ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 10
Chapter 10
ทาคาสึกิรู้สึกว่าร่างกายของตนเย็นเฉียบทั้งตัว ถ้าให้เปรียบ ก็คงเหมือนเนื้อเย็นชืดไร้ชีวิต มีเพียงแค่ส่วนเดียวที่ยังอบอุ่นในร่างกาย คือมือข้างขวาที่ได้รับความอบอุ่นจากอะไรสักอย่างอย่างอ่อนโยน ลูบและบีบมันแผ่ว ๆ ราวกับต้องการให้กำลังใจ
หากขณะนี้เขากำลังคุกเข่าอยู่หน้าประตูนรก สิ่งที่จับเขาอยู่ก็คงเหมือนแสงสว่างเดียวที่คอยรั้งไว้ หยุดเท้าไม่ให้ก้าวไปสู่โลกหลังความตาย และรอนิ่ง ๆ อยู่ในความมืดมิดนั้นนั่นเอง
ของเหลวหยดหนึ่งหยดลงมาที่หลังมือ ขณะที่อีกฝ่ายจับเขาแน่น ราวกับกำลังดึงเขาไว้ด้วยแรงทั้งหมด แม้เป็นแรงอันน้อยนิด แต่กลับน่าหลงใหลซะจนปล่อยไปไม่ได้ อยากจะบีบกลับไปให้อีกฝ่ายรู้ว่าคนที่ตัวเองจับอยู่รู้สึกทุกการกระทำ แต่ไม่รู้ทำไม ร่างกายถึงไม่ขยับไปตามความคิดซะที
“ชินสุเกะ...”
เสียงหวานอ่อนแรงเรียกชื่อเขาเบา ๆ ชื่อที่ไม่ได้ยินจากปากนั้นมานาน ดึงสติเลื่อนลอยให้กลับมาช้า ๆ เพียงแค่ดวงตาไม่อาจเปิด ได้แต่ฟังเสียงเรียกซ้ำไปซ้ำมาอย่างไร้จุดหมาย ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ เสียงนั้นจะหยุดซะที
“ซึระ”
ใครอีกคนเรียกชื่อคนที่เรียกชื่อเขา พร้อมถอนหายใจเบา ๆ เรียกความสนใจของคาซึระออกไปจากเขา ทำให้อีกฝ่ายปล่อยมือแล้วซุกเข้าไปในอ้อมกอดของคน ๆ นั้นแทน
“เขาจะเป็นอะไรมั้ย” คำถามที่ไร้คำตอบ มีเพียงการถอนหายใจเท่านั้นที่เป็นคำตอบรับ และความเงียบซึ่งเข้ามาแทนที่ พร้อมกับเสียงหัวใจที่เต้นจังหวะเท่าเดิม แต่เริ่มแผ่วลงทุกทีเหมือนกำลังจะนอนหลับ
หัวใจ... ถ้านอนหลับไปแล้ว ก็เท่ากับตายนี่เอง
กินโทกิมองเพื่อนเก่าควบตำแหน่งศัตรูหัวใจนอนนิ่งพร้อมเครื่องมือแพทย์ระโยงระยางอย่างเคร่งเครียด ไม่เคยคิดว่าผู้ก่อการร้ายมืออาชีพอย่างมันจะพลาดท่าให้กับระเบิดที่กินรัศมีไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตร ยิ่งฟังสิ่งที่คาซึระเล่ายิ่งแล้วใหญ่ ถ้าให้เลือก ระหว่างมันระเบิดฆ่าตัวตายกับมันปกป้องคนรักจากระเบิด เขาว่าเขาเชื่อเหตุผลแรกมากกว่า แต่ในเมื่อรูปการณ์ออกมาอย่างนี้ ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับ
ทาคาสึกิรักคาซึระมากขนาดไหนเขาไม่เคยเข้าใจ ไม่เคยรู้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงทำร้ายคนที่ตัวเองรักได้มากขนาดนั้น ทั้งที่หากเป็นเขา จะทะนุถนอมให้มากที่สุด ไม่ต้องเสียน้ำตาสักหยดแท้ ๆ
แต่บางที จากเหตุการณ์นี้ทำให้เขาได้เปิดมุมมองใหม่ขึ้นมา
“ซึระ” กินโทกิยกมือขึ้นลูบหัวเจ้าของชื่อ พร้อมกับให้อีกฝ่ายซบอก “มันตายยากจะตาย อย่าร้องไห้ให้มันเยอะขนาดนั้นสิ ฉันอิจฉานา...” พยายามพูดติดตลกไปอีกฝ่ายก็ไม่แสดงสีหน้าอื่น เอาแต่ซุกอยู่อย่างนั้น ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาด้วยซ้ำ จนเขาไม่รู้จะพูดต่อไปยังไงดี
“อย่าคิดมากเลย มันทำเพื่อแก แสดงว่า จริง ๆ แล้ว มัน...รักแกมากนะ” ประโยคออกมาอย่างติด ๆ ขัด ๆ พร้อมกับความรู้สึกของตัวเองที่ใกล้แตกสลาย สังหรณ์เหมือนตัวเองกำลังจะเสียคาซึระไป หากคนที่นอนอยู่บนเตียงฟื้นขึ้นมา
เอาเถอะ ถ้าถึงเวลานั้นขึ้นมาเขาก็พร้อมจะไป แล้วเป็นแค่เพื่อนกันเหมือนเดิม
“แกน่ะ...ห้ามทิ้งฉันอีกคนนะ” อยู่ดี ๆ คนในอ้อมกอดก็กอดเขาแน่นขึ้น พยายามกลั้นสะอื้นไว้จนสุดความสามารถ เพื่อพูดให้รู้เรื่อง แต่ได้เพียงเสียงแผ่ว ๆ ลอดออกมา
“ถ้าแกจะไปอีกคน ฉันก็คงไม่เหลือใคร...”
แก้วเปราะบางที่ร้าวไปแล้ว หากขว้างทิ้งคงแตกสลาย ทว่าหากรั้งไว้ก็ยังใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้อยู่ดี
เขาควรจะทำยังไง...
คาซึระรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนหลายใจ เลือกใครไม่ได้สักคนจนต้องเจ็บ ทั้งที่เคยมีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกันสามคน ตอนนี้ ความรู้สึกนั้นกับกลับมาทิ่มแทง หนักยิ่งกว่าความสุขที่เคยได้รับเสียอีก ยิ่งได้ยินเสียงแผ่ว ๆ ของเครื่องวัดสัญญาณชีพนั้น...ความเจ็บปวดยิ่งทวีคูณ
จะให้ตัดใจจากคนที่รักแถมยังช่วยชีวิตเขาอีกน่ะเหรอ... เป็นไปไม่ได้หรอก
แต่จะให้ทิ้งคนที่คอยอยู่ข้าง ๆ คอยดูแลทุกครั้งที่เขาเสียน้ำตา... ก็ทำไม่ได้อีกเหมือนกัน
เข็มนาฬิกาใกล้ตายขยับอย่างช้า ๆ พอ ๆ กับเสียงหัวใจที่แผ่วลงทุกที...
“ซึระ...แกเฝ้ามันไปนะ” กินโทกิเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ “ฉันจะกลับแล้ว” โดยไม่สนใจสีหน้าซีดเผือดของร่างบาง...ถ้าจะพูดให้ถูกคือ ทำเป็นไม่สนใจต่างหาก ในเมื่อตัดสินใจว่าจะเป็นคนไป ก็ต้องใจแข็งให้ถึงที่สุด
ในเมื่อทั้งคู่คงเลือกทางของตนได้แล้ว... เขาจะอยู่เป็นส่วนเกินอีกทำไม
มือน้อย ๆ เอื้อมมาดึงชายเสื้อไว้โดยไม่รู้ตัว ก่อนเจ้าของจะผงะ เบือนหน้าหนี คลายมือที่กำออกแล้วจับมือตัวเองไว้ กลับไปนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง ซุกหน้าลงกับผ้าห่มที่คลุม ‘ศัตรูหัวใจ’ ของเขาไว้
กินโทกิหายใจเข้า กระนั้น ความโหวงในอกก็ยังไม่หายไป แม้พยายามเติมเต็มมันด้วยอากาศเท่าใดก็ตาม เพียงแค่คิดว่าจากนี้จะไม่ได้อยู่ข้างคาซึระในฐานะอื่นมากกว่าเพื่อนอีกแล้ว เขาก็รู้สึกเหมือนโลกมืดลงทันที
“...”
หากมีเส้นด้ายใด ๆ ที่ยึดตัวเขาไว้เหมือนหุ่นกระบอก ได้โปรดรั้งมันไว้ อย่าให้ขานี้ก้าวกลับไปอีกเลย
ทว่า เส้นด้ายเส้นนั้นมันไม่มีจริง
ชายหนุ่มกอดร่างบางไว้จากด้านหลังโดยไม่มีคำพูด กอดไว้แน่น ๆ ราวกับจะไม่มีวันปล่อยจากไป ทว่า ของที่ตัวเองไม่ใช่เจ้าของ
สักวัน ก็คงหลุดมือ
แต่...เขาจะรอจนกว่าเจ้าของจะมาทวงคืน จะไม่ยอมทิ้งให้อีกฝ่ายต้องทำหน้าเศร้าอยู่คนเดียวเด็ดขาด
หยดน้ำตาหยดหนึ่งร่วงหล่นสู่ผ้าห่ม แล้วทุกอย่างก็เงียบลง ไม่มีใครกล่าวอะไรออกมาอีกเลย
มีเพียงสัญญาณชีพในเครื่องเท่านั้นที่เปล่งเสียงออกมา
คาซึระนอนหลับไปแล้ว ที่ข้างโซฟาไม่ห่างจากเตียงมากนัก ทิ้งให้กินโทกิมีสติอยู่คนเดียวในค่ำคืนมืดมน กับคนป่วยใกล้ตายที่ไม่แน่ใจว่าจะสามารถกลับมามีสติได้หรือไม่ บางที ถ้ามันไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีกเลยก็ดี ถ้าเป็นอย่างนั้น เขาคงได้ครอบครองคาซึระแค่คนเดียว
น้ำเกลือหยดลงมาช้า ๆ ซึมตามสายที่เชื่อมแขนของทาคาสึกิไว้ คมมีดปอกผลไม้บนโต๊ะข้างเตียงเป็นประกายวาบ ชั่วขณะ ปีศาจในหัวสมองกำลังคิดหาวิธีกำจัดคู่อริตรงหน้าไปให้พ้น ๆ วิธีไหนถึงจะเจ็บปวดกว่ากัน ดึงสายน้ำเกลือทิ้งหรือเอามีดปักหัวใจไปเลยดี... อันไหนก็ไม่พอถ้าเทียบกับความเจ็บปวดที่คาซึระเคยได้รับ
ชายหนุ่มหยิบมีดปอกผลไม้ขึ้นมา ลูบคมมันอย่างแผ่วเบา รู้ดีว่ามันไม่ใช่มีดที่ทำหน้าที่แล่เนื้อหรือสังหาร หากแต่พยายามสักหน่อยก็คงทำให้คนที่ไร้การป้องกันตัวตายได้ไม่ยาก กินเวลาไม่ถึงนาที หมอนี่ก็จะหายไปจากโลกใบนี้ ไปจากสายตาของเขาสักที
ลองดูมั้ยล่ะ
กินโทกิชะงักในช่วงวินาทีสุดท้ายก่อนคมมีดจะเข้าถึงร่างกายของทาคาสึกิ แค่นยิ้ม พลางเหลือบมองคาซึระที่ขยับตัวเปลี่ยนท่านอนอย่างสบายใจ ปีศาจอันบ้าคลั่งยังคงกรีดร้องอยากลิ้มรสเลือด ทว่า โชคดีที่เขายังหยุดมันอยู่ ก่อนที่จะเปลี่ยนฐานะของตัวเองให้กลายเป็นฆาตกร
ถ้าเขาเป็นคนฆ่าทาคาสึกิกับมือ คาซึระจะตามมาล้างแค้นเขามั้ย จะเกลียดเขาไม่ลงเหมือนที่เกลียดหมอนี่ไม่ลงรึเปล่า นั่นเป็นแค่คำถามที่เขาไม่หวังจะได้คำตอบ... เขาตัดสินใจแล้วว่า ต่อให้ไม่ได้ครอบครอง อย่างน้อย ขอแค่ได้อยู่ข้าง ๆ ไปเรื่อย ๆ เหมือนเมื่อก่อนก็พอ
เหมือนเมื่อก่อน... ไม่มีผิด
“ซึระไปเล่นกันเหอะ!”
เด็กน้อยหัวขาวตะโกนเรียกเด็กอีกคนซึ่งนั่งอยู่ในตัวบ้าน ก่อนจะวิ่งตามเข้ามาเมื่อคนถูกเรียกไม่ยอมออกไปสักที และได้พบว่า ผู้เป็นเพื่อนกำลังเอาผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตัวให้ ‘คู่แข่ง’ อยู่ แถมพอเขาจะเข้ามากวนก็ทำหน้าดุ ๆ ใส่ พร้อมกับสั่งให้เขาเงียบ ๆ ไปด้วย
“ทำอะไรก็ไม่รู้อยู่ได้ ไปเล่นกับฉันเหอะ นะ” เด็กชายตื๊อ มองคาซึระน้อยบิดผ้าหมาด ๆ แล้วนำไปเช็ดตามตัวชินสุเกะซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดูเป็นงานที่เหนื่อยและไม่น่าสนุกเอาซะเลย สู้ไปเล่นกับเขายังจะดีซะกว่า
“ไม่ได้หรอกน่า ชินสุเกะไข้ขึ้น ฉันต้องดูแลก่อน” ดวงตาสีเข้มมองคนบนฟูกที่เหงื่อผุดพราย ก่อนจะถอนหายใจแล้วเอื้อมมือไปจับมือของฝ่ายนั้นเอาไว้ ขณะที่กินโทกิน้อยยังคงพยายามก่อกวนเขาอย่างสุดความสามารถ จนในที่สุดก็ต้องดุ ทำให้แมวขาวทำหูลู่หางตก บุ่ยปากแล้วบ่นงุบงิบ นอนเท้าคางพลางมองคาซึระอย่างเบื่อหน่าย
“ปล่อยมันไว้คนเดียวก็ไม่ตายหรอกน่า เชอะ”
งึมงำอยู่คนเดียว ก่อนจะพบว่านั่นยิ่งทำให้เขาเบื่อมากขึ้น ร่างเล็กจึงคลานมาหยุดข้าง ๆ ผู้เป็นเพื่อน เอาหัวขาว ๆ ลอดผ่านใต้แขนแล้วซุกลงบนตักคาซึระ จ้องใบหน้าสวยซะจนเจ้าตัวเริ่มเกิดอาการทำอะไรไม่ถูก ได้แต่พยายามปั้นสีหน้าให้ดุ ๆ ทว่าไม่ได้ช่วยปิดรอยแดงที่แก้มได้เลย
“อะ อะไรเล่า อยู่ดี ๆ มาจ้องคนอื่นเขาแบบนี้...”
กินโทกิน้อยยิ้ม ก่อนจะจ้องลึกเขาไปในตา มือข้างหนึ่งยกขึ้นเล่นผมยาวของอีกฝ่าย ขณะเปล่งคำถามแบบไม่คิดอะไรมากออกมา
“ถ้าวันนึงฉันป่วย นายจะดูแลฉันเหมือนหมอนี่มั้ย”
ดวงตาต่างสีสบกัน ก่อนที่ริมฝีปากน้อย ๆ ของผู้ฟังจะเอื้อนเอ่ยออกมา
“...ไม่หรอก”
กินโทกิชะงักค้าง คำตอบตรง ๆ แบบนี้ชวนใจเสียแบบสุด ๆ เหมือนกำลังจะถูกเพื่อนทิ้ง ก่อนที่เสียงหัวเราะของอีกฝ่ายจะตามมาพร้อมมือเล็กดึงแก้มเขาซะยืด
“ก็ถ้านายไม่ได้เป็นไข้จะเช็ดตัวให้เหมือนกันทำไมล่ะ รักษาตามอาการซะสิ เรื่องแค่นี้ก็ไม่รู้ แย่จริง ๆ ฮ่า ๆ ”
กินโทกิกุมแก้มก่อนจะแลบลิ้นใส่แล้วซุกตัวลงบนตักอีกฝ่ายตามเดิม พร้อมกับคำถามที่ไม่เคยได้รับคำตอบตรง ๆ แม้ว่าจะใช้คำพูดอ้อมโลกแค่ไหนก็ตาม
“สำหรับนาย ฉันกับหมอนี่ ใครสำคัญกว่ากัน...”
เขามันก็แค่...เด็กขี้อิจฉา...ที่มั่นใจว่าตัวเองจะดูแลคาซึระได้ดีกว่าเท่านั้นเอง
_________________________________________________________________________________________อัพ ณ ต่างแดน 55+
ซึระน้อยน่ารักน่ากดยิ่งนัก =.,=
ตัวจริง โตขึ้นมาเสื่อมขนาดนี้ได้ไง - -"
ตอนนี้...
เอาจริง ๆ มันไม่มีอะไรหรอก กร๊าก
ไอ้คำขยายเปรียบเทียบอะไรแบบนั้นน่ะ
เป็นอะไรที่...ต้องอยู่หน้าคอมพิมพ์ไปเรื่อยๆ ถึงจะเข้าใจ
สรุปสาระสำคัญจากตอนนี้
แค่อยากจะบอกว่า คุณกินไม่ใช่เทวดาเท่านั้นแหละ
แต่ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจให้กะจะฆ่าขนาดนี้นา...
ความจริงแล้ว ทากะต้องขอบคุณที่มีนไม่แต่งเพลิน มีดจมต่างหาก 55+
ถ้าเผลอกว่านี้อีกนิดสงสัยคงได้บอกลาตำแหน่งพระเอกแล้วล่ะ//โกยลงหลุมหลบภัย
(ความจริงทุกคนก็น่าจะรู้ว่มีนเพ้อเก่งขนาดไหน พล่ามยาวชิบ...)
ป.ล. สัญญาณไฟฟ้าที่ออกมาจากคลื่นหัวใจ...ไปเรียนชีวะกันมั้ย
แต่งตอนใกล้สอบนี่มันอันตรายจริง ๆ นะทุกท่าน//ทำหน้าจริงจัง
เราทุกคนต้องรักร่างกายเอาไว้ให้มาก ๆ นะ
หัวใจเราฉลาดกว่าตัวเราเยอะเลยล่ะ =w=;;
(ทำไมฟังดูน้ำเน่าอีกละ-*-)//ทำใจ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น