ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Gintama fanfic) Cannot fly away Yaoi

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 6

    • อัปเดตล่าสุด 9 ธ.ค. 54


    Chapter 6


                  
    “กินโทกิ”


                  
    ยามเช้าอันน่าสงบสุขของเขาถูกทำลายลงทันทีที่เจ้าตัวป่วนมาหาถึงที่ร้านรับจ้างสารพัด พร้อมดวงตาคู่สวยที่กลับมามีประกายสดใสดังเดิม พร้อมรอยยิ้มที่ส่งให้เขาอย่างมีความสุขที่สุด ทว่า กินโทกิตอนนี้กำลังปวดหัวตุบ ๆ จากการเมาค้างที่ไปดื่มมาเมื่อคืน จนไม่อาจเรียบเรียงสติได้พอ


                  
    “มานี่แต่เช้า มีอะไรล่ะ” หัวคิ้วขมวดเล็กน้อยแบบหงุดหงิด แต่คาซึระก็ไม่ได้ใส่ใจอารมณ์นั้น หันไปสนใจเรื่องที่จะพูดวันนี้มากกว่า


                  
    “ตอนนี้ ฉันมองเห็นแล้วนะ”มือข้างหนึ่งแตะที่ตาตัวเองประกอบคำพูด “เพราะฉะนั้น...ฉันเลยมาที่นี่เพื่อบอกลา”


                  
    ราวกับความง่วงหายไปเป็นปลิดทิ้ง กินโทกิตื่นเต็มตา เบิกตาปลาตายให้กว้างพอ ๆ กับไข่ห่านแล้วจ้องหน้าคาซึระอย่างตกใจ ใช้เวลาครู่หนึ่งกว่าจะกลับมาสงบได้แล้วหันหลังกลับ


                  
    “นายเลือกหมอนั่น...อีกแล้วนะ” เขาเลือกที่จะหลบหน้าเพื่อไม่ให้เห็นสีหน้าน่าสมเพชของตัวเอง รู้ทั้งรู้ว่าไม่ว่ายังไง เขาก็ต้องแพ้ แต่ถึงอย่างนั้นก็อดหวังไม่ได้ ทำให้ตัวเองต้องเจ็บเพิ่มขึ้นอีกครา หูพร้อมฟังคำบอกลาที่อีกฝ่ายกำลังจะพูด...เป็นครั้งสุดท้าย


                  
    จะไม่มีครั้งหน้าที่หลงผิดกลับไปชอบคนที่มีเจ้าของอีกแล้ว


                  
    “เปล่า...ฉันมาบอกลา
    ความเป็นเพื่อน กับนาย”


                  
    อ้อมกอดจากด้านหลังพร้อมหัวสีดำซบลงที่ไหล่ขวา ริมฝีปากเอ่ยคำที่อ่อนหวานที่สุดเท่าที่เคยฟังมาพร้อมรอยยิ้มที่หวานไม่แพ้กัน


                  
    “ฉันมาทำตามสัญญาแล้วนะ...”


                  
    กินโทกิชะงัก หัวใจที่ถูกเสียดแทงกลับมาเต้นอีกครั้ง รัวเร็วยิ่งกว่าเดิม


                  
    “จากนี้...ฉันจะเป็นของนาย กินโทกิ”




     

                   ริมฝีปากแนบชิด เอวบางถูกรั้งเข้ามาใกล้ โอบเอาไว้แน่นเหมือนกลัวจะหลุดมือ ก่อนกินโทกิจะคว้าอีกฝ่ายขึ้นพาดบ่าเข้าห้องนอน ปิดประตูแล้วสั่งให้อีกฝ่ายเงียบ ๆ เพราะคางุระที่อยู่อีกห้องอาจจะได้ยินเสียงจากกิจกรรมที่เขากำลังจะทำก็ได้ ก่อนชายหนุ่มจะผลักตัวคาซึระลงกับฟูกบนพื้น แล้วตามขึ้นมาทาบทับทันที

                   มือข้างหนึ่งดึงสายโอบิออกช้า ๆ พร้อมกับมองดูปฏิกิริยาของอีกฝ่ายตลอดเวลา เห็นทุกท่าทาง ทุกสีหน้าที่แสดงว่ากลัวและเกร็งแค่ไหน หลับตาปี๋ทันทีที่เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้พร้อมทำหน้าแดงก่ำ


                  
    ซอกคอขาวมีรอยจ้ำทิ้งไว้ พอดึงกิโมโนออกยิ่งเห็นว่าข้างในมีเยอะกว่า แต่กลับไม่ทำให้ร่างกายนี้น่าสัมผัสน้อยลงสักนิด ถึงจะอดหงุดหงิดไม่ได้ที่เจ้าของรอยพวกนี้ไม่ใช่ตัวเองก็ตาม


                  
    “ซึระ ไหวมั้ย”


                  
    “อึ๊ อื้อ
    !


                  
    เสียงครางเป็นคำตอบ ตามด้วยแขนทั้งสองข้างโอบรอบคอเขาไว้ กินโทกิแทบทนไม่ไหว อยากจับกดคาซึระให้รู้แล้วรู้รอด แต่เขาก็รู้ดีว่ายิ่งเร่งไปก็ยิ่งเหมือนไปฆ่าตัวตาย ทำให้อีกฝ่ายกลัวมากขึ้นเท่านั้นเอง


                  
    “กะ กินโทกิ จับมือหน่อยได้มั้ย”


                  
    ไม่ต้องรอให้เอ่ยยาว เขาทำตามที่อีกฝ่ายขอทันทีโดยไม่ต้องคิด  มืออีกข้างดึงกิโมโนหลุดลุ่ยให้ออกจากตัว ก่อนจะหันมาจัดการตัวเองบ้าง แทบรอไม่ไหวที่จะได้ลิ้มรสร่างกายนี้ แม้จะเคยทำมาแล้ว...แบบอีกฝ่ายไม่รู้ตัวก็ตาม


                  
    “ซึระ...รักนะ”


                  
    เอ่ยคำหวานพร้อมงับใบหูเล่นให้เจ้าของชื่อสะดุ้งเฮือก ไม่มีแรงเถียงกลับ อารมณ์แปลก ๆ พุ่งขึ้นมา วาบในช่องท้องไปจนถึงเบื้องล่าง ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นอนนิ่งให้อีกฝ่ายดึงไปตามต้องการเท่านั้นเอง


                  
    “นาย...รักฉันหรือเปล่า”


                  
    คำถามเรียบ ๆ ฟังดูไม่ใส่ใจอะไร ขณะใบหน้าหล่อเหลาก้มลงไปบริการให้เขาถึงข้างล่าง แต่ทำเอาคาซึระพูดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะตอบยังไง ในเมื่อไม่ได้มีอีกฝ่ายในใจแค่คนเดียว...คำพูดที่ตอบกลับไป...มันคงไม่จริงใจเหมือนที่อีกฝ่ายพูดมา


                  
    “ขอโทษนะ รออีกหน่อยได้ไหม”


                  
    พระเจ้าอาจอยากเล่นตลก คนเรามีสองตา แต่กลับมีหัวใจแค่ดวงเดียว


                  
    เขามองคนสองคนพร้อมกัน แต่กลับต้องเลือกเพียงแค่คนเดียว...


                  
    นี่คือบทลงโทษของเขาสินะ




     

                   ทาคาสึกิมาที่บ้านหลังเดิมที่พักหลัง ๆ ชักจะกลายเป็นที่ซุกหัวนอน เดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อไปพบกับคนรักเหมือนเคย ทว่า คราวนี้กลับได้พบเพียงความว่างเปล่า ไร้วี่แววของคาซึระที่มักจะรอเขาอยู่ทุกคืน


                  
    “ซึระ...แก...”


                  
    คงไม่ต้องบอกว่าโกรธขนาดไหนที่โดนหักหลังจากคนที่รักที่สุด ปราดตามองไปรอบห้อง และพบกับขวดแก้วเล็ก ๆ ว่างเปล่าซึ่งเคยใส่ยาแก้พิษ วางคู่กับกระดาษโน้ตอีกแผ่น เขียนด้วยลายมือที่คุ้นเคยแม้ไม่ได้เห็นมานาน


                  
    ข้อความสั้น ๆ แต่ยืนยันการตัดสินใจของเจ้าตัวได้ดี


                  
    ขอโทษ


                  
    ทำไมคนเขารักถึงชอบทิ้งเขาไปในที่ ๆ ไกลแสนไกลกันนัก...


                  
    “ทั้งอาจารย์...”


                  
    ทาคาสึกิเดินออกจากบ้าน ฝนปรอย ๆ ตกลงมาพอดี ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาเปียกไปด้วยน้ำฝน


                  
    “ทั้งคาซึระ...”


                  
    ฝนเริ่มตกหนัก คนทั้งหลายรีบวิ่งหาที่หลบฝน ไม่ก็กลับบ้านเป็นการใหญ่ คงมีแต่เขา ที่ยืนอยู่หน้าบ้านของคนอื่น เงยหน้ามองฟ้าด้วยแววตา...อ้างว้าง


                  
    น้ำฝนหยดหนึ่งไหลลงจากใบหน้าลงสู่ดิน ในขณะที่เม็ดอื่น ๆ ก็ยังคงทยอยย้อมพื้นให้เปียกชุ่มโชก


                  
    น้ำฝนนี้ต่างกันตรงที่...เม็ดอื่น ๆ เย็นเฉียบ ในขณะที่เม็ดนี้อุ่นจัด ราวกับต้นกำเนิดไม่ได้มาจากฟากฟ้าอันไกลแสนไกล แต่อยู่ใกล้ ๆ แค่ตรงนี้นี่เอง


                  
    ตรงบ่อน้ำที่มีชื่อว่า
    บ่อน้ำตา





     


                  
    “ชินสุเกะ ไปเรียนได้แล้วน้า~


                  
    คาซึระมาตามเขาไปเรียนเหมือนทุกที ต่อให้เขาขี้เกียจแค่ไหน แกล้งหลบเท่าไร อีกฝ่ายก็จะตามมาเจอจนได้ น่ายกย่องความพยายามนั้นซะจริง


                  
    เด็กชายมองลอดใต้ใบไม้ เห็นผู้เป็นเพื่อนมองซ้ายมองขวาจนผมยาว ๆ สะบัดไปมา ดูน่ารักน่าขันจนอยากหัวเราะ ยิ่งสีหน้าร้อนรนแบบนั้นยิ่งแล้วใหญ่ มือเล็ก ๆ กุมขมับอย่างกลัดกลุ้ม น่าแกล้งเป็นที่สุด...แต่เอาเถอะ วันนี้เขาใจดี จะช่วยลงไปเองก็แล้วกัน


                  
    “ทำหน้าเครียดบ่อยเดี๋ยวก็แก่เร็วหรอก” ชินสุเกะหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ ห้อยหัวลงมาจากกิ่งไม้ที่อยู่ใกล้พื้นที่สุดให้คาซึระตกใจเล่น เห็นอีกฝ่ายผงะถอยหลังแทบล้มก้นจ้ำเบ้า เสียงหัวเราะนั้นจึงดังขึ้นเรื่อย ๆ จนคาซึระหน้าแดงก่ำ ทำท่าจะหนีไปด้วยความอายนั่นแหละ เขาถึงยอมกระโดดลงมาดี ๆ แล้วลูบหัวอีกฝ่ายเป็นการง้อใหญ่


                  
    แน่นอนว่าต้องแอบเล่นผมนิ่มน่าลูบนั่นไปพร้อมกันด้วยถึงจะได้กำไร


                  
    ในไม่ช้าคาซึระก็หายงอน แล้วคว้ามือเขาไปจับพาเข้าห้องเรียนเหมือนทุกที


                  
    เสียแต่ที่วันนี้ ทิศทางที่ไป กลับไม่ใช่ทางนั้น


                  
    “ไปตามหากินโทกิต่อ”


                  
    น่าหงุดหงิด น่าหงุดหงิดซะจริง ๆ ทำไมพักนี้ หมอนี่ถึงจะต้องพูดถึงแค่ไอ้เด็กใหม่หัวหงอกหน้าปลาตายนั่นวะ
    !


                  
    “ไม่ต้องหรอกน่า เดี๋ยวมันก็มาเองแหละ ไปเรียนเหอะ”


                  
    เขาพยายามลากคาซึระไปในทิศทางตรงกันข้าม แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะเจ้าตัวก็ยังคงดื้อ ทำตามความตั้งใจของตัวเองอยู่ดี
    จนชินสุเกะชักหมดความอดทน สะบัดมือทิ้งแล้วมองอีกฝ่ายอย่างโกรธ ๆ


                  
    “ถ้าแกจะไปหามัน เราก็ไม่ต้องคุยกันอีก
    !


                  
    เพี้ยะ
    !


                  
    ครั้งแรกในชีวิตที่โดนตบหน้า แถมคนที่ตบ ก็ดันเป็นเพื่อน... เพื่อนคนสำคัญคนเดียวซะด้วย


                  
    “ทำไมแกถึงเอาแต่ใจนักนะ
    ! ฉันเป็นเพื่อนหมอนั่น ก็ต้องไปตามสิ เหมือนที่ฉันตามแกนี่ไง!” เด็กชายเอ่ยเสียงดังแทบตวาดอย่างที่ไม่เคยทำ ขณะที่ชินสุเกะยืนอึ้ง เอามือแตะแก้มซ้ายที่โดนตบอย่างไม่อาจยอมรับความจริง


                  
    “สำหรับฉัน ทั้งแก ทั้งกินโทกิ ก็สำคัญพอกันทั้งคู่ ทำไมถึงไม่เข้าใจ
    !


                  
    เอ่ยทิ้งท้ายด้วยเสียงห้วนจัดแล้วสะบัดหน้าหนี ไปตามหากินโทกิตามที่ตั้งใจไว้ ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้โอกาสเอ่ยแก้ตัวหรือเอ่ยแย้งใด ๆ เลย


                  
    ฝ่ายชินสุเกะ เพิ่งมาได้สติตอนคาซึระเดินจากไปได้สักระยะหนึ่งแล้ว ทว่าจะให้ตะโกนโต้ตอบไล่หลังไป...มันก็ออกจะดูเสียฟอร์มไปสักหน่อย วันนี้เขาไม่ผิด ฉะนั้นจะไม่เป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อนเด็ดขาด ต้องรอจนกว่าคาซึระจะมาขอคืนดีนั่นแหละถึงจะยอมเอ่ยสิ่งที่ตัวเองคิดออกไป


                  
    “แต่ฉัน...ไม่อยากให้แกเห็นหมอนั่นสำคัญ...


                  
     อยากให้แกมองแค่ฉัน...แค่คนเดียวก็พอ”




     

                   ผิดนักเหรอที่อยากเป็นเพื่อนคนเดียวของเพื่อนรัก ไม่อยากให้อีกฝ่ายมีเพื่อนใหม่ ให้เราได้อยู่ด้วยกันเพียงแค่สองคนก็พอ


                  
    ความรู้สึกแบบเด็ก ๆ ตอนนั้น กลับมาเป็นความรู้สึกหึงหวงอย่างหนักในตอนนี้


                  
    ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เป็นเพื่อนรัก หรือตอนนี้ ที่เป็นคนที่
    น่าจะเรียกได้ว่าคนรัก เขาก็อยากเป็นคนสำคัญคนเดียวของอีกฝ่ายอยู่ดี


                  
    นี่คือความรักของเขา...


              
         ความรักที่เห็นแก่ตัว ที่อีกฝ่ายไม่เคยต้องการ...


    _____________________________________________________________________________________________________
    หล่อเลวดราม่า!
    ว้า ๆ เสียคะแนนใหญ่แล้ว คอนเซปต์หล่อเลวหายหมด 55+

    สารภาพว่า เขียนคนโกรธไม่ได้เรื่องจริง ๆ
    อาจจะเป็นเพราะนิสัยก็ได้มั้ง เวลาโกรธแล้วไม่ค่อยพูด
    เลยไม่รู้ว่าเวลาโกรธแล้วควรจะพูดยังไง

    ซึระ ตอนที่ชินสุเกะบอก ไม่ให้ไปตามกินโทกิน่ะ โกรธจริง
    แต่ทากะ ตอนที่รู้ว่าโดนหักหลัง...มันไม่ใช่โกรธอ่ะดิ ออกไปทางเจ็บมากกว่า
    ดราม่าซะขนาดนั้น อกหักสุด ๆ สงสารนะTwT
    (แต่มันต้องโดนซะมั่ง ไม่งั้นไม่สำนึก=w=b)

    คุณกินได้ 'กิน' แล้ว! (หมั่นไส้=3=)
    พักหลัง ๆ คู่นี้จะนำมากไปแล้ว
    ตอนหน้าก็...เอาบทไปอีกเต็ม ๆ + +
    (ขอโทษนะทากะ...เผอิญว่า ไม่มีบทให้อ่ะจ้ะ(คิดไม่ออก))

    ตอนหน้า รั่วนิดนึง หวานอีกหน่อย ซึ้งอีกนิด(จริงๆ )
    ...ชินสุเกะ โมเอ้ที่สุดในโลก><
    (ไม่มีอะไร แค่บ้า=w=;;)

    บอร์ดกินทามะ สงสัยจะเข้าไม่ได้แล้วอ่ะค่ะ
    ไม่สามารถยื่นบัตรประชาชนให้ได้ (รูปบนนั้นมันอนาถเกินไป ไม่อยากให้เห็น= =)<<เหตุผลไร้สาระ...มาก= =;;
    จะเอาทะเบียนบ้านให้ เดี๋ยวโดนถาม เอาไปทำอะไร... นั่นแล สรุปว่า สมัครไม่ได้เป็นพอ
    OTL

    แสดงว่า... ลงที่นี่ได้ที่เดียวแล้วนะ
    เพราะฉะนั้น คุณ "ปลายฟ้า" นั่นน่ะ สารภาพตัวจริงออกมาได้แล้ว! =w=

    ป.ล. ฉากซึระบ้า...เรทติ้งดีกว่าที่คิด
    ผลคือ ตอนหน้า...ก็บ้าอีก 55+

    ป.ล.2 ไม่ทวงเมนท์ก็ได้จ้ะ...รู้ว่ายิ่งทวงจะยิ่งหาย สำนึกในความผิดตัวเองแล้ว OTL
    55+

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×