ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Gintama fanfic) Cannot fly away Yaoi

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.43K
      18
      17 ต.ค. 54

    Chapter 2


                  
    ทาคาสึกิพอใจมากกับท่าทีของคาซึระตอนนี้


                  
    ร่างบางหอบหายใจถี่ ทว่าไม่เคยขอให้เขาหยุด คงหลาบจำแล้วว่าคำขอร้องของตนยิ่งนำมาสู่ความรุนแรง เสียงคราง ทั้งจากอารมณ์และความเจ็บปวดดังผะแผ่ว ผิวกายขาวเนียนไม่สมเป็นนักรบมีรอยจ้ำสีแดงๆอยู่ทั่วไปหมด เส้นผมสีดำยาวกระเซอะกระเซิงเพราะผ่านการออกกำลังกาย(ในร่ม)มาอย่างหนัก ชายหนุ่มสางเส้นผมของคนที่โมเมเอาว่าเป็นคนรักโดยเจ้าตัวก็ไม่ได้ขัดขืน ก่อนจะก้มลงหอมแก้มเบาๆ


                  
    “วันนี้ทำตัวแปลกๆนะ”


                  
    ทาคาสึกิไม่ตอบ เพียงแค่เอามืออีกข้างจัดผมที่ยังยุ่งอยู่ให้เรียบร้อย พร้อมเอ่ยขึ้นมาเบา ๆ ว่า “ฉันชอบผมแกจัง” แต่คาซึระกลับไม่ดีใจที่ได้ยินคำชมนั้นเลย


                  
    รู้ดีว่าทำไมถึงชอบ ในเมื่อคนที่อีกฝ่ายรักก็มีผมแบบนี้เหมือนกัน


                  
    อาจารย์โชโย


                  
    ใบหน้าคมก้มลงกระซิบข้างหูอีกครั้ง พลางแตะแก้มนิ่มๆอย่างทะนุถนอมผิดปกติ “ทำตัวน่ารักอย่างนี้แหละดี เผื่อฉันจะใจดี เอายาแก้พิษมาให้” นิ้วโป้งเกลี่ยขอบตาคล้ำจากการอดนอนซึ่งพลันเบิกขึ้นหลังได้ยินประโยคที่ให้ความหวัง ริมฝีปากประทับจูบลงมาอีกครั้ง ทว่าคราวนี้คาซึระกลับไม่ได้ขัดขืน ไม่รู้ว่าเพราะเหนื่อย หรือจะทำตัวน่ารักให้ได้ยาแก้พิษจริงๆดังปากว่า อย่างไรก็ตาม มันก็ทำให้ทาคาสึกิพอใจ จนเริ่มรุกเข้ามาอีกครั้ง แขนเรียวเล็กยกขึ้นโอบรอบคออีกฝ่ายอย่างออดอ้อน ทั้งที่ใจจริงเจ็บแทบตาย สะโพกบางๆอยากส่งเสียงประท้วง แต่ที่ทำ กลับเพียงแค่กัดฟันและทนต่อไปเท่านั้น


                  
    เพื่อจะได้กลับมามองเห็น และไม่เป็นภาระของใครอีก...แค่นี้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขาอยู่แล้ว


                  
    “อ๊ะ อ๊า
    !




     

                   เจ็บเจ็บมาก


                  
    รู้สึกเหมือนร่างกายร้อนไปทั้งตัว ท่อนล่างก็ระบมไปหมด ปวดหัวด้วยสิ คิดอะไรไม่ออกแล้ว


                  
    ไข้ขึ้นอีกแล้วล่ะสิ คราวนี้โดนกินโทกิด่าตายแน่ๆ


                  
    ขอโทษนะ เป็นภาระให้อีกแล้ว


     


                  
    “อะไรน่ะ” ตื่นขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ำหนักไม่น้อยที่ทับลงมาบนตัว พร้อมเสียงเพื่อนแบบอารมณ์ไม่ดีบ่นแว่วเข้ามาให้ได้ยิน


                  
    “ดูไอ้เป็ดนี่สิ ตื้อฉันให้พามาหาแกให้ได้ แล้วไล่ลูกค้าไปหมดเลย ทีนี้จะเอาอะไรกินล่ะเนี่ย” แม้มองไม่เห็นก็คาดเดาได้ว่าตอนนี้เอลิซาเบธต้องใช้ป้ายตอกกลับไปอย่างเผ็ดร้อนอยู่แน่ๆในที่สุดมันก็มาหาเขาได้สักที คิดว่าหลงทางไปที่ไหนซะแล้ว


                  
    มือเรียวลูบหัวเป็ดสีขาวอย่างรักใคร่ จนกินโทกิหมั่นไส้ขึ้นมาจึงบรรจงตบหัวงามๆของเขาไปสักที ทำให้อลิซาเบธมองตาเขียวแล้วเอาป้ายตบกลับ ก่อสงครามขนาดย่อม ๆ ขึ้นในห้อง จนคาซึระต้องหัวเราะออกมา


                  
    แม้มองไม่เห็น แต่แค่เสียงก็เห็นภาพ ตอนนี้ในห้องคงฝุ่นฟุ้งตลบเพราะคนกับเอเลี่ยน(เป็ด) ตีกันแน่ๆ


                  
    “ว่าแต่ซึระ แกเป็นไงบ้าง” หลังตบตีกันไปได้หลายนาที ไอ้เพื่อนเวรก็สำนึกได้ว่าควรจะถามอาการเขาสักหน่อย ตอนแรก กะว่าจะบอกไปว่าอาการดีขึ้นแล้ว แต่ไม่ทันได้พูดอะไรออกไป มือของอีกฝ่ายก็จับลงที่หน้าผาก ก่อนเสียงเค้นหัวเราะจะตามมา “หนักกว่าเมื่อวานอีก ไปทำอะไรมาล่ะ”


                  
    คาซึระก้มหน้า เลี่ยงที่จะตอบ หรือไม่รู้ว่าจะตอบยังไง อีกข้างหนึ่งของเตียง อลิซาเบธก็มายืนอยู่ข้างๆ แล้วเอามือจับหัวเขาเช่นกัน ตอนนี้คงพลิกป้ายพยายามถามอาการเขาล่ะมั้ง แต่...อ่านไม่ออกนี่ จะให้ตอบได้ไงล่ะ ตอนนี้ที่ทำได้คงเป็นรอให้คนใจร้ายคนนั้นกลับมาใจดีแล้วเอายาแก้พิษมาให้เท่านั้นกระมัง


                  
    กินโทกิมองภาพผู้เป็นเพื่อนมีสีหน้าซีดเซียว ก้มหน้าต่ำ ไม่อยากสบตากับเขาแล้วก็อดหงุดหงิดขึ้นมาไม่ได้ มือใหญ่กระชากคอเสื้อร่างบางขึ้นมา แล้วจ้องลงไปในดวงตาไร้แวว กดเสียงให้ต่ำน่ากลัวแล้วปรายตาไปมองเป็ดสีขาวให้อยู่นิ่งๆ แม้มันจะชูป้ายด่าเขาอยู่ก็ตาม


                  
    “ฟังนะคาซึระ สารภาพออกมาให้หมด เมื่อคืนแกออกไปหามันหรือมันมาหาแก ตอบมาตามตรง อย่าโกหกแม้แต่คำเดียว ไม่งั้นฉันจะทิ้งแกไว้ที่นี่
    คนเดียวเข้าใจมั้ย...”


                  
    คำขู่พร้อมเรียกชื่อจริงคงได้ผล อีกฝ่ายสะดุ้งขึ้นมาทันที พร้อมกับคว้าแขนเขาไม่ให้ไปไหนเด็ดขาด ดวงตาไร้แววดูตื่นกลัว ผิดกับปกติ ตอนที่ยังดี ๆ อยู่ลิบลับ เสียงหวาน ๆ สั่นขณะเอ่ยคำขอร้องเหมือนจะร้องไห้เต็มที


                  
    “อยะ อย่าไปนะ ได้โปรด ถ้านายไป ฉันต้องทำอะไรไม่ถูกแน่ๆเลย” มือเล็ก ๆ กำเสื้อกินโทกิแน่นขึ้น ประโยคที่เหมือนเห็นแก่ตัวอยู่หน่อย ๆ ทำให้เขาอดขมวดคิ้วไม่ได้ ก่อนจะปล่อยคอเสื้ออีกฝ่ายลง แล้วกดให้นอนบนเตียงดีๆเหมือนเดิม


                  
    สุดท้ายในสายตาคาซึระ...เขาก็มีค่าแค่นี้

    เป็นเพื่อน...ที่จะอยู่ข้างๆเสมอ ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ จะร้องไห้ อึดอัด หรือมีความสุข ก็ระบายกับเขาให้หมด

    เป็นเพื่อนผู้แสนดีที่เป็นได้แค่นั้น ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนมันเป็นอย่างอื่นเลย

    เขาคิดยังไง อีกฝ่ายก็คงรู้อยู่ แต่ไม่สนใจ กลับทุ่มเททุกอย่างไปให้คนที่พร้อมทำร้ายกันได้ทุกเวลาอย่างนั้น... เสร็จแล้วก็จะแอบร้องไห้ ให้เขาอดรู้สึกเจ็บแทนไม่ได้ทุกที

    จะเลือกมันหรือจะเลือกฉัน เก็บมันไว้ในใจตลอดมา ไม่เคยกล้าถาม เพราะกลัว...ว่าอีกฝ่ายจะเจ็บ การหักใจเลือกระหว่างเพื่อนรักกับคนที่แอบรัก มันคงไม่ง่ายขนาดนั้น

    เพราะฉะนั้น สิ่งที่เขาจะทำ...คือเก็บมันต่อไป

    “อธิบายมาได้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น” กินโทกิลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียง เท้าแขนอย่างที่ชอบทำ และจดจ้องไปที่คาซึระ รอให้คำบอกเล่าออกมาจากปากคนปากแข็งซึ่งเม้มปากเหมือนพยายามเรียบเรียงวิธีพูดให้ฟังดูดีที่สุด จนเขาต้องขัดอีกรอบ “เอาความจริง อย่าคิดแต่งเรื่องมา เพราะ ฉัน-ไม่-เชื่อ”

    เน้นเสียงขู่อีกรอบจนคนโดนขู่รอบสองหน้าซีด หัวเราะแหะ ๆ กลบเกลื่อน ก่อนจะกลอกตาไปมา คิดหาข้ออ้างต่อ

    “ถ้าโกหกฉันทิ้งทันที”

    คนฟังแทบอยากร้องไห้ ทำไมมันถึงจะรู้ใจกันดีขนาดนี้วะ!



     

    คาซึระเล่าเรื่อง...มันไม่ยาวเท่าไร เพียงแค่ไม่กี่ประโยค แต่เป็นไม่กี่ประโยคที่อ้อมแอ้มสุด ๆ กระนั้นก็พอจับใจความได้ ยิ่งฟัง ตาเหมือนปลาตายยิ่งฉายแววหงุดหงิดหนักขึ้น ๆ จนสุดท้าย ขนาดอลิซาเบธยังวางป้ายยอมแพ้ หลบสายตาน่ากลัวเสไปมองคนสวยแทนแบบจ้องเอาจ้องเอา

    “ทาคาสึกิ จะมาคืนนี้อีกใช่มั้ย” กินโทกิยิ้ม ลุกพลางหยิบดาบไม้ที่พกติดตัวตลอดยกขึ้นพาดบ่า “งั้นฉันจะรอพบเพื่อนเก่าสักหน่อย มีเรื่องให้คุยเยอะเลยแหละ”

    คุยด้วยดาบน่ะ ไม่ได้พูดออกไปแต่คิดว่าร่างบางก็คงรู้อยู่ เพราะฝ่ายนั้นรีบร้องห้ามโวยวาย กระชากแขนเขาไว้ ไม่ให้ขยับไปไหนอีก หันไปสั่งอลิซาเบธให้ไปขวางหน้าประตูไว้ด้วยเผื่อหลุดมือ ท่าทางตกใจอย่างน่ารักนั่นทำให้ชายหนุ่มในอารมณ์เคร่งเครียดหลุดขำ แล้วลูบหัวเขาเบาๆ

    “ทำไมถึงไม่อยากให้เจอกันล่ะ กลัวฉันฆ่ามันหรือไง”

    คาซึระไม่อยู่ในอารมณ์ล้อเล่น พยักหน้าทีหนึ่งแล้วค่อยพูดต่อ “ยังไงก็ขอให้ได้ยาแก้พิษมาก่อนแล้วกัน ส่วนเรื่องหลังจากนั้น...”

    คนสวยชะงักไป เหมือนไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี กินโทกิเลยตัดสินใจต่อให้

    “หลังจากนั้น นายก็จะมาคบกับฉันใช่มั้ยล่ะ”

    เป็นแค่คำล้อเล่น แค่มุขตลกฝืด ๆ แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะยอมตอบรับ รอยยิ้ม ซึ่งในสายตาของเขาดูฝืดฝืน ปรากฏขึ้นบนใบหน้างาม

    “หลังจากนั้น...ฉันจะพยายามตัดใจ จะลืมหมอนั่นให้ได้แล้วคบกับนายแทน ต้องตอบแทนที่นายดูแลฉันตอนนี้ด้วย”

    ว่ากันว่าคนดีต้องได้ดี

    แต่ถ้าได้ดีแบบนี้...เขาขอไม่รับดีกว่า

    ถึงการได้คบกับคนที่รักจะเป็นความฝันที่อยากให้สักวันเป็นจริง แต่ถ้าคน ๆ นั้น พูดประโยคนี้ด้วยใบหน้าขมขื่นขนาดนั้น...

    จะทนได้เหรอ

    กินโทกิได้แต่ถามตัวเอง และคำตอบมันก็เหมือนเดิม

    ทนไม่ได้ และไม่มีทางทนให้มันเป็นแบบนี้ต่อไป

    สักวัน เขาจะทำให้คาซึระรักเขาให้ได้ จะรอ...แม้ว่าจะนานเท่าไหร่ก็ตาม

     



    จูบที่หน้าผาก แปลว่า เป็นห่วง

    งั้นใครที่กำลังเป็นห่วงเขาอยู่ล่ะ

    กินโทกิ...ใช่มั้ย... เพราะอย่างทาคาสึกิไม่มีทางทำแบบนี้แน่ๆ

    อยากลืมตาขึ้นมาดู แต่ความง่วงมันปิดเอาไว้ ไม่ให้ขยับตัวได้อีก แต่จะว่าไป ถึงลืมตาได้ก็มองไม่เห็นอยู่แล้วนี่ เพราะฉะนั้น อย่าสนใจแล้วนอนต่อน่าจะดีกว่า

    “ไข้สูงอยู่นะซึระ นอนต่อเถอะ”

    “ไม่ใช่ซึระ คาซึระต่างหาก” ได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ตามมา ก่อนผ้าเย็น ๆ ผืนหนึ่งจะวางลงบนหน้าผาก อีกผืนลูบไล้ไปทั่วตัว เช็ดตัวให้เผื่อให้ความร้อนลดลง เสื้อถูกถอดออกตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่คาซึระก็เลือกที่จะเชื่อผู้เป็นเพื่อนแล้วหลับสนิทต่อไป โดยไม่รู้ว่า ขณะนี้ กินโทกิกำลังจ้องมองรอยแดงทั่วตัวของเขาด้วยดวงตาเป็นประกายแปลกๆ

    “รอยพวกนี้ของหมอนั่นน่ะ...ให้ฉันลบมันแล้วกันนะ”

    ลมหายใจของคาซึระสม่ำเสมอบอกว่ากำลังอยู่ในห้วงนิทราที่ไม่อาจรบกวนได้ง่ายๆ ชายหนุ่มก้มหน้าลง มองซ้ำอีกครั้งว่าอีกฝ่ายจะไม่ตื่นขึ้นมากลางคันให้เขาทำตัวไม่ถูก ก่อนจะจรดริมฝีปากลงเช็ดร่องรอยพวกนั้น...โดยการย้ำมันลงไปด้วยฝีมือของตัวเอง

    เขาเป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่ง ถ้าเห็นแบบนี้ก็ยากจะห้ามใจเหมือนกันนะ

    ขอให้ร่างกายหยุด... อย่าทำต่อให้ต้องมาเสียใจภายหลังเลย

    กระนั้น คำสั่งของสมองกลับแพ้สัญชาตญาณ รอยจ้ำแดงๆทั้งของเก่าของใหม่ปนเปกันทั่วไปหมด คาซึระส่งเสียงครางอือเหมือนยั่วเย้า สติของเขา ค่อยๆจางหายไป ทุกที...ทุกที

    “ซึระ...แกหวานกว่าพาเฟ่ต์ของฉันอีกว่ะ”

    แล้วคำพูดทุกอย่างก็จบลง แทนที่ด้วยการกระทำทั้งหมดแทน
    _____________________________________________________________________________________________________
    คุณกินเริ่มเผยธาตุแท้ วะฮะฮ่า
    จะเอา 3P จริงๆ แน่นะ?
    แต่ก่อนหน้านั้น...มาดราม่ากันก่อน เอาสัก 20ตอน แล้วค่อย 3P//โดนกระทืบ
    เดี๋ยวรอบหน้า ทากะจะออกมาเรียกคะแนน
    ไม่รู้จะเรียกให้เพิ่มหรือเรียกให้ลดนะ 55+

    ______________________________________________________
    โหมด ไดอารี่ ข้ามไปได้ มันไม่มีอะไรหรอก
    ก็แค่บ่น ตามนิสัยเสียเดิม อัพนิยาย ฟิค ทีไรมีเรื่องให้พล่ามทุกที (แก้ไม่หายด้วย orz)


    ช่วงนี้...อยู่ใน 'ช่วงนั้น' ของปีอีกแล้วแหละ
    หมายถึง ช่วงที่เฟลอ่ะนะ
    ตอนเขียนตอนนี้ ยังสภาพจิตใจปกติอยู่
    แต่ประมาณตอนที่ 4...เริ่มไม่ไหวแล้ว
    เจอมรสุมชีวิตเล็กน้อยถึงปานกลาง...
    ฝนตกเนี่ย ตกหนัก ๆ ก็ไม่ดีเลยเนอะ
    น้ำก็ท่วม แต่สภาพจิตใจหนักกว่า ไม่ไหวแล้ว เหนื่อย แอ้ก!
    (ป.ล. ไม่ได้อยู่ในเขตน้ำท่วมนะ แต่เจอเรื่องไม่ค่อยดีเท่าไหร่มา)

    เดี๋ยวจะแต่งนิยายส่งโครงการเอ็นเตอร์อ่ะค่ะ มีใครส่งบ้างเปล่า
    แต่ก็เตรียมใจไว้แล้วว่า คงไม่ได้อ่ะ
    ตอนแรกแต่งเรื่องแฝดไป... แต่เพื่อนบอกมันโหล ก็เลย... (เนื่องจากส่งได้เรื่องเดียว) ไม่ส่งก็ได้วะ!
    พอเล่าพล็อตอื่นให้มันฟัง... ก็บอกน่าเบื่ออีก
    เวร...ตูจะไม่เล่าอะไรให้ฟังแล้วเว้ย!
    (ก็รู้อยู่ว่าพล็อตมันไม่มีอะไร แต่มันขึ้นอยู่กับวิธีนำเสนอไม่ใช่เรอะ = =++)
    โปรดเข้าใจว่าจริงๆแล้วเราไม่ใช่คนใจแข็ง และก็ไม่ได้ใจอ่อนขนาดเจอคำวิจารณ์ไม่ได้
    ถ้าได้คำวิจารณ์จะยอมรับด้วยความยินดี แต่ไม่ใช่คำง่าย ๆ แล้ว จบ อันนั้นไม่เรียกวิจารณ์
    แถวบ้านเรียกตัดกำลังใจ-*-
    กำลังใจเราหมดค่อนข้างง่ายด้วยนะรู้มั้ย ตอนนี้เขียนอะไรก็เน่า บทบรรยายก็กาก เนื้อหาก็ซ้ำไปซ้ำมา อ้า! ดราม่ากำลังดี= =
    (กำลังพยายามทำลายสถิติความโกรธที่ทำให้เครียดอยู่ อันนี้นี่น่าจะอยู่ต้นๆแล้วนะ ปกติไม่ได้โกรธง่าย ไม่คิดมากขนาดนี้นี่หว่า...)

    ตอนนี้ได้พล็อตใหม่ที่จะส่งมาแล้ว ติดอยู่ที่...เขียนยังไงดีไม่ให้มันน่าเบื่อ
    ตอนแรกมันจะน่าเบื่อมากๆ อ่ะสิ
    แล้วมันไม่ใช่วาย ไม่ใช่ดราม่าที่บิวต์อารมณ์พอแล้วไป
    เจือกเป็นแฟนตาซี-ไซไฟอีกแน่ะ
    55+ (เขียนไม่ได้แล้วยังดันทุรังก็เงี้ย)

    ถ้าบ่นยาวกว่าฟิคจะทำไงดีเนี่ย 55+
    ขอโทษนะคะ แล้วก็ขอบคุณคนที่ยอมอ่านตรงนี้ด้วย ถือว่าฟังคนบ้าสติไม่เต็ม โง่ๆ คนนี้ระบายด้วยเหอะ
    ____________________________________________________


    หลังจากบ่นมานาน... ไม่มีหน้าไปขอคอมเมนท์แล้วอ่ะ TwT
    แล้วแต่นะคะ ถ้าชอบก็เมนท์ ถ้าน่าเบื่อก็ไม่ต้อง
    (แต่ไอ้คำว่าน่าเบื่อนี่อาจฉุดเราลงสู่ห้วงดราม่าได้)
    ย้าก!!!
    กรูเก่งที่สุดในโลกเว้ยเฮ้ย!!!<<< เตรียมยัดตัวเองเข้ารพ.บ้า=w=;;

    สุดท้ายนี้...ขอบคุณมากๆค่ะ
    ทุกคอมเมนท์เลยนะ
    ถ้าไม่มีคอมเมนท์...อาจจะหมดกำลังใจเขียนตั้งแต่เข้าโหมดเฟลแล้วค่ะ 55+
    เอาล่ะ ไปจริงๆแล้ว
    บ้ายบาย
    เจอกันตอนหน้า
    เตรียมขนลุกกันด้วยนา
    เพราะตอนหน้า...ทากะของเรา เอ๊ย ซึระ เอ๊ย คาซึระ จะหลุดคาแรกเตอร์เยอะมาก
    แบบ...อารมณ์พาไปน่ะตัว อย่าคิดมาก ๆ =w=

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×