ได้โปรด...รักฉันบ้างได้มั้ย.. - ได้โปรด...รักฉันบ้างได้มั้ย.. นิยาย ได้โปรด...รักฉันบ้างได้มั้ย.. : Dek-D.com - Writer

    ได้โปรด...รักฉันบ้างได้มั้ย..

    อีกไกลแค่ไหนจนกว่าฉันจะใกล้บอกที อีกไกลแค่ไหนจนกว่าเธอจะรักฉันซักที มีทางใดที่อาจทำให้เธอสนใจ..ได้โปรด..

    ผู้เข้าชมรวม

    112

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    112

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  4 มี.ค. 56 / 22:23 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    อีกไกลแค่ไหนจนกว่าฉันจะใกล้..บอกที
    อีกไกลแค่ไหนจนกว่าเธอจะรักฉัน..เสียที
    มีทางใดที่อาจทำให้เธอสนใจ...ได้โปรด
    บอกกับฉันให้รู้ที..
    ว่าสุดท้ายแล้วฉันยังมีความหมาย..


    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
     
    ฉันทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างหมดแรง ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดทำไมเอ็มถึงเย็นชากับฉันมากมายขนาดนี้หรือว่าเขาจะรู้ว่าฉันแอบรักเขาอยู่  เหอะ!การแสดงออกของฉันมันดูง่ายขนาดนั้นเลยหรอเขาคงเกลียดฉันแล้วสินะ ไหนหลายคนบอกว่าวันนี้คือวันแห่งความสุขไงแต่ทำไมกับฉันมันถึงเป็นวันแห่งความทุกข์ขนาดนี้นะ ...






    .
    .
    .
    .
    .


    ยินดีต้อนรับสู่บ้านของนักเขียนโนเนมค่ะ

    ไรเตอร์ อายุ 20 ปี 
    ยังไงก็ช่วยติดชมคอมเม้นด้วยนะค่ะ ^^
    ขอบคุณค่ะ 














     



    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      " เฮ้ยมึง  มึงป๊อดว่ะแม่ง ทำไมมึงไม่บอกเขาไปเลยว่ะ "

      เสียงประท้วงจากเหล่าเพื่อนรักของฉันยังดังก้องอยู่ในสมอง  สายลมพัดเอื่อยเฉื่อยเหมือนหัวใจของฉันที่เริ่มอ่อนล้าอีกครั้งและที่สำคัญวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์มองไปทางไหนก็เห็นแต่คู่รักเดินเคียงข้างกันอย่างหวานซึ้ง  ร้านค้าต่างๆตามทางเดินเติมไปด้วยของขายบ่งบอกว่าวันนี้คือวันแห่งความรัก ฉันได้แต่มองภาพเหล่านั้นอย่างยิ้มๆในหัวลองจินตนาการว่าเป็นตัวเองบ้างที่ได้ดอกไม้และช็อคโกแล็กเหล่านั้นจากคนคนหนึ่งที่ฉันแอบหลงรักตลอดมา...

      ฉันชื่ออลิซ ปัจจุบันฉันอายุ20 เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่ง  ทุกวันฉันเป็นเพียงนักศึกษาธรรมดาที่ไม่ได้เด่นดังอะไร มีเพียงเพื่อนสนิทไม่กี่คนที่พอไปไหนมาไหนด้วยกันและที่สำคัญฉันยังไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเขาซักที ...อาภัพดีเนอะ


      " กลับมาแล้วค่ะ " 

      บ้านทั้งบ้านปิดเงียบ.. มีเพียงข้อความจากโน้ตของแม่ติดไว้ที่หน้าตู้เย็น บอกว่าให้ไม่ต้องรอทานข้าวเพราะจะไปฉลองวาเลนไทน์กับพ่อที่นานๆทีท่านจะได้กลับมาเมืองไทย  ส่วนน้องชายตัวดีของฉันนะเหรอป่านนี้คงไปมุดหัวอยู่ที่ไหนซักแห่งแถวบ้านเพื่อน วันนี้ต้องอยู่คนเดียวอีกแล้วสิ :)

      อันที่จริงฉันก็อยู่คนเดียวมาตลอดนั่นแหละ ครอบครัวของฉันมีธุรกิจอยู่ที่เมืองนอกค่ะ นานๆทีพ่อแม่และน้องชายจะกลับมาประเทศไทยซักครั้ง ที่จริงฉันสมควรที่จะไปอยู่กับท่านเพียงแต่ว่าฉันขอให้เรียนจบมหาลัยก่อนแล้วค่อยไปครั้งเดียว ช่างหาเหตุผลมาอ้าง ความจริงแล้วฉันไม่อยากจะอยู่ไกลจากเพื่อนบ้านคนนั้นต่างหาก

      หลังจากทานข้าวที่แม่เตรียมไว้ให้ก่อนออกจากบ้านเสร็จ  ฉันขึ้นไปบนห้องสถานที่แห่งความส่วนตัวที่ฉันเก็บซ้อนอะไรไว้หลายอย่าง เครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาถูกเปิดขึ้นเพื่อเข้าโซเซี่ยลเว็บยอดนิยมของวัยรุ่นทั่วไปที่หน้าวอลเต็มไปด้วยคำอวยพรต่างๆ ฉันเช็คอะไรอีกหลายอย่างก่อนจะไปอาบน้ำ เมื่อไหร่วันแห่งความรักถึงจะหมดลงซักที..

      ฉันเหลือบมองไปยังห้องตรงข้ามไฟในห้องยังคงปิดสนิทเอ็มคงไปฉลองกับเพื่อนหรือแฟนที่ไหนละมั้ง ก็เขาฮอตนี่นาขนาดเข้ามหาลัยก็ยังมีคนมาตามจีบไม่หวาดไม่ไหว ผิดกับฉันที่หน้าตาธรรมดาไม่มีแม้อะไรที่จะยืนเคียงข้างเขาได้เลย คิดไปมันก็เศร้า ฉันแอบรักเอ็มมาตั้งแต่สมัยมอต้น แปลกนะตอนนั้นฉันพยายามจับคู่เขากับเพื่อนคนหนึ่งแต่อยู่ดีๆฉันกลับตกหลุมรักเขาเองซะงั้นไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่อาจเป็นเพราะความใกล้ชิดละมั้ง  ฉันกับเขาเป็นเพื่อนบ้านกันมาตั้งแต่ที่ฉันย้ายมาอยู่ข้างบ้านเขาตอนอายุ 12 จะว่าสนิทกันมันก็ไม่เชิงใช่เพราะเอ็มเป็นคนที่เย็นชาเขาไม่ค่อยสุงสิงกับใครนอกจากเพื่อนที่เขาสนิท ฉันเคยเรียนอยู่ห้องเดียวกันกับเขาตอนมอต้นและแน่นอนเวลาทำงานเขาจะอยู่กลุ่มเดียวกับฉันเสมอเพราะว่าฉันเก่ง? ป่าวหรอกเพราะเราอยู่บ้านข้างกันทำให้ในห้องเขากับฉันจึงสนิทกันเป็นพิเศษกว่าเพื่อนคนอื่น พอขึ้นมอปลายเขาย้ายไปอยู่กับญาติที่ต่างจังหวัดทำให้เราเจอหน้ากันเพียงเล็กน้อย ฉันโทรติดต่อเขาหลายครั้งในช่วงแรกๆและดูเหมือนเขาจะรำคาญฉันเลยหยุดติดต่อไปในทีสุด จนกระทั่งพอขึ้นมหาลัยเขาได้ย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านตอนแรกฉันดีใจมากที่จะได้เจอเขาอีกครั้ง  แต่ว่านะเอ็มกลายเป็นคนเย็นชากว่าเดิมเขาพูดกับฉันเพียงนับคำได้  ถึงเราจะเรียนที่มหาลัยเดียวกันแต่เราก็อยู่คนละเอกเขาเป็นเดือนของคณะมีคนมารุมล้อมมากมาย เขาสามารถยิ้มให้คนอื่นได้แต่กับฉันเขาไม่เคยยิ้มให้เลยด้วยซ้ำ ฉันไม่รู้ว่าฉันทำผิดอะไร บางทีฉันก็อยากจะถามมันออกไปให้รู้แล้วรู้รอดแต่พอเห็นหน้าเขาทีไรคำพูดที่อยากจะพูดมันกลับกลืนหายลงไปในลำคอทุกที บางทีฉันก็อยากให้เขาหันกลับมามองฉันบ้างสักครั้งแต่มันคงเป็นไปได้อยาก  จะทำได้ก็แค่เพียงแต่ความรู้สึกนี้เอาไว้อย่างเดียวเท่านั้น..

      นี่ฉันพล่ามพรรณนาเรื่องของตัวเองมาจนค่อนเรื่องแล้วสินะ บอกแล้วไงเรื่องของฉันมันเยอะเล่ายังไงก็ไม่จบ ฮะฮ่า ตัดกลับมาปัจจุบันตอนนี้ดีกว่าเนอะ ฉันเดินข้างนอกตรงระเบียงห้องโดยหวังว่าลมเย็นๆจากธรรมชาติจะช่วยให้ผ่อนคลายหายฟุ้งซ่านจากบางเรื่องได้ แต่ฉันดันเจอกับบุคคลที่คิดว่าไม่อยู่บ้านซะได้  เอ็มนั่งเหยียดตัวอยู่บนราวระเบียงฝั่งตรงข้ามทั้งที่อยู่ในมุมมืดเขายังดูดีขนาดนี้ นัยน์ตาสีดำจ้องตวัดมาทางฉันอย่างหงุดหงิดนิดๆที่ฉันเผลอมองหน้าเขา   


      " หวัดดี "  ฉันทักทายเขาพร้อมกับยิ้มแห้งที่ไปเผลอมองหน้าเขา


      "  ...   "  เอ็มยังคงนั่งนิ่ง


      " อะ.. เอ่อ งะ.. งั้นฉันเข้าไปนอนละนะ นายก็อย่านอนดึกละกัน.. "  

      หลังจากที่ฉันบอกลาเขาฉันไม่รู้หรอกว่าเอ็มทำหน้ายังไงหรือตอบฉันรึป่าวเพราะฉันไม่อยากเห็นไม่อยากรับรู้ แค่เขาไม่ตอบคำถามฉันก็เหมือนกับว่าเขารำคาญฉันเต็มทนอยู่แล้ว  ฉันทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างหมดแรง ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดทำไมเอ็มถึงเย็นชากับฉันมากมายขนาดนี้หรือว่าเขาจะรู้ว่าฉันแอบรักเขาอยู่  เหอะ!การแสดงออกของฉันมันดูง่ายขนาดนั้นเลยหรอ? เขาคงเกลียดฉันแล้วสินะ ไหนหลายคนบอกว่าวันนี้คือวันแห่งความสุขไงแต่ทำไมกับฉันมันถึงเป็นวันแห่งความทุกข์ขนาดนี้นะ ...

       
       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×