คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : - PAST -
- HARK -
Pairing : Tezuka X ???
- - - - - - - - - -
“คำนี้มีความหมายอะไรรึเปล่าเทะสึกะ”เสียงหวานใสดังก้องกังวาลต้องโสตประสาท
นิ้วมือเล็กสัมผัสกับตัวอักษรที่สลักบนแหวนสีเงิน
‘Weiß’
“นั่นเป็นภาษาเยอรมันน่ะ แปลว่า สีขาว”
เทะสึกะขยับกรอบแว่นขึ้น เบนสายตาไปยังร่างเล็กที่จ้องมองแหวนเงินอย่างสนอกสนใจ
“สีขาวเหรอ?”อีกฝ่ายเอียงคอสงสัย
สีหน้าอ่อนโยนที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักปรากฏขึ้นบนดวงหน้าเคร่งขรึม
เหมือนกับว่ามีรอยยิ้มบางๆแต่งแต้มอยู่บนดวงหน้านั้น
“สีขาว หมายถึงความหวัง”
นัยน์ตาสีฟ้าพินิจแหวนบนมืออีกครั้ง ปลายนิ้วแตะบนรอยสลักอย่างเบามือ พร้อมหัวเราะแผ่วๆ
“สมเป็นเทะสึกะ
”
เทะสึกะไม่ได้ตอบอะไร ร่างสูงยื่นมือไปหยิบแหวนออกจากมือของอีกฝ่าย ก่อนจะสวมมันลงบนนิ้วเล็กๆของคนที่ยังนั่งทำหน้างง
“ชั้นให้”
เมื่อสิ้นสุดคำพูด คนฟังก็แย้มรอยยิ้มกว้าง
รอยยิ้ม
ที่ทำให้หัวใจอบอุ่นยิ่งกว่าฤดูใบไม้ผลิ
“ขอบคุณนะเทะสึกะ”
เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนต้องแสงอัสดง ไหวน้อยๆยามต้องสายลม ดวงตาคู่งามสะท้อนภาพดวงตะวันยามลับขอบฟ้า
ดวงหน้าขาวสะอาดเหมือนเด็กทารกถูกแต่งแต้มด้วยสีหน้ายินดี
ใบหน้าเปื้อนยิ้มนั้นสดสว่างยิ่งกว่าแสงอาทิตย์ ส่องประกายยิ่งกว่าดวงดาว
สรรพสิ่งทั้งหมด เสมือนผ่านไปอย่างเชื่องช้าในชั่วขณะ ทั้งที่แค่เพียงจ้องมองเงียบๆ ทว่ากลับมองเห็นทุกๆอย่างชัดเจนยิ่งกว่าภาพถ่าย
ทั้งกลิ่นอาย เสียงหัวใจ และความรู้สึก ทั้งหมดนั่นเขายังจำได้อย่างแจ่มชัด
.
.
.
.
ร่างของเด็กหนุ่มสะดุ้งขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตาสีเข้มเบิกกว้างขึ้น
ฝันไป?
มือหนาเสยเส้นผมชื้นเหงื่อขึ้นทัดหลังใบหู นึกแปลกใจนักที่เผลอหลับในห้องสมุดแบบนี้
เขาเหลือมมองออกนอกหน้าต่าง ก็เห็นว่าตะวันลับขอบฟ้าไปสัยแล้ว ไอน้ำจางๆเกาะผิวกระจก เป็นสัญญาณบอกว่าฝนหยุดตกไปได้แล้วครู่หนึ่ง
เข็มนาฬิกาชี้บอกเวลาหนึ่งทุ่มตรง
“จนป่านนี้แล้ว ”
ยังจะฝันเรื่องเก่าๆอีก
ประโยคท่อนท้ายเขาทำได้เพียงคิดในใจ เพราะไม่ว่าอย่างไร ก็ปรารถนาจะลืมให้สิ้น
ทั้งเพื่อตัวเขา และเรื่องที่จะเกิดต่อจากนี้ ไม่ว่าอย่างไร นี่คงเป็นทางออกที่เจ็บปวดน้อยที่สุด
เสียงแมสเซจโทรศัพท์ดังขึ้นในจังหวะที่ตกอยู่ในห้วงภวังค์ เทะสึกะกดปุ่มเปิดข้อความก่อนจะอ่านมันผ่านๆ
‘นัดตรวจอีกครั้งวันพรุ่งนี้’
เขากุมข้อศอกซ้ายตัวเองหลวมๆ ธุระที่ว่าก็คือแขนซ้ายข้างนี้
บางทีหมอประจำตัวคงส่งข้อความมาเตือนเหมือนอย่างที่เคยทำทุกครั้ง
การนัดตรวจส่วนใหญ่จะเว้นระยะห่างจากกันราวครึ่งเดือน ซึ่งนั่นก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตประจำวันวุ่นวาย หรือโกลาหลแต่อย่างใด
ความเงียบโรยตัวกลับมาอีกครั้งนึง เมื่อหนังสือตรงหน้าเข้าครอบงำสมาธิครั้ง
แต่ก็เพียวชั่วขณะเดียวเท่านั้น... เมื่อเห็นเกล็ดหิมะบางเบาลอยผ่านหางตา ตรงริมหน้าต่าง
หิมะเริ่มตกอีกครั้ง หลังจากฝนหยุดตก แต่เกล็ดน้ำแข็งเย็นยะเยือกนี้ดูจะค่อยๆทวีความรุนแรงขึ้นทีละน้อย
สภาพอากาศอันไม่เป็นใจส่งผลให้เทะสึกะต้องประเมินสถานการณ์คร่าวๆ หากหิมะตกลงหนักกว่านี้อีกซักเล็กน้อย
การเดินกลับบ้านหลังห้องสมุดปิดคงจะเป็นไปได้ยากเสียแล้ว
ร่างสูงบรรจงเก็บหนังสือส่วนหนึ่งอย่างเบามือ
ถ้าหากช่วงเย็นไม่เผลอหลับก็คงจะอ่านได้มากกว่านี้แท้ๆ ถึงวันนี้เขาแทบจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องสมุดแล้วก็เถอะ
โคมไฟข้างทางสว่างเรียงรายตามเส้นทางกลับที่พักอันคุ้นเคยตา
ทางเดินหินสีหม่นกำลังถูกน้ำแข็งสีขาวทับถมลงไปเรื่อยๆ อากาศยามนี้หนาวแทบสั่นแม้ยามสวมเสื้อโค้ท
ชายหนุ่มกระชับผ้าพันคอเล็กน้อย เพื่อให้อุ่นขึ้น ก่อนจะก้าวเดินเลียบถนนไป
ร้านอาหารสองข้างทางเริ่มเปิดเพลงให้ได้แว่วยิน อีกแสงสีจากป้ายร้านต่างๆนานาที่แสนโดดเด่นจนแสบตา
ผู้คนเริ่มออกตระเวนในยามราตรีอีกครั้งหนึ่งแล้ว
บรรยากาศช่างเหมือนกับวันนั้นไม่มีผิด..
....วันที่เค้ามองเห็นร่างของฟูจิยืนมองจากมุมมืด คิดเอาว่าคงจะตาฝาดไปเป็นแน่แท้
ภาพหลอนที่เศร้าสร้อยนั้น ชวนให้เดียวดายใจ
ดวงตาคู่แสนเศร้าในความทรงจำ ฉาบไปด้วยแววตาเปลี่ยวเหงา ราวกับ.....ก้นบึงทะเลสาปยามเหมัณต์อันยะเยือกเย็น
เสียงหัวเราะเย้ยหยันตัวเองดังแผ่ว
ตั้งใจไว้แล้วไม่รู้กี่พันครั้ง
ตลอดเวลา
แทบทุกวินาที ว่าจะลืมคนๆนั้นออกไปจากใจ
แต่ทุกครั้งที่แสร้งทำเป็นเมินเฉย สิ่งที่อยากลืม กลับหวนกลับมาให้คำนึงถึงร่ำไป
.....น่าหัวเราะซะจริงๆ ใช้เวลาตั้ง 5 ปียังไม่สามารถกลบฝังมันทิ้งได้ซะที.....
ความคิดทิ้งหมดพลันหยุดชะงัก เมื่อดวงตาสีน้ำตาลมองเห็นภาพทับซ้อนกับเหตุการณ์ในอดีต
อีกครั้งที่เขาเห็น... กลางฝูงชนนั้นร่างเล็กๆเดินบนถนนห่างไปราวสองช่วงตึก
..อีกครั้งที่เขามองเห็นฟูจิ...
หัวใจเริ่มเต้นตึกตัก ทั้งประหลาดใจ และสับสน
อยากจะตบแก้มตัวเองซักสองสามฉาดให้แน่ใจว่าไม่ได้เผลอหลับเป็นรอบที่สอง
ส่วนอีกใจก็อยากจะขยี้ตาให้มั่นใจว่าไม่ได้ตาฝาดไป
ไวยิ่งกว่าความคิด ขาสองข้างก้าวออกไปโดยไม่รู้ตัว ยิ่งเข้าไปใกล้เท่าไหร ยิ่งพยายามเดินตามเท่าไหรผู้คนก็เริ่มบางตาลง
จนกระทั่ง ระยะห่างเหลืออีกเพียงไม่กี่เมตร หากเรียกชื่อจากตรงนี้ก็คงได้ยินทันที
แต่ความลังเลมันมีมากเสียจนไม่อาจทำได้ ถึงกระนั้นก็อยากจะเห็นด้วยตาให้มั่นใจ
บางทีสวรรค์อาจจะเป็นใจเมื่อร่างเล็กที่เดินนำหน้า ถูกชายที่เดินสวนกันชนเข้าจนเสียหลักผงะถอยหลังลงมากระแทกกับร่างของเทะสึกะที่ยืนอยู่ด้านหลัง
ดวงหน้าขาวหันกลับมา
จังหวะเดียวกันกับที่เขาก้มหน้าลงมองเหตุกาณ์ไม่คาดฝัน อย่างงงๆ
“ ?!”
.
.
.
To be continue
แบบนี้ใช่มั้ยที่เค้าเรียกกันว่า " กำปั้นทุบดิน "
คราวหน้าจะตอบเม้นดีมั้ยนะ อ๋า?
ความคิดเห็น