ”

     

                “ มึงคงรู้นะว่านี่เป็นคำชวนมารยาท ความหมายคือมึงจะไปไหนก็ไปได้แล้ว ”

     

    “ จงอินน!  ...มินฮยอกเราขอเวลาแปปนึงนะ ” คนตัวเล็กดึงแขนร่างสูงให้เดินมาด้วยกันเพื่อห้ามไม่ให้จงอินทำอะไรเสียมารยาทไปมากกว่านี้ โชคดีที่เพื่อนเขาคนนี้เป็นคนไม่คิดมาก ถ้าจงอินพูดแบบนี้กับคนที่นิสัยไม่ดีๆจงอินอาจจะได้หมัดแน่ๆ แล้วพอโดนคยองซูก็จะไม่ช่วยหรอกทำแผลให้หรอกนะ จะแลบลิ้นใส่ให้ด้วย

     

    จงอินทำตัวไม่น่ารักเลย

     

    “ ไม่ต้องมาจับ ” พอเดินออกมาห่างจากตรงนั้นพอสมควร ร่างสูงก็บิดแขนให้ออกจากมือเล็กที่จับอยู่อย่างอารมณ์ไม่ดี คยองซูทำได้แค่กลั้นยิ้มกับนิสัยเหมือนเด็กเอาแต่ใจของจงอิน

     

    “ จงอินน คุยกับเพื่อนเราดีๆหน่อยไม่ได้หรอ ” จริงๆคยองซูก็พอจะรู้อยู่แล้วว่าที่จงอินหงุดหงิดมันเพราะอะไรถ้าไม่ใช่จากเพื่อนของเขา แต่ตอนนี้คยองซูก็แค่อยากคุยกับจงอินให้เข้าใจก่อนว่ายังไงมินฮยอกก็คือเพื่อนของเขา จะมีใครสบายใจบ้างที่เห็นแฟนตัวเองกับเพื่อนเข้ากันไม่ได้น่ะ จริงไหม

     

    มินฮยอกน่ะเป็นลูกของเพื่อนหม่าม๊า อยู่คนละโรงเรียนแต่ที่ได้มารู้จักกันก็เพราะหม่าม๊าชอบนัดรวมตัวกับแก็งเพื่อนมาคุยย้อนความหลังกันที่บ้าน ก็รู้จักกันตามภาษาคนมีแม่เป็นเพื่อนกัน แต่ถ้าถามว่าสนิทกันไหม คยองซูก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าสนิทได้หรือเปล่าเพราะมันนานมาแล้วที่ได้เจอกัน ตอนเด็กๆตอนรอพวกหม่าม๊าคุยกันก็เล่นด้วยกันบ่อยๆ แต่พอโตขึ้นก็ไม่ค่อยได้มาเจอกัน ล่าสุดจำได้ว่าหม่าม๊าเคยพูดให้คยองซูฟังว่ามินฮยอกน่ะเรียนเก่งจนได้ทุกไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ รับรู้ความเป็นไปของกันและกันแต่ก็แทบจะไม่ได้เจอกันเลยสักที

     

     

    “ แล้วเรื่องอะไรกูต้องคุยกับมันดีๆ ”

     

    “ แล้วทำไมจงอินต้องให้มินฮยอกมาทำให้เราทะเลาะกันด้วย เราไม่อยากให้จงอินเป็นแบบนี้ ” จับมือใหญ่เอาไว้แน่น บีบเบาๆเพื่อให้อีกคนรู้ว่าเรื่องมันจะไปกันใหญ่แล้ว ทั้งๆที่มันไม่มีอะไรเลย

     

    “…”

     

    “ นะ ”

     

    “ เออๆ กูแค่ต้องพูดกับมันดีๆใช่ไหม ”

     

    “ อื้อ ”

     

    “ แค่กินไอศกรีมแล้วแยกเลยนะ ”

     

    “อื้อ”

     

    “ แค่เพื่อนกันแน่ใจนะ ”

     

    “ อื้อ ”

     

    “ กูหล่อกว่ามันใช่ไหม ”

     

    ก็ไม่ได้คิดมากอะไรหรอกนะ แค่รู้สึกว่าไอ้แว่นโย่งมันดูเข้ากับคยองซูมากกว่าตัวเองยังไงไม่รู้ ถ้าให้ไปถามใครคนอื่นนี่ก็มั่นใจนะว่าตัวเองต้องหล่อกว่าอยู่แล้ว แต่กับไอ้มิ… ไม่มั่นใจสักนิดว่าไอ้มิมันชอบใครมากกว่ากัน แล้วถ้ามันเกิดตอบว่าเป็นไอ้แว่นโย่งนั้นเขาจะทำยังไง

     

     

    “ อ..เอ่อ เราขอคิดก่อ… ”

     

    “ มิ!! :'(

     

    “ ก็ ค..ใครแฟนเราคนนั้นแหละหล่อ จงอินจะถามทำไม ”

     

    “ เหอะ! แล้วไป ถ้ากูมีคนอื่นมาจีบบ้าง มึงจะยังยิ้มได้แบบนี้ไหม

     

    “ เราไม่เป็นแบบจงอินหรอก เราใจกว้างกว่าจงอินเยอะมากๆ ”

     

    “ หึ ”

     

    “ จงอินคิดมากอ่ะ ไปหามินฮยอกกันดีกว่า ” พูดจบก็จูงมือจงอินให้เดินกลับไปหาร่างสูงอีกคนที่ยืนส่งยิ้มมาให้

     

    “ นั่น กูพูดไม่ทันจบ รีบไปหามันทำไม ”

     

    ไม่ฟังๆ ถ้าจงอินยังทำตัวไม่น่ารัก เราจะกลับบ้าน ” คนตัวเล็กจับมือจงอินเอาไว้แน่นจนทำให้จงอินต้องจำใจเดินไปด้วย

     

     

    ให้ตายสิ! แพ้ทุกทีเลย

     

     

     

     

     

     

     

     

    @ร้าน Ice-cream8812

     

                บรรยากาศภายในโต๊ะตอนนี้มีเห็นจะมีเพียงคิมจงอินเท่านั้นที่รู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกิน ถึงจะเลือกมานั่งคั่นกลางระหว่างไอ้มิกับไอ้แว่นโย่งเพราะโต๊ะที่เลือกมันเป็นโต๊ะกลม แต่ก็เหมือนว่าไอ้โย่งมันจะไม่ได้สนใจยังคงชวนไอ้มิคุยข้ามหัวเขาต่อไป

     

                เหอะ!!

     

                “ มินฮยอก ไม่รับโทรศัพท์หรอ มันดังหลายครั้งแล้วนะ ” ที่คยองซูทักก็เพราะเห็นว่าตั้งแต่เข้ามาในร้านมือถือของคนตรงข้ามดังและสั่นไม่หยุด แต่พอถามไปแบบนั้นมินฮยอกก็แค่ยิ้มตอบแล้วก็ส่ายหน้า

     

                “ เดี๋ยวเอาไว้ก่อนก็ได้ คยองซูหม่าม๊าเป็นยังไงบ้างระหว่างรอไอศกรีมที่สั่งไปมาเสิร์ฟ มินฮยอกก็เริ่มบทสนทนาขึ้น  

     

                หม่าม๊าเราสบายดี แต่มินฮยอกกลับมาเมื่อไหร่ ก็อย่างที่บอก ล่าสุดเท่าที่หม่าม๊าเล่าให้ฟังก็ได้ยินว่ามินฮยอกได้ทุนไปเรียนต่อ  แต่พอเห็นว่ามาอยู่ที่นี่ก็เลยแปลกใจนิดหน่อย

     

                “ ตอนนี้มันเป็นช่วงซัมเมอร์น่ะ เลยบินกลับมา แหะๆ

     

                “ ไอศกรีมได้แล้วค่ะ ทานให้อร่อยนะคะ ” คุยกันไปเรื่อยๆจนไอศกรีมที่สั่งมาเสิร์ฟ

     

                “ คยองซู ถ้าจำไม่ผิดรสนี้คยองซูชอบกิน เราสั่งมาให้น่ะ

     

                “ ขอบคุณนะมินฮยอก

     

                “ ผมสั่งมาเผื่อคุณจงอินด้วยนะครับ ” ว่าแล้วก็ไถถ้วยไอศกรีมรสยอดนิยมของร้านมาให้ จงอินทำเพียงกอดอกแล้วปรายตามองเท่านั้น ในใจถ้าทำได้นี่แทบอยากจะปาถ้วยไอศกรีมใส่หน้ามันให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ทำไม่ได้ไงไอ้มิมันขอไว้ว่าให้ทำตัวดีๆไง

     

                เหอะ! ทำมาเป็นเผื่อแผ่

               

                “ คยองซู เราป้อน รสนี้อร่อยดีนะยื่นช้อนที่เต็มไปด้วยไอศกรีมหมายอยากให้เพื่อนตัวเล็กได้กิน

     

                ฟึ่บ!!

     

                “ เอออร่อย!! ” แต่คนที่ได้ลิ้มรสกลับเป็นคนที่นั่งอยู่ตรงกลางแทนจนมินฮยอก อดหัวเราะกับท่าทางของแฟนเพื่อนไม่ได้ ตาก็มองไปที่มือของตัวเองที่มีมือของอีกคนจับอยู่อย่างคิดนึกสนุกขึ้นมาซะเฉยๆ

     

                แบบนี้ก็สนุกดีเหมือนกัน

     

                “ จับมือผมแบบนี้ คิดอะไรหรือเปล่าครับ

     

                “ เห้ย!! กูเปล่า!! ” พอพูดมาก็รีบสะบัดมือออกทันทีเสมือนว่ามือของไอ้โย่งเป็นของร้อน มันเป็นบ้าอะไร ทำไมอยู่ๆถึงพูดแบบนี้ รู้สึกเสียวหลังชอบกล

     

                “ เขาว่าคนที่โกหกจะทำเป็นหงุดหงิดหรือทำเสียงสูงกลบเกลื่อนนะครับคุณจงอิน

               

                อ…อะไรนะ!!!

     

                “ คยองซู เราบอกหรือยังว่าแฟนคยองซูหล่อมากๆ ”

     

                !!!!!

     

     

                “ คุณจงอินนี่หุ่นดีจังเลยนะครับ ” ไม่ว่าเปล่าเอามือจับไปที่เสื้อหนังสีดำที่อีกคนใส่อยู่ไม่พอยังส่งสายตาแบบที่เห็นต้องขนลุก

     

     

                “ ม..หมายความว่าไง ” ตอนนี้จงอินกำลังรู้สึกเหงื่อเริ่มซึมอยู่ที่ข้างแก้ม น้ำลายเอิ้กใหญ่ถูกกลืนลงไปในลำคออย่างยากลำบาก พยายามปัดมือของอีกฝ่ายที่กำลังจับอยู่ที่เสื้อเขาออกอย่างทำอะไรไม่ถูก

     

                นี่มันอะไรกัน อย่าบอกนะว่า…

     

                “ ผมชอบคุณจงอินน่ะครับ

     

                “….”

     

                “….”

     

     

                พรึ่บ!!!

     

     

                เรากับจงอินต้องไปแล้ว ขอบคุณที่เลี้ยงนะ ” ไม่ต้องรอให้มินฮยอกได้พูดอะไร อยู่ๆคนตัวเล็กก็ลุกขึ้นก่อนจะดึงมือแฟนตัวสูงของตัวเองให้ลุกตามแล้วจะเดินออกจากร้าน แต่เหมือนว่าจะคิดอะไรออก มือก็เลื่อนกระดาษเช็ดปากตรงด้านที่จงอินนั่ง ไปตรงหน้ามินฮยอกก่อนจะผลิกอีกด้านที่มีเบอร์โทรศัพท์ที่เขียนด้วยปากกาจดอยู่แล้วยื่นให้มินฮยอก

     

                “ เรารบกวนมินฮยอกเอากระดาษไปคืนพี่คนเสิร์ฟคนนั้นให้เราด้วย ฝากบอกให้เราหน่อยว่า คนนี้มีแฟนแล้ว เรากลับก่อนนะ ” ชี้ไปที่หญิงสาวที่ยกไอศกรีมมาเสิร์ฟเมื่อกี้ก่อนจะชี้มาที่จงอินเพื่อให้ขยายความได้ชัดเจนว่า ‘คนนี้...มีแฟนแล้ว’ หมายถึงใคร

     

    ตอนที่กำลังคุยกันอยู่แล้วไอศกรีมก็มาเสิร์ฟ พี่ผู้หญิงที่เสิร์ฟก็ค่อยๆวางถ้วยไอศกรีมพร้อมกระดาษเช็ดปากและช้อนยาวตามจำนวนสามที่โดยจัดวางให้จงอินเป็นคนสุดท้ายก่อนจะขยิบตาส่งไปให้และไม่วายก่อนไปก็ไม่ลืมพูดทิ้งท้ายว่าทานให้อร่อย แต่ไม่ได้พูดกับทุกคนบนโต๊ะหรอก ตาน่ะมองไปทางจงอินเต็มๆ  ทั้งหมดมันก็อยู่ในสายตาคยองซูนั่นแหละแต่คนตัวเล็กก็เลือกที่จะไม่สนใจเท่าไหร่ก็ในเมื่อจงอินไม่ได้มีท่าทีสนใจอะไรพี่ผู้หญิง คยองซูก็เลยไม่ได้อะไรมากมาย

     

                แต่พอรู้ว่ามินฮยอกดูชอบจงอินเข้าด้วยอีกคน มันก็รู้สึกหงุดหงิดนี่!

     

    ฮื่อ!

     

    ไม่อยากให้จงอินอยู่ที่นี่แล้ว อยากกลับแล้ว

     

               

     

     

     

     

     

                “ เอ่อ เดี๋ยวสิคยองซู รอเราก่อนสิ คยองซู เดี๋ยว ” เดินจูงมือจงอินออกมาไม่ได้ไกล เสียงตะโกนเรียกของเพื่อนตัวสูงก็ดังมาจากข้างหลังจนกระทั่งมาหยุดขวางคยองซูกับจงอินเอาไว้

     

                “ เรารีบ ” ตอนนี้คยองซูไม่อยากคุยกับมินฮยอกเลย กลัวว่าจะพูดอะไรทำร้ายจิตใจมินฮยอกเพราะตอนนี้คยองซูรู้สึกว่าตัวเองกำลังอารมณ์ไม่ดี

     

                “ เมื่อกี้เราล้อเล่น

     

                “….”

     

                “ เดี๋ยว คยองซูอย่าเข้าใจผิด เรามีแฟนแล้ว โน้นไงๆ

     

                ยกมือชี้ไปยังผู้หญิงรูปร่างหน้าตาดีแต่งตัวแฟชั่นมากๆที่กำลังเดินมาแบบท่าทางหงุดหงิดจากอากาศร้อนจนต้องยกมือพัดที่หน้าสวยตลอดเวลา ผู้หญิงคนนั้นทำท่าเหมือนกำลังหาอะไรสักอย่างอยู่สักพักก็มาหยุดสายตาเอาไว้ที่เพื่อนตัวสูงที่อยู่ข้างๆ

     

     

                “ มินฮยอก!!! Why you don’t pick up the phone คะ!! แล้วนี่ใคร คริสตัลให้เวลา 10 นาที อธิบายมาเลยนะ ยูทำให้ไอหงุดหงิดแล้วนะ ” ใบหน้าสวยของหญิงสาวหงิกงออย่างไม่พอใจ ประโยคที่ทำให้คนตัวเล็กปะติดปะต่อเรื่องได้ว่าเจ้าของสายที่โทรหามินฮยอกไม่หยุดก็คือผู้หญิงคนนี้ มินฮยอกหัวเราะออกมากับท่าทางนั้นก่อนจะเดินไปจูงมือหญิงสาวให้เดินมา

     

                “ นี่คริสตัลแฟนเราเอง ” มินฮยอกพูดแนะนำให้ทั้งคยองซูแล้วก็จงอินรู้จักเสร็จสรรพ

     

                “ แต่เราชอบคุณจงอินจริงๆนะ เอ่อ เราหมายถึงการแต่งตัวน่ะ อยากลองแต่งบ้าง เผื่อคริสตัลจะถูกใจมากกว่าสไตล์เชยๆแบบเรา

     

     

                “ หยุดเลยนะฮันนี่! สไตล์ของยูน่ะเจ๋งที่สุดแล้ว ไอไม่ให้ยูเปลี่ยนนะ! ” เสียงเล็กๆแว้ดสวนขึ้นมาทันทีที่ได้ยินว่าแฟนหนุ่มของเธอจะเปลี่ยนสไตล์ แบบนี้ก็น่ารักอยู่แล้ว ใครจะว่าเชยก็ช่างเขาไปสิ เธอรักของเธอคนเดียวก็พอแล้ว

     

                โอเค ไอไม่เปลี่ยนแล้วครับ เอ่องั้นเราไปก่อนนะ ไว้เจอกันนะ

     

                “ เอ่อ..เจอกันนะ ” คยองซูรู้สึกว่ารอยยิ้มของตัวเองตอนนี้มันเต็มไปด้วยความน่าอาย ฮื่ออ ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่ามินฮยอกหมายถึงชอบการแต่งตัวล่ะ พูดแบบนั้นก็เข้าใจผิดหมดน่ะสิ มินฮยอกนะมินฮยอก เราจะกลับไปฟ้องหม่าม๊า

     

    อ่า  อ..อายจังเลย T////////T

     

                “ หึหึ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่ากูก็มีแฟนขี้หวงกว่าที่คิด ” ที่เงียบมาตลอดทางก็เพราะกลั้นยิ้มอยู่เนี่ยแหละ ใคจะไปคิดว่าไอ้มิหวงเขาถึงขนาดกล้าลุกแล้วลากเขาออกมาจากร้าน แบบนี้มันดีกับใจจริงๆ แต่ตอนแรกก็แอบเสียวเหมือนกันว่าไอ้โย่งแว่นนั้นมันจะชอบเขาจริงหรือเปล่า แต่พอรู้เรื่องก็ทำให้โล่งแถมยังได้รู้ว่าไอ้มิมันหวงเขาขนาดไหน

     

    นี่กูต้องขอบใจมึงเลยนะ ไอ้แว่นโย่งเมียสวย(?)

     

     

                “….”

     

                ชอบจังแบบนี้ สงสัยต้องอ่อยคนอื่นให้แฟนเห็นบ่อยๆ

     

                “ เข้าใจกูแล้วใช่ไหมทำไมกูถึงต้องเป็นแบบนี้

               

    “ ต..แต่เราไม่มีอะไรให้จงอินต้องกังวลสักหน่อย จงอินคิดมากตลอดเลย ” คนตัวเล็กเข้าไปสวมกอดร่างสูงเอาไว้หวังไม่ให้แฟนตัวเองคิดอะไรเยอะไปมากกว่านี้ มันก็อย่างที่คยองซูพูดไป ยังไงเขาก็ไม่มีอะไรให้จงอินระแวงเลยแม้แต่นิดเดียว จะมีก็มีแต่จงอินนั้นแหละ

     

     

    ไม่ให้คิดได้ไง ถ้าไม่มีมึงแล้วกูจะอยู่ยังไง กูมีของกูอยู่คนเดียว ” ผละออกมาสบตากันก่อนจะยกนิ้วจิ้มไปที่หน้าผากเล็กสักทีสองทีเพื่อให้รู้ว่าเขาไม่ได้พูดเล่น ที่พูดไปมันมาจากใจของเขาจริงๆ

     

     

    “ ร..เรามีจงอินอยู่คนเดียว เราก็หวงจงอินเหมือนกัน

     

    !!!!!!

     

    พูดแบบนี้กลับคอนโดกันเน้อะ ” กดจมูกลงไปที่แก้มนุ่มสูดกลิ่นหอมของคนตัวเล็กเข้าเต็มปอด  

     

    ..แล้วเราไม่… ”

     

    กลับไปนอนกอดกันบนเตียงสนุกกว่า หึหึหึ

     

     

                ก็บอกแล้วไงว่าคยองซูไม่มีอะไรให้จงอินกังวลเลยสักนิด

     

                ตอนนี้คยองซูต่างหากหล่ะที่ต้องกังวล

     

    เฮ้อ!

     

     

     

     

     

               

     

      100%

     


    นักแสดงรับเชิญของเราได้แก่เขาคนนี้ค่ะ


    "คยองซู...คยองซูหรือเปล่า"


    O W E N TM.
    -----------------------------------------------------

     
     


    อุ้ยย เขาแค่นอนกอดกันบนเตียงหรอคะ มันใช่หรอคะ!! ถถถถถ
    คิดสวยไปทางอื่น คิดหื่นมาทางพี่ ก๊ากกกก~ ไปคิดกันต่อเอาเองเน้อะ
     
    เห้ยๆ แต่เดี๋ยวนะๆ ทำไมทุกคนเทใจไปให้มินฮยอกหมดเลยล่ะคะ
    พระเอกของเราล่ะ เฮลโหล่ เดี๋ยวก่อนน 5555555555

    ตอนพิเศษนี้ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ น่ารักๆกันไป
    แต่เอาจริงๆเราชอบคู่ของมินฮยอกกับคริสตัลนะ
    ชอบนางในเรื่อง THE HEIRS นางดูเข้ากันดีค่ะ ดีกับใจ ใครยังไม่ได้ดู
    แนะนำให้วนไปดูค่ะ!!





    TALK WITH MICHOSEO



    (ใครอยากรู้จักเราก็อ่านแต่ถ้าไม่ก็ข้ามไปค่ะ)

    หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักเราเพราะเราก็ยังไม่เคยแนะนำตัวอย่างเป็นทางการอะไร
    เอาล่ะ ตอนนี้เลยถือโอกาสมาทำความรู้จักกับทุกคนซะเลย


    นามปากกา : MICHOSEO
    ชื่อเล่น : จริงๆมีหลายชื่อแล้วแต่คนเรียก เรียกเราว่ามิชก็ได้
    อายุ : อายุเท่าพระเอกของเรื่อง ไม่แก่ๆ ใครเรียกป้าจะฟ้องคยองซู

    เมนก็มีสองคน ใครฟอลเราในทวิตก็จะรู้ว่าเรารักเขาทั้งสองคน

    แค่นี้แหละ ที่เหลืออยากรู้เมนชั่นมาในทวิต
    ถ้าจะตามตัวเรา ไม่ยากค่ะ เข้าไปจิกในทวิตได้
    จะสิงในทวิตเกือบจะตลอด

    Twitter : @michoseo l Ask.fm
    อยากมารู้จักกันมาคุยมาถามกันได้นะ รออยู่จุ๊บบบ

    ช่วงนี้เราจะพยายามมาให้บ่อยๆนะคะ จะพยายาม
    ขอบคุณทุกคนที่รอ ขอบคุณทุกคนที่เข้าใจ
    ตอนนี้เราปี 3 แล้วค่ะ งานวิจัยอะไรเต็มไปหมด
    มึนหัวสุดอะไรสุด พอว่างๆก็รีบแต่งรีบมาอัพให้ทุกคนหายคิดถึงเลย

    รักทุกคนที่รักเรื่องนี้และรักเรา
    จากมิชช

    #คมชคด

     


                      。SYDNEY♔

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×