ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] Prince of tennis: illusion

    ลำดับตอนที่ #3 : - PAST -

    • อัปเดตล่าสุด 10 มิ.ย. 52



    - HARK - 


    Pairing : Tezuka X ???


    - - - - - -  - - - -



    คำนี้มีความหมายอะไรรึเปล่าเทะสึกะเสียงหวานใสดังก้องกังวาลต้องโสตประสาท

    นิ้วมือเล็กสัมผัสกับตัวอักษรที่สลักบนแหวนสีเงิน

    ‘Weiß’

     

    นั่นเป็นภาษาเยอรมันน่ะ แปลว่า สีขาว
    เทะสึกะขยับกรอบแว่นขึ้น เบนสายตาไปยังร่างเล็กที่จ้องมองแหวนเงินอย่างสนอกสนใจ

    สีขาวเหรอ?อีกฝ่ายเอียงคอสงสัย

    สีหน้าอ่อนโยนที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักปรากฏขึ้นบนดวงหน้าเคร่งขรึม

    เหมือนกับว่ามีรอยยิ้มบางๆแต่งแต้มอยู่บนดวงหน้านั้น

    สีขาว หมายถึงความหวัง


    นัยน์ตาสีฟ้าพินิจแหวนบนมืออีกครั้ง ปลายนิ้วแตะบนรอยสลักอย่างเบามือ พร้อมหัวเราะแผ่วๆ

    สมเป็นเทะสึกะ…” 


    เทะสึกะไม่ได้ตอบอะไร ร่างสูงยื่นมือไปหยิบแหวนออกจากมือของอีกฝ่าย ก่อนจะสวมมันลงบนนิ้วเล็กๆของคนที่ยังนั่งทำหน้างง

    ชั้นให้

    เมื่อสิ้นสุดคำพูด คนฟังก็แย้มรอยยิ้มกว้าง

    รอยยิ้มที่ทำให้หัวใจอบอุ่นยิ่งกว่าฤดูใบไม้ผลิ 

     

    ขอบคุณนะเทะสึกะ

    เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนต้องแสงอัสดง ไหวน้อยๆยามต้องสายลม ดวงตาคู่งามสะท้อนภาพดวงตะวันยามลับขอบฟ้า

    ดวงหน้าขาวสะอาดเหมือนเด็กทารกถูกแต่งแต้มด้วยสีหน้ายินดี 




    ใบหน้าเปื้อนยิ้มนั้นสดสว่างยิ่งกว่าแสงอาทิตย์ ส่องประกายยิ่งกว่าดวงดาว

     

    สรรพสิ่งทั้งหมด เสมือนผ่านไปอย่างเชื่องช้าในชั่วขณะ ทั้งที่แค่เพียงจ้องมองเงียบๆ ทว่ากลับมองเห็นทุกๆอย่างชัดเจนยิ่งกว่าภาพถ่าย

    ทั้งกลิ่นอาย เสียงหัวใจ และความรู้สึก ทั้งหมดนั่นเขายังจำได้อย่างแจ่มชัด

    .

    .

    .

    .

     

    ร่างของเด็กหนุ่มสะดุ้งขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตาสีเข้มเบิกกว้างขึ้น

     

    ฝันไป?

    มือหนาเสยเส้นผมชื้นเหงื่อขึ้นทัดหลังใบหู นึกแปลกใจนักที่เผลอหลับในห้องสมุดแบบนี้  

    เขาเหลือมมองออกนอกหน้าต่าง ก็เห็นว่าตะวันลับขอบฟ้าไปสัยแล้ว ไอน้ำจางๆเกาะผิวกระจก เป็นสัญญาณบอกว่าฝนหยุดตกไปได้แล้วครู่หนึ่ง

     

    เข็มนาฬิกาชี้บอกเวลาหนึ่งทุ่มตรง

     

    จนป่านนี้แล้ว…”

    ยังจะฝันเรื่องเก่าๆอีก 

    ประโยคท่อนท้ายเขาทำได้เพียงคิดในใจ เพราะไม่ว่าอย่างไร ก็ปรารถนาจะลืมให้สิ้น 

    ทั้งเพื่อตัวเขา และเรื่องที่จะเกิดต่อจากนี้ ไม่ว่าอย่างไร นี่คงเป็นทางออกที่เจ็บปวดน้อยที่สุด

    เสียงแมสเซจโทรศัพท์ดังขึ้นในจังหวะที่ตกอยู่ในห้วงภวังค์ เทะสึกะกดปุ่มเปิดข้อความก่อนจะอ่านมันผ่านๆ



    นัดตรวจอีกครั้งวันพรุ่งนี้

    เขากุมข้อศอกซ้ายตัวเองหลวมๆ ธุระที่ว่าก็คือแขนซ้ายข้างนี้ 
    บางทีหมอประจำตัวคงส่งข้อความมาเตือนเหมือนอย่างที่เคยทำทุกครั้ง



    การนัดตรวจส่วนใหญ่จะเว้นระยะห่างจากกันราวครึ่งเดือน ซึ่งนั่นก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตประจำวันวุ่นวาย หรือโกลาหลแต่อย่างใด



    ความเงียบโรยตัวกลับมาอีกครั้งนึง เมื่อหนังสือตรงหน้าเข้าครอบงำสมาธิครั้ง 

    แต่ก็เพียวชั่วขณะเดียวเท่านั้น... เมื่อเห็นเกล็ดหิมะบางเบาลอยผ่านหางตา ตรงริมหน้าต่าง

    หิมะเริ่มตกอีกครั้ง หลังจากฝนหยุดตก แต่เกล็ดน้ำแข็งเย็นยะเยือกนี้ดูจะค่อยๆทวีความรุนแรงขึ้นทีละน้อย

     

    สภาพอากาศอันไม่เป็นใจส่งผลให้เทะสึกะต้องประเมินสถานการณ์คร่าวๆ หากหิมะตกลงหนักกว่านี้อีกซักเล็กน้อย 


    การเดินกลับบ้านหลังห้องสมุดปิดคงจะเป็นไปได้ยากเสียแล้ว



    ร่างสูงบรรจงเก็บหนังสือส่วนหนึ่งอย่างเบามือ

     ถ้าหากช่วงเย็นไม่เผลอหลับก็คงจะอ่านได้มากกว่านี้แท้ๆ ถึงวันนี้เขาแทบจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องสมุดแล้วก็เถอะ

     



    โคมไฟข้างทางสว่างเรียงรายตามเส้นทางกลับที่พักอันคุ้นเคยตา

    ทางเดินหินสีหม่นกำลังถูกน้ำแข็งสีขาวทับถมลงไปเรื่อยๆ อากาศยามนี้หนาวแทบสั่นแม้ยามสวมเสื้อโค้ท

     



    ชายหนุ่มกระชับผ้าพันคอเล็กน้อย เพื่อให้อุ่นขึ้น ก่อนจะก้าวเดินเลียบถนนไป

    ร้านอาหารสองข้างทางเริ่มเปิดเพลงให้ได้แว่วยิน อีกแสงสีจากป้ายร้านต่างๆนานาที่แสนโดดเด่นจนแสบตา

    ผู้คนเริ่มออกตระเวนในยามราตรีอีกครั้งหนึ่งแล้ว

     



    บรรยากาศช่างเหมือนกับวันนั้นไม่มีผิด..

    ....วันที่เค้ามองเห็นร่างของฟูจิยืนมองจากมุมมืด คิดเอาว่าคงจะตาฝาดไปเป็นแน่แท้




                ภาพหลอนที่เศร้าสร้อยนั้น ชวนให้เดียวดายใจ 
    ดวงตาคู่แสนเศร้าในความทรงจำ ฉาบไปด้วยแววตาเปลี่ยวเหงา
    ราวกับ.....ก้นบึงทะเลสาปยามเหมัณต์อันยะเยือกเย็น



    เสียงหัวเราะเย้ยหยันตัวเองดังแผ่ว


     

    ตั้งใจไว้แล้วไม่รู้กี่พันครั้ง ตลอดเวลา แทบทุกวินาที ว่าจะลืมคนๆนั้นออกไปจากใจ

    แต่ทุกครั้งที่แสร้งทำเป็นเมินเฉย สิ่งที่อยากลืม กลับหวนกลับมาให้คำนึงถึงร่ำไป

     



    .....น่าหัวเราะซะจริงๆ ใช้เวลาตั้ง 5 ปียังไม่สามารถกลบฝังมันทิ้งได้ซะที.....





     

    ความคิดทิ้งหมดพลันหยุดชะงัก เมื่อดวงตาสีน้ำตาลมองเห็นภาพทับซ้อนกับเหตุการณ์ในอดีต

    อีกครั้งที่เขาเห็น... กลางฝูงชนนั้นร่างเล็กๆเดินบนถนนห่างไปราวสองช่วงตึก 


    ..อีกครั้งที่เขามองเห็นฟูจิ...


    หัวใจเริ่มเต้นตึกตัก ทั้งประหลาดใจ และสับสน 


    อยากจะตบแก้มตัวเองซักสองสามฉาดให้แน่ใจว่าไม่ได้เผลอหลับเป็นรอบที่สอง 
    ส่วนอีกใจก็อยากจะขยี้ตาให้มั่นใจว่าไม่ได้ตาฝาดไป



    ไวยิ่งกว่าความคิด ขาสองข้างก้าวออกไปโดยไม่รู้ตัว ยิ่งเข้าไปใกล้เท่าไหร ยิ่งพยายามเดินตามเท่าไหรผู้คนก็เริ่มบางตาลง


     

    จนกระทั่ง ระยะห่างเหลืออีกเพียงไม่กี่เมตร หากเรียกชื่อจากตรงนี้ก็คงได้ยินทันที

    แต่ความลังเลมันมีมากเสียจนไม่อาจทำได้ ถึงกระนั้นก็อยากจะเห็นด้วยตาให้มั่นใจ





     

    บางทีสวรรค์อาจจะเป็นใจเมื่อร่างเล็กที่เดินนำหน้า ถูกชายที่เดินสวนกันชนเข้าจนเสียหลักผงะถอยหลังลงมากระแทกกับร่างของเทะสึกะที่ยืนอยู่ด้านหลัง

     


    ดวงหน้าขาวหันกลับมา
     
    จังหวะเดียวกันกับที่เขาก้มหน้าลงมองเหตุกาณ์ไม่คาดฝัน อย่างงงๆ

     

    …?!”

    .

    .











    .

     

     

    To be continue…

     

     - - - - - - - -  - - -  


    แบบนี้ใช่มั้ยที่เค้าเรียกกันว่า " กำปั้นทุบดิน "



    คราวหน้าจะตอบเม้นดีมั้ยนะ อ๋า?


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×