คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : CHAPTER 12
12
“ จงอิน ตอนเย็นจงอินอยากกินอะไร ”
คยองซูพูดแต่ก็ไม่ได้หันหน้าไปเพื่อรอฟังคำตอบร่างสูงที่กำลังเดินตามส่วนในมือแกร่งก็ดันรถเข็นซูปเปอร์มาร์เก็ตให้เดินหน้าไปเรื่อยๆ ดวงตากลมใต้กรอบแว่นยังคงไล่มองไปยังของที่วางอยู่ในชั้นแผนกเครื่องปรุง วันนี้ทั้งวันจงอินไม่มีงาน พอจัดของกันเสร็จเลยถือโอกาสเอาไอ้มิมาเดินเล่นและซื้อเสบียงเข้าคอนโด ตอนนี้คยองซูและจงอินมาที่ห้างที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากคอนโดมากนัก
จุดประสงค์ในการออกมาข้างนอกคือการมาซื้อข้าวของเครื่องใช้รวมไปถึงวัตถุดิบอาหารการกินที่ปกติแล้วในตู้เย็นห้องจงอินก็ไม่ค่อยจะมีอะไรสักเท่าไหร่ อย่าเรียกว่าไม่ค่อย ไม่มีเลยดีกว่า จะมีก็แต่พวกโยเกิรต์ นม น้ำ อาหารที่พวกนายแบบเขากินกันเพื่อรักษาหุ่น แต่พอมีคยองซูมาอยู่อีกคน จงอินคิดว่าในตู้เย็นมันควรมีอาหารหรือของกินอะไรก็ได้ที่ทำให้คยองซูพอจะตัวโตขึ้นมาบ้าง
“ อะไรก็ได้ ” ไอ้มิจะทำอะไรให้กินมันไม่สำคัญหรอก จงอินไม่ใช่คนเรื่องมากทำอะไรมากินหมดอยู่ดี
“ จงอินอย่าพูดว่าอะไรก็ได้สิ เราเดาไม่ถูกหรอกว่าจงอินอยากกินอะไร แค่บอกมาเราทำให้ได้นะ จงอินไม่รู้หรอกว่ามือขวาของหม่าม๊าเวลาทำอาหารน่ะคือเราเอง เพราะฉะนั้นวางใจเราได้ เราทำได้ทุกอย่างเลย ” ร่างเล็กหันมาเผชิญหน้าก่อนจะพูดด้วยตาเป็นประกายเหมือนเด็กที่ชอบอวดเวลาตัวเองทำอะไรบางอย่างได้ดี จนจงอินอดยิ้มไม่ได้
“ บอกเรามาสักเมนู เดี๋ยวเราจะทำให้จงอินกิน ”
“ ทำได้ทุกเมนูเลย ? ”
“ อื้ออ! ”
“ บิบิมบับ* ” (*ข้าวยำเกาหลี)
“ เอ่อ…เราว่ามันยากไป ”
“ โฮต๊อก* ”(*แพนเค้กเกาหลี)
“
หม่าม๊า ยังไม่ได้สอน ”
“ ซุปกิมจิ ”
“ เรา ..จำวิธีทำไม่ได้ แหะๆ ”
“ แถวบ้านกูเรียกทำไม่เป็นทุกเมนู ทำไมขี้โม้วะมิ ” แกล้งบีบแก้มนิ่มๆนั้นจนคนตัวเล็กต้องนิ่วหน้า แล้วก็โฆษณาซะดิบดีว่าทำเป็นทุกอย่าง พอบอกไปกี่เมนูกลับกลายเป็นทำไม่ได้สักอย่าง แบบนี้มันน่าจับบีบแก้มยุ้ยๆนั่นซะให้เข็ด
“ งื้ออ ด..เดี๋ยวสิ! เราต้มบะหมี่อร่อยนะ จริงๆนะ จงอิน ” มือเล็กยกขึ้นจับเข้าที่ท่อนแขนแกร่งของจงอินข้างที่กำลังบีบแก้มตัวเองอยู่ พยายามดึงให้หลุดออกจากแก้มของตัวเองแล้วพูดไปด้วย คยองซูยกเมนูที่ภูมิใจนำเสนอที่สุดแล้วมาเป็นเมนูสุดท้ายให้จงอินตัดสินใจจนร่างสูงถอดหายใจออกมาเฮือกใหญ่
เฮ้ออ จริงๆเลย
ความจริงแล้วมีแค่เมนูเดียวที่ทำได้ก็บอกมาเถอะ
.
.
.
“ เอาอันนี้ อันนี้ แล้วก็อันนี้ด้วยดีกว่า โห ทำไมไม่รู้มาก่อนเลยว่าที่นี่จะมีหลายรสขนาดนี้ ”
หลังจากเถียงกันอยู่นานว่าตอนเย็นจะทำอะไรและใครจะทำ ก็ได้ข้อสรุปว่าจงอินนั่นแหละที่เป็นคนทำและต้องเดินเลือกซื้อวัตถุดิบในการทำอาหารเย็นซะเอง โดยที่จงอินก็ไล่ให้คยองซูไปเดินดูพวกของใช้ที่จำเป็นก่อนเพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลา และตอนนี้คนตัวเล็กก็กำลังตระการตากับของใช้จำเป็นของตัวเอง โซนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นี้แหละของใช้ที่จำเป็นสำหรับคยองซู ก็ไม่รู้ทำไมตัวเองถึงชอบกิน ก็คยองซูชอบกินมาตั้งแต่เด็กพอรู้อีกทีก็รู้ว่าขาดมันไม่ได้ซะแล้ว เลือกไม่ถูกจนบะหมี่ของชอบเต็มมือไปหมด
“ อะไรอีก! นี่ฉันเป็นคนใช้หรอ เออ นอนไปนั่นแหละเดี๋ยวซื้อไป แค่นี้นะ! ”
ระหว่างที่เดินหาดูบะหมี่รสชาติต่างๆอย่างตื่นเต้น ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงทุ้มที่ดูเหมือนว่าจะหัวเสียกับคนในโทรศัพท์ที่ร่างสูงกำลังคุยทำให้คยองซูต้องแหงนหน้าขึ้นไปมองคนข้างๆ เพราะความสูงที่เทียบแล้วตัวยังไม่ถึงอกด้วยซ้ำมองแปปเดียวก็ต้องหลบตาก่อนจะเขยิบตัวออกห่างเล็กน้อยเพราะยังไม่ค่อยชินกับการที่ต้องมาอยู่ใกล้ๆกับคนแปลกหน้าแบบนี้ แล้วยิ่งตอนมองไปก็เห็นว่าร่างสูงใส่หมวกแก็ปกับแว่นตาดำก็ยิ่งทำให้คยองซูไม่กล้าที่จะยื่นอยู่ใกล้ๆ
พอได้มองหน้าก็ทำให้คยองซูนึกชมใบหน้าหล่อนั่นในใจ ขนาดเห็นแค่จมูกโด่งกับโครงหน้าที่ได้รูปที่โผล่พ้นหมวกและแว่นตาดำนั่นออกมาก็ทำให้รู้ว่าต้องหน้าตาดีมากแน่ๆ ทั้งสูง ทั้งรูปร่างหน้าตาดีแบบนี้ ทำยังไงคยองซูถึงจะตัวสูงสมส่วนแบบนั้นได้บ้าง คยองซูควรโทษหม่าม๊าใช่ไหมที่ตัวเล็กกระทัดรัดทั้งๆที่ป่ะป๊าก็สูงตามเกณฑ์มาตราฐานแล้วแท้ๆ แต่คยองซูกลับได้รูปร่างผิวพรรณและส่วนสูงมาจากหม่าม๊าทั้งนั้น
“ Damnn! แล้วจะรู้ไหมวะว่า ยี่ห้อxxx มันอยู่ไหน แม่งก็เหมือนๆกันหมด ” เมื่อวางสายเสร็จเสียงบ่นของคนแปลกหน้ายังดังอยู่ที่ข้างหู แต่คยองซูก็ได้รู้อย่างหนึ่งว่าไม่ได้มีแค่เขาคนเดียวที่คิดว่าที่นี่มีโซนราเมนให้เลือกหลายยี่ห้อหลายรสมากจริงๆทั้งในประเทศและต่างประเทศและนั่นถือว่าเป็นเรื่องดีของคยองซูที่ของโปรดมีให้เลือกมากมายขนาดนี้ แต่อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยน่าพอใจนักสำหรับชายแปลกหน้าคนข้างๆเขา
“ เอ่อ..ถ้าไม่รังเกลียจล่ะก็…นี่ฮะ ”
และด้วยความบังเอิญหรืออะไรก็ไม่รู้ ของที่ชายแปลกหน้ากำลังตามหาอยู่นั่นมันเป็นอันเดียวกับที่คยองซูถืออยู่ในมือพอดี ด้วยความเห็นใจเพราะยี่ห้อนี้เขาเอามาจากล็อกถัดไปเลยตัดสินใจกล้าๆกลัวๆยื่นมือที่ถือบะหมี่ห่อนั้นไว้ไปให้
ให้อันนี้เขาไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวคยองซูค่อยเดินไปหยิบใหม่ก็ได้
“ หืม? ”
“ เห็นคุณกำลังรีบ แล้วยี่ห้อนี้ไม่ได้อยู่ล็อกนี้ด้วย เอาอันนี้ไปก็ได้ฮะ เดี๋ยวผมไปหยิบใหม่ได้ ” ชายแปลกหน้าหันมามองคยองซูด้วยคิ้วที่ผูกกันเป็นปมจนร่างบางต้องอธิบายให้ฟัง พอพูดจบก็เหมือนร่างที่สูงกว่าเขาเยอะจะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่กลับค่อยๆเดินเข้ามาใกล้จนคยองซูเริ่มหวั่นๆ
นี่เขาจะหาว่าคยองซูยุ่งไม่เข้าเรื่องไหมนะ
“ ทำไมหน้าคุ้นจัง อืม เคยเจอที่ไหนนะ.. ”
“ เอ่อ… ”
“ เคยนอนกับฉันหรือเปล่า ? ”
“ ม..ไม่เค… ”
“ อืม ก็คงไม่ใช่หรอก ฉันคงไม่ได้รสนิยมแย่ขนาดนั้น แต่เหมือนเราเคยเจอกันนะ... ”
“ ถ..ถ้าไม่เอา ไม่เป็นไรครับ ยี่ห้อนี้อยู่ล็อกถัดไปนี้เอ… ” คยองซูคิดว่าคงจะดีกว่าถ้าจบบทสนทนากับคนตรงหน้าเอาไว้แค่นี้ แต่ดูเหมือนว่าชายแปลกหน้าจะไม่ยอมให้ร่างเล็กผละออกไปง่ายๆ จังหวะที่คยองซูกำลังจะชักมือกลับ มือของอีกฝ่ายก็ตรงมาจับเอาไว้
“ เดี๋ยวสิ Don’t Worry ฉันไม่ทำอะไรหรอก แค่คุ้นหน้าเท่านั้นเอง ”
“ ป..ปล่อยเถอะครับ ผมว่าคุณคงจำคนผิด ”
“ เฮ้! กลัวขนาดนี้เลยหรอ โอเคๆ ปล่อยแล้วๆ ” พอเห็นว่าคนตัวเล็กตัวสั่นเพราะความกลัวอย่างน่าสงสาร ทำให้ร่างสูงต้องจำใจปล่อยแขนร่างบางให้เป็นอิสระ
“ มิ! อยู่ไหนวะ ”
แล้วเสียงคุ้นหูก็เหมือนจะดังอยู่ไม่ไกล ไม่นานร่างสูงที่กำลังเข็นรถเข็นเดินตามหาใครสักคนก็ผ่านมายังล็อกที่พวกเขายืนกันอยู่ และมันก็ทำให้ความคิดของชายแปลกหน้ากระจ่าง ความสงสัยของตัวเองหมดไปพอได้เจอคนที่มาใหม่
จำได้แล้ว เด็กไอ้จงอินนี่เอง
“ ผ..ผมขอตัวนะครับ ”
“ รีบไปไหนล่ะ”
พั่บ!
ในจังหวะที่ร่างสูงตรงเข้าจับข้อมือเล็ก เหมือนว่าอีกคนดูจะตกใจรีบสะบัดข้อมือของตัวเองออกจากการจับกุมก่อนจะรีบเดินหนีทันทีโดยที่ไม่ได้สังเกตว่าสร้อยข้อมือของตัวเองหล่นลงมาที่พื้นเพราะอาจจะเกี่ยวกับอะไรสักอย่างตอนที่สะบัดมือ
“ เฮ้! เดี๋ยวสิเธอทำไอ้นี้ตก ” แต่ไม่ทันเสียแล้ว คนตัวเล็กรีบเดินจนเขาไม่สามารถเรียกทัน
“ หึ เราคงจะได้เจอกันเร็วๆนี้นะ See ya (: ” พูดออกมาทั้งๆที่รู้ว่าอีกคนสาวเท้าเดินออกไปหาร่างสูงที่ยืนทำหน้านิ่วคิ้วขมวดรออยู่ ร่างสูงก็จ้องมองไปยัง สร้อยข้อมือ เส้นเล็กที่ไม่ทันได้เอาให้เจ้าของไป รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อนั่น ก่อนเขาจะเดินออกไปอีกทางทันที
เจอกันทีไร ต้องทำของหล่นเอาไว้ตลอด
ถ้าได้เจอกันอีกทีก็คงจะสนุก
“ นั่นใคร? ” จงอินเอ่ยถามอย่างไม่สบอารมณ์ เห็นยืนคุยอยู่กับไอ้มิ พอไอ้มิเดินมาหา ท่าทางที่ดูไม่น่าไหวใจมันทำให้จงอินต้องเค้นจากคยองซูทันที
ถึงคนภายนอกอาจจะมองว่าไอ้มิมันไม่ได้มีความน่าสนใจอะไรอยู่แล้วแต่จงอินก็กลัวอยู่ดี ไม่อยากให้ไอ้มิมันได้ไปแสดงความน่ารักๆกับใคร เพราะแค่เห็นรอยยิ้มของคนตัวเล็กแค่ครั้งเดียวและครั้งแรกมันก็ทำให้จงอินเป็นได้ถึงขนาดนี้ แล้วคนอื่นๆที่ยังไม่ได้เห็นอีกล่ะ ถ้ามาเห็นแล้วจงอินจะทำยังไง กันๆเอาไว้ก่อนน่ะดีแล้ว
“ เอ่ออ ไม่รู้สิ เขาแค่มาถามทางน่ะ ” คยองซูยิ้มแหยะๆ ไปให้จงอินก่อนจะหันไปเอาบะหมี่ห่อที่อุตส่าห์หอบเอามา เอาไปวางลงในรถเข็นที่จงอินเข็นมา เลือกที่จะไม่บอกจงอินว่าเมื่อกี้คยองซูต้องเจอกันอะไร
โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่าที่ข้อมือของตัวเองไม่มีสร้อยที่จงอินให้เสียแล้ว
“ นี่อะไร? ” จงอินเอื้อมลงไปหยิบห่อบะหมี่ขึ้นมาห่อนึงจากหลายห่อที่ลงไปนอนกองกันอยู่ในรถเข็น มองอย่างพิจารณาอยู่แปบนึงก่อนจะเงยหน้ามาเจอกับไอ้มิที่กำลังยิ้มหวานส่งมาให้
“ ก็บะหมี่ไง เราเห็นที่คอนโดจงอินไม่ค่อยมีเลยจะเอาไปตุนไว้ให้… ”
“ เอาไปเก็บ ”
“ อ่าา จงอิน เอาบะหมี่ของเรามานะ ”
“ ไม่ให้ซื้อ ”
“…”
“ ให้ซื้อได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าให้ซื้อเยอะขนาดนี้ เอาไปเก็บ ซื้อไปแค่ห่อเดียวก็พอ ” ความจริงจงอินไม่อยากจะให้ไอ้มิมันซื้อไปด้วยซ้ำ ไม่ใช่ว่าบะหมี่ราเมนพวกนี้มันไม่ดี มีเก็บไว้กินบ้างก็ไม่เสียหาย แต่ดูยังไงไอ้ที่อยู่ในรถเข็นมันเยอะซะจนเอาไปขายต่อมากกว่าเอาเก็บไว้กิน
ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไอ้มิถึงชอบกินนักหนา ตั้งแต่คราวก่อนที่จงอินแอบเป็นไอ้โรคจิตสะกดรอยตามก็หยิบห่อบะหมี่ที่คนตัวเล็กจะซื้อไว้ออกแทบไม่ทัน นี้ยังไม่รู้เลยว่าหลังจากนั้นไอ้มิมันจะกลับไปเอามาใหม่อีกหรือเปล่าเพราะเขาต้องรีบกลับไปซ้อมดนตรีต่อ
“ แต่เราอยากกินนี่… ”
“ ห่อเดียวไม่พอ? ของมีประโยชน์น่ะ หัดกินซะบ้าง นมน่ะกินเข้าไปจะได้ตัวสูงๆ แล้วมะเชือเทศอ่ะตัวมีประโยชน์เลย ยังไงก็ต้องหัดกินเอาไว้บ้าง ฝืนกินเข้าไปตัวจะได้ไม่เล็กขนาดนี้ เข้าใจไหม? ”
“ ไม่ฟังๆ จงอินบ่นเหมือนหม่าม๊าเลยอ่ะ ” คนตัวเล็กยกมือทั้งสองข้างปิดที่หูตัวเอง ไม่สนใจสีหน้าบึ้งตึงของจงอินเลยสักนิด คำพูดที่คยองซูฟังมันจนเบื่อแล้ว หม่าม๊าก็ชอบพูดแบบนี้กับคยองซูเป๊ะๆ
คยองซูไม่กลัวจงอินหรอก จงอินน่ะถึงจะโหดแต่จริงๆแล้วใจดีจะตาย
ท่าทางที่ร่างสูงยกมือเสยผมสีสว่างขึ้นลวกๆ ก่อนจะถอดหายใจออกมาอย่างคนทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อพูดไปคยองซูก็ไม่สนใจจะฟัง
“ ยังไงก็ไม่ให้ซื้อเยอะขนาดนี้ ”
“ แต่จงอิน ถ้าจงอินไม่ให้เราซื้อเราก็ไม่อยากกินอะไรอีกเลยนะ ” ยกเหตุผลเรียกความเห็นใจที่สมควรจะซื้อห่อบะหมี่ของโปรดไปไว้ในคอนโด ยังไงวันนี้คยองซูก็จะทำให้จงอินยอมเอาของโปรดของเขากลับไปให้ได้ ถ้าไม่มีคุณบะหมี่แล้วคยองซูจะอยู่ยังไง แค่คิดก็กินอะไรไม่ลงแล้วอ่ะ ฮื่อ
“ งั้นไม่ต้องกิน อดตายไปเลยแล้วกัน ”
“…”
“ ทำไมต้องอยากกินขนาดนั้นวะ ”
“…”
“ เงียบอีก ”
“…”
“ อ่ะๆ กูให้ซื้อก็ได้ ”
“ เย้! ”
“ แต่ ” คยองซูเกือบจะดีใจจนสุดแล้วจริงถ้าไม่ได้ยินคำว่า แต่ ของจงอินซะก่อน
“…”
“ จงอินน ซื้อให้มิหน่อย ไหนพูดดิ๊ ”
“ จงอิน! ”
“ จงอินน ซื้อให้มินะ เร็วๆจะพูดไม่พูด ไม่พูดอด! ”
“ ฮื่อออ! จงอินอาา อย่าทำแบบนี้สิ ” เอื้อมมือหมายจะได้แตะต้องห่อบะหมี่แต่ก็โดนมือใหญ่จับออกจนคนตัวเล็กจนปัญญาจะเอากลับมาไว้กับตัวเองเหมือนเดิม
“ เร็วมิ อ้อนก่อนแล้วจะให้ทุกอย่างเลย ” เห็นไอ้มิมันอ้อนหม่าม๊าแล้วก็อยากมีโมเม้นพวกนั้นกับมันบ้าง แล้วยิ่งไอ้มิมันทำท่าว่าอยากซื้อบะหมี่พวกนั้นมากขนาดนี้ โอกาสมันมีสูงว่าจงอินจะได้ในสิ่งที่ต้องการ
“ ร..เราทำไม่ได้ ไม่เอาแล้วก็ได้ ” จะให้อ้อนอะไรกัน คยองซูทำไม่เป็นหรอกนะ
“ โอเค ดีมาก งั้นกูเอาไปเก็… ”
“ จ.. จงอิน อย่าเอาไป เราทำแล้ว ”
พอจงอินบอกว่าจะเอาไปเก็บนี้รีบเดินมาขวางจนร่างสูงต้องหัวเราะออกมา ร่างเล็กเม้มปากสูดลมหายใจลึกๆอย่างเตรียมพร้อม สรุปแล้วเพื่อบะหมี่มันทำให้ไอ้มิยอมได้ถึงขนาดนี้เลยหรอเนี่ย จงอินควรจะอิจฉาไอ้บะหมี่ห่อโง่ๆพวกนี้ดีไหมวะ
หมับ
คยองซูหันซ้ายหันขวาสำรวจผู้คนก่อนจะเขยิบเข้าไปใกล้ๆจงอินที่กำลังอมยิ้มยื่นมองอยู่ก่อนแล้ว คว้าหมับเข้าที่เสื้อเชิ้ตที่จงอินใส่เอาไว้ก่อนจะช้อนตากลมขึ้นไปมองสบตากับร่างสูงอย่างช้าๆ ใบหน้าจิ้มลิ้มใต้แว่นก็ค่อยๆแดงระเรื่อขึ้นด้วยความเขินอาย ทำไมคยองซูจะต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยนะ
พอเห็นว่าไอ้มิมันเข้ามาใกล้ก็พอจะรู้ว่าคนตัวเล็กดูประหม่า อย่าว่าแต่ไอ้มิมันตื่นเต้นเลย ตอนนี้จงอินก็ตื่นเต้นไม่แพ้กันหรอกบอกเลย นี่ก็ยังไม่รู้เลยเนี่ยว่าถ้าเกิดไอ้มิมันอ้อนขึ้นมาจริงๆจงอินควรจะทำอย่างไรต่อไปดีเพราะบอกเลยแค่ตอนนี้เห็นตากลมๆน่ารักๆนั่นมองช้อนขึ้นมาก็แทบจะทำให้จงอินไปไม่เป็นแล้วเหมือนกัน
“ จงอินน ” เสียงหวานที่มันปนน้ำเสียงขอร้องนิดๆของคยองซูมันทำให้จงอินแทบจะหยุดหายใจ
“ ว่าไงครับ ” แต่ก็ต้องวางฟอร์มเก็กต่อไป
“ ซื้อให้หน่อย…นะ ”
“ ซื้อให้หน่อย นี่ให้ใคร? ”
“ ร..เรา ” จงอินส่ายหน้าเพราะยังไม่พอใจกับคำตอบ จนคยองซูต้องยู่ปากรูปหัวใจอย่างหมดทางรอด ยังไงๆจงอินก็จะให้คยองซูพูดให้ได้เลยใช่ไหม
“ ไหน จะให้ซื้อให้ใคร พูด! ” คยองซูอยากจะหายแวบไปจากโลกเมื่อได้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แบบนั้นของจงอิน นี้ถ้าไม่ใช่บะหมี่ของโปรดคยองซูไม่ทำหรอกนะ
“ จงอินน ซื้อให้คยองซูนะ ซื้อให้มินะ นะ ”
พูดไปด้วยกระตุกเสื้อเชิ้ตของจงอินไปด้วยเบาๆ หมายจะให้จงอินเลิกแกล้งให้ตัวเองอ้อนซักที แค่นี้คยองซูก็อายจะแย่อยู่แล้ว โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าคนถูกอ้อนนิ่งไปแล้ว จงอินพลาดมากที่ไม่ได้ทันเตรียมตัวเตรียมใจของตัวเองเอาไว้ก่อนที่จะโดนไอ้มิมันอ้อนแบบนี้ พูดไม่ออก รู้แค่ว่าเสียงหัวใจมันเต้นแรงจนได้ยินออกมาถึงข้างนอก
น่ารัก…
น่ารักเกินไป...
น่ารักโคตรโคตร...
น่ารักชิบหายยยย!!!
ไหน เมื่อกี้ใครในซุปเปอร์มาร์เก็ตเดินผ่านมาแล้วเห็นท่าทางเมื่อกี้ของไอ้มิบ้าง
กูเก็บเรียงตัวจริงๆอ่ะเอาดิ!
“ ร..เราบอกแล้วเราทำไม่ได้หรอก น่าอายจะตาย ฮื่อ ”
“…เดี๋ยวมา ”
“ จงอิน จงอินจะไปไหน ”
“ …จะไปเหมาบะหมี่ ”
“ จงอินทำอาหารเก่งจัง ”
“ อยู่คนเดียว ฝึกทำเอาไว้บ้างไม่เสียหายอะไร ” พูดไปก็เอาหม้อมาใส่น้ำแล้วต้มไปด้วย อยู่คนเดียว ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะต้องทำอาหารเอาไว้กินเองบ้างไม่ใช่ซื้อกลับมากิน ไม่ทำก็อดตาย มันเลยพอจะทำอาหารเองเป็นอยู่บ้าง
พูดเสร็จก็หันไปเห็นกองห่อบะหมี่ที่แทบจะเหมาจากซุปเปอร์มาเก็ตมาอย่างที่ไอ้มิต้องการ มองแล้วก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ทำไมตอนนั้นจงอินถึงไม่มีสติยอมใจอ่อนตามให้มิได้ขนาดนี้ แค่มันอ้อนประโยคเดียวก็แทบจะรีบทำตามที่มันต้องการทุกอย่าง เสียชื่อคิมจงอินหมด
กลับมาก็เหมือนว่าจะไม่ได้พักก็ต้องลงมือทำอาหารเย็นเลยเพราะพอกลับจากซื้อของเสร็จก็กำลังจะเย็นพอดี จงอินเดินเข้าครัวเพื่อจะเตรียมหั่นเตรียมล้างของสำหรับอาหารตอนเย็น แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่ได้ทำอะไรก็เพราะมีอีกคนที่คอยถามโน่นถามนี้อยู่ตลอดเวลา
“ จงอิน เราช่วยหั่นผักนะ ”
“ ไม่ต้อง เดี๋ยวมีดบาด ”
“ งั้น…เราช่วยติดเตานะ ”
“ ไม่ต้อง ไฟมันอันตราย ”
“ งั้นจะให้เราช่วยอะไร.. ”
“ ช่วยอย่าเพิ่งมาเกะกะกูแถวนี้ ทำได้ไหมมิ ออกไปดูทีวีโน่นไป ”
“ ไม่เอา เราจะอยู่กับจงอิน อยู่ตรงนี้แหละ จะไม่ไปไหนจนกว่าจงอินจะหาอะไรสักอย่างให้เราทำ ” ยืนยันอุดมการณ์ที่หนักแน่นของตัวเองแล้วทิ้งตัวนั่งลงที่เก้าอี้ตรงเคาน์เตอร์ที่จงอินกำลังจะเตรียมหั่นผัก เงียบไปได้สักพักก็พูดขึ้นมาอีก
“ จงอิน เรารู้ด้วยนะว่าหัวหอมหั่นยังไงไม่ให้ร้องไห้ เราช่วยได้นะ ”
“…”
“ อ๊ะนั่น! เต้าหู้เราก็รู้นะว่าทำยังไงให้มันออกมาจากซองแล้วไม่เละ ”
“…”
“ แล้วก็นั่นอีก ถ้าต้มผักให้สีไม่ซีดเราก็รู้ด้วยนะ ”
อืมโอเค กูยอม
“ ..ไปเอากิมจิในตู้เย็นมาตัดไป กรรไกรใช้ในครัวอยู่ในลิ้นชักนั้นอ่ะ ”
“ ฮะเชฟ! ” รู้สึกจะชอบใจเหลือเกินที่ได้ช่วย ยิ้มตาหยีผ่านแว่นเห่ยๆนั่นมาให้ก่อนจะรีบพาร่างเล็กๆของตัวเองไปยังตู้เย็นเพื่อไปเอากิมจิมาทำตามที่จงอินบอก อะไรที่ช่วยได้ ถึงมันจะเล็กๆน้อยๆคยองซูก็อยากจะช่วยทำ
“ อ๊ะ!! ”
“ เป็นอะไร!! ” หันมาถามด้วยความตกใจแล้วก็เห็นไอ้มิมันเอามือจับตาจนต้องรีบเดินเข้าหา อย่างที่คิดเอาไว้ไม่มีผิดว่ามันจะต้องเป็นเรื่อง
ปล่อยให้ทำยังไม่ถึง 10 นาทีด้วยซ้ำ
เดินเข้าไปใช้มือใหญ่ข้างหนึ่งประคองจับเข้าที่ต้นคอขาว อีกข้างเลื่อนขึ้นไปหยิบแว่นตาเชยๆนั่นออกไปวางไว้บนโต๊ะก่อนจะแตะที่ขอบตาเพื่อดูสาเหตุที่ทำให้ไอ้มิมันแสบตา ทำยังไงให้กิมจิมันเข้าตาได้ทั้งๆที่ตัวเองก็ใส่แว่นกรอบซะหนาแบบนั้น เชื่อเลยจริงๆ
“ จงอินนน ฮื่อออ! มันเข้าตาาาาา ”
“ ทำยังไงให้เข้าตาได้วะ ใส่แว่นอยู่แท้ๆ ”
“ เร็ววๆๆ นะ จงอิน เรารู้สึกเหมือนว่าตาเราจะบอดเลย ฮื่อออ! ”
“ อืม รู้แล้วๆ อยู่นิ่งๆ กูเช็ดให้อยู่เนี่ย ” จับคนตัวเล็กล็อกเอาไว้ในอ้อมกอดเพื่อให้มันอยู่นิ่งๆก่อนจะจับปลายเสื้อของตัวเองขึ้นมาค่อยๆเช็ดที่ใต้ตาสวยนั่นเบาๆ การที่จะเอาปลายเสื้อมาเช็ดตาได้คือต้องยกเปิดขึ้นมาจนเห็นหน้าท้องแกร่ง จงอินอาจจะลืมคิดไปว่าคยองซูเจ็บตาข้างเดียวและอีกข้างยังคงใช้งานได้ตามปกติเพราะฉะนั้น…
คยองซูเห็นซิกแพ็คจงอินเต็มๆตาที่มีอยู่หนึ่งข้างเลย
ถึงจะมองไม่ชัดเพราะสายตาที่มันสั้น
แต่มันก็ไม่ได้ทำให้คยองซูเห็นกล้ามท้องของจงอินไม่ชัดเลยซักนิด
-/////////////////-
“ มองเห็นยัง ”
“ ห..เห็นแล้ว -/////- ”
“ เห็นหน้ากู ? ”
“ ป..เปล่า เห็นไอ้นี่อ่ะ.. ” ดันตัวออกก่อนจะหันไปทางอื่นแล้วยกมือขึ้นชี้ไปที่กล้ามท้องแน่นๆของจงอินที่เสื้อมันถูกเลิกขึ้นมาเช็ดตาให้เขา จนทำให้จงอินต้องมองต่ำตามมือคยองซูแล้วจึงหัวเราะออกมา ก็นึกว่าหน้าแดงๆเพราะโดนกิมจิกระเด็นเข้าตาซะอีก
“ เราไม่เป็นอะไรแล้ว ป..ปล่อยเราก็ได้นะ ”
“ เดี๋ยวดิ ยังไม่เสร็จ ”
พอปล่อยเสื้อให้ลงไปปิดแผ่นท้องแบบเดิมจงอินก็ยกมือขึ้นมาเช็ดคราบกิมจิที่เปื้อนไปทั่วใบหน้าเล็ก การกระทำที่สะกดคยองซูเอาไว้ เมื่อกี้ไม่ได้รู้เลยว่าทั้งเขาและจงอินจะอยู่ใกล้กันขนาดนี้ ใบหน้าคมที่ยังวนเวียนอยู่ใกล้ๆกับหน้าของคยองซูจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจอ่อนๆ สัมผัสจากปลายนิ้วของจงอินที่กำลังบรรจงเช็ดลงมาที่แก้มที่มันเปื้อนให้คยองซู ทุกอย่างมันทำให้หัวใจดวงน้อยๆของคยองซูเต้นเร็วผิดจังหวะอีกแล้ว ความรู้สึกพวกนี้ที่คยองซูรู้สึกมันทุกทีที่ได้อยู่กับจงอิน..
“ อ่ะ เสร็… ” ร่างสูงที่กำลังจะพูดว่าเช็ดให้เสร็จแล้วก็ต้องกลืนคำพูดทั้งหมดนั้นลงไป ดวงตาคู่สวยไร้กรอบแว่นที่กำลังจ้องมองมาใบหน้าเล็กที่ดูสวยเป็นธรรมชาติริมฝีปากสีสดที่กำลังเม้มเข้าหากันแต่ก็ยังเห็นว่ามันเป็นรูปหัวใจมันทำให้จงอินละสายตาจากภาพตรงหน้าไปไม่ได้ มัวแต่ยุ่งอยู่กับการเช็ดคราบที่เปื้อนอยู่บนหน้าของคยองซูจนไม่ทันได้สังเกตุเห็นว่ามันอยู่ใกล้กันขนาดนี้
“ จงอิน….อื้ออ!! ” เสียงหวานร้องออกมาแผ่วเบาเมื่อสัมผัสได้ถึงริมฝีปากร้อนที่ก้มลงมาประกบจูบโดยที่คยองซูเองก็ยังไม่ทันตั้งตัว มือเล็กยกขึ้นไปกำเสื้อของจงอินเอาไว้แน่นเพราะยังไม่เคยทำอะไรแบบนี้ นี้เป็นครั้งแรกที่คยองซูรู้สึกว่ามันเบลอๆสับสนไปหมดและยิ่งมวนท้องเมื่อร่างสูงเริ่มบดเบียดเม้มคลึงอยู่ที่ริมฝีปากล่าง ทำอยู่อย่างนั้นจนคยองซูเริ่มรู้สึกว่าลมหายใจที่มีเริ่มจะหมด
“ อื้ออ จงอิน ห..หายใจไม่ออก อึก ” การที่จะพูดออกมาให้เป็นคำทั้งๆที่จงอินก็ยังคงบดจูบอยู่ที่ริมฝีปากสดอยู่แบบนี้มันไม่ง่ายเลย และดูเหมือนว่าคำพูดของคยองซูจะไม่ได้ทำให้ร่างสูงมีสติขึ้นมา มือเล็กจึงต้องทุบไปที่อกแกร่งเบาๆเพื่อให้จงอินรู้ว่าคยองซูหายใจไม่ออกแล้วจริงๆ
“ อีกนิด ” ยอมปล่อยให้คนตัวเล็กได้เอาอากาศเข้าปอดไปเพียงแปปเดียว จงอินก็ก้มลงมอบสัมผัสอันแสนหวานให้อีกรอบโดยที่คยองซูก็ขัดขืนไม่ทันต้องยอมปล่อยให้จงอินตักตวงความหอมหวานจากริมฝีปากบางของคยองซูต่อไป ไม่ได้สอดลิ้นเข้าไปสำรวจแต่แค่นี้มันก็ทำให้จงอินยากที่จะดึงสติกลับมา ต้องการอีก รสจูบที่จงอินรู้สึกว่ามันหวานหอมที่สุด จนห้ามใจไม่ให้แตะต้องไม่ไหว
ได้ครอบครองริมฝีปากสีสดนั้นแต่ละครั้ง ก็มีแต่จะต้องการมากขึ้นไปอีก..
กึกก ปรี๊ดดดดดดดด!!
เสียงกาต้มน้ำดังขึ้นเป็นจนทำให้คยองซูสะดุ้งจนต้องผลักจงอินออก พอสติกลับมาร่างเล็กก็ค่อยๆเดินไปทรุดลงนั่งที่เก้าอี้ก่อนจะยกมือปิดหน้าที่แดงกล่ำ ต่างจากจงอินที่ยกมือขยี้ผมอย่างขัดใจเมื่อมีอะไรมาขัดอารมณ์กันดื้อๆแบบนี้
“ โธ่เว้ยยย! จะมาดังอะไรตอนนี้วะ!! มิ เสียบปลั๊กกาต้มน้ำหรอ ”
“ อ...อื้ออ ร..เราอยากกินบะหมี่ (.////.) ”
เอาหล่ะ ถือว่าเป็นการไถ่โทษที่ดองเค็มน้องมิมานานจนทุกคนคิดถึง
มาแล้วนะเด้อออออออ กลับมาอ่านกันเร็วววว
ยังคะ เรายังไม่เปิดตัวว่าชายหน้าแปลก เอ้ย แปลกหน้าคนนั้นเป็นใคร
รอลุ้นกันต่อไปนะะะะ ตอนนี้มาดูมิกับจงอินเขาหวานกันก่อน(?)
สังเกตุสิว่าน้องมินางเริ่มสดใสๆ ทำตัวสบายๆกับจงอินแล้ว
กิกิ้ววววว จากที่ตอนแรกกลัวแทบตาย ถือว่าจงอินเริ่มเลี้ยงนกฮูกเป็นแล้ว
ไปแล้วดีกว่าา ยังไงก็ฝากเม้นท์ฝากแท็คฝากโหวตกันด้วยนะคะ
ปล. มาแก้แล้ววว ตายยยย ขอบคุณคุณ - ฟอ อู - ด้วยนะคะที่บอก
โฮต็อก = แพนเค้กเกาหลีนะะ ไม่ใช่พิซซ่า 5555
โปรดติดตามตอนต่อไป
เห็นว่าพน.จะประกาศแอดมิชชั่นแล้ว พี่มิชขอให้น้องๆทุกคน
ติดอันดับ 1 หรือ ติดในสิ่งที่อยากเรียนแล้วกันนะคะ
ใครไม่ติด ไม่ต้องเสียใจ ชีวิตยังไงก็ต้องดำเนินกันต่อไปเน้อะะะ
ขอให้น้องๆที่อ่านฟิคพี่มิชทุกคนติดอันดับ 1 กันทุกคนเลยนะ
รักนะจากมิช
ความคิดเห็น